ไหปีศาจ - บทที่ 624 ทำให้ตกใจอยู่เรื่อย
บทที่ 624 ทำให้ตกใจอยู่เรื่อย
บทที่ 624
ทำให้ตกใจอยู่เรื่อย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครทันได้ตั้งตัว
ลั่วอู๋ถามอย่างรีบร้อน “นกอมตะ มันเป็นนกวิญญาณแบบไหนกัน?”
แม้ว่าลั่วอู๋จะอ่านหนังสือมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้รอบรู้ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง
หลินยูหลันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่ข้าเห็นในหนังสือโบราณ ว่ากันว่าแม้จะมีนกวิญญาณที่เป็นระดับจักรพรรดิมากกว่าหนึ่งตัว แต่มีเพียงนกอมตะเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าราชาแห่งนกด้วยเหตุผลบางอย่าง”
“ในสมัยโบราณนกวิญญาณนั้นเป็นสัตว์วิญญาณที่อ่อนแอมาก นอกเหนือจากความสามารถในการบินแล้วด้านอื่น ๆ ไม่สามารถทัดเทียมกับสัตว์วิญญาณอื่น ๆ ได้เลย ยากดังนั้นพวกมันจึงถูกล่าเป็นอาหารอยู่เสมอ ๆ ตอนนั้นเองสัตว์วิญญาณที่ชื่อว่า นกอมตะ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น มันสวยงามและทรงพลัง ทำหน้าที่คอยปกป้องเผ่าพันธุ์ของมัน มันได้ทุ่มเทพลังวิญญาณทั้งหมดของมันออกไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับนกวิญญาณทุกตัว ”
“ แต่แล้วนกอมตะก็ได้ตายลงเนื่องจากความอ่อนเพลีย”
“เหล่านกวิญญาณต่างรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของนกอมตะ ดังนั้นพวกมันจึงเลือกที่จะโฉบลงมาที่พื้นและคุกเข่าลงไปที่ร่างของนกอมตะ”
“นี่คือเรื่องราวที่เหล่านกนับร้อย ได้ให้กำเนิดนกอมตะที่แท้จริง”
“ใครจะไปคาดคิดว่าพลังแห่งศรัทธาของเหล่านกวิญญาณที่ได้รวมตัวกันในตอนนั้น จะกลายเป็นสสารและรวมเข้ากับร่างของนกอมตะ สร้างไฟแห่งนิพพานขึ้นบนร่างของมัน ทำให้จากนั้นนกอมตะก็เกิดขึ้นมาใหม่ ฟื้นคืนชีพและมีพลังมากขึ้น”
“หลังจากเหตุการณ์นี้นกอมตะจึงได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งนก ไม่เพียงเพราะความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความดีความชอบอีกด้วย”
“ว่ากันว่านกอมตะมีประสบการณ์ในการเกิดใหม่ทั้งหมด 5 ครั้ง ยกเว้นตัวแรกหลังจากที่ตายไปแล้ว แต่ละครั้งจะมีร่างกายใหม่เกิดขึ้นเป็นสีต่าง ๆ สีแดง สีเหลือง สีเขียว สีม่วง สีขาว พวกมันล้วนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ของนกอมตะ ”
“ในความเป็นจริงพวกมันทั้งหมด มีแก่นวิญญาณเดียวกัน ซึ่งเทียบเท่ากับการครอบงำจิตสำนึก พวกมันไม่ได้เป็นเพียงห้าตัวตนที่แตกต่างกัน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของนกอมตะด้วย”
“ถ้านกอมตะทั้งห้าได้มารวมตัวกันมันจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาคู่ต่อสู้มาเทียบเคียงกับมัน เนื่องจากวิญญาณระดับจักรพรรดิ 5 ร่างรวมเป็นหนึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะมีผู้ทัดเทียม”
หลินยูหลันพูดจบ ฝูงชนก็ตกตะลึง
มีตำนานเช่นนี้อยู่ด้วย
ใจของลั่วอู๋ขยับด้วยความคาดหวัง ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะค่อนข้างคล้ายกับเหวินเสี่ยว แต่ก็ไม่ได้เชื่อมโยงกันซะทีเดียว เขาอดไม่ได้ที่จะถาม “แก่นแท้แห่งชีวิต จะทำให้เกิดนกอมตะ?”
หลินยูหลัน พยักหน้า “ใช่แล้ว มันควรเป็นเช่นนั้น”
สภาวะแห่งความเชี่ยวชาญแก่นแท้ทักษะ เป็นสิ่งที่จะบรรลุได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจแก่นแท้ทักษะระดับสูงสุดเท่านั้น
ในฐานะที่แก่นแท้ทักษะแห่งชีวิต เป็นหนึ่งในแก่นแท้ทักษะที่ทรงพลังที่สุด จึงกล่าวกันว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะถูกฆ่าเมื่อไปถึงระดับนั้นในความเข้าใจแก่นแท้แห่งชีวิต แน่นอนว่ามันยังมีการแบ่งแยกย่อยในมิติวิญญาณอีก แต่ไม่จำเป็นจะต้องกล่าวถึงในที่นี้
นกหน้าโง่มองไปที่ฝูงชน
“ นกนับร้อย จะก่อให้เกิดนกอมตะ” ลั่วอู๋พึมพำกับตัวเอง
นกโง่ตัวนี้มีศักยภาพพอที่จะเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานได้ จริง ๆ หรือ?
ตอนนี้นกโง่ถูกปกคลุมด้วยชั้นของแสงสีขาว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพลังแห่งศรัทธา ฉากในตำนานที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นในขณะนี้
แน่นอนว่าจำนวนนกวิญญาณในปัจจุบัน นั้นน้อยกว่าในตำนานของเหล่านกวิญญาณที่ก่อให้เกิดนกอมตะ
นับเป็นปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้ ที่นกอมตะดั้งเดิมถูกเปลี่ยนด้วยพลังเป็นเพลิงนิพพานจากพลังวิญญาณแห่งศรัทธา มันอาบไฟนิพพานจนสามารถควบคุม เปลวเพลิงนิพพานได้อย่างสมบูรณ์
นกโง่ไม่มีโอกาสหรือความสามารถนั้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากเหตุการณ์นี้
แน่นอนว่าภายใต้การชำระล้างล้างบาปจากแสงสีขาว ร่างของนกโง่นั้นค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ ร่างของมันบานสะพรั่งเปล่งแสงสีขาวพราวอีกครั้ง
ท่านหญิงหยู่ส่ายหัวด้วยความรู้สึกตกใจ “ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่คิดเลยว่าการวิวัฒนาการจะสามารถดำเนินต่อไปได้หลังจากที่ล้มเหลวไปแล้ว”
“ท่านกำลังหมายความว่ามันกำลังเริ่มวิวัฒนาการอีกครั้งใช่ไหม?” ลั่วอู๋ถาม
ท่านหญิงหยู่พยักหน้า
พลังแห่งศรัทธากลายเป็นแหล่งพลังวิญญาณสู่การวิวัฒนาการและกระตุ้นแก่นวิญญาณของมันอีกครั้งให้ก้าวหน้าต่อไป แน่นอนว่าคราวนี้มันไม่ใช่การต่อสู้ของนกโง่เพียงคนเดียวอีกแล้ว
เจตจำนงของนกวิญญาณจำนวนมากได้มารวมตัวกันด้วยพลังแห่งศรัทธาต่อสู้ไปด้วยกัน
นกโง่ส่งเสียงยาวโหยหวน ราวกับกำลังแสดงอำนาจการปกครองของจักรพรรดิ กลุ่มนกวิญญาณต่างก้มศีรษะและส่งพลังวิญญาณไปยังราชาของพวกมัน
ต้องบอกว่านกโง่ฝึกลูกน้องได้ดีจริง ๆ
เมื่อแสงสว่างเริ่มจ้าขึ้นและแรงขึ้น ท่านหญิงหยู่ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ นางจึงถอยห่างออกไป จากนั้นทุกคนก็ได้เห็นฉากอันน่าอัศจรรย์
ในที่สุดแสงสีขาวก็ค่อยๆมาบรรจบกัน
คราวนี้มันไม่ได้มืดมิดอีกแล้ว แต่กลับเข้ามาหลอมรวมอยู่ในร่างของเจ้านกโง่อย่างสมบูรณ์
“แกว๊ก”
นกโง่คำรามขึ้นไปบนฟ้าและกลิ่นอายของมิติวิญญาณระดับทองขั้นสูงอันน่ากลัวกำลังเบ่งบานอย่างป่าเถื่อน มันรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ชูคอขึ้นมา เหมือนผู้ไร้เทียมทาน
ปริมาณพลังวิญญาณของมันกลับมาเป็นปกติ ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเพียงสองเท่า ปีกสีขาวกว้างและหนาแผ่กระจายอย่างดุเดือดและไม่มีสีแปลก ๆ ใดบนร่างกาย มันกลับไปเป็นนกสีหิมะขาวบริสุทธิ์สูงส่งและศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่ามันเปลี่ยนไปมาก
ตอนนี้ขนนกที่คอกำลังเบ่งบานด้วยแสงที่สว่างกว่าเดิมมาก ขนหางจะหายไปและกลายเป็นขนยาวเหมือนนกยูง กรงเล็บทั้งสองกำลังลุกไหม้ด้วยไฟสีขาวลึกลับ ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนก เห็นได้ชัดว่ามันเป็นพลังวิญญาณอันทรงพลังจนน่ากลัว
การวิวัฒนาการได้สิ้นสุดลงแล้ว
ลั่วอู๋ ดูข้อมูลของมัน
เผ่าพันธุ์ของมันยังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่มิติวิญญาณกลายเป็นทองขั้นสูง แต่เห็นได้ชัดเลยว่า เจ้านกโง่นั้นไม่ใช่สัตว์วิญญาณระดับทองขั้นสูงธรรมดา ๆ
และนี่เป็นอีกครั้ง ที่มันมีอีกหนึ่งทักษะเพิ่มขึ้นมา
ทักษะระดับ SS [กรงเล็บกระชากวิญญาณ]
มันเป็นทักษะอันรุนแรงที่จะฉีกวิญญาณของศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ
ทักษะที่สามารถส่งผลโดยตรงต่อแก่นวิญญาณนั้นเป็นอะไรที่ทรงพลัง เพราะทักษะการป้องกันทางแก่นวิญญาณเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก เมื่อต้องพบกับทักษะที่มีผลโจมตีโดยตรงถึงแก่นวิญญาณ วิธีรับมือมีเพียงแค่ใช้ทักษะเพื่อสวนกลับไป หรือต้านทานเท่านั้น สำหรับทักษะระดับ SS เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีสัตว์วิญญาณในมิติวิญญาณระดับเดียวกันจะสามารถต้านทานพลังนี้ได้
ตอนนี้ความแข็งแกร่งดั้งเดิมของมันเหนือยิ่งกว่า วิหคกระจกเงาอมตะที่มีเชื้อสายมาจากนกอมตะเสียอีก
นกโง่กระพือปีกอีกครั้ง กระจายจุดสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนบนตัวของมันออกไป
ทักษะระดับ SS [พรแห่งชีวิต]
ลั่วอู๋เคยเห็นทักษะนี้มาแล้ว
มันเป็นการเผยแพร่ความรู้สึกของตนเองออกไป ส่งพลังวิญญาณให้แก่สัตว์วิญญาณอื่น ๆ ที่เชื่อมั่นในผู้ใช้
ครั้งสุดท้ายที่มันวิวัฒนาการ มันได้ใช้ทักษะนี้เพื่อทำให้นกวิญญาณจำนวนมากวิวัฒนาการไปกับมัน ส่วนนกที่ไม่ได้วิวัฒนาการเองก็แข็งแกร่งขึ้น มันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพนกวิญญาณเป็นอย่างมากในคราวเดียว
ตอนนี้มันได้ใช้ทักษะนี้อีกครั้ง ทำให้นกวิญญาณหลายตัวเริ่มวิวัฒนาการ แน่นอนว่าคราวนี้มีจำนวนน้อยกว่าครั้งก่อนมาก
ยิ่งมีพลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสวิวัฒนาการได้ยากขึ้นเท่านั้น
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความแข็งแกร่งของเหล่านกวิญญาณได้ทะยานขึ้นมาอีกครั้ง
ตั้งแต่ลั่วอู๋ตั้งกองทัพผี นกโง่ก็ไม่เคยชนะไป่ฉีได้อีก แม้กระทั่งในการยั่วยุหลายครั้ง พวกมันก็ถูกปราบปรามได้อย่างง่ายดาย
แต่ตอนนี้นกโง่ได้รับการเลื่อนขั้นมิติวิญญาณเป็นทองขั้นสูงแล้ว ความแข็งแกร่งของนกวิญญาณเองก็ได้รับการปรับปรุงเป็นอย่างมาก คาดว่าสิ่งนี้จะต้องทำให้ไป่ฉีและเหล่ากองทัพผีของเขาปวดหัวแน่
เมื่อมองไปที่ฉากนี้ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองว่า “เหล่านกวิญญาณต่างให้พลังวิญญาณแห่งศรัทธา เพื่อให้เจ้าวิวัฒนาการ หลังจากที่เจ้าวิวัฒนาการแล้ว เจ้าจึงใช้ทักษะพรแห่งชีวิตทำให้เหล่านกวิญญาณได้เกิดการวิวัฒนาการด้วยสินะ”
“เจ้านี่มัน … ” ดวงตาของลั่วอู๋ดูซับซ้อน “เจ้ามันทำให้ข้าต้องตกใจอยู่เรื่อยเลย”