ไหปีศาจ - บทที่ 466 หินคราม
บทที่ 466 หินคราม
บทที่ 466
หินคราม
การประมูลดูเหมือนว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
ลูกของสัตว์วิญญาณระดับเพชรนั้นมีมูลค่าสูงมาก
หลังจากที่มันเติบโตขึ้น มันสามารถช่วยสนับสนุนให้ตระกูลของท่านประสบความสำเร็จได้หรือไม่? แน่นอนว่าการเลี้ยงให้มันเติบโตนั้นต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ
โรงประมูลเต็มไปด้วยความเงียบสงัด
ไม่มีการเสนอราคาเพิ่มแต่อย่างใด
แม้ว่ามันอาจจะยังมีบางอย่างที่มีมูลค่ามากกว่าลูกสัตว์วิญญาณจักรพรรดิแห่งหายนะ แต่พวกเขาก็ต้องพิจารณาถึงเรื่องผลกำไรและการขาดทุนด้วย
ยาปีกสีครามแห่งความมืดนั้นมีมูลค่าอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นเพียงยาที่ใช้ในการช่วยให้สัตว์วิญญาณสามารถวิวัฒนาการได้เท่านั้น ถ้าหากมันสามารถปรับแต่งพัฒนาความสามารถของผู้ใช้พลังวิญญาณได้ด้วย ก็คาดว่าน่าจะมีคนสนใจมากขึ้นไปกว่านี้
ประธานการประมูลได้ยกค้อนขนาดเล็กขึ้น และพูดอย่างใจเย็น “เนื่องจากไม่มีท่านใดเสนอราคาแล้ว ถ้างั้น…”
“เดี๋ยวก่อน” ชายหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นยืน ดูเหมือนว่าเขาได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการทำบางสิ่ง และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ข้าจะจ่ายด้วยหินสีครามชิ้นนี้”
ชายคนนั้นมีรูปร่างที่มั่นคงและมีบุคลิกที่ไม่ธรรมดา เขามาจากตระกูลใหญ่อย่างเห็นได้ชัด
ชั่วขณะนั้น ผู้คนก็ต่างเต็มไปด้วยความโกลาหล
“อะไรนะ!”
“หินคราม!”
“บ้าไปแล้ว ถึงขนาดใช้ของระดับนั้นออกมาเพื่อซื้อยาเนี่ยนะ”
“ข้าไม่รู้ว่ามันจะเป็นความคิดดีหรือแย่กันแน่”
“ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการขัดเกลาหินครามจะต้องเป็นคนจากตระกูลอันเก่าแก่อย่างแน่นอน ชายผู้นี้เป็นคนจากตระกูลเหล่านั้นงั้นหรือ?”
ผู้คนต่างไม่สามารถหยุดพูดคุยกันได้
ในไม่ช้า ชายคนนั้นก็ได้ถูกระบุตัวตนขึ้น
“ชายคนนั้นน่าจะเป็นหยู่ปิง บุตรชายคนที่ 7 ของตระกูลหยู่”
“เขาเป็นคนของตระกูลหยู่ ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมเขาถึงมีหินครามได้ แต่มันไม่สิ้นเปลืองมากไปหน่อยงั้นเหรอ”
“ถึงจะเขาจะไม่ได้เป็นผู้สืบทอด แต่เขาก็ได้รับหินครามมาเหมือนกันอย่างงั้นเหรอ?” บางคนถามด้วยความสงสัย
ตระกูลหยู่เป็นตระกูลที่มีอำนาจในพระราชวังเป่ยหมิง ที่มีประวัติอันอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุด
ท่านอาจารย์หลินรู้สึกกระวนกระวายด้วยความกระตือรือร้น “หินครามจำนวนเท่าไหร่กัน?”
“ครึ่งชั่ง” หยู่ปิงกล่าว
ท่านอาจารย์หลินส่งเสียงด้วยความดีใจ และรีบพยักหน้า “ไม่มีปัญหา จบแค่นี้แหละ”
ตอนนี้อาจารย์หลินไม่ต้องการให้การประมูลดำเนินต่อไปอีก
เพราะเขาต้องการหินครามเป็นอย่างมาก
การประมูลที่จบลงอย่างกะทันหันทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่า การประมูลครั้งคือการกดขี่โดยผู้มีอำนาจอย่างนั้นหรือ?
ขณะนั้นเอง ชายในผ้าคลุมสีดำได้พูดขึ้น “เจ้าหนูแห่งตระกูลหยู่ เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนหินครามกับลูกของสัตว์วิญญาณระดับเพชรไหม?”
สมบัติชิ้นนี้มีค่ามาก จนแม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรก็ยังต้องเคลื่อนไหว
“สหายข้า นี่มันคือการประมูลนะ ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนใต้ดินสักหน่อย” ใบหน้าของท่านอาจารย์หลินหม่นลง “เจ้ากำลังละเมิดกฎของร้านฟ้าครามของข้านะ”
ชายในชุดคลุมสีดำไม่ได้สนใจ และพูดออกมาว่า “แล้วไงล่ะ”
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาไม่ได้สนใจกฎเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีผู้คุ้มกันเพียงแค่คนเดียว เขาจึงไม่จำเป็นต้องสนใจสิ่งที่เรียกว่ากฎของร้านฟ้าครามเลย
ท่านอาจารย์หลินหมดความอดทน แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
ไม่มีใครกล้าที่จะทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรรู้สึกไม่พอใจแน่ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหนก็ตาม
ดังนั้นเมื่อผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรทำการฉีกหน้าเขาอย่างไม่ละอายใจด้วยพลังบางอย่าง ย่อมไม่มีใครกล้าคัดค้าน?
หยู่ปิง บุตรชายคนที่ 7 ของตระกูลหยู่ ดูเหมือนจะตื่นเต้นกับลูกของสัตว์วิญญาณระดับเพชรมาก
บางทีที่เขาพยายามประมูลแข่งขันในครั้งนี้ ก็อาจจะเพื่อที่จะได้มันมาครอบครอง
แต่เขานั้นต้องการอะไรจริง ๆกันแน่
ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา
ลั่วอู๋ถามออกมาด้วยเสียงต่ำ “หินครามคืออะไรกัน?”
ชายอ้วนมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยสีหน้าที่ผิดปกติ “เจ้าเป็นพวกบ้านนอกงั้นเหรอ? เจ้าไม่ได้อาศัยอยู่ที่พระราชวังเป่ยหมิงใช่ไหม? เจ้าไม่รู้จักหินครามหรือไงกัน? ข้าสงสัยว่าเจ้าคงเป็นพวกไม่มีเงินมากสินะ”
“เจ้าบอกว่าเป็นพวกบ้านนอกสินะ ใช่ ข้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อนเลย” ลั่วอู๋หัวเราะ “ช่วยบอกข้าทีว่า ทำไมหินครามเพียงแค่ครึ่งชั่งถึงได้มีมูลค่ามากกว่าสัตว์วิญญาณระดับเพชร”
ชายอ้วนอธิบายว่า “สิ่งนี้เป็นแร่ที่มีความล้ำค่าอย่างมาก ซึ่งมันสามารถสกัดได้จากแร่วิญญาณใต้ทะเลกว่าหลายหมื่นตันเท่านั้น ถ้าหากเจ้าครอบครองสิ่งนี้อยู่ละก็ เจ้าสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อดึงพลังจากพื้นมหาสมุทรได้อย่างแน่นอน ยิ่งมีหินครามจำนวนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงพลังได้มากขึ้นเท่านั้น”
“มงกุฎบนศีรษะของผู้ปกครองสูงสุดเองก็ทำมาจากหินคราม มันเปรียบเสมือนดั่งสมบัติของเทพที่ทรงพลังที่สุดในพระราชวังเป่ยหมิง อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของผู้ปกครองสูงสุดอีกด้วย”
“กล่าวกันว่า ต้องใช้เวลาสร้างมันกว่า 500 ปี และมีเพียงตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดบางตระกูลเท่านั้นที่มีความสามารถเชี่ยวชาญในการสกัดแร่ชนิดนี้”
ลั่วอู๋รู้สึกหวั่นไหว
หินที่สามารถดึงพลังจากมหาสมุทรได้
นั่นเท่ากับว่าผู้ครอบครองมันจะมีคลังพลังวิญญาณอันทรงพลังและไม่มีสิ้นสุดได้งั้นหรือ?
สิ่งนี้มันสร้างความขัดแย้งให้บรรยากาศโดยรอบเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามมันสามารถใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ทะเลเท่านั้น หินครามนั้นไม่สามารถใช้พลังของมันบนพื้นที่ของผืนแผ่นดินใหญ่ได้ เพราะหินครามนั้นจำเป็นต้องใช้พลังของท้องทะเล หากนำมันไปใช้ที่อื่น หินครามย่อมไม่มีทางดึงพลังวิญญาณมาจากมหาสมุทรที่ไกลออกไปเป็นล้าน ๆ ลี้ได้แน่
ลั่วอู๋ถามด้วยความรีบร้อน “หินครามชิ้นนี้สกัดจากแร่วิญญาณชนิดไหนงั้นเหรอ?”
“ก็ใช้พวกแร่วิญญาณที่ขุดขึ้นมาจากทะเลนั่นแหละ เพียงแต่ว่าต้องมีปริมาณมากพอ เนื่องจากจำนวนของหินครามนั้นมีฝังอยู่เพียงน้อยนิดในแร่ต่าง ๆ” ชายอ้วนกระซิบ “ว่ากันว่าหินครามนั้นไม่ใช่เพียงแค่แร่วิญญาณ แต่เป็นแก่นแท้ของทะเล ซึ่งได้เข้าไปเชื่อมกับแร่วิญญาณในทะเล ทำให้แร่เหล่านั้นเปลี่ยนไปเป็นแร่วิญญาณอันแข็งแกร่งลักษณะพิเศษของมัน”
“งั้นหรือ” ลั่วอู๋อดที่จะครุ่นคิดไม่ได้
ถ้าเป็นเช่นนั้น
ความสามารถสังเคราะห์ในไหปีศาจของเขาเองก็น่าจะสามารถปรับแต่งหินครามออกมาได้เช่นกัน
ชายอ้วนถอนหายใจ “ข้าไม่คิดเลยว่า จะมีคนนำสมบัติชิ้นนี้มากเพื่อแลกกับยาปีกสีครามแห่งความมืด ดูเหมือนว่าแผนการของข้าที่จะประจบนายน้อยแห่งพระราชวังเป่ยหมิงจะล้มละลายไปเสียแล้ว”
ลั่วอู๋มองด้วยความประหลาดใจ “เจ้าต้องการประจบนายน้อยแห่งพระราชวังเป่ยหมิงโดยใช้ยาปีกสีครามแห่งความมืดงั้นหรือ?”
“แน่นอน” ชายอ้วนกล่าว “ข้ายอมเสียหินวิญญาณกว่าหลายพันล้าน เพื่อจะได้มันมา สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณได้ ถ้าได้มันมาพ่อของข้าจะต้องให้อภัยข้าแน่”
“นายน้อยแห่งพระราชวังเป่ยหมิง คนไหนที่เจ้ากำลังพูดถึง?”
“จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ? แน่นอนว่า เขาคือซวนหยู่ฮาน ตัวเต็งผู้ปกครองสูงสุดคนต่อไป บางทีตระกูลเฉินแห่งหยู่ฟู อาจจะใช้โอกาสนี้ได้เรียนรู้วิธีการสกัดหินครามที่ทางพระราชวังมอบให้ และกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดก็เป็นได้” ชายอ้วนคนนั้นกล่าว
ถ้าหากไม่มีวิธีการสกัดหินคราม พวกเขาก็ไม่มีทางกลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจได้แน่ เพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับของตระกูลใหญ่อื่น ๆ ในพระราชวังเป่ยหมิงพวกเขาต้องมีมันเสียก่อน
แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะได้รับของขวัญจากพระราชวังได้
หลายตระกูลที่มีความแข็งแกร่ง จึงต้องการติดต่อกับพระราชวังด้วยเหตุนี้
ลั่วอู๋มองเขาด้วยความแปลกใจ และตบไหล่เขา “อย่าคิดจะประจบเขาเลยน่า เขาไม่สามารถเป็นผู้ปกครองสูงสุดคนต่อไปของพระราชวังเป่ยหมิงได้หรอก”
“ทำไมเหรอ?” ชายอ้วนไม่เข้าใจ
“แน่นอนสิ คนที่ตายไปแล้วจะไปเป็นผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิงได้ยังไง?”
“เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?” ชายอ้วนกล่าว
ลั่วอู๋ไม่ได้อธิบายออกไป
และในที่สุดการประมูลก็สิ้นสุดลง
หยู่ปิง บุตรชายคนที่ 7 ของตระกูลหยู่ ได้เลือกลูกสัตว์วิญญาณ ระดับเพชร และยอมซื้อมันด้วยหินคราม
การเสนอราคาตัดหน้าจะเป็นการผิดกฎ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางอื่น ร้านฟ้าครามไม่กล้าที่จะทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรโกรธเคือง
ชายในชุดคลุมสีดำได้รับหินครามขนาดเล็กไป จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา
ท่านอาจารย์หลินได้แต่คอตกและรู้สึกหดหู่
หินครามนั้นมีประโยชน์สำหรับเขาอย่างมาก ถ้าหากเขาได้รวมมันเข้ากับเตาหลอม และดึงพลังจากมหาสมุทรออกมา มันก็จะช่วยให้เขาสามารถรวบรวมพลังของเลือดเนื้อสัตว์วิญญาณในทะเลได้ดีกว่าเดิมมาก และช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการเล่นแร่แปรธาตุของเขา
นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแนวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“เริ่มดำเนินการประมูลต่อไป” ประธานการประมูลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้จะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น การประมูลก็ยังคงดำเนินต่อไป
การประมูลของชายอ้วนได้ถูกระงับอีกครั้งหนึ่ง
ราคาการประมูลได้ขึ้นไปถึง 3.7 พันล้านหินวิญญาณ
ถึงแม้จะมีราคาที่สูงเช่นนี้ มันก็ไม่ได้ทำให้ท่านอาจารย์หลินตอบสนองเลยแม้แต่น้อย เขาเดินจากไป เพราะการประมูลนั้นมันน่าเบื่อเกินไป
ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ได้ลุกขึ้นและเดินออกไป
“เจ้ากำลังจะไปไหนน่ะ?” ชายอ้วนถาม
ลั่วอู๋ได้พูด “ไปรับสิ่งที่เจ้าควรได้เถอะ”
ใบหน้าของชายอ้วนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
การประมูลกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เจ้าจะไปหาสมบัติมาจากที่ไหนมาได้อีกกัน?