ไหปีศาจ - บทที่ 341 ความเงียบสงบ
บทที่ 341 ความเงียบสงบ
บทที่ 341
ความเงียบสงบ
มีเวลาสิบวันก่อนที่การฝึกอบรมในมิติจะเริ่มต้นขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วยังไงพวกเขาก็ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว เนื่องจากนรกมนตรานั้นไม่ใช่สถานที่ที่จะสามารถเข้าไปได้ในทันที และทางสำนักเฉียนหลงเองก็ไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ขึ้นเช่นกัน
ลั่วอู๋จึงไม่สามารถแบ่งเวลามาจัดการกับเรื่องวุ่น ๆของ ฉูจงฉวนได้ในขณะนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ติดตามสถานการณ์เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายเท่านั้น
ในตอนที่ฉูจงฉวนวิ่งหนี เขาไม่ได้วิ่งหนีด้วยพลังจริง ๆ ของเขา เขามีแรงขัดขืนน้อยเกินไป เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็รู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องของหลินยูหลัน
ส่วนด้านหลินยูหลันเองก็ไม่ได้พร้อมที่จะหักขาของ ฉูจงฉวนจริง ๆ แม้ว่านางจะดูมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่นางก็ยังคงรักและห่วงใยฉูจงฉวน
“ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ มันเรื่องบ้าอะไรกัน” ลั่วอู๋สับสนอยู่ครู่หนึ่ง
หลินยูหลันบังเอิญพบบ้านพักที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ นางทำความสะอาดมันแล้วโยนฉูจงฉวนเข้าไป
ฉูจงฉวนแสดงใบหน้าของความเจ็บปวดออกมา “ยัยผู้หญิงบ้าคลั่ง เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“แต่งงานกับเจ้าไง” หลินยูหลันตอบ
ฉูจงฉวนกล่าวด้วยความโกรธ “ข้าเคยบอกเจ้าไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าข้าจะไม่แต่งงานกับเจ้า”
“ ทำไม หน้าตาข้าไม่ดีตรงไหน” หลินยูหลันงงงวย
“หน้าตาดี หน้าตาดี … ” ฉูจงฉวน พูดไม่ออกครู่หนึ่ง เขามองไปทางหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวที่สวยงามตรงหน้าเขา “การแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญมาก เจ้าไม่ควรรีบร้อนไป”
“ พ่อของข้าบอกว่า ถ้าข้าชอบใครข้าก็ควรกล้าพอที่จะไล่ล่าเขา ถ้าทำไม่ได้ เจ้าก็ใช้ทุกวิถีทางควรจับเขามาให้ได้ จับเขาด้วยพละกำลังที่มากกว่า ยังดีกว่าให้เขาถูกคนอื่นปล้นไป ถ้าชอบเขาไม่พอ ข้าก็จะไม่กล้าทำแบบนั้นแน่” หลินยูหลันกล่าว
ฉูจงฉวน กล่าวด้วยความโกรธ “นั้นมันตรรกะแบบไหนกันเนี่ย?”
“ ก็พ่อของข้าเป็นโจรเจ้ามีปัญหาอะไรรึไง?”
ฉูจงฉวน พูดไม่ออก
ใช่แล้ว พ่อของหลินยูหลันคือหลินกุยผู้นำของหมู่บ้านตงเทียนบนภูเขาเทียนหวัง ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหัวขโมยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
หลินกุยและฉูจานเทียน บรรพบุรุษของตระกูลฉู มีมิตรภาพกันมายาวนาน ทั้งคู่จึงได้มีการหมั้นหมายลูกหลานของตัวเองเข้าด้วยกัน
เนื่องจากการมีส่วนร่วมในสัญญา ฉูจงฉวนจึงมักถูกพาไปที่หมู่บ้านตงเทียนตั้งแต่เขายังเด็ก ทำให้เขาและ หลินยูหลันเป็นคู่รักกันตั้งแต่ในวัยเด็ก
ตั้งแต่สมัยเด็ก พวกเขาต่างก็รู้ดีว่า พวกเขาจะต้องการแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่เพียงเห็นด้วยกับมัน แต่ยังมีความสุขมากเกี่ยวกับอนาคตนี้ เนื่องจากพวกเขาเป็นเพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของกันและกันในวัยเด็ก
ดังนั้นเมื่อพวกเขาเล่นด้วยกันพวกเขาจึงมักเรียกกันและกันว่าสามีและภรรยา
เมื่อพวกเขาโตขึ้นได้สักระยะหนึ่ง อารมณ์ต่าง ๆ ก็เข้ามาพัวพันมากมายโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ในเวลานั้นฉูจงฉวนก็เริ่มแสวงหา “ความงาม” อย่างหวาดระแวง โดยมีเพียงผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างกาย
รักแรกอันหอมหวาน
ฉูจงฉวนเขียนเอกสารหมั้นหมายด้วยตัวเองในทันที
ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้น พวกเขากลับได้พบกันน้อยลง ฉูจงฉวนได้อุทิศตนให้กับการแสวงหาความงามและเริ่มเกลียดชังการแต่งงาน
หลินยูหลันเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นางได้รับอิทธิพลจากหมู่บ้านตงเทียน ทำให้มันยากเกินไปสำหรับนางที่จะสามารถเติบโตมาในฐานะสุภาพสตรีผู้งดงาม
มันเป็นเรื่องน่ารักสำหรับเด็กผู้หญิงที่จะพูดคำสแลงออกมา แต่เมื่อนางโตขึ้นนางก็กลายเป็นสาวห้าวที่ปะปนไปกับกลุ่มโจร ทำให้ฉูจงฉวนนั้นไม่สามารถยอมรับได้
แต่หลินยูหลันนั้นก็ยังคงชอบฉูจงฉวนเหมือนเดิม
เขาเป็นผู้ชายที่ถูกมองว่าเป็นสามีในอนาคตของนางมาโดยตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนที่นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเอาแต่หลบซ่อนตัวเมื่อต้องเห็นนางเสียอย่างนั้น ซึ่งด้วยสภาพอารมณ์ของนางแล้ว นางไม่สามารถทนรับการกระทำของเขาได้
มันมีความย้อนแย้งมากเกินไป
ฝ่ายหนึ่งไล่ล่า อีกฝ่ายหนึ่งซ่อน อะไร ๆ ก็ดูจะไม่มีเหตุผล
“ข้ารักเจ้า คืนนี้เราจะแต่งงานกัน” หลินยูหลันดูจริงจังมาก
“ อย่ามายุ่งกับข้า” ฉูจงฉวนตกใจและกังวลอยู่ครู่หนึ่ง “ที่นี่ไม่มีอะไรเลย พวกเราจะแต่งงานกันได้อย่างไร”
“แค่มีสวรรค์และปฐพีเป็นพยานก็เพียงพอแล้ว” หลินยูหลันคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าจะไปหาเทียนสีแดงแท่งใหญ่ ๆ มาสักสองแท่ง อย่าหนีไปก่อนล่ะ”
ฉูจงฉวนถอนหายใจ “อย่ามาบังคับข้า ข้าไม่ต้องการทำร้ายเจ้า”
เขารู้ว่าเขาปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
แต่แค่แส้บาง ๆ เส้นนี้ เขายังไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้เลย
“ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่อย่าลืมไปล่ะว่าคู่หมั้นของเจ้าเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา” หลังจากนั้นหลินยูหลันก็สะบัดนิ้วของนาง
หมอกสีขาวบางเบาลอยออกมา
ทันใดนั้นร่างกายของฉูจงฉวนก็อ่อนแอลงและการไหลเวียนของพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างกายของเขาก็หยุดลง ไม่ว่าเขาจะพยายามกระตุ้นพลังวิญญาณแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์
“นี่มันอะไรกัน?” ฉูจงฉวนตกใจ
หลินยูหลัน หัวเราะเบา ๆ ด้วยความภาคภูมิใจ “มันคือผงไป่เฉียนซังหลินที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษโดยหมู่บ้านตงเทียน ไม่มีใครสามารถต้านทานยานี้ได้เว้นแต่จะไปถึงมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูง”
พูดจบหลินยูหลันก็จูบฉูจงฉวนเบา ๆ จนแก้มของนางเป็นสีแดงเล็กน้อย “เจ้ารอข้าที่นี่นะ ข้าจะไปหาเทียนสีแดงแท่งใหญ่ ๆ มาเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ฉูจงฉวนมึนงงในทันที
สัมผัสจากริมฝีปากบาง ๆ ของนาง ทำให้เขารู้สึกสับสน
จากนั้นหลินยูหลันก็วิ่งออกจากบ้านพักไป
ใบหน้าของนางแดงขึ้นเรื่อย ๆ และหัวใจของนางก็เต้นเร็ว
ฮิ ฮิ นี่เป็นจูบแรกเลย
ไม่แปลกใจเลยที่ใบหน้าของนางร้อนมาก สิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือที่นางเคยอ่านนั้นเป็นเรื่องจริง
……
……
ฉูจงฉวนอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาบนกำแพง
“ ลั่วอู๋ช่วยข้าด้วย” ฉูจงฉวนอุทานอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นผู้มาเยือน
แน่นอนว่าเป็นลั่วอู๋ที่ตามตัวเขามา
ลั่วอู๋ ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างรอบคอบ จากนั้นจึงมองไปที่ฉูจงฉวนที่ถูกปกคลุมไปด้วยเส้นแส้สีดำ “ถ้าข้าช่วยเจ้า แต่เจ้าจะต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังอย่างละเอียดเข้าใจไหมฉูจงฉวน? ความสัมพันธ์ของเจ้ากับผู้หญิงคนนั้นมันเป็นยังไงกันแน่ ?แล้วเอกสารหมั้นพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่?”
ฉูจงฉวนทำอะไรไม่ถูก จากสภาพในตอนนี้เขาต้องยอมเล่าทุกอย่างออกมา
“โอ้ … ” เมื่อได้ฟังทั้งหมดลั่วอู๋ก็พูดขึ้น “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเจ้าสมควรได้รับอิสระล่ะ ข้าเขียนจดหมายนัดเวลานางมาหาเจ้าแทนได้ไหม?”
“ เมื่อก่อนนางไม่ได้เป็นแบบนี้” ฉูจงฉวนพูดด้วยใบหน้าหดหู่ “เมื่อก่อนนางทั้งอ่อนโยนและน่ารักไม่เหมือนกับตอนนี้”
“แล้วตอนนี้เจ้าให้โอกาสนางได้แสดงความอ่อนโยนของนางซะที่ไหนกันเล่า”ลั่วอู๋ไม่มีทางเดินหายใจที่ดี
ฉูจงฉวน ตกตะลึง
ที่เขาพูดมันก็สมเหตุสมผล
“ข้าไม่ได้สนใจเรื่องของเจ้าเท่าไหร่หรอก เจ้าต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง ข้าแค่สามารถช่วยแก้ผลของผง ไป่เฉียนซังหลินให้กับเจ้าได้เท่านั้น ที่เหลือมันขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะตัดสินใจวิ่งหนีต่อหรือไม่”
ลั่วอู๋ใช้แสงศักดิ์สิทธิ์กำจัดผลของผงไป่เฉียนซังหลิน
“ ยังไงข้าก็แนะนำให้เจ้าพูดเปิดอกกับนาง เพราะหลังจากพวกเจ้าต่างก็ต้องอยู่ในสำนักเฉียนหลง เจ้าจะวิ่งหนีไปที่ไหนได้จริงไหมล่ะ?” ลั่วอู๋กล่าว
ฉูจงฉวนคิดแล้วจึงพูดว่า “ได้ ข้าจะคุยกับนางดีๆดู”
ลั่วอู๋ออกจากบ้านพักไป
ฉูจงฉวนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ลั่วอู๋คิดว่าหลังจากนั้นฉูจงฉวนจะเข้ามาในบ้านพักของเขากลางดึก จากนั้นก็เล่าประสบการณ์ของเขาให้ลั่วอู๋ฟัง
แต่ก็ไม่
มันเป็นช่วงกลางคืนที่เงียบสงบมาก
สงบจนเขาสับสนเล็กน้อย
บ้านพักเล็ก ๆ ของหลินยูหลัน มีแสงเทียนสีแดงส่องสว่างจนกระทั่งรุ่งสาง ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้น
ลั่วอู๋เริ่มสงสัยว่า ฉูจงฉวน อาจจะไม่ลุกขึ้นมาอีก เขาถูกฆ่าไปแล้วอย่างงั้นเหรอ?
ลั่วอู๋ลังเลที่จะบุกเข้าไปดู แต่แล้วเขาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่ต้องทำให้เขาตกใจ
ฉูจงฉวนและหลินยูหลันเดินจับมือกันออกมาข้างนอก
หลินยูหลันติดตามฉูจงฉวนอย่างใกล้ชิด นางสวมกระโปรงสีขาวดูนุ่มนวลและอ่อนหวาน พร้อมกับรอยยิ้มที่น่ารักบนใบหน้าของนาง
ส่วนทางฉูจงฉวนเองก็มีใบหน้าที่มีความสุข