CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 721.2 จะปล่อยให้เหนื่อยเปล่าไม่ได้

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 721.2 จะปล่อยให้เหนื่อยเปล่าไม่ได้
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

วันหนึ่งขณะที่พ่อครัวเฒ่ากำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัว ชุยตงซานมายืนเอนพิงประตู ยิ้มตาหยีหยิบเอาวัตถุจื่อชื่อที่เป็นแท่นฝึกหมึกชิ้นนั้นออกมา เป่าลมใส่เบาๆ โอ้อวดกับจูเหลี่ยน

จูเหลี่ยนชำเลืองตามองแล้วยิ้มถามประโยคหนึ่งว่า ‘จริงใจกี่ตำลึง’? ชุยตงซานยิ้มร่าตอบว่าเยอะเลยล่ะ เยอะเลยล่ะ ต้องเอาวัตถุจื่อชื่อชิ้นหนึ่งมาแลก แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทองอะไรเท่านั้น พี่หญิงเพ่ยเซียงตำแหน่งสูงกุมอำนาจมาก ย่อมต้องคิดพิจารณาเพื่อแคว้นหู พ่อครัวเฒ่าเจ้าอย่าเสียใจเลยนะ ไม่อย่างนั้นจะทำให้พี่หญิงเพ่ยเซียงเสียใจมากกว่าเดิม

จูเหลี่ยนยิ้มเอ่ยว่าแค่นี้ก็ถือว่าเกินความคาดฝันมากแล้ว สีหน้าของเขาเยือกเย็น อีกทั้งยังดูจริงใจอย่างมาก ชุยตงซานจึงถามอีกว่าหากพี่หญิงเพ่ยเซียงเป็นฝ่ายมาขอโทษเจ้าด้วยตัวเองล่ะ ควรจะทำอย่างไร จูเหลี่ยนบอกว่าย่อมต้องมีวิธีรับมือ ช่วยให้นางสบายใจ ไม่อย่างนั้นจะยังทำอย่างไรได้อีกเล่า ชุยตงซานจึงยิ่งรู้สึกนับถือพ่อครัวเฒ่ามากกว่าเดิม สมกับเป็นพ่อครัวเฒ่าที่หนักแน่นจริงๆ คำว่าฝึกจิตใจประสบความสำเร็จไม่อาจเอามาใช้บรรยายได้แล้ว แต่ต้องใช้คำว่าฝึกจิตใจจนโชกโชนแล้ว

ตอนอยู่ตรงประตูภูเขา ชุยตงซานถือโอกาสถามเรื่องจุกจิกยิบย่อยของอาจารย์ลู่ในพื้นที่มงคลดอกบัวในอดีต ยิ่งเป็นเรื่องเล็กย่อยเท่าไรก็ยิ่งดี หนึ่งคือไม่ทำให้เฉาฉิงหล่างที่เป็นคนรอบคอบเกิดความสงสัย นอกจากนี้เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งเรื่องสองเรื่อง คำพูดสัพเพเหระที่คุยเล่นกัน แน่นอนว่ายากจะทำให้เห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงได้ แต่ขอแค่มีมากพอ กลับกลายเป็นว่าจะยิ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจดั้งเดิมได้ดียิ่งกว่าวีรกรรมใหญ่ๆ เสียอีก แล้วนับประสาอะไรกับที่ยามอยู่กับเฉาฉิงหล่าง เดิมทีลู่ไถก็ค่อนข้างจะจริงใจอยู่แล้ว ดังนั้นชุยตงซานจึงขยับเข้าใกล้ ‘ลู่ไถ’ ตัวจริงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

หากโจวจื่อรู้สึกว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วลงมืออย่างแท้จริง หลิวไฉผู้ฝึกกระบี่หนึ่งในสิบคนรุ่นเยาว์ของหลายใต้หล้าอะไรนั่น การสยบกำราบแต่กำเนิดของกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตสองเล่มในน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่สองลูก จะเป็นทั้งวิธีการที่ใช้สยบกำราบอาจารย์ ขณะเดียวกันก็ยิ่งเป็นเวทอำพรางตา ถามกระบี่ไม่ได้อยู่แค่ที่กระบี่ เรื่องที่อาจารย์คิดจนเข้าใจกระจ่างมานานแล้ว วันหน้าอาจถึงขั้นเอาภูเขาตะวันเที่ยงมาซ้อมมือ ใช้หนึ่งกระบี่ถามใจคนผู้นี้ ถ้าอย่างนั้น ‘ถานเทียนโจว’ ที่อาศัยกำลังของคนคนเดียวมาควบคุมอยู่เหนือคนทั้ง ‘สกุลลู่ซัวตี้’ ได้ มีหรือจะไม่รู้

ถึงเวลานั้นโจวจื่อผู้นั้นจะต้องทำให้ลู่ไถในอดีตรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด จากนั้นจึงกลายมาเป็นหลิวไฉเซียนกระบี่ในใจของโจวจื่อ ถึงท้ายที่สุดก็ทำให้จิตใจของอาจารย์เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่า ความจริงใจทุกอย่าง บุญคุณความแค้นในอดีตที่ผ่านมา ความงดงามน้อยใหญ่ระหว่างคนทั้งสองในปีนั้นล้วนจะต้องกลายมาเป็นกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งที่โจวจื่อสร้างขึ้นเพื่อลู่ไถโดยเฉพาะ เป็นกระบี่เล่มที่เฉียบคมที่สุดอย่างแท้จริงของลู่ไถ จุดที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเลยก็คือ การใช้หนึ่งพิฆาตหนึ่งในใจของโจวจื่ออาจไม่ใช่การบีบให้หลิวไฉสังหารอาจารย์จริงๆ แต่อาจเป็นจุดที่จิตแห่งมรรคาชี้ไป นั่นคือกายดับมรรคาสลายอย่างที่คนบนภูเขาพูดกัน มองดูเหมือนเป็นเรื่องในบ้านของคนคนหนึ่ง แท้จริงแล้วกลับเป็นเรื่องของสองบ้านที่เป็นเพื่อนบ้านกัน แค่ร่างกายและใจคนต้องแบ่งแยกบ้านกันเท่านั้น

น้อยครั้งนักที่ชุยตงซานจะรู้สึกกริ่งเกรงใครสักคนเช่นนี้

เจ้าคนผู้หนึ่งที่กล้าเอาสือโหรวมาเป็นสถานประกอบพิธีกรรม แข่งประลองความคิดกลอุบายกับลู่เฉินที่กล่าวว่า ‘ลู่เฉินเจ้าน่าเบื่อ’ ‘ข้าจะเป็นคนแก้เบื่อให้เอง’ คนที่น่ากริ่งเกรงถึงเพียงนี้ จะต้องแข็งแกร่งว่าสตรีบางคนที่ดีแต่จะใช้ด้ายแดงไม่กี่เส้นเคลื่อนย้ายโชคชะตากระบี่ของหนึ่งทวีปมาขัดเกลามหามรรคาเป็นพันเป็นหมื่นเท่าอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าเรื่องใหญ่เทียมฟ้าขนาดนี้ เลิกคิดจะพูดให้ศิษย์น้องเฉาฉิงหล่างฟังไปได้เลย ถึงอย่างไรเฉาฉิงหล่างก็อายุยังน้อย อีกทั้งยังขาดการขัดเกลาที่แท้จริงอยู่อีกมาก

ทว่าแค่ได้ ‘คุยเล่น’ กับเฉาฉิงหล่าง อารมณ์ของชุยตงซานก็ดีขึ้นได้หลายส่วน อยู่ในสายบุ๋นเดียวกัน ภายภาคหน้าจะมีคนมาสืบทอดกิจการ แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนที่เหมาะแก่การแบกรับหน้าที่ยิ่งใหญ่ นี่คู่ควรให้ชุยตงซานคาดหวังยิ่งกว่าใครบนภูเขาลั่วพั่วมีหมัดสูงหนึ่งสองขอบเขต หรือในอนาคตใครจะได้เลื่อนเป็นขอบเขตยอดเขาคนถัดไปเสียอีก

ศิษย์น้องเล็กที่ดูเหมือนว่าแต่ละปีที่ผ่านพ้นไปก็ยิ่งทำให้เก้าอี้ไม้ไผ่ตัวเล็กเล็กลงเรื่อยๆ ข้างกายผู้นี้ ปีนั้นตอนอยู่บ้านเกิดเป็นเด็กหนุ่มสวมชุดเขียวที่ร่างค่อนข้างผอมบาง ทุกวันนี้กลับเป็นคนหนุ่มลัทธิขงจื๊อที่รูปโฉมงดงามราวกับหยกแล้ว

ลูกศิษย์ผู้สืบทอดของสายเหวินเซิ่ง นอกจากจวินเชี่ยนแล้ว ถ้าอย่างนั้นแม้แต่ตัวอาจารย์เอง อันที่จริงโชควาสนาด้านสตรีก็ล้วนไม่เลว ต้องบอกว่าไม่เลวมากๆ เลยถึงจะถูก

พอมาถึงรุ่นของเฉาฉิงหล่าง แม้แต่ชุยตงซานก็ไม่กล้าแน่ใจแล้ว เพราะถึงอย่างไรต่อให้โชคด้านสตรีจะดีแค่ไหนก็ต้องฉลาดด้วยไม่ใช่หรือ? ไม่อย่างนั้นหากเป็นตอไม้ทึ่มทื่อเหมือนจั่วโย่ว ต่อให้ผู้เฒ่าจันทราจะขยันมาเยือนถึงบ้านมากแค่ไหน กลับถูกเจ้าทุบด้ายแดงจนเละทุกครั้ง หรือไม่ก็กระชากด้ายแดงไปหาศิษย์พี่ศิษย์น้องสุดแรง แล้วตัวเองยังจะลำพองใจ รู้สึกว่าไม่ว่าเรื่องอะไรตัวเองก็เข้าใจไปเสียหมด คนที่เป็นอาจารย์ คนที่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องอยู่ข้างๆ จะยังทำอย่างไรได้อีกเล่า?

การคุยเล่นระหว่างชุยตงซานกับเฉาฉิงหล่างครั้งนั้น อันที่จริงก็คือการบอกลากับภูเขาลั่วพั่วชั่วคราว

ตอนที่ก้อนเมฆสีขาวก้อนหนึ่งทะยานลมจากไปไกล ก็อดที่จะหันกลับไปมองขุนเขาเขียวน้ำใสเบื้องหลังไม่ได้

ไปแล้วๆ หากมองนานกว่านี้อีกหน่อยคงจะอดใจไม่ไหวกลับไปแทะเมล็ดแตงเพิ่มอีกจริงๆ

ภูเขาบ้านตนมีพ่อครัวเฒ่าและผู้คุมกฎฉางมิ่งอยู่ สามารถวางใจได้ นอกภูเขามีพี่ใหญ่เสี้ยนหยาง ก็สามารถวางใจได้เหมือนกัน

จุดที่หลิวเสี้ยนหยางทำให้ชุยตงซานวางใจอย่างแท้จริงไม่ใช่เพราะขอบเขตผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่มาจากการฝึกกระบี่ในฝัน แต่เป็นเพราะคำที่เขาบอกว่า ‘สามารถมองหลิวไฉอยู่ไกลๆ สักแวบได้ไหม’

ได้เห็นแล้ว แล้วอย่างไร? แน่นอนว่าหลิวเสี้ยนหยางต้องไปฆ่าคนในความฝัน! หลิวเสี้ยนหยางไม่คิดจะถามหาต้นสายปลายเหตุแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ถามถึงค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายว่ามากหรือน้อย ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่สถานะลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อที่อ่านตำราอริยะปราชญ์มาจนเต็มอิ่ม หลิวเสี้ยนหยางก็พร้อมจะวางลงไว้ก่อน!

เรื่องใหญ่เป็นตายบางอย่างที่ทำให้คนต้องไปเดินวนอยู่หน้าประตูผี เมื่อผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง เคยลิ้มรสความขมขื่นทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวงมาแล้ว จะทำให้คนรู้จักที่จะฉลาดขึ้น

ปีนั้นหลิวเสี้ยนหยางที่อยู่บ้านเกิดก็เคยทำเพื่อสหายไปแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ได้เจอกับเรื่องใหม่ของเพื่อนคนเดิม เขากลับยังคงไม่ฉลาดอยู่อย่างนี้

ชุยตงซานมั่นใจเลยว่าอาจารย์ของตนอย่างเฉินผิงอัน ต่อให้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าหลิวเสี้ยนหยางเป็นคนที่ฉลาดกว่าเขามากมายนัก และบางทียังอาจคิดอย่างนี้ไปชั่วชีวิต

ดังนั้นตอนนั้นชุยตงซานถึงได้เหมือนยืมดีสุนัขก้อนหนึ่งมาจากผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายตรอกฉีหลง ยอมเสี่ยงที่จะโดนอาจารย์ด่า ก็ยังจะต้องจัดการให้หลิวเสี้ยนหยางติดตามสกุลเฉินผู้รอบรู้เดินทางไปเยือนกำแพงเมืองปราณกระบี่โดยพลการให้จงได้

ในฐานะ ‘เซียนเหริน’ ตัวน้อยๆ ที่หลบๆ ซ่อนๆ คนหนึ่ง แน่นอนว่าชุยตงซานก็สามารถทำอะไรได้มากมาย แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีเหตุผลพูดได้เต็มปากเต็มคำ เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจว่าถูกต้องตามหลักฟ้าดินเฉกเช่นหลิวเสี้ยนหยางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สามารถลงมือทำจากจิตใจดั้งเดิมได้อย่างหลิวเสี้ยนหยางที่รู้สึกว่าข้าจะทำอะไร เจ้าเฉินผิงอันพูดห้ามแล้วได้ผลหรือ? เขาแค่ฟังก็พอแล้ว

‘หากคำพูดของข้าใช้ไม่ได้ผลกับเฉินผิงอัน ข้าก็ไม่ใช่หลิวเสี้ยนหยาง เฉินผิงอันก็ไม่ใช่เฉินผิงอันแล้ว’

ต่อให้เป็นชุยตงซานก็จำต้องยอมรับว่า ประโยคที่หลิวเสี้ยนหยางไม่ได้เอ่ยออกมาจากปากนี้ยอดเยี่ยมน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

หลิวเสี้ยนหยางที่เป็นเช่นนี้คู่ควรกับแม่นางดีๆ ทุกคนในใต้หล้านี้

ชุยตงซานไม่ได้ไปที่เมืองหลวงแห่งที่สองของต้าหลีหรือนครมังกรเฒ่า แต่ไปยังอาณาเขตขุนเขาใหญ่แห่งหนึ่งที่ไม่อยู่ในการดูแลของเว่ยป้อ ทางฝั่งของภูเขาเจินอู่ยังมีเรื่องบางอย่างให้ต้องจัดการดูแล เกี่ยวข้องกับหยางเหล่าโถวเล็กน้อย ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

พลิกเปิดปฏิทินเหลืองเล่มเก่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยุคบรรพกาลที่เคยอยู่สูงส่งเหนือใครเหล่านั้น อันที่จริงก็มีมากมายดุจต้นไม้ในป่าเช่นกัน หากเป็นแค่ก้อนเหล็กก้อนหนึ่งก็ไม่มีทางมีเรื่องของเผ่ามนุษย์เดินขึ้นเขาในภายหลังแล้ว ทว่าจุดที่มีร่วมกันที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งก็ยังคงเป็นวิถีสวรรค์ที่ไร้น้ำใจ ชาตินี้ทั้งหร่วนซิ่วและหลี่หลิ่วต่างก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง นั่นคือการกระทำที่เกิดจากความตั้งใจของหยางเหล่าโถว ไม่อย่างนั้นหากพูดถึงแค่หลี่หลิ่วที่กลับมาเกิดใหม่หลายภพหลายชาติ เหตุใดทุกครั้งที่สละร่างลาจากโลกไป จิตดั้งเดิมและมหามรรคาถึงยังคงเดิมเล่า?

ชุยตงซานอ้าปากหาวหวอด ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างอาณาเขตของขุนเขาสองลูก เขาพลันเปลี่ยนจากท่าว่ายน้ำพลิกตัวจากที่หันหน้าเข้าฟ้าหันหลังให้พื้นดิน เหลือบมองไปยังโลกมนุษย์

เทพท่องราตรีน้อยใหญ่ในศาลเทพอภิบาลเมืองเขตของขุนเขาเหนือ ทุกวันนี้คาดว่าคงเป็นบุคคลที่รู้สึก ‘ซาบซึ้งในพระคุณ’ ของซานจวินใหญ่เว่ยบ้านตนมากที่สุดแล้ว

บนภูเขาลั่วพั่ว เว่ยป้อที่ยังไม่มีเรื่องให้ทำชั่วคราวอยู่ในป่าไม้ไผ่ผืนเล็กแห่งหนึ่ง

ต้นไผ่ที่เหลืออยู่แค่ไม่กี่ต้นนี้ไม่เพียงแต่มาจากถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ หากพูดให้ถูกต้อง อันที่จริงล้วนมาจากภูเขาชิงเสินที่มีศาลเทพภูเขาตั้งอยู่ ล้ำค่าหายากอย่างถึงที่สุด ปีนั้นถูกอาเหลียงมาสร้างหายนะให้ เขาก็อดทนไว้ อันที่จริงทุกครั้งที่ไปเยือนเรือนไม้ไผ่บนภูเขาลั่วพั่ว อารมณ์ของเว่ยป้อจะค่อนข้างซับซ้อน มองนานหน่อยก็จะรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่จะไม่ให้มองเลยก็อดใจไม่ได้อีก

ทุกวันนี้สภาพของป่าไผ่ค่อนข้างจะแร้นแค้น ชักหน้าไม่ถึงหลังสักเท่าไรแล้ว เว่ยป้อถอนหายใจ งานเลี้ยงท่องราตรีสามารถฝืนใจจัดอีกสักครั้งหนึ่งได้ แต่ต้นไผ่เหล่านี้ต้องทำใจแข็งปกป้องไว้ให้ดีเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ไปหาชุยตงซาน ถามเด็กหนุ่มชุดขาวว่ามีความสัมพันธ์ควันธูปกับถ้ำสวรรค์จู๋ไห่บ้างหรือไม่ สามารถซื้อต้นไผ่ที่แตกสายใกล้ชิดกับต้นไผ่บรรพบุรุษระดับขั้นเท่าเทียมกันมาเพิ่มอีกสักหน่อยได้หรือไม่ ภูเขาพีอวิ๋นของเขายินดีทุบหม้อขายเหล็กซื้อมาในราคาสูง ตอนนั้นชุยตงซานมีสีหน้าปั้นยาก บอกว่าข้ายินดีแข็งใจ ยอมทุ่มครึ่งชีวิตเปิดปากเอ่ยเรื่องนี้เพื่อซานจวิน กลัวก็แต่ว่าข้าจะไม่เพียงแต่ถูกฮูหยินแห่งภูเขาชิงเสินซ้อมจนร่อแร่ปางตาย แล้วยังจะเดือดร้อนให้ภูเขาพีอวิ๋นกลายไปเป็น ‘แขกผู้ทรงเกียรติอันดับหนึ่ง’ บนรายชื่อของศาลเทพภูเขาชิงเสินโดยตรงด้วยน่ะสิ

เว่ยป้อจึงได้แต่ยอมล้มเลิกความคิด

ทว่ากลับฝากความหวังไว้ที่ตัวของเฉินผิงอัน ถึงอย่างไรไม่ว่าจะคบค้าสมาคมกับสตรีก็ดี หรือไปมาหาสู่กับผู้อาวุโสก็ช่าง เจ้าขุนเขาหนุ่มของภูเขาลั่วพั่วท่านนี้ก็ล้วนเชี่ยวชาญมากจริงๆ

คนจิ๋วควันธูปจากศาลเทพอธิบาลเมืองในตัวจังหวัดที่มาขานชื่อบนภูเขาลั่วพั่วตามเวลาที่กำหนดถูกโจวหมี่ลี่แต่งตั้งให้เป็นขุนนางน้อยชั้นปลายแถวในทางส่วนตัวก่อนชั่วคราว คือตำแหน่งผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของตรอกฉีหลง หรือก็คือตำแหน่งของโจวหมี่ลี่ก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังบอกกับมันอย่างตรงไปตรงมาว่า สุดท้ายแล้วจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูที่ความคิดของเผยเฉียน ตอนนี้เจ้าเพียงแค่มารับหน้าที่ชั่วคราวเท่านั้น เจ้าตัวน้อยดีใจจนเกือบจะวิ่งกลับบ้านไปตีฆ้องร้องป่าวแล้ว

ตอนนั้นพอคนจิ๋วควันธูปกลับไปถึงศาลเทพอภิบาลเมืองของจังหวัด คงเป็นเพราะบนหัวได้สวมหมวกขุนนาง เอวก็เลยแข็ง คำพูดคำจาของเจ้าตัวน้อยใหญ่โตอย่างยิ่ง ยืนอยู่บนริมขอบของกระถางธูป สองมือเท้าเอว เงยหน้ามองเทวรูปร่างทองแล้วก็พร่ำพูดว่า ‘วันหน้าเวลาพูดจาหัดรู้จักให้ความเคารพข้าผู้อาวุโสหน่อย’ ‘มารดาเถอะ ยังไม่รีบเพิ่มขี้เถ้าเข้ามาในกระถางอีก’ ‘หากปล่อยให้ข้าผู้อาวุโสหิว ข้าผู้อาวุโสจะไปฟ้องเจ้าที่ภูเขาลั่วพั่ว ตอนนี้ข้าผู้อาวุโสมีคนบนภูเขาคอยปกป้องแล้ว ที่แห่งนี้ไม่รั้งนายท่านเช่นข้าไว้ก็ย่อมมีที่อื่นที่ต้องการตัวนายท่านเช่นข้า’ …

ท่านเทพอภิบาลเมืองที่อันดับในจังหวัดหลงโจวถือเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเทพอภิบาลเมืองน้อยใหญ่หัวเราะร่าตอบกลับมาว่า บารมีขุนนางช่างใหญ่โตนักนะ

ความกล้าหาญของเจ้าตัวน้อยเลยลดน้อยลงไปหลายส่วน ยกสองแขนกอดอกเลียนแบบผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา กำลังจะเอ่ยถ้อยคำห้าวเหิมก็ถูกท่านเทพอภิบาลเมืองตบป้าบกระเด็นออกไปนอกศาล มันรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือศักดิ์ศรีหน้าตาแล้ว เลยถือโอกาสนี้ออกจากบ้านไปพึ่งพาภูเขาลั่วพั่วครึ่งวัน ผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของตรอกฉีหลงเจอกับผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของภูเขาลั่วพั่วก็ได้แต่เจ็บใจที่ตัวของตนเล็กเกินไป ไม่อาจช่วยใต้เท้าโจวแบกคานหาบหิ้วไม้เท้าเดินป่าได้ กลับเป็นเฉินหน่วนซู่ที่พอได้ยินเจ้าตัวน้อยบ่นว่าเทพอภิบาลเมืองไม่ดีหลายคำ ก็คอยพูดโน้มน้าวอยู่ด้านข้าง ความหมายคร่าวๆ ก็คือปีนั้นเจ้ากับท่านเทพอภิบาลเมืองอยู่บนภูเขาหมั่นโถว ร่วมทุกข์ร่วมยากกันมานานหลายปีขนาดนั้น ทุกวันนี้กว่าที่เจ้านายของเจ้าจะได้เลื่อนขั้นเป็นขุนนางใหญ่ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าเองก็ถือว่าเป็นบุคคลที่เป็นหน้าเป็นตาครึ่งหนึ่งให้กับศาลเทพอภิบาลเมืองแล้ว จะโกรธเคืองกับท่านเทพอภิบาลเมืองบ่อยๆ ไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ให้ศาลเทพอภิบาลเมืองหรือศาลบุ๋นบู๊น้อยใหญ่แห่งอื่นเห็นเรื่องตลก สุดท้ายหน่วนซู่ยิ้มเอ่ยว่าแน่นอนว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของตรอกฉีหลงไม่มีทางไม่รู้ความ ทำอะไรก็มักรอบคอบอยู่เสมอ แล้วยังมีมารยาทอีกด้วย

หมี่ลี่น้อยที่อยู่ด้านข้างพยักหน้ารับอย่างแรง ก่อนจะลูบศีรษะของคนจิ๋วควันธูปอย่างอ่อนโยน บอกว่าพวกเราต่างก็เป็นคนที่เคยเป็นและเป็นคนที่กำลังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของตรอกฉีหลง ล้วนฉลาดเฉลียวมีไหวพริบอย่างยิ่ง

คนจิ๋วควันธูปอึ้งตะลึงไปก่อน จากนั้นก็ขบคิดตาม สุดท้ายก็อารมณ์ดีอย่างถึงที่สุด เจ้าตัวน้อยที่มีบันไดให้ลงแล้วจึงกระโดดออกมาจากโต๊ะหิน แล้วลงภูเขากลับไปบ้านของตนด้วยความเบิกบานใจ

คืนนี้หลิวเสี้ยนหยางมาเดินเล่นอยู่ริมลำคลองหลงซวีเพียงลำพัง กระทั่งเดินไปถึงแม่น้ำเถี่ยฝู ฝั่งตรงข้ามคือศาลเทพวารีของหยางฮวาเทพวารีที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง หลิวเสี้ยนหยางถึงได้หันตัวกลับ

ก่อนที่จะออกมาจากทักษินาตยทวีป อาจารย์ผู้เฒ่าที่เอ่ยลากับเขาบนหินหน้าผาได้พูดเรื่องหนึ่งกับหลิวเสี้ยนหยาง จากนั้นก็ให้เขาเลือกเอง

ตอนนั้นหลิวเสี้ยนหยางยกข้อมือขึ้นแล้วได้แต่ยิ้มจืดเจื่อน ไม่มีความลังเลใดๆ เขาประสานมือคารวะ แล้วก็ขอให้อาจารย์ผู้เฒ่าช่วยสะบั้นด้ายแดงให้

เฉินฉุนอันยิ้มพลางใช้สองนิ้วตัดด้ายแดงเส้นนั้น เอ่ยเตือนหลิวเสี้ยนหยางว่า ‘กลับบ้านเกิดไป จงระวังตัวให้มาก สามารถเล่นงานคนเบื้องหลังผู้นี้ได้ ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน’

หลิวเสี้ยนหยางถอนหายใจ นวดคลึงซีกหน้าอย่างแรง บุคคลประหลาดที่เป็นผู้ฝึกกระบี่นามหลิวไฉผู้นั้นทำให้คนเป็นกังวลมากจริงๆ ทว่าพอคิดถึงแม่นางเซอเยว่คนนั้นกลับรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีก เขาจึงรีบวิ่งไปที่ริมน้ำแล้วนั่งยอง ‘ส่องกระจก’ มารดาเถอะ เฉินผิงอันหลายคนยังสู้เจ้าหล่อนี่ไม่ได้ แม่นางเซอเยว่เจ้าช่างโชคดีจริงๆ

อุตรกุรุทวีป

โจวมี่เจ้าขุนเขาของสำนักศึกษาอวี๋ฝูกำลังรอคอยจดหมายตอบกลับสองฉบับ ตอนนี้จึงยังไม่อาจไปผ่อนคลายอารมณ์ที่แจกันสมบัติทวีปได้ ได้แต่ไปผ่อนคลายอารมณ์ในพื้นที่ใกล้ๆ อย่างยอดเขาสิงโต ดื่มเหล้าร่วมกับสหายใหม่สหายเก่าสองคน สหายรักคือเจ้าขุนเขาและผู้ฝึกยุทธหลี่เอ้อ

อันที่จริงก่อนหน้านี้ไม่นานโจวมี่ได้มาเยือนยอดเขาสิงโตอย่างลับๆ แล้ว ตอนนั้นยังมีคนหนุ่มลัทธิขงจื๊อคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเองมาจากสำนักศึกษาซานหยาอยู่ด้วย ตอนที่เจอกับโจวมี่ คนหนุ่มกำลังอ่านหนังสืออยู่บนภูเขา แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่ไม่มีทางทำให้ตัวเองลำบาก ชามตะเกียบหนึ่งคู่กับเหล้าหนึ่งกา มีกับแกล้มวางอยู่สองสามจาน คนผู้นั้นชื่อว่าหลี่ไหว เขาเห็นโจวมี่เป็นผู้ฝึกตนบนยอดเขาสิงโต จึงไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย กลับกันยังกระตือรือร้นอย่างมาก ลากโจวมี่มาดื่มเหล้าด้วยกัน ยกเหล้าที่เหลืออีกครึ่งกาบนโต๊ะให้กับ ‘เทพเซียนใหญ่โจว’ ที่บอกว่าตัวเองแซ่โจวไปโดยตรง บอกว่าเวลากินกับแกล้มของที่บ้านเกิดเขา ไม่ต้องสนว่าเป็นถั่วลิสงโรยเกลือหรืออะไร หากใช้ตะเกียบล้วนถือว่าความสัมพันธ์ ‘ไม่ถึงประตู’ ขอแค่เทพเซียนโจวไม่ถือสา ถ้าอย่างนั้นก็อย่าพิถีพิถันเลย ยังบอกอีกว่าเขามีพี่สาวที่ฝึกตนอยู่บนภูเขา วันหน้ารบกวนเทพเซียนโจวคอยช่วยดูแลนางหน่อย คนหนุ่มชูถ้วยเหล้าขึ้น บอกว่าเขายกดื่มก่อน

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 721.2 จะปล่อยให้เหนื่อยเปล่าไม่ได้"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์