ไหปีศาจ - บทที่ 506 เสี่ยวกงผู้ไร้เดียงสา
บทที่ 506 เสี่ยวกงผู้ไร้เดียงสา
บทที่ 506
เสี่ยวกงผู้ไร้เดียงสา
สำนักสำนักโล่พิทักษ์มีห้องฝึกพิเศษ
ซึ่งไม่ให้ใครเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากลั่วอู๋
ตอนนี้สมาชิกทุกคนของทีมคมมีดกำลังเข้าใกล้ระดับทอง ภายใต้การฝึกฝนโดยไม่มีปัญหา หลิวหูเติบโตถึงระดับทองขั้น 8
ภายใต้การคุ้มกันของพวกเขา โจรธรรมดาไม่มีทางเข้ามาได้
วิญญาณค่อย ๆ ลอยเข้าไปในห้องฝึกและกระซิบที่หูของลั่วอู๋
ลั่วอู๋ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก “งั้นรึ? ไปได้”
วิญญาณลอยออกไปอีกครั้ง
ความจริงแล้วลั่วอู๋ปล่อยวิญญาณจำนวนมากออกมาอยู่ในสำนักโล่พิทักษ์ โดยปกติพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดสำรวจทุกสิ่งและจะรายงานเมื่อพบสถานการณ์ใด ๆ
ลั่วอู๋ได้เรียกไร้หน้าและผู้ที่ฝีมือดีที่สุดในหน่วยสิบคนออกมา พวกเขาทั้งหมดอยู่ในมิติวิญญาณระดับทอง
“นายท่าน”
ไร้หน้าและกู่ฉวนเป็นผู้นำคุกเข่า
อีกเก้าคนเองก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องคุกเข่าหรอก มันลำบากนะ” ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “พวกเจ้าสิบคนแข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้พวกเจ้ามีบางอย่างที่ต้องทำ ซึ่งเป็นงานแรกของพวกเจ้าด้วย”
ทั้งสิบคนดูตื่นเต้นเล็กน้อย
ในที่สุดก็เริ่มภารกิจแรก
อยู่ในมิติไหเพื่อฝึกฝนอยู่ตลอดก็ต้องเบื่ออยู่แล้ว
เป็นเวลาหลายปีที่ชายหนุ่มเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจากคนประหลาดในหุบเขามรณะ และได้เรียนรู้สิ่งที่มีประโยชน์มากมาย
“ไร้หน้า พาพวกเขาไปกับเจ้า ช่วยข้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำหนักองค์ชาย และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วย แม้ว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรมาไม่ได้ แต่ก็ห้ามฝืน” ลั่วอู๋กล่าว
ทีมนี้เป็นกองกำลังที่สำคัญที่สุดในมือของลั่วอู๋
“รับทราบ” เขาพูด
ไร้หน้าได้รับการฝึกฝนในมิติไห ดังนั้นมิติวิญญาณจึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้เขาก็มาถึงระดับทองขั้น 10 แล้ว
อย่างไรก็ตามหากต้องการที่จะไปสู่ขั้นที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ มันจะเป็นเรื่องที่ยากกว่าการฝึกฝนจิตวิญญาณเสียอีก
ด้วยสมรรถภาพทางกายที่แข็งแกร่ง ในช่วงแรกเหล่านักรบสามารถฝึกฝนจิตวิญญาณในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นทองขั้นสูง เหล่านักรบก็จะค่อย ๆ ฝึกจิตวิญญาณได้ยากขึ้น
หลังจากเข้าสู่ระดับทองขั้นสูงแล้วก็จะมีวิธีการฝึกฝนจิตวิญญาณและการต่อสู้มากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาก็เริ่มเข้าใจแก่นแท้ ด้วยสัตว์วิญญาณที่มากกว่าหนึ่ง ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากการผสานพลังวิญญาณระหว่างผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณก็ได้ถึงระดับที่สูงมาก
ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ศิลปะการต่อสู้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
เพราะในช่วงเวลาต่อมาความแข็งแกร่งจากการฝึกฝนจิตวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่กว่าศิลปะการต่อสู้
อย่างไรก็ตามไร้หน้าได้เรียนกับหลงเซี่ยและได้ฝึกฝนทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณที่ดีที่สุด ดังนั้นกฎที่ว่าการฝึกฝนจิตวิญญาณจะแข็งแกร่งกว่าศิลปะการต่อสู้อาจไม่ได้ผลสำหรับเขา
“หลงเซี่ยทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ให้รึเปล่า?” ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย
ไร้หน้าส่ายหัว “ไม่เลย”
ยังไงซะ นั่นก็เป็นลูกศิษย์ของเขาอยู่แล้ว
หากมีปัญหาในการฝึกควรถามใคร? นักรบที่ทรงพลังในโลกนั้นหายากเมื่อเทียบกับระดับจักรพรรดิ
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ไม่พบปัญหาอะไรเลยเหรอ” ลั่วอู๋ถาม
ไร้หน้าลังเลอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “ข้ารู้สึกเหมือนจะก้าวข้ามระดับได้ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ข้ารู้สึกเสมอว่าข้าไม่สามารถสร้างความก้าวหน้าที่สมบูรณ์แบบได้ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางในอนาคต”
ลั่วอู๋ตะลึง
นี่คือปัญหาใหญ่
ในระดับนี้สัญชาตญาณจากการฝึกฝนมักจะเป็นจริง
“ก่อนอื่นเจ้าระงับมิติวิญญาณของเจ้าไปก่อน ข้าจะช่วยเจ้าตามหาหลงเซี่ย จากนั้นเจ้าค่อยคิดเรื่องการพัฒนาอีกครั้ง” ลั่วอู๋กล่าว
“ขอบคุณนายท่าน” เขาพูด
ไร้หน้าและยอดฝีมือทั้งสิบออกเดินทาง
ลั่วอู๋เข้าสู่มิติไห
เขาต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวกง เขาใส่มันลงไปในมิติไหก่อนที่จะได้พูดคุยกับมันอย่างจริง ๆ จัง ๆ
แล้วนี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่แปลกสำหรับมัน
ลั่วอู๋เดินไปตามเส้นทางต่าง ๆ ในมิติไห
“มีต้าหวงและผีเสื้อวิญญาณอยู่ในนั้น เสี่ยวกงไม่น่าจะมีปัญหาใช่ไหม?” ลั่วอู๋กำลังคิดเรื่องนี้ แต่เขาก็เห็นแสงหลากสีแวบผ่านท้องฟ้า
เจ้านกบ้านั่น
ตอนนี้นกโง่นั้นสวยงามขึ้นเรื่อย ๆ และความแข็งแกร่งของมันได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะขนนกที่มีสีสันที่หลังคอของมัน เมื่อมันปลดปล่อยพลังเวทออกมามันจะสว่างขึ้นและปลดปล่อยพลังงานที่น่ากลัวอย่างมาก
ในมิติไหมันยังได้เรียนรู้ทักษะบางอย่างและสามารถพึ่งพาความเร็วที่คล่องแคล่วจนทัดเทียมกับไป๋ฉีได้
มันบินไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระพือปีก เชิดหน้าอย่างโอหังโดยมีนกกลุ่มใหญ่อยู่ข้างหลังมัน ครอบครองท้องฟ้าทั้งหมด
เหมือนเจ้าแห่งนภา
แน่นอนว่าโดยปกติแล้วลั่วอู๋จะไม่สนใจมัน
แต่วันนี้แตกต่างกันนิดหน่อย
ลั่วอู๋พบว่านกเงอะงะนั่นจับร่างสีเงินลอยไปในอากาศ
“เสี่ยวกง!”
นี่มันบ้าอะไรกัน
“เจ้านกโง่ลงมานี่” ดวงตาของลั่วอู๋เบิกกว้างและคำราม
ลิงปีศาจตัวน้อยเสี่ยวกงถูกทำให้ร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา ร่างถูกจับไว้โดยนกโง่นั่น เขากวัดแกว่งดาบในมืออย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายนกโง่ได้
ถึงแม้ว่าดาบจะเป็นดาบวิเศษ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถใช้พลังของมันอย่างเต็มที่ได้
นกโง่ก็สังเกตเห็นลั่วอู๋ จึงทำหน้าแบบ ตะโกนใส่ทำไม? ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงประสบการณ์ความล้มเหลวในการต่อต้านเป็นเวลาหลายปี นกโง่ยังคงยอมลงมาจากท้องฟ้าอย่างจริงใจ จากนั้นก็กางปีกออกราวกับจะพูดว่า ถึงเวลาที่จะให้ยาแก่ข้าแล้ว
ด้วยการพัฒนามิติวิญญาณอย่างรวดเร็ว ยาช่วยฝึกของลั่วอู๋ก็มีส่วนช่วยอย่างมากเช่นกัน
“อยู่นี่ไง” ลั่วอู๋หายใจไม่สะดวก “เจ้าปล่อยเขาไปซะ”
นกโง่มองไปที่ลั่วอู๋อย่างสงสัยจากนั้นก็มองไปเจ้าลิงปีศาจตัวน้อยที่อยู่ในกรงเล็บของมัน แล้วก็ส่ายหัวด้วยความงงงวย ทำไมหรือ? นี่น่ะเป็นน้องชายคนใหม่ของข้า
ลั่วอู๋ใช้การสื่อสารทางจิตเขาจึงเข้าใจว่านกโง่หมายถึงอะไร
“แล้วทำอะไรกับน้องชายเล่า มันไม่ใช่นกนะ” ลั่วอู๋พูด
เสี่ยวกงได้ยินคำพูดของลั่วอู๋ และพยักหน้าอย่างน่าสงสาร
มันช่างไร้เดียงสา หลังจากใส่ลงในมิติไหแล้วก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากต้าหวง เสี่ยวกงคิดว่าที่นี่ดีมาก
ต่อมาเมื่อมันเล่นกับดาบ นกกลุ่มใหญ่ก็บินมาหลังเขา และหัวหน้าของนกตัวใหญ่ก็จับมันไว้ นกตัวใหญ่ตัวนี้ได้บังคับให้มันเป็นน้องชายของมัน
แล้วนกโง่ก็กลอกตา เป็นไปได้ยังไง? ไม่ใช่นกแล้วบินได้ยังไง?
หัวของลั่วอู๋เต็มไปด้วยควัน เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเผชิญหน้ากับนกโง่แล้ว ลั่วอู๋มักจะมีแรงกระตุ้นที่จะอัดมัน
“เบิกตาดูให้ชัด ๆ มันมีปีกรึไง?” ลั่วพูดอย่างโกรธ ๆ
นกโง่เหลือบมองเสี่ยวกง แล้วมันจะบินได้อย่างไรโดยไม่มีปีก? คิดว่าข้าโง่สินะ ข้าเดาว่ามันอาจมีปีกล่องหนอยู่คู่หนึ่ง
ล่องหนก็บ้าแล้วไอ้นกผี
ลั่วอู๋กำหมัดแน่น และเริ่มพิจารณาว่าจะอัดเจ้านกโง่ดีหรือไม่ “นี่คือทักษะดาบ มันบินอยู่ด้วยดาบจักรพรรดิ เจ้าเป็นนกโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย”
ดาบจักรพรรดิ?
นกสีขาวส่ายหัว แล้วมันต่างกันยังไง แล้วมันก็ยังมีขนนกเหมือนข้านะ
ลั่วอู๋คำรามด้วยความโกรธ “ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะถูกอัดสักหน่อยแล้ว นี่คือขน ขนของลิง ไม่ใช่ขนนก เจ้าไม่เห็นความแตกต่างรึไง!”
นกโง่มองเสี่ยวกงอย่างจริงจังอีกครั้งและในที่สุดก็พบว่ามันผิด
จริงด้วย
มันไม่ใช่ขนนก
นกโง่ทิ้งมันลงที่เล็ก ๆ บนพื้นและบ่นอย่างโกรธ ๆ เจ้าไม่ใช่นก ทำไมเจ้าถึงอยากบินบนท้องฟ้ากัน? ไม่รู้รึว่าท้องฟ้าเป็นอาณาเขตของข้า
เสี่ยวกงดูเสียใจ
“ทนไม่ไหวแล้ว ต้าหวงกัดมันให้ข้าสักทีสิ!” ลั่วอู๋ดึงดาบระบำแห่งความตายและคำราม
ต้าหวงได้ยินเสียงเรียกและวิ่งมาด้วยความเร็วเต็มที่
เจ้านกโง่ตกใจ
หมาโง่ตัวนี้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้านกโง่รีบเตรียมที่จะหนี แต่ก็ถูกลั่วอู๋จับไว้ได้และพูดว่า “วันนี้ข้าจะต้องเอาอัดเจ้าให้ได้!”