ไหปีศาจ - บทที่ 693 ข้า ลั่วอู๋ อยู่ที่นี่แล้ว
บทที่ 693 ข้า ลั่วอู๋ อยู่ที่นี่แล้ว
บทที่ 693
ข้า ลั่วอู๋ อยู่ที่นี่แล้ว
ลั่วอู๋ไม่ได้มองหาช่องมิติเพื่อหลบหนีแล้วเพราะมันไม่มีความหมาย
หลี่ซวนซงรู้ทุกวิธีหลบหนีของลั่วอู๋อย่างชัดเจนและได้เตรียมวิธีรับมือสำหรับวิธีหนีแต่ล่ะวิธีแล้ว
และลั่วอู๋ก็รู้จักหลี่ซวนซงเป็นอย่างดี เขามีความละเอียดรอบคอบในการวางแผนสุด ๆ
การดิ้นรนที่ไร้ความหมายแบบนี้ลั่วอู๋ก็ไม่อยากเสี่ยง
เพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยู่คนเดียว
ลั่วอู๋มาถึงมุมที่ห่างไกลของหุบเขามรณะซึ่งกองทัพหมาป่าไม่สามารถล้อมรอบตัวเขาได้เร็วนักและเซียวอวี้จะไม่เจอตัวเขาเร็วนัก
เขาเข้าสู่โลกไห
พวกเขาไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงฝึกฝนตามปกติ
หลี่หยินพยายามฝึกฝนแม้ว่านางไม่น่าจะเก่งขึ้นได้ในเวลาอันสั้น แต่ก็หวังว่าจะช่วยลั่วอู๋ได้โดยเร็วที่สุด
เนื่องจากความเร็วของเวลาในโลกในไหจะเร็วขึ้นมากดังนั้นจึงน่าจะมีเวลาพอดี
ลั่วอู๋มาหาหลี่หยินเป็นคนแรก
“นายน้อย” หลี่หยินลืมตาของนาง
ลั่วอู๋แสร้งทำเป็นผ่อนคลายและพูดว่า “หลี่หยิน หินมิติยังอยู่ไหม?”
“ยังอยู่”
ในตอนแรก เพื่อช่วยให้หลี่หยินเข้าใจแก่นแท้แห่งมิติลั่วอู๋ได้ซื้อหินมิติจากคฤหาสน์หวู่หยู่ น่าเสียดายที่สิ่งนี้มีค่าเกินไปแม้แต่ในคฤหาสน์หวู่หยู่ก็ยังเป็นของหายากดังนั้นจึงมีการจำกัดการซื้อ
หลี่หยินไม่ลังเลที่จะมอบหินมิติให้กับลั่วอู๋
ลั่วอู๋หัวเราะและพูดว่า “เจ้าไม่ต้องซ้อมแล้ว ออกมากับข้าเถอะ”
หลี่หยินพยักหน้า
พวกเขาเดินออกจากห้องฝึกไปด้วยกัน
จากนั้นลั่วอู๋ก็มาที่ห้องฝึกของเจียโรว เจียโรวอ่อนแรงมากและกำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่
“เจ้าอยากออกไปเดินเล่นกับข้าไหม?” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“จะดีรึ?” เจียโรวสงสัย “แต่ตอนนี้ข้าต้องรีบฟื้นตัว”
“แค่ครู่เดียวเท่านั้น”
เจตนาของลั่วอู๋แน่วแน่มากและเจียโรวก็ไปกับเขา
พวกเขาเดินออกจากพระราชวังอันงดงามเดินทอดน่องไปในทะเลดอกไม้ที่สวยงามผ่านป่าไผ่ที่เขียวขจีและมาถึงทะเลสาบแห่งจิตวิญญาณ
ฉูจงฉวนกำลังเล่นกับราชาแห่งน้ำ หลินยูหลันยืนอยู่เคียงข้างด้วยใบหน้าที่ตลกขบขัน “โตขนาดนี้แล้ว แต่ยังเล่นน้ำอยู่อีก”
ฉูจงฉวนตอบด้วยรอยยิ้มและเล่นต่อไป
หลินยูหลันเห็นพวกลั่วอู๋ทั้งสาม “หืม พวกเจ้ามาทำไมรึ?”
“มาหาพวกเจ้าไง” ลั่วอู๋หยิบถุงหินวิญญาณออกมา
“อะไรน่ะ?”
“สำหรับพวกเจ้า”
หลินยูหลันกะพริบตาแล้วหน้าแดงและพูดด้วยความลำบากใจ “เจ้าหมายความว่ายังไง เขากับข้ายังไม่ได้…”
ลั่วอู๋ยิ้ม ไม่ตอบแต่มองไปที่ฉูจงฉวน และตะโกน ” ฉูจงฉวนข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถตามหาเชียนจีได้”
ฉูจงฉวนโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำด้วยใบหน้าจริงจัง “นี่ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม”
“ฮ่า ฮ่า น่าเสียดายที่ข้าพูดจริง” ลั่วอู๋หัวเราะและหันหน้าหนี
จากนั้นลั่วอู๋ก็ไปที่กองทหารของแม่ทัพผี คุยกับไป๋ฉี เงียบ ๆ แล้วไปที่ห้องเล่นแร่แปรธาตุสั่งบางอย่างเกี่ยวกับไม้ จากนั้นไปที่ห้องสกัดเพื่อสั่งของ และท้ายที่สุดเขาก็ไปหากู่ฉวนและกระซิบคุยกันสักพัก
แน่นอนว่าบทสนทนานี้ไม่ให้หลี่หยินและเจียโรวได้ยิน
“มีเวลาไม่มากนัก เจ้านกโง่ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนและท่านหญิงหยู่ก็หายไปหายมานางหาโอกาสทักทายพวกเขาไม่ได้เลย ดูเหมือนว่านางจะต้องตัดใจแล้ว” ลั่วอู๋รู้สึกช่วยไม่ได้
เจียโรวไม่เข้าใจ “ทำไมมีเวลาไม่มากล่ะ?”
ลั่วอู๋ไม่ตอบ แต่กอดพวกนางไว้ สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยและใกล้ชิดของพวกเขาและมีความสุขกับช่วงเวลาสุดท้ายของความสงบ
ข้าอยากให้เวลาหยุดลงสักครู่
เจียโรวและหลี่หยินมองหน้ากันและเห็นความไม่สบายใจในดวงตาของอีกฝ่าย
เกิดอะไรขึ้นกัน?
ลั่วอู๋ปล่อยมือและดูจริงจังกว่าที่เคยเห็น “มันอาจจะดูโลภไป แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าข้าทำได้ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไป”
หญิงสาวทั้งสองก้มหน้าด้วยความอาย
แม้คำพูดจะไม่ชัดเจน แต่ทุกคนรู้ถึงความหมายดี
ความรักเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว แต่ความรู้สึกระหว่างพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรัก มันมีมิตรภาพ ประสบการณ์ที่มีด้วยกันมากมายและความรักในฐานะครอบครัวอย่างยาวนาน
พวกเขาคุ้นเคยกันและไม่อยากจะแยกจากกันอีกต่อไป
ลั่วอู๋กอดหญิงสาวทั้งสองเบา ๆ อีกครั้งและจูบที่หน้าผากเนียนของพวกเขา เขาพูดเบา ๆ ว่า “ดังนั้นข้าสัญญาว่าตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ข้าจะไม่ตายง่าย ๆ แน่นอน”
เป็นการพูดหวาน ๆ แบบไหน? มันฟังดูแปลกมาก
“นายน้อยมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” หลี่หยินกล่าว
“ให้ข้าทำอะไรให้เจ้าได้บ้าง” เมื่อเห็นว่าลั่วอู๋ไม่ตอบ เจียโรวก็กังวลด้วย
ลั่วอู๋ยังคงไม่ตอบเพราะไม่มีเวลามากพอ
เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและความรู้สึกถึงวิกฤตก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
กองทัพหมาป่าใช้กองทัพของแม่ทัพผีก็เพียงพอที่จะสู้ได้ แต่เซียวอวี้ แม้ว่าเขาจะขอให้ท่านหญิงหยู่ออกไปช่วยสู้ก็คงไม่สามารถสู้ได้ ที่สำคัญที่สุดคือหลี่ซวนซงก็ต้องมีแผนสำรองไว้อย่างแน่นอน
ไม่จำเป็นที่จะต้องพาทุกคนไปเสี่ยงกับเขา
มีเสียงหมาเห่าดังมาแต่ไกล
ต้าหวงกลายเป็นหมาสีขาวตัวใหญ่และยังคงร้องโหยหวน ดูกำลังวิตกกังวล
ผีเสื้อลวงตากลายเป็นลำแสงสีแดงและสีดำ บินไปทั่วท้องฟ้าในขณะที่เสี่ยวกงบินด้วยดาบ และบินมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
พวกเขารู้สึกถึงความประสงค์ของลั่วอู๋
ลั่วอู๋ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและตะโกนว่า “ปกป้องเพื่อนของข้า ข้าจะกลับมาแน่นอน!”
“โบร๋ววว!” ต้าหวงมองขึ้นไปบนฟ้าและคำรามด้วยน้ำตาในดวงตาของเขา
ลั่วอู๋หันหลังและออกจากโลกไห
บริเวณโดยรอบยังคงเป็นป่าหมอกพิษที่คุ้นเคย
ลั่วอู๋เรียกหลี่หยินออกมาอีกคน
“นายน้อยในที่สุด…”
“ชู่ว” ลั่วอู๋วางนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากของหลี่หยินแล้วกระซิบ “เวลาใกล้หมดแล้ว ฟังข้านะอนาคตขึ้นอยู่กับเจ้า จงไปรับคนจากสำนักโล่พิทักษ์ทั้งหมด แล้วข้าจะบอกว่าต้องไปไหนต่อ นายพลผีและทีมล้างแค้นจะทำตามคำสั่งของเจ้า”
“เจ้าจะต้องรับภาระหนักต่อจากนี้ เพราะมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่รู้ความลับทั้งหมดของข้า”
“ข้าขอโทษจริง ๆ ที่ข้าต้องให้ทำงานหนักเช่นนี้”
ในมือของลั่วอู๋ค่อย ๆ ปรากฏหม้อทองสัมฤทธิ์
หม้อใบเล็กนี้หลี่หยินจำได้ในทันทีที่มันปรากฏบนรถม้าโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
“มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ และตัดการเชื่อมต่อระหว่างทะเลแก่นวิญญาณกับไหปีศาจอย่างเด็ดขาด
ทันใดนั้นทะเลแก่นวิญญาณก็ปั่นป่วนจนเขารู้สึกปวดหัวและแทบจะเป็นลม แต่เขาพยายามที่จะไม่แสดงอาการไม่เช่นนั้นหลี่หยินจะเห็นความเจ็บปวดของเขา
ร่างกายของหลี่หยินสั่นเล็กน้อยและน้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางรู้ว่ามีบางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
ลั่วอู๋กอดหลี่หยินอีกครั้งและแตะริมฝีปากของนางเบา ๆ มันเหมือนน้ำค้างยามเช้าสดชื่น แต่ยังมีรสเค็มและฝาดเล็กน้อยซึ่งเป็นรสชาติของน้ำตา
“หลี่หยินโปรดทำตามคำสั่งเสียของข้าด้วย” ลั่วอู๋กระซิบ
หลี่หยินถือไหปีศาจและแทบยืนไม่อยู่
“อย่าส่งเสียงดังสักพัก และแอบวิ่งหนีไปซะ เจ้าเป็นคนเก่งและเชื่อฟังข้ามาตลอด เจ้าสามารถทำงานนี้ได้ดีแน่นอนใช่ไหม?”
ลั่วอู๋ยิ้มและปล่อยมือหลี่หยินจากนั้นก็ถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ
หลี่หยินกัดริมฝีปากและกระอักเลือดออกมาโดยไม่รู้ตัว
ขอให้อย่าเป็นอะไรไปเลย
ลั่วอู๋ถือหินมิติไว้ในมือและก้าวออกไปในอากาศ ในขณะเดียวกันเขาก็หัวเราะ เสียงหัวเราะสั่นสะเทือนในหุบเขาแห่งความตาย “ข้า ลั่วอู๋ อยู่ที่นี่แล้ว!”