โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์ - ตอนที่ 96
สปาต้าเป็นที่ที่เต็มไปด้วยสาวงามตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว. เฮเลนเองก็ถูกยกย่องว่าเป็นหญิงที่งามที่สุดในกรีซและนางเองก็มาจากสปาต้าด้วย.
ยิ่งไปกว่านั้นความงามของสปาต้านั้นเป็นที่ประจักษ์กันในด้านแข็งแกร่งและฟิตเช่นเดียวกับผู้ชาย, พวกนางได้รับการฝึกฝนทางทหารและเข้าร่วมแข่งขันกีฬาตั้งแต่อายุน้อยๆ.
ดังนั้นหญิงชาวสปาตั้นแทบทุกคนเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง!
แม้ว่าโรมจะรุ่งเรืองแล้วตอนนี้แต่ผู้หญิงชาวสปาต้าก็ดูเหมือนจะไม่สนใจแถมยังหมิ่นพวกชนชั้นสูงของโรมอีกด้วย.
ผู้หญิงที่ผ่านการฝึกฝนทางทหารมาตั้งแต่เด็กนั้นเทิดทูนความแข็งแกร่งเป็นธรรมดาอยู่แล้ว.
แม้ว่าเย่เทียนจะหล่อ, กำยำและสูงก็ตาม, สถานะชนชั้นสูงหรือนายทาสก็ทำให้พวกเธอไม่ปลื้มในสายตาอยู่แล้ว.
“กริ๊งๆๆๆ….”
เย่เทียนไม่พูดอะไรทั้งนั้นแล้วโยนกุญแจไปทางโซ่คล้องมือของพวกเธอ. เย่เทียนมีประสบการณ์ปราบปรามพวกสปาตั้นมาแล้ว.
มันทั้งง่ายและโหดร้ายมาก!
ก็แค่ขยี้พวกนั้นด้วยกำลังเพื่อพิสูจน์ว่าเขาสามารถปกครองและควบคุมชีวิตพวกเขาได้.
ถ้านักรบสปาตั้นยังทำได้ นับประสาอะไรกับหญิงชาวสปาตั้น.
“เกร๊งๆๆ”
นักรบสปาตั้นหญิงทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วเปิดที่กุญแจคล้องมืออย่างเร็วที่สุดจากนั้นก็มองมาทางเย่เทียนอย่างไม่เป็นมิตร ราวกับว่าพยายามหาทางหนีจากเย่เทียนอยู่.
“โห, ปลดกุญแจมือเร็วดีนี่นะ, นี่สปาตั้นอย่างพวกเจ้าฝึกฝนการปลดล้อคและหลบหนีด้วยงั้นรึ?”
เย่เทียนยิ้มกว้างพร้อมยุทาสสปาตั้นหญิงทั้งสองคนนี้.
“ขอบคุณเทพแห่งสงครามที่มอบนายทาสที่โง่เขลาและยิ่งยโสมาให้เรา เดี๋ยวเจ้าจะได้ลิ้มรสความทรมาณจากการดูหมิ่นสปาต้า….”
ทาสนักรบหญิงคนหนึ่งยิ้มให้เย่เทียนจากนั้นก็ค่อยๆขยับตัวจนมีเสียงดังออกมา.
“นี่หญิงชาวสปาตั้นทุกคนโง่แบบนี้รึป่าว? ถ้าข้ากล้าปล่อยให้เจ้าหนีไปแบบนี้ ก็แปลว่าข้าเตรียมพร้อมมาดีสิ”
เย่เทียนส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้หญิงสปาตั้นทั้งสองตะลึง, จ้องหน้ากันไปมาแล้วมองไปรอบๆอย่างระแวง.
“ไม่ต้องมองหรอก, เรามาเดิมพันกันเป็นไง?”
เย่เทียนหัวเราะ.
“พวกเราไม่มีวันเดิมพันกับพวกโรมันขี้คดหรอก เจ้าพร้อมจะลิ้มรสความเจ็บปวดรึยัง?”
เด็กสาวอีกคนพูดกับเย่เทียนอย่างเย็นชา.
“ข้าจะยืนอยู่เฉยๆ, หากพวกเจ้าสามารถทำให้ข้าถอยไปได้แค่1ก้าว ข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าจากการเป็นทาส, คืนอิสระภาพให้และปลดปล่อยทาสสปาตั้นทุกคนในบ้านของข้า!”
เย่เทียนค่อยๆพูด.
“เหตุใดพวกเราถึงจะต้องเชื่อพวกโรมันไร้สัจจะด้วยแถมเจ้าเองก็ยังเป็นนายทาสชาวโรมันขี้คดอีกด้วย ใช่ไหมล่ะ?”
หญิงสปาตั้นทั้งสองเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาแต่พวกนางก็ไม่เชื่อคำพูดของเย่เทียน.
“ข้าสาบานในนามของพระเป็นเจ้า!”
เย่เทียนพูดอย่างจริงจัง.
“เจ้าพูดจริงรึ? เราแค่ต้องทำให้เจ้าถอยกลับไปซักก้าวใช่มั้ย?”
ทั้งสองเริ่มเชื่อ.
“ใช่แล้วถ้าเจ้าทำไม่ได้ล่ะ?”
เย่เทียนถาม.
“พวกเราเป็นทาสของเจ้าหนิ? ถ้าพวกเราผลักเจ้ากลับไปซักก้าวไม่ได้เราจะมีโอกาสอะไรอีกล่ะ?”
เด็กคนหนึ่งพูดเย้ย.
“มีสิ ข้าต้องการให้เจ้ายอมสิโรราบให้ข้าอย่างแท้จริง, สาบานว่าจะภักดีต่อข้าในนามของเทพสงครามและจะไม่ทรยศข้าชั่วนิรันด์. แล้วก็ให้กำเนิดบุตรที่แข็งแรงเหมือนนักรบให้กับข้าเยอะๆด้วย….”
เย่เทียนพูด.
“ฮึ่ม, ถ้าเจ้าแข็งแกร่งเช่นนั้นจริงๆ, ก็แปลว่าเจ้ามีสิทธิ์ที่จะปกครองเรา งั้นข้าก็ไม่คลางแคลงอะไรถ้าเจ้าจะเป็นคนปกครอง?”
สาวสปาตั้นทั้งสองเย้ย ต่อให้เย่เทียนเป็นเทพสงครามจริง, พวกนางก็มีความมั่นใจว่าจะผลักเขาไปได้.
“มา!”
เย่เทียนพูดอย่างภาคภูมิจากนั้นก็โยนชุดคลุมเขาทิ้ง เผยร่างที่กำยำออกมา.
“ฆ่ามัน!”
เด็กสาวทั้งสองไม่ตะลึงกับร่างกายของเย่เทียนเลย. มีแค่ความคิดเดียวเท่านั้นในหัวพวกเธอ นั่นคือต้องผลักเย่เทียนไปให้แรงๆ, ทั้งสองจึงตะโกนออกมาพร้อมกันแล้วก็พุ่งไปหาเย่เทียน พยายามฟันศอกและต่อยเขา.
“ช้าไป!”
เย่เทียนพูดหมิ่นแล้วกางแขนออกไปจับแขนของพวกนางพร้อมกัน.
“กำลังเจ้าอ่อนนัก!”
เย่เทียนส่ายหัว ตอนพวกเธอพยายามจะเตะขาออกไป เขาก็ยกแขนขึ้นพร้อมกับพวกนางจากนั้นก็เขย่าพวกเธอเบาๆ.
“ฟุ่บ!”
“ฟุ่บ!”
เด็กทั้งสองร่วงลงกับพื้นแล้วไม่กล้ายืนขึ้น. พวกนางมองตากันแล้วเห็นว่าตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความตกใจ.
ทำไมพละกำลังของชายคนนี้ถึงได้แข็งแกร่งนัก, ทำไมการตอบสนองของเขาเร็วขนาดนี้?
เทพสงคราม?
พวกนางสามารถเอาชนะนักรบที่แข็งแกร่งได้เมื่ออยู่ด้วยกันแต่ตอนนี้กลับถูกหิ้วลอยและเหวี่ยงทิ้งราวกับตุ๊กตาเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนราวกับว่าเขากำลังฝึกกระต่ายอยู่.
“เข้ามา, ให้ข้าเห็นความกล้าหาญของนักรบสปาตั้นหน่อย!”
เย่เทียนกระดิกนิ้วใส่พวกนางแล้วพูด ดูก็รู้ว่าต้องการยั่วยุ…
“ฮึ่ม!”
เด็กสาวทั้งสองลุกขึ้น, ไม่ผลีผลามโจมตีแต่พยักหน้าให้กันแล้วค่อยๆเดินวนรอบๆเย่เทียน.
พวกนางรู้สึกถึงกำลังที่แข็งแกร่งของเย่เทียนและถ้าพวกนางพยายามทำให้เข้าหมดสติพวกเขาต้องวางแผนร่วมมือกันดีๆ.
“ฮ่า!”
….
ทันใดนั้นเด็กสาวทั้งสองคนก็โจมตีเข้ามาที่เย่เทียนพร้อมๆกัน.
“แผนดีแต่ความเร็วก็ยังช้าเกินไป!”
เย่เทียนส่ายหัวอีกรอบ. เมื่อพวกเธอเข้ามาใกล้เขา เย่เทียนยื่นมือออกไปทีละข้างแล้วกดไหล่พวกนางลงด้วยกำลังทั้งหมดทำให้ตัวพวกนางร่วงลงอย่างแรง.
“ฟุ่บ!”
“ฟุ่บ!”
…
สาวๆทั้งสองคนคุกเข่าต่อหน้าเย่เทียนพร้อมๆกัน.
“เจ้า….อ่อนแอเกินไป!”
เย่เทียนส่ายหัวจากนั้นจับคอพวกนางแล้วค่อยๆยกขึ้น.
“อุ่ก…”
เด็กทั้งสองส่งเสียงร้องออกมาและพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของเย่เทียนแม้จะเตะไปหลายครั้งแต่เย่เทียนก็ยังตัวนิ่งเหมือนเดิม.
“ฟุ่บ!”
“ฟุ่บ!”
…
ผ่านไปพักหนึ่งเย่เทียนก็โยนพวกนางทิ้งไปแล้วพวกนางก็ไอออกมาอย่างแรงด้วยความขมขื่นและตกใจในดวงตา.
เย่เทียนดูราวกับภูเขายักษ์ที่คอยปัดพวกเธอไม่ให้ปีนขึ้นไป.
“เข้ามา!”
เสียงของเย่เทียนดูยโสแต่ก็สุขุมมาก.
“ฆ่ามัน!”
“ตุ่บ!”
“ตุ่บ!”
….
เด็กทั้งสองโจมตีรัวๆแต่ก็โดนเย่เทียนเขวี้ยงทิ้งรัวๆเหมือนกัน, ร่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนในที่สุดพวกนางก็หมดแรงจนยืนไม่ไหว.
เท้าของเย่เทียนก็ยังไม่ได้ขยับไปไหนราวกับเป็นรากที่ฝังลงในดิน.
“จะต่อไหมล่ะ?”
เย่เทียนยิ้ม ด้วยกำลังของเขามันดูเหมือนว่าเขากำลังบุลลี่เด็กอนุบาลอยู่เลย.
“เลด้ายอมรับใช้ท่านแล้ว เจ้านาย!”
“เฮเลนยอมรับใช้ท่านแล้ว เจ้านาย!”
จากนั้นไม่นานเด็กทั้งสองก็เงียบไปพักหนึ่ง, พวกนางก็คุกเข่าลงพร้อมกันแล้วสาบานว่าจะภักดีกับเย่เทียน “เราขอสาบานในนามของเทพสงคราม, จากนี้ไปเราจะภักดีต่อนายท่านซาตานที่อยู่ตรงหน้าพวกเราและจะไม่มีวันทรยศ….”
พลังดุจพระเจ้าของเย่เทียนได้โน้มนาวพวกนางสำเร็จแล้ว!