ไหปีศาจ - บทที่ 744 ชายชรา
บทที่ 744 ชายชรา
บทที่ 744
ชายชรา
เซียวอวี้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันวิญญาณมหาศาลจากข้อมือของเขา ทำให้เขาไม่สามารถขยับมันได้
เขามองไปที่ชายชราคนนั้นพลางพูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใครกัน?”
“หญิงสาวคนนั้นเป็นศิษย์ของข้าเอง” ชายชรายิ้ม “เห็นแก่ข้าแล้วปล่อยนางไปเถอะนะ”
จงลี่และพรรคพวกต่างตกใจ
เซียวอวี้ผู้มีร่างกายผสมผสานเข้ากับแก่นวิญญาณส่วนหนึ่งของราชาผีดิบฮานนั้นมีพลังทางกายภาพอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานยากที่จะหาใครเทียบ ทว่าชายชราคนนี้กลับหยุดเขาเอาไว้ได้เสียอย่างนั้น
เขาคืออาจารย์ของราชินีแห่งฝันร้ายงั้นเหรอ?
ว่ากันว่าราชินีแห่งฝันร้ายนั้นเคยเป็นนักเรียนของสำนักเฉียนหลง ดังนั้นชายชราคนนี้เองก็น่าจะเป็นคนจากสำนักเฉียนหลง ใช่หรือไม่?
หลังจากได้ยิน เซียวอวี้ก็หัวเราะเยาะ “เห็นแก่เจ้างั้นเหรอ? เจ้าลองมองดูรอบตัวก่อนสิ เจ้าเห็นกองซากศพเหล่านั้นไหม ต่อให้เจ้าเป็นสมาชิกของสำนักเฉียนหลง เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาขอความเมตตาให้กับนางหรอก”
“ อ๋อ?” ชายชรามองไปรอบ ๆ แล้วจึงพูดอย่างใจเย็น “แค่เท่านี้เอง มีคนตายไม่มากเท่าไหร่เลยไม่ใช่เหรอ”
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรทั้งสี่คนโกรธมาก
อย่างน้อย ๆ ก็มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนในเหตุการณ์ครั้งนี้ตามการประมาณของพวกเขา
กลิ่นเลือดกระจายฟุ้งไปทั่วจนแทบจะลอยออกไปด้านนอกมาจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ ขนาดนี้แล้วเขายังบอกว่า มีคนตายไม่มากเท่าไหร่ได้อีกงั้นเหรอ?
“นั่นคือความคิดของทางสำนักเฉียนหลงใช่หรือไม่?” หมอกสีดำแห่งความหวาดกลัวแผ่ออกมาจากร่างกายของเซียวอวี้ เสียงของเขาแหบแห้งจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ทว่าชายชราดูเหมือนจะไม่กลัวหมอกดำของเขาเลยแม้แต่น้อย “ไม่ มันเป็นเพียงแค่ความคิดของข้าเท่านั้น”
“เจ้าคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะขวางข้าได้รึไง?” เซียวอวี้ส่งเสียงคำรามต่ำออกมา ร่างกายของเขาแผ่พลังวิญญาณอันน่ากลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง
อีกฝ่ายสามารถหยุดเซียวอวี้ได้นั้น เป็นเพราะเซียวอวี้ยังไม่ได้เอาจริง พลังที่แท้จริงของราชาผีดิบฮานไม่มีทางเป็นอะไรที่จะถูกหยุดลงได้ง่าย ๆ แบบนี้อยู่แล้ว
ทันใดนั้นเองในมือของชายชราก็ปรากฏกริชอันแหลมคมขึ้น มันปักลงในช่องท้องของเซียวอวี้อย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสามารถตอบสนองได้ทัน
“ความเป็นอมตะนิรันดร์ของร่างกายเจ้าอาจจะทรงพลังก็จริง แต่ข้าไม่แนะนำให้เจ้าใช้พลังของมันต่อหน้าข้า” ชายชราพูดอย่างช้า ๆ “เพราะไม่ว่าร่างกายของเจ้าจะแข็งแรงแค่ไหน มันก็มีประตูแห่งชีวิตอยู่”
เซียวอวี้ขมวดคิ้ว “ไร้สาระ ร่างอมตะนิรันดร์ ของข้าจะไปมีประตูแห่งชีวิตได้ยังไง?”
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประตูแห่งชีวิตที่ชายชราพูดถึงคืออะไรและอยู่ที่ไหน
จังหวะนั้นชายชราก็ได้ขยับกริชในมือเขา ใบมีดของกริชปักอยู่ในตำแหน่งซี่โครงท่อนล่างลงไปสามนิ้ว จากนั้นเขาก็ดันกริชแทงมันเข้าลงไป ทะลุร่างของเซียวอวี้ออกมา
บาดแผลของเซียวอวี้ไม่มีเลือดไหลออกมา แต่มันทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
กริชของอีกฝ่ายแทงทะลุร่างของเขาได้อย่างง่ายดาย? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร
ร่างของราชาผีดิบฮาน เป็นร่างกายที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิไม่ใช่เหรอ!
เขารู้สึกว่าพลังอันพลุ่งพล่านในร่างกายของเขาได้ถูกตัดขาดลงพลังชีวิตของร่างกายอันเป็นอมตะนิรันดร์ ได้ถูกขัดจังหวะ นี่ทำให้เขาตกตะลึงมาก
“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?” เซียวอวี้โกรธมาก
ชายชราไม่ได้ตอบ เขาเดินไปอุ้มตัวหลี่หยินขึ้นมา จากนั้นร่างของเขาก็หายไปไกลเป็นลี้โดยไม่มีร่องรอยหรือสัญญาณใด ๆ
ความเร็วอันน่ากลัวนี้ทำให้เซียวอวี้และพรรคพวกตกตะลึง
ถ้าอีกฝ่ายคิดที่จะลอบสังหารพวกเขา พวกเขาจะหยุดอีกฝ่ายได้รึเปล่า? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในความคิดของพวกเขาทั้งสี่ราวกับฝันร้าย
“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปเอง” ชายชรากระซิบกับ หลี่หยิน
มีความตื้นตันที่หาได้ยากปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง
อาจเป็นเพราะถ้าหากนางได้กลับไปยังสำนักเฉียนหลง นางก็อาจจะสามารถไปที่นรกมนตราได้
ชายชราลูบผมยุ่ง ๆ ของหลี่หยินด้วยความสงสาร “ถึงเจ้าจะไม่สามารถควบคุมสภาพของฝันร้ายได้อย่างสมบูรณ์ก็เถอะ แต่เจ้าก็พยายามได้ดีแล้ว”
หลี่หยินพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก
ชายชราเตรียมที่จะหนีไป แต่จงลี่ไม่ยอม เขาเข้ามาขวางพร้อมแผดเสียง “ท่านผู้อาวุโส หญิงสาวคนนี้คือราชินีแห่งฝันร้าย นางได้ก่อคดีฆาตกรรมสังหารหมู่อันเลวร้ายเช่นนี้ ท่านยังต้องการที่จะปกป้องนางอีกงั้นเหรอ?”
“ แล้วจะทำไม?” ชายชราไม่สนใจเขาเลย
เขาเพียงแต่มองไปยังสถานที่อยู่ไกลออกไป
จงลี่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนที่ไร้เหตุผลขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้พิทักษ์ราชวงศ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมนั่งเฉย ๆ ปล่อยให้ศัตรูของจักรวรรดิหนีไป
“เจ้าทำให้ ข้าขุ่นเคืองเองนะ” ร่างกายของ จงลี่ ปล่อยลมปราณอันน่ากลัวของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรออกมา เงาเสมือนจริงขนาดใหญ่ของสัตว์วิญญาณทั้งห้าปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขา
นี่ทำให้ชายชราต้องหันกลับไปเหลือบมองเขา หนึ่งในเงาทั้งห้าของสัตว์วิญญาณนั้นมีตัวตนที่น่าสนใจอยู่เล็กน้อย
เงานั้นสูงกว่าเงาอื่น ๆ มันสูงราว ๆ ร้อยศอก เป็นเงาของมังกรอันสง่าผ่าเผย เกล็ดของมันเหมือนผลึกน้ำแข็งเปล่งแสงเป็นประกาย โดยมีพายุน้ำแข็งอันน่ากลัววนเวียนอยู่รอบ ๆ
“มังกรธารน้ำแข็งงั้นรึ เป็นสัตว์วิญญาณที่หาได้ยากเลยทีเดียว ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าสายเลือดของพวกมันจะยังคงมีหลงเหลืออยู่ในยุคนี้” ชายชรากล่าวอย่างแผ่วเบา
มังกรธารน้ำแข็ง คือสัตว์วิญญาณระดับเพชร.
ว่ากันว่ามังกรธารน้ำแข็งนั้นมีสายเลือดเดียวกันกับมังกรแก่นแท้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับมังกรแก่นแท้ แต่ก็เป็นตัวตนที่วิวัฒนาการไปพร้อม ๆ กันกับมัน
ใบหน้าของจงลี่เยือกเย็นลง “ข้ารู้ดีว่า ความแข็งแกร่งของข้าคงสู้เจ้าคนเดียวไม่ไหว แต่ถ้าพวกข้าสี่คนร่วมมือกัน พวกข้าชนะเจ้าได้แน่ อย่างไรก็ตามข้าไม่ต้องการให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อ เพราะองค์จักรพรรดิไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อสู้กับสำนักเฉียนหลง แต่การที่ราชินีแห่งฝันร้ายได้สังหารผู้คนนับไม่ถ้วน นางจะต้องถูกกำจัดลงที่นี่”
หลังจากนั้นเซียวอวี้และผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรอีกสองคนก็ปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมาเช่นกัน
พลังของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรทั้งสี่ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อม ๆ กันสร้างบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวขึ้นมา
ทว่าชายชรากลับหัวเราะ จากนั้นแสงสีขุ่นก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา แสดงให้เห็นถึงความหยิ่งผยองและเย่อหยิ่งของเขา “ชนะข้างั้นเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเจ้าเนี่ยนะ?”
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรทั้งสี่โกรธมาก
พวกเขาล้วนไม่ได้อ่อนแอ และมีประสบการณ์มามากพอสมควรสำหรับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร
โดยเฉพาะเซียวอวี้ที่ไม่ได้เป็นแค่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรธรรมดา ๆ เขาเป็นถึงสัตว์ประหลาดที่เกิดจากแก่นวิญญาณของราชาผีดิบฮาน ศัตรูที่ไหนที่จะต้านทานเขาได้กัน
แต่แล้วในช่วงเวลาต่อมาคำพูดของชายชราก็ต้องทำให้พวกเขาทั้งสี่คนหยุดนิ่งไป
“คำพูดแบบนี้ ครั้งล่าสุดที่ข้าได้ยินคำพูดนี้คือสมัยที่ข้ายังอาศัยอยู่ในจักรวรรดิ ซวนชิงหยู่ได้กล่าวประโยคนี้ออกมาแทบจะเหมือนกันกับที่พวกเจ้าพูดเลย” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จงลี่ตะลึง
ซวนชิงหยู่เป็นชื่อต้องห้ามของโหราจารย์อันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์มังกรเร้นกาย เขาเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในราชสำนัก โดยจะปรากฏก็ต่อเมื่อราชวงศ์กำลังพบกับวิกฤตครั้งใหญ่
แม้แต่องค์จักรพรรดิ หลี่ซวนซงองค์ปัจจุบันนั้นก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากซวนชิงหยู่ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถออกมาจัดการกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นราชินีแห่งฝันร้ายได้
“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน?” จงลี่ถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม
มีร่องรอยของการเยาะเย้ยบนใบหน้าของชายชรา “ซวนชิงหยู่ เคยส่งกองทัพและผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร 17 คนมาเพื่อไล่ตามข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นแก่นักบุญอุปถัมภ์ที่มอบที่อยู่อาศัยให้กับข้า และทำให้ข้าได้เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร ข้าคงจะก่อให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในราชสำนัก และล้างบางเมืองหลวงของจักรวรรดิด้วยเลือดของผู้คนไปแล้ว ตอนนี้พอเดาได้รึยังว่าข้าเป็นใคร? ”
เมื่อได้ยินสิ่งเขาเล่าในที่สุดพวกเขาก็รู้ตัวตนของชายชราคนนี้
เมื่อ 300 ปีก่อน มีนักฆ่าผู้ไร้เทียมทานนามว่านักฆ่าลัทธิเต๋า
เขายังไม่ตายงั้นเหรอ?
ในอดีตท่านโหราจารย์ได้อัญเชิญผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรจากทุกมุมโลกมาล้อมจับกุม นักฆ่าลัทธิเต๋า เนื่องจากเขาถือว่าเป็นศัตรูของทั่วโลก จึงเป็นเรื่องง่ายที่ท่านโหราจารย์จะรวบรวมผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร 17 คนมาทำภารกิจนี้
สำหรับเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรทั้ง 17 นั้นคนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ความจริง ส่วนนักฆ่าลัทธิเต๋า แต่ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งทุกคนก็คิดไปตาม ๆ กันว่าเขาได้ถูกสังหารลงไปแล้ว
ถ้าชายชราคนนี้เป็นนักฆ่าลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงเมื่อ 300 ปีจริง ๆ ละก็ ตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
ไม่น่าแปลกใจที่ราชินีแห่งฝันร้ายน่าสะพรึงกลัวได้ถึงขนาดนั้น ในเมื่ออาจารย์ของนางเป็นเขาคนนี้มันก็สมควรแล้วที่ผลลัพธ์จะออกมาเช่นนั้น
บางที่อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้นางจึงสามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น
ชายชราเหลือบมองไปที่จงลี่อย่างเย็นชา เสียงของเขาแหลมคมราวกับใบมีด เขาควักเนื้อและเลือดของตัวเองออกมา “เกล็ดของมังกรธารน้ำแข็งทรงพลังมากก็จริง แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดกริชของข้าได้อยู่ดี”
ต่อมาชายชราก็ได้หายตัวไปแล้วปรากฏตัวขึ้นหลังจงลี่ราวกับปีศาจที่มองไม่เห็น โดยไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวใด ๆ
จงลี่ส่งเสียงคำรามต่ำ “เกราะมังกรน้ำแข็ง!”
เกราะมังกรน้ำแข็ง คือทักษะป้องกันระดับ SS
เกล็ดของมังกรธารน้ำแข็งอันละเอียดอ่อนกระจายไปทั่วร่างของเขาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับเกล็ดของมังกรธารน้ำแข็ง อากาศเย็นหลั่งไหลออกมาจนแทบจะกลั่นตัวเป็นสสาร
แต่มือของชายชรากลับสั่นเล็กน้อยจากนั้นก็หายไปอีกครั้ง
เขายังคงดูอ่อนแอเหมือนเคย
แต่นี่กลับทำให้จงลี่เหงื่อแตก
เพราะในขณะนั้นเองเกราะมังกรน้ำแข็งก็ได้แตกสลายออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน ร่วงหล่นกลายเป็นพลังวิญญาณที่ ค่อย ๆสลายไป
เกราะของเขาที่เป็นทักษะวิญญาณขั้นสูงกลับถูกทำลายลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว