ไหปีศาจ - บทที่ 418 ศัตรูที่ไม่อาจต้านทานได้
บทที่ 418 ศัตรูที่ไม่อาจต้านทานได้
บทที่ 418
ศัตรูที่ไม่อาจต้านทานได้
การต่อสู้จบลงในพริบตา เหลือเพียงแต่ศพตายเกลื่อน
ศพบางศพนั้นน่าสังเวช ส่วนที่อ่อนไหวบางส่วนไม่เหมาะกับการโจมตี พวกเขาสะดุ้งและเหงื่อออก
ในตอนแรกอาจารย์ไร้หน้าได้สอน “หักกระดูกวิญญาณ” และใช้แนวการลอบสังหารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา ต่อมาเขาเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้เพื่อฝึกฝนทักษะที่หลงเซี่ยมอบให้และเขาไม่ได้ใช้กระบวนท่าที่น่ากลัวแบบนี้
ดังนั้นกระบวนท่าหยินเหล่านี้จึงไม่ได้รับการสอนโดยอาจารย์ไร้หน้า แต่สอนโดยคนแปลก ๆ ในหุบเขามรณะ
สุดท้ายแล้วจิตใจของพวกเขาก็ยากเกินจะทำตามเกินไป
เหล่าวัยรุ่นดูตื่นเต้น แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ฆ่าคน แต่ก็แทบจะไม่รู้สึกถึงความหนักใจใด ๆ นั่นก็เพราะอาจารย์ไร้หน้าเคยพาพวกเขาไปล่าสัตว์มาก่อน
และหลังจากใช้เวลามากมายในหุบเขามรณะพวกเขาก็ทนต่อฉากนองเลือดนี้ได้ดี
เฉินเสี่ยวฟูกล่าวอย่างตื่นเต้น “แต่เดิมเราก็แข็งแกร่งมาก”
ตัวต่อตัวก็ฆ่าทหารชั้นยอดที่จำนวนเท่ากันได้ ถือว่าออกมาดีตามที่ควรเป็น
“อย่าได้ประมาท มันเป็นแค่หน่วยลาดตระเวนไม่ใช่ทหารที่เก่งที่สุด” กู่ฉวนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม แต่ดูเหมือนเขานิ่งมาก
ไม่น่าแปลกใจที่อาจารย์ไร้หน้าประเมินเขาไว้สูงมาก
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างสงสัยว่า “ศิษย์พี่ ศัตรูของพี่คือกองทัพหรือเปล่า? แล้วคำว่า”กับดัก”บนชุดเกราะของกองทัพมีความหมายว่าอะไร?”
“มันเป็นแค่รหัสชื่อสำหรับกองทัพน่ะ” กู่ฉวนไม่สนใจที่จะพูด
ตามที่คาดไว้ ลูกวัวแรกเกิดมักจะไม่กลัวเสือ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับกองทัพพวกเขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรเลย
“เอาล่ะ เราไปแก้แค้นให้พี่ชายกู่ฉวนก่อนจะกลับกันเถอะ” วัยรุ่นฮึกเหิม
กู่ฉวนรู้สึกประทับใจ “ขอบคุณมาก”
“ด้วยความยินดีเลย”
คนวัยรุ่นตบหน้าอกแสดงความภักดี
ทั้งกลุ่มยังคงออกเดินทาง ยิ่งพวกเขาเข้าไปในแหล่งมรดกทหารโบราณลึกมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งเจอหน่วยลาดตระเวนมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาสังหารหน่วยลาดตระเวนหลายกลุ่มติดต่อกัน
ยิ่งเข้าไปพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกยากขึ้น
เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่หน่วยลาดตระเวนเท่านั้นที่เจอ
เห็นได้ชัดว่ากองทัพเริ่มดำเนินการตามล่าพวกเขา
และไม่ต้องบอก มีคำว่า “กับดัก” บนชุดเกราะของกองกำลังเหล่านี้เป็นปกติ
บางส่วนของกลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ กองทัพไม่ได้จัดการกันง่าย แต่โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่มีใครตาย
“ไปหาสมุนไพรรักษามาหน่อย”
“ทหารพวกนั้นมียารักษาระดับสอง”
“ให้ตาย พวกเราน่าสงสารซะจริง ยากรักษาที่ใช้กันปกติอย่างน้อยก็ระดับสี่เลยนะ”
“ไร้สาระน่า ระดับสองก็ดีแล้ว คิดว่าทุกคนมีถูกรักษาแบบเรารึไง? ราคาตลาดของยารักษาระดับสี่คืออย่างน้อย 50 หินวิญญาณนะ”
“แพงชะมัด” ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้
ห้าสิบหินวิญญาณนั้นเพียงพอที่ทำให้ครอบครัวพวกเขามีกินไปเป็นเดือน ไม่คิดเลยว่าสำหรับพวกเขาตอนนี้มันเป็นแค่ยาสามัญประจำบ้าน
ทั้งหมดนี้ก็เพราะสำนักโล่พิทักษ์
“ศิษย์พี่ พวกเราต้องจงรักภักดีต่อนายน้อยหลังจากพวกเรากลับไป” มีหนุ่มพูดอย่างไม่สบายใจ
กู่ฉวนตอบด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน จะบอกว่าข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการหลบหนีครั้งนี้ก็แล้วแต่เจ้า เมื่อข้ากลับไปข้าจะขอร้องกับนายน้อยและอาจารย์เอง”
พวกวัยรุ่นรู้สึกโล่งใจ พวกเขาเต็มใจที่จะติดตามเขามาเพราะเขานั้นพึ่งพาได้
ในตอนนี้เองเสียงหัวเราะที่ดุร้ายก็ดังขึ้น “กลับไป? แกไม่ได้กลับไปหรอก”
กลุ่มวัยรุ่นตกใจ
มันดังมาจากทีมเล็ก ๆ ในป่าลึก
ทั้งหมดมีเพียงสามสิบเอ็ดคน แม้ว่าจะมีคำว่า “กับดัก” อยู่บนชุดเกราะ แต่การแต่งตัวก็แตกต่างกับของหน่วยลาดตระเวนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหนักและละเอียดอ่อนกว่า
ยิ่งกว่านั้นสีหน้าของคนทั้งสามสิบเอ็ดคนนั้นเย็นชา ลมหายใจที่เยือกเย็น พลังฉีและเลือดของพวกเขาเดือดพล่านราวกับว่าพวกเขาเป็นสัตว์ร้าย
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทหารธรรมดา
ตรงหน้าสุดมีชายร่างใหญ่ไว้เครายาว ลมหายใจของเขาเหมือนกับภูเขาที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ปากของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเยาะเย้ย “นั่นคือกลุ่มผีน้อยที่กำลังโจมตีและฆ่าทหารของข้าหรือ?”
บุคคลนี้มีชื่อว่า หวังเฉิงฮ่วยรองแม่ทัพของค่ายกักขัง เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นที่ 7
พวกวัยรุ่นถามเสียงต่ำ “ศิษย์พี่ เขาเป็นศัตรูของพี่หรือเปล่า?”
“ไม่ เขาเป็นแค่คนปากดีเท่านั้น” กู่ฉวนขบฟัน
หวังเฉิงฮ่วยโกรธมาก “อยากตายมากนักสินะ ถึงบุกเข้ามาในพื้นที่นี้ และฟังจากหน่วยข่าวกรองของกองทัพแล้ว พวกมันได้รับโทษประหารชีวิต เอาล่ะไปจัดการพวกมันซะ”
ตามคำสั่งเขา ทหารสามสิบคนพุ่งไปข้างหน้าเหมือนเสือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างน้อยก็อยู่ในระดับเงินขั้น 10
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่ใช่แค่ได้รับการฝึกฝนทางจิตวิญญาณเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณอีกด้วย
พวกวัยรุ่นก็สู้กลับ
สถานการณ์เป็นไปอย่างยุ่งเหยิง
กลุ่มวัยรุ่นไม่กล้าดูหมิ่นการโจมตีของทหารทั้งสามสิบคนที่เป็นศัตรู พวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง
“แกก็เป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณด้วยหรือ? ด้วยอายุแค่นี้เนี่ยนะ? แข็งแกร่งกว่าระดับเงินกันทุกคน” หวังเฉิงฮ่วยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เมื่อเห็นทหารกว่าสิบเจ้าเสียเปรียบ หวังเฉิงฮ่วยก็แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว “งั้นให้ข้าเป็นคนจัดการแกเอง”
หวังเฉิงฮ่วยคำรามและแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งของร่างกายและจิตวิญญาณ
ลิง สิงโต และเสือ ทั้งสามเงาเสมือนจริงปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ สัตว์วิญญาณของเขาเป็นประเภทพลังทั้งหมด แต่ไม่มีสัตว์วิญญาณที่มีศักยภาพระดับทองขั้นสูง
สำหรับคนธรรมดา ยากมากที่จะถูกสัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงยอมรับ
สัตว์วิญญาณระดับเงินและทองจึงค่อนข้างเป็นทางเลือกที่ดี
ออร่าที่ทรงพลังของสัตว์วิญญาณระดับทองทำให้กลุ่มวัยรุ่นหายใจไม่ออกในทันที พวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าจะได้พบกับคู่ต่อสู้เช่นนี้
ท่าทีของกลุ่มวัยรุ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทหารทั้งสามสิบเจ้าก็ใช้วิธีการต่อสู้ของกองทัพ พวกเขาโจมตีและฆ่าพวกเขาและสถานการณ์ต่อสู้ก็พลิกผันทันที
วัยรุ่นสี่สิบแปดคนถูกปราบ
“แกคือผู้นำสินะ อย่างมากแกก็เป็นแค่ระดับทอง แกกล้าที่จะบุกเข้ามาในดินแดนแห่งศิลปะการต่อสู้โบราณเพื่อรนหาที่ตายงั้นหรือ?” หวังเฉิงฮ่วยมองไปที่กู่ฉวน
กู่ฉวนตอบกลับอย่างโมโห “นี่คือบ้านของข้า แกต่างหากที่เป็นผู้บุกรุก ยังจะมีหน้ามาพูดจาเช่นนี้”
“บ้านของแก?” หวังเฉิงฮ่วยเห็นแขนซ้ายที่ว่างเปล่าของ กู่ฉวนและดวงตาของเขาเก็ฉายแววดุร้าย “แกเป็นเด็กที่หนีไปได้เมื่อสามปีก่อนหรือ? แกยังไม่ตาย”
“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง” กู่ฉวนถูกความเกลียดชังบังตา และถึงกับรีบลงมือเกินไป
หวังเฉิงฮ่วยหัวเราะ “ดี เข้ามาเลย จะสงเคราะห์ความตายให้แกเอง”
ทั้งสองคนเข้าปะทะกัน
ลมหายใจที่รุนแรงปะทะกันจนอากาศเป็นคลื่น การเคลื่อนไหวทั้งสองนั้นดุร้ายมากและมุ่งเป้าไปที่การปลิดชีพอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม หวังเฉิงฮ่วยก็คุ้นเคยกับการต่อสู้ในสนามรบมากกว่า รูปแบบการต่อสู้ของเขาเปิดและปิดได้อย่างอิสระ ทว่าการเคลื่อนไหวของ กู่ฉวน นั้นร้ายกาจกว่า
“ฮึ่ม แค่เรียนรู้กระบวนท่าที่น่ากลัวมานิดหน่อย ก็กล้าที่จะกลับมาแก้แค้นแล้วรึ?” หวังเฉิงฮ่วยหัวเราะ
ทักษะระดับ A [กรงเล็บเสือโคร่ง]
เขาเคยอาศัยแค่ความแข็งแกร่งของความเป็นหนึ่งของร่างกายและจิตวิญญาณในการต่อสู้ แต่ในที่สุดเขาก็แสดงทักษะของเขาออกมา
มือของเขากลายเป็นกรงเล็บของเสือและพละกำลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้นโจมตีหมายเอาตาย
“ฮึ่ม”
กู่ฉวนตะคอกและกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตรก่อนจะยืนนิ่ง
หลังจากการฝึกในหุบเขามรณะเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน กู่ฉวนก็ไต่ไประดับทองสำเร็จ เดิมทีเขาคิดว่าเขามีพละกำลังเพียงพอที่จะแก้แค้น แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเอาชนะรองแม่ทัพไม่ได้
เมื่อตอนที่เขาหนีออกมา เขายังเด็กและไม่รู้ว่าคนที่บุกเข้ามาฆ่าครอบครัวของเขาอย่างไร้ความปรานีนั้นมีพลังระดับไหน
ในความคิดของเขาระดับทองนั้นก็สูงมากแล้ว
เขายังอ่อนแอเกินไป
กู่ฉวนมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง สหายของเขาบางคนไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ ภายใต้การโจมตีของทหารเหล่านั้นพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถทนไว้ได้
สมองของเขาว่างเปล่า
ข้านี่มันอ่อนหัดจริง ๆ
พันธมิตรทั้งหมดนี้แข็งแกร่งแค่ระดับเงิน มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ไปถึงจุดสูงสุดของระดับเงินและที่เหลือก็อยู่เพียงแค่ระดับเงินขั้น 5 หรือขั้น 6 เท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนด้วยมือของคนเก่ง แต่พวกเขาก็ยังเด็กเกินไป
คนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือทหารที่ยอดเยี่ยมที่สุด
กู่ฉวนรู้สึกผิดอย่างยิ่งที่ได้ทำร้ายพวกพ้องเหล่านี้
“ลงนรกไปซะ” หวังเฉิงฮ่วยคำรามและฆ่าเขาเหมือนเสือคำรามในป่าเขา
กู่ฉวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ
ถ้าข้าตายข้าก็จะเอาแกไปด้วย
“วิญญาณเทพเจ้า” ร่างกายของกู่ฉวนค่อย ๆ กลายเป็นเหมือนวิญญาณ ด้วยมือข้างหนึ่ง เขาแสดงกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาและรีบหนีไปในทันที
หวังเฉิงฮ่วยไม่พอใจและใช้ท่ากรงเล็บเสืออีกครั้ง
ตู้ม
ตู้ม
หวังเฉิงฮ่วยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาฝึกได้อย่างมากก็เพียงสามปีเท่านั้น แต่เขาก็แข็งแกร่งขนาดนี้
ไม่ เขาจะต้องถูกฆ่าให้ได้
การเคลื่อนไหวของ หวังเฉิงฮ่วยรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
กู่ฉวนค่อย ๆ ทนไม่ไหว เลือดไหลออกจากปากและจมูกของเขา แรงกระแทกของระเบิดได้ทำร้ายอวัยวะภายในและปอดของเขา
“ตายซะ” หวังเฉิงฮ่วยปล่อยการโจมตีปิดฉาก
โชคดีที่เสียงเสียง หนึ่ง ดังขึ้นก่อนที่คนที่คิดจะฆ่าเขา คว้าตัวเขาไว้ได้
วัยรุ่นที่กำลังต่อสู้ประหลาดใจและมีความสุข
นี่คือเสียงของนายน้อย
ทันใดนั้นฝนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกลงมาอย่างช้า ๆ
ทักษะระดับ S [แสงศักดิ์สิทธิ์]
อาการบาดเจ็บของทุกคนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดถูกแสงห่อหุ้มและการบาดเจ็บของพวกเขากำลังฟื้นตัว สถานการณ์เป็นอย่างไร