魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ - ตอนที่ 3 ฟักทองคิวเบย์ที่บุกมายามวิกาล
ตอนที่ 1-1 การแปลงร่าง ③
เวลาดึกดื่นของวันนั้น ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ มันเป็นการนอนไม่หลับเป็นมากกว่าการนอนไม่หลับปกติธรรมดา ว่ากันตามจริงแล้วการนอนไม่หลับก็มีมากมายหลายประเภท เช่น การนอนหลับยากหรือนอนหลับไม่สนิท
ในคืนนั้นฉันนอนหลับไม่สนิทและถูกปลุกด้วยเสียงอันแผ่วเบา
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของฉันคือร่างของหัวฟักทองที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศ
“แจ็ค…? มาทำอะไรตอนกลางคืนแบบนี้…”
ขณะที่ต่อสู้กับอาการปวดหัว ฉันก็ขยี้ตาและพยายามดันร่างกายท่อนบนให้ลุกขึ้นนั่งแต่สุดท้ายฉันก็ลุกไม่ขึ้นเพราะฉันง่วงมากเกินไป
มีบางอย่างแปลกไป ปกติแล้วฉันจะไม่ง่วงนอนมากขนาดนี้ แม้ว่าฉันง่วงนอนได้แต่จริงๆ แล้วมันเป็นความรู้สึกง่วงนิดๆหน่อยๆ ที่หลับไม่ลงและคอยทรมานฉันอยู่เสมอ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้นอนหลับไม่สนิท แต่ในวันนี้ฉันง่วงมากจริงๆ
ถ้าฉันปล่อยตัวปล่อยกายลงนอนทั้งแบบนี้ บางทีฉันคงจะหลับลงทันทีเลย
“จะว่าไป รัน! เรียวอิจิเป็นโรคนอนไม่หลับนี่นะ รัน! อีกแค่แป๊บเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วล่ะ รัน!”
“หมาย..ความว่า…ยังไง……”
สติของฉันล่องลอยไป และเปลือกตาของฉันก็ค่อยๆ ปิดลง
ในความมืดมิดนั้น ฉันคิดว่าฉันเห็นหัวฟักทองกำลังหัวเราะอยู่
“คงง่วงมากเลยสินะ รัน! ดีใจด้วยนะ รัน! คืนนี้ขอให้หลับให้สบายนะ รัน!”
คำพูดเหล่านั้นส่งมาไม่ถึงฉัน
ฉันจมลงสู่ห้วงนิทราที่ไม่ได้มาเยือนเป็นเวลานานมากแล้ว ฉันหลับลึกและมันลึกเอามากๆ
・
เมื่อฉันตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น อาการปวดหัวเรื้อรังของฉันก็หายไป อาจเป็นเพราะฉันสามารถนอนหลับสนิทได้เป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่สามารถหลับสนิทมานานมากแล้ว มันทำให้ฉันสงสัยจริง ๆ ว่านานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้รู้สึกดีแบบนี้ในตอนเช้า
ในตอนแรกที่เห็น ฉันเองก็สงสัยว่าแจ็คกำลังทำอะไรอยู่เมื่อคืนนี้ บอกตามตรงว่ามีคำถามที่ชวนสงสัยผุดขึ้นมาในหัวยกอย่างเช่น แจ็คมาที่นี่อีกครั้งทำไมกัน? แต่ว่าคงต้องขอบคุณแจ็คนะถ้าเป็นเขาที่ทำให้ฉันสามารถนอนหลับสนิทได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันก็คงสามารถมองข้ามต่อเรื่องที่เขาพยายามขายสาวน้อยเวทมนตร์มากเกินไปเมื่อวานนี้และการที่บุกรุกมาตอนกลางดึกไปได้
เมื่อฉันพยายามลุกจากเตียงด้วยความสดชื่นเพื่อทำกิจวัตรตามปกติ ฉันรู้สึกวิงเวียนหน้ามืดเล็กน้อย ราวกับว่าจุดศูนย์ถ่วงของฉันไม่เหมือนเดิม หรือว่าฉันขยับร่างกายในการลุกขึ้นจากเตียงผิดท่ากันนะ….
จากนั้นฉันก็เริ่มตระหนักว่ามุมมองของฉันต่ำกว่าปกติที่ควรจะเป็น และยิ่งไปกว่านั้น การมองเห็นของฉันซึ่งควรจะพร่ามัวหากไม่สวมแว่นตา กลับเห็นได้ชัดเจนมากเสียจนน่าอึดอัด
……อะไร? เกิดอะไรขึ้น?
ความคิดที่เคยเฉื่อยชาเพราะความง่วงปลิวกระเด็นหายไปในพริบตา และฉันก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกสับสน
ฉันรีบตรวจสอบร่างกายทั้งหมดของฉันอย่างรวดเร็ว และนั้นทำให้ฉันพบกับความจริง…
“อุ นี่ล้อเล่นใช่ไหม…”
แขนขาสั้น
ผมยาว แถมสีผมเองก็ต่างออกไป
เสียงเองก็เล็กลง และสูงขึ้น
ไม่มีอะไรอยู่ตรงเป้าทั้งที่ควรจะมีมันอยู่
ฉันวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและพยายามส่องกระจก แต่ตัวของฉันในตอนนี้นั้นเตี้ยเกินไปที่จะส่องกระจกถึง
มันแปลกมากไปไหม… เมื่อวานฉันยังใช้มันได้ตามปกติอยู่เลยนะ
เมื่อฉันมองเข้าไปในกระจกโดยใช้ของแถวๆนั้นเป็นแท่นเหยียบ ฉันก็ได้เห็นใบหน้าของเด็กสาวคนนึงที่มีสีหน้าซีดเผือก
“ฉันเป็นเด็กผู้หญิง!?”
เธอคนนั้นมีผิวที่สวยราวกับกระเบื้องเคลือบสีขาว นัยน์ตาที่เปล่งประกายด้วยสีหยกราวกับเม็ดอัญมณี และเส้นผมเรียบลื่นสีเขียวมรกต เท่าที่มองดูอายุของเธอน่าจะประมาณ 10 ขวบได้?
นี่มันอะไรกัน? มันดูเหมือนเป็นรูปลักษณ์ของสาวสวยที่สามารถเห็นได้เฉพาะแค่ในอนิเมะกับมังงะ
ไม่ไม่ไม่ไม่
ก็จริงที่เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาก แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมามัวแต่จ้องมองเด็กสาวในกระจก
นี่ต้องเป็นฝีมือของมันแน่ๆ นี่คือสิ่งที่มันทำอยู่คืนเมื่อวานนี้สินะ!
“โอ๊ะ น่ารักสุดๆไปเลยไม่ใช่เหรอ รัน! ว่าแล้วเชียวสายตาของผมไม่มีทางมองพลาดไปได้หรอกนะ รัน!”
เหมือนกับเมื่อวานนี้ เจ้าสัตว์ประหลาดหัวฟักทองก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังฉันก่อนที่ฉันจะรู้ตัวเสียอีก
ถ้าเป็นเมื่อวานฉันคงอารมณ์เสียถ้าหากว่าฉันล้มลงกับพื้นแต่ในวันนี้ด้วยความโกรธทำให้ฉันต้องการจะต่อยไอ้ฟักทองผีให้ได้แม้ว่าจะต้องล้มลงไปสักกี่ครั้งกี่หนก็ตาม แต่น่าเสียดายที่หมัดของฉันนั้นไม่อาจถึงตัวของแจ็คได้เลยแล้วฉันก็ยังเสียสมดุลแล้วล้มลงครั้งแล้วครั้งเล่าอีกต่างหาก และแม้จะพยายามลุกขึ้นยืนแต่แล้วมันก็จบลงด้วยการล้มลงไปอีกครั้งอยู่เรื่อยๆ
“นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ!?”
ฉันพบว่าคำพูดที่ฉันพยายามพูดถูกแปลงเป็นคำพูดสุภาพโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้แม้แต่น้ำเสียงเองก็ยังน่ารักและเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกของร่างกายนี้แถมยังไม่อาจแสดงความโกรธที่มีออกมาผ่านน้ำเสียงได้เลยแม้แต่น้อย
นี่เป็นฝีมือของไอ้แจ็คอย่างไม่ต้องสงสัย
“ก็เมื่อวานเธอให้เหตุผลกับผมว่าเพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงนี่ รัน! ดังนั้นตอนนี้ในเมื่อเธอกลายผู้หญิงแล้วเท่านี้เธอก็สามารถเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ได้แล้วนะ รัน!”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เอาแล้วไงคะ!?”
“เอ๋? ใช่เหรอรัน? ผมจำไม่ได้เพราะว่าข้างในหัวฟักทองนี่มันว่างเปล่าน่ะ รัน!”
แจ็คหัวเราะด้วยความสะใจจากก้นบึ้งของหัวใจ
ไอ้ฟัคทองเวร…!
เมื่อวานนี้มันแกล้งทำเป็นกลับไปอย่างเงียบ ๆ และพยายามทำให้ฉันไม่ระวังตัว
ฉันถูกมันหลอกเข้าเต็มเปาและมันก็ทำแบบนี้! ใช่ทำแบบนี้กับฉันคนนี้!
“กรุณาทำให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมด้วยค่ะ!”
“ไม่เอาหรอก รัน! ตอนนี้ไม่มียาแก้อยู่กับตัวหรอกนะ รัน! ถ้าอยากได้ยาเปลี่ยนเพศผมต้องกลับไปเอามานะ รัน! แล้วตอนนี้ผมก็ไม่มีอารมณ์อยากจะเปลี่ยนกลับให้ด้วย รัน! ถ้าอยากกลับเป็นเหมือนเดิมคงต้องพยายามหาทางเอาเองแล้วล่ะ รัน!”
“กรุณาอย่าล้อเล่นสิคะ! นี่คุณคิดว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วฉันจะให้อภัยเหรอคะ?
การเปลี่ยนเพศและอายุโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวนั้นช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
ในเมื่อมันทำเรื่องบ้าบอแบบนี้กับฉัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดคุยอย่างเป็นมิตรกับมันอีกแล้ว
“ใครจะไม่ยกโทษให้ก็ไม่สนหรอก รัน! ถึงเรียวอิจิจะไม่ยกโทษให้ รัน! แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี รัน! เธอจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไงล่ะ รัน! คิดว่ารัฐบาล ศาล หรือตำรวจจะเชื่อเหรอว่าเธอตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วถูกพลังประหลาดทำให้กลายเป็นเด็กผู้หญิงไปแล้วน่ะ รัน! ต่อให้พวกเขาจะเชื่อเธอจริงแล้วจะทำอะไรได้อีกล่ะ รัน?”
“อา มันต้ององค์กรที่คอยควบคุมดูแลปราบปรามการกระทำผิดของพวกคุณอยู่บ้างสิคะ!”
แต่นั่นแหละ… เมื่อตอนที่แจ็คอธิบายเกี่ยวกับสาวน้อยเวทมนตร์ เขาอธิบายแค่ว่าพวกเธอมีพลังต่างๆ มากมาย เช่น เวทมนตร์และคาถาอาคมอะไรพวกนั้น แต่ฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าพลังอำนาจพวกนี้จะถูกใช้งานออกไปได้ง่ายๆโดยปราศจากการควบคุมหรือกฎเกณฑ์ใดๆ
ฉันจิตนาการไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไงหรือแบบไหนแต่ว่ามันควรจะต้องมีข้อกำหนดหรือกฎข้อบังคับให้ปฏิบัติตามอยู่ด้วยสิ
ไม่อย่างนั้นสังคมได้วุ่นวายแน่ๆ
“รัน ถ้าไม่ถูกจับได้ก็ไม่ผิดหรอก รัน! เรียวอิจิน่ะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกฝั่งนี้เลยด้วยซ้ำนะ รัน!”
“ขะ..ข้อมูลพวกนี้จะต้องไปถึงพวกเขาในสักวันนึงแน่คะ!”
“จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยได้จนถึงวันนั้นมาถึงเหรอ? รัน การดูแลตัวเองต้องแบกรับความเสี่ยงต่างๆนาๆมากมายเลยนะ รัน! ตัวเธอเองน่าจะพอรู้อยู่แล้วนะ รัน! ว่าตอนนี้เรียวอิจิน่ะกลายเป็นสาวน้อยที่แสนสวยไปแล้วนะ รัน! คิดว่าต้องมีทั้งคนแปลกๆและพวกโรคจิตที่ถูกใจในตัวเธอไม่น้อยเลยนะ รัน!”
“นั่นน่ะ…”
ฉันพูดเองก็กระไรอยู่ แต่มันเป็นความจริงที่รูปลักษณ์หน้าตาในปัจจุบันของฉันอยู่ในระดับที่เรียกว่าเป็นสาวสวยอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหามากพอๆกับไอดอลระดับท็อปอีกด้วย ฉันคิดว่าที่มันเป็นแบบนี้อาจจะเพราะว่ามีเวทมนตร์ที่น่าอัศจรรย์หลงเหลือแอบแฝงอยู่ในใบหน้าเล็กๆ นี้ที่ถูกมันสร้างขึ้นก็เป็นได้
ถ้าฉันที่รูปลักษณ์โดดเด่นขนาดนี้อาศัยอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครคอยหนุนหลังแล้วล่ะก็ สิ่งที่ฉันไม่อยากจินตนาการถึงอาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็ทนไม่ได้ที่จะยอมให้สิ่งต่างๆเป็นไปที่ไอ้แจ็คต้องการ
“ต่อให้ฉันจะยอมแพ้เรื่องที่อยากจะเอาผิดคุณ แต่อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าฉันที่กลายเป็นสาวสวยแบบนี้จะยอมเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เหรอคะ?”
“เป็นสิ รัน จะว่ายังไงดี เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเป็นหรอกนะ รัน”
แจ็คดูมั่นใจและไม่กังวลเลยสักนิดราวกับว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ
ถึงฉันจะกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉันก็ยังไม่ได้เป็นสาวน้อยเวทมนตร์ตราบใดที่ฉันยังยืนกรานหลังชนฝาว่าจะไม่เป็นมัน ถึงแม้จะถูกทำให้เป็นเด็กสาวโดยที่ไม่ต้องการและไม่จำเป็นจะต้องได้รับการยินยอมจากฉันได้ก็จริงอยู่ แต่ดูเหมือนว่ากับการเป็นสาวน้อยเวทมนตร์แล้วจะไม่เหมือนกัน
นั่นเป็นสาเหตุที่แจ็คต้องใช้วิธีการอ้อมค้อมแบบนี้อย่างแน่นอน แต่ความมั่นใจนี้ของมันคืออะไรกันแน่? อะไรทำให้มันมั่นหน้าราวกับว่าฉันจะกลายเป็นสาวน้อยเวทมนตร์แน่ๆกันนะ…
“……คุณหมายความว่ายังไงเหรอคะ?”
“คิดในทางตรงกันข้ามสิ รัน เธอยังทำงานปกติด้วยร่างนั้นได้ไหมล่ะ รัน จะมีใครเชื่อไหมน้าาา รัน ว่าเธอคือเรียวอิจิ มิซึคามิ น่ะรัน แถมตอนนี้ก็ไม่มีแม้แต่ทะเบียนบ้านด้วยซ้ำนะ รัน แถมด้วยรูปร่างแบบนี้ก็ไม่รู้จะมีใครกล้าจ้างเธอไหมนะ รัน”
“…!”
มันพูดถูก!? เพราะฉันสับสนมากเกินไปกับสถานการณ์นี้และในหัวเองก็เต็มไปด้วยความโกรธต่อแจ็ค ฉันจึงพลาดลืมคิดถึงเรื่องพื้นฐานง่ายๆ แบบนี้ไปซะได้
ฉันปฏิเสธที่จะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์เพื่อปกป้องชีวิตปกติสุขของฉัน
แล้วฉันจะใช้ชีวิตปกติอย่างที่เคยในสภาพแบบนี้ได้ไหม? จะสามารถเดินต่อไปบนรางที่ฉันทุ่มเทใช้เวลามากมายในสร้างและวางมันเอาไว้ได้รึเปล่า?
แน่นอนว่าฉันไม่อาจทำได้อีกแล้ว
“หรือจะขายตัวดีนะ รัน! เธอน่ารัก รับรองดังแน่ รัน! วิธีนี้ก็น่าจะทำเงินได้เยอะนะ รัน!”
“กรุณาหยุดเถอะค่ะ!”
ฉันเริ่มคิด และจินตนาการ…ถึงร่างกายที่สุดแสนจะอ่อนแอในตอนนี้ของฉัน….
ฉันรู้สึกแย่…
และรู้สึกมวนท้อง
นี่มันอะไรกัน?
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้…
“จากนี้ไปแค่หนทางเดียวแล้วที่เรียวอิจิจะได้อยู่อย่างสงบสุขน่ะ รัน คือการมาเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ ที่ขยันขันแข็ง และใช้ความสำเร็จนั้นเพื่อให้ได้รับยามาน่ะสิ รัน จากนั้นก็จะสามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้ รัน แล้วจนกว่าจะถึงตอนนั้นผมก็จะช่วยทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับงานเดิมของเธอให้แล้วกันนะ รัน”
“…แล้วถ้าฉันกลับมาเป็นปกติแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะทำให้ฉันกลับมาเป็นเด็กสาวอีกครั้งไหมคะ!?”
ฉันเม้มปากแน่นและอดทนต่ออาการคลื่นไส้ แต่ภายในใจของฉันนั้นยังคงกรีดร้องอย่างสุดเสียง
เพราะฉันรู้ว่ากับเรื่องนี้ไม่มีสิ่งใดที่ฉันสามารถทำได้อีกแล้ว และฉันไม่สามารถหลีกหนีมันได้ แล้วเมื่อมองย้อนกลับไปก็พบว่าคงไม่มีความหวังอีกต่อไปแล้วหนทางข้างหน้านั้นมีแต่ความสิ้นหวังมากมายไม่มีวันสิ้นสุดรออยู่
ฉันรู้ว่ามันเป็นนิสัยเสียที่ไม่ดี
“จะไม่ทำอย่างนั้นหรอกนะ รัน กำลังจะต้องเจอศึกใหญ่ในเร็วๆ นี้น่ะสิ รัน ผมต้องขอโทษที่ต้องใช้วิธีรุนแรงนะ รัน เพราะต้องพึ่งกำลังของเรียวอิจิน่ะสิ รัน เมื่อจบเรื่องแล้วขอสัญญาเลยว่าจะไม่มายุ่งด้วยอีกนะ รัน”
“คุณกำลังบอกให้ฉันเชื่อเรื่องอะไรแบบนั้นเหรอคะ…?”
“เธออาจจะไม่เชื่อนะ รัน แต่มันจำเป็น รัน เรียวอิจิคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้ต่อจากนี้ไป รัน นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการให้มาต่อสู้ร่วมกับเรา รัน!
มันสายไปแล้ว…!
สายไปแล้วที่จะมาพ่นคำพูดโลกสวยพรรค์นี้ิออกมา!
“ถ้าฉันจะต้องทำมันแล้วล่ะก็ ฉันจะชั่วร้ายให้ถึงที่สุดค่ะ! สถานการณ์ของคุณไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้นค่ะ! ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้พวกคุณเด็ดขาดค่ะ!”
“ก็ยังดีแหละน้าา~ รัน”
“~~!! จะยอมเป็นก็ได้ค่ะ! แค่เป็นก็พอใช่ไหมคะ! สิ่งที่เรียกว่าสาวน้อยเวทมนตร์นั่นน่ะ! ”
ฉันตะโกนคำตอบออกมาด้วยความสิ้นหวัง
ฉันที่ไม่ได้เต็มใจแม้แต่นิดเดียว แต่ฉันก็ยังต้องทำมัน
จากนี้ไป ฉันคือสาวน้อยเวทมนตร์