ไหปีศาจ - บทที่ 565 ต้นกำเนิดของมีดวิญญาณ
บทที่ 565 ต้นกำเนิดของมีดวิญญาณ
บทที่ 565
ต้นกำเนิดของมีดวิญญาณ
หลินกุยจ้องมองไปที่ผู้บัญชาการหลิงหลง
เขาเป็นโจร ส่วนผู้บัญชาการหลิงหลงเป็นทหาร จุดยืนโดยกำเนิดของพวกเขาไม่สามารถเข้ากันได้
ว่ากันว่าหน่วยสยบมังกรชื่นชอบการล้อมตีโจรภูเขาเมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่เขาออกจากภูเขาเทียนหวัง โจรภูเขาคนอื่น ๆ ก็เกือบจะถูกกวาดล้างสิ้น รายต่อไปอาจเป็นฐานที่มั่นตงเทียนก็ได้
มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ แต่หลินกุยไม่ขวัญเสีย
ผู้บัญชาการหลิงหลงรู้สึกได้ถึงดวงตาของหลินกุยและกล่าวอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ไปตีหมู่บ้านตงเทียนของเจ้าหรอก อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ใช่คนที่สร้างปัญหา เพราะการมีอยู่ของหมู่บ้านตงเทียน กฎหมายและความเรียบร้อยของ เขตหลิงเป่ยจึงดีกว่าที่อื่น ข้าไม่มีเหตุผลที่จะไปล้อมหมู่บ้าน ตงเทียนของเจ้าหรอก”
ดวงตาของหลินกุยกะพริบเล็กน้อยและลดความระมัดระวังลง
“เจ้ารู้ที่มาของแปดมีดวิญญาณไหม?” หลินกุยถาม
เขาก็ได้มีดนี้มาโดยบังเอิญเช่นกัน เขาไม่รู้ที่มาของมัน แม้ว่าจะเป็นอาวุธที่มีชื่อเสียงและมีจิตวิญญาณ แต่เขาก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามันสร้างขึ้นมาได้อย่างไร
ปากของผู้บัญชาการหลิงหลงขยับขึ้นเล็กน้อย “ข้าได้ศึกษาหนังสือโบราณเกี่ยวกับอาวุธที่มีชื่อเสียงมานับไม่ถ้วน ข้าต้องการเลือกอาวุธที่เหมาะสมกับข้าที่สุดจากในนั้น แล้วออกตามหามัน แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่พบมัน ข้าก็ได้เห็นบันทึกเกี่ยวกับแปดมีดวิญญาณอยู่เหมือนกัน”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ลั่วอู๋ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ผู้บัญชาการหลิงหลง
ไม่น่าแปลกใจที่นางให้ความสนใจอย่างมากกับดาบเลือดเดือด
ดาบเลือดเดือดสามารถพัฒนาได้อย่างอิสระและรูปแบบสุดท้ายของมันที่ต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของตัวดาบเองและเจ้าของดาบ
กล่าวได้ว่าหลังจากดาบเลือดเดือดได้พัฒนาไปสู่รูปแบบสุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นดาบที่เหมาะกับผู้บัญชาการหลิงหลงอย่างสมบูรณ์แบบ
ผู้บัญชาการหลิงหลงกล่าวต่อว่า “มีดวิญญาณทั้งแปดถูกสร้างขึ้นโดยอัจฉริยะด้านการตีดาบเมื่อกว่า 30,000 ปีก่อน ชื่อของเขาคือชี่และเขาเป็นคนที่หยิ่งทะนงและภาคภูมิ โลกนั้นรักดาบและผู้ที่เก่งในการสร้างดาบ อย่างไรก็ตามเขาชอบแค่การตีดาบเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นดาบทั้งหมดที่ตีขึ้นมีลักษณะที่ชั่วร้ายซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ใช้ได้ง่าย ดังนั้นเขาจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนในสมัยนั้นอย่างหนัก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของหลินกุยก็กะพริบ แต่เขาไม่ตอบ
“แต่คนบ้ามักไม่สนใจคำใคร เขาถึงขั้นประกาศว่าเขาต้องการสร้างอาวุธที่ไม่มีใครในโลกสามารถควบคุมได้” ผู้บัญชาการหลิงหลงกล่าวอย่างใจเย็น “เนื่องจากไม่มีใครสามารถใช้มันได้ แล้วความสำคัญของการมีอยู่ของอาวุธชิ้นนั้นคืออะไร คำพูดที่ดุร้ายเช่นนี้ถูกชาวโลกเยาะเย้ยโดยธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกปล่อยให้อยู่ในความหนาวเย็นและไม่มีใครขอให้เขาสร้างอาวุธให้ ในระหว่างการมองหาวัตถุดิบล้ำค่าและสมบัติหายาก เขาค่อย ๆ สูญเสียความมั่งคั่งและสิ้นเนื้อประดาตัว
“ด้วยเหตุนี้เขาจึงบิดเบี้ยวและคลั่งในการสร้างอาวุธมากขึ้นในที่สุดเขาก็สร้างมีดที่น่าทึ่งด้วยวัสดุหายากนับไม่ถ้วน”
“น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่ามีดจะดี แต่ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่เขาพูดไว้ว่าจะไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้ ที่จริงมีคนจำนวนมากที่สามารถควบคุมมันได้ เพราะมีดที่มีชื่อเสียงนี้เพิ่งตีขึ้นใหม่และมันยังไม่ทันมีจิตวิญญาณแล้วมันจะเลือกนายได้ยังไง?”
“จิตใจของชี่ที่ปกติก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว เขาก็ไม่สามารถยอมรับผลได้ เขากลายเป็นบ้าและบุกเข้าไปในถ้ำหยินด้วยมีดนั้น”
“ไม่มีใครคิดว่าชี่ยังคงเป็นนักรบที่มีอยู่จุดสูงสุดของระดับทองขั้นสูง เขาตรงเข้าไปและฆ่าผีอย่างไม่ปรานี ผลลัพธ์ที่ได้คือฆ่าราชาผีไป 7 คนใครจะคิดได้ว่าในเวลานั้นชี่ได้ทะลุขีดจำกัดและก้าวเข้าสู่ระดับเพชรที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด”
“ดังนั้นเขาจึงต่อสู้กับราชาผีทั้งเจ็ดด้วยมีดนั่น ดูเหมือนว่ามีดนี้มีความสามารถพิเศษในการสะกดวิญญาณแม้แต่ชี่ก็สู้ได้อย่างสูสีกับราชาผีทั้งเจ็ด”
“ในที่สุดเขาก็สามารถสังหารราชาผีเจ็ดตนได้สำเร็จ แน่นอนว่าเขาก็กำลังจะตายตาม มีดได้ดูดกลืนราชาผีทั้งเจ็ดเข้าไป ในหมู่พวกนั้นวิญญาณที่ดุร้ายมากก็ถือกำเนิดขึ้น จิตวิญญาณของอาวุธนั้นดุร้ายมาก อานุภาพของดาบสะท้านฟ้า แต่น่าเสียดายที่เขาพบว่ามีดนี้เต็มใจที่จะยอมจำนนกับตัวเขา
“นั่นเป็นเรื่องแน่”
“เขาสร้างมีดนี้ขึ้นมาและเอาต้นกำเนิดราชาผีมาเป็นแม่แบบของจิตวิญญาณ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งสุดขีด เขาต้องการเทียบให้ได้กับมีดที่ดุร้ายในแง่ของความดุร้าย และโดยปกติมีดนี้ก็นี้ถือว่าเขาเป็นเจ้านายของมันดังนั้นในที่สุด…”
ผู้บัญชาการหลิงหลงหยุดพูดและสายตาของนางจับจ้องไปที่มีดวิญญาณ
มีดวิญญาณดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผู้บัญชาการหลิงหลงและมันเริ่มส่งบรรยากาศที่ดุร้ายราวกับว่ามันพร้อมที่จะฆ่าได้ทุกเมื่อ
หลินกุยขมวดคิ้วและลูบใบมีดอย่างสงบและสะกดความดุร้ายลง
เห็นได้ว่าเข้าควบคุมมีดนี้ได้เป็นอย่างดี
ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นในท้ายที่สุด?”
“ชี่หวังจะสร้างมีดที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แต่ตอนนี้เขากลับได้เป็นผู้ควบคุมมัน และเขาไม่สามารถยอมรับมันได้” ผู้บัญชาการหลิงหลงกล่าวอย่างช้า ๆ “ในที่สุดชี่ก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายด้วยมีดซึ่งกลายเป็นการสังเวยครั้งสุดท้ายให้มีดนี้และมีดที่ดุร้ายน่ากลัวนี้ก็เกิดขึ้นมา”
เสียงของผู้บัญชาการหลิงหลงที่กระจายอยู่เหนือห้องโถงของคฤหาสน์ฉูทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเย็น
คนคน นี้มันบ้าคลั่งจริง ๆ
หลินกุยแตะมีดผีในมือของเขาและคิดในใจ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีประวัติเช่นนี้
แต่ในขณะนั้น จู่ ๆ ผู้บัญชาการหลิงหลงก็หัวเราะ “แน่นอนมันไม่ได้ลึกลับขนาดนั้นเพียงแค่ดูดซับต้นกำเนิดของราชาผีแปดตน มันเป็นมีดที่ดี แต่ก็ไม่ได้มีพลังมากถึงขนาดที่ไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้ ก็แค่เจ้าต้องระวังให้ดี อย่าให้โดนผลกระทบของมีดนี้เข้า”
หลินกุยไม่แสดงสีหน้า เขาก้มหน้าเล็กน้อย “ขอบเจ้าสำหรับคำแนะนำของเจ้า”
“ด้วยความยินดี ข้าก็ไม่ต้องการให้คนที่มีศักยภาพถูกมีดดุร้ายนี่กลืนกิน” ผู้บัญชาการหลิงหลงกล่าวเบา ๆ
ในสายตาของนาง
หลินกุยเป็นเพียงคนที่มีศักยภาพ
นี่ออกจะดูหยิ่งไปเล็กน้อย แต่หลินกุยก็ไม่ได้พูดอะไร
ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย “แล้วทำไมมันถึงร้อนรนจะเข้าไปในสุสานของราชาผีถึงขนาดนี้ มันสามารถกลืนกินราชาผีเพื่อยกระดับได้งั้นรึ?”
“จะมีอะไรดี ๆ แบบนี้ได้ที่ไหน? ทำไมถึงคิดว่าจะมีแต่อาวุธแบบนั้น?” ผู้บัญชาการหลิงหลงส่ายหัว “ต้นกำเนิดของราชาผีน่าเป็นยาบำรุงชั้นยอดสำหรับมัน วิญญาณชั่วร้ายสามารถหล่อเลี้ยงมันและเพิ่มพลังขึ้นมาได้บ้าง อาจจะทำแบบนั้นได้ แต่การเลื่อนขั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”
มีดวิญญาณเป็นมีดที่มีชื่อเสียงในโลก เทียบได้กับสิบยอดดาบของโลก ถ้ามันสามารถเลื่อนระดับได้มัน มันจะไม่เกินกว่ายอดดาบพวกนั้นหรือ?
ลั่วอู๋ก็คิดแบบนี้
“เอาล่ะ เลิกคุยเรื่องนี้แล้วไปกันเถอะ” ผู้บัญชาการ หลิงหลงกล่าวอย่างเงียบ ๆ ว่า “ข้าไม่ต้องการเสียเวลามากเกินไป”
ลั่วอู๋พยักหน้า
ถึงเวลาต้องรีบจริง ๆ เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่เขาเข้ามาในสุสานของราชาผีครั้งสุดท้าย แม้ว่าชีวิตของท่านหญิงหยู่จะไม่ตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีที่จะให้นางถูกสะกดไว้
การเดินทางครั้งนี้มีแค่ห้าคน
ฉูจงฉวนแน่ใจว่าจะไปด้วย แต่หลินยูหลันถูกทิ้งให้อยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู
ในเวลานี้ฉูจานเทียนถามด้วยเสียงต่ำ “ลั่วอู๋ ท่าทางผู้บัญชาการหลิงหลงดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ เจ้ามีปัญหาอะไรกันระหว่างทางรึเปล่า?”
“ไม่มีปัญหานี่ ท่าทางมันมีอะไรผิดปกติด้วยรึ?” ลั่วอู๋ตอบ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าท่าทางของผู้บัญชาการหลิงหลงเริ่มจะเหมือนจักรพรรดิจอมสังหารแล้ว
“มีแน่นอน” ฉูจานเทียนพูดอย่างจริงจัง “สิ่งที่ข้าเข้าใจคือแก่นแท้แห่งความตายดังนั้นข้าจึงรับรู้ความรู้สึกเชิงนี้ได้ดีกว่าเดิม ในร่างของผู้บัญชาการหลิงหลงข้ารู้สึกถึงจิตสังหารที่น่ากลัวมาก
ลั่วอู๋ตกใจมาก
มันเป็นไปไม่ได้!
“อย่าเข้าใกล้นางมากเกินไป” ลั่วอู๋ยิ้มอย่างฝืด ๆ “ข้าไม่รู้อะไรละเอียดหรอกแล้วก็ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระด้วย”
พวกเขาอยู่ห่างออกไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้บัญชาการหลิงหลงที่อยู่ในความโกรธซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคน