CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 829.2 อิสระเสรี

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 829.2 อิสระเสรี
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

หาก​คิด​อยาก​จะอาศัย​หน่วย​จงซวี​และ​หน่วย​แปล​คัมภีร์​ให้​ค่อยๆ​ สลาย​เส้น​แบ่ง​เขต​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​นี้​ทิ้ง​ไป​ ก็​เหมือน​การนำ​ที่ว่าการ​ของ​ราชสำนัก​ย้าย​ไป​ก่อตั้ง​บน​ภูเขา​

และ​มณฑล​ทั้งหลาย​ที่​ตั้งอยู่​ติด​ทะเล​ของ​ต้า​หลี​ก็ได้​คลาย​คำ​สั่งห้าม​ทางทะเล​อย่าง​เด็ดขาด​ ล้วน​มีการ​ก่อตั้ง​หน่วย​ซือ​ป๋อ​ให้​ทำการค้า​กับ​ใต้​หล้า​

ที่​จังหวัด​หลง​โจว​ นอกจาก​ที่ว่าการ​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​แล้ว​ ยัง​ก่อตั้ง​หน่วย​ถัก​ทอ​และ​หน่วย​ย้อมสี​ขึ้น​มาอีก​หก​แห่ง​

เรื่อง​ที่​หนิง​เหยา​กังวล​ยังคง​เป็น​เครื่อง​ปั้น​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​ปริ​แตก​ซึ่งกระจัด​ไป​อยู่​ทั่ว​สารทิศ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ นาง​ถามว่า​ “หาก​สตรี​ผู้​นั้น​ทั้ง​ไม่คิด​จะปะทะ​กับ​เจ้าโดยตรง​ แล้วก็​ไม่ยอม​ก้มหัว​ให้​ เอาแต่​เล่นแง่​ ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ไม่ยอม​มอบ​กระเบื้อง​แห่ง​ชะตาชีวิต​มาให้​ สรุป​คือ​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะไม่ใช้เหตุผล​กับ​เจ้า เพียงแค่​ตั้งท่า​ว่า​หาก​เจ้าแน่จริง​ก็​ฆ่านาง​ให้​ตาย​ ถึงเวลา​นั้น​จะทำ​อย่างไร​? ภูเขา​ลั่วพั่วคง​ไม่อาจ​สังหาร​ไทเฮา​เหนียง​เนียง​โดยตรง​เช่นนี้​ได้​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​มองดู​นาง​อาละวาด​เล่นแง่​ หนึ่ง​วัน​ร้องไห้​สอง​วัน​ก่อกวน​สามวัน​จะแขวนคอ​ไป​ก่อน​ รอ​ให้​นาง​ก่อเรื่อง​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​นั่งลง​คุย​กัน​ดี​ๆ เจรจา​ไม่สำเร็จ​ก็​ปล่อย​นาง​อาละวาด​ไป​ หาก​แข่ง​กัน​เรื่อง​ความอดทน​ ข้า​เชี่ยวชาญ​มาก​เลย​ล่ะ​ ดังนั้น​เรื่อง​เดียว​ที่​เจ้าจำเป็นต้อง​ทำ​ บางที​อาจ​ทำให้​เจ้ารู้สึก​อยุติธรรม​อยู่​บ้าง​ แค่​ฝืนใจ​ชมงิ้ว​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​พอ​ บอก​ไว้​ก่อน​นะ​ว่า​ หาก​เจ้าหมด​ความอดทน​จริงๆ​ ก็​ไม่ต้อง​มอง​ให้​ขวางหูขวางตา​ แค่​ออกจาก​วังหลวง​ไป​เดินเที่ยว​ใน​เมืองหลวง​เพียงลำพัง​ ทิ้ง​ข้า​ไว้​ที่นั่น​คนเดียว​ก็​พอ​ อีก​อย่าง​ทิ้ง​คำ​อาฆาต​ข่มขู่​คนอื่น​ ใคร​บ้าง​จะทำ​ไม่เป็น​ หาก​รำคาญ​นาง​จริงๆ​ ข้า​ก็​จะสละ​กิจการ​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ทิ้ง​ไม่ต้องการ​ ต่อให้​จะต้อง​ย้าย​ภูเขา​ทุก​ลูก​รวมไปถึง​ยอดเขา​จี้เซ่อ​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ออก​ไป​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ก็​ต้อง​ฆ่านาง​ให้​ตาย​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หัวเราะ​ “เจ้าไม่รู้​อะไร​ หลังจากที่​พวก​เจ้าล้วน​จากไป​แล้ว​ ข้า​จะคุย​เล่น​สอง​สามประโยค​กับ​พวก​หลง​จวิน​ หลี​เจิน​ทุกๆ​ สามวัน​ห้า​วัน​ อันที่จริง​สนุก​อย่าง​มาก​”

หนิง​เหยา​พยักหน้า​ “ไม่รำคาญ​หรอก​ ถือ​เสีย​ว่า​ได้​ชมงิ้ว​ก็แล้วกัน​”

การ​วางตัว​เป็น​คน​ ตั้งหลัก​ตั้งตัว​ มีเรื่องใหญ่​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ไม่ง่าย​เลย​ก็​คือ​การ​ทำให้​คน​ข้าง​กาย​ไม่เข้าใจผิด​

ใกล้ชิด​กับ​คนอื่น​ หาก​อยู่​ด้วยกัน​นาน​วัน​เข้า​แล้ว​ยัง​ไม่มีความรำคาญ​ นั่น​ต้อง​อาศัย​ ‘ความ​เข้า​อก​เข้าใจ​’ ไม่ใช่ว่า​แค่​เพราะ​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​มากมาย​หรือ​เรื่อง​หยุมหยิม​บางอย่าง​ อยู่​ๆ วันหนึ่ง​พลัน​ทำให้​คน​รู้สึก​ว่า​ ‘ที่แท้​เจ้าก็​เป็น​คน​เช่นนี้​’ อันที่จริง​ความเข้าใจผิด​หลายอย่าง​มักจะ​มาจาก​ความ​เลอะเลือน​ของ​ตัวเอง​ ใน​เรื่อง​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​ทำได้​ดีมาก​มาตั้งแต่​เด็ก​ ดังนั้น​หลังจาก​เติบใหญ่​ ออก​เดินทางไกล​ไป​เยือน​ต้า​สุย​ร่วมกับ​พวก​เป่า​ผิง​ ห​ลี่​ไหว​ ระหว่าง​นี้​แม้แต่​ห​ลี่​ไหว​ก็​ยัง​ไม่ต้อง​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​พูด​อะไร​ก็​รู้​ได้​เอง​ว่า​เฉิน​ผิง​อันเป็น​คน​อย่างไร​ ภายหลัง​ไป​ถึงกำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ขอ​แค่​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​ที่​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​หนิง​เหยา​ เฉิน​ผิง​อัน​มีอะไร​ก็​จะเล่า​ให้​นาง​ฟังทุกอย่าง​ ไม่มีปิดบัง​ ต่อให้​หนิง​เหยา​ฟังแล้ว​จะต้อง​โกรธ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

ชีวิต​คน​ไม่อาจ​ยอมให้​คนอื่น​ได้​ทุก​เรื่อง​ ไม่อย่างนั้น​ชั่วชีวิต​ของ​คนดี​คน​หนึ่ง​ก็​จะเป็นได้​แค่​คนดี​เกินไป​ตลอดไป​ และ​การ​ที่​คนดี​ถามใจตัวเอง​แล้ว​ไม่ละอาย​ก็​มักจะ​ทำให้​คนใกล้ชิด​ต้อง​ลำบาก​ต้อง​เสียเปรียบ​อยู่​เสมอ​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เสียง​เบา​ “ในอนาคต​กลับ​ไป​ถึงใต้​หล้า​แห่ง​ที่​ห้า​ เจ้าอย่า​เอาแต่​คิด​ว่า​จะทำ​เพื่อ​นคร​บิน​ทะยาน​ให้​มากขึ้น​อย่างไร​ ทำ​แค่​พอสมควร​ก็​พอแล้ว​ คน​ที่​เก่ง​ต้อง​เหนื่อย​กว่า​คนอื่น​ แต่​ก็​ควร​ต้อง​มีขอบเขต​บ้าง​”

หนิง​เหยา​ยิ้ม​เอ่ย​ “เรื่อง​ที่​ข้า​อยาก​ทำ​และ​ไม่อยาก​ทำ​ คนอื่น​พูด​อย่างไร​ก็​ล้วน​ไม่มีประโยชน์​”

บางที​ทุก​คนใน​หลาย​ๆ ใต้​หล้า​อาจ​รู้สึก​ว่า​หนิง​เหยา​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​คน​แรก​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี จากนั้น​กลายเป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ล้วน​เป็นเรื่อง​ที่​แน่นอน​อยู่แล้ว​ สมควร​แล้ว​ ถูก​ต้องตาม​หลัก​ฟ้าดิน​ ขณะเดียวกัน​ไม่ว่า​หนิง​เหยา​จะสร้าง​วีรกรรม​ที่​ยอดเยี่ยม​แค่​ไหน​ สร้าง​คุณูปการ​ที่​ชวน​ให้​ตะลึงพรึงเพริด​มาก​เท่าไร​ ก็​ล้วน​เป็นเรื่อง​ธรรมชาติ​ ไม่จำเป็นต้อง​พูด​อะไร​ให้​มากความ​

เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ไม่ได้คิด​เช่นนี้​

ทำไม​หนิง​เหยา​ของ​ข้า​ต้อง​ลำบาก​ขนาด​นี้​ด้วย​?

บอ​กว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​สอง​สาย​อย่าง​สิงกวาน​และ​เฉวียน​ฝู่อย่าง​พวก​เจ้ามีแต่​พวก​ไร้ประโยชน์​ที่​ดีแต่​จะนอน​เสวยสุข​ ก็​ยัง​ไม่ยอม​งั้น​หรือ​?

วันหน้า​รอ​ให้​ข้า​ผู้อาวุโส​ไป​ที่​นคร​บิน​ทะยาน​จะพก​เอา​หลักการ​เหตุผล​สอง​กระบุง​ใหญ่​ไป​พูดคุย​กับ​พวก​เจ้าให้​ดี​ๆ

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คุย​กับ​หนิง​เหยา​เรื่อง​ขอ​งก​วอ​จู๋จิ่ว​ พอ​ได้ยิน​ว่า​นิสัย​นาง​สุขุม​มากขึ้น​ เขา​กลับ​รู้สึก​สงสาร​นาง​

เด็ก​โง่หนอ​เด็ก​โง่ เพราะ​ทุกวัน​เด็ก​ๆ ล้วน​คาดหวัง​ให้​ตัวเอง​เติบใหญ่​ คิด​ว่า​พอ​เติบใหญ่​แล้ว​ชีวิต​จะสนุก​ จะน่าสนใจ​มากกว่า​เดิม​

ทว่า​กลับ​มีเด็ก​ๆ บางส่วน​ที่​ไม่ค่อย​อยาก​เติบใหญ่​สัก​เท่าไร​ แต่​จำเป็นต้อง​เติบใหญ่​อย่าง​มิอาจ​ห้าม​ได้​

แล้วก็​พูดถึง​พวก​อวี๋​ลู่​ ได้ยิน​ว่า​ห​ลี่​ไหว​เป็น​นักปราชญ์​ของ​สำนักศึกษา​แล้ว​ หนิง​เหยา​ก็​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ บอ​กว่า​เขา​ฉลาด​เรื่อง​เรียน​แล้ว​หรือ​?

เฉิน​ผิง​อัน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​อย่าง​อดไม่ไหว​ พูด​แค่​ว่า​ ยาก​จะอธิบาย​ได้​หมด​ใน​ประโยค​เดียว​

แต่​ครั้งนี้​กลับ​ไป​ที่​บ้านเกิด​จะต้อง​แวะ​ไป​ที่​เรือน​หลัง​ของ​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ให้ได้​ ห​ลี่​ไหว​บอ​กว่า​หยาง​เหล่า​โถว​ทิ้ง​ของ​บางอย่าง​ไว้​ที่นั่น​ รอ​ให้​เขา​ไปดู​เอง​

อวี๋​ลู่​ เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​เดินทางไกล​มานาน​แล้ว​ แต่​เซี่ยเซี่ย​กลับ​หยุด​อยู่​ที่​คอขวด​โอสถ​ทอง​มานาน​หลาย​ปี​ หลัก​ๆ แล้ว​ยัง​เป็น​เพราะ​ใน​อดีต​เคย​โดน​ตะปู​กัก​มังกร​พวก​นั้น​

คน​ทั้งสอง​มักจะ​จับมือ​กัน​ออก​เดินทางไกล​เป็นประจำ​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​ พวกเขา​สอง​คน​ไม่เหมือนว่า​จะชอบ​พอกัน​ คาด​ว่า​ทั้งสองฝ่าย​คง​เป็น​แค่​สหาย​กัน​จริงๆ​

แน่นอน​ว่า​วาสนา​ชีวิตคู่​ใน​ใต้​หล้า​ ความรัก​บน​โลก​ใบ​นี้​ ก็​มีหลายครั้ง​ที่​พอ​ย้อนกลับ​ไป​มอง​กะทันหัน​ถึงเพิ่ง​รู้​ว่า​มัน​ได้​เกิดขึ้น​อย่าง​เงียบเชียบ​แล้ว​

หลิน​โส่ว​อี​เคย​รับหน้าที่​เป็น​คน​เฝ้าศาล​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ ถือว่า​เป็น​คนใน​วงการ​ขุนนาง​ครึ่งตัว​แล้ว​ แต่​ได้ยิน​มาว่า​หลาย​ปี​มานี้​เขา​กับ​ที่​บ้าน​ไม่ค่อย​ปรองดอง​กัน​นัก​

ไม่ใช่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​สาปแช่ง​เขา​จริงๆ​ แต่​เจ้าหลิน​โส่ว​อี​ผู้​นี้​แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​มีชะตา​ต้อง​เป็น​ชายโสด​ บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ จิตใจ​ไม่ค่อย​นิ่ง​เท่าไร​จริงๆ​

ปี​นั้น​ใน​บรรดา​เพื่อนร่วมห้อง​เรียน​ก็​มีเพียง​สือ​เจีย​ชุน​แม่นาง​น้อย​มัด​ผมแกละ​คนเดียว​ที่​ติดตาม​ครอบครัว​ย้าย​ไป​อยู่​เมืองหลวง​ก่อน​ใคร​ จากนั้น​ก็​ออกเรือน​แต่งงาน​เป็น​ภรรยา​ของ​ผู้อื่น​อย่าง​ชอบธรรม​ ช่วยเหลือ​สามีอบรมเลี้ยงดู​บุตร​

หาก​เฉิน​ผิง​อัน​จำไม่ผิด​ บุตรชาย​หญิง​คู่​นั้น​ของ​สือ​เจีย​ชุน​ ดูเหมือนว่า​ทุกวันนี้​จะถึงวัย​ที่​พูดคุย​เรื่อง​แต่งงาน​ได้​แล้ว​

พอ​คิดถึง​เรื่อง​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​อดไม่ไหว​หันมา​มอง​หนิง​เหยา​

เรื่อง​บางอย่าง​ ต่อให้​คน​คน​หนึ่ง​จะพยายาม​มาก​แค่​ไหน​ก็​ยาก​จะสำเร็จ​ได้​อยู่ดี​

มาหยุดพัก​บน​สะพาน​เล็ก​ที่​มีสายน้ำ​ไหลผ่าน​แห่ง​หนึ่ง​ สอง​ฝาก​ฝั่งล้วน​เป็น​เหลา​สุรา​ร้านอาหาร​ที่​ประดับประดา​ด้วย​ผ้า​และ​โคมไฟ​สวยงาม​ งานเลี้ยงรับรอง​ งานเลี้ยง​สุรา​มีนับไม่ถ้วน​ จึงมีนักดื่ม​ที่​เมามาย​ถูก​คน​เดิน​ประคอง​ออกมา​ไม่ขาดสาย​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​หนิง​เหยา​ไป​นั่งลง​บน​ขั้นบันได​ริมน้ำ​ที่​ค่อนข้าง​เงียบสงบ​ อยู่ดีๆ​ ก็​นึกถึง​จงหยวน​และ​โฉว​เหมียว​ เซียน​กระบี่​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​อายุ​มาก​ คน​หนึ่ง​อายุ​น้อย​ ล้วน​เหมือนกัน​มาก​

คน​หนึ่ง​เพียงแค่​เคย​พบ​เจอ​ใน​เอกสารลับ​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ และ​เคย​ได้ยิน​ผ่าน​โต๊ะ​สุรา​ อีก​คน​หนึ่ง​เคย​อยู่​ด้วยกัน​มานาน​วัน​ เดิมที​ต้อง​สามารถ​กลายเป็น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ได้​แน่นอน​

บางที​จงหยวน​อาจ​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ชื่อเสียง​ดีงาม​ที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เล่าลือ​กัน​ว่า​รูปโฉม​ไม่ได้​หล่อเหลา​นัก​ แต่​นิสัย​อบอุ่น​อ่อนโยน​ ไม่ค่อย​ชอบ​พูดคุย​ แต่​ก็​ไม่ใช่น้ำเต้า​ตัน​อะไร​ เวลา​ที่​พูดคุย​กับ​ใคร​ ส่วนใหญ่​จะฟังมาก​พูดน้อย​ ใน​สายตา​ล้วน​มีแต่​รอยยิ้ม​จริงใจ​ อีก​ทั้ง​ตอนที่​จงหยวน​อายุ​ยัง​น้อย​ คุณสมบัติ​ด้าน​การ​ฝึก​กระบี่​ก็​ไม่ถือว่า​เป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​มาก​นัก​ การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​แต่ละครั้ง​ไม่เร็ว​ไม่ช้าไม่สะดุดตา​ ศึก​ป้องกัน​เมือง​ที่​อันตราย​ที่สุด​ครั้งหนึ่ง​ใน​ประวัติศาสตร์​ จงหยวน​ถือ​กระบี่​อยู่​บน​หัว​กำแพง​สังหาร​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สอง​คน​

หาก​ไม่ได้​รบ​ตาย​ จงหยวน​คนเดียว​ก็​สามารถ​แกะสลัก​ตัวอักษร​ได้​สอง​ตัว​

หาก​ไม่มีสงคราม​ครั้งนั้น​ จงหยวน​ต้อง​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่แน่นอน​

ตามหลัง​เฉิน​ชิงตู​ หลง​จวิน​และ​กวน​จ้าว​ ก่อนหน้า​ต่ง​ซาน​เกิง​ เฉิน​ซีและ​ฉีถิงจี้จะลุก​ผงาด​ เป็น​เสาคาน​หลัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แห่ง​หนึ่ง​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ท่ามกลาง​ฟ้าดิน​มานาน​เป็น​หมื่น​ปี​ ไม่เคย​มีสถานการณ์​ที่​ชักหน้าไม่ถึงหลัง​

ส่วน​โฉว​เหมียว​ที่​ภายหลัง​เข้ามา​อยู่​ใน​สาย​อิ่น​กวาน​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ล้วน​ไม่กล้า​คิดถึง​เขา​มาก​นัก​

หนิง​เหยา​ถาม “คิด​อะไร​อยู่​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​จงหยวน​ช่างทำให้​คน​เลื่อมใส​ยิ่งนัก​”

ปลด​กา​เหล้า​ลงมา​ดื่มเหล้า​เงียบๆ​ โฉว​เหมียว​ไม่ต้อง​ตาย​ก็ได้​

หนิง​เหยา​กล่าว​ “ทุกวันนี้​มีคำกล่าว​หนึ่ง​บอ​กว่า​ไม่มีจงหยวน​ก็​ไม่มีกำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ใน​ภายหลัง​ ไม่มีเจ้าก็​ไม่มีนคร​บิน​ทะยาน​ใน​ทุกวันนี้​”

อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อันที่จริง​นอกจาก​เฉิน​ชิงตู​แล้ว​ ผู้ฝึก​กระบี่​ล้วน​ชอบ​เรียกชื่อ​คนอื่น​ออกมา​ตรงๆ​ ไม่ใช่ว่า​ไม่แสดง​ความเคารพ​อะไร​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ออกมา​ เอ่ย​เย้ยหยัน​ตัวเอง​ว่า​ “เป็น​เจ้าพวก​ตะพาบ​ลูกน้อง​คนใด​ของ​ฉีโซ่ว​ที่​จงใจเอา​คำพูด​พวก​นี้​มาทำให้​ข้า​สะอิดสะเอียน​?”

เขา​เอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “รังแก​ที่​ข้า​ไม่อยู่​นคร​บิน​ทะยาน​ใช่ไหม​ ฝากไว้ก่อน​เถอะ​”

หนิง​เหยา​ส่ายหน้า​ “เป็น​ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ที่​พูด​นำ​ขึ้น​มาก่อน​ ภายหลัง​ไม่รู้​ว่า​ค่อยๆ​ แพร่​ไป​ได้​อย่างไร​ คน​ที่ยอมรับ​คำกล่าว​นี้​มีเยอะ​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ลำคลอง​สาย​หนึ่ง​ก็​เหมือน​ผ้าแพร​ต่วน​ผืน​หนึ่ง​ที่​ปัก​ภาพ​โคมไฟ​แดงฉาน​ไว้​จน​เต็ม​ เขา​เอ่ย​เยาะเย้ย​ตัวเอง​ว่า​ “บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​อยู่​ห่างไกล​กัน​ คน​ที่​ชอบ​จึงยิ่ง​ชอบ​มากกว่า​เดิม​ คน​ที่​รังเกียจ​ก็​ไม่ได้​รังเกียจ​มากมาย​ขนาด​นั้น​แล้ว​”

บน​ทาง​หิน​ด้านหลัง​คน​ทั้งสอง​มีผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​กำลัง​ถ่ายทอด​ความรู้​ให้​กับ​เด็ก​รุ่นเยาว์​คน​หนึ่ง​ บอ​กว่า​รอ​อีก​เดี๋ยว​เมื่อ​ไป​นั่ง​บน​โต๊ะ​เหล้า​แล้ว​ควรจะ​นั่ง​อย่างไร​ สั่งอาหาร​มีกฎเกณฑ์​อะไร​บ้าง​ อาหาร​จาน​เย็น​มีกี่​อย่าง​ อาหารจานหลัก​สั่งอย่างไร​ อย่า​ถามแขก​หลักว่า​ชอบ​ไม่ชอบ​กิน​อะไร​ แค่​ถามว่า​แพ้​อาหาร​อะไร​หรือไม่​ เหล้า​หมัก​หลาย​ปี​ที่​พวกเรา​พก​ไป​ด้วย​เหล่านั้น​ ไม่ต้อง​พูด​อะไร​มาก​ ยิ่ง​อย่า​เอา​ไป​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​เหล้า​ แขก​หลัก​เป็น​คน​ชอบ​ดื่มเหล้า​ แค่​ริน​เหล้า​ดื่ม​เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​เป็น​เหล้า​อะไร​ ปี​อะไร​ ตอนที่​ดื่ม​สุรา​คารวะ​แขก​หลัก​ให้​ใช้สอง​มือถือ​ถ้วย​ อย่า​ยก​ถ้วย​เหล้า​สูงเกิน​ของ​แขก​หลัก​ แขก​หลัก​บอก​ให้​เจ้าทำตัว​ตามสบาย​ก็​อย่า​ได้​ทำตัว​ตามสบาย​จริงๆ​ บน​โต๊ะ​เจ้าดื่มเหล้า​เยอะ​ได้​ ห้าม​เงียบ​ไม่พูดไม่จา​ แต่​ก็​อย่า​พูดมาก​ รวม​บทประพันธ์​หลาย​เล่ม​ของ​แขก​หลัก​ เจ้าเอง​ก็​เคย​อ่าน​มาก่อน​แล้ว​ แค่​พูดคุย​เรื่อง​เนื้อหา​ด้านใน​นั้น​ก็​พอ​ เรื่อง​ใน​วงการ​ขุนนาง​หาก​ไม่เข้าใจ​ก็​อย่า​แสร้ง​ทำเป็น​เข้าใจ​ กับ​ขุนนาง​คนอื่นๆ​ ที่มา​ด้วย​ทั้ง​ไม่ต้อง​กระตือรือร้น​เกินไป​ แล้วก็​อย่า​เพิกเฉย​เกินไป​ ผู้อาวุโส​ใน​วงการ​ขุนนาง​เหล่านี้​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะเป็น​พวก​คน​ใจแคบ​ไป​ทั้งหมด​ ส่วนใหญ่​แล้ว​จะดู​ว่า​คน​รุ่นเยาว์​อย่าง​พวก​เจ้าเข้าใจ​กฎเกณฑ์​ รู้จัก​การ​วางตัว​หรือไม่​…

คนหนุ่ม​ที่​เพิ่งจะ​เดิน​เข้าสู่​วงการ​ขุนนาง​รับฟัง​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ คอย​พยักหน้า​รับ​เบา​ๆ อยู่​เป็นระยะ​ เพียงแต่ว่า​มีกลิ่นอาย​ของ​บัณฑิต​ที่​ยัง​จางหาย​ไม่หมด​หลง​เหลืออยู่​บ้าง​ ตอนที่​ผู้เฒ่า​ไม่ทันสังเกต​ คนหนุ่ม​มักจะ​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ ถอนหายใจ​ คง​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ความหยิ่ง​ทระนง​ใน​ศักดิ์ศรี​ของ​บัณฑิต​ล้วน​ถูก​ดื่ม​หาย​ไป​หมด​ตาม​เหล้า​แต่ละ​ถ้วย​ที่​ดื่ม​บน​โต๊ะอาหาร​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​ รับฟัง​ กฎเกณฑ์​อัน​ตื้นเขิน​พวก​นี้​ เขา​ย่อม​เข้า​ใจมานาน​แล้ว​

อันที่จริง​ขุนนาง​หนุ่ม​ที่​เพิ่ง​เข้ามา​ฝึกปรือ​ฝีมือ​อยู่​กับ​ทางการ​ผู้​นี้​นับว่า​ยัง​โชคดี​ มีคนนำทาง​ที่​ยินดี​ถ่ายทอด​ความรู้​ประสบการณ์​ทั้งหมด​ของ​ตัวเอง​ให้​กับ​เขา​

กลิ่นอาย​ของ​บัณฑิต​ที่​แท้จริง​ไม่ใช่ว่า​ไม่เข้าใจ​อะไร​สัก​อย่าง​ แต่กลับ​ตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​กฎเกณฑ์​เก่า​และ​ขนบธรรมเนียม​เก่า​ทั้งหมด​

และ​เมื่อ​เข้าใจ​หลาย​ๆ เรื่อง​แล้ว​ ข้า​ถึงทำตัว​อย่างไร​ก็ได้​ พูดจา​หรือ​ทำ​อะไร​ล้วน​อาศัย​ความชื่นชอบ​ของ​ตัวเอง​มาคบค้าสมาคม​กับ​วิถี​ทางโลก​อย่าง​ไม่ปลิ้นปล้อน​

ภายหลัง​ก็​มีบุรุษ​วัยกลางคน​อีก​คน​หนึ่ง​พา​หญิงสาว​สอง​คน​เดินผ่าน​มาช้าๆ ร่วม​งานเลี้ยง​สุรา​คนละ​แห่ง​ แต่กระนั้น​บุรุษ​ก็​ยัง​ถ่ายทอด​ความรู้​ให้​กับ​พวก​นาง​ที่​ประทิน​โฉมบางเบา​ แต่​คน​ทั้ง​สามล้วน​เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ หญิงสาว​ทั้งสอง​เหมือน​จะไม่ค่อย​เต็มใจ​สัก​เท่าไร​ และ​ใน​ใจก็​คล้าย​จะหวาดหวั่น​อยู่​บ้าง​ ใน​ฐานะ​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​ อันที่จริง​พวก​นาง​ไม่ยินดี​จะมาร่วม​งานเลี้ยง​ล่าง​ภูเขา​ที่​ต้อง​คบค้าสมาคม​กับ​ผู้คน​พวก​นี้​เท่าไร​นัก​ เป็น​หยวน​ไหว้​หลา​งของ​กรม​พิธี​การคน​หนึ่ง​ของ​เมืองหลวง​ต้า​หลี​แล้ว​อย่างไร​ อีก​ทั้งพวก​นาง​ยิ่ง​กลัว​ว่า​ผู้อาวุโส​ใน​สำนัก​ท่าน​นี้​จะตอบ​ตกลง​กับ​การ​แลกเปลี่ยน​บางอย่าง​ที่​ไม่อาจ​เปิดเผย​ได้​ แม้ว่า​พวก​นาง​จะฝึก​ตน​อยู่​ใน​ภูเขา​ แต่​เรื่อง​สกปรก​ล่าง​ภูเขา​บางอย่าง​ก็​เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ กลัว​ก็​แต่ว่า​หยวน​ไหว้​หลา​งที่​อายุ​น้อย​เลือด​ลม​พลุ่งพล่าน​คน​นั้น​จะเห็น​ความงาม​แล้ว​เกิด​ละโมบ​ อาศัย​ฤทธิ์​สุรา​เกิด​ความคิด​บางอย่าง​ต่อ​พวก​นาง​ หรือไม่​ตอน​อยู่​บน​โต๊ะ​สุรา​ก็​มือ​ไม้ไม่สะอาด​ ยิ่ง​กลัว​ว่า​ผู้อาวุโส​ใน​สำนัก​จะปล่อย​ตามใจ​คน​ผู้​นั้น​แล้ว​ทอดทิ้ง​พวก​นาง​ไม่สนใจ​

บุรุษ​ผู้​นั้น​ได้​แต่​ยิ้ม​จืด​เจื่อน​ ยังคง​ตั้งใจ​อธิบาย​ถึงงานเลี้ยง​สุรา​ใน​วันนี้​ให้​พวก​นาง​ฟังอย่าง​มีน้ำอดน้ำทน​ บอ​กว่า​เป็นเรื่อง​ที่​หา​ได้​ยาก​ อีก​ทั้ง​หยวน​ไหว้​หลา​งที่​อายุ​น้อย​มีความสามารถ​มาก​คน​นั้น​ก็​มีชื่อเสียง​ที่​ดีมาก​ใน​วงการ​ขุนนาง​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ตระกูล​ของ​พวกเขา​อยู่​ใกล้​กับ​ภูเขา​ของ​พวกเรา​ ไม่อย่างนั้น​คนบ้านเดียวกัน​ที่​มีอนาคต​สดใส​ใน​วงการ​ขุนนาง​ผู้​นี้​ อายุ​เพิ่งจะ​สามสิบ​ต้น​ๆ ก็​เป็น​ขุนนาง​ตำแหน่ง​รอง​ใน​กอง​หนึ่ง​ของ​ที่ว่าการ​กรม​อาญา​แล้ว​ คืนนี้​คิด​อยาก​จะเชิญให้​เขา​ออกมา​ดื่มเหล้า​ก็ช่าง​เป็น​ความเพ้อฝัน​ของ​คนปัญญาอ่อน​โดยแท้​…

เฉิน​ผิง​อัน​ถอน​สายตา​กลับมา​

หนิง​เหยา​เท้าคาง​ด้วยมือ​ข้างเดียว​ มอง​น้ำ​ใน​ลำคลอง​

ก่อนที่​นาง​จะทำท่า​แบบ​เดิม​ เพียงแค่​เปลี่ยนมือ​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ยืน​ หิ้ว​กา​เหล้า​ ก้มตัว​ขยับ​เท้า​ไป​นั่ง​อีก​ฝั่งหนึ่ง​ของ​นาง​

หนิง​เหยา​พึมพำ​ “เล่น​เป็น​เด็ก​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​ เพียงแค่​จิบ​เหล้า​คำ​เล็ก​ๆ เท่านั้น​

หนิง​เหยา​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​อย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ “พวกเรา​เข้า​เมือง​มาครั้งนี้​ก็​ไม่ได้​ตั้งใจ​ปิดบัง​อะไร​ นอกจาก​พวก​ชาย​หญิง​อายุ​น้อย​ที่​มอง​มาไกลๆ​ แล้ว​ ทำไม​ถึงไม่มีใคร​ปรากฏตัว​เลย​สัก​คน​? ถึงขั้น​ที่ว่า​คน​ที่​แอบ​จับตามอง​อย่าง​ลับ​ๆ ก็​ยัง​ไม่มี”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “นั่น​ก็​เพราะ​ฮ่องเต้​ยัง​ตัดสินใจ​ไม่ได้​ว่า​ควรจะ​พูดคุย​กับ​พวกเรา​อย่างไร​ หาก​มีแค่​ข้า​คนเดียว​ก็​คง​ไม่ลำบาก​ใจถึงเพียงนี้​”

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 829.2 อิสระเสรี"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์