ไหปีศาจ - บทที่ 117 เอาชนะเจ้านกหน้าโง่อีกครั้ง
บทที่ 117
เอาชนะเจ้านกหน้าโง่อีกครั้ง
บทสนทนาจากที่ห่างไกลและไม่ชัดเจนลอยมาถึงหูของลั่วอู๋
ลั่วอู๋ได้แต่หัวเราะและส่ายหัว
“ อุ๊ย มีสาวน้อยส่งของสารภาพรักมาให้เจ้าแล้วเหรอ” เสียงล้อเล่นของฉูจงฉวนดังขึ้น
ลั่วอู๋หันศีรษะไปที่ฉูจงฉวนแล้วมองด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นลั่วอู๋ก็โยนขวดหยกยัดปากอีกฝ่ายไป จนเขาหายใจไม่ออกไปพักหนึ่ง “เรื่องไร้สาระ ถ้าเจ้าชอบนักล่ะก็ ข้าให้มันกับเจ้าก็ได้”
ฉูจงฉวนหยิบขวดหยกขึ้นมาสูดดม แล้วมองไปที่มันสลับกับลั่วอู๋ด้วยความสงสัย “ของสารภาพรักที่เด็กผู้หญิงคนนี้ส่งมาให้เจ้าแปลกมากเลยนะ”
“ก็มันไม่ใช่ของสารภาพรักไงเล่า!” ลั่วอู๋แทบคลั่ง
……
กองไฟกำลังลุกไหม้นำความอบอุ่นมาให้ในคืนที่หนาวเหน็บ เปลวไฟลุกโชนบนฟืนและกิ่งสนที่เหี่ยวเฉา ส่งเสียงปริแตกเล็กน้อยเนื่องจากการเผาไหม้
ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูกในคืนที่เงียบสงบ บางครั้งมีเสียงคำรามจากระยะไกลและหลังจากนั้นไม่นานก็ไม่มีเสียงใด ๆอีก
ลั่วอู๋เข้าสู่โลกไห
บนท้องฟ้ามีนกสองกลุ่มที่แตกต่างกันกลุ่มหนึ่งมีสีดำและอีกกลุ่มมีสีขาว อย่างไรก็ตามนกสีดำนั้นมีขนาดใหญ่กว่าและนกสีขาวก็มีจำนวนมากกว่า
และที่ตรงกลางของนกทั้งสองกลุ่ม มีนกที่หยิ่งผยองจนไม่มีใครเทียบได้บินเหมือนว่ามันเป็นการกลับมาของราชา
นกสีดำคือแร้งทรายและนกสีขาวคือเหยี่ยวหยกขาว
นกทั้งสองอยู่ในระหว่างความขัดแย้ง ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ชอบกันและกัน แต่เพราะนกหน้าโง่เป็นราชา พวกมันจึงสามารถอยู่ร่วมกันได้ชั่วคราว
“ เจ้านกหน้าโง่นี่เจ้าอยากก่อสงครามที่นี่รึไง?” ลั่วอู๋ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอามือก่ายหน้าผากของเขา
ช่างมันไปก่อนเถอะ
ดูเหมือนว่ามิติไหจะใหญ่ขึ้นและคราวนี้มันยากที่จะมองเห็นสุดขอบ ดูเหมือนว่าการคาดเดาของลั่วอู๋จะถูกต้อง
ยิ่งมีสิ่งมีชีวิตในมิติไหมากเท่าไหร่มิติไหก็จะขยายพื้นที่ตามไป
คงไม่ต้องกังวลว่ามันจะไม่สามารถรองรับสัตว์วิญญาณจำนวนมากได้รึเปล่า
“เอาล่ะมาดูกันว่าข้าจะได้อะไรในวันนี้” ลั่วอู๋เดินมาที่สระน้ำลึก
น้ำในสระลึกที่มาจากต้นน้ำในภูเขาไกล แม่น้ำไหลลงมาจากภูเขาและสะสมที่นี่จนกลายเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีแอ่งน้ำลึกในปัจจุบัน
ในสระน้ำลึกมีปลาตัวอ้วนใหญ่สองตัวกำลังเล่นน้ำอยู่
ปลาชนิดนี้เป็นปลาทารกที่สามารถเสริมพลังยกระดับสถานะของสัตว์วิญญาณได้ หลังจากที่กินมันเข้าไปเป็นอาหาร น่าเสียดายที่ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่สองตัว
“ขอให้มันเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งด้วยเถอะ” ลั่วอู๋อธิษฐาน
หลังจากนั้นลั่วอู๋ก็ได้ทำการตรวจสอบเหล่าสัตว์วิญญาณที่ได้ใส่เข้ามาในไหปีศาจ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้
แมงมุมหัวมนุษย์
แมงป่องหางงู
หนอนอมรณา
เดี๋ยวก่อน เจ้าหนอนอมรณาอยู่ที่ไหนกัน ?
ลั่วอู๋ตามหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบมัน
มันตายไปแล้วรึไง? ลั่วอู๋สงสัยแต่มันเป็นไปไม่ได้ หนอนอมรณามีทักษะ คำสาปอมตะ อยู่ไม่ใช่หรือ? ใครเอาไป?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ผู้ต้องสงสัยประการแรกของลั่วอู๋ ก็คือเจ้านกหน้าโง่
ไม่มีผิดแน่ เจ้านกหน้าโง่ตัวนี้มีประวัติอาชญากรรมหลายอย่าง
“สวัสดีเจ้านกหน้าโง่ ลงมาหาข้าหน่อยสิ” ลั่วอู๋ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
นกหน้าโง่บินลงมาอย่างช้า ๆ และภาคภูมิใจ มันจ้องมองมาที่ลั่วอู๋ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกเหยียดหยาม
“ เจ้ากล้าดูถูกข้าได้ยังไง” ลั่วอู๋โกรธในใจ “หนอนอมรณาของข้าไม่ได้ถูกเอาไปโดยเจ้าใช่ไหม?”
นกหน้าโง่เอียงหัวแล้วส่งเสียงโหยหวน
ชิ้นเนื้อขนาดเท่าหัวตกลงมาจากท้องฟ้า
เนื้อชิ้นนี้มีสีดำและบางอย่างเหมือนอวัยวะที่ฉีกขาดอยู่ สิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุดคือเนื้อชิ้นนี้ยังคงคลานอยู่และเนื้อเยื่อใหม่ ๆ ก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ จะว่าไปแล้ว เจ้าหนอนอมรณามันถูกกินแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย” ลั่วอู๋รู้สึกเวียนหัว
นกหน้าโง่มองดูลั่วอู๋ด้วยความรังเกียจราวกับจะบอกว่าข้ามีน้องชายตั้งมากมาย พวกเขาไม่ต้องกินรึไง? ยังไงหนอนอมรณาก็ตายไม่ได้ เจ้าอย่าขี้งกไปหน่อยเลย
“ถ้าเจ้าเข้าใจหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน เจ้าจะต้องเลี้ยงเพาะพันธุ์มันก่อนแล้วค่อยกินสิ” ลั่วอู๋คิดว่าเขาน่าจะบ้าที่เขามายืนพูดถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนกับเจ้านกหน้าโง่ตัวนี้
ลั่วอู๋ตัดชิ้นเนื้อที่กำลังเกิดใหม่ออกเป็นสองชิ้น
“ข้าจะใช้มันครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งเจ้าจะเอาไปทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ” ลั่วอู๋เอาเนื้อครึ่งหนึ่งไป
จากสภาพแล้วมันคงต้องใช้เวลาประมาณสามวันกว่าชิ้นเนื้อดังกล่าวจะเกิดใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
หนอนอมรณานี้มีคุณค่าทางการวิจัยอย่างมาก
“อืม” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ข้างนอกไม่มีอันตรายแล้ว เจ้าจะออกไปเลยก็ได้นะ ข้าพร้อมจะปล่อยเจ้าและพรรคพวกทั้งหมดให้ออกไปได้”
นกหน้าโง่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเลือกที่จะส่ายหัว
ลั่วอู๋แปลกใจ “เป็นอะไรรึ เจ้ายังต้องพึ่งข้าอยู่อีกรึไง”
นกหน้าโง่กลอกตาราวกับเป็นมนุษย์
สภาพแวดล้อมสวยงามภูมิอากาศเหมาะสมและไม่มีสิ่งใดที่สามารถคุกคามชีวิตของมันได้ มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้มาครอบครองที่นี่
ข้างนอกมันอันตรายเกินไป มันต้องดูแลน้องชายกลุ่มใหญ่ มันเป็นราชาแห่งนก เหมือนพี่เลี้ยง มันคงแย่เกินไปถ้าออกไปในตอนนี้
คงจะดีกว่าถ้าได้อยู่ที่นี่และออกไปในตอนที่แข็งแกร่งมากพอแล้ว
ลั่วอู๋พูดอย่างไม่สนใจ “ก็แล้วแต่เจ้า แต่เจ้าต้องทำให้ชัดเจนว่าข้าเป็นเจ้าของที่นี่และท่าทางที่น่าภาคภูมิใจของเจ้าก็จะยังอยู่ดีเหมือนเดิม”
นกหน้าโง่รู้สึกโกรธอย่างประหลาด
เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังคุยกับใครอยู่ เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ
ข้าแข็งแกร่งมาก ทำไมข้าต้องฟังเจ้า
มีอะไรงั้นเหรอ ถ้าข้าอยากจะขัดขืน
นกหน้าโง่อ้าปากและปล่อยลมปราณออกมา ซึ่งทำให้ลั่วอู๋ไม่ทันระวังตัว
ต้องบอกว่าความแข็งแกร่งของนกหน้าโง่ ได้รับการเสริมพลังอย่างมากโดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาในปัจจุบันซึ่งเหมือนกับนกศักดิ์สิทธิ์จิงหลวน มันมีความสง่างามและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
แต่ลั่วอู๋ก็ไม่ได้สนใจ
“ กล้าดียังไง ที่แท้ที่ไม่ได้ทะเลาะกันมาสามวันก็เพื่อมาตัดความสัมพันธ์ฉันมิตรตอนนี้รึไง” ลั่วอู๋โกรธและพูดออกมาว่า “ต้าหวงจัดการมันซะ”
ต้าหวงที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ เปลี่ยนเป็นรูปแบบพร้อมต่อสู้ในทันที สุนัขยักษ์ขนสีเงินปรากฏตัวขึ้นในทันที
“แกว๊ก!”
นกหน้าโง่สะดุ้งตื่น
นรกชัด ๆ เจ้าสุนัขหน้าโง่ตัวนี้มันตัวใหญ่ขึ้น นี่มันแย่มาก
“แกว๊ก!”
“โอ้ย!”
การทะเลาะวุ่นวายเกิดขึ้นอีกแล้ว
ฝูงแร้งทรายและฝูงเหยี่ยวหยกขาวบินลงมาอย่างเร่งรีบเพื่อ “ช่วย” น่าเสียดายที่ตอนนี้มันอยู่ในขอบเขตของบ้านและลั่วอู๋มีสิทธิ์ในการควบคุมมันอย่างแท้จริง
พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้บริเวณนี้ได้
การโจมตีของนกหน้าโง่ยังคงดุร้าย ลั่วอู๋และต้าหวงมีรอยแผลจำนวนมากที่ทำให้รู้สึกอับอายมาก
แต่แน่นอนว่าทางนกหน้าโง่ตัวนั้นเองก็ถูกลั่วอู๋ทำร้าย ขนของมันก็ถูกดึงออกไปมากและมันก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
ถ้านกหน้าโง่ไม่สามารถปกป้องคอของมัน ขนหลากสีที่คอด้านหลังของมันก็คงจะถูกลั่วอู๋ดึงออกไปแล้ว
ลั่วอู๋มองไปที่นกหน้าโง่ด้วยความประสงค์ร้าย “ตอนนี้ใครเป็นเจ้าของมิตินี้กันหา”
นกหน้าโง่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่มีแรงที่จะเคลื่อนไหว มันรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในใจ ทั้งที่ข้าถึงฝึกฝนเลื่อนระดับวิญญาณได้เร็วขนาดนี้ ทำไมยังไม่สามารถเอาชนะเจ้ามนุษย์น่ารังเกียจและเจ้าสุนัขหน้าโง่ตัวนี้ได้อีก
โอ้พระเจ้า หมาหน้าโง่ตัวใหญ่ตัวนี้ มันดุร้ายมาก
เมื่อหมดหนทาง สุดท้ายมันจึงก้มหน้าและยอมสยบต่อทั้งสองอย่างไม่เต็มใจ
“เอาล่ะไปกันเถอะ” ลั่วอู๋อารมณ์ดีขึ้นมาในทันที “เจ้าสามารถทำท่าเย่อหยิ่งกับใครก็ได้ แต่อย่ามาทำท่าเย่อหยิ่งต่อหน้าข้า ไม่งั้นข้าจะกีดกันเจ้าจากทักษะทั้งหมดของเจ้า”
นกหน้าโง่พยักหน้าอย่างเศร้า ๆ
มันโบกปีกที่ไม่เป็นระเบียบกระพือปีกและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า หันหน้าไปทางกลุ่มน้องชายที่รออยู่รอบ ๆ มันเงยคอขึ้นอย่างหยิ่งผยองและส่งเสียงต่ำ
เจ้ากำลังมองสงสัยอะไร ?
ตั้งแถวให้ข้าสิ
เหล่านกทั้งสองฝ่ายแยกออกอย่างตรงไปตรงมา พวกมันไม่กล้าที่จะแสดงความไม่พอใจอีก
ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เจ้านกหน้าโง่สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วออกไปตำหนิพวกน้องชาย นกหน้าโง่ตัวนี้ดูจะมีศักยภาพที่จะเป็นราชาน้อยไปหน่อยนะ
ช่างมันไปก่อน
ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องศึกษาโล่ใหม่ของเขาแล้ว