ไหปีศาจ - บทที่ 377 กลืนกินสายฟ้า
บทที่ 377 กลืนกินสายฟ้า
บทที่ 377
กลืนกินสายฟ้า
ณ เวทีการประลองศิลปะการต่อสู้ บรรยากาศรอบข้างนั้นเต็มไปด้วยความสง่างาม
หนิงฮัวลอยอยู่เหนือน่านฟ้า ปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้มพายุฝนฟ้าคะนอง ส่งเสียงฟ้าร้องดังสนั่นกึกก้องอย่างน่ากลัวตลอดเวลา ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา ดั่งภูเขาลูกใหญ่ที่กำลังลอยอยู่
องค์หญิงเจียโรวกับลั่วอู๋นั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก
หนิงฮัวคาดหวังว่าจะให้ลั่วอู๋ปรากฏตัวออกมา
“เจ้าคิดจะขัดขวางข้าเหรอ” เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดหยาบคายของลั่วอู๋ ดวงตาของหนิงฮัวก็หรี่ลง และเสียงของเขาก็แผ่วลง เหมือนกับว่ามีสายฟ้าผ่าลงมาบนศีรษะของเขา “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นคนของตระกูลลั่วก็ตาม แต่ถ้าเจ้าคิดจะเข้ามาขัดขวาง ตระกูลลั่วก็จะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ และมันอาจจะเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัวของเจ้าอีกด้วย ”
ลั่วอู๋หัวเราะ “ งั้นเหรอ เจ้าสามารถไปรายงานแก่องค์จักรพรรดิได้นะ เพื่อดูว่าเขาจะสังหารข้าไหม และมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลลั่วหรือไม่ ”
ผู้คนต่างรู้สึกมันงง ว่าทำไมลั่วอู๋ถึงดุไม่เกรงกลัวนัก
ใบหน้าของหนิงฮัวหม่นลง
เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายมาจากไหน
องค์หญิงเจียโรวกล่าวออกมาด้วยความอ่อนแรง “ เจ้ากำลังข่มขู่ผิดคนแล้ว บอกความจริงของเจ้ามา ถึงแม้ว่าท่านพ่อจะต้องทำลายตระกูลหนิงของเจ้า เขาก็จะไม่เคลื่อนไหวโดยต้องการรบกวนลั่วอู๋ก็ตาม”
ทุกคนต่างประหลาดใจ
ปฏิกิริยาแรกของพวกเขา คือการไม่เชื่อ
องค์จักรพรรดิบ้าหรือเปล่า? มาช่วยลั่วอู๋เติบโตขึ้นด้วยคำพูดแบบนี้เหรอ
ไม่มีใครรู้ว่า สิ่งที่องค์หญิงเจียโรวนั้นพูดเป็นความจริง
เว้นแต่ว่าลั่วอู๋จะก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่เช่นการทรยศหักหลัง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่องค์จักรพรรดิจะต้องจัดการเขา อย่างไรก็ตาม ลั่วอู๋ก็ยังจำเป็นต้องใช้ผลไม้ลึกลับเพื่อยับยั้งคำสาปอยู่ดี
หนิงฮัวจ้องมองไปที่ลั่วอู๋ และพูดอย่างเย็นชา “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีความมั่นใจมากแค่ไหน เจ้ากล้าขัดคำสั่งของท่านเจ้าสำนักงั้นหรือ?”
หนิงฮัวหยิบจดหมายที่เขียนโดยท่านเจ้าสำนักขึ้นมา
ผู้คนต่างไม่เชื่อว่าท่านเจ้่สำนักจะปรากฏตัวออกมาเพื่อสิ่งนี้ หลังจากที่เขาไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายปี
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่กล้าตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรออกไป ถ้าหากมันเป็นคำสั่งของท่านเจ้าสำนักจริง ๆ
ท่านควรรู้ว่าท่านเจ้าสำนักนั้นเป็นดั่งเทพพระเจ้า ที่สถิตอยู่ในใจของใครหลายๆ คน
ใครจะกล้าตั้งคำถามกับเทพพระเจ้ากัน?
แต่ลั่วอู๋กลับส่ายหัว “ตอนนี้ท่านเจ้าสำนักอยู่นอกเขต เขาจะเข้ามาดูแลเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ทำไมกัน? ถึงเจ้าจะไม่สามารถพบเจอกับท่านเจ้าสำนักได้ ข้าก็เชื่อว่าเจ้าทำงานให้กับท่านเจ้าสำนักอยู่”
ใบหน้าของหนิงฮัวดูมีแต่ความน่ากลัว
สิ่งที่เขาถืออยู่ในมือนั่นคือจดหมายของท่านเจ้าสำนัก แต่มันก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับองค์หญิงเจียโรวเลยสักนิด มันก็เป็นแค่ข้อความที่เขาเขียนขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการแค่นั้น
ผู้คนรอบตัวต่างตกใจ
เพราะลั่วอู่ไม่ได้เพียงแค่ถามถึงความถูกต้องของจดหมายส่วนตัวของหนิงฮัวเท่านั้น แต่เขายังสามารถบอกได้ว่า ท่านเจ้าสำนักนั้นอยู่นอกเขต
เขารู้ได้อย่างไรกัน?
ผู้คนต่างรู้ถึงสถานภาพของลั่วอู๋ที่อยู่ด้านบนสุดของรายชื่อเป็นอย่างดี
“เจ้าได้พบกับท่านเจ้าสำนักมาอย่างงั้นหรือ?” ใครบางคนถามขึ้นมาด้วยความสงสัยและระมัดระวัง
ลั่วอู่ครุ่นคิด “ใช่แล้ว ข้าได้ไปพบเขามา”
ทันใดนั้น ผู้คนต่างก้มองไปที่ลั่วอู๋ด้วยความอิจฉา
ท่านควรรู้ว่ามีผู้ฝึกสอนหลายคนที่ได้เข้ามาร่วมสำนักเฉียนหลงมากกว่าหลายสิบปี แต่พวกเขานั้นยังไม่เคยได้พบกับท่านเจ้าสำนักเลยสักครั้งเดียว
มันถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบท่านเจ้าสำนัก
หนิงฮัวแทนที่จะกัดฟันแล้วหันหน้าไปทางลั่วอู๋ เขากลับไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ และตะโกนออกมา “พูดไปมากกว่านี้มันก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว ถ้าเจ้าต้องการจะขัดขวางละก็ เจ้ามีทักษะเช่นนี้ไหม?”
เขาใช้งานทักษะ ระดับ S [กลองศึกสายฟ้า] อีกครั้งหนึ่ง
เสียงของสายฟ้ากับกลองสงคราม ดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า
สายฟ้าสีม่วงอันน่ากลัวพุ่งตรงลงมา และเป้าหมายของมันก็คือลั่วอู่ ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยสายฟ้านับไม่ถ้วน และบรรยากาศแห่งการทำลายล้างได้แพร่กระจายออกไ
ทักษะสายฟ้านี้ ถือเป็นหนึ่งในทักษะที่น่ากลัวที่สุดของพลังแห่งการระเบิด
ลั่วอู่มองไปที่สายฟ้าทั่วท้องฟ้านั้น และพูดอย่างเบา ๆ ว่า “ต้าหวงกลืนมันซะ”
เกิดแสงสลัวๆ ในชั่วพริบตาเดียวในดวงตาของต้าหวง จากนั้นมันก็อ้าปาก และกลืนกินพลังอันน่ากลัวบนท้องฟ้าจนหมด หลังจากที่สายฟ้าได้หายไป ต้าหวงก็อดไม่ได้ที่จะเดินส่ายไปมา
ต้าหวงเลียที่ริมฝีปากของมัน ดูเหมือนกับว่ามันอิ่มมากพอแล้ว
ลั่วอู๋หัวเราะ “ต้าหวงบอกว่ามันรสชาติดีมาก”
ผู้คนต่างมองไปที่สุนัขยักษ์ของลั่วอู๋ ราวกับว่าพวกเขากำลังเห็นวิญญาณร้าย นั่นมันสัตว์วิญญาณอะไรกัน? ทำไมมันถึงได้กลืนสายฟ้าลงไปได้
ลั่วอู๋ก็ยังไม่ได้ทำอะไรต่อไป
“นี่เจ้ากำลังดูถูกข้าเหรอ”
ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น “นั่นคือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดงั้นหรือ”
“ถ้างั้นข้าจะแสดงพลังที่แท้จริงให้เจ้าได้ดูเป็นขวัญตาเอง!” หนิงฮัวเกิดอาการคลั่ง ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าอันน่ากลัว ลมหายใจของเขาก็พุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน
เล่กุย สัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงที่ยากจะควบคุม
ใบหน้าของหนิงฮัวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ด้วยพลังที่แข็งแกร่งเกินไป ทำให้เขายากที่จะควบคุมมัน พลังวิญญาณของเขาอ่อนลงและหายไปด้วยความเจ็บปวด
หนิงหัวยื่นมือออกไปข้างหน้า ร่างกายของเขาดูเหมือนกำลังจะกลายเป็นสายฟ้า เขาจับสายฟ้าด้วยมือของเขาไว้ราวกับว่าเป็นของเล่น สายฟ้านั้นส่องสว่างจ้าจนแทบจะหาที่เปรียบมิได้
ผู้คนต่างตกใจกับสิ่งที่หนิงฮัวกำลังทำ
มันช่างน่ากลัวมาก พลังของหนิงฮัว ณ ตอนนี้เรียกได้ว่าได้เข้าไปเหนือกว่ามิติวิญญาณระดับทองคำแล้ว
ลั่วอู๋กล่าวว่า “เจ้าควรที่จะยกเลิกการเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์กับสัตว์วิญญาณ และปล่อยให้เล่กุยเข้ามาต่อสู้กับข้าแทนนะ เพราะพลังวิญญาณของมิติเจ้ามันถึงขีดจำกัดแล้ว”
“มันไม่ใช่ธุระของเจ้าสักหน่อย” หนิงฮัวคำราม “วันนี้ ข้าจะต้องพาองค์หญิงเจียโรวกลับไป ไม่มีใครหยุดข้าได้หรอก จะเป็นเจ้าหรือแม้แต่เอ๋าเฉียนจุน ก็ทำไม่ได้เช่นกัน”
ผู้คนที่มองอยู่นั้นทุกคนต่างเห็นได้ว่า หนิงฮัวต้องการที่จะพาองค์หญิงเจียโรวกลับไป เขาแค่ต้องการพิสูจน์ว่าไม่มีใครหยุดเขาได้
ลั่วอู๋รู้สึกได้ถึงพลังของอีกฝ่าย และเขาก็ได้ถอนหายใจออกมา
เล่กุยนั้นได้รับการปรับแต่งโดยเขา
ลั่วอู๋ยังคงประหลาดใจว่าทำไมมันถึงเลื่อนขั้นไปสู่ระดับทองขั้นสูงได้รวดเร็วขนาดนี้ มันเป็นปัญหาจากการที่เขาได้ทำการล้างคุณสมบัติงั้นหรือ?
แต่กลับน่าเสียดาย ที่หนิงฮัวนั้นไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ เขายังคงหยิ่งผยอง และไม่ยอมที่จะยกเลิกการเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์กับสัตว์วิญญาณ
“สายฟ้าผ่าพิภพ!” หนิงฮัวคำรามออกมา ราวกับว่าเขานั้นคือราชาที่ควบคุมสายฟ้าได้ สายฟ้าได้แผ่กระจายออกไปราวกับใยแมงมุมจนปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ราวกับว่าการลงโทษจากสวรรค์กำลังใกล้เข้ามา
ทักษะ ระดับ SS [สายฟ้าผ่าพิภพ]
ทักษะนี้มันแทบจะเป็นหนึ่งในทักษะระเบิดที่ทรงพลังที่สุด
“เจ้าไม่อวดดีแล้วงั้นเหรอ? เจ้ามีความสามารถที่จะทำอะไรอีกล่ะ” หนิงฮัวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงของเขาดังเหมือนกับฟ้าร้อง ส่งผลให้เกิดแรงดันวิญญาณในอากาศอันเบาบาง
ผู้คนจำนวนมากต่างแตกตื่นกระจัดกระจายกันออกไป
พวกเขาไม่ต้องการที่จะโดนลูกหลง พลังนั้นมันรุนแรงเกินไป มันเป็นพลังแห่งการทำลายล้างที่น่าเหลือเชื่อมาก
องค์หญิงเจียโรวตื่นตระหนก “ลั่วอู๋ เจ้ารีบไปได้แล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องรับมือหรอก ข้าแค่ต้องกลับไปยังพระราชวังก็เพียงพอแล้ว มันก็คงจะดีกว่าที่จะต้องหลบหนีออกมาอีกครั้ง”
นางรู้สึกตกใจถึงพลังที่อยู่ตรงหน้า
ลั่วอู๋ส่ายหัวและเงยหน้าขึ้นมองสายฟ้าที่หนาแน่นทั่วท้องฟ้า
ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกของเอ๋าเฉียนจุนแล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามมีน้อยเกินไป และดันเป็นคนโง่ที่ช่างอวดดีซะเหลือเกิน
มันสมบูรณ์ไปกว่า 20 เปอรเซ็นต์แล้ว
แม้ว่ามันจะมีแรงดันวิญญาณหนาแน่น แต่มันก็คือข้อดีของคุณสมบัตินี้ แต่พลังนั่นก็ไม่ได้ทรงพลังใกล้เคียงกับเทพเพลิงของฉูจงฉวนเลยสักนิด แถมยังกล้าอวดอ้างว่าอยู่ในระดับมิติที่ไม่สามารถเอาชนะได้งั้นเหรอ?
“เอาล่ะ มันยุ่งยากเหลือเกิน” ลั่วอู๋ยกมือขึ้น
ต้าหวงถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวทั่วร่างกาย ลมหายใจของลั่วอู๋ก็เริ่มปะทุขึ้น ดวงตาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความมืด
ทักษะ ระดับ SS [กลืนกิน]
สั่งใช้งาน
เท่าที่ข้ามองเห็น ดูเหมือนว่าเส้นขอบฟ้านั้นกำลังถูกฉีกขาดด้วยแรงบางอย่าง ท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้ากำลังหลอมรวมกันคล้ายกับภูเขาที่กำลังถูกฉีกขาด และค่อยๆ ตกลงมา
สุนัขทมิฬสีเงินกำลังอ้าปากอย่างช้า ๆ
พื้นที่ทั่วท้องฟ้าได้ถูกกลืนหายไปจนหมด
เหลือแต่เพียงความว่างเปล่าอันกว้างขวาง
ไม่มีแม้แต่ลำแสงของสายฟ้าอันน่ากลัว