魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ - ตอนที่ 17 สาวน้อยเวทมนตร์ในโรงพยาบาล
ตอนที่ 1-5 จุดอ่อน ③
เมื่อฉันตื่นขึ้น ฉันอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย นอนอยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ แล้วเมื่อฉันลุกขึ้นฉันก็สังเกตเห็นว่าฉันสวมชุดผู้ป่วยสีน้ำเงินอยู่ค่ะ
เพราะความง่วงงุนหายไปทำให้ความคิดในหัวของฉันค่อยๆ ฟื้นกลับมาชัดเจนอีกครั้งค่ะ และฉันก็วางมือลงบนหน้าอกของฉันทันทีที่สัมผัสได้ถึงความกลัวที่อัดแน่นอยู่ภายในนั้นแล้วมันก็ทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ออก
“ยังมีชีวิตอยู่?…”
ฉันรู้สึกได้อย่างแน่นอนว่าหัวใจของฉันกำลังเต้นอยู่ค่ะ และมันก็เจ็บเมื่อฉันลองหยิกแก้มของตัวเอง
โล่งอกไปทีที่ยังไม่ตาย…
ฉันจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนทุกอย่างจนกระทั่งหมดสติไปค่ะ
เมื่อฉันพยายามเข้าต่อสู้กับดิสแกะสองหัว ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกง่วงจนทนไม่ไหว และในตอนท้ายที่สุดฉันที่ไม่สามารถต้านทานมันได้ก็ผล็อยหลับไปในขณะที่รู้สึกว่าความตายกำลังคืบคลานใกล้เข้ามา
จากนั้นฉันก็คิดว่าฉันฝันแปลกๆ มาเป็นระยะเวลายาวนานก่อนที่ฉันจะตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องนี้ค่ะ
เมื่อฉันมองลงไปที่ มากิโฟน ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้ป่วยก็พบว่าเป็นเวลาสามวันแล้วนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้นค่ะ
“เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย…?”
“นี่คือโรงพยาบาลในโลกเวทมนตร์ รัน! เรียวอิจิหลับไปเพราะเวทมนตร์สะกดจิตของดิส รัน!”
ไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาเพื่อถามคำถามหรอกค่ะ แต่ก็มีคนตอบ เขาคือแจ็ค หัวฟักทองลอยได้ที่ชอบทำตัวผลุบๆโผล่ๆ
บางทีเขาอาจอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้เพียงแค่ฉันไม่ได้สังเกตเห็นเขาค่ะ และตอนนี้ฉันก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
ความโกรธที่มีต่อแจ็ค ไม่สิ ที่โลกเวทมนตร์กำลังพลุ่งพล่านราวกับว่ามันพยายามจะกลบความกลัวที่ฉันรู้สึกเป็นครั้งแรกในช่วงชีวิตจากการเข้าใกล้ความตายค่ะ
“มันเป็นอะไรที่อันตรายมากเลย รัน! ครั้งนี้ดิสมาพร้อมกับความสามารถในการสะกดจิตให้หลับน่ะ รัน!”
“ปกติแล้วเวทมนตร์แบบนั้นใช้ไม่ค่อยได้กับสาวน้อยเวทมนตร์หรอกนะ รัน! แต่มันได้ผลเป็นพิเศษกับเรียวอิจิน่ะ รัน! เพราะมีความต้องการที่จะนอนหลับสนิทมากๆ รัน!”
“อย่างที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ปกติแล้วแม้ว่าขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้แต่เวทมนตร์รบกวนจิตใจโดยตรงสามารถใช้ได้กับสาวน้อยเวทมนตร์อยู่บ้างนะ รัน!”
“ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอเลเฟ่นมาช่วยไม่ทัน รัน!”
“คุณเอเลเฟ่นเหรอคะ…?”
แจ็คที่พูดด้วยท่าทางหยิ่งผยองด้วยเหมือนรู้ทุกอย่าง ทำให้ฉันไม่พอใจและรู้สึกไม่ชอบเขาจึงจ้องมองไปที่เขาและเพิกเฉยต่อบทสนทนามาโดยตลอดค่ะ แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะตอบสนองต่อคำพูดที่คาดไม่ถึงค่ะ
แต่ทำไมตรงจุดนี้ชื่อของเอเลเฟ่นถึงโผล่ออกมากันคะ?
“ใช่แล้ว รัน! เอเลเฟ่นจัดการดิสแทนเรียวอิจิ รัน! และด้วยตัวคนเดียวด้วยนะ รัน! เธอควรไปขอบคุณเธอสักหน่อยนะ รัน!”
“อะ ทำไมล่ะ…”
ฉันพูดไม่ดีกับเด็กสาวคนนั้นและพยายามผลักไสเธอออกไปค่ะ และฉันเองก็เลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียวโดยทำการกระทำที่ไร้มารยาทอย่างการปัดมือของเธอที่ยื่นมาหาฉันออก หากเธอจะไม่มาช่วยฉันแล้วล่ะก็คงจะไม่มีใครสามารถต่อว่าเธอได้หรอกค่ะ
นอกจากนี้ระดับที่เหมาะสมของเด็กสาวคนนั้นควรเป็นคลาสอัศวินอย่างบารอนน่าจะต้องร่วมมือกับเพื่อนที่มักจะร่วมมือกันเพื่อกำจัดมันค่ะ แถมตอนนี้มันเป็นเหตุกาณ์ฉุกเฉินที่มีสายพันธุ์ใหม่ปรากฏตัวออกมา ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเธอไม่ควรได้รับแจ้งถึงการปรากฏตัวของคลาสบารอน…!
“อย่าบอกนะคะว่า แจ็ค…?”
“ใช่แล้ว รัน! รู้สึกปลื้มผมเลยสิ รัน! ผมไม่สามารถส่งแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการได้ดังนั้นจึงใช้วิธีติดต่อแบบส่วนตัวและขอให้เธอมาช่วยน่ะ รัน! เบลดกับเพลซ ดูเหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นมันนะ รัน! แต่ผมดีใจที่เอเลเฟ่นมา รัน! ผมคิดว่าเรียวอิจิก็ควรจะกล่าวขอบคุณผมด้วยเหมือนกันนะ รัน!”
แจ็คตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูภาคภูมิใจราวกับว่าเขากำลังยืดอกอยู่
มีความสุขอะไรนักหนา? สนุกมากนักหรือยังไงคะ?
ฉันควรจะรู้หมอนี่มันไม่น่าไว้ใจเพราะเขาเป็นอะไรที่ถูกสร้างมาให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนแรกก็มาบังคับให้เป็นสาวน้อยเวทมนตร์ ถูกบังคับให้เข้าต่อสู้ แต่ฉันคิดว่าฉันเข้าใจดีแล้วแต่ไม่เลยค่ะ
หลังจากตื่นขึ้นในห้องนี้ ฉันก็ตระหนักได้อีกครั้งว่าคนๆนี้นั้นเป็นเศษเดน และทุกอย่างคือแผนของเขาค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นคนคนนี้เป็นอะไรที่แย่ไปกว่านั้น มันมากกว่าที่ฉันจิตนการเอาไว้มาก!!
“ทำไมล่ะคะ!!”
ฉันควบคุมอารมณ์ไม่ได้และกรีดร้องออกมาสุดเสียง
แจ็คตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่งด้วยความประหลาดใจและมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าสับสน ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจว่าฉันโกรธเรื่องอะไร ซึ่งมันทำให้ฉันโกรธมากขึ้นไปอีกค่ะ
“ทำไมถึงขอความช่วยเหลือจากคุณเอเลเฟ่นล่ะคะ! ก็รู้นี่ว่าถ้าแค่เด็กคนนั้นคนเดียวโอกาสชนะก็แทบจะไม่มีเลยไม่ใช่เหรอคะ!”
“เรื่องมันจบลงไปแล้ว รัน! เดิมทีคิดว่าพอส่งคำขอไปแล้ว เอเลเฟ่น เบลด และ เพลซ ทั้งสามคนมาช่วยด้วยกันน่ะ รัน!”
“แต่สุดท้ายคนที่มาสู้ก็มีแค่เด็กสาวคนนั้นคนเดียวไม่ใช่เหรอคะ!! อ๊ะ..นั่นไม่ใช่ความฝันสินะ…มะไม่ใช่ความฝันสินะคะ!!”
ขณะที่กำลังฝันถึงอดีตจอมปลอมภาพเหล่านั้นก็หายไปในพริบตาราวกับฟองสบู่ที่แตกออก
ร่างของเด็กสาวที่โชกไปด้วยเลือดและยังคงกุมมือที่ยื่นออกไปของฉันไว้ เธอคือเอเลเฟ่นและมันไม่ใช่ความฝัน แม้ว่าเธอจะเต็มด้วยบาดแผลมากมายจากการต่อสู้จนเลือดไหลรินแต่เธอก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้ฉันคนนี้
มันต้องเจ็บแน่อยู่แล้วค่ะ และมันต้องทรมาณมากแน่ๆค่ะ
แม้ว่าตอนนี้การต่อสู้จะจบลงแล้วก็ตามขนาดฉันที่เคยเป็นผู้ใหญ่ก็ยังรู้สึกกลัวมากขนาดนี้!
เด็กสาวอายุแค่นั้น! เธอจะไม่กลัวได้ยังไงคะ! ในความเป็นจริงแล้วเธอจะต้องกลัวและกลัวมากแน่ๆค่ะ!
แต่ความรู้สึกแบบนั้นสำหรับฉันแล้วน…!
“ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะชนะได้รึเปล่าเนี่ยนะคะ!? อาจจะแพ้ก็ได้! ทั้งๆที่ฉันควรจะเป็นคนเดียวที่ตายอยู่ตรงนั้นค่ะ! แต่แล้วทำไมล่ะ!? ทำไมล่ะคะ!? เพื่อคนแบบฉันคนนี้แล้ว!?”
“จ..ใจเย็นๆก่อนนะ รัน! เรียวอิจิกำลังสับสนอยู่นะ รัน!”
ฉันกำสับสน!?
จะให้ตอบว่า อาเข้าใจแล้วเหรอคะ!
ของแบบนี้น่ะ ของแบบนี้น่ะจะให้ใจเย็นอยู่ได้ยังไงกันคะ!!
อาา……! ทำไมถึงไม่เคยสังเกตเลยนะ! ทำไมกันนะ……!
“คุณน่ะ! ก็แค่ไม่อยากเสียพลังที่ฉันมีไปสินะคะ! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้ไม่สนใจว่าสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นจะเป็นตายร้ายดียังไงแต่ขอให้แค่ฉันรอดก็พอสินะคะ!! มันเป็นแบบนั้นใช่ไหมคะ!?”
“ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นนะ รัน! ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้นแล้ว รัน! หรือเธออยากจะบอกว่าให้ทอดทิ้งเรียวอิจิน่ะ รัน? ถ้าเธอตายไปแล้วสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นๆ ก็ไม่ต้องตกอยู่ในอันตรายคิดแบบนั้นเหรอ รัน!”
“ไม่มีทางที่จะคิดอย่างนั้นหรอกค่ะ!!”
ฉันไม่มีทางตายค่ะ!
ฉันกลัวที่จะตาย
ฉันเกลียดที่จะตาย
ฉันไม่ต้องการทำอะไรที่เป็นอันตราย
ฉันไม่อยากรู้สึกเจ็บปวด
เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ และมันควรจะที่จะเป็นไปแบบนั้นค่ะ
ฉันเป็นคนแบบนั้นค่ะ
ตอนที่ฉันถูกบังคับให้เป็นสาวน้อยเวทมนตร์และถูกสั่งให้ต่อสู้กับดิสตอนแรกฉันเกลียดมันมาก และฉันก็กลัวและกังวลด้วยค่ะ
ฉันยังจำได้แม่นว่าฉันรู้สึกยังไงในตอนนั้นค่ะ
ถึงจะเป็นอย่างนั้น..
ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม!
ทันทีที่ฉันเริ่มต่อสู้กับดิสความกลัวของฉันก็หายไปค่ะ! ฉันรู้สึกว่าความกล้าของฉันจะหลั่งไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุด! ความกังวลเองก็ลดน้อยลง! และฉันไม่คิดว่าฉันเกลียดการต่อสู้อีกต่อไปค่ะ!
มันถูกพรากไปจากฉัน! ทำให้ฉันนั้นเปลี่ยนไป! มันคือจิตใจที่เคยเป็นของฉัน! หัวใจของฉัน!
นั่นไม่ใช่ฉัน!
ไม่มีทางที่จะเป็นฉัน!
“มันของฉันค่ะ! ได้โปรดเอาหัวใจของฉันคืนมาด้วยเถอะค่ะ! ความกลัวของฉัน! ความวิตกกังวลของด้วยฉัน! อย่าเอามันไป! อย่าพรากมันไปจากฉันเลยนะคะ!!”
ฉันตะโกนออกมาด้วยความโกรธค่ะ หัวใจของฉันนั้นเต็มไปด้วยความโกรธในขณะที่ฉันเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา
ฉันรู้สึกว่าถ้าฉันร้องไห้ ถ้าฉันหลั่งน้ำตาออกมา ฉันจะรู้สึกเหมือนใจแตกสลาย
ฉันหวาดกลัวว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง กระวนกระวายกระวนกระวายจนแทบจะทนไม่ได้ค่ะ
แต่ความรู้สึกนี้จะหายไปถ้าฉันไปสู้อีกครั้งค่ะ
อารมณ์ที่ทำให้ยุ่งยากจะถูกลบออกเพื่อปกป้องโลกใบนี้
ตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้ และอับจนหนทาง
และฉันไม่ใช่ฉันอีกต่อไป
ทำไมกัน!? ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็น? ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง?
ราวกับว่าฉันได้กลายเป็นฮีโร่ของเรื่องราวสักเรื่อง ฉันไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองเลยในขณะที่ฉันต่อสู้ ฉันไม่คิดเลยสักนิดว่ามันแปลก รู้สึกเป็นธรรมชาติ ฉันต่อสู้อย่างกล้าหาญ ฉันได้รับชัยชนะ แล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันสมควรได้รับมันค่ะ
“กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เหรอ รัน? ความกลัวและความวิตกกังวลเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการต่อสู้ รัน! ถ้าเกิดขาสั่นขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญเธอจะมีปัญหานะ รัน!”
มันไม่ใช่การยั่วยุหรืออะไร แจ็คพูดด้วยความประหลาดใจอย่างแท้จริง
เป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้? คิดว่ามันจะมีปัญหาถ้าขาของฉันแข็งจนก้าวไม่ออก?
ฉันมั่นใจว่าเขาไม่รู้จริงๆ เพราะนั่นเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้ในฐานะสาวน้อยเวทมนตร์ ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในฐานะมนุษย์ไม่สำคัญเลยสักนิดสำหรับเขา เขาเลยไม่คิดจะสนใจหรือใส่ใจค่ะ
เพราะแบบนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะมันมีประสิทธิภาพนั่นแหละค่ะ
“ถ้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว รัน! ก็น่าจะไปเยี่ยมเอเลเฟ่นนะ รัน! เธอบาดเจ็บสาหัสและยังอยู่ในโรงพยาบาลเหมือนกัน รัน! ไปขอบคุณเธอสักหน่อย รัน!”
“กรุณาออกไปด้วยค่ะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าของคุณอีกแล้วค่ะ!”
“ขอบอกอะไรก่อน-“
“ออกไป!!”
“—เข้าใจแล้ว รัน! เอเลเฟ่นอยู่ที่ห้อง 404 ขึ้นไปอีกสองชั้น รัน!”
พูดจบแจ็คก็จากไป
กลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง ไม่มีศัตรูให้ต่อสู้ ไฟที่ลุกโชนอยู่ในใจก็มอดดับลง
ความเหงาทำให้ฉันกังวลมากขึ้นค่ะ และหน้าอกของฉันรู้สึกเหมือนถูกบีบรัด
“จะร้องไห้ไม่ได้ค่ะ…”
กัดฟันระงับอารมณ์
หายใจเข้าลึก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อสงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
ใช่ค่ะ การนั่งอยู่ตัวคนเดียวก็ทำให้คิดได้แต่เรื่องแย่ๆ
ไปกล่าวคำขอบคุณกันเถอะค่ะ ฉันไม่ชอบทำตามที่แจ็คบอกแต่ฉันต้องขอบคุณเธอที่ช่วยฉันเอาไว้ และบางทีอาจจะเปลี่ยนอารมณ์ของฉันได้บ้างก็ได้ค่ะ
คุยกันนิดหน่อย พูดขอบคุณ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
มันจะต้องไม่เป็นไรค่ะ ฉันใจเย็นลงแล้วค่ะ