ไหปีศาจ - บทที่ 360 มากับข้า
บทที่ 360 มากับข้า
บทที่ 360
มากับข้า
“ โฮก! ”
ลิงเผือกใช้มือทุบไปที่หน้าอกของมัน และคำรามขึ้นไปบนฟ้า พลังวิญญาณอันป่าเถื่อนนี้แทบจะฉีกท้องฟ้าอันมืดมิดนี้ออกเป็นสองส่วน
ลมหายใจของลั่วอู๋แรงขึ้น
ลิงเผือก นั้นเป็นสัตว์วิญญาณสงครามที่มีทักษะด้อยกว่าพวกอื่น ด้วยอายุขัยที่สั้น และการขยายพันธุ์ที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างมาก
แต่พระเจ้ากลับมอบพลังในการต่อสู้ที่หาใครเทียบไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นลูกหลานของสัตว์ร้ายก็ตาม ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นหนึ่งครั้ง
ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้แล้ว ลิงเผือกและเจ้าปีศาจอาชูร่านั้นอยู่ในระดับเดียวกัน พวกมันยืนอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเพชร และแทบจะไม่มีคู่ปรับจากระดับต่ำกว่านี้ได้เลย
แน่นอนว่า ความแข็งแกร่งปัจจุบันของลั่วอู๋ไม่สามารถเทียบเท่ากับลิงเผือกจริง ๆ ได้ แต่ตอนนี้ศัตรูของเขาคือปีศาจเสน่ห์
แค่นี้จึงเพียงพอแล้ว
ปีศาจเสน่ห์ตกใจอย่างมาก ไม่ใช่ว่ามันครอบครองพลังของมังกรปีศาจงั้นหรือ? ทำไมพลังวิญญาณในร่างกายของมันถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
ลิงเผือกมันอะไรกันเนี่ย?
ทำไมมันถึงได้เชี่ยวชาญพลังของสิ่งมีชีวิตอื่นมากมายขนาดนี้ได้
ไม่นานนัก
ในที่สุด ปีศาจเสน่ห์ก็นึกถึงตำนานอันเก่าแก่ได้
ภายนอกนรกมนตรา มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่เรียกว่ามนุษย์ ผู้ที่สามารถพิชิตสิ่งมีชีวิตอื่นได้ และแย่งชิงอำนาจของพวกมันไป
“แกคือมนุษย์งั้นเหรอ!” ปีศาจเสน่ห์อุทานออกมา
ลั่วอู๋ก้มหน้าลง “ ใช่แล้ว ”
“ เยี่ยมเลย ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะได้มีโอกาสจับมนุษย์เป็น ๆ ” ปีศาจจ้องตาของลั่วอู๋
“ ถ้าเจ้าทำได้ก็ลองดูสิ ”
ลั่วอู๋คำราม พลังวิญญาณของเขาพุ่งออกมาจากร่างกายดั่งกระสุนที่ทรงพลัง จนแทบจะฉีกพื้นให้แยกออกจากกัน แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้พื้นแยกจากกันทีละนิ้ว
ปีศาจเสน่ห์แสดงสีหน้าอันชั่วร้ายออกมาจากดวงตา
ข้าได้ฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับคืนมาแล้วกว่า 70% ถึงจะเพียงแค่ระดับทอง มิติที่ 2 แม้ว่าเจ้าจะเป็นมนุษย์ในตำนานก็ตาม แต่ยังไงซะเจ้าก็ไม่สามารถเอาชนะข้าได้หรอก
ทักษะระดับ A [ฟาดฟันความเจ็บปวด]
ในมือของปีศาจเสน่ห์ ปรากฏแส้ทรมานที่ส่งเสียงจนสามารถทำลายท้องฟ้าได้เป็นจุณ หนามขนาดเล็กหุ้มล้อมรอบไปทั่วแส้ จากนั้น ปีศาจเสน่ห์ก็ได้ฟาดแส้ลงไปยังลั่วอู๋
แส้ทรมานที่ฟาดเร็วดั่งสายฟ้า แทบจะไม่มีใครสามารถป้องกันได้
พลังของทักษะนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่มันจะสร้างความเสียหายทับถมให้กับพลังวิญญาณ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นรุนแรง จากบาดแผลที่ทับถมกันไปเรื่อย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น แส้ทรมานนั้นสามารถสร้างความเจ็บปวดได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าหากเสียสติจากอาการเจ็บปวด ก็จะยิ่งได้รับความเจ็บปวดขั้นรุนแรงที่หัวใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ดวงตาของลั่วอู๋มีแต่เย็นชา เพราะเขาผ่านการต่อสู้แบบนี้มานักต่อนักแล้ว
เมื่อพูดถึงทักษะการต่อสู้ มันก็ยังเป็นเพียงแค่ปีศาจเสน่ห์ มันก็ไม่อาจจะเทียบได้กับพวกระดับสูงของสำนักหม่าเฉินที่ใช้แต่ความรุนแรงได้เลยสักนิด
ใช้งานทักษะระดับ A [พิธีศพกางเขนคลั่ง]
ลั่วอู๋สร้างร่างเสมือนจริงออกมาสิบร่าง แส้ทรมานจึงไม่สามารถระบุตำแหน่งของลั่วอู๋ได้ มันทำได้เพียงแค่ผ่านเงาเสมือนจริงไปเท่านั้น
แรงดันวิญญาณของลั่วอู๋ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาใช้งานทักษะ [ก้าวพริบตา] ไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของปีศาจเสน่ห์ และมือของเขาก็กลายเป็นกรงเล็บของทักษะ [ฉีกกระชากอำมหิต]
หลังจากร่างของลั่วอู๋หายไปจากสายตา ปีศาจเสน่ห์ก็ตกใจและรีบใช้วิธีการป้องกันตัวที่แข็งแกร่งที่สุดของนาง
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ ปีศาจเสน่ห์ได้หลบกรงเล็บของลั่วอู๋ได้
“ หืม มันเป็นไปไม่ได้ เหลวไหลชะมัด มันจะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าไม่น่าจะมีทางหลบมันได้นี่ ” ดวงตาของลั่วอู๋เต็มไปด้วยแสงสีทอง ราวกับว่าจะทะลวงทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ใช้งานทักษะระดับ SS [นัยน์ตาปีศาจ]
แสงสีทองกวาดไปทั่วสถานที่ เพื่อเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่าง
ปีศาจเสน่ห์ปรากฏตัวขึ้น นางรู้สึกว่าร่างกายของนางสั่นไปทั่ว ราวกับว่านางกำลังถูกแผดเผาโดยสายตาของอีกฝ่าย ทำให้นางตกใจ “ พลังบ้าอะไรกันเนี่ย? ”
“ตายซะ!” ลั่วอู๋ใช้งานทักษะระดับ S [ความเร็วเหนือความตาย] ร่างกายของเขาได้กลายเป็นแสงโลหิต และจากนั้นก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ปีศาจเสน่ห์สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นนางก็หัวเราะออกมา และส่งจูบให้เขาอีกครั้ง “ อย่าโกรธกันเลยนะ ”
ใช้งานทักษะ [จูบแห่งการผ่อนคลาย]
ลั่วอู๋ไม่ได้หลบ แต่พุ่งใส่เข้าไปโดยตรง ทันใดนั้น พลังวิญญาณของเขาก็เริ่มอ่อนลง และเลือดของเขาก็เริ่มแข็งตัวอย่างช้า ๆ
เมื่อพลังวิญญาณอ่อนลง พลังการต่อสู้อันมหาศาลก็จะลดลงเช่นกัน
“ เจ้าโง่ ” ปีศาจเสน่ห์หัวเราะเยาะ “ นี่เป็นครั้งที่สอง ที่เจ้าไม่ได้หลบมัน แต่กลับเข้ามาเผชิญหน้ากับข้า ”
ในขณะที่แสงสีทองในดวงตาของลั่วอู๋ค่อย ๆ จางหายไป มันก็ได้ถูกแทนที่ด้วยเลือดสีแดงจนดูน่ากลัว
“ ใช่แล้ว ครั้งที่สอง ที่มันคือสงครามแห่งความอัปยศของข้า ดังนั้นข้าจะไม่มีทางหนี ” ลั่วอู๋พูดอย่างเงียบ ๆ และช้าๆ
หัวใจของปีศาจเสน่ห์สั่นไหว และลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็เข้ามาในหัวของนาง
ใช้งานทักษะระดับ S [โทสะกระหายเลือด]
โฮก!
แรงอาฆาตที่เกิดจากความโกรธและกระหายเลือดนั้น เพียงพอที่จะทำให้พลังของทักษะ [จูบแห่งการผ่อนคลาย] สงบลงได้ เพื่อให้แน่ใจว่าพลังวิญญาณของการต่อสู้ของลั่วอู๋จะไม่หายไป
ตายซะ! ตายซะ! ตายซะ!
ลั่วอู๋ใช้ทุกวิถีทางในการต่อสู้กับปีศาจเสน่ห์ และเขานั้นก็มีความตั้งใจอย่างมากที่จะต่อสู้ต่อไป เขาได้ควบคุมเปลวไฟทั้ง 3 ชนิดด้วยเลือดในดวงตา เข้าด้วยกับสายฟ้าภายในปากของเขา
ความแข็งแกร่งที่ฟื้นคืนมาแล้วกว่า 70% ของปีศาจเสน่ห์ เมื่อเทียบกับพลังของสัตว์วิญญาณระดับเพชร มิติที่ 1
พลังของพวกเขามันจึงห่างชั้นกันเกินไป
ลั่วอู๋เริ่มมีความกล้าหาญมากขึ้นในระหว่างการต่อสู้ เขาไม่ลังเลที่จะเอาร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลเข้าแลกกับการโจมตี ปีศาจเสน่ห์เริ่มรู้สึกถึงความหวาดกลัวและสูญเสียความตั้งใจในการต่อสู้ไป
ปีศาจเสน่ห์นั้น ไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านพลังการต่อสู้ วิธีที่แข็งแกร่งที่สุดของนางคือทักษะการควบคุม โดยใช้เสน่ห์หาเพื่อกดดันศัตรู
แต่ทักษะเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลั่วอู่จะรับมือได้ในตอนนี้
ลั่วอู๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก แต่ด้วยการเอาตัวเข้าแลกนี้ เขาจึงสามารถฉีกปีกของปีศาจเสน่ห์และดึงหางของนางออกมาฟาดลงไปกับพื้นได้
ฉูจงฉวนที่มองดูอยู่นั้นได้แต่ส่ายหัวไปมา “ เจ้ารุนแรงเกินไปไหม ข้ารู้สึกสงสารนางเหลือเกิน… ”
แต่ว่าตอนนี้ เขาจะมามัวสนใจนางไม่ได้แล้ว
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือการปราบอาชูร่า ผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้าของเขา
ขณะนั้น อาชูร่าที่ได้พ่ายแพ้จากการบาดเจ็บสาหัส และลมหายใจก็เริ่มอ่อนแรงลง แม้ว่าพลังวิญญาณการต่อสู้ของนางพลุ่งพล่าน แต่นางก็ได้สูญเสียพลังในการต่อสู้ไป จนนางทำอะไรไม่ถูก และดูเหมือนว่านางจะโกรธมาก
“ ข้าเกลียดมัน! ”
อาชูร่าฝืนคำรามออกมา
นางยังไม่ได้ทำลายให้พื้นที่นี้ย่อยยับ
นางยังไม่เห็นถึงแสงสว่าง
นางไม่เคยได้เห็นอาณาจักรปีศาจในตำนาน นางยังไม่ได้พัฒนาไปเป็นราชาปีศาจอาชูร่าเลย ช่างน่าเสียดายนัก ที่นางจะต้องมาตายด้วยเงื้อมมือของปีศาจเสน่ห์
นางไม่ชอบมัน
“ ข้าคือมนุษย์โปรดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจด้วย เจ้าน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับมนุษย์นะ ” เสียงอันอ่อนโยนดังออกมา
ด้วยความช่วยเหลือของเหวินเสี่ยว ฉูจงฉวนได้ทำการสื่อสารกับอาชูร่า
อาชูร่าตกตะลึง
มนุษย์งั้นเหรอ?
นางกระตือรือร้นเพื่อที่จะออกจากนรกนี้ โดยปกติแล้ว นางจึงรู้อยู่แล้วว่าอะไรมีชีวิตอยู่ข้างนอกนรกมนตราแห่งนี้ และสิ่งมีชีวิตนั้นก็คือมนุษย์
“ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ”
“ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจะออกไปจากที่นี่ ”
“ เจ้าเกลียดชังนรกมนตราแห่งนี้ ”
“ ตอนนี้ เจ้าก็มีโอกาสได้ทำพันธสัญญากับข้า และเจ้าก็จะได้กลายเป็นสัตว์วิญญาณแห่งพันธสัญญาของข้า ข้าสามารถช่วยพาเจ้าออกไปจากที่แห่งนี้ได้ ” ฉู จงฉวนพูดด้วยความจริงจัง
อาชูร่าคำราม “ เจ้าต้องการจะให้ข้าเป็นทาสของเจ้างั้นหรือ? ข้าจะทำเรื่องโง่ แบบนั้นเพื่อแลกกับเสรีภาพของข้าได้อย่างไร ”
“ ไม่ไม่ไม่ มันไม่ใช่ทาสสักหน่อย” ฉูจงฉวนแก้ไขคำพูดของอีกฝ่าย “เจ้าจะไม่มีวันเป็นทาส ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการ ไม่ว่าเจ้าจะทำพันธสัญญาหรือไม่ทำก็ตาม ยังไงซะ มันก็สามารถยกเลิกพันธสัญญาได้อยู่ดี”
“ ข้าไม่ได้ต้องการพูดอะไรให้มันดูสูงส่ง แต่เพียงเพราะว่าข้าต้องการเจ้า ข้าต้องการทำพันธสัญญากับเจ้า ข้าต้องการให้เจ้าเป็นคู่หู ข้าต้องการพลังของเจ้า ”
“ ข้าสัญญากับเจ้าว่า ข้าจะให้อิสระกับเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่เจ้าต้องการ ”
“ ถ้าเจ้ายอมรับการทำพันธสัญญากับข้า เมื่อข้าได้พัฒนาขึ้นไประดับเพชร ข้าก็สามารถยกเลิกพันธสัญญาและปล่อยเจ้าออกไปได้ ”
ฉู จงฉวนยื่นมือของเขาออกมา และดวงตาของเขาก็จริงจังมากขึ้นกว่าเดิม “ มากับข้า ”