ไหปีศาจ - บทที่ 339 ฉูจงฉวนผู้ใจสลาย
บทที่ 339 ฉูจงฉวนผู้ใจสลาย
บทที่ 339
ฉูจงฉวนผู้ใจสลาย
หน้าประตูสำนักเฉียนหลง
รองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวนกำลังรอพวกเขาอยู่
ไม่เพียงแค่สิบอันดับแรกของรายชื่อเฉียนหลง แต่นักเรียนทั้งหมดของสำนักเฉียนหลงและสำนักหม่าเฉินทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่นี่ ขาดเพียงเอ๋าเฉียนจุน
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย
กลับกันแล้วถ้าเขามาที่นี่ยังจะแปลกเสียกว่า
ฉูจงฉวนนั้นมาถึงตั้งแต่เนิ่นๆ โดยดึงตัวลั่วอู๋มารอที่นี่ด้วย
ก่อนที่ผู้คนจะมาถึงจุดรวมพลฉูจงฉวนได้กระตุ้นรองเจ้าสำนักไปว่า “ท่านรองเจ้าสำนัก มีอะไรให้ข้าช่วยบอกคนอื่น ๆ ตอนที่พวกเขามาถึงไหม”
“ ไม่ต้องห่วง” หลี่หวู่หยวน ตอบ
ฉูจงฉวนนั้นกังวลมาก
เขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้รู้เกี่ยวกับการฝึกอบรมในมิติ ดังนั้นเขาจึงถามรองเจ้าสำนักไปหลายต่อหลายครั้ง
หลังจากถูกถามซ้ำ ๆจากด้านหลัง หลี่หวู่หยวน ก็หมดความอดทน “ถ้าเจ้ายังจะถามข้าอีก ข้าจะยกเลิกการจัดอันดับของเจ้า ในฐานะอันดับ 9 ของรายชื่อเฉียนหลง”
ฉูจงฉวน หุบปากทันทีและรอคอยอย่างสุนัขที่เชื่อฟัง
หลังจากที่ทุกคนได้มารวมตัวกัน หลี่หวู่หยวน ผู้เป็นรองเจ้าสำนักก็กล่าวขึ้น “จุดประสงค์หลักของการประชุมครั้งนี้คือการพูดคุยเกี่ยวกับการฝึกอบรมในมิติ”
ฉูจงฉวน รู้สึกตื่นเต้นและแสดงสีหน้าจริงจังมากออกมา เขาไม่อยากพลาดไปแม้แต่คำเดียว
“เนื่องจากท่านเจ้าสำนักของเรานักบุญผู้อุปถัมภ์ของราชวงศ์มังกรเร้นกายได้เดินทางไปทั่วโลกและทิ้งพิกัดพื้นที่อันล้ำค่าไว้ให้กับสำนักเฉียนหลง”
“ด้วยพิกัดพื้นที่เหล่านั้น พวกเราจังสามารถเดินทางผ่านทางมิติและไปยังที่ที่เราต้องการได้”
“สำนักเฉียนหลงจึงมีสิ่งที่เรียกว่าการฝึกอบรมในมิติ นั่นก็คือการออกจากสำนักเฉียนหลงและออกจากอาณาจักรของราชวงศ์มังกรเร้นกายไปยังพื้นที่ที่ไม่เคยรู้จัก”
“สถานที่เหล่านี้อาจอยู่มุมใดมุมหนึ่งของโลก หรือเป็นมิติพิเศษแยกออกมา หรือแม้กระทั่งอยู่นอกโลกก็เป็นไปได้เช่นกัน”
ลั่วอู๋ตะลึง
นอกโลก?
มันคือที่ไหนกัน? ดาวเคราะห์ดวงอื่นงั้นเหรอ
“สิบอันดับแรกของรายชื่อเฉียนหลงเท่านั้นที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมการฝึกอบรมในมิตินี้ได้ ส่วนนักเรียนคนอื่น ๆ ก็ไม่ต้องกังวลไป พวกเจ้ายังมีโอกาสได้เข้าร่วมมันในอนาคตเช่นกัน”
ในเวลานี้มีคนถามด้วยเสียงต่ำ “เอ๋าเฉียนจุน จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่?”
“เขาจะไม่เข้าร่วม” หลี่หวู่หยวน ส่ายหัว “เพราะเขามีความคิดที่เข้าสู่เจดีย์เก้าชั้น”
ทุกคนต่างประหลาดใจ
เจดีย์เก้าชั้น!
สาเหตุที่มีนักเรียนจำนวนมาก ไม่เต็มใจที่จะออกไปจากสำนักเฉียนหลงหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว กล่าวกันว่าเป็นเพราะที่นี่มีเจดีย์เก้าชั้นที่จะถูกเปิดขึ้นโดยเจ้าสำนักเอง
ในแต่ละระดับชั้นของเจดีย์เก้าชั้นจะมีสัตว์วิญญาณอันน่ากลัวอาศัยอยู่
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นชั้นระดับต่ำที่สุด สัตว์วิญญาณทั้งหมดก็อยู่ในมิติวิญญาณทองขั้นสูง ดังนั้นจึงมีกฏกำหนดไว้ในสำนักเฉียนหลงว่าคนที่จะสามารถเข้าไปในเจดีย์เก้าชั้นได้ จะต้องไปถึงระดับมิติวิญญาณระดับทอง มิติ10เป็นอย่างต่ำ
ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับอาจารย์ทุกคนในการฝึกฝน แต่เอ๋าเฉียนจุนได้ไปเรียกร้องกับทางสำนักเฉียนหลงเพื่อเข้าไปในนั้น ทางสำนักจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกให้เขาไปฝึกฝนจนกว่าจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าไปได้
เนื่องจากความเสี่ยงและประโยชน์ของการฝึกอบรมในมิตินั้นอาจจะสูงไม่เท่ากับเจดีย์เก้าชั้น เพราะความไม่แน่นอนของมันนั้นสูงเกินไป
กลับกันแล้วการฝึกฝนในเจดีย์เก้าชั้น เขาจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน ต่างจากการฝึกอบรมในมิติที่อาจจะไร้ผลหรือพบกับวิกฤตที่เขาไม่สามารถต้านทานได้
ด้วยความสามารถและนิสัยของเอ๋าเฉียนจุน เขาไม่สามารถยอมรับความเป็นไปได้ที่การฝึกอบรมในมิติอาจไร้ประโยชน์สำหรับเขา เขาจึงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการฝึกอบรมในมิติ
“เจ้านั่นมันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ” ผู้คนต่างคิดไปในทางเดียวกัน
ในความคิดของคนส่วนใหญ่การได้เข้าไปในสถานที่ลึกลับต่างๆ ดูภูมิประเทศและสัตว์วิญญาณที่หาได้ยากแตกต่างกันนั้นเป็นประสบการณ์ซึ่งหาที่เปรียบมิได้
ลั่วอู๋เองก็มีความคิดแบบนั้นเช่นกัน เพราะเขาจำเป็นต้องใช้สัตว์วิญญาณจำนวนมากเพื่อปลดผนึกหนังสือสัตว์วิญญาณและปลดผนึกความสามารถใหม่ ๆ ของไหปีศาจ
เขาต้องเลือกการฝึกอบรมในมิติอยู่แล้ว
“ดังนั้นจึงมีเพียงเก้าคนเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วมในการฝึกอบรมในมิติในครั้งนี้” หลี่หวู่หยวน กล่าวช้าๆ “ตามที่กำหนดไว้ในตอนแรกสถานที่สำหรับการฝึกอบรมในมิติแห่งแรกคืออาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ”
หัวใจของ ฉูจงฉวน สั่นสะท้านจากนั้นก็แสดงความดีใจออกมา
อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ!
มันเป็นความจริงที่สำนักเฉียนหลงมีพิกัดพื้นที่ของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ
“ลั่วอู๋ เจ้าได้ยินใช่ไหม? เจ้าได้ยินใช่ไหม? ข้ากำลังจะได้ไปอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะแล้ว” ฉูจงฉวนขมวดคิ้วมองไปที่ลั่วอู๋ “ฮ่า ๆ เชียนจี ข้ามาแล้ว!”
ผู้คนมองไปที่ฉูจงฉวน และได้แต่กลอกตา
เชียนจี เป็นสัตว์วิญญาณในตำนานระดับจักรพรรดิ
เขาคิดว่าเขาจะเห็นมันจริงๆเหรอ เมื่อเขาได้ไปถึงอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ?
พวกเราอยู่ในอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายมากันตั้งหลายปีแล้ว มีใครเคยได้เห็นมังกรตัวเป็น ๆจริง ๆ บ้างไหมล่ะ?
ลั่วอู๋ ทำอะไรไม่ถูก “ใจเย็น ๆ ก่อน เจ้ายังไม่ได้เจอเชียนจีในเร็ว ๆ นี้หรอก เจ้าควรหาสัตว์วิญญาณ ตัวที่สามของเจ้าไว้ก่อนดีกว่า”
“ที่เจ้าพูดก็มีประเด็นอยู่เหมือนกันนะ” ฉูจงฉวน พยักหน้า แต่ก็ยังไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้และตะโกนด้วยเสียงต่ำ “งั้นข้าจะรับเทพธิดาแห่งวายุเข้ามาเป็นสัตว์วิญญาณคู่พันธะก่อนแล้วค่อยไปหาเชียนจี ”
เทพธิดาแห่งวายุของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะนั้นมีรูปร่างเหมือนมนุษย์และมีใบหน้าอันงดงาม มีทักษะในการยิงธนูอันทรงพลังและความรวดเร็วที่น่ากลัว
มันเป็นหนึ่งในสัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงที่ ฉูจงฉวน ชื่นชอบ
หลี่หวู่หยวน มองไปที่ ฉูจงฉวน ด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย “น่าเสียดายที่มีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นในครั้งนี้ เราจึงไม่สามารถทำตามกำหนดการเดิมได้”
ฉูจงฉวนยืนอยู่กับที่นิ่งไปราวกับถูกฟ้าผ่า
ไม่สามารถทำตามกำหนดการเดิมได้?
นั่นหมายความว่าที่หมายของการฝึกอบรมในมิติครั้งนี้ไม่ใช่อาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะงั้นเหรอ ?
“แกร๊ก”
ลั่วอู๋ถามแปลก ๆ “อืม ดูเหมือนข้าจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตก เจ้าได้ยินไหมหลี่หยิน?”
“ข้าเองก็ได้ยินเจ้าค่ะ” หลี่หยินหยินพยักหน้าด้วยความสงสัย
ใบหน้าของ ฉูจงฉวน นั้นซีดเซียวราวกับขี้เถ้า
หัวใจของ ฉูจงฉวน แตกสลาย
“นี่มันข้อผิดพลาดอะไรกัน! ข้าขอประท้วง ข้าขอประท้วง ทำไมจึงถึงได้เปลี่ยนกำหนดการโดยแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้ ข้าขอประท้วง” ฉูจงฉวน รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
หลี่หวู่หยวน มองไปที่เขาอย่างไม่สนใจ
ลั่วอู๋ถามอย่างใส่ใจ “ฉูจงฉวน เจ้าสบายดีรึเปล่า?”
“ ปล่อยข้าไว้เงียบ ๆ ข้าอยากอยู่คนเดียว” ฉูจงฉวน คร่ำครวญ
ลั่วอู๋ ตบไหล่ ฉูจงฉวน ด้วยความเมตตาแล้วหันหน้าไปทางอื่นพร้อมถาม “ท่านรองเจ้าสำนักมีเหตุใดหรือ ถึงต้องมีการเปลี่ยนกำหนดการ ท่านช่วยแจ้งสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้พวกเราฟังได้ไหม?”
รองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวน แสดงรอยยิ้มออกมา “มันควรจะเป็นความลับ แต่ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ จะให้ข้าพูดข้าก็สามารถพูดอธิบายได้”
ลั่วอู๋ตะลึง ถ้าเขาไม่รังเกียจ?
มันเกี่ยวอะไรกับเขา
แต่แล้วลั่วอู๋ก็นึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องหนึ่ง รองเจ้าสำนักเคยกล่าวไว้ว่าเจ้าสำนักนั้นไม่ได้อยู่ในสำนักเฉียนหลงหรืออาณาจักรของราชวงศ์มังกรเร้นกาย
การฝึกอบรมในมิติครั้งนี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมการงั้นเหรอ ?
“โอ้ คงไม่จำเป็นต้องพูดหรอกขอรับ พวกเราพร้อมปฏิบัติตามกำหนดการของสำนักเฉียนหลง” นี่เป็นคำตอบที่ถูกต้องของ ลั่วอู๋
หลี่หวู่หยวน หัวเราะและไม่ได้พูดอะไรอีก
ลั่วอู๋ถอนหายใจอย่างโล่งอก หากฉูจงฉวนรู้ว่าสาเหตุที่มีการเปลี่ยนสถานที่สำหรับการฝึกอบรมในมิติของสำนักเฉียนหลงเป็นเพราะคำขอของเขาเอง พวกเขาจะต้องต่อสู้กันเองแน่ ๆ
“ดังนั้นปลายทางของการฝึกอบรมในมิติในครั้งนี้คือ นรกมนตรา” หลี่หวู่หยวนกล่าว
ทุกคนต่างประหลาดใจ
นรกมนตรานั้นว่ากันว่าเป็นสถานที่อันน่าสะพรึงกลัว
อย่างไรก็ตามหลายคนไม่สามารถพูดได้ว่าทำไมมันถึงเป็นสถานที่อันน่าสะพรึงกลัว เนื่องจากมีเพียงความประทับใจอันเลวร้ายเท่านั้นที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขา
ลั่วอู๋ กระซิบกับ ฉูจงฉวน “ข้าจำได้ว่าในบรรดาสัตว์วิญญาณหลายชนิดที่เจ้าต้องการมากที่สุดมีปีศาจจากนรกมนตราด้วยใช่ไหม?”
ฉูจงฉวน กะพริบตาและในที่สุดหัวใจอันโดดเดี่ยวของเขาก็เปล่งประกายด้วยชีวิตชีวา
“ถ้าข้าได้ไปที่นรกมนตราข้าก็อาจจะสามารถ … ” ฉูจงฉวนครุ่นคิด
“มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ข้าเรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้” หลี่หวู่หยวนกล่าวต่อ “เนื่องจากตอนนี้สำนักเฉียนหลงของเราได้รับนักเรียนใหม่เข้ามาสอง-สามคน”
ทันทีที่เสียงนั้นลดลงประตูของสำนักเฉียนหลงก็เปิดออกอย่างช้าๆอีกครั้ง
หญิงสาวในชุดผ้าโปร่งสวยสง่าพร้อมรอยยิ้มอันสดใสลอยออกมาราวภูตแสนน่ารัก
ภูตดอกไม้เบิกตาสงสัยและมองไปรอบ ๆ
นางคือ
“ องค์หญิงเจียโรวงั้นเหรอ?” ใครบางคนร้องอุทานออกมา