ไหปีศาจ - บทที่ 548 ความสงบและความไร้ระเบียบ
บทที่ 548 ความสงบและความไร้ระเบียบ
บทที่ 548
ความสงบและความไร้ระเบียบ
ในที่สุดตัวแปรที่ใหญ่ที่สุดในการกบฏก็มาถึง
องค์ชายเล็กที่ได้ริเริ่มการก่อกบฏด้วยตัวของเขาเอง เหล่าทหารต่างที่ถูกปั่นหัว กองทัพหมาป่าที่เข้าร่วมการก่อกบฏ ทุกอย่างตั้งอยู่บนรากฐานเดียว
นั่นคือองค์จักรพรรดิกำลังตาย จึงไม่มีใครเข้าข้างเขาอีก
แน่นอนว่าจุดประสงค์ของทุกคนไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน
บางคนไม่ต้องการเห็นอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายที่ยิ่งใหญ่ ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์ชายคนอื่น ๆ ที่มีฐานะบารมีเพียงปานกลาง บางคนต้องการเป็นขุนนางชั้นสูงในราชวงศ์มังกรเร้นกาย บางคนได้รับผลประโยชน์จากการกบฏ บางคนติดหนี้บุญคุณคฤหาสน์องค์ชาย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำตามคำสั่ง
แต่ทุกคนต่างก็มีเพียงเหตุผลหนึ่งเดียวที่พวกเขากล้าทำเช่นนี้ – นั่นก็คือองค์จักรพรรดินั้นกำลังจะตาย
“ ไม่มีใครกล้าก่อกบฏในตอนที่องค์จักรพรรดิยังสมบูรณ์พร้อมได้หรอก” นอกลานจัตุรัสซวนวู เจียหมิงหยู่ ขุนนางผู้ดูแลค่ายทหารระดับสูง กล่าวกับนายพลคนหนึ่ง “พวกเราทุกคนต่างเชื่อมั่นในองค์ชายเล็ก และหวังว่าแผนการทั้งหมดจะเป็นไปตามประสงค์ของพระองค์”
เขาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพหมาป่า
ในครั้งเมื่อองค์ชายเล็กได้ทำการผูกมิตรกับกองกำลังต่าง ๆ เป็นครั้งแรก เขาเลือกที่จะปฏิเสธตรงๆเพราะแม้ว่าอีกฝ่ายจะบารมีอยู่บ้าง แต่ความโกรธเกรี้ยวขององค์ชายเล็กนั้นเป็นตัวแปรที่ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยเท่าไหร่
ทว่าในตอนนั้น องค์จักรพรรดิกลับเรียกเขามาพบในตอนดึก และบอกว่าเขาอนุญาตให้กองทัพหมาป่าสามารถผูกมิตรกับคฤหาสน์องค์ชายเล็กได้
เจียหมิงหยู่เข้าใจเจตจำนงขององค์จักรพรรดิในทันทีและเต็มใจที่จะเป็นผูกมิตรกับองค์ชายเล็กในที่สุด
นั่นก็ผ่านมาเป็นเวลามากกว่าสิบปีแล้ว
องค์ชายเล็กได้กลายมาเป็นวีรบุรุษของเหล่าขุนนางและคงไม่มีใครได้อยู่ในจุดสูงสุดเท่าเขาแน่ ส่วนกองทัพหมาป่าเองก็ค่อยๆได้รับการยอมรับว่าเป็นทหารชั้นสูงของวังหลวง
ก่อกบฏ?
องค์จักรพรรดินั้นเป็นคนฉลาด ดูเหมือนว่าเขาจะคาดเดานึกถึงวันนี้ไว้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว
ไม่ใช่เพียงแค่ความตั้งใจของเหล่าขุนนาง แต่เป็นแนวโน้มของสถานการณ์ทั้งหมด
เจียหมิงหยู ถอนหายใจในใจ เขารู้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพหมาป่าและคฤหาสน์ขององค์ชายนั้นแน่นแฟ้นมาก หากเขาไม่ปฏิบัติตามแผนการขององค์ชายเล็ก แล้วองค์ชายเล็กเกิดได้ขึ้นครองบัลลังก์ในภายหลังขึ้นมา กองทัพหมาป่าจะมีสภาพเป็นเช่นไรกัน?
มันจึงเป็นเรื่องยากจริงๆที่เขาจะปฏิเสธแผนการนี้
“ท่านไม่ต้องอธิบายมากนักหรอก พวกเราทุกคนเข้าใจดี” นายพลวัยกลางคนกล่าวอย่างรีบร้อน
“ใช่ ข้าเองก็เข้าใจ ท้ายที่สุดคนอื่น ๆ ทั้งหมดเองก็เช่นกัน”
“พวกข้าจะติดตามท่านนายพลสูงสุดเสมอ”
“นี่เป็นสถานการณ์ตัวเลือกที่ยิ่งใหญ่ของท่านนายพลสูงสุด ท่านต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าจักรวรรดิจะปลอดภัยและมั่นคง ท่านไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองเลย” นายพลอีกคนพูดอย่างเร่งรีบ
เจียหมิงหยู รู้สึกหวั่นไหวไปชั่วครู่กับคำพูดของลูกน้องของเขา
ตอนนี้กองทัพหมาป่าได้ปิดล้อมพระราชวังทั้งหมดแล้วเรียบร้อย
ตราบใดที่พวกเขาสามารถยึดลานจัตุรัสซวนวูได้ พวกเขาก็จะสามารถพิชิตเมืองหลวงของจักรวรรดิได้อย่างสมบูรณ์ นั้นคือแผนการทั้งหมดตั้งแต่แรก
เจียหมิงหยู คิดอย่างเงียบ ๆ เนื่องจากองค์ชายเล็กนั้นไม่อาจรอต่อไปได้อีกแล้ว เขาจึงหวังว่าองค์จักรพรรดิจะยอมมอบบัลลังก์ให้องค์ชายเล็กแต่โดยดี เพื่อไม่ให้เกิดความปั่นป่วนในจักรวรรดิ
เขาเองก็ได้อุทิศตนเพื่ออาณาจักรเช่นกัน
แต่เมื่อเขาคิดถึงความเป็นจริงที่เขาจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สุดจากองค์ชายใจเขาก็ยังคงร้อนรุ่ม
เขาจะกลายเป็นนายพลที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในอนาคต และบางทีกองทัพหมาป่าก็อาจจะมีโอกาสเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งของกองทัพต้องห้าม แต่ที่แน่นอนก็คืออย่างน้อย ๆ ที่สุดพวกเขาก็คงจะได้เข้ามาแทนที่หน่วยสยบมังกร
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นในพระราชวังของจักรวรรดิ ทำให้พวกเขาทุกคนต้องสั่นสะท้านไปถึงแก่นวิญญาณ
“ไม่ดีแล้วขอรับ!” มีทหารตัวสั่นคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานข่าว
เจียหมิงหยู และนายพลคนอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงความผิดปกติพวกเขาจึงรีบเดินออกไป
เหนือท้องฟ้านั้นมีเงาของมังกรสีทองขนาดยักษ์ห้าตัวลอยอยู่ มันคือพลังวิญญาณที่มีอำนาจสูงสุดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของอาณาจักรนี้
มีการต่อสู้เกิดขึ้นในลานจัตุรัสซวนวู
พายุดาบเมื่อไม่นานมานี้นั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
แต่ทว่าการเคลื่อนไหวหลังจากนั้นน่ากลัวกว่ามาก โดยเฉพาะเงามังกรทั้งห้า มันคือตัวแทนของอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายโดยแท้จริง มันคือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงอำนาจอันล้นหลามของบุตรแห่งสวรรค์
“องค์ชายไปถึงระดับที่สามารถปล่อยพลังวิญญาณลมปราณมังกรออกมาได้ 5 ตัวแล้วงั้นเหรอ!” นายพลคนหนึ่งอุทาน “ต่อให้เป็นองค์จักรพรรดิก็คงรับมือองค์ชายเล็กไม่ได้ง่าย ๆ แล้วล่ะแบบนี้ ใช่ไหมขอรับท่าน?”
เจียหมิงหยู รู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ เขาไม่สามารถขยับตัวใด ๆ ได้นอกจากถูข้อมือของเขา “ไม่ ไม่ ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ พลังวิญญาณอันทรงพลังเช่นนี้ ไม่สามารถถูกปล่อยออกมาได้โดยองค์ชายเล็กแน่ ๆ”
มีความเป็นไปได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของผู้คน
มันเป็นขององค์จักรพรรดิอย่างนั้นเหรอ?
แต่องค์จักรพรรดินั้นไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมานานเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปถึงระดับที่ห้าของลมปราณมังกร
อีกอย่างองค์ชายเล็กก็บอกเองไม่ใช่หรือ ? ว่าองค์จักรพรรดินั้นถูกสาปให้ต้องทนทรมานจนร่างกายได้รับภาระหนักและกำลังจะตาย! มันไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังวิญญาณอันทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้
“มันเป็นขององค์จักรพรรดิไม่ผิดแน่!” เจียหมิงหยู กล่าวด้วยเสียงที่ลึกซึ้ง
นายพลคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างสับสน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
มีใครบางคนกระซิบขึ้น “พวกเราลงมือกันมาถึงจุดนี้แล้ว พวกเราไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว พวกเราจะต้องดำเนินการบุกโจมตีลานจัตุรัสซวนวูต่อไป” หากพวกเขาล้มเหลวละก็ กองทัพหมาป่าจะต้องถูกตีตราว่าเป็นกองทัพกบฏ จากนั้นพวกเขาก็จะถูกกวาดล้าง
ร่างกายของ เจียหมิงหยู สั่น ดวงตาของเขากะพริบชั่วขณะไปด้วยความลังเล
“ท่านนายพลสูงสุดอย่าได้รีรอเลยขอรับ” เมื่อเห็นว่าคำชักชวนของเขาได้ผล นายพลคนนั้นจึงรีบพูดอีกครั้ง
เจียหมิงหยู พยักหน้าช้าๆ “เจ้าพูดถูก พวกเราไม่สามารถหยุดยั้งการก่อกบฏครั้งนี้ได้อีกแล้ว”
หัวใจของนายพลมีความสุขเล็กน้อย เขาพร้อมที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ถูก เจียหมิงหยู บีบ ใบหน้าของเขาจนซีด เขาพยายามร้องขอความเมตตา “ท่านนายพลสูงสุด … ท่านนายพลสูงสุด!”
องค์จักรพรรดิยังมีสภาพสมบูรณ์พร้อมเช่นนี้ อีกฝ่ายกล้าโน้มน้าวเขาเช่นนั้นได้อย่างไร กำลังมองหาความตายอยู่รึไง เจียหมิงหยู ใช้มือของเขาบดขยี้คอของนายพลคนนั้นทันทีจนเขาสิ้นลม
นายพลคนอื่น ๆ ต่างลดศีรษะลงอย่างรวดเร็วและไม่กล้าที่จะพูดอะไรเพิ่มเติมอีก
เจียหมิงหยู นั่งลงบนพื้น เขามองไปที่สนามรบตรงหน้าพร้อมหายใจเข้าลึก ๆ และคำรามออกมา “หยุดเถอะ หยุดสู้ หยุดทำการต่อสู้เดี๋ยวนี้”
ทหารของกองทัพหมาป่าที่กำลังโจมตีหวังยึดลานจัตุรัสซวนวูอย่างดุเดือด เมื่อได้ยินเสียงนั้นพวกเขาก็ได้แต่หยุดลงด้วยความงุนงงแล้ววางอาวุธลง
ในขณะที่กำลังจะชนะ พวกเขากลับตัดสินใจเลือกที่จะล่าถอย
การกบฏครั้งใหญ่ถูกหยุดลงในทันที
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพียงแค่ประโยคเดียวก็เพียงพอ
องค์จักรพรรดิคือความถูกต้อง
……
……
ณ ลานจัตุรัสซวนวู
ร่างกายของหลี่ซวนซงอาบไปด้วยเลือดและหัวใจของเขาก็ค่อยๆจมลงสู่ก้นบึ้ง เขาได้รู้ตัวแล้วว่าแผนการที่ดำเนินการมานานกว่าสิบปีของเขาได้มลายหายกลายเป็นฝุ่นโดยสมบูรณ์
“ทำไมกัน เจ้าควรจะใกล้ตายแล้วไม่ใช่รึไง?” หลี่ซวนซง คำรามอย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์ตอนนี้มันบ้าไปแล้ว
องค์จักรพรรดิกำลังจะตายไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมเขาถึงยังได้มีพลังถึงขนาดนี้กัน
เขาโดนคำสาปของสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิ แล้วยังแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง!
องค์จักรพรรดิแสดงท่าทีอันเฉยเมยและเพิกเฉยคำถามของหลี่ซวนซง
เขาลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ
การต่อสู้นอกลานจัตุรัสซวนวูสงบลงในทันที กองทัพหมาป่าเองก็ได้สงบลงและหยุดการโจมตีของพวกเขา แม้แต่ธงขาวก็ถูกยกขึ้นมา
ทันใดนั้นเองขุนนางคนหนึ่งก็ลุกขึ้นและร้องสรรเสริญเสียงดัง “องค์จักรพรรดิ ทรงพระเจริญ”
ขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็ลุกขึ้นมา ราวกับก่อนหน้านี้พวกเขาเพียงแค่จมอยู่ในความฝัน จากนั้นพวกเขาก็คุกเข่าลงทีละคนแล้วตะโกนพร้อมเพรียงกัน “องค์จักรพรรดิ ทรงพระเจริญ!”
ทุกคนทำตาม ๆ กันโดยไม่มีข้อยกเว้น
องค์จักรพรรดิมองไปที่เหล่าขุนนางแล้วจึงพูดอย่างสงบว่า
“ข้ารักพวกเจ้าไม่ลงจริง ๆ”
“โชคดีจริง ๆ ที่องค์จักรพรรดิสามารถทำลายคำสาปและก้าวหน้าขึ้นไปได้” เหล่าขุนนางต่างแสดงท่าทีเคารพมากขึ้นไปตาม ๆ กัน
“พวกเราทำงานหนักรับใช้ท่านในนามของขุนนางเสมอ”
คนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พวกขุนนางหลายคนต่างตั้งข้อสงสัย
ขุนนางพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ? แค่เลือกที่จะยืนข้างผู้ชนะมันยากตรงไหน? แต่แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าถาม
หลี่ซวนซงที่ล้มลงไปกับพื้นได้แต่มองดูสถานการณ์เหล่านี้ทั้งหมดตรงหน้าเขา หัวใจของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาราวกับได้ยอมรับความตายแล้วเป็นที่เรียบร้อย
คำพูดของบิดาฉายขึ้นมาผ่านความคิดของเขา
“เจ้าไม่เข้าใจ เจ้าไม่เข้าใจหรอกว่า ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน”
“ ตราบใดที่เขายังไม่ตายจักรวรรดินี้ จะเป็นของเขาตลอดไป”
“ ไม่มีใครสามารถช่วงชิงเอาอาณาจักรนี้ไปจากเขาได้”
ปรากฏว่านั่นเป็นเรื่องจริง
ตราบใดที่เขายังไม่ตายก็ไม่มีใครสามารถช่วงชิงอาณาจักรนี้ไปจากเขาได้จริง ๆ
การวางแผนมานานกว่าสิบปีของเขา กลายเป็นเพียงน้ำแข็งและหิมะที่ละลายหายไป
เมื่อความวุ่นวายทางทหารทั้งหมดสงบลง ขุนนางทุกคนก็กลับมาสู่ฝ่ายขององค์จักรพรรดิ