ไหปีศาจ - บทที่ 727 เจ้าสำนักที่น่าเชื่อถือ
บทที่ 727 เจ้าสำนักที่น่าเชื่อถือ
บทที่ 727
เจ้าสำนักที่น่าเชื่อถือ
“ใครกัน…”
เสียงของเจ้าสำนักไม่ได้ทรงพลังอย่างที่เคยเป็น มีแต่ความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง ซึ่งทำให้ที่ได้ฟังนั้นรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อต้านการรวมพลังของปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้า
“ข้าเองท่านเจ้าสำนัก”ลั่วอู๋พูดอย่างรวดเร็ว
เสาผนึกมนตราเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งเสียง “ทำไมเจ้าถึงได้มาเยือนที่นี่อีกครั้งกัน ข้าเกรงว่าข้าจะไม่มีเวลาตอบคำถามของเจ้าในตอนนี้”
“ข้ารู้ดีว่าท่านไม่มีเวลา ดังนั้นได้โปรดอย่าพูดและตั้งใจฟังข้า”
ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยไม่คำนึงถึงคำพูดของเจ้าสำนัก
“ข้ารู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“แต่ท่านไม่รู้แน่นอนว่าในตอนนี้สัตว์ร้ายกระหายเลือดทั้งสองตัวกำลังใช้ความสามารถและพลังพิเศษของพวกมันเพื่อแยกท่านออกจากร่างแก่นวิญญาณอยู่ตลอดเวลา”
“แน่นอนว่าอาจมีความเกี่ยวพันระหว่างท่านและผนึกมนตรา แต่ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะข้าได้ตกลงกับพวกเขาแล้ว ข้าจะต้องช่วยแม่ของพวกมันแล้วหาทางพาพวกมันออกไปจากนรกมนตรา ด้วยวิธีนี้แรงกดดันต่อท่านจะลดลงมาก”
“แต่ปัญหากำลังจะเกิดขึ้นรองเจ้าสำนักหลี่หวู่หยวนไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่นี่และข้าไม่สามารถติดต่อกับสำนักเฉียนหลงได้”
“ดังนั้นข้าอยากจะขอคำแนะนำจากท่านเกี่ยวกับวิธีการช่วยเหลือแม่ของสัตว์ร้ายกระหายเลือดและติดต่อรองเจ้าสำนักเพื่อจะให้เขารีบเปิดมิติได้โดยเร็ว…”
“ร่างกายของท่านจะกลับมาเมื่อไหร่? หากมีบางอย่างผิดปกติกับผนึกมนตรามันจะเป็นเรื่องใหญ่ ท่านต้องนำร่างกายกลับมาเพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม”
“อย่างไรก็ตามการมีความทรงจำร่วมกันระหว่างร่างแยกวิญญาณและร่างแก่นวิญญาณ ดังนั้นมีอีกสิ่งที่สำคัญมากที่อยากจะกล่าวกับท่าน”
“ตอนนี้องค์จักรพรรดิได้หายไป ท่านอาจจะไม่รู้ว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเป็นองค์ชายเล็ก จักรพรรดิองค์ก่อนมีแนวโน้มที่จะถูกเขาฆ่าตายสูงมาก”
“นอกจากนี้ภูตไหไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน โปรดระวังตัวด้วยพวกมันเป็นพวกปีศาจ ทุกคนในหุบเขามรณะสามารถเป็นพยานได้ …”
ข้อมูลที่ร่างแยกวิญญาณของเจ้าสำนักได้ฟังมีค่อนข้างมากจึงทำให้รู้สึกมึนหัว
“เดี๋ยวก่อน” ผนึกมนตราพูดขัดลั่วอู๋
โชคดีที่พูดเรื่องสำคัญไปหมดแล้ว
“มีสัตว์ร้ายกระหายเลือดอยู่ในนรกมนตราอย่างนั้นรึ” เจ้าสำนักดูประหลาดใจ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่พลังของข้านั้นจะอ่อนแอลงมากและการเชื่อมต่อกับร่างแก่นวิญญาณก็ถูกตัดขาด”
เห็นได้ชัดว่าท่านเจ้าสำนักเคยได้ยินชื่อของสัตว์ร้ายกระหายเลือด
“ท่านมีวิธีช่วยแม่ของพวกมันหรือไม่?” ลั่วอู๋ถาม
“ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น” ร่างแยกวิญญาณของเจ้าสำนักดูเป็นทุกข์มาก “ข้าไม่มีความสามารถที่จะเคลื่อนที่เสาผนึกมนตราเพื่อไปหาทางได้ มันยากเกินไป”
ลั่วอู๋เกาหัวของเขาอย่างวิตกกังวลในใจของเขา
“ทำไม่ได้จริง ๆ หรือ ท่านลองติดต่อรองเจ้าสำนักก่อนเพื่อให้เขานั้นเปิดมิติพาข้ากลับไป” ลั่วอู๋พูด
“ข้าไม่สามารถติดต่อได้”
“อะไรกัน”
“มันชัดเจนไม่ใช่รึไง? ร่างแก่นวิญญาณนั้นอยู่นอกเขตแดน ร่างแยกวิญญาณก็ติดอยู่ในนรกมนตรา ข้าจะติดต่อหลี่หวู่หยวนผ่านห้วงมิติความว่างเปล่าอันไม่มีที่สิ้นสุดได้อย่างไร?” ผนึกมนตรากล่าวอย่างบริสุทธิ์ใจ
หัวใจของลั่วอู๋ได้แตกสลาย
ภาพของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่ยงคงกระพันในจิตใจของเขาค่อย ๆ พังทลายลง
“แล้วร่างแก่นวิญญาณของท่านจะกลับมาทันเวลาไหม?” ลั่วอู๋ถาม “ด้วยความแข็งแกร่งของท่านมันไม่น่าจะยากที่จะกลับมานี่?”
“ใช่ มันไม่ยาก”
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
ตราบใดที่เจ้าสำนักกลับมา ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป
“แต่ไม่ใช่ในตอนนี้” ร่างแยกวิญญาณกล่าว
ลั่วอู๋รู้สึกขมขื่น “ทำไมเป็นถึงเป็นเช่นนั้น”
“ข้ามีเรื่องสำคัญมากที่ต้องทำในตอนนี้ ถ้าข้าทำไม่สำเร็จก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรีบกลับไป”
“ท่านเจ้าสำนัก…” ลั่วอู๋อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ถ้าท่านไม่กลับมาจะเกิดขึ้นกับข้าบ้างก็ไม่รู้
“อย่าเพิ่งท้อใจไป ยังไงเสียเจ้าก็ยังคงเป็นนักเรียนอัจฉริยะของสำนักเฉียนหลง เจ้าไม่สามารถให้ความหงุดหงิดเหล่านี้มาฉุดรั้งเจ้าไว้ได้” ร่างแยกวิญญาณกล่าว
ลั่วอู๋โกรธมากจนอยากจะด่าแม่
นักเรียนอัจฉริยะคนไหนจะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ได้
นี่เป็นเรื่องสำคัญต่อความอยู่รอดของคนในแผ่นดินใหญ่
ท่านยังใจเย็นเช่นนี้ได้ยังไง
“ข้ามาที่นี่เพื่อที่จะช่วยเหลือท่าน” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “ถ้าไม่ใช่เพราะสัตว์ร้ายกระหายเลือดทั้งสองหยุดพลังพิเศษของพวกมันไว้ชั่วคราว ผนึกอาจจะถูกทำลายไปแล้ว”
“พรสวรรค์และพลังของสัตว์ร้ายกระหายเลือดนั้นยุ่งยากที่จะรับมือ การตายของร่างแยกวิญญาณนั้นมีผลอย่างมากต่อร่างแก่นวิญญาณ” ผนึกมนตราพึมพำกับตนเอง
“เฮ้อ…”
“ขอข้าคิดว่ามีมิติที่ถูกทิ้งร้างในนรกอเวจีที่ไหนบ้าง”
ลั่วอู๋รู้สึกสงสัย “ท่านจะทำอะไร?”
“ด้วยมิติที่ถูกทิ้งร้างอย่างน้อยก็สามารถหาพิกัดของมิติหลักได้ ในกรณีนี้เจ้าสามารถเปิดมิติด้วยพลังตัดมิติของสัตว์ร้ายกระหายเลือด”
“สัตว์ร้ายกระหายเลือดสามารถเปิดมิติได้หรือ?” ลั่วอู๋ประหลาดใจ
“อย่าประหลาดใจไปเลย ความสามารถของสัตว์ร้ายกระหายเลือดมุ่งเป้าไปที่สิ่งที่จับต้องไม่ได้และไร้ตัวตน แม้แต่การเชื่อมโยงระหว่างข้ากับร่างแก่นวิญญาณก็ยังตัดขาดได้ จะมีอะไรแปลกเกี่ยวกับการตัดมิติล่ะ?”
นั่นคือสิ่งที่ลั่วอู๋คิด
“แล้วทำไมพวกมันถึงไม่ออกไปจากที่นี่ล่ะ?” ลั่วอู๋รู้สึกสงสัย
“เพราะขาดพิกัดมิติ” ผนึกมนตราตอบ “การเปิดมิติทำได้เพียงเข้าสู่ห้วงมิติความว่างเปล่าอันไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่มีพิกัดใครจะกล้าข้ามมิติว่างเปล่ากัน?”
ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ห้วงมิติความว่างเปล่าอันไม่มีที่สิ้นสุดช่างน่ากลัวจริงๆ
“แล้วมิติที่ถูกทิ้งร้างล่ะ”ลั่วอู๋ถาม
“ถ้าเจ้ามีมิติว่าง เจ้าก็ควรลองทำดู” ผนึกมนตราพูดอย่างโกรธ ๆ “มิติของสำนักเฉียนหลงนั้นปิดสนิทและไม่มีทางที่จะหาพิกัดได้”
ลั่วอู๋คิดอยู่พักหนึ่ง “ดูเหมือนว่าข้าจะมีนะ”
“หืม”
“ข้าเปิดมิติที่เชื่อมกับสำนักเฉียนหลงในเผ่าแซค แต่มันไม่สมบูรณ์และข้าไม่สามารถผ่านส่งสิ่งมีชีวิตผ่านไปได้”
“……”
“มันน่าจะพอหาพิกัดมิติได้”
“อืม อืม” ผนึกมนตราเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดอย่างโกรธ ๆ “เจ้างี่เง่า เจ้าทำอะไรลงไป”
“มีปัญหาอะไรรึ?”ลั่วอู๋ประหลาดใจ
“เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้าได้รับพิกัดมิติไป!” ผนึกมนตราโกรธจัด
ลั่วอู๋ผงะและจากนั้นเขาก็หลั่งเหงื่อเย็น
เขาไม่ได้คิดถึงปัญหานี้ในตอนแรก
หากมันได้รับพิกัดของมิติไป ด้วยความสามารถของปรมาจารย์ปีศาจทั้งเก้า พวกมันอาจจะสามารถผ่านห้วงมิติว่างเปล่าอันไม่มีที่สิ้นสุดมาถึงสำนักเฉียนหลง
“ไม่… เป็นไปไม่ได้” ในใจของลั่วอู๋ถึงกับหนาวสั่น
“ฮึ่ม โชคดีที่มีผนึกมนตราอยู่ในนรกมนตราทำให้ไม่มีปีศาจตัวใดออกไปได้ต่อให้มันจะทำลายมิติ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหากับพิกัดของมิติ” ผนึกมนตรากล่าว
ลั่วอู๋รู้สึกหนาวสั่นจากหัวใจ “ถ้าไม่เป็นอะไรทำไมท่านถึงทำให้ข้ากลัวด้วย?”
ลั่วอู๋รู้สึกกลัวอย่างมาก
“ข้าจะสอนบทเรียนยาว ๆ นี้ให้แก่เจ้า” ผนึกมนตราพูดอย่างจริงจัง” ทุกสิ่งมีความเสี่ยงเมื่อระมัดระวังมากไป”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของลั่วอู๋ก็ดูจริงจัง “ศิษย์เข้าใจแล้ว”
มันเกี่ยวกับนรกมนตรา
จะระวังมากเกินไปไม่ได้
เนื่องจากสัตว์ร้ายกระหายเลือดสามารถตัดผ่านมิติได้และตอนนี้มันสามารถหาพิกัดของมิติได้แล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะออกไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยเหลือแม่ของสัตว์ร้ายกระหายเลือด
“สัตว์ร้ายกระหายเลือดตัวนั้นอยู่ในมือของใคร?” ผนึกมนตราได้ถามออกไป
ลั่วอู๋คิดอยู่พักหนึ่ง “ได้ยินมาว่าอยู่ในมือของราชาปีศาจอมตะ”
“นี่เป็นโอกาส” ผนึกมนตรากล่าวอย่างครุ่นคิด
“ท่านพูดว่าอะไรนะ?”
“ราชาปีศาจอมตะนั้นมีร่างกายที่เป็นอมตะ แต่แง่มุมอื่น ๆ นั้นธรรมดามากถ้าเจ้าสามารถใช้เลือดเนื้อปกปิดลมปราณของเจ้าได้ เจ้าก็จะรอดพ้นจากการรับรู้ของมันได้”
มีวิธีนั้นอยู่นี่เอง
สมกับเป็นเจ้าสำนักจริงๆ
แต่ว่า …
ลั่วอู๋ร้องไห้และหน้าซีด “เจ้าสำนัก ท่านล้อเล่นอยู่หรือ? ข้าเป็นเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูง 2 ข้าจะเอาเลือดเนื้อของราชาปีศาจอมตะมาจากที่ไหนกัน?”