ไหปีศาจ - บทที่ 591 โอกาสของหลี่หยิน
บทที่ 591 โอกาสของหลี่หยิน
บทที่ 591
โอกาสของหลี่หยิน
ลั่วอู๋เชื่อมต่อกับสำนักโล่พิทักษ์ผ่านชิ่งมิติอื่นและส่งแร่วิญญาณส่วนใหญ่กลับไป
แน่นอนลั่วอู๋ทิ้งส่วนหนึ่งไว้
ในหมู่พวกนั้นมีแร่วิญญาณหายากจำนวนมาก ซึ่งลั่วอู๋เคยเห็นแค่จากหนังสือเท่านั้น แต่ยังไม่เคยได้สัมผัสพวกมันจริงๆ แน่นอนว่าพวกมันจะถูกทิ้งไว้ แต่ทุกสิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ไม่สามารถหนีพ้นสามขั้นตอนการสกัด การวิเคราะห์ และการสังเคราะห์ของลั่วอู๋ได้ซึ่งแทบจะทำให้คุณค่าของบางอย่างพุ่งสูงขึ้นมาก
สำนักโล่พิทักษ์ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และส่งอาหาร อาวุธ และยาจำนวนมากมา
มีของสำหรับการรักษาและฝึกฝนทั้งหมด
ลั่วอู๋ส่งจดหมายกลับไปที่แซคว่า ข้อตกลงนั้นยังคงดำเนินต่อไป
เขาไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก แต่ด้วยปริมาณอาหาร อาวุธ และยาที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ก็ถือว่ามันเป็นค่าตอบแทนเล็กน้อย
มีแร่วิญญาณจำนวนมากซึ่งถือเป็นข่าวดี
อย่างไรก็ตามเรื่องของอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะนั้นยังไม่จบ ซึ่งทำให้ลั่วอู๋รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เขาต้องไปที่นั่น แต่ไม่ใช่แค่เพื่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
ฉูจงฉวนเป็นระดับทองขั้นสูงแล้วและยังไม่มีสัตว์วิญญาณตัวที่สี่
ไม่เพียงแค่นั้นหลินยูหลัน หลี่หยิน เจียโรว และ เหวินเสี่ยวก็กำลังเข้าใกล้ระดับทองขั้นสูงมากขึ้นแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องคิดเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณของแต่ล่ะคน
เป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับสัตว์วิญญาณที่ทรงพลัง
ยิ่งมีศักยภาพสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งหายากเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าสัตว์วิญญาณระดับเพชรนั้นสำคัญ หากบอกว่ามีสัตว์วิญญาณระดับเพรชในสถานที่แห่งหนึ่ง ภายในครึ่งวันสถานที่แห่งนั้นจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่แข็งแกร่งจากทั่วประเทศ
แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ต้องการ แต่ก็ยังดีที่จะเก็บไว้ให้คนรุ่นต่อไป หากขายมันไม่ได้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนมันเป็นสมบัติที่ต้องการได้
ดินแดนโบราณหมื่นอมตะเป็นช่างเป็นสถานที่ที่น่าไปจริง ๆ
เพราะมันเต็มไปด้วยภูตไม่มีใครอื่น
“หลี่หยินออกไปกับข้าหน่อย” ลั่วอู๋ตะโกนเรียก
“ค่ะ นายน้อย” หลี่หยินตามมา
ลั่วอู๋กับหลี่หยินมาที่คฤหาสน์หวู่หยู่ ผู้จัดการร้านยังคงเป็นคนขี้เกียจที่มีจมูกงุ้ม
ชายจมูกนกอินทรีนอนอยู่บนเก้าอี้แสนสบายด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย เขาเห็นลั่วอู๋และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ แขกผู้หายาก ข้าไม่ได้เจอเจ้ามานานแล้ว”
ลั่วอู๋น่าจะเป็นศิษย์ที่มีค่าที่สุดในชั้นเรียนนี้ เป็นปกติที่เขาจะรู้สึกประทับใจอย่างมาก
“เจ้าของร้าน ไม่ต้องสุภาพหรอก พอจะมีอะไรที่จะช่วยให้เข้าใจแก่นแท้แห่งมิติได้ไหม?” ลั่วอู๋ถามตรงประเด็น
เจ้าของร้านยิ้มแย้ม “แน่นอน หินมิติล้านแต้มไงล่ะ”
ลั่วอู๋ตะลึง
เขาเคยถามราคาของหินมิติแล้ว และเพราะมันแพงเกินไปเขาเลยไม่ได้ซื้อมัน
เขาไม่คิดเลยว่าหินมิติจะช่วยให้เข้าใจแก่นแท้ของมิติได้
หลังจากนั้นลั่วอู๋ก็หยิบแหวนวิญญาณของราชวงศ์ออกมา “ในนี้มีแร่วิญญาณหายาก 17 ชนิดรวม 5800 ชิ้นเจ้านี่แลกได้กี่แต้ม?”
ลั่วอู๋นำแร่วิญญาณส่วนเล็ก ๆ ไปแลกเป็นแต้ม
เจ้าของร้านเปิดแหวนวิญญาณของราชวงศ์ดูและประหลาดใจ “นี่มัน…ไม่เยอะไปหน่อยรึ? เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้ไปปล้นคลังแร่วิญญาณของพวกมีอำนาจมาน่ะ?”
มีแร่วิญญาณหายากมากมายที่ตระกูลธรรมดาไม่สามารถหามาได้
“นับแต้มมาเถอะ” แทนที่จะตอบลั่วอู๋กลับเร่งแทน
เจ้าของร้านก็ไม่ถามต่อ ก้มหน้าและครุ่นคิดสักครู่ และให้คำตอบ “2.13 ล้านแต้ม”
แต้มของสำนักเฉียนหลงนั้นมีค่ามาก
“งั้นขอหินมิติให้ข้าสองก้อน” ลั่วอู๋กล่าว
เจ้าของร้านยักไหล่ “โทษทีนะ หินมิติมีเพียงก้อนเดียว”
“เป็นไปได้ไงที่คฤหาสน์หวู่หยู่จะมีมันแค่ก้อนเดียว” ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
เจ้าของร้านตอบว่า “หนึ่งล้านแต้มเป็นราคาสำหรับคนใน ข้าขายให้ศิษย์เช่นเจ้าอย่างขาดทุนเลยนะ แถมมันก็ยังขาดตลาดด้วย เจ้าโชคดีแล้วที่เหลืออันสุดท้ายพอดี”
หินมิตินั้นล้ำค่า
แทบจะตีราคาไม่ได้เลย
และโชคดีที่เราสามารถซื้อมันได้
“มันจะมีอีกเมื่อไหร่? เก็บไว้ให้ข้าหน่อยได้ไหม?” ลั่วอู๋ถาม
เจ้าของร้านหันมามองแล้วพูดว่า “ไม่ไหวหรอก จะซื้อได้ไม่ได้ก็แล้วแต่โชคช่วย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บไว้ให้เจ้า อย่าหวังมากเลย”
“ก็ได้” ลั่วอู๋ถามต่อ “แล้วมีอะไรอีกที่ช่วยให้เข้าใจแก่นแท้แห่งมิติได้?”
“ของแบบนี้มีน้อย แต่ก็ยังพอมี น้ำแข็งแห่งความว่างเปล่าที่เกิดในความว่างเปล่าไง การสวมใส่มันจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจแก่นแท้แห่งมิติได้ถึง 10% แต่ยังไม่รู้ผลวิเศษอื่น ๆ นะ” เจ้าของร้านหยิบหินก้อนเล็ก ๆ ออกมา
อย่าดูถูกประสิทธิภาพ 10% มันถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่ง
ก้อนกรวดนั้นเรียบเนียนราวกับก้อนกรวดข้างลำธาร มันมืดและสว่างไปทั่ว แต่ก็โปร่งใสอย่างบอกไม่ถูก แสงจะส่องผ่านก้อนหินเล็ก ๆ นี้ได้
มืดและโปร่งใส?
น่าสนใจเล็กน้อย
ลั่วอู๋ได้มาในราคาเจ็ดแสนแต้ม
“ข้าให้เจ้าหลี่หยิน” ลั่วอู๋หันไปและมอบน้ำแข็งแห่งความว่างเปล่าและหินมิติให้กับหลี่หยิน
“นี่มันแพงเกินไปนะ” นางกระซิบ
“ฮ่า ฮ่า ไม่รู้รึว่านายน้อยของเจ้าตอนนี้รวยแค่ไหนน่ะ?” ลั่วอู๋หัวเราะจับมือหลี่หยินแล้วพูดว่า “การประหยัดเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีเงินแล้วไม่ใช้มันเสียบ้างคงถูกฟ้าผ่าตาย”
หลี่หยินพยักหน้าและรับหินสองก้อนนี้ไป
นางต้องการมันทั้งคู่
หินมิติไม่มีพิกัด หลังจากตั้งพิกัดแล้วพลังมิติที่มีอยู่ภายในจะตายตัว และจะไม่สามารถเสริมความเข้าใจแก่นแท้ได้
“มาเถอะไปที่คฤหาสน์สุตรากัน ข้าต้องตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะ บางทีข้าอาจจะหาวิธีอื่นในการเข้าสู่อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะได้” ลั่วอู๋กล่าว
พวกเขาจึงไปที่คฤหาสน์สุตรา
ยามของคฤหาสน์สุตรายังคงเป็นชายชราที่ดูเหมือนว่าเขาจะตายได้ทุกเมื่อ
ลั่วอู๋ยังกลัวที่จะพูดเสียงดังเกินไปและทำให้เขาตกใจตาย
หลังจากจ่ายแต้มไปแล้วลั่วอู๋ก็ไปที่คฤหาสน์สุตรา
ไม่จำเป็นต้องมีหลี่หยินเพื่อช่วยค้นข้อมูล มีคนจำนวนมากในไหมาช่วยค้นหาแล้ว ดังนั้นหลี่หยินจึงรออยู่ที่ประตู
นางถือหินมิติไว้ในมือซ้ายและถือน้ำแข็งแห่งความว่างเปล่าไว้ในมือขวา นางหลับตาและเข้าสู่สมาธิ นางรู้สึกถึงความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับมิติจริง ๆ
ความเข้าใจนี้เป็นดังเช่นความชุ่มชื้นของสายฝนในฤดูใบไม้ผลิ ผสานเข้ากับจิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของหลี่หยินอย่างอ่อนโยน
“สาวน้อย ข้าจำเจ้าได้” เสียงแก่ ๆ ดังขึ้น
หลี่หยินลืมตาขึ้นและมองหาอย่างอยากรู้อยากเห็น ผู้พูดก็คือชายชราป่วยที่เฝ้าคฤหาสน์สุตรา
ดวงตาของชายชราเต็มไปด้วยความพร่ามัวและเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน แต่เขาจ้องมองไปที่หลี่หยิน
“ผู้เฒ่า มีอะไรให้ข้าช่วยหรือเปล่าเจ้าคะ?” หลี่หยิน กระซิบ
ชายชราลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าจำได้ว่าเจ้าเลือกหนังสือทักษะที่แปลกมาก มันชื่อปณิธานของฝันร้ายที่ยิ่งใหญ่ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”
ชายชราดูจะไม่มั่นคงเล็กน้อย มือเหี่ยวย่นของเขาถูไปมา “สัตว์วิญญาณที่สามของเจ้ามันเป็นฝันร้ายใช่ไหม?”
หลี่หยินก้าวถอยหลังด้วยความระมัดระวัง
ข้าไม่ได้เรียกฝันร้ายออกเลย
แล้วชายชราคนนี้รู้ได้อย่างไร?