ไหปีศาจ - บทที่ 649 เจ้าแห่งหมาป่า
บทที่ 649 เจ้าแห่งหมาป่า
บทที่ 649
เจ้าแห่งหมาป่า
“ วู้ววว”
เสียงของเหล่าหมาป่าที่กำลังโหยหวนดังออกมาจากป่าทึบ
ข้างในนั้นมีหินสีทองส่องสว่างและหลุมลึกอยู่ที่ตรงชายขอบของหิน โดยปากทางหลุมนั้นมีเลือดไหลออกมาอยู่ตลอด
พร้อมกับอานุภาพแห่งการทำลายล้างที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
หมาป่าจันทราเงินได้มาล้อมรอบสถานที่แห่งนี้เอาไว้ แต่ยังไม่มีหมาป่าตัวใดกล้าเดินเข้าใกล้อีก เนื่องจากพลังวิญญาณแห่งการทำลายล้างจากในหลุมนั้นได้ฆ่าหมาป่าจันทราเงินไปหลายร้อยตัวแล้ว
ก่อนหน้านี้ในตอนที่พวกมันเข้าล้อมกรอบหยู่เฮา ไม่มีหมาป่าจันทราเงินตัวไหนต้องตายเลย
อย่างไรก็ตามในการตามหามนุษย์เพียงสองคนที่ลักลอบเข้ามา กลับมีพวกมันต้องเสียชีวิตไปหลายร้อยตัว
สำหรับพวกมันผู้คนเหล่านี้จิตใจโหดเหี้ยมมาก
ราชาหมาป่าเฝ้าดูอยู่ที่นี่มานานแล้ว มันมองไปที่ปากถ้ำ มองไปยังพลังวิญญาณแห่งการทำลายล้างที่แผ่ซ่านไปทั่ว สายตาของมันเต็มไปด้วยความดุร้าย มันรู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณแห่งการทำลายล้างนี้ถูกปลดปล่อยออกมาโดยมนุษย์ที่ทำร้ายมันในศึกครั้งก่อน
“กรร”
ราชาหมาป่าคำราม ขนสีขาวบริสุทธิ์ของมันสว่างขึ้น และพลังวิญญาณรอบมันก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของมันอย่าง บ้าคลั่ง เหมือนว่ากำลังรวบรวมพลังวิญญาณมหาศาลเข้ามา
ทักษะ ระดับ S [การปกป้องของเจ้าแห่งหมาป่า]
หูของหมาป่าจันทราเงินจำนวนนับไม่ถ้วนต่างได้ยินเสียงร้องต่ำของราชาหมาป่า
พวกมันมองไปที่ราชาหมาป่าด้วยความหวาดกลัว
หมาป่านั้นจะเคารพเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น
ภารกิจของพวกมันคือการปกป้องที่นี่ แม้ว่าพวกมันจะไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงทำเช่นนั้น แต่ความคิดนี้ก็ได้ตราตรึงอยู่ในจิตวิญญาณของพวกมัน
ดังนั้นผู้บุกรุกต้องตาย
ต่อมาราชาหมาป่าก็ได้คำราม แล้วกระโดดลงไปในหลุม
โดยมีหมาป่าจันทราเงินจำนวนนับไม่ถ้วนติดตามราชาหมาป่ากระโดดตามลงไปในนั้น ตราบใดที่ราชาหมาป่าอยู่ตรงหน้า พวกมันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะความแข็งแกร่งทางกายภาพของราชาหมาป่านั้นทรงพลังมาก
ไม่นานนักเหล่าหมาป่าก็มาถึงด้านล่างของหลุมที่กลายเป็นอุโมงค์ใหญ่ พวกมันสูดดมหากลิ่นของลั่วอู๋ จนในที่สุดก็มาถึงประตูหอคอยโบราณ
พวกมันเข้าไปตรวจดูในหอคอย แต่ก็ยังไม่พบลั่วอู๋
หอคอยนี้ดูทรุดโทรมไปมาก เนื่องจากผนังกำแพงโดยรอบทั้งหมดนั้นได้ถูกขุดออกไป
นอกจากนี้แม้ว่าพวกหมาป่าจะได้พบร่องรอยของทางหลบหนีอื่น ๆ ของลั่วอู๋ที่ดูเหมือนว่าเพิ่งถูกขุดออกไป แต่ทางเหล่านั้นก็ได้ถูกปิดกั้นจนหมด
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะตามลั่วอู๋ทัน
ราชาหมาป่าคำรามขึ้นฟ้า ส่วนหมาป่าจันทราเงินตัว อื่น ๆ ก็แสดงความโกรธด้วยการคำรามสั่นพ้องกัน เสียงร้องโหยหวนของเหล่าหมาป่าดังไปทั่วอาณาบริเวณ
ลั่วอู๋ และ ฉูจงฉวน ได้ลอบหนีไปอย่างเงียบ ๆ
พวกเขารู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนเล็กน้อยของพื้นดิน และเสียงของเหล่าหมาป่าที่ร้องโหยหวนมาจากด้านล่าง
ฉูจงฉวน ถอนหายใจ “น่าสังเวชเกินไปแล้ว”
“ใช่” ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างหงุดหงิด “โชคชะตาของพวกมัน น่าสลดมาก”
ทุกสิ่งที่พวกมันเฝ้าปกป้องมานานนับพันปีได้ถูก ลั่วอู๋ งัดออกไปเก็บไว้ในมิติไห ทำให้ลั่วอู๋ได้ล่วงรู้ความลับของเหล่า หมาป่า
ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ได้บันทึกสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมาย แต่พวกเขาไม่มีเวลามาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากตอนนี้พวกเขาต้องหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
“ไปกันเถอะ” ลั่วอู๋ กล่าว
ทั้งสองจากไปอย่างชาญฉลาด
พวกเขากลับไปยังถ้ำที่หลงเซียซ่อนตัวอยู่ แต่หลงเซียนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ความสนใจของเหล่าหมาป่าจันทราเงินมุ่งเน้นไปที่พวกลั่วอู๋ ดังนั้นหลงเซี่ยจึงดูมีภัยคุกคามน้อยกว่า ทำให้หลงเซี่ยพยายามที่จะไปแย่งชิงเครื่องรางภูตอีกครั้ง
จากนั้นพวกลั่วอู๋ก็ได้เข้าสู่มิติไหไปรวมตัวกับคนอื่น ๆ
“เป็นอย่างไรกันบ้าง?” หยู่เฮา ถาม
เขาได้รับความทุกข์ทรมานมากมายจากเหล่าหมาป่า โดยธรรมชาติเขาจึงต้องการรู้ความลับของสถานที่นั้นโดยเร็ว
ลั่วอู๋หยิบภาพจิตรกรรมฝาผนังสองชิ้นที่เกี่ยวข้องกับเหล่าหมาป่าจันทราเงินออกมา“ นี่คือสิ่งที่พวกเราได้มา”
“พวกเจ้าขุดกำแพงกลับมาเนี่ยนะ?” หยู่เฮา ประหลาดใจ
เป็นเรื่องแปลกมากที่พวกเขาขุดผนังของหอคอยกลับมา
ฉูจงฉวน กล่าว “พวกเราได้พบกับหอคอยโบราณที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ตอนแรกพวกเราคิดที่จะทำลายหอคอยทั้งหลังและย้ายมันเข้ามาในมิติไห อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีพลังพอที่จะทำแบบนั้น ดังนั้นพวกเราจึงขุดเอาเฉพาะผนังด้านในออกมาจากหอคอย”
ทุกคนพูดไม่ออก
นี่มันโหดเหี้ยมยิ่งกว่าโจรขโมยงานศิลปะ
ลั่วอู๋ ไม่มีความละอาย “ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้เป็นสมบัติที่สำคัญ บางทีพวกมันอาจบันทึกความลับที่น่าอัศจรรย์บางอย่างไว้ พวกเราปล่อยมันให้หลุดมือไปไม่ได้หรอก”
ไม่เป็นไร
ทุกคนต่างรู้กันดีว่าลั่วอู๋มีอาการคลุ้มคลั่งในการเก็บสะสม
ตอนนี้พวกเขาจึงได้เพิ่มสิ่งที่ลั่วอู๋สนใจเข้าไปอีกหนึ่งรายการ ว่าเขาชอบสะสมภาพจิตรกรรมฝาผนัง
จากนั้นทุกคนก็จับจ้องไปยังภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งสอง
ฉากที่แกะสลักบนนั้นเหมือนจริงราวกับว่ามันได้เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
ภาพจิตรกรรมฝาผนังชิ้นแรกแสดงถึงลานจัตุรัสอันศักดิ์สิทธิ์
ตรงกลางของลานจัตุรัสนั้นมีหมาป่าตัวใหญ่ ตัวของมันมีสีดำและมีขนที่สว่างราวกับผ้าซาติน ดวงตาที่น่ากลัวของมันดูเหมือนจะฉีกได้ทุกสิ่งในโลก
ถ้าลั่วอู๋เดาไม่ผิด มันคือเจ้าแห่งหมาป่าในตำนาน แน่นอนเจ้าแห่งหมาป่า ไม่ใช่เทพเจ้า แต่เป็นสัตว์วิญญาณที่ทรงพลัง
บางทีมันอาจจะเป็นหมาป่าตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้
หมาป่าและสุนัขทุกตัวต่างก็ถือได้ว่าเป็นลูกหลานของเจ้าแห่งหมาป่า
แน่นอนว่าการเกิดก่อนนั้นไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของมันคือที่สุด สัตว์วิญญาณหมาป่าในภายหลังต่างก็ได้พึ่งพาความพยายามของตัวเอง ฝ่าโซ่ตรวนการที่เหนือกว่าบรรพบุรุษของพวกมัน มันจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากจะมีหมาป่าที่แข็งแกร่งกว่า
ทุกคนต่างประหลาดใจกับภาพจิตรกรรมตรงหน้า เจ้าแห่งหมาป่านั้นมีปลอกคอขนาดใหญ่อยู่ที่รอบคอของมัน โดยมีเสาแสงอันน่ากลัววิ่งผ่านทะลุหัวใจของมัน ขณะถูกตอกลงอยู่ตรงกลางของลานจัตุรัส
ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ตาย
พลังชีวิตของมันนั้นแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้
เจ้าแห่งหมาป่านอนอยู่ที่นั่นดวงตาของมันดูเหมือนจะสูญเสียความแวววาวไปบางส่วน เหลือเพียงความเหนื่อยล้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่บนท้องฟ้าของลานจัตุรัสมีกลุ่มแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่นับไม่ถ้วน
นี่คือการจำคุกและการลงทัณฑ์อันโหดร้าย
นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอื่น ๆ เกี่ยวกับกลุ่มแสงเหล่านี้ ลั่วอู๋เดาได้คร่าว ๆ ว่าพวกมันคือเหล่าภูตของอาณาจักรเซียนโบราณหมื่นอมตะ เมื่อหลายหมื่นปีก่อน
แต่เขาไม่รู้ว่า เหล่าภูตนั้นดั้งเดิมแล้วมีรูปร่างเป็นแบบนี้หรือผู้สร้างภาพจิตรกรรมฝาผนังแทนที่รูปร่างของเหล่าภูตด้วยแสง
เลือดสีดำและสีแดงไหลออกมาจากหัวใจของเจ้าแห่งหมาป่า
เมื่อเลือดสัมผัสกับอากาศ เลือดนั้นก็จะกลายเป็นสัตว์วิญญาณ กลายเป็นกลุ่มก้อนของฝูงหมาป่า ซึ่งหมาป่าเหล่านี้ก็คือเหล่าหมาป่าพระจันทราอสูร
หมาป่าและสุนัขทั้งหมดล้วนเป็นลูกหลานของเจ้าแห่งหมาป่า
แต่หมาป่าพระจันทราอสูรนั้นแตกต่างออกไป พวกมันเป็นเลือดของเจ้าแห่งหมาป่า หรือก็คืออาจกล่าวได้ว่าพวกมันเป็นร่างอวตารของเจ้าแห่งหมาป่าไม่ใช่ลูกหลานแต่อย่างใด
แต่เจ้าแห่งหมาป่าถูกกักขังเอาไว้ ดังนั้นอวตารเหล่านี้เองก็เช่นกัน
พวกมันเองก็ต้องถูกคุมขัง
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีคำอธิบายอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังอีก
หยู่เฮาสูดลมหายใจเบา ๆ “หมาป่าจันทราอสูรดั้งเดิมถือกำเนิดมาด้วยวิธีนี้งั้นหรือเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกมันมีพลังมากขนาดนั้น เป็นร่างอวตารของเจ้าแห่งหมาป่านี่เอง”
“ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกมันก็ต้องติดอยู่ที่นี่” ลั่วอู๋เสียใจ
คนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ “ติดอยู่ที่นี่?”
“มีเหตุผลอื่นด้วยเหรอ ? ป่าแห่งอสูรไม่ได้เหมาะสำหรับการอาศัยอยู่ของฝูงหมาป่า แล้วทำไมพวกมันถึงยังอยู่ที่นี่กันล่ะ?” ลั่วอู๋ส่ายหัว “ด้วยข้อความในภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้ พวกมันไม่น่าจะมีอิสระ สาเหตุที่ผู้คนในอดีตสามารถขับขี่หมาป่าจันทราอสูรได้นั้น คงเกิดจากการที่พวกเขาเข้ามาจับพวกมันไป ไม่อย่างนั้นทำไมเราถึงไม่พบหมาป่าจันทราอสูรในสถานที่อื่น ๆ ของภูเขาแห้งแล้งเลยล่ะ ? ”
คนอื่น ๆ พยักหน้า
ที่นี่อาจเป็นสถานที่ที่พวกมันต้องทำการปกป้อง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ควรมาสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะแม้ว่าพวกเขาจะรู้ที่มาของหมาป่าจันทราอสูรแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ในการช่วยให้พวกเขาเอาชนะฝูงหมาป่าจันทราเงินได้
จากนั้นพวกเขาก็มองไปยังผนังกำแพงหินอันที่สอง
มันได้บันทึกเรื่องราวของชายผู้โหดเหี้ยม ที่สามารถเอาชนะหมาป่าจันทราเงินทั้งฝูงได้