CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 830.2 คนเก่าเรื่องเก่าที่ระเบียงบ้านเกิด

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 830.2 คนเก่าเรื่องเก่าที่ระเบียงบ้านเกิด
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

มนุษย์​ถือกำเนิด​ ดวงตะวัน​ลอย​ขึ้น​ ขึ้น​เขา​ช้า ลง​เขา​เร็ว​ เมื่อ​เข้าไป​ใน​กลุ่ม​ยอด​เขาสูงชัน​ เพิ่ง​ปีน​ข้าม​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ ภูเขา​อีก​ลูก​ก็​ปรากฏ​ขวางทาง​

ทุกคน​ที่เกิด​มาก็​มองโลกในแง่ดี​ ล้วน​เป็น​ราชา​ใน​โลก​ที่​เป็น​อัตวิสัย​

ถ้าเช่นนั้น​คน​ที่เกิด​มาก็​มองโลกในแง่ร้าย​ก็​ยิ่ง​จำเป็นต้อง​สร้าง​บ้านเรือน​ สร้าง​ศาลา​ท่าเรือ​ไว้​บดบัง​ลม​ฝน​ ไว้​หยุด​เท้า​พักผ่อน​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​บน​สภาพ​จิตใจ​

หนิง​เหยา​หันหน้า​มาถาม “ได้ยิน​หมี่​ลี่​น้อย​เล่า​ว่า​ พี่สาว​อย่าง​หยวน​เป่า​ชอบ​เฉาฉิงหล่า​ง น้องชาย​อย่าง​หยวน​ไหล​ก็​ชอบ​เฉิน​ยวน​จี”

คาด​ว่า​หมี่​ลี่​น้อย​น่าจะเป็น​คน​คาบข่าว​ตัว​ใหญ่​ที่สุด​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​ ดูเหมือนว่า​จะไม่มีข่าว​เล็ก​ๆ ข่าว​ใด​ที่​นาง​ไม่รู้​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ที่​ทุกวัน​จะต้อง​ออก​ลาดตระเวน​ภูเขา​ตรงเวลา​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​ “มิน่าเล่า​เวลา​ที่​หยวน​เป่า​พูดคุย​อยู่​บน​ภูเขา​ถึงได้​ปาก​คมกริบ​ คำพูดคำจา​คาดคั้น​คนอื่น​ เกิน​ครึ่ง​คงจะ​อาศัย​สิ่งนี้​มาดึงดูด​ความสนใจ​จาก​เฉาฉิงหล่า​ง หยวน​ไหล​ชอบ​อ่านหนังสือ​เฝ้าประตู​อยู่​ตรง​ตีนเขา​ ข้า​ก็​ว่าแล้ว​ ใน​เมื่อ​ไม่ได้​ชอบ​หนังสือ​นิยาย​รัก​ประโลมโลก​พวก​นั้น​ของ​เจิ้งต้าเฟิง​ แล้​วจะ​ทำ​อย่างนั้น​ไป​ไย​ ที่แท้​ก็​เพื่อ​ไป​เฝ้ามอง​สตรี​ที่รัก​นี่เอง​ เจ้าตัวดี​ อายุ​ไม่มาก​แต่กลับ​ฉลาด​ก่อน​วัย​ เก่ง​กว่า​เจ้าขุนเขา​อย่าง​ข้า​เยอะ​เลย​”

หนิง​เหยา​ถาม “วันหน้า​เจ้าจะยัง​จับตามอง​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ต่อไป​หรือไม่​? หกสิบ​ปี​ หนึ่งร้อย​ปี​?”

เฉิน​ผิง​อัน​อดไม่ไหว​หัวเราะ​พลาง​ส่ายหน้า​ “อันที่จริง​ไม่ต้อง​ให้​ข้า​คอย​จับตามอง​หรอก​”

นี่​คือ​หลักการ​เดียว​กับ​ห​ลี่​กระดอน​น้ำ​ของ​หอ​เซียน​จิ่วเจิน​แห่ง​แผ่นดิน​กลาง​และ​เค่อ​ชิงอันดับ​หนึ่ง​ของ​สำนัก​ใหญ่​แห่ง​อุตรกุรุทวีป​คน​นั้น​ โดน​ซ้อม​แล้ว​รู้จัก​หลาบจำ​

ก็​เหมือนว่า​เคย​มีแขก​ชั่วร้าย​มาเยือน​ถึงบ้าน​ ก่อน​จะจากไป​ยัง​จงใจทิ้ง​รองเท้า​คู่​หนึ่ง​ไว้​ใน​บ้าน​ของ​คนอื่น​ อันที่จริง​พวก​แขก​ล้วน​ไม่สนใจ​ว่า​จะต้อง​เอา​กลับ​ไป​หรือไม่​ แต่​เจ้าบ้าน​กลับ​ไม่คิด​เช่นนี้​

หนิง​เหยา​ลุกขึ้น​นั่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​ริน​น้ำชา​ส่งมาให้​ นาง​รับ​ถ้วย​มาดื่ม​ชาหนึ่ง​อึก​ ถามว่า​ “ภูเขา​ลั่วพั่ว​จะปิดประตู​ผนึก​ภูเขา​เท่านั้น​หรือ​? ไม่อาจ​เอาอย่าง​ช่างห​ร่วน​ของ​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ รับ​ตัว​คน​มาก่อน​แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​ว่า​จะรับ​เข้า​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “ต่อให้​ดูแล​คน​ที่​เพิ่มขึ้น​มาหลาย​สิบ​คน​หรือ​อาจ​ถึงขั้น​ร้อย​กว่า​คน​ได้​ไหว​ แต่กลับ​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​ไม่อาจ​ควบคุม​ใจคน​ได้​ ข้า​ไม่เป็นห่วง​พวก​จูเหลี่ยน​ ฉางมิ่ง แต่​ที่​เป็นห่วง​คือ​พวก​เด็ก​ๆ อย่าง​หน่วน​ซู่ หมี่​ลี่​น้อย​และ​เฉินห​ลิง​จวิน​ รวมไปถึง​พวก​คนหนุ่มสาว​อย่าง​เฉิน​ยวน​จี เจี่ยงชวี่​ จิ่วเอ๋อร์​ พอ​คน​บน​ภูเขา​มีมาก​เข้า​ จิตใจ​คน​ก็​ซับซ้อน​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​ครึกครื้น​ชั่วครั้งชั่วคราว​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ก็​จะกลาย​เป็นความ​ไม่สนุก​แม้แต่น้อย​ ถึงอย่างไร​ตอนนี้​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​ยัง​ไม่ขาด​คน​ ทาง​ฝั่งของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ที่​ใบ​ถงทวีป​ พวก​หมี่​อวี้​กลับ​สามารถ​รับ​ลูกศิษย์​มาเพิ่ม​ได้​”

ถึงอย่างไร​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ใช่เจิ้งจวี​จงและ​อู๋ซวงเจี้ยง​ เจิ้งจวี​จงสามารถ​มอง​จุด​ที่​เล็ก​ละเอียด​ของ​ใจคน​ทั่ว​ทั้ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ได้​อย่าง​ถ้วน​ทั่ว​ อู๋ซวงเจี้ยง​สามารถ​ถ่ายทอดวิชา​ความรู้​ให้​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ทุก​คนใน​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ได้​

เฉิน​ผิง​อัน​หรือ​จะมีความสามารถ​เช่นนี้​

ไม่เพียงแค่​ว่า​เปรียบเทียบ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​สอง​คน​นี้​แล้ว​มีความต่าง​ทาง​ขอบเขต​เท่านั้น​ ที่​มากกว่า​นั้น​ยัง​เป็น​สภาพ​จิตใจ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เจิ้งจวี​จงและ​อู๋ซวงเจี้ยง​แล้ว​ยัง​ด้อย​กว่า​ไม่น้อย​

ตัวอ่อน​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เวลานี้​กรู​กัน​ไป​ยัง​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​เพื่อ​ตามหา​โชควาสนา​เซียน​ ไม่กล้า​พูดว่า​ทั้งหมด​ พูด​แค่​เกิน​ครึ่ง​ ต้อง​เป็น​พวก​ที่​มุ่งไป​เพื่อ​ชื่อเสียง​และ​ผลประโยชน์​แน่นอน​ ขึ้น​เขา​ไป​เยี่ยมเยียน​เซียน​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ อยาก​แสวงหา​มรรคา​ทำตาม​ความปรารถนา​ใน​ใจให้​สำเร็จ​ย่อม​ไม่มีปัญหา​ใดๆ​ แต่​เรื่อง​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​กังวล​ แต่ไหนแต่ไร​มาก็​ไม่เหมือนกับ​เจ้าขุนเขา​ เจ้าสำนัก​ทั่วไป​ ยกตัวอย่างเช่น​บางที​ถึงท้ายที่สุด​ เมล็ด​แตง​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​แบ่ง​อย่างไร​ก็​ล้วน​จะกลายเป็น​เรื่องใหญ่​ที่​ทำให้​ใจคน​ไม่นิ่ง​ เกิด​เป็น​คลื่นใต้น้ำ​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ สุดท้าย​คน​ที่​เสียใจ​ก็​คือ​หมี่​ลี่​น้อย​ ถึงขั้น​ที่ว่า​อาจ​ทำให้​แม่นาง​น้อย​ยาก​ที่จะ​แบ่ง​เมล็ด​แตง​ได้​อย่าง​เบิกบานใจ​อีก​ชั่วชีวิต​ ความใกล้ชิด​และ​ความห่างเหิน​มีความต่าง​ อย่างไร​ก็​ต้อง​ปกป้อง​จุด​ที่​ทำให้​จิตใจ​ของ​ข้า​สงบ​ซึ่งหา​ได้​ยาก​ยิ่ง​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เอาไว้​ก่อน​ ถึงจะสามารถ​ไป​สนใจ​วาสนา​และ​การ​ฝึก​ตน​ของ​คนอื่น​ได้​

อยู่ดีๆ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ตอนที่​ข้า​รู้สึก​ว่า​วัตถุ​วิเศษ​บน​ภูเขา​ชิ้น​หนึ่ง​ไม่มีค่า​มาก​ขนาด​นั้น​ ก็​จำเป็นต้อง​ทบทวน​ตัวเอง​ให้​ดี​และ​เตือน​ตัวเอง​ให้​มาก​”

หนิง​เหยา​มอง​เขา​ ไม่หาเงิน​ก็​นับ​เงิน​ นับ​เงิน​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​หาเงิน​ใหม่​ ตั้งแต่​เด็ก​มาก็​หลงใหล​ใน​เงินทอง​จน​ทำให้​หนิง​เหยา​ได้​เปิดโลก​กว้าง​ จนถึง​ทุกวันนี้​หนิง​เหยา​ก็​ยัง​จำได้ดี​ว่า​คืน​วันนั้น​ เด็กหนุ่ม​สวม​รอง​เท้าสาน​สะพาย​ตะกร้า​ใบ​ใหญ่​ไป​เก็บ​ก้อนหิน​ใน​ลำคลอง​หลง​ซวี​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เยาะเย้ย​ตัวเอง​ “ตอน​เด็กยากจน​จน​กลัว​”

หนิง​เหยา​ส่ายหน้า​ นาง​รู้​ว่าไม่ได้​เป็น​เช่นนี้​เลย​ ชอบ​ใน​เงินทอง​ก็​ส่วน​ชอบ​ใน​เงินทอง​ แต่​ขอ​แค่​ตัว​เฉิน​ผิง​อัน​เอง​สามารถ​กิน​อิ่ม​สวมใส่​เสื้อผ้า​อบอุ่น​ เขา​ก็​คือ​คน​ที่​ไม่ได้​ต้องการ​ ‘ของ​นอกกาย​’ มาก​นัก​

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ต้อง​ไป​พบ​ขุนนาง​ใหญ่​กรม​พิธีการ​ที่​ตรอก​นั่น​สักหน่อย​ บางที​หลังจากนี้​ข้า​อาจ​ไป​ดูหนังสือ​ที่​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​ด้วย​ ไม่ต้อง​รอ​ข้า​ เจ้ารีบ​พักผ่อน​เถอะ​”

หนิง​เหยา​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ก้าว​ออก​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ หด​ย่อ​พื้นที่​ไป​จาก​โรงเตี๊ยม​อย่าง​เงียบเชียบ​ ไป​โผล่​ใน​ตรอก​เงียบสงบ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ไม่มีแสงไฟ

หนิง​เหยา​กลับ​ไป​นอน​ฟุบ​บน​โต๊ะ​อีกครั้ง​ ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ เป็น​เจ้าที่จะ​ไป​ดูหนังสือ​เอง​ ข้า​ไม่ได้​พูด​อะไร​เลย​นะ​ เจ้าจะเอา​อย่างไร​อีก​

ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​เดิน​ฝีเท้า​เร่งร้อน​ออก​มาจาก​วังหลวง​ หลังจาก​ขึ้น​รถม้า​คัน​หนึ่ง​ เสียง​ล้อ​รถบดถนน​ก็​ดัง​ไป​ตลอดทาง​ เดิมที​จะไป​ที่​โรงเตี๊ยม​แห่ง​หนึ่ง​ เพียงแต่ว่า​พอ​เข้าใกล้​จุดหมาย​ รถม้า​กลับ​เปลี่ยนเส้นทาง​เล็กน้อย​ สารถี​ที่​รับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​เชื้อพระวงศ์​ของ​ต้า​หลี​บอ​กว่า​จะไป​ที่​เรือน​พัก​ของ​ราชครู​ชุย​ฉาน​ เฉิน​ผิง​อัน​ไป​รอ​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​

ก่อนหน้านี้​ตรง​มุมตรอก​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ถูก​ขวาง​เอาไว้​ ห่าง​กัน​เพียง​เส้น​บาง​ๆ กั้น​ขวาง​ ใน​ตรอก​เล็ก​ที่​มอง​ดูเหมือน​มืด​สลัว​ แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​ฟ้าดิน​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ คือ​ลาน​กว้าง​หยก​ขาว​ขนาด​สามไร่​ ถูก​ขนานนาม​ให้​เป็น​สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ใน​เปลือกหอย​บน​ภูเขา​ เซียน​ดิน​สามารถ​เอา​เก็บ​มาใส่ไว้​ใน​ช่อง​โพรง​ลมปราณ​ หลัง​เอา​ออกมา​ก็​เอา​มาตั้ง​วาง​ไว้​ เป็น​สมบัติ​หนัก​บน​ภูเขา​ที่​ได้​แต่​ปรารถนา​มิอาจ​ได้มา​ครอบครอง​เหมือนกับ​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​และ​วัตถุ​ฟางชุ่น​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าก่อกำเนิด​กำลัง​นั่ง​เข้าฌาน​ ผู้ฝึก​ตน​มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่นึก​อยาก​ให้​สิบสอง​ชั่ว​ยาม​ของ​หนึ่ง​วัน​เปลี่ยนเป็น​ยี่สิบ​สี่ชั่ว​ยาม​? (หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​สมัยโบราณ​คือ​สอง​ชั่วโมง​ ยี่สิบ​สี่ชั่ว​ยาม​จึงเท่ากับ​สี่สิบ​แปด​ชั่วโมง​) ทว่า​ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ขอบเขต​ประตู​มังกร​คน​นั้น​ คืนนี้​กลับ​ฝึก​หมัด​เดิน​นิ่ง​ ระหว่าง​ที่​ปล่อย​หมัด​ก็​ส่งเสียง​ฮื่อ​ฮ่าออกมา​ด้วย​ ใน​สายตา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ กระบวนท่า​นั้น​ช่างสมกับ​เป็น​นัก​สู้ใน​ยุทธ​ภพ​จริงๆ​ บาดตา​ยิ่งนัก​ พอๆ กับ​วิชา​กระบี่​มาร​คลั่ง​ที่​เผย​เฉียน​คิดค้น​ใน​ปี​นั้น​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ายังคง​ไม่อาจ​สัมผัส​ได้​ถึงการดำรงอยู่​ของ​แขกไม่ได้รับเชิญ​บางคน​ที่​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​ หลังจาก​โคจร​ลมปราณ​ครบรอบ​เล็ก​แล้วก็​รู้สึก​รำคาญ​เสียง​เอะอะ​ของ​ลูกศิษย์​ จึงได้​แต่​ลืมตา​ขึ้น​มาตวาด​ดุ​ “ตวน​หมิง​ จงรู้จัก​ทะนุถนอม​ช่วงเวลา​ใน​การ​ฝึก​ตน​ให้​ดี​ อย่า​ได้​สิ้น​เปลืองเวลา​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​ หาก​เจ้ายินดี​จะเรียน​วิชา​หมัด​จริงๆ​ ก็​รบกวน​ช่วย​ไปหา​อาจารย์​มาสอน​ ถึงอย่างไร​บ้าน​เจ้าก็​ไม่ขาดเงิน​อยู่แล้ว​ ต่อให้​จะไม่มีคุณสมบัติ​ใน​การเรียน​วร​ยุทธ​แค่​ไหน​ หา​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​เดินทางไกล​สัก​คน​ให้​แข็งใจ​สอน​วิชา​หมัด​แก่​เจ้าก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​ อย่างไรก็ดี​กว่า​ให้​เจ้าคอย​ปล่อย​หมัด​หวัง​ปา​ทิ่มแทง​ตา​ของ​ข้า​ผู้อาวุโส​อยู่​ทุกวัน​”

เด็กหนุ่ม​แซ่จ้าว​ นาม​ว่า​ตวน​หมิง​ ปฏิบัติตน​ถูกต้อง​เที่ยงตรง​ จิต​แห่ง​มรรคา​สว่างไสว​ ช่างเป็น​ชื่อ​ที่​ความหมาย​ดี​ยิ่งนัก​ น่าเสียดาย​เสียง​พ้อง​ของ​ชื่อ​ช่างน่าอาย​ เด็กหนุ่ม​รู้สึก​มาโดยตลอด​ว่า​หาก​ตน​แซ่ห​ลี่​ก็​คง​ดี​ หาก​คนอื่น​เอาชื่อ​ตน​ไป​ล้อ​อีก​ก็​ง่าย​เลย​ แค่​บอกชื่อ​ออก​ไป​ก็​จะสามารถ​กอบกู้​ชื่อเสียง​กลับคืน​มาได้​แล้ว​

เด็กหนุ่ม​มีชาติกำเนิด​จาก​ตระกูล​ชั้นสูง​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ต้า​หลี​ สกุล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ย​ หนึ่ง​ใน​แซ่สกุล​ของ​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​แห่ง​ต้า​หลี​ อีก​ทั้ง​จ้าว​ตวน​หมิง​ยัง​เป็น​บุตรชาย​ที่เกิด​จาก​เรือน​หลัก​ของ​ภรรยา​เอก​ด้วย​

ใน​บรรดา​แซ่ของ​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ทั้งหมด​ของ​ต้า​หลี​ หยวน​ เฉา กวน​ คือ​อันดับ​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​เป็น​ตระกูล​อวี๋​และ​ตระกูล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ย​ ตามมา​ด้วย​สกุล​ชิว​แห่ง​ฝูเฟิง สกุล​หม่า​แห่ง​โผ​หยาง​ สกุล​เยี่ยน​แห่ง​จื่อ​จ้าว​ ความต่าง​ล้วน​มีไม่มาก​

จ้าว​หมิง​ตวน​ปล่อย​หมัด​พลาง​ถามไป​ด้วยว่า​ “อาจารย์​ ท่าน​ว่า​โจว​ไห่​จิ้งผู้​นั้น​อายุ​เท่าไร​? อายุ​ห้าสิบ​หก​แล้ว​จริง​หรือ​ มอง​แล้ว​ไม่เหมือน​เลย​นะ​ ก่อนหน้านี้​เห็น​นาง​ไกลๆ​ จุ๊ๆๆ ช่างดูแลตัวเอง​ได้ดี​ยิ่งนัก​ ข้า​กับ​เจ้าผี​ขี้เหล้า​เฉาต่าง​ก็​ชอบ​นาง​มาก​ ข้า​กับ​ผี​ขี้เหล้า​เฉานัดหมาย​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​วันหน้า​หาก​โจว​ไห่​จิ้งต่อย​ตี​กับ​คนอื่น​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​ เขา​จะต้อง​ช่วย​ข้า​หา​ตำแหน่ง​ดี​ๆ ให้​ข้า​ได้​ไป​ชมอยู่​ใกล้​ๆ ผู้ฝึก​ยุทธ​ถามหมัด​ หาก​สตรี​สสวม​ชุด​เดินทาง​ยามค่ำคืน​ด้วย​ล่ะ​ก็​ หึหึ​”

ผู้เฒ่า​เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “วันหน้า​เจ้าไป​คลุกคลี​กับ​เจ้าบ้ากาม​เฉาให้​น้อย​ๆ หน่อย​ ปรมาจารย์​ใหญ่​ด้าน​วร​ยุทธ​อย่าง​โจว​ไห่​จิ้ง วิชา​หมัด​เข้าขั้น​สุดยอด​แล้ว​ถึงสามารถ​คง​ความงาม​เอาไว้​ได้​ ลำพัง​แค่​ดู​จาก​รูปโฉม​ก็​ไม่อาจ​แยกแยะ​อายุ​ที่​แท้จริง​ พอๆ กับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​อย่าง​พวกเรา​ อีก​อย่าง​จำไว้​นะ​ว่า​ ข้า​จะไม่ขวาง​ไม่ให้​เจ้าไป​ชมการต่อสู้​ แต่​จะต้อง​ควบคุม​ดวงตา​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​ ได้ยิน​มาว่า​นิสัย​ของ​โจว​ไห่​จิ้งแย่มาก​ ไม่ได้​พูด​ง่าย​อย่าง​เจิ้งเฉียน​เลย​สักนิด​”

เด็กหนุ่ม​เก็บ​หมัด​ยืน​นิ่ง​ แสยะปาก​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อายุ​ไม่ใช่ปัญหา​ สตรี​อายุ​มากกว่า​สามปี​ได้​กอด​อิฐ​ทอง​กลับบ้าน​ อาจารย์​ท่าน​ลอง​คำนวณ​ดู​สิว่า​ข้า​สามารถ​กอด​อิฐ​ทอง​ได้​กี่​ก้อน​?”

ผู้เฒ่า​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ด้วย​ฝีมือ​การคำนวณ​ของ​เจ้า ยัง​สามารถ​ฝึก​ตน​ได้​ ก็ช่าง​ไร้เหตุผล​สิ้นดี​”

ลูกศิษย์​คน​นี้​ดวง​แข็ง​อย่าง​แท้จริง​ ก่อนที่จะ​ฝึก​ตน​ ตอน​เป็น​เด็ก​อยู่ดีๆ​ ก็​ถูก​ฟ้าผ่า​สามครั้ง​ แต่กลับ​ยัง​ไม่ตาย​

จ้าวต​วน​หมิง​ลูบ​คลึง​ปลาย​คาง​ “เป็น​สี่ปรมาจารย์​ใหญ่​ด้าน​วร​ยุทธ​ที่​ผ่าน​การประเมิน​เหมือนกัน​ ชื่อ​ของ​โจว​ไห่​จิ้งอยู่​รั้งท้าย​ แต่​ไม่ว่า​จะรูปร่าง​หรือ​หน้าตา​ก็​ล้วน​งามกว่า​เจิ้งเฉียน​ผู้​นั้น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ซ่อน​ตัวยืน​อยู่​บน​หัว​กำแพง​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ เดิมที​ความสนใจ​ส่วนใหญ่​อยู่​ที่​รถม้า​คัน​นั้น​มากกว่า​ แต่​ก็​ถือโอกาส​จดจำ​คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​เด็กหนุ่ม​เอาไว้​ด้วย​

ส่วน​บน​หลังคา​ของ​หอ​เรือน​สูงอย่าง​หอ​เทียน​ลู่​ ผู้ฝึก​ตน​เหล่านั้น​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงเหลือบมอง​หลายครั้ง​หน่อย​

ทุกคน​ต่าง​ห้อย​ป้าย​แผ่น​หนึ่ง​ไว้​ที่​เอว​ แต่กลับ​ไม่ใช่ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​ที่​ที่ว่าการ​กรม​อาญา​เป็น​ผู้​แจกจ่าย​ให้​ แกะสลัก​ตัวอักษร​แค่​ตัว​เดียว​ ล้วน​เป็น​ตัวอักษร​ที่​เลือก​มาจาก​สิบสอง​แผนภูมิ​ดิน​

ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​ ใน​บรรดา​คน​หก​คน​นี้​จะมีคน​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ พุทธ​ เต๋า​อยู่​อย่าง​ละ​คน​ ผู้ฝึก​กระบี่​หนึ่ง​คน​ ผู้ฝึก​ตน​สาย​ยันต์​หนึ่ง​คน​ ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​หนึ่ง​คน​

อีก​ทั้ง​ต่าง​ก็​มีเงิน​กัน​อย่าง​มาก​ ไม่พูดถึง​เสื้อผ้า​ที่อยู่​ด้านนอก​สุด​ ด้านใน​ของ​ทุกคน​ล้วน​สวมใส่​เสื้อเกราะ​จิงเหว่​ย​ที่​ระดับ​ขั้นสูง​ที่สุด​ใน​บรรดา​เม็ด​เสื้อเกราะ​ของ​สำนัก​การทหาร​ จากนั้น​จึงสวม​ชุด​คลุม​อาคม​ไว้​ข้างนอก​อีก​หนึ่ง​ชิ้น​ ราวกับว่า​อาจ​ต้อง​เปิดฉาก​เข่นฆ่า​กับ​คนอื่น​ได้​ทุกเมื่อ​

เวลานี้​ดูเหมือน​จะมีคน​เริ่ม​ตั้งตัว​เป็น​เจ้ามือ​แล้ว​

หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ที่​นอกจาก​จะสวม​เสื้อเกราะ​และ​ชุด​คลุม​อาคม​แล้ว​ ยัง​สวม​ชุด​อวิ๋นจิ่น​คอกลม​ที่​ผลิต​มาจาก​หน่วย​เจี้ยน​คัง​จิ่น​ นาง​แบมือ​ออก​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “เป็น​เจ้ามือ​แล้ว​ เป็น​เจ้ามือ​ เดิมพัน​ว่า​เซียน​กระบี่​เฉิน​ผู้​นั้น​คืนนี้​ไม่ไป​ที่​วังหลวง​ จ่าย​หนึ่งต่อหนึ่ง​”

อีก​ห้า​คน​ที่​เหลือ​ต่าง​พา​กัน​โยน​เงิน​เทพ​เซียน​ออกมา​ เงินร้อน​น้อย​มาก​ที่สุด​ เงิน​ฝน​ธัญพืช​สอง​เหรียญ​ แล้วก็​มีคน​ที่​ให้เงิน​เกล็ด​หิมะ​แค่​เหรียญ​เดียว​ คือ​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​ที่​มีลักษณะ​เป็น​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ สวม​เสื้อคลุม​ผ้า​โปร่ง​ลาย​ดอก​ถัก​ด้วย​ขนนก​สีทอง​ แสงจันทร์​เย็นตา​ ผืน​ผ้า​ส่อง​ประกาย​แวววาว​ราว​น้ำ​ไหล​

หญิงสาว​คน​นั้น​หยิบ​เงิน​เกล็ด​หิมะ​เหรียญ​นั้น​ออกมา​แล้ว​ถามอย่าง​สงสัย​ว่า​ “แค่นี้​เอง​หรือ​?”

แม่นาง​น้อย​ยก​สอง​แขน​กอดอก​ เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “วันนี้​กู​ไห​น่​ไน​ไม่มีเงิน​แล้ว​จริงๆ​”

นักพรต​หนุ่ม​นั่งขัดสมาธิ​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “หลาย​ปี​มานี้​เก็บ​สะสมเงิน​สินเดิม​ไว้​มาก​ขนาด​นั้น​ เอา​ออกมา​สิ เดิมพัน​มาก​ก็ได้​มาก​”

ภิกษุ​น้อย​ที่​หน้าตา​หมดจด​ สวม​เสื้อคลุม​ทอ​สีเรียบ​ สอง​มือ​พนม​ “พระโพธิสัตว์​โปรด​คุ้มครอง​ให้​วันนี้​ดวง​ใน​การ​เดิมพัน​ของ​ศิษย์​ดี​ต่อไป​”

มีเพียง​ผู้ฝึก​กระบี่​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​เงียบขรึม​ โยน​เงิน​ฝน​ธัญพืช​เหรียญ​หนึ่ง​ออก​ไป​แล้วก็​เอนตัว​นอน​หลับตา​ทำสมาธิ​บำรุง​กระบี่​บิน​ต่อไป​อีกครั้ง​

ผู้ฝึก​ตน​หก​คน​นี้​ มีทั้งคน​ที่​มาจาก​แซ่สกุล​ของ​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ แล้วก็​มีคน​ที่​พ่อแม่​เป็น​คู่รัก​บน​ภูเขา​ ยิ่ง​มีคน​ที่​ชาติกำเนิด​ยากจน​มาจาก​หมู่​ชาวบ้าน​ ล้วน​เป็น​คน​ที่​หน่วย​จาน​กาน​กรม​อาญา​ของ​ต้า​หลี​ตั้งใจ​ค้นหา​มา คน​ที่​อายุ​มาก​ที่สุด​ก็​แค่​เก้า​สิบ​ปี​ อายุ​น้อยที่สุด​เพิ่งจะ​สิบ​กว่า​ขวบ​ นอกจาก​พวกเขา​แล้ว​มีคน​รวม​ทั้งสิ้น​สิบเอ็ด​คน​ สิบสอง​แผนภูมิ​ดิน​ทุกวันนี้​มีเพียง​ตำแหน่ง​เดียว​ที่ว่างเปล่า​ ขาด​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ไป​คน​หนึ่ง​ พวกเขา​ไม่มีผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ที่​แน่นอน​ ไม่มีสถานะ​ทำเนียบ​ศาล​บรรพ​จาร์​อย่าง​เป็นทางการ​ แต่​คน​ที่​สอน​หมัด​ให้​ ใน​บรรดา​ปรมาจารย์​ใหญ่​หลาย​คน​ คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​มีซ่งจ่างจิ้ง เพียงแต่ว่า​ชี้แนะ​ไม่มาก​ แค่​สอง​สามครั้ง​เท่านั้น​ นอกจากนี้​ก็​ยังมี​จอม​ยุทธ​พเนจร​สำนัก​โม่ มือ​กระบี่​สวี่​รั่ว​ คน​ที่​ช่วย​ถ่ายทอด​ศาสตร์​การ​มอง​ลมปราณ​ให้​กับ​พวกเขา​คือ​อดีต​ซาน​จวิน​ขุนเขา​เก่า​หลาย​ท่าน​ของ​ต้า​หลี​ นอกจากนี้​ยังมี​ยอด​ฝีมือ​อีก​หลาย​คน​ที่​อำพราง​ตัวตน​ ระบบ​สืบทอด​ไม่แน่ชัด​ ถึงขั้น​ที่ว่า​แม้แต่​กรม​พิธีการ​และ​กรม​อาญา​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ควบคุม​พวกเขา​ได้​

คน​หก​คน​ที่อยู่​ตรงนี้​ ทุกคน​ล้วน​มีวัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ห้า​ธาตุ​ ได้​ครอบครอง​ดิน​ห้า​สีของ​ห้า​ขุนเขา​ใหม่​แห่ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ โชคชะตา​น้ำ​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ฉีตู้​ เงิน​เหรียญทองแดง​แก่น​ทอง​ที่​ต้อง​ใช้จำนวน​มหาศาล​ รวมไปถึง​ต้น​ไหว​และ​ไฟใน​น้ำ​ชนิด​หนึ่ง​

ทุกคน​ล้วน​เป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ระดับ​สูงสุด​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ นอกจาก​ไม่กี่​คน​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​แล้ว​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​เหลือ​ล้วน​เคย​เข้าร่วม​สงคราม​ใหญ่​ครั้งนั้น​และ​เคย​ลอบฆ่า​กระ​โจมทัพ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​อยู่​หลายครั้ง​ ยกตัวอย่างเช่น​นักพรต​หนุ่ม​ที่​อายุ​เก้า​สิบ​กว่า​ปี​คน​นั้น​ ตอน​ที่อยู่​บน​สนามรบ​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ก็​ ‘เคย​ตาย​’ ไป​แล้ว​สอง​ครั้ง​ เพียงแต่ว่า​คน​ผู้​นี้​อาศัย​รากฐาน​มหา​มรรคา​ที่​ไม่ธรรมดา​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ต้า​หลี​ช่วย​จุด​ตะเกียง​แห่ง​ชะตาชีวิต​ เขา​ก็​แค่​ต้อง​เปลี่ยน​เนื้อหนังมังสา​ ไม่จำเป็นต้อง​ขอบเขต​ถดถอย​ก็​สามารถ​ฝึก​ตน​ต่อไป​ได้​

เฉิน​ผิง​อัน​กระโดด​ลง​มาจาก​หัว​กำแพง​ มาโผล่​ตรง​มุมตรอก​ ไม่ปิดบัง​ลมปราณ​อีกต่อไป​ รอคอย​การ​มาถึงของ​รอง​เจ้ากรม​พิธี​การคน​นั้น​อย่าง​เงียบเชียบ​ อันที่จริง​เป็น​คนคุ้นเคย​กัน​แล้ว​ คือ​ต่ง​หู​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​

ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​เก็บ​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​แห่ง​นั้น​มา ยืน​อยู่​ตรง​ปากตรอก​พร้อมกับ​ลูกศิษย์​จ้าวต​วน​หมิง​ ผู้เฒ่า​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ “มาอีกแล้ว​หรือ​?”

สถานที่​แห่ง​นี้​คือ​สถานที่​ที่​สามารถ​มาเดินเล่น​ได้​ตามใจชอบ​อย่างนั้น​หรือ​? คนหนุ่ม​ของ​ทุกวันนี้​เหตุใด​ถึงไม่เชื่อฟัง​กัน​บ้าง​เลย​ จะต้อง​รอ​ให้​ตัวเอง​เจอ​กับ​ความยากลำบาก​เสีย​ก่อน​ถึงจะรู้จัก​หลาบจำ​อย่างนั้น​หรือ​?

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “รบกวน​การ​ฝึก​ตน​ของ​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​แล้ว​ ข้า​มารอ​คน​อยู่​ที่นี่​ ไม่แน่​ว่า​พูดคุย​เสร็จ​แล้วก็​จะสามารถ​กลับ​เรือน​ไป​อ่าน​ตำรา​ได้​แล้ว​”

ผู้ฝึก​ตน​ส่ายหน้า​ คร้าน​จะพูด​อะไร​ให้​มากความ​ อย่าง​มาก​สุด​หาก​กลับ​ไป​แล้ว​ทาง​ที่ว่าการ​ของ​กรม​อาญา​ถามถึง ก็​บอ​กว่า​เป็น​พวก​คนใน​ยุทธ​ภพ​ที่​ตาไม่มีแวว​ ไม่ต้อง​ทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็น​เรื่องใหญ่​

ผู้เฒ่า​พลัน​หยุด​ยืน​นิ่ง​ หันหน้า​ไป​มอง​ เห็น​เพียง​ว่า​พอ​รถม้า​คัน​นั้น​จอด​ลง​ก็​มีรอง​เจ้ากรม​ต่ง​จาก​กรม​พิธีการ​เดิน​ลงมา​

เฉิน​ผิง​อันเป็น​ฝ่าย​ประสานมือ​คารวะ​ก่อน​ “คารวะ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ต่ง”​

ต่ง​หู​รีบ​ยื่นมือ​ออก​ไป​ทำท่า​ประคอง​แขน​ของ​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ “เจ้าขุนเขา​เฉิน​ อย่า​ทำ​แบบนี้​ อย่า​ทำ​แบบนี้​”

รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​คลี่​ยิ้ม​แล้วก็​แข็งใจ​เอ่ย​ว่า​ “ขอ​ถามเจ้าขุนเขา​เฉิน​ ท่าน​มาเยือน​เมืองหลวง​เพราะ​ต้องการ​สิ่งใด​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “แล้ว​ฝ่าบาท​มีพระ​ประสงค์​อย่างไรเล่า​?”

ต่ง​หู​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ว่า​ “นี่​ก็​ต้อง​ดู​ที่​ความต้องการ​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​แล้ว​”

ห่าง​ไป​ไกล​บน​หลังคาเรือน​หลัง​หนึ่ง​ มีสตรี​โต​เต็ม​วัย​คน​หนึ่ง​ที่​ใช้สอง​นิ้ว​หิ้ว​กา​เหล้า​ปรากฏตัว​ หญิงสาว​ที่​เพิ่ง​ตั้งตัว​เป็น​เจ้ามือ​เก็บ​เงิน​ผู้อื่น​คลี่​ยิ้ม​หวาน​เอ่ย​เรียก​ “เฟิงอี๋​”

น้ำเสียง​ของ​สตรี​นุ่มนวล​ตาม​ธรรมชาติ​ นาง​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “พวก​เจ้าใจกล้า​ไม่น้อย​ ถึงกับ​เล่น​พนัน​กัน​ใต้​เปลือกตา​ของ​คนอื่น​เขา​”

หญิงสาว​ถามอย่าง​ตกตะลึง​ “เฟิงอี๋​ เขา​สังเกตเห็น​พวกเรา​นาน​แล้ว​หรือ​?”

ทาง​ตรอก​เล็ก​แห่ง​นี้​ พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ได้ยิน​คำ​เรียก​ว่า​ ‘เฟิงอี๋​’ ก็​ถึงกับ​เอ่ย​ขออภัย​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ บอ​กว่า​เขา​ไป​แปบ​เดียว​เดี๋ยว​กลับมา​ แล้ว​ร่าง​ก็​พลัน​เปล่ง​วูบ​หาย​ไป​ ตรง​ดิ่งไป​ที่​หลังคาเรือน​

คน​ชุด​เขียว​พลิ้ว​กาย​มาปรากฏตัว​ ยืน​อยู่​บน​ชาย​คาที่​ตวัด​งอน​

คืน​ที่​อายุ​สิบ​สี่ปี​ ตอนนั้น​สะพาน​แบบ​คาน​ที่​สร้าง​ทับ​สะพาน​หิน​โค้ง​ยัง​ไม่ถูก​ราชสำนัก​ต้า​หลี​รื้อ​ทิ้ง​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​อาจารย์​ฉีเดิน​ไป​ด้วยกัน​บน​สะพาน​ ก่อน​จะเดิน​ไป​ ตอนนั้น​นอกจาก​เสียง​ของ​ผู้เฒ่า​ที่อยู่​ใน​เรือน​ด้านหลัง​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​แล้ว​เขา​ยัง​ได้ยิน​เสียง​ของ​คนอื่น​ด้วย​

สตรี​หันมา​มอง​เฉิน​ผิง​อัน​ ยิ้ม​ถาม “มีธุระ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หรี่ตา​ลง​ “ตอน​เป็น​เด็กหนุ่ม​ไม่รู้​ประสา​ แค่​เคย​ได้ยิน​เสียง​แต่​ไม่เคย​เห็น​หน้า​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะได้​เห็น​โฉมหน้าที่​แท้จริง​ของ​ผู้อาวุโส​ที่นี่​”

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 830.2 คนเก่าเรื่องเก่าที่ระเบียงบ้านเกิด"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์