ไหปีศาจ - บทที่ 112 ประสบความสำเร็จ
บทที่ 112
ประสบความสำเร็จ
“มันแย่จริง ๆ ที่เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า” ฉูจงฉวน เป็นชนชั้นสูงที่ไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมมาตลอดและพุ่งตรงไปตามเป้าหมายของเขาในทันที
“สามหาว!” ชายชราชุดเขียวคำราม
ลมปราณของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงถูกส่งออกไป ทำให้ฉูจงฉวนทำอะไรไม่ได้นอกจากก้าวถอยหลังไป
ฉูจงฉวนรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดในใจ ตระกูลเจิ้งผู้ว่าการ 5 มณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ ข้าจะจำพวกเจ้าไว้
ถ้าหากพวกเขาปะทะกันจริง ๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝั่งลั่วอู๋จะเป็นฝ่ายที่แพ้
แค่พลังโจมตีของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงก็เพียงพอที่จะทำลายพวกเขาทุกคนให้เละได้
“พวกเจ้าต้องการที่จะครองครอบราชานกกลายพันธุ์อย่างงั้นเหรอ?” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน” “พวกเราติดตามนกกลายพันธุ์ตัวนี้มา 7-8 วันแล้วเพื่อรอให้มันวิวัฒนาการ” เจิ้งซีกล่าว
“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะได้ทำพันธสัญญากับมันเนี่ยสิ” ลั่วอู๋กล่าวเบา ๆ
แต่ดูเหมือนว่าเจิ้งซีจะได้ยินที่เขาพูด จึงหัวเราะตลกใหญ่ “ฮ่าฮ่าฮ่าไร้สาระ ไร้สาระที่สุด มันเป็นเพียงแค่สัตว์วิญญาณที่มีแก่นวิญญาณระดับเงิน การทำให้มันยอมแพ้จะเป็นเรื่องยากอะไร?”
ในการลงตราพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสองประการ
ประการแรกแก่นพลังของสัตว์วิญญาณจะต้องไม่แข็งแกร่งไปกว่าผู้ใช้พลังวิญญาณ มิฉะนั้นผู้ใช้พลังวิญญาณจะไม่สามารถทนรับพลังสัตว์วิญญาณได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวผู้ใช้พลังวิญญาณเองได้
ประการที่สองของการทำพันธสัญญา สัตว์วิญญาณจะต้องเต็มใจที่จะทำพันธสัญญากับผู้ใช้พลังวิญญาณ ถ้าหากสัตว์วิญญาณเลือกที่จะตายแทนการยอมจำนนพันธสัญญาวิญญาณก็จะไม่มีทางถูกสร้างขึ้นได้
สีหน้าของลั่วอู๋ไม่เปลี่ยนไป “ก็ได้ พวกเราจะไม่ไปขัดขวางพวกเจ้า เราจะรอดูความล้มเหลวของพวกเจ้าอยู่ที่นี่ และถ้าหากพวกเจ้าทำสำเร็จพวกเราก็จะหันกลับไปแต่โดยดี”
ใบหน้าของฉูจงฉวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
” ลั่วอู๋ ถ้านายไม่คิดอะไรมาก ข้าเองก็พูดอะไรไม่ได้” ฉูจงฉวนพูดด้วยเสียงต่ำใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหดหู่
“ไม่ต้องห่วงน่า พวกเขาทำไม่สำเร็จหรอก” ลั่วอู๋กระซิบ
ใบหน้าของเจิ้งซีมืดมนราวกับว่าเขากำลังโดนดูถูก
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็จงลืมตาดูให้ดีว่าข้าจะปราบราชานกตัวนี้ได้อย่างไร” เจิ้งซีด่า
ลั่วอู๋พูดพึมพำเบา ๆ “ถ้าเจ้าล้มเหลวล่ะ?”
“ล้อกันเล่นเหรอ ข้าเนี่ยนะจะล้มเหลว”
“ถ้าล้มเหลวจะเกิดอะไรขึ้น”
“ถ้าข้าล้มเหลวราชานกจะตกเป็นของเจ้า และข้าจะขอโทษเจ้าด้วย แต่ถ้าเจ้าล้มเหลวเจ้าก็จงออกไปให้พ้นทางซะ” เจิ้งซีพูดด้วยอารมณ์โกรธ
ลั่วอู๋ยิ้ม “ตกลง”
เจิ้งซีหันหน้าไปมองชายชราในชุดสีน้ำเงิน “ท่านเฉินช่วยข้าจับราชานกตัวนี้ที”
ชายชราชุดสีน้ำเงินพยักหน้า
จำนวนนกที่อยู่รอบ ๆ ราชานกนั้นมีมากเกินไป แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกมันจะไม่มาก แต่ด้วยจำนวนแล้วมันก็ยังคงสามารถสร้างปัญหาให้กับพวกเขาได้
“โอ้ว”
ลมปราณของชายชราในชุดสีน้ำเงินแผ่ออกมาและแสงของแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็สว่างวาบในมือของเขา ลูกไฟพลังวิญญาณทั้งสามดวงได้ลอยออกไปในพริบตา แต่แทนที่จะเปลี่ยนเป็นสัตว์วิญญาณพวกมันกลับรวมเข้ากับร่างกายของเขา
มนุษย์และสัตว์วิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกัน
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงหรือก็คือผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง เขามีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการผสานพลังวิญญาณระหว่างมนุษย์และสัตว์วิญญาณ
การผสานพลังระหว่างมนุษย์และสัตว์วิญญาณเสร็จสมบูรณ์ได้ในชั่วพริบตา
เบื้องหลังชายชรามีเงาเสมือนจริงสามเงาอยู่ เป็นรูปร่างคล้ายหมี เสือดาว และนก
ทันใดนั้นเงาของนกก็สว่างไสวขึ้น จากนั้นชายชราในชุดสีน้ำเงินก็บินขึ้นไปบนฟ้า
นี่คือเหตุผลที่ทำไมผู้คนจำนวนมากต้องการสัตว์วิญญาณที่บินได้ เพราะหลังจากฝึกฝนวิชาการผสานพลังระหว่างมนุษย์และสัตว์วิญญาณแล้ว ผู้ใช้พลังวิญญาณจะสามารถยืมความสามารถในการบินมาใช้ได้
ทันทีที่ชายชราในชุดเสื้อสีน้ำเงินปรากฏตัวเขาก็ระเบิดพลังวิญญาณออกมาอย่างรุนแรง
“แกว๊ก! แกว๊ก”
เกิดการจลาจลขึ้นในหมู่เหยี่ยวหยกขาว
ราชานกกลายพันธุ์รู้สึกได้ถึงการโจมตีของศัตรูต่างถิ่น มันคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับสายตาอันแหลมคมของมัน
ทักษะระดับ B [เนตรสะกดวิหค]
มันเป็นท่าการโจมตีทางจิตใจชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้อีกฝ่ายหนึ่งกลัว ผ่านแรงกดดันทางจิตใจ
ชายชราในชุดสีน้ำเงินเดินช้าลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มอันเย็นชา “ทำอะไรเกินตัวน่า”
แม้ว่าศักยภาพของมันจะได้รับการยกระดับขึ้นเป็นระดับทอง แต่ระดับแก่นวิญญาณของนกหน้าโง่ก็ยังเป็นเพียงระดับเงิน ซึ่งอ่อนแอกว่าชายชราในชุดสีน้ำเงินมาก
เหยี่ยวหยกขาวเข้าโจมตีชายชราในชุดสีน้ำเงิน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกมันจะพบกับผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะจะเป็นราชาของพวกมัน แล้วจะให้พวกมันยอมนั่งดูราชาของพวกมันตายลงไปเฉย ๆ ได้อย่างไร
แสงวาบปรากฏขึ้นในดวงตาของนกหน้าโง่
แต่มันก็ยังไม่ได้เกิดผลอะไรเลย
“รวบรวมพลังวิญญาณ!” ชายชราในชุดสีน้ำเงินพึมพำพร้อมตบมืออย่างหนักหน่วง พลังออร่าแห่งความหวาดกลัว นั้นเหมือนกับว่าพร้อมจะทำลายพื้นดินทั้งหมด
เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ เหยี่ยวหยกขาวก็ตายลงและบาดเจ็บสาหัสนับร้อยตัว
“แกว๊กก!”
นกหน้าโง่เงยหน้าขึ้นฟ้าเป็นเวลานานจากนั้นก็พุ่งตัวทิ้งดิ่งลงมา ขนนกหลากสีบนคอของมันสว่างขึ้นราวกับว่ามันได้กลายเป็นลำแสง
[พุ่งล่าสังหาร]
“ทันเวลาพอดี” ชายชราในชุดสีน้ำเงินตะโกนขึ้น จากนั้นร่างกายของเขากลายเป็นลำแสงและพุ่งเข้าปะทะในทันที
“แกร่ก”
นกหน้าโง่ร่วงลงไปเหมือนว่าวที่ขาดลงและตกลงมาตรงๆ
ช่องว่างระหว่างระดับพลังนั้นใหญ่เกินไป
เหยี่ยวหยกขาวส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความโกรธ แต่พวกมันก็รู้ว่าดี ไม่อาจต่อกรกับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าได้และพวกมันทั้งหมดก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
ชายชราในชุดสีน้ำเงินลากนกหน้าโง่มาแล้วโยนมันลงตรงหน้าเจิ้งซี “นายน้อย ข้าจัดการกับราชาแห่งนกกลายพันธุ์ให้แล้ว”
“ ขอบคุณมากท่านเฉิน” เจิ้งซีกล่าวขอบคุณแล้วหันไปหาเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วพูดว่า “น้องข้าถึงตาของเจ้าแล้ว”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผมสั้นพยักหน้าอย่างระมัดระวัง
นางคุกเข่าข้างๆนกหน้าโง่อย่างระมัดระวังและพูดเบา ๆ ว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
นกหน้าโง่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“ ข้าจะให้ยากับเจ้า” เจิ้งเว่ยหยิบผงยาออกมาแล้วโรยลงบนแผลของนกหน้าโง่
โชคดีที่ชายชราในชุดสีน้ำเงินไม่ได้ลงมือหนักเกินไปและอาการบาดเจ็บของนกหน้าโง่ก็ไม่สาหัส
นี่เป็นเพียงแค่กิจวัตรของการล่าสัตว์วิญญาณที่มีระดับสูง
ก่อนอื่นให้คนอื่นเอาชนะสัตว์วิญญาณแล้วให้นางเข้ามารักษาบาดแผล เพื่อที่จะได้รับความโปรดปรานและความไว้วางใจจากสัตว์วิญญาณ ด้วยวิธีนี้ความน่าจะเป็นในการทำพันธสัญญาจะสูงมาก
ลั่วอู๋มองไปที่ฉากนั้นด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ
นกหน้าโง่เงยหน้าขึ้นอย่างลำบาก ทันใดนั้นมันก็เห็นลั่วอู๋ที่อยู่ด้านข้าง ดวงตาของมันเบิกกว้างอย่างมาก จากนั้นมันก็คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
มนุษย์ที่ข้าเกลียดทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่
ข้าอุตสาห์คิดว่าเรายังมีมิตรภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ
เจ้าเห็นข้าพ่ายแพ้อย่างยับเยิน แต่กลับยืนดูอยู่ข้าง ๆ เพื่อดู เจ้ายังมีจิตใจอยู่ไหม
ลั่วอู๋ไม่ไหวติง
สาวน้อยผมสั้นคิดว่านกโง่กำลังเจ็บปวด นางพูดอย่างน่าสงสารว่า “ข้าขอโทษที่ข้าทำร้ายเจ้า ข้าจะทำให้ความเจ็บปวดบรรเทาลง”
สาวน้อยช่างมีบุคลิกเหมาะกับวิธีนี้ที่สุด
สำหรับสัตว์วิญญาณธรรมดาแล้ว มันคงจะตอบตกลงทำพันธสัญญาในทันที
แต่นกหน้าโง่นั้นแตกต่างออกไป เดิมทีแล้วมันเป็นสัตว์ที่ฉลาดมากวิธีแบบนี้จึงใช้อะไรไม่ได้ผลแถมยังทำให้โกรธมากขึ้นเสียอีก
อย่างไรก็ตามนกก็ยอมสยบและก้มหัวลง
มันทำได้แค่แสร้งทำตัวดีและนอนลงบนพื้น
ใบหน้าของเจิ้งซี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทุกอย่างเป็นไปได้สวย เขาขยิบตาให้น้องสาวอย่างไม่รีบร้อน
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผมสั้นเข้าใจและกระซิบว่า “ข้ามียาไม่พอ เจ้าช่วยทำพันธสัญญากับข้า ข้าจะได้ช่วยรักษาเจ้าด้วยพลังวิญญาณตกลงไหม”
นกโง่แสร้งทำเป็นตายอยู่ที่พื้น
เจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้เลย
ข้าจะทำอะไรได้อีก
เจิ้งซีและพรรคพวกตื่นเต้นมาก
หากมันไม่เห็นด้วย สัตว์วิญญาณมักจะต่อต้านในทันที แต่ปฏิกิริยานี้ของมันควรจะตีความได้ว่ามันเห็นด้วย มันดูเรียบง่ายเกินไป
ตามหลักการของมิติวิญญาณ ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดงสามารถทำพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณ ที่มีระดับวิญญาณระดับเงินเท่านั้น ซึ่งนกหน้าโง่ตอนนี้มีศักยภาพระดับวิญญาณอยู่ที่ระดับทอง
โชคดีที่นกโง่นั้นเพิ่งวิวัฒนาการเสร็จ ทำให้แก่นวิญญาณของมันยังไม่คงที่ มีโอกาสมากที่มันจะสามารถทำสัญญากับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดงได้
หัวใจของเจิ้งเว่ยเริ่มกระสับกระส่าย
เสน่ห์แรกคือมันมีระดับวิญญาณสูงถึงระดับทองซึ่งหายากมาก
นั่นหมายความว่าจุดเริ่มต้นของนางจะสูงกว่าคนส่วนใหญ่มาก
แสงสีเขียวเปล่งออกจากมือของเจิ้งเว่ยมีดวงดาวหกดวงขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นบนตัวนกหน้าโง่และพลังงานก็เริ่มไหลล้นออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าการปราบราชานกกลายพันธุ์มันจะยากสักแค่ไหนเชียว” เจิ้งซีมองไปที่ลั่วอู๋อย่างเย็นชา”แล้วเจ้ามีอะไรจะพูดอะไรอีกไหมล่ะ”
ลั่วอู๋เหลือบมองเขา “มันได้ผลรึยัง”
“ งั้นเจ้ารอดูต่อไปก็ได้นะ” เจิ้งซีตะคอก
ทันใดนั้นใบหน้าของเจิ้งเว่ยก็ซีดเซียวมาก
แสงสีฟ้าได้หายไปจากนาง
ดวงดาวหกดวงขนาดยักษ์ก็หายไปเหมือนกัน
สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณของความล้มเหลวในสัญญา
“ ท่านพี่ ข้าล้มเหลวเจ้าค่ะ” เจิ้งเว่ยพูดอย่างผิดหวัง