ไหปีศาจ - บทที่ 375 บังคับให้ออก
บทที่ 375 บังคับให้ออก
บทที่ 375
บังคับให้ออก
เวทีศิลปะการต่อสู้ของสำนักเฉียนหลง
องค์หญิงเจียโรวเดินออกมาจากการทดสอบการรับรู้ด้วยท่าทางอันมั่นใจ นางได้ผ่านขั้นที่ 7 ของการทดสอบ และกลายเป็นคนที่ 5 ของสำนักเฉียนหลงที่สามารถผ่านการทดสอบในระดับที่เจ็ดได้
“เย้ อันดับที่ 15 ของรายชื่ออันดับเฉียนหลง” องค์หญิงเจียโรวมีความสุขมาก
ดูเหมือนว่าความสามารถของนางนั้นถือว่าไม่เลวเลย เมื่อเทียบกับผู้คนในสำนักเฉียนหลงทั้งหมด
แม้ว่าสัตว์วิญญาณตัวที่สองของนางอย่างภูตดอกไม้จะไม่มีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่นางก็ยังสามารถไปถึงอันดับที่ 15 ได้ แสดงให้เห็นว่า องค์หญิงเจียโรว นั้นมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมมาก
อย่างไรก็ตามอันดับนั้นไม่ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งในการต่อสู้จริง
ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้จริงแล้ว องค์หญิง เจียโรวคงอยู่ราว ๆ ระดับกลางถึงล่างของสำนักเฉียนหลง
ทันใดนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้าองค์หญิงเจียโรว เขาก้มศีรษะด้วยความเคารพ “ในที่สุดข้าก็ได้พบองค์หญิงเจียโรว”
ชายหนุ่มมีหน้าตาหล่อเหลา แต่แววตาของเขากลับ ขุ่นมัว เนื่องจากขาของเขาหักมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว เขาไม่สามารถกระโดดโลดเต้นอะไรได้อีก
“ หนิงฮัว?” องค์หญิงเจียโรว ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หนิงฮัวนั้นเป็นหลานชายของหนิงปิงหลัน แม่ทัพ หนิงเซียว และเป็นทายาทของตระกูลหนิง
ลมปราณของหนิงฮัวนั้นสงบและมั่นคงราวกับภูเขา มีส่วนโค้งบาง ๆ บนข้อมือของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ
ในช่วงปีที่ผ่านมา เขาได้เปลี่ยนไปมาก
ด้านหลังของ หนิงฮัว ยังมีคนอื่น ๆ อีกห้าคน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ พวกเขาล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น สิ่งเดียวที่ตระกูลของพวกเขามีเหมือนกันคือพวกเขาต่างมีความภักดีอย่างยิ่งต่อราชสำนักของจักรวรรดิ
“องค์หญิงเจียโรว” ทั้งห้าคนโค้งคำนับโดยพร้อมเพรียงกัน
องค์หญิงเจียโรว ตะคอก“ พวกเจ้าต้องการอะไร มาเพื่อหยุดข้างั้นเหรอ?”
“พวกเราไม่อาจกล้าขวางทางองค์หญิงเจียโรวหรอก” หนิงฮัวหัวเราะแล้วจึงกล่าวว่า “เพียงแต่พวกข้าอยู่ภายใต้ราชโองการขององค์จักรพรรดิ เพื่อที่จะพาองค์หญิงเจียโรวกลับไปยังราชวัง องค์หญิงทรงออกเที่ยวเล่นข้างนอกมานานเกินไปแล้ว”
หัวใจของ องค์หญิงเจียโรว จมลง
ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม
ข้อมูลของนางอยู่ในกำมือขององค์จักรพรรดิเสมอ ตราบเท่าที่เขาต้องการเขาก็สามารถจับตัวนางกลับไปได้ตลอดเวลา แม้ว่านางจะซ่อนตัวอยู่ในสำนักเฉียนหลงก็ตาม
“ที่นี่คือ สำนักเฉียนหลง ในฐานะนักเรียนของสำนัก ข้าไม่อาจสามารถเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต” องค์หญิงเจียโรว กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สมเหตุสมผล
หนิงฮัวหยิบผืนผ้าไหมออกมาหนึ่งผืน “นี่คือจดหมายราชโองการที่เจ้าสำนักเขียนขึ้น เมื่อมีสิ่งนี้ก็เทียบเท่าได้กับราชโองการของเจ้าสำนัก และไม่ถือว่าเป็นการละเมิดกฎของสำนักเฉียนหลง”
องค์หญิงเจียโรว กล่าวอย่างโกรธ ๆ ว่า “ท่านองค์จักรพรรดิ ทำเกินไปแล้ว ใช้จดหมายจากเจ้าสำนักเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากสุนัขจิ้งจอก”
มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะมีจดหมายที่เขียนโดยท่านเจ้าสำนัก
ด้วยราชโองการและจดหมายจากเจ้าสำนัก ดูเหมือนว่าแม้แต่รองเจ้าสำนักก็คงไม่อาจจะใช้เหตุผลใด ๆ รั้งตัว องค์หญิงเจียโรว ไว้ที่สำนักเฉียนหลงได้อีกแล้ว
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่นางพูด พวกเขาทั้งหมดก็ทำได้เพียงแค่ทำเป็นว่าไม่ได้ยิน
ผู้เดียวที่สามารถพูดเช่นนั้นได้กับองค์จักรพรรดิ คงมีเพียงแค่องค์หญิงเจียโรวที่เขารักมากเท่านั้น
“พวกเจ้าจะทำอะไรได้ หากข้าไม่คิดจะยอมตามพวกเจ้าไป” องค์หญิงเจียโรว พูดด้วยความงอน
นางยังอยากเดินทางไปอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ
นางยังอยากออกไปดู สัตว์วิญญาณหลีกมากมายบนโลกนี้
นางอยากใช้ชีวิตให้มีสีสันมากกว่านี้
จะเรียกนางกลับไปทำไม? นางอายุเกือบจะเกินสิบเก้าปีแล้ว
ในเมื่อองค์จักรพรรดิสามารถระงับคำสาปในร่างกายได้แล้ว ร่างกายของเขาเป็นอิสระและชีวิตของเขาก็กลับมายืนยาวแล้ว ทำไมเขาถึงต้องบังคับให้นางกลับไป!
องค์หญิงเจียโรว เสียใจมาก
นางรู้ว่าพ่อของนางรักนางมาก จนพยายามตอบสนองความต้องการที่มากเกินไป แม้แต่ยอมสร้างสวนลอยฟ้าให้
แต่นางไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของนาง ถึงอยากอยู่กับนางตลอดเวลา เขายุ่งเกินไปที่จะได้มีความสุขกับครอบครัวของเขาด้วยซ้ำ เขาไม่สามารถออกไปกับนางได้ นางจึงมักออกไปเดินเล่นหลายต่อหลายครั้ง
นางก็แค่อยากเห็นสิ่งต่าง ๆ ในระยะไกล
เมื่อ หนิงฮัว ได้ยินคำพูดของ องค์หญิงเจียโรว เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มเฝื่อน “องค์จักรพรรดิมีราชโองการถ้าองค์หญิง เจียโรว ไม่ต้องการจากไป พวกข้าก็สามารถนำตัวนางออกจากสำนักเฉียนหลงด้วยกำลังได้”
ใบหน้าของ องค์หญิงเจียโรว เปลี่ยนไปในทันที
หลายคนบนเวทีศิลปะการต่อสู้ เองก็มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
ใครเล่าจะกล้าลงไม้ลงมือกับองค์หญิงเจียโรว?!
“ เจ้ากล้างั้นเหรอ !” องค์หญิงเจียโรวตะโกน ด้วยศักดิ์ศรีขององค์หญิงแล้ว นางไม่สามารถเพิกเฉยได้
ห้าคนที่อยู่ข้างหลัง หนิงฮัว กล่าวด้วยเสียงต่ำ “โปรดใจเย็น ๆ ก่อนเถิด ความรับผิดชอบอยู่ที่พวกข้า หวังว่าองค์หญิง เจียโรวคงไม่คิดโทษพวกข้า”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพร้อมที่จะลงมือ
“หยุดนะ!” สาว ๆ กลุ่มหนึ่ง เดินเข้ามาโดยมีผู้นำคือ หนิงหลิงหลิง พี่สาวของ หนิงฮัว พวกนางต่างพากันดุว่า “พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?
กลุ่มแม่มดนั้นไม่ใช่กลุ่มที่จะสามารถยั่วยุได้ง่าย ๆ
พวกนางแต่ละคนต่างก็มีเบื้องลึกเบื้องหลัง
ชาย5คนด้านหลัง หนิงฮัว ต่างหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง เพราะมีพี่สาว ลูกพี่ลูกน้องและแม้แต่คู่หมั้นของพวกเขาอยู่ในกลุ่มแม่มด พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับพวกนางได้
หลายคนในกลุ่มแม่มดต่างก็มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับองค์หญิงเจียโรว แม้ว่ามันอาจจะไม่ลึกซึ้งมาก แต่คำทั้งสี่คำขององค์หญิงเจียโรวก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้พวกนางยอมลุกฮือขึ้นมา
หนิงหลิงหลิงจ้องมองไปที่หนิงฮัว นางมองน้องชายด้วยความแปลกใจ “เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ ? ถ้าเจ้ากล้าลงมือกับองค์หญิง ป้าของพวกเราไม่จบที่แค่หักขาของเจ้าแน่!”
หนิงฮัวมีท่าทางปวดหัวแทนที่จะเปลี่ยนท่าที
“คราวนี้ป้าของพวกเราไม่ออกมาหรอกนะ เพราะว่า … ” หนิงฮัวพูดอย่างใจเย็น “นี่เป็นราชโองการของท่านปู่ของพวกเรา ท่านเข้าใจรึยังล่ะ?”
หนิงหลิงหลิงตะลึง
หนิงฮัว หยิบสารศักดิ์สิทธิ์ออกมา ทันใดนั้นพลังวิญญาณมังกรทองก็กระจายออกไป ดูเหมือนว่าเสียงของมังกรจะคำรามออกไปทั่วทั้งเวที ทำให้เกิดความโกลาหล
มันเป็นราชโองการที่เขียนขึ้นโดยองค์จักรพรรดิ
“เห็นรึยังว่านี้เป็น พระประสงค์ของท่านปู่ เขามอบหมายให้กับข้า” หนิงฮัวยิ้ม “พี่สาว ท่านจะฝ่าฝืนราชโองการนี้จริง ๆ หรือ?”
หนิงหลิงหลิงแสดงสีหน้างงงวย
คราวนี้สาว ๆ กลุ่มแม่มดไม่สามารถให้ความร่วมมือได้อีก เพียงราชโองการเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกนางต้องถอยหนี
ไม่มีกองกำลังหรือตระกูลใดสามารถละเมิดพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิได้
เพราะมันมาจากชายที่มีอำนาจมากที่สุดในทวีป
ราชโองการหนึ่งฉบับและจดหมายหนึ่งฉบับที่เจ้าสำนักเขียนก็เพียงพอที่จะยับยั้งทุกคน
หนิงหลิงหลิงมองไปที่องค์หญิงองค์หญิงเจียโรวอย่างขอโทษ
“องค์หญิงเจียโรวไปกับข้าเถอะ” หนิงฮัว ยิ้ม “มันคงจะไม่ดีที่จะต้องทำลาย ความสามัคคีในหมู่เพื่อน”
องค์หญิงเจียโรว พูดอย่างดื้อรั้น “ถ้าเจ้าต้องการจะจับข้า ก็จงเอาชนะข้าให้ได้ก่อน”
หากนางเต็มใจที่จะเชื่อฟังคนอื่น นางคงจะไม่ใช่องค์หญิงเจียโรวตัวจริง
องค์หญิงเจียโรวแสดงให้เห็นถึงการผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณ
ทันใดนั้นมังกรสีทองที่ดูมีความเฉลียวฉลาดและอำนาจ ก็ปรากฏตัวขึ้นแสดงถึงความสง่างามทรงพลังอันน่ากลัว ในขณะที่อีกเงาหนึ่งคือภูตดอกไม้ที่เบ่งบานไปด้วยพลังชีวิต
“ งั้นข้าก็คงต้องขัดใจท่านสักหน่อยแล้วล่ะ”
ดวงตาของหนิงฮัวฉายแสงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กลายเป็นสายฟ้าสีม่วงในพริบตา ท้องฟ้าและพื้นพิภพถูกบดบังไปในทันที
พลังวิญญาณอันน่ากลัวกำลังพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด ซึ่งทำให้หัวใจของผู้คนคลั่งไคล้อย่างหาที่เปรียบมิได้
ช่างเป็นพลังอันทรงพลังยิ่งนัก
หนิงฮัวแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? ฟ้าร้องและสายฟ้าอันรุนแรงทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกับตอนที่ลั่วอู๋ต่อสู้กับ เอ๋าเฉียนจุนก่อนหน้านี้
“ตูม”
ร่างกายของ องค์หญิงเจียโรว สั่นสะท้าน พลังวิญญาณมังกรทองสลายหายไปในทันที
ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว องค์หญิงเจียโรว ก็พ่ายแพ้
ด้านหลังของนางถูกสายฟ้าฟาดเป็นแผลใหญ่ บาดแผลนั้นรุนแรงมาก แม้แต่เนื้อไหม้เกรียมและเลือดก็หลั่งไหล
องค์หญิงเจียโรว กัดฟันของนางและพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
มันเป็นการโจมตีที่รุนแรง
เป็นการโจมตีที่ไม่คำนึงถึงตัวตนขององค์หญิงเจียโรวและคนอื่น ๆ
ทุกคนต่างตะลึง แม้ว่าองค์หญิงเจียโรวจะต่อสู้ไม่เก่ง แต่นางก็เป็นถึงอันดับที่ 15 ในรายชื่อเฉียนหลง นางจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วแบบนี้ได้อย่างไร
อันดับของ หนิงฮัว นั้นอยู่ด้านล่างของรายชื่อได้ยังไง?
ปากของ หนิงฮัว ยกขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อชิงอันดับรายชื่อ เขาใช้เวลาทั้งหมดไปในการฝึกซ้อม แม้ว่าลั่วอู๋จะได้อันดับหนึ่งในรายชื่ออันดับเฉียนหลง แต่เขาก็ไม่มีความสั่นไหวลังเลใด ๆ
เพราะเขาได้เรียนรู้ความจริงแล้ว
ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะกำหนดทุกสิ่งได้
ทำไมเขาถึงถูกหักขา และทำไมเขาถึงต้องขอโทษลั่วอู๋ นั่นก็เพราะเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากพอ ดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง
ตอนนี้เขาแข็งแกร่งมาก ถึงขั้นที่เขารู้สึกได้ว่าตนเองสามารถต่อสู้กับอัจฉริยะในตำนานอย่างเอ๋าเฉียนจุนได้
ไม่มีใครจะมาหักขาเขาได้อีก ไม่มี !!
หนิงฮัวมองไปที่องค์หญิงเจียโรวที่นอนอยู่บนพื้น หัวใจของเขาก็ส่งเสียงคำรามออกมา แต่สีหน้าของเขาก็ยังเฉยเมย
“องค์หญิงเจียโรว มากับข้าเถอะ” หนิงฮัวกล่าวอย่างสง่างามและอ่อนโยน