ไหปีศาจ - บทที่ 414 เหล่าอาจารย์
บทที่ 414 เหล่าอาจารย์
บทที่ 414
เหล่าอาจารย์
เหล่าวัยรุ่นได้เข้ามาสู่มิติไห
ในช่วงแรกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสภาพแวดล้อม พวกเขาจึงตื่นตัวและงงงวยอยู่ แต่เมื่อผ่านไปสักพักพวกเขาก็ได้มองตรงไปยังทิวทัศน์ตรงหน้าพร้อม ๆ กัน
เบื้องหน้าพวกเขาในตอนนี้นั้นมียอดเขาขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆ มีต้นไม้โบราณอันสูงตระหง่านที่แผ่กิ่งก้านใหญ่โตแข็งแรงราวกับร่างของมังกร และสัตว์วิญญาณต่าง ๆ นานาวิ่งผ่านป่า หายตัวไปมาอย่างไร้ร่องรอย
กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิลอยมาพร้อมกับแม่น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังวิญญาณอันหนาแน่น
มีนกบินผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหลากสี ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยนกวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินไปมา ด้วยอากาศที่งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้
ในขณะที่พื้นดินอีกด้านหนึ่งมีกองทัพพลทหารผียืนตระหง่าน
บริเวณใกล้เคียงนั้นมีพระราชวังขนาดใหญ่ บรรยากาศงดงามโอ่อ่า ประกอบไปด้วยเจดีย์สีขาวสูงตั้งตระหง่านและวิหาร ซึ่งเต็มไปด้วยพลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในที่โล่งกว้าง
“ที่นี่มันที่ไหนกัน ?” เหล่าวัยรุ่นต่างพากันสับสน
ที่นี่มันแดนสวรรค์อย่างนั้นเหรอ?
แม้แต่ไร้หน้าก็ยังตกใจจนพูดไม่ออก
“ยินดีต้อนรับสู่มิติไห” ลั่วอู๋กล่าว “ที่นี่คือโลกใบเล็กที่เป็นมิติของข้า จากนี้ไปมันจะเป็นฐานทัพของพวกเจ้า”
ไร้หน้าหายใจลึก ๆ เขาผ่านอะไรมามาก โดยธรรมชาติแล้วเขาจึงรู้ว่าโลกใบเล็กที่ลั่วอู๋พูดถึงนั้นหมายถึงอะไร
“ ที่นี่ปลอดภัยมาก แต่ก็สถานที่ลับสุดยอดของข้าด้วยเช่นกัน โดยพวกเจ้าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อจากนี้” ลั่วอู๋ พูดอย่างช้าๆ “ผลในการฝึกฝนที่นี่นั้นยอดเยี่ยมมาก และข้าจะสามารถติดต่อพวกเจ้าได้ตลอดเวลา มันจะทำให้ข้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเจ้า”
เหล่าวัยรุ่นมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น
พวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน จึงรู้ดีว่าสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังวิญญาณนี้มีค่ามากเพียงใด พลังวิญญาณของที่นี่แข็งแกร่งกว่าโลกภายนอกอย่างน้อยสองหรือสามเท่าเลยทีเดียว
ทันใดนั้นกู่ฉวนก็ลุกขึ้นยืนแล้วถามด้วยเสียงต่ำ “พวกเราจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดเวลาเลยหรือไม่?”
เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม และก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีที่สุดเกี่ยวกับไร้หน้า
ว่ากันว่าเขามีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าเขาจะไม่มีแขนข้างหนึ่ง แต่เขาก็สามารถคิดหาวิธีการต่อสู้ของตัวเองได้
“แม้พวกเจ้าจะไม่สามารถออกจากโลกนี้ได้ แต่ที่นี่ก็เป็นมากกว่าพื้นที่เล็ก ๆ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับให้พวกเจ้าได้มีกิจกรรมที่หลากหลาย พวกเจ้าสามารถบอกข้าได้ทุกอย่างที่ต้องการ และข้าจะจัดหาคนไปดูแลครอบครัวของพวกเจ้าด้วยเช่นกัน ”
“เข้าใจแล้ว” กู่ฉวนยังคงกระตือรือร้นที่จะพูด แต่เขาก็ก้มศีรษะลง
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ย่อมมีความสุขมากเมื่อได้รับโอกาสนี้
ท้ายที่สุดแล้ว แดนสวรรค์แห่งนี้ แม้จะเป็นสถานที่ฝึกฝน แต่ก็เป็นวัง ที่มีทั้งคฤหาสน์ให้อาศัยอยู่ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายบริสุทธิ์ทำให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ
มันดีกว่าที่เก่ามาก
“ ต่อไปนี้ ข้าจะหาอาจารย์ มาให้พวกเจ้าได้เรียนรู้จากพวกเขาเป็นเวลาหนึ่งเดือน ส่วนพวกเจ้าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากอาจารย์เหล่านั้นไหม ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเจ้าเอง” ลั่วอู๋พูดอย่างกะทันหัน
“ อาจารย์แบบไหนกันขอรับ ?” วัยรุ่นคนหนึ่งถาม
“ แน่นอนว่าเป็นอาจารย์ผู้ใช้พลังวิญญาณ”
“เขาแข็งแกร่งมากเหรอขอรับ?” วัยรุ่นชายอีกคนถามอย่างระมัดระวัง
“ยิ่งกว่าอาจารย์ของพวกเจ้า และข้าเสียอีก”
เหล่าวัยรุ่นต่างตกใจ
สำหรับพวกเขาอาจารย์อย่างไร้หน้านั้นก็ถือว่าแข็งแกร่งมากแล้ว
เขาจะเชิญกลุ่มบุคคลที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดที่ว่ามาได้ยังไงกัน?
ลั่วอู๋ออกจากมิติไห แล้วไปที่หุบเขามรณะโดยเร็วที่สุด ตอนนี้พิกัดภายในใจกลางหุบเขามรณะไม่ได้เป็นความลับต่อเขาอีกแล้ว
เขาสามารถค้นหากองกำลังที่มีความแข็งแกร่งได้ที่นี่
ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็เข้าไปถึงใจกลางหุบเขามรณะ
เขาตรงเข้าไปในใจกลางหุบเขามรณะอย่างรวดเร็วแล้วพาเหล่าวัยรุ่นออกมาจากมิติไห
เมื่อพวกวัยรุ่นปรากฏตัวพวกเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว พวกเราสั่นราวกับเป็นจักจั่น สถานที่นี้มีบรรยากาศอันมืดมนอยู่รอบ ๆ ทำให้พวกเขาปรับตัวได้ยาก
“นายน้อย พวกเราอยู่ที่ไหนกันเหรอขอรับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งถาม
ลั่วอู๋หัวเราะแปลก ๆ “หุบเขามรณะ”
กลุ่มวัยรุ่นต่างตกใจ
พวกเขาเคยได้ยินชื่อของหุบเขามรณะ ว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในอาณาจักร ว่ากันว่าที่นี่มีสัตว์ประหลาดอันน่ากลัวอยู่มากมาย และแทบไม่มีใครสามารถกลับออกมาได้
นายน้อยต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เขาพาพวกเรามาที่นี่ได้ยังไงกัน?
ไร้หน้าดูตื่นตกใจพลางถามด้วยเสียงต่ำ “นายท่านพาพวกเรามาที่นี่ทำไมขอรับ ด้วยพละกำลังของพวกเราในตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้ามาท้าทายหุบเขามรณะ”
เขาคิดว่าลั่วอู๋เรียกพวกเขาออกมาเพื่อจัดการกับเหล่าสัตว์ประหลาดในหุบเขามรณะ
“ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพาพวกเจ้ามาที่หุบเขามรณะหรอกนะ” ลั่วอู๋ยิ้มอย่างมีเลศนัย
จากนั้นลั่วอู๋มองไปที่วิหารอันมืดมิดในระยะไกลแล้วตะโกน “ออกมา หยุดวิจัยกันได้แล้ว ข้ามีอะไรจะคุยกับพวกเจ้า”
ดูเหมือนว่าเหล่าสัตว์ประหลาดจะได้ยินเสียงเรียกของลั่วอู๋ ทันใดนั้นเหล่าสัตว์ประหลาดก็หลั่งไหลออกมาจากวิหาร พวกเขามีจำนวนมากกว่าหนึ่งโหล สวมชุดดำและมีอารมณ์เดียวกันคือมืดมนหงุดหงิด
พวกเขาต่างลอยออกมาหาลั่วอู๋ ทำให้เสื้อคลุมสีดำก็ลอยขึ้นมาจากพื้น เผยให้เห็นร่างกระดูกภายใต้ผ้าคลุม
นี่ทำให้ชายหนุ่มบางคนตัวสั่นด้วยความกลัว
สถานการณ์นี้มันค่อนข้างน่ากลัว
ลั่วอู๋ไม่ได้สนใจอารมณ์ของพวกเขา เพราะนี่เป็นการดีที่จะปล่อยให้พวกเขาได้ตกใจบ้าง เพื่อพัฒนาความอดทนทางด้านจิตใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับการต่อสู้จริง พวกเขายังเด็กเกินไปอยู่
“หึ หึ หึ เนื้อและเลือด สด ๆ อร่อย ๆ มามากมายขนาดนี้เลยเหรอ”
“พวกเรากำลังต้องการวัตถุดิบใหม่สำหรับการวิจัยของเราพอดี”
“อวัยวะที่อ่อนเยาว์ และกระฉับกระเฉงเหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างศพมรณะระดับต่ำ” เหล่าประหลาดต่างส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา
กลุ่มวัยรุ่นมองไปที่ลั่วอู๋ ด้วยความหวาดกลัว
ไม่จริงน่า นายน้อยนำพวกเขามาที่นี่เพื่อเลี้ยงเหล่าสัตว์ประหลาดพวกนี้อย่างนั้นเหรอ ?
โอ้พระเจ้าโปรดช่วยพวกข้าด้วย
ลั่วอู๋กลอกตาสีขาวพลางกลืนน้ำลาย “คุยกับข้าตามปกติที่ คนเหล่าเป็นคนสนิทของข้า ถ้าพวกเจ้าทำอะไรพวกเขาพวกเจ้าจะต้องชดใช้ให้ข้าแน่”
“โอ้” เหล่าสัตว์ประหลาดมากกว่าสิบคนต่างยอมทำตัวตามปกติ
เมื่อได้ยินเช่นนี้เหล่าวัยรุ่นก็โล่งใจ
ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วสินะ
“แล้วเจ้าเรียกพวกเราออกมาเพื่ออะไร?” เหล่าสัตว์ประหลาดถาม
ลั่วอู๋ตอบ “ข้าอยากจะมอบหมายให้พวกเจ้าช่วยฝึกฝนเด็ก ๆ เหล่านี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน สอนพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ไม่มีทาง ทำไมพวกเราต้องทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้ด้วยล่ะ” พวกเขาหยิ่งผยองมากเกินไปจนไม่เต็มใจที่จะทำตามที่ลั่วอู๋บอก พวกเขาอยากจะวิจัยศพมรณะต่อมากกว่า
ลั่วอู๋พูดอย่างเย็นชา “อืม ไม่หรอก มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย”
เหล่าสัตว์ประหลาดเริ่มนึกได้
เนื่องจากพวกเขาได้สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อลั่วอู๋ หากพวกเขาขัดขืนคำสั่งของลั่วอู๋ แก่นวิญญาณของพวกเขาจะต้องติดอยู่ในความว่างเปล่าตลอดไป
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น พวกเราพร้อมทำด้วยความยินดี” เหล่าสัตว์ประหลาดพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
นี่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นตะลึง
ทำไมเหล่าสัตว์ประหลาดถึงไม่กล้าต่อต้านนายน้อยของพวกเขา
แต่เดี๋ยวก่อน สัตว์ประหลาดกลุ่มนี้คืออาจารย์ของพวกเขาอย่างนั้นเหรอ? ไม่จริงน่า?
วัยรุ่นอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายด้วยความกลัว เดือนหน้าทั้งเดือนพวกเขาอาจจะต้องอยู่กับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อศึกษาฝึกฝนกับพวกเขา
เหล่าสัตว์ประหลาดดูเหมือนจะมองออกถึงความคิดของกลุ่มวัยรุ่น พวกเขาจึงยิ้มออกมาอย่างแปลก ๆ “เจ้าพวกขยะ แค่กลุ่มเล็กอย่างพวกข้าก็กลัวซะแล้ว รู้ไหมว่า ยังมีสัตว์ประหลาดอย่างพวกข้าอย่างน้อยเกือบ 500 คนอยู่ในห้องโถงด้านใน”
วัยรุ่นต่างหวาดกลัวจนพากันเป็นลมหมดสติ
500?
“หึ หึ พวกมันจิตใจอ่อนแอเกินไป พวกข้าต้องฝึกฝนพวกมันให้ดีจริงๆแล้วอย่างนี้” สัตว์ประหลาดหัวเราะออกมาเหมือนกับเสียงหอนของผี
“พวกเจ้าจงอยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วเดี๋ยวข้าจะกลับมารับพวกเจ้าในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง คว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี เหล่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรมาก่อน” ลั่วอู๋กล่าวพลางมองไปที่เหล่าเด็กชาย
วัยรุ่นน้อยทุกคนต่างหมดความคิดไปในทันที
เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งได้ไปอยู่บนสวรรค์ แต่จู่ ๆ ก็กลับต้องมาตกนรกได้อย่างไรกัน
“ข้าขอเตือนพวกเจ้าว่าอย่าได้คิดทำร้ายเด็กพวกนี้เชียว” ลั่วอู๋พูดกับเหล่าสัตว์ประหลาดอย่างเคร่งขรึม
“ได้เลย รับทราบ ”
กลุ่มเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ในขณะที่เหล่าสัตว์ประหลาดในหุบเขามรณะนั้นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง พวกเขาทั้งหมดต่างเริ่มด้วยพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน ถึงแม้ว่าจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังมีอยู่หลายอย่างที่เหมือนกัน
ระดับมิติวิญญาณของเหล่าสัตว์ประหลาดนั้นสูงมาก มันจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่พวกเขาจะแสดงหนทางในการฝึกฝนวิชาให้กับคนหนุ่มสาวเหล่านี้
นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับกลุ่มวัยรุ่น
เหล่าสัตว์ประหลาดมองไปที่ไร้หน้า “แล้วเขาล่ะ เจ้าอยากให้เขาอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ ? ดูเหมือนว่าเขาจะหน่วยก้านค่อนข้างดีเลย พวกเราเอาเขาไปวิจัยได้ไหม ? ไม่สิ เขาเป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับการฝึกฝนได้เลย”
ไร้หน้าเข้าสู่สภาพตื่นตัวในทันที
“ ไม่ ๆ พวกเจ้าเทียบกับอาจารย์ของเขาไม่ได้หรอก” ลั่วอู๋กล่าวเบา ๆ
เหล่าสัตว์ประหลาดบางคนไม่ค่อยเชื่อคำพูดนี้ “ล้อพวกข้าเล่นรึไง เจ้าอย่ามาดูถูกพวกเราน่า”
“ผู้หญิงที่เอาชนะพวกเจ้าได้ในครั้งที่แล้ว ในตอนที่ข้ามาที่นี่คือผู้บัญชาการหลิงหลง นางเป็นผู้บัญชาการคนปัจจุบันของหน่วยสยบมังกร ส่วนชายผู้สวมหน้ากากคนนี้ เขาเป็นผู้ที่ได้รับวิชามาจากผู้บัญชาการคนก่อนของหน่วยสยบมังกร”
เหล่าสัตว์ประหลาดต่างหดคอ
พวกเขาแก่เกินไป และควรที่จะลืม ๆ ความคิดเกี่ยวกับการวิจัยไปก่อนดีกว่า เพราะถ้าพลาดล่ะก็พวกเขาคงไม่สามารถชดใช้ได้แน่ ๆ