ไหปีศาจ - บทที่ 692 ถึงทางตันอีกครั้ง
บทที่ 692 ถึงทางตันอีกครั้ง
บทที่ 692
ถึงทางตันอีกครั้ง
พลังของกระบวนท่านั้นน่ากลัวมาก
เซียวอวี้เคยได้ยินเพียงตำนานหุบเขามรณะ แต่เขาไม่เคยมาที่นี่จริง ๆ
หมอกพิษภายนอกนั้นเป็นปัญหามาก และเขาก็กลัวว่าจะมีบางสิ่งที่น่ากลัวในหุบเขามรณะที่เขาไม่สามารถต่อกรได้
แต่เมื่อเขาตายแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกต่อไป
หมอกพิษไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลยและเขาก็มีร่างกายแบบราชาผีดิบ สิ่งสามารถฆ่าเขาได้มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น
“นี่คือสัตว์ประหลาดแห่งหุบเขามรณะรึ? ช่างน่าผิดหวัง”
เซียวอวี้ส่ายหัว
ที่ที่เรียกว่าสถานที่สุดอันตรายก็มีแค่นี้ เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นพื้นที่ใจกลางหุบเขามรณะ
เซียวอวี้หันไปมองที่ลั่วอู๋ “ครั้งล่าสุดข้าปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ คราวนี้ข้าอยากรู้ว่าใครจะช่วยเจ้าได้”
“เจ้ายังคิดว่าคุมเกมเหนือกว่าข้า” ลั่วอู๋มองไปที่เซียวอวี้อย่างสงสาร “ข้าต้องบอกเจ้าบางอย่าง เจ้ากำลังเจอปัญหาใหญ่แล้ว”
มีความสงสัยเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ไร้ความปรานีของเซียวอวี้
เจ้าหมายถึงอะไร?
ลั่วอู๋ชี้ไปที่ด้านหลังของเซียวอวี้ “ดูนั่นสิ”
แน่นอนว่าเซียวอวี้ไม่สนใจกลเล็ก ๆ แบบนั้น แต่เพราะท้ายที่สุดแล้วช่องว่างของความแข็งแกร่งนั้นใหญ่เกินไปเขาจึงกล้าหันไปมองข้างหลังเขา
ภาพที่ทำให้เขาต้องตกใจก็ปรากฏขึ้น
กระดูกทั่วทุกแห่งรวมตัวขึ้นราวกับพวกมันมีความรู้สึกและตัดสินใจได้ด้วยตัวเองและพวกมันทั้งหมดรวมตัวขึ้นอีกครั้ง
“ไอ้ขี้เรื้อนตัวน้อย เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใครตอนที่มีชีวิตอยู่เจ้าถึงกล้าปากดีกับข้าแบบนี้!”
“ได้เวลาบอกกฎของหุบเขามรณะแล้ว”
“ก่อนอื่นหั่นไอ้ตัวเล็กนั่นเป็น 100 ชิ้นแล้วหมักไว้ในหมอกพิษเป็นเวลาร้อยปี”
โครงกระดูกค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้นและมีเศษกระดูกบินกลับมาปะติดปะต่อร่างใหม่อย่างช้า ๆ ดวงตาเปลวไฟสีเขียวเข้มทำให้ผู้คนหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ในพริบตาก็ไม่มีเศษกระดูกเหลืออยู่ที่พื้น และโครงกระดูกก็ฟื้นสภาพกลับไปเป็นโครงกระดูกตามเดิม
แต่พวกเขายังคิดว่าเซียวอวี้เป็นเด็กใหม่
ยังไงข้าก็ฆ่าเจ้าไม่ได้ ดังนั้นข้าต้องสอนเจ้าให้หนัก
“นี่มันอะไรกัน?” เขาพูด
แม้ว่าเขาจะตายไปแล้วและถูกจัดว่าเป็นผีดิบ แต่ในความเป็นจริงเขายังสามารถถูกฆ่าได้ตราบใดที่ร่างของเขาสลายและถูกทำลายวิญญาณ
การระเบิดเมื่อครู่นี้ไม่เพียงแต่ทำลายร่างของโครงกระดูกเหล่านั้นเท่านั้น แต่ยังปัดเป่าวิญญาณของทุกตัวด้วย ทำไมพวกเขาถึงไม่ตาย?
โครงกระดูกพวกนั้นไม่มีวิญญาณของตนหรือ?
“มังกรกระดูกผีกำลังจะตาย” สัตว์ประหลาดร้องตะโกน
เหล่าสัตว์ประหลาดตกใจและโกรธเกรี้ยว
ในที่สุดเราก็ปราบมังกรกระดูกผีได้ แต่เจ้าเกือบจะฆ่ามัน เจ้ารู้ไหมว่ามันมีค่าแค่ไหน?
โครงกระดูกจ้องมองไปที่เซียวอวี้และพวกเขากำลังจะฆ่าเขา
“สัตว์ประหลาดอมตะ?” เซียวอวี้ไม่เชื่อว่ามีสิ่งที่ไม่สามารถฆ่าได้ในโลกนี้ แม้แต่เขาก็ไม่ได้เป็นอมตะ แล้วทำไมสัตว์ประหลาดเหล่านี้ถึงรอดอยู่ได้? ดังนั้นเขาจึงปล่อยลมปราณแห่งความตายออกไปอีกครั้ง มันกลายเป็นคลื่นและพุ่งออกไป
โครงกระดูกถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ อีกครั้ง
แต่พริบตาเดียวเศษกระดูกก็มารวมกันอีก
เซียวอวี้รู้สึกงงงวย
ทำไมโครงกระดูกที่อ่อนแอเช่นนี้จึงไม่ตาย
เห็นได้ชัดว่าข้าได้ฆ่ามันอย่างสมบูรณ์แล้วแท้ ๆ
ในเวลานี้ฉิงชาบินออกจากปราสาทเสียงของเขาแหบแห้ง “มีอะไรกัน?”
“เจ้าขยะหน้าใหม่นี่สภาพดีขนาดนี้ได้ยังไง? เจ้าแก่ฉิงชาอธิบายข้ามาซะดี ๆ” สัตว์ประหลาดหลายตัวร้องตะโกนและโหยหวน
ฉิงชามองไปที่เซียวอวี้และเงียบเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็พูดอย่างขมขื่นว่า “พวกเจ้านี่เป็นแค่พวกขยะจริง ๆ เขาแตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง พวกเจ้าดูไม่ออกเหรอว่านี่คือผู้บุกรุก”
สัตว์ประหลาดตกตะลึงเป็นเวลานานจากนั้นทะเลแห่งความโกรธก็โหมกระหน่ำ
ผู้บุกรุกที่กล้าจะหยิ่งผยองใส่เรา!
ข้าคิดว่าทุกคนที่มาที่นี่ได้คือคนที่ผู้บัญชาการหลิงหลงส่งมา!
“ลุยเลย ใครก็ได้นำไปเลย”
จากนั้นโครงกระดูกกลุ่มใหญ่ก็เข้ามารวมตัวกันเหมือนปลวกและแน่นอนฉิงชาก็พุ่งเข้ามาเช่นกัน
เซียวอวี้คำราม “อมรณา”
ร่างของเขาเปล่งแสงสีดำ ควันผีพุ่งออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยพลังที่มาบรรจบกันอย่างรวดเร็วพื้นที่รอบตัวเขาค่อย ๆ จะเริ่มไม่มั่นคง
ทันทีที่ร่างกายของเซียวอวี้สั่นสะเทือนก็มีพลังมหาศาลซึ่งทำให้พื้นแตกกระจาย พลังนี้แผ่กระจายออกไปด้วยความเร็วที่น่ากลัว คลื่นที่รุนแรงพุ่งออกมาเป็นระลอก
บึ้ม
สัตว์ประหลาดทั้งหมดกลายเป็นเศษกระดูกอีกครั้ง
“ใช้ได้ดีทีเดียว”
“เหอะ ใช้มือเพียงข้างเดียวข้าก็ฆ่าเขาได้แล้ว”
“เจ้าโง่ เจ้าต้องฟื้นคืนชีพก่อนถึงทำลายเขาได้”
ในไม่ช้าสัตว์ประหลาดก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและพ่นคำหยาบออกมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาฟาดดาบไปที่เซียวอวี้
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้หัวใจของลั่วอู๋ก็จมลง ดูเหมือนว่าการฟื้นคืนชีพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของสัตว์ประหลาดจะดูได้เปรียบ แต่ก็มีปัญหาเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดนั้นเสียหายร้ายแรงเกินไป ไม่สามารถทำอะไรที่ระคายผิวของเซียวอวี้ได้เลย
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือเซียวอวี้ซึ่งมีส่วนหนึ่งของผีดิบเทพสถิตธรณีนั้นมีความแข็งแกร่งที่แทบไม่มีวันเหนื่อยซึ่งหมายความว่าความสามารถในการต่อสู้ระยะยาวของเขานั้นไร้เทียมทาน
การต่อสู้ครั้งนี้ดูท่าจะไร้ผล
สัตว์ประหลาดไม่ตาย แต่พวกก็เขาทำอะไรไม่ได้
ถ้าเซียวอวี้ตั้งใจจะฆ่าเขา เขาจะทำอย่างไรดี?
ดูเหมือนว่าหุบเขามรณะจะไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่ได้นาน บางทีเขาอาจต้องหาทางกลับไปที่สำนักเฉียนหลงหรือไปที่หน่วยสยบมังกรเพื่อหาที่หลบภัย
ลั่วอู๋หลบหนีออกมาโดยอาศัยจังหวะที่เซียวอวี้สนใจแต่พวกสัตว์ประหลาด
ตวนซีกำลังหลับลึก หลายวิธีจึงไม่สามารถใช้งานได้อีก เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถหลบหนีได้อย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะต่อหน้าเซียวอวี้
แม้ว่าเขาจะดูเหมือนคนตาย แต่เขาก็ไวต่อลมปราณของสิ่งมีชีวิตมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุบเขามรณะที่มีเพียงลั่วอู๋เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
ลั่วอู๋มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในการรับรู้ของเขานั้นชัดเจนเหมือนดวงอาทิตย์
“หยุด!” ดวงตาที่ตายแล้วของเซียวอวี้จับจ้องไปที่ลั่วอู๋
เขารู้จุดประสงค์ของการเดินทางของเขาอย่างชัดเจน
มันไม่เกี่ยวกับการกวาดล้างสัตว์ประหลาดในหุบเขามรณะแต่เกี่ยวกับการจับลั่วอู๋
ลั่วอู๋ถูกจับจ้องด้วยดวงตาที่ตายแล้วและรู้สึกว่าจิตใจของเขาสั่นไหว จิตใจที่อ่อนแออยู่แล้วของเขาเกือบจะแตกสลาย
“ช่วยข้าหยุดเขาที” ลั่วอู๋คลุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด
ฉิงชาก็เข้าใจว่าคนนอกคนนี้มาเพื่อจับลั่วอู๋
“หยุดเขา” ฉิงชาคำราม
“อย่ามาพูดมากน่าไอ้แก่ขี้โกหก”
สัตว์ประหลาดหลายตัวดุฉิงชา
ท้ายที่สุดพวกเขาก็สาบานแล้วว่าจะภักดีต่อลั่วอู๋ เขาไม่สามารถเฝ้าดูลั่วอู๋ถูกจับหรือถูกฆ่าได้อยู่แล้ว
ในพริบตาหุบเขามรณะก็เต็มไปด้วยเสียงโหยหวนและเสียงกรีดร้องทุกชนิดราวกับเป็นนรกจริง ๆ โครงกระดูกรุมไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ไปให้พ้น” เซียวอวี้กลายเป็นพายุสีดำและพัดกลุ่มสัตว์ประหลาดกระจาย
ลั่วอู๋ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้วิ่งออกจากหุบเขามรณะ
แม้ว่าสัตว์ประหลาดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวอวี้ แต่อย่างน้อยก็สามารถถ่วงเวลาไว้ได้ไม่ยาก
เมื่อลั่วอู๋วิ่งออกจากหุบเขามรณะเขาพบว่ามีกองทหารจำนวนมากมารวมตัวกันรอบ ๆ หุบเขามรณะ ชุดเกราะดูเหมือนจะเป็นกองทัพหมาป่า
ในกองทัพมีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูงอย่างน้อยสิบคนขึ้นไป ด้วยสถานะปัจจุบันของลั่วอู๋มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับใครสักคนด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับคนจำนวนมากขนาดนี้
กองทัพหมาป่ากำลังปิดล้อมเพื่อป้องกันไม่ให้ลั่วอู๋หนีพ้นไปได้
ต้องยอมรับว่ากองทัพนั้นแข็งแกร่งเกินไป
ทางด้านหลังควันผีก็พลุ่งพล่านพร้อมกับเสียงผีร้องโหยหวน เห็นได้ชัดว่าเซียวอวี้ก็กำลังมาด้วย
เมื่อมองไปที่หมอกพิษทั่วท้องฟ้าหัวใจของลั่วอู๋ก็จมลงสู่ก้นบึ้งของหุบเขา
คราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รอด
ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในสายตาของเขา เขากำลังดิ้นรนและสุดท้ายก็กลายเป็นหมดหนทาง
“แล้วแต่โชคก็แล้วกัน” ลั่วอู๋กระซิบกับตัวเอง