CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ไหปีศาจ - บทที่ 554 ห้ามกิน

  1. Home
  2. ไหปีศาจ
  3. บทที่ 554 ห้ามกิน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 554 ห้ามกิน

บทที่ 554

ห้ามกิน

ในมิติไห

ลั่วอู๋กำลังประเมินผลกำไรทั้งหมดที่ได้รับมาล่าสุดของเขา

ในการต่อสู้กับเย่เฟิง เขาได้สัมผัสถึงแก่นแท้ของทักษะกลืนกันโดยบังเอิญ และด้วยการที่เขาได้ก้าวเข้าสู่แก่นแท้ทักษะของกลืนกินในครั้งนั้น พอลั่วอู๋ได้เฝ้าดูการต่อสู้อันดุเดือดของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรกับเทพพิทักษ์เวหา และได้รู้สึกถึงลมปราณอันรุนแรงของมัน เขาจึงสามารถเข้าสู่สถานะอันศักดิ์สิทธิ์ ไปถึงลำดับการทำความเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะแห่งการทำลายล้างในที่สุด

ความรู้สึกทั้งสองอย่างในตอนนั้นล้วนเป็นทางเข้าสู่ความเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะ

การเข้าถึงแก่นแท้ของทักษะ สามารถแบ่งขั้นตอนออกได้เป็นห้าขั้นตอนโดยคร่าวๆ ได้แก่ การเริ่มต้น ความเข้าใจเบื้องต้น การหยั่งรู้ ความเชี่ยวชาญ และการเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

แต่ละขั้นตอนมีความแตกต่างกันมาก ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าแตกต่างกันระดับฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้

แต่แก่นแท้ของทักษะนั้นจะมีผลเพียงเล็กน้อยจนกว่าจะถึงขั้น “ความเชี่ยวชาญ”

ยกตัวอย่างเช่นทักษะ ลมหายใจมังกร

ทักษะนี้เกี่ยวพันกับแก่นแท้ทักษะแห่งการทำลายล้าง แต่มันกลับได้รับความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ในขั้นตอนของการเริ่มต้น และความเข้าใจเบื้องต้น

ข้อดีเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือเขาสามารถใช้ความรู้ด้านแก่นแท้ทักษะแห่งการทำลายล้างเพื่อปลดปล่อยการโจมตีที่มีพลังทำลายล้างออกมาได้

เช่นการทำลายแอปเปิลที่วางอยู่โดยไม่ต้องแตะ

ทว่าในการต่อสู้นั้น การเสริมพลังเหล่านี้เรียกได้ว่าเกือบจะเท่ากับศูนย์

แต่มันก็เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า

เขาจำเป็นต้องพึ่งพาทักษะเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

แม้ลมหายใจมังกรจะทรงพลังมาก แต่มันก็สิ้นเปลืองและไม่ยืดหยุ่นเท่าไหร่ ลั่วอู๋ไม่สามารถคาดหวังให้ทักษะลมหายใจมังกรของเขาทำลายศัตรูโดยไม่ทำลายอาคารที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้

ทว่าถ้าหากเขาเข้าถึงแก่นแท้ทักษะลึกซึ้งลงไปมากกว่านี้ เขาก็น่าจะสามารถควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองได้มากขึ้น ทำให้เขาสามารถกำหนดขอบเขตพลังวิญญาณ การใช้ทักษะ และแม้แต่ขอบเขตของการทำลายล้างได้ด้วยตนเอง

เมื่อมีความเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะถึงระดับหนึ่ง มันไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงพลังของทักษะนั้นเป็นอย่างมาก แต่ยังช่วยปลดปล่อยการโจมตีประเภทอื่น ๆ ได้ โดยใช้พลังทำลายล้างนั้นมาเป็นพื้นฐาน

ยกตัวอย่างเช่นการใช้พลังแห่งการทำลายล้างมาสร้างเป็นโล่

แต่แน่นอนว่าคงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้น

แก่นแท้ทักษะแห่งการทำลายล้าง นั้นเป็นพลังวิญญาณสายโจมตีตามชื่อ มันมุ่งเน้นไปที่การเอาชนะอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว จึงไม่เหมาะกับการป้องกัน

เขาจำเป็นต้องเรียนรู้แก่นแท้ทักษะ จากนั้นก็ต้องพยายามก้าวข้ามข้อจำกัดนั้นไปให้ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อจากนี้ลั่วอู๋จะสามารถพัฒนาความสามารถต่อไปได้ตลอดเวลา

แต่เขากลับรั้งเอาไว้

เนื่องจากกระบวนการก้าวหน้าทางมิติวิญญาณนั้นเป็นการพัฒนาตัวตนในระดับสิ่งมีชีวิต มันจึงเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการทำความเข้าใจในตัวตนของตัวเอง

ยิ่งมีแก่นแท้ทักษะมาใช้ร่วมด้วย ผลประโยชน์ที่ได้ก็จะมากขึ้นไปอีก

เพราะแก่นแท้ของพลังวิญญาณเองก็เกี่ยวข้องกับความเข้าใจในแก่นแท้ของทักษะ

พลังวิญญาณของผู้คนนั้นมีจำกัด ผู้ใช้พลังวิญญาณจึงไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของทักษะหลาย ๆ อย่างได้พร้อม ๆ กัน

เมื่อนานมาแล้วมีชายคนหนึ่งที่หยิ่งผยองและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ในตอนที่เขาไปถึงจุดสูงสุดของมิติทองขั้นสูง ในตอนที่เขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเกี่ยวกับแก่นแท้แห่งทักษะวิญญาณทั้งเจ็ดระดับ พวกเขาได้พยายามเรียนรู้แก่นแท้ของทักษะหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน เป็นผลให้ในกระบวนการพัฒนาพวกเขาฟุ้งซ่านมากเกินไป จนไม่ได้อะไรกลับมาเลย

การเข้าใจแก่นแท้ทักษะหนึ่งอย่างให้เชี่ยวชาญนั้นดีกว่าการพยายามเรียนรู้แก่นแท้ของทักษะหนึ่งพันข้อพร้อม ๆ กัน

แก่นแท้ของทักษะนั้นสำคัญที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ

หากสามารถเข้าใจแก่นแท้ของทักษะราว ๆ สามอย่างก็ถือมากเพียงพอแล้ว ดังนั้นลั่วอู๋จึงต้องการเตรียมตัวเองให้พร้อมมากกว่านี้เสียก่อน

“เมื่อไปถึงระดับทองขั้นสูง ข้าก็จะสามารถเปิดครึ่งบนของหอคอยสีขาวได้ ข้าไม่รู้เลยว่ามันจะมีพลังวิญญาณแบบนั้นเก็บเอาไว้อยู่” ลั่วอู๋รู้สึกความคาดหวังกับบางอย่างที่อยู่ข้างบนนั้น

ภารกิจเร่งด่วนในตอนนี้ของเขา คือการเรียนรู้แก่นแท้ของทักษะเชิงเข้าหาศัตรู หรือแก่นแท้ของทักษะมิติเวทมนตร์ ซึ่งมีประโยชน์ในการควบคุมพื้นที่

แต่ทว่าเขายังไม่มีเบาะแส เกี่ยวกับมันแต่อย่างใด

ในขณะนั้นเองก็มีเสียงคำรามต่ำดังมาจากนอกบ้าน

มันเป็นเสียงที่เหมือนกับเสียงร้องของเทพพิทักษ์เวหา แต่พลังวิญญาณของมันนั้นอ่อนแอลงไปกว่าพันเท่า

“ แปลกจัง ข้าไม่ได้สั่งให้ไป่ฉีจัดการควบคุมมันเอาไว้หรอกเหรอ” ลั่วอู๋เดินออกจากห้องฝึกด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เทพพิทักษ์เวหานั้นเหมือนสุนัขตัวเล็กสีแดงที่โกรธทุกสิ่งทุกอย่างไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ด้วยความเร็วของมันที่ช้าเกินไปช้าและความแข็งแรงที่อ่อนแอกว่าเดิมมาก มันจึงไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้

ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงสมกับที่มีชื่อว่าเทพพิทักษ์เวหา

เพราะแม้ว่ามันจะตายไปแล้ว แก่นวิญญาณของมันก็ยังมีพลังที่แข็งแกร่งมาก

“เกิดอะไรขึ้น?” ลั่วอู๋ ถาม

ไป๋ฉีที่อยู่ข้าง ๆ รายงาน “ข้าไม่สามารถระงับควบคุมมันได้ พลังวิญญาณของข้าไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย ต้นกำเนิดแก่นวิญญาณของมันมีระดับสูงเกินไป ข้าจึงทำได้เพียงมาดักจับมันที่นี่”

“ก็นะ…” ลั่วอู๋คิด

ความจริงแล้ว มันเป็นหนึ่งในสามของสัตว์วิญญาณที่แยกออกจากหยู่ ซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิ

อย่างไรก็ตามไม่ว่ามันจะมีต้นกำเนิดแข็งแกร่งแค่ไหน ปล่อยปละละเลยยังไงมันก็ไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ ตอนนี้มันอ่อนแอมาก จนมันไม่สามารถทำร้ายผู้คนที่อยู่ในมิติไหได้ด้วยซ้ำ แม้แต่คนที่มีมิติวิญญาณอ่อนแอที่สุด มันก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้

ลั่วอู๋คิดอยู่พักหนึ่งและเรียกต้าหวงมาหาเขา “ข้าจะมอบหมายให้เจ้าดูแลมันให้ดี จงอย่าปล่อยให้มันหนีออกไปไหนไกลได้ มิติไหนั้นใหญ่เกินกว่าจะหนีออกไปได้ก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ลำบากเกินไปที่ข้าจะไปตามหามันในมิติไห ข้าต้องกลับมาพบมันในตอนที่ข้าต้องการเข้าใจแก่นแท้ของทักษะแห่งการทำลายล้าง ”

หน้าที่หลักของแก่นวิญญาณเทพพิทักษ์เวหาก็คือเป็นตัวแปรที่ช่วยให้เขาเข้าใจแก่นแท้ของทักษะแห่งการทำลายล้าง

ตอนนี้ลั่วอู๋จึงไม่ได้คิดถึงการใช้ประโยชน์อื่น ๆ จากมัน นำไปสังเคราะห์? นำไปสกัด? ลืมมันไปได้เลย นั่นมันโหดร้ายเกินไป

ต้าหวงพยักหน้า

ตวนซี และ เสี่ยวกง ต่างก็มีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นเกินไป พวกมันคงลืมหน้าที่นี้ไปในพริบตาและออกไปเล่นตามใจตนเอง ส่วนผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะนั้นชอบการบินไปบนท้องฟ้ามากกว่า มันจึงไม่ชอบอยู่ในเขตของคฤหาสน์

ตัวเดียวที่มั่นคงพอจะฝากฝังหน้าที่นี้ได้ก็คงจะมีแค่ ต้าหวง?

ต้าหวงแลบลิ้นส่ายหัวส่ายหางจ้องมองไปที่แก่นวิญญาณของเทพพิทักษ์เวหา ราวกับ องครักษ์ที่กำลังจริงจังกับงาน

ด้วยคำสั่งของลั่วอู๋ มันจึงพร้อมที่จะทำงานอย่างตั้งใจ

“เจ้าอย่าได้เผลอกินมันเข้าไปเชียวนะต้าหวง” ลั่วอู๋เตือน

ต้าหวง ดูไร้เดียงสาและกระซิบสองสามครั้ง นายน้อยท่านคิดว่าข้าเป็นสุนัขที่ตะกละขนาดนั้นในสายตาของท่านเลยเหรอ?

ลั่วอู๋ หัวเราะเยาะ “ใครกันที่โลภมาก กลืนกินเลือดของงูยักษ์ จนเกือบจะระเบิดตาย”

ต้าหวงตกอยู่ในที่นั่งลำบากทันที มันมองไปรอบ ๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ใครกัน?

ใครทำ?

เจ้าเหรอ? ตวนซีหรือเปล่า? หรือเจ้าล่ะ เสี่ยวกง เจ้ารึเปล่า?

เสี่ยวกงและผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะมองหน้ากันอย่าง งงงวย

ลั่วอู๋รู้สึกขบขันกับท่าทางของต้าหวง “ก็แล้วแต่เจ้า”

หลังจากนั้นลั่วอู๋ก็กลับไปฝึกซ้อม

แก่นวิญญาณของเทพพิทักษ์เวหาถูกส่งมอบให้กับสัตว์วิญญาณทั้งสี่ โดยแน่นอนว่าต้าหวงเป็นตัวที่จริงจังกับงานนี้ที่สุด

“โฮ่งโฮ่งโฮ่ง” ต้าหวงเห่าสองครั้งพลางมองไปยังเทพพิทักษ์เวหา

สวัสดีเจ้าเป็นสุนัขพันธุ์อะไร?

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพพิทักษ์เวหาก็โกรธและคำรามออกมา “กรร!

ข้าไม่ใช่หมา

“ โฮ่ง!”

แต่เจ้าดูเหมือนสุนัข

“ คำราม!”

อย่าได้เหมารวมข้ากับสิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อยเช่นนั้น

“ โฮ่ง โฮ่ง?”

ต้าหวง ยกอุ้งเท้าขึ้นและตบเทพพิทักษ์เวหา ลงบนพื้น

ตอนนี้ต้าหวงได้ไปถึงมิติวิญญาณระดับทอง มิติ10 แล้ว มันต้องการเพียงแค่โอกาสเล็กน้อย ที่จะช่วยให้มันยกระดับมิติวิญญาณขึ้นไปเท่านั้น เพียงแค่มันฟาดอุ้งเท้าลงไปก็สามารถทำให้หินก้อนใหญ่แตกได้สบาย ๆ

เทพพิทักษ์เวหารู้สึกเวียนหัวก่อนจะล้มลงบนพื้น และยืนขึ้นมาอย่างยากลำบาก

ตอนนี้มันเป็นเพียงวิญญาณที่อ่อนแอ ความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของมันถูกทำลายลงด้วยฝีมือขององค์จักรพรรดิ แม้ว่าแก่นวิญญาณของมันจะยังคงอยู่ดี แต่มันก็ไม่สามารถต่อสู้กับใครได้เลย

ต้าหวง ชำเลืองมองมัน “โฮ่ง โฮ่ง?”

เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น กับสัตว์วิญญาณตัวล่าสุดที่ทำท่าหยิ่งผยองเช่นเจ้า?

(นกโง่ที่บินอยู่บนท้องฟ้า จามออกมาทันทีที่รู้สึกว่ามีใครกล่าวถึงมัน)

เทพพิทักษ์เวหาได้แต่ก้มหัวลงเมื่อต้องเผชิญกับคำขู่ มันเป็นท่าทีเพื่อรักษาชีวิตเมื่อต้องเจอกับตัวตนที่เหนือกว่าตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต

มันรู้สึกได้ถึงการคุกคามจากต้าหวง

อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันเป็นสัตว์วิญญาณที่ดุร้ายในอดีต ความดุร้ายในสายตาของมันจึงยังคงไม่หายไปไหน

ต้าหวงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพลางจ้องมองไปที่เทพพิทักษ์เวหา แล้วเลียริมฝีปากของมัน

มันอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าสิ่งนี้ตรงหน้ามันจะหอมอร่อยเพียงใด

เมื่อเห็นสายตาของต้าหวง เทพพิทักษ์เวหาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านด้วยความกลัว

เจ้าหมาตัวนี้เป็นสัตว์วิญญาณอะไรกันแน่?

ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนถูกคุกคามกดดันไปทั้งแก่นวิญญาณได้กัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ต้าหวง กลอกตาของมันพลางนึกเสียใจ น่าเสียดายที่นายน้อยไม่อนุญาตให้มันกินอีกฝ่าย เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องลืม ๆ ไปก่อน มันจะยังไม่กินเทพพิทักษ์เวหาในตอนนี้

หลังจากนั้นแรงกดดันที่เทพพิทักษ์เวหารู้สึกก็หายไปในพริบตา

ตอนนี้มันจึงมันสับสนโดยสมบูรณ์

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 554 ห้ามกิน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์