ไหปีศาจ - บทที่ 552 ขุนนางชั้นสูง
บทที่ 552 ขุนนางชั้นสูง
บทที่ 552
ขุนนางชั้นสูง
หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของลั่วอู๋ องค์หญิงเจียโรว ก็ยอมรับความจริงได้ในที่สุด
ปรากฏว่าเรื่องที่ทีฮั๋วเป็นกบฏนั้นไม่เป็นความจริง
เหตุผลที่เขาต้องคุมขังองค์หญิงเจียโรว ก็เพราะเขากังวลว่าองค์หญิงเจียโรวจะเผลอหลุดอาการ และเป็นข้อบกพร่องที่ทำให้ หลี่ซวนซงสงสัย
สิ่งนี้ทำให้ องค์หญิงเจียโรว โกรธมาก
“เจ้าว่า ข้าแสดงได้ไม่ดีงั้นเหรอ?” องค์หญิงเจียโรว ตบโต๊ะด้วยความโกรธ
“นี่มันมากเกินไปนะ เจ้ารู้ไหมว่าการถูกขังอยู่ที่นี่มันทรมานมากแค่ไหน?”
ทีฮั๋ว ก้มหน้าเช่นเดียวกับพ่อวัยเฒ่าที่กำลังถูกลูกสาวดุว่า เขาไม่กล้าโต้กลับจึงได้แต่ฟังคำดุว่าอย่างตรงไปตรงมา
ลั่วอู๋เก็บพยายามเก็บอาการขำ
การที่ทหารองครักษ์เลือดเย็นต้องมาโดนสาวน้อยดุแบบนี้ เห็นได้ชัดว่า ทีฮั๋ว เป็นห่วง องค์หญิงเจียโรว จากใจจริงมากแค่ไหน เขาคงถือว่านางเป็นลูกสาวคนหนึ่งเลยทีเดียว
“อืม ใจเย็น ๆ ก่อน ตอนนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว องค์จักรพรรดิไม่คิดที่จะขังเจ้าไว้ในวังอีกแล้วล่ะ”ลั่วอู๋ กล่าว
องค์หญิงเจียโรว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ที่เจ้าพูดมาก็มีประเด็น ข้าขอออกไปเดินเล่นเลยได้ไหม?”
“แน่นอนสิ” ลั่วอู๋หัวเราะ
องค์หญิงเจียโรว หัวเราะอย่างมีความสุข “เยี่ยมมาก แล้วหงเฉากับฉิงเหมยล่ะ พวกนางควรถูกนำออกมาจากวังอย่างลับๆมาที่นี่เพื่อไม่ให้ข้าเบื่อด้วยซ้ำ”
ทันใดนั้นบรรยากาศก็แข็งทื่อ
ใบหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนดูสลดลงไปในทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” องค์หญิงเจียโรวรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของลั่วอู๋
ลั่วอู๋ถอนหายใจ “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกนาง”
ต่อมาลั่วอู๋ ก็เล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของ หงเฉา และ ฉิงเหมยให้ องค์หญิงเจียโรว ฟัง
ใบหน้าของ องค์หญิงเจียโรว แสดงสีหน้าตกใจอย่างมากจากนั้นก็กลายเป็นความโกรธอย่างรุนแรง “บ้าน่า หงเฉา ฉิงเหมย ได้รับบาดเจ็บสาหัสงั้นเหรอ ?”
“หลี่ซวนซงอยู่ที่ไหนกัน ข้าจะฆ่าเขา!” องค์หญิงเจียโรว กรีดร้อง
ลั่วอู๋ กอด องค์หญิงเจียโรวเอาไว้ เขารู้ดีว่า หงเฉา และ ฉิงเหมย ไม่เพียงแต่เป็นสาวใช้ของ องค์หญิงเจียโรว เท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนเล่นที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก พวกนางจึงมีความรู้สึกผูกพันกันมาก
ปฏิกิริยานี้จึงไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจเท่าไหร่
“ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธมาก แต่หลี่ซวนซงถูกจับไปแล้ว ข้าคิดว่าเขากำลังจะถูกประหารในไม่ช้า และเย่เฟิง ก็ถูกข้าจับขังไว้ในมิติไหแล้วเรียบร้อย หากเจ้าต้องการจะระบายความโกรธ ข้าก็จะไม่หยุดเจ้า แต่อย่าเพิ่งวู่วามไป สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ที่เจ้าต้องสนใจก็คือการรักษาอาการบาดเจ็บของหงเฉา”ลั่วอู๋ กล่าว
องค์หญิงเจียโรว เงยหน้าขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก “ข้าจะรักษานางได้ยังไง?”
“เจ้าจำได้ไหมว่า ผู้ปกครองสูงสุดของพระราชวังเป่ยหมิงเคยบอกพวกเราว่ามีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในอาณาจักรเซียนอมตะโบราณ ซึ่งสามารถชำระล้างแก่นวิญญาณของผู้คนและซ่อมแซมข้อบกพร่องใด ๆ ในแก่นวิญญาณของพวกเขาได้” ลั่วอู๋กล่าว
ดวงตาของ องค์หญิงเจียโรว สว่างขึ้นเล็กน้อย “ใช่”
“พวกเราจะไปตามหาสิ่งนั้นกัน” ลั่วอู๋พูดอย่างจริงจัง
เพราะยังไงซะเขาก็ต้องช่วยเหวินเสี่ยวค้นหาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้น
หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าสู่มิติไห องค์หญิงเจียโรวจึงได้เข้าไปเยี่ยมหงเฉาและฉิงเหมย ไม่มีอะไรผิดปกติกับฉิงเหมย อาการบาดเจ็บของนางนั้นหายดีแล้ว แต่นางก็ยังคงรู้สึกหดหู่มากและคอยอยู่ดูแลหงเฉาในทุก ๆ วัน
“องค์หญิง!” ฉิงเหมยดีใจมากที่พบกับองค์หญิงเจียโรวจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อมองไปที่ หงเฉา องค์หญิงเจียโรว ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา สภาพของหงเฉานั้นแย่มากนางยังคงพูดคำว่า “ช่วยด้วย”, “ได้โปรดช่วยองค์หญิง” และ “บอกองค์จักรพรรดิ” ซ้ำไปซ้ำมา
องค์หญิงเจียโรวอุ้มหงเฉาไว้ในอ้อมแขนของนางและกระซิบ “รอก่อนนะ หงเฉา ข้าจะหาทางรักษาเจ้าให้จงได้ และข้าจะไม่ปล่อยให้คนที่ทำร้ายเจ้าได้อยู่อย่างสบาย ๆ แน่”
“คนที่เรียกว่าเย่เฟิงอยู่ที่ไหน?” องค์หญิงเจียโรว ถามลั่วอู๋ ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร
ลั่วอู๋พาองค์หญิงเจียโรวไปหาเขา
มันเป็นห้องลับที่ซ่อนอยู่ในคฤหาสน์ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังวิญญาณของไหปีศาจ คนข้างในจึงไม่สามารถหนีออกไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากลั่วอู๋ ทีแรกลั่วอู๋ไม่รู้ว่าเขาควรจะยังไงกับห้องลับนี้ แต่ในเมื่อเขาต้องหาทางคุมขังเย่เฟิงเอาไว้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันเอาไว้ใช้ในการคุมขังผู้แข็งแกร่ง
แม้ร่างกายของเย่เฟิงจะเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว แต่เขายังคงสามารถพูดสาปแช่งลั่วอู๋ได้อยู่ “เจ้ารอก่อนเถอะ องค์ชายเล็กจะต้องมาช่วยข้า จากนั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย”
“ยอมแพ้เถอะ องค์ชายของเจ้าล้มเหลวในการก่อกบฏ และตอนนี้เขากำลังถูกคุมขังอยู่ในคุก รอการประหารชีวิต” ลั่วอู๋หัวเราะเยาะ
“ไม่มีทาง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้าเสียให้ยากเลย”
หลี่ซวนซง เป็นความเชื่อสุดท้ายของเย่เฟิง
“เจ้าไม่ต้องเชื่อหรอก” ลั่วอู๋ขี้เกียจเกินไปที่จะพิสูจน์ให้อีกฝ่ายเห็น จากนั้นเขาก็หันไปหาองค์หญิงเจียโรวแล้วพูดว่า “ตามสบายเลย เขาเป็นของเจ้าแล้ว แต่จำไว้ด้วยว่าอย่าหมกมุ่นกับความเกลียดชังเสียล่ะ”
องค์หญิงเจียโรว พยักหน้า “ข้าเข้าใจ”
ทันทีที่เย่เฟิง เห็นเจ้าหญิง องค์หญิงเจียโรว และหัวใจของเขาก็เย็นลง นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมนางยังไม่ถูกจับตัวอีก? ทำไมนางถึงมาที่นี่ได้
อย่างไรก็ตาม องค์หญิงเจียโรวไม่คิดที่จะอธิบายอะไรให้เขาฟัง ปลายนิ้วของ องค์หญิงเจียโรว เต็มไปด้วยพลังวิญญาณพิษหลากหลายสี นางพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายง่าย ๆ แน่ มันสบายเกินไปสำหรับคนแบบเจ้า”
ลั่วอู๋หันหน้าหนีจากห้องลับ
เขาไม่จำเป็นต้องสนใจมันอีกต่อไป
จากนั้นลั่วอู๋ ก็ออกจากมิติไหและกลับมายังสำนักโล่พิทักษ์
ตามที่องค์จักรพรรดิกล่าวไว้ทุกคนได้รับการช่วยเหลือและถูกส่งกลับมายังสำนักโล่พิทักษ์
แต่ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกใจ เหตุการณ์กบฏนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา
“นายน้อย!” ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าลั่วอู๋กลับมาแล้ว ทันทีที่พบลั่วอู๋พวกเขาทุกคนต่างก็ดีใจราวกับว่าได้กระดูกสันหลังคืนมา พวกเขาตื่นเต้นกันมาก
ลั่วอู๋เหลือบมองไปทั่วห้อง “ไม่เป็นไรกันใช่ไหม? มีผู้เสียชีวิตหรือไม่?”
“ทุกคนปลอดภัยดีขอรับ” เสี่ยวชา รายงาน
หลี่หยินรีบออกจากสำนักโล่พิทักษ์และเข้าไปกอดลั่วอู๋อย่างตื่นเต้น ก่อนหน้านี้นางกังวลมากเช่นเดียวกันกับลั่วอู๋ แต่ในขณะนี้ที่นางได้พบเขานางก็รู้สึกโล่งใจ
ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็ทำให้หลี่หยินสงบลง
ทุกคนปล่อยภัยดี ในที่สุดหินก้อนใหญ่ในใจของลั่วอู๋ ก็ถูกโยนออกไป
“ไม่เป็นไร ๆ กลับมาทำงานเพื่ออนาคตของพวกเรากันดีกว่า”ลั่วอู๋ กล่าวด้วยเสียงดัง
ฝูงชนพยักหน้าพร้อมกัน
สำนักโล่พิทักษ์ พร้อมจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
หลังจากเหตุการณ์ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในครั้งนี้ การทำงานร่วมกันของผู้คนในสำนักโล่พิทักษ์ก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น
ทันใดนั้นรถม้าของคนรับใช้จากพระราชวังก็มาที่สำนักโล่พิทักษ์อย่างกะทันหัน
พวกเขาได้นำพระราชกฤษฎีกาติดมือมาด้วย
“ด้วยที่องค์จักรพรรดิกล่าวไว้ว่า ลั่วอู๋นั้นได้มีส่วนช่วยอย่างมากในการช่วยชีวิตคนของท่าน เขาจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นขุนนางชั้นสูง นอกจากนี้องค์จักรพรรดิยังได้มอบทองคำ 1,000 คันรถ และคฤหาสน์หนึ่งหลังในถนนสีเฟิ้ง สำนักโล่พิทักษ์นั้นมีความภักดีและมีส่วนร่วมอย่างมากในการรักษาความสงบเรียบร้อย ตัวร้านค้าจึงสมควรได้รับตำแหน่งพิเศษในฐานะร้านค้าตัวแทนขององค์จักรพรรดิ และสามารถจัดการดูแลอุตสาหกรรมยาวิญญาณของพระราชวังได้ตามสะดวก”
ทุกคนในเมืองหลวงต่างตกตะลึง
อะไรนะ?
มีเพียงนายพลเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในสนามรบมานานกว่าสิบปีและทำผลงานมากมายนับไม่ถ้วนจนร่ำรวยจึงจะได้รับตำแหน่งเดียวกันนี้ ว่ากันว่าในอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายทั้งหมดมีขุนนางชั้นสูงอยู่เพียงแค่ไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ
ตำแหน่งนี้เรียกได้ว่าทัดเทียมกับองค์ชายต่าง ๆ เลยทีเดียว
แค่เห็นตำแหน่งนี้ไม่ว่าใครก็คงต้องตกใจจนนิ่งไปเป็นนาที!
ขุนนางชั้นสูง ของเมืองหลวงของจักรวรรดิ
แค่นั้นยังไม่พอ
สำนักโล่พิทักษ์ยังได้ชื่อว่าเป็นร้านค้าตัวแทนขององค์จักรพรรดิ นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน? สำหรับจักรวรรดิที่เต็มไปด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ร้านค้าตัวแทนขององค์จักรพรรดินั้น เป็นตำแหน่งที่ทำให้มีอำนาจในการควบคุมการซื้อ-ขาย กับทางพระราชวัง มันจึงเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าร้านค้าใหญ่ ๆ ทั่วไปมาก ร้านค้าจำนวนมากต่างหวังว่าตนเองจะได้รับตำแหน่งนี้ น่าเสียดายที่องค์จักรพรรดิยังไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจเท่าไหร่นักเขาจึงปล่อยตำแหน่งนี้ว่างมาตลอด ใครจะไปคิดว่า จู่ๆเขาก็คิดจะริเริ่มเสียอย่างนั้น
เขาประสบความสำเร็จในการกำจัดความวุ่นวายในจักรวรรดิมากถึงเพียงนั้นเลยอย่างงั้นเหรอ?
เนื่องจากทุกคนในสำนักโล่พิทักษ์ต่างถูกจับตัวไปโดยคฤหาสน์องค์ชาย ผลงานจริง ๆ ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพราะฝีมือคนในสำนักโล่พิทักษ์แน่ มันเป็นฝีมือของลั่วอู๋ทั้งหมด
ทุกคนต่างรับรู้ได้ถึงความสามารถของลั่วอู๋ และรู้สึกเคารพเขามากยิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยผลงานจำนวนมากทำให้ลั่วอู๋อยู่ในรายชื่อ บุคคลที่ไม่สามารถยั่วยุได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะหาเรื่องหรือมีปัญหากับเขา ยิ่งด้วยที่ว่าตอนนี้เขามีองค์จักรพรรดิยืนสนับสนุนอยู่ข้างหลัง
ร้านค้าหลายแห่งต่างริเริ่มที่จะแสดงความโปรดปรานของตน ต่อสำนักโล่พิทักษ์ทำให้สำนักโล่พิทักษ์อยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง
ส่วนชื่อของลั่วอู๋เองก็ได้ดังก้องไปทั่วจักรวรรดิ