ไหปีศาจ - บทที่ 438 เจ้าของร้านตัวน้อย
บทที่ 438 เจ้าของร้านตัวน้อย
บทที่ 438
เจ้าของร้านตัวน้อย
“แล้วร้านค้าสีฟางที่ว่าอยู่ที่ไหนล่ะ?” ลั่วอู๋ ถาม
ฮวงเสี่ยวหยวน กะพริบตา “ถ้าเจ้าต้องการสินค้าของข้า ข้าจะไปรับมันมาให้เจ้าในทันที”
“นี่เจ้าหนู อย่าคุยกับข้า เหมือนเราเป็นสหายกันสิ” ลั่วอู๋ เหลือบมองเขา “ข้ารู้ราคาที่ชัดเจน สำหรับสินค้าเหล่านี้ เจ้าหวังหาเงินเอาเปรียบข้าไม่ได้หรอกนะ”
ฮวงเสี่ยวหยวน ถอนหายใจออกมา แต่ในไม่ช้าเขาก็ตั้งสติกลับมาได้ เขาชี้ไปที่มุมถนนอย่างภูมิใจ “ตรงนั้น ร้านค้าสีฟางของข้าอยู่ที่นั่น”
ลั่วอู๋มองไปตามทิศทางที่นิ้วของเขาชี้
เขาเห็นร้านโทรม ๆ เล็ก ๆ เหมือนแผงลอยริมถนน มีซุ้มโทรม ๆ และมีป้ายที่เขียนด้วยอักษรคดเคี้ยว
ดูแล้วมันน่าจะถูกเขียนโดยตัวของเด็กชายเอง
เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ค่อนข้างโทรมพอสมควร
“เจ้าดูแลร้านนี้ตัวคนเดียวใช่รึเปล่า ?” ลั่วอู๋มองเขาอย่างสงสัย
ฮวงเสี่ยวหยวน บ่น “ดูแลคนเดียวแล้วมันจะทำไมล่ะ ? อย่างน้อย ข้าก็มั่นใจว่าข้าจะสามารถทำให้ ร้านค้าสีฟาง เป็นร้านค้าที่มีอำนาจมากที่สุดในมณฑลเสิ่นชุนได้”
“อืม เจ้าก็ทำต่อไปสิ” ลั่วอู๋หันกลับไปและเดินจากไป
“ อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ” ฮวงเสี่ยวหยวน คิดว่าลั่วอู๋น่าจะเป็นคนใจกว้าง เขาจึงรีบเดินตามไป “เนื่องจากข้านับเจ้าเป็นสหาย ข้าจะให้ราคาตลาดกับเจ้า เจ้าต้องการยาหยู่หลงในราคา 5 หินวิญญาณไหมล่ะ?”
ขนาดเขายอมลดราคาถึงขนาดนี้ลั่วอู๋ก็ยังเงียบ
“ไม่ล่ะ เงือกแห่งห้วงลึกไม่ได้กินมันสักหน่อย” ลั่วอู๋ กล่าว
“เจ้ารู้ทุกเรื่องเลย นี่มันน่าทึ่งมาก”
“ ……”
มันเป็นเรื่องของข้อมูล ตามหลักแล้ว คนต่างถิ่น ธรรมดา ๆ ไม่น่าจะรู้ว่ายาหยู่หลงคืออะไร และ เงือกแห่งห้วงลึกคือสัตว์วิญญาณแบบไหน คนที่รู้ข้อมูลเหล่านี้เช่นลั่วอู๋จึงจัดได้ว่าเป็นคนที่รอบรู้
ลั่วอู๋ไม่รู้เลยว่า ควรจะคิดว่าอีกฝ่ายนั้นไร้เดียงสาหรือเล่นมุกตลกดี
“แล้ว สินค้าอย่างอื่นล่ะ ? เจ้าต้องการหยกอุ่นที่ดีที่สุดหรือไม่ ? แล้วเจ้าไม่มีความคิดอยากจะจองเรือหยูไห่หน่อย เหรอ ? แล้วสนใจรองเท้าเหินฟ้า?” ฮวงเสี่ยวหยวนพูดรัว ๆอย่างเร่งรีบ
ลั่วอู๋ชะงักกึก “เจ้ามีรองเท้าเหินฟ้างั้นเหรอ?”
“มีสินค้าที่เจ้าสนใจแล้วสินะ” ฮวงเสี่ยวหยวนกล่าวอย่างมีชัย “จริง ๆ แล้วถ้าเจ้าต้องการหยกอุ่น หรือเรือหยูไห่ ข้าไม่มีพวกมันในคลัง และคงต้องไปเอาสินค้าพวกนั้นมาจากร้านค้าอื่น และคิดค่าส่วนต่างเพิ่มเอา อย่างไรก็ตามถ้ารองเท้าเหินฟ้าละก็ข้ามีมันอยู่”
ลั่วอู๋รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
ธุรกิจรองเท้าเหินฟ้ามาไกลถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เขาไม่รู้เลย
“มาเถอะมากับข้า” ฮวงเสี่ยวหยวนพาลั่วอู๋ไปที่ร้านค้าสีฟาง เขาพูดขึ้นว่า “เจ้านี่โชคดีจริง ๆ เลยนะ ข้าเพิ่งได้รองเท้าเหินฟ้ารุ่นใหม่มาในสภาพสมบูรณ์ 90% ”
“เจ้าก็น่าจะเคยได้ยินมาใช่ไหมล่ะ ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหารองเท้าเหินฟ้าสักคู่ ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ”
“ สำนักโล่พิทักษ์ ร้านค้าที่ผลิตรองเท้าเหินฟ้า เป็นร้านค้าที่ข้าปลาบปลื้ม พวกเขาเป็นตำนานของโลกธุรกิจ ว่ากันว่าพวกเขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงสามปี ในการดำเนินกิจการจากร้านเล็ก ๆ ตรงหัวมุม ให้กลายมาเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงของจักรวรรดิ”
“ ข้ากล้าทำนายเลยว่า ภายในห้าปีหลังจากนี้ สำนักโล่พิทักษ์จะต้องเติบโตเป็นยักษ์ใหญ่ ที่เทียบเคียงกับคฤหาสน์ชวนเทียนได้อย่างแน่นอน”
ดวงตาของ ฮวงเสี่ยวหยวน เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
นี่อาจเป็นปฏิกิริยาของแฟนคลับ เมื่อพวกเขากล่าวถึงสิ่งที่ตัวเองเชิดชู
ตอนนี้ สำนักโล่พิทักษ์เป็นร้านค้าที่โด่งดังแล้วจริงๆ
การกระทำในอดีตมากมายถูกตัดออกไป เหลือเพียงประวัติการเติบโตอันตำนานสร้างชื่อเสียงโอ่อ่า
“สำนักโล่พิทักษ์ที่ว่านั่นทรงพลังมากงั้นเหรอ ? ข้าคิดว่ามันธรรมดาจะตายไป” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฮวงเสี่ยวหยวน มองไปที่ ลั่วอู๋ อย่างไม่พอใจ “ว่ากันว่าร้านค้าแบบเดียวกัน ย่อมเป็นศัตรูกัน อย่างเจ้าเองมันก็ระวังตัวจนเกินไป แถมยังไม่ยอมรับอีกว่าคนอื่นทรงพลัง เจ้าอิจฉาจนยอมไม่ได้งั้นหรือ?”
“ ……”
“ นอกจากนี้มีข่าวลือว่า เจ้าของร้านเบื้องหลังของสำนักโล่พิทักษ์เองก็เป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาอาจจะได้แต่งงานกับองค์หญิง ทำให้ในอนาคต สำนักโล่พิทักษ์อาจกลายเป็นร้านค้าของราชสำนักเลยก็เป็นได้”
“แค่ก แค่ก แค่ก ” ลั่วอู๋ไอออกมา
“เจ้าเป็นอะไรงั้นเหรอ?”
“ม.. ไม่เป็นไร ข้าไม่เป็นไร”
“ข้าก็อยากจะทำแบบนั้นให้ได้ ถ้าทำได้ข้าคงดีใจมากจนตายตาหลับได้เลย โชคร้ายที่พ่อของข้าทิ้งข้าไป เหลือเอาไว้แค่ร้านที่ใกล้พังนี่” ฮวงเสี่ยวหยวนเดินเข้าไปในร้านค้าสีฟางพร้อมกับลั่วอู๋
ร้านค้านี้มีสภาพที่โทรมมากจริงๆ มันมียาสามัญเพียงไม่กี่อย่าง ที่โต๊ะหน้า มีของใช้จิปาถะอยู่ข้างหลังเล็กน้อย แต่ขวดทั้งหมดนั้นถูกทำความสะอาดเป็นอย่างดี
“ขอเวลาข้าสักเดี๋ยว ข้าจะหามันมาให้เจ้า วันก่อนมีคนจากเมืองหลวงของจักรวรรดิมาที่นี่ โชคไม่ดีที่เขาพลาดตายในทะเลเหนือสุดขอบ แต่ข้าจำได้ว่ารองเท้านั้นคือรองเท้าเหินฟ้า ข้าจึงแอบถอดมันออกมาจากศพ”
ฮวงเสี่ยวหยวน พยายามค้นหาของในเศษซากต่าง ๆ
จากคนตาย? ลั่วอู๋พูดไม่ออกอีกครั้ง
“เจอแล้ว” ฮวงเสี่ยวหยวน ดึงรองเท้าเหินฟ้าคู่หนึ่งออกมาจากเศษซากต่าง ๆ หลังร้าน แต่สภาพของมันนั้นเปียกโชกด้วยน้ำทะเล จนแทบมองไม่เห็นเป็นรูปร่างของรองเท้าเหินฟ้า
ลั่วอู๋ ดูสับสน “เจ้าเรียกสิ่งนี้ ว่าสภาพสมบูรณ์ 90% งั้นเหรอ ? นี่มันเป็นเศษขยะแล้วชัด ๆ”
“มันอาจจะยังพอเอาไปซ่อมไหวก็ได้นะ” ฮวงเสี่ยวหยวน กล่าวด้วยความรู้สึกผิด “ถ้าอย่างนั้นข้าจะขายให้เจ้าในราคาถูกล่ะกัน ราคา 100 หินวิญญาณ เจ้าสนใจไหม?”
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว
แต่เมื่อเขามองไปที่ฮวงเสี่ยวหยวน ซึ่งกำลังพยายามอย่างหนักในการขายสินค้า เขาก็รู้สึกเศร้าอย่างอธิบายไม่ถูก
ในสภาพที่ร้านค้านั้นทรุดโทรมถึงขนาดนี้ เขาก็ยังคงพยายามรักษาเปิดกิจการของมันต่อไป
นี่คงเป็นความปรารถนาสุดท้ายที่พ่อของเขาทิ้งเอาไว้
ฮวงเสี่ยวหยวน ก้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างไม่สบายใจ มีรอยเปื้อนมากมายบนเสื้อผ้าที่บุด้วยผ้าฝ้ายของเขา รองเท้าของเขาเองก็ดูจะไม่พอดีกับเท้าของเขาอีกต่อไป แต่เขาก็คงไม่คิดที่จะเปลี่ยนเป็นคู่ใหม่
เขาคงได้ยินคำว่า “เงือกแห่งห้วงลึก” มาจากคนอื่น เขาจึงคิดหากลยุทธ์ในการหลอกต้มออกมา ทว่าเขากลับโกงเงินลั่วอู๋ไม่สำเร็จ
หากร้านค้าสีฟางของเขา ต้องการจะเปิดกิจการต่อไป เขาจะต้องมีเงินลงทุนในระยะแรกมากกว่านี้ แต่เขาไม่มีเงินเลย เขาจึงพยายามหาเงินโดยใช้ทุกวิถีทาง
เขาอยากเป็นเจ้าของร้านของตัวเองจริง ๆ เขาจึงถือวิสาสะเปิดกิจการต่อไปโดยไม่ยอมปิด
แม้มันจะโทรม แต่อย่างน้อยร้านนี้ก็เป็นร้านของเขาเอง
ลั่วอู๋ มองไปที่ ฮวงเสี่ยวหยวน เขาเห็นความปรารถนาในแววตาของเด็กน้อย ซึ่งทำให้เขานึกถึงเจ้าของร้านเก่าขึ้นมาในใจของเขา
เจ้าของร้านเก่าถูกลดตำแหน่งให้ไปดูแลกิจการในเขตหวงชา เขาหมดสิ้นทั้งแรงกายแรงใจ ทนทำงานหนักเพื่อสนับสนุนศาลาไป่หยู่
ฮวงเสี่ยวหยวนเองก็คงมองไปที่ร้านค้าสีฟาง ในลักษณะเดียวกันกับที่เจ้าของร้านเก่ามองไปที่ ศาลาไป่หยู่
ลั่วอู๋พูดขึ้นในความเงียบ “ตกลง ข้าจะซื้อมัน”
ดวงตาของ ฮวงเสี่ยวหยวน สว่างขึ้น
แม้ว่าเขาจะขายได้ในราคา 100 หินวิญญาณ แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการตกแต่งร้านค้าให้ดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็จะนำเข้าสินค้าราคาถูกมาเพิ่ม ให้กระจายออกไปหลากหลายขึ้นมาเหมือนร้านขายของชำไปก่อน
นั่นคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
“แต่ตอนนี้ ข้ามีเงินติดตัวเพียงแค่ 90 หินวิญญาณ ข้าเองก็ยังต้องใช้มันบางส่วน ข้าขอจ่ายเป็นชุดและรองเท้าสักคู่ เพื่อเป็นการชำระหนี้ส่วนที่ขาดได้ไหม ?”
ลั่วอู๋หยิบหินวิญญาณออกมาเก้าสิบก้อน
พร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตใหม่และรองเท้าคู่ใหม่
“ไม่เป็นไร ๆ” ฮวงเสี่ยวหยวน พยักหน้าอย่างรีบร้อน
ลั่วอู๋รับรองเท้าที่ชำรุดไป แล้วกระซิบว่า “เจ้าเป็นคนขยันทำงาน เจ้ามีคุณสมบัติที่ดีในฐานะพ่อค้า ในอนาคตเจ้าจะต้องสามารถบริหารร้านค้าขนาดใหญ่อย่างสำนักโล่พิทักษ์ได้อย่างแน่นอน”
“เฮ้ ขอบคุณนะ สำหรับคำพูดดีๆ” ฮวงเสี่ยวหยวน หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ลั่วอู๋หันหน้าหนี
นี่เป็นเพียงแค่สินน้ำใจทั่ว ๆไป
การซื้อรองเท้าเหินฟ้าคู่หนึ่งที่ชำรุดไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรสำหรับเขา แต่ผลกำไรจากการซื้อขายสินค้าครั้งนี้ สามารถสานต่อความฝันของเด็กน้อยคนนี้ได้
มันจะส่งผลลัพธ์ที่ดีให้กับเขาแน่
ฮวงเสี่ยวหยวน กลับไปที่กองเศษซากหลังร้านอย่าง เงียบ ๆ เขาลูบหินวิญญาณอันใสสะอาดตรงหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาในอนาคต
“ข้าอายุ 11 ปีแล้ว ข้าพยายามมาตลอด ดูสิท่านพ่อ ท่านเห็นความสามารถของข้าไหม? ฮิฮิ”
นี่คือการซื้อ ขายที่เป็นดั่งทองคำก้อนแรกของเขา
ในขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป ฮวงเสี่ยวหยวน ก็เอาเสื้อผ้าฝ้ายตัวใหม่มาห่อหุ้มร่างกายของเขา แน่นอนว่าเสื้อผ้าฝ้ายตัวใหม่นั้นอุ่นกว่าชุดเก่ามาก
จากนั้นสายตาของเขาก็มองลงไปที่รองเท้าคู่ใหม่ที่เขาเพิ่งได้มา
“นี่มัน ดูคุ้น ๆ นิดหน่อยแฮะ”
ในขณะที่ฮวงเสี่ยวหยวนกำลังจะเปลี่ยนไปใส่มัน เขาก็รู้สึกอึ้งในใจ เขานึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมา มือเล็ก ๆ ของเขาพลิกรองเท้าคู่นั้นไปมาพร้อมกับสั่นเทา
มีอักษร “ความมืด” เล็ก ๆ สลักอยู่ที่ขอบพื้นรองเท้า
นี่คือเครื่องหมายของรองเท้าเหินฟ้าจากสำนักโล่พิทักษ์ ด้วยเครื่องหมายนี้ทำให้เขาสามารถพิสูจน์ได้ว่านี่คือรองเท้าเหินฟ้า
ว่ากันว่าสินค้าหลายอย่างของสำนักโล่พิทักษ์ จะมีอักษรนี้สลักอยู่
ชายคนเมื่อครู่ คือนายน้อยที่อยู่เบื้องหลังของ สำนักโล่พิทักษ์
“บ้าเอ๊ย!”
ฮวงเสี่ยวหยวน ตกใจมาก
รองเท้าเหินฟ้าเพียงคู่เดียว ในตอนนี้สามารถขายได้ในราคาสูงถึง เจ็ดหมื่นแปดพัน หินวิญญาณ
เนื่องจากมันเป็นสินค้าที่มีเพียงในเมืองหลวงของจักรวรรดิเท่านั้น ดังนั้นหากวางขายในสถานที่ห่างไกลอย่างมณฑลเสิ่นชุน มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ราคาจะหยุดอยู่เพียงหลัก แสนหินวิญญาณ
ฮวงเสี่ยวหยวน รีบวิ่งออกไปพร้อมกับรองเท้าของเขา แต่น่าเสียดายที่ลั่วอู๋ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
เขาคิดถึงสิ่งที่ลั่วอู๋พูด
สหาย?
ข้าคิดว่าสำนักโล่พิทักษ์นั้นธรรมดา
“เจ้าเองก็เป็นคนของสำนักโล่พิทักษ์ไม่ใช่รึไง ?” ฮวงเสี่ยวหยวน พึมพำกับตัวเอง
ฮวงเสี่ยวหยวน มองไปรอบ ๆ
ยังไงซะลั่วอู๋ก็เป็นคนต่างถิ่น ถ้าเขาเข้าตัวเมืองมาซื้อเสื้อกันหนาวผ้าฝ้าย พวกเขาก็ต้องมีแผนไปที่ทะเลเหนือสุดของ
ฮวงเสี่ยวหยวน หยุดไปชั่วขณะ เขารีบปิดร้านที่ไม่มีใครอยากเขามาซื้อในทันที จากนั้นก็แขวนแม่กุญแจอย่างระมัดระวัง แล้วรีบวิ่งไปที่ประตูเมือง