CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 831.3 ฝึกฝน

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 831.3 ฝึกฝน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

หลังจาก​เฉิน​ผิง​อัน​เข้า​เมืองหลวง​มาก็​เรียก​กระบี่​บิน​หลาย​เล่ม​ที่​จำแลง​มาจาก​จันทร์​ใน​บ่อ​ให้​ทะยาน​ไป​ตามที่​ต่างๆ​ อย่าง​ลับ​ๆ

หัน​โจ้วจิ่น​เหลือบมอง​แสงจันทร์​เหนือ​ยอดไม้​ของ​ต้น​ป่าย​โบราณ​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ เอ่ย​สัพยอก​ด้วย​คำพูด​ดั่ง​สำลี​ซ่อน​เข็ม​ “อาจารย์​เฉิน​เป็น​เซียน​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​บน​แล้ว​ ทำ​เช่นนี้​ไม่ค่อย​เหมาะสม​กระมัง​?”

“จิตใจ​ป้องกัน​ผู้อื่น​ไม่ควร​ขาด​ ระมัดระวัง​ขับ​เรือ​ได้​นาน​หมื่น​ปี​”

สีหน้า​เฉิน​ผิง​อัน​เป็นธรรมชาติ​ ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​ขึ้น​โบก​อย่าง​ง่ายๆ​ แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​ก็​ถูก​เก็บ​เข้ามา​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​

แสงกระบี่​คล้าย​ได้​ผสาน​เป็นหนึ่งเดียว​กับ​แสงจันทร์​อยู่​นาน​แล้ว​ จึงไร้​ร่องรอย​ใดๆ​ ให้​ตามหา​สืบเสาะ​

ซ่งซวี่​นับถือ​ยิ่งนัก​ เขา​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​ ดังนั้น​จึงรู้​ถึงน้ำหนัก​ของ​วิธีการ​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ดี​ที่สุด​

กระบี่​บิน​จำแลง​เป็น​ภาพมายา​หลบซ่อน​อยู่​ตาม​มุมต่างๆ​ ขอ​แค่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ทำได้​

ทว่า​ปราณ​วิญญาณ​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ไม่ได้​หยุดนิ่ง​ไม่ขยับ​ กลับกัน​ยัง​หมุนเวียน​ไม่หยุด​เฉย​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ต้อง​หลอม​ยันต์​เข้าไป​ไว้​ใน​กระบี่​ หล่อหลอม​เอาไว้​ใน​ปณิธาน​กระบี่​ เพียงแต่ว่า​เวท​คาถา​ประเภท​นี้​ทับซ้อน​กัน​มีทั้ง​ข้อดี​และ​ข้อเสีย​ ข้อดี​คือ​ยาก​จะตามหา​ร่องรอย​ วิถี​โคจร​ของ​กระบี่​บิน​ยิ่ง​ลึกลับ​อำพราง​มากกว่า​เดิม​ ข้อเสีย​คือ​ทำลาย​ความ​ ‘บริสุทธิ์​’ ของ​กระบี่​บิน​ ส่งผล​ต่อ​พลัง​พิฆาต​

ทว่า​แสงกระบี่​เส้น​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​เหมือน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​สาย​หนึ่ง​ที่​มีปลา​แหวกว่าย​อยู่​ภายใน​

ประหนึ่ง​ปลา​ที่​แหวกว่าย​อยู่​ใน​สายน้ำ​

อิ่น​กวาน​แค่​แสดง​วิธีการ​นี้​ก็​ทำให้​ซ่งซวี่​รู้​แล้ว​ว่า​ความต่าง​อยู่​ที่ใด​

พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ หาก​เฉิน​ผิง​อัน​คิด​จะฆ่าคนใน​คืนนี้​จริงๆ​ ก็​เหมือน​อย่าง​ที่​อวี๋อวี๋​พูด​ไว้​ก่อนหน้านี้​ ฟัน​แตง​หั่น​ผัก​ สังหาร​คน​ได้​ตามใจชอบ​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่ใช่ไม่มีวิธี​รับมือ​ที่​ ‘ไม่ค่อย​มีเหตุผล​’ อยู่​บ้าง​เลย​ แต่​เมื่อ​มาเจอ​กับ​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ท่าน​นี้​กลับ​ไม่มีโอกาส​ชนะ​เลย​จริงๆ​

ไม่มีอะไร​ให้​ยอมรับ​ไม่ได้​ ถึงอย่างไร​ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​ห้า​คน​ของ​กระโจม​เจี่ยเซิน​ ผู้​มีพรสวรรค์​ชั้นยอด​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ พวกเขา​วางแผน​ล้อม​สังหาร​อย่าง​ตั้งใจ​ แต่​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ทำได้​สำเร็จ​เหมือนกัน​

และ​พวกเขา​หก​คน​ ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​แค่​คน​มีฝีมือ​ของ​ขุนเขา​สาย​น้ำหนึ่ง​ใน​ทวีป​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​เสีย​ว่า​มาเจอ​พวกเขา​แค่​ให้​คุ้นหน้า​คุ้นตา​กัน​ จึงเตรียม​จะจากไป​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ต่ง​หู​ก็​ยังคง​รอคอย​อยู่​ที่​หน้า​ตรอก​เล็ก​ สำหรับ​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ที่​เคย​พบ​เจอ​ตอน​เป็น​เด็กหนุ่ม​ผู้​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ยินดี​จะเห็นแก่​ความสัมพันธ์​ใน​วันวาน​

เก๋​อห​ลิ่ง​เรียก​คำ​หนึ่ง​ว่า​เซียน​กระบี่​เฉิน​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​สงสัย​ว่า​ “ยัง​มีเรื่อง​อะไร​อีก​หรือ​?”

เก๋​อห​ลิ่ง​ชี้ไป​ยัง​จุด​หนึ่ง​ เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “นักพรต​น้อย​มีแค่​ตบะ​ตื้นเขิน​เท่านี้​จะมีเรื่อง​อะไร​ได้​อีก​ เพียงแต่ว่า​กระบี่​บิน​อีก​เล่ม​ของ​เซียน​กระบี่​เฉิน​ ช่วย​เก็บ​ไป​ได้​หรือไม่​ นักพรต​น้อย​เย็น​สันหลัง​วาบ​ๆ ขนลุกขนชัน​อยู่​ตลอด​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​เอ่ย​ชื่นชม​ “เซียน​จวิน​น้อย​ตาแหลม​เหมือน​มีทิพย์​จักษุ​อย่างไร​อย่างนั้น​”

สอง​มือ​ของ​เก๋​อห​ลิ่ง​กุม​เป็น​หมัด​วาง​ไว้​ที่​หน้าอก​ เขย่า​เบา​ๆ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เซียน​กระบี่​เฉินชม​เกินไป​แล้ว​ มิกล้า​รับ​ มิกล้า​รับ​ แต่​ก็​ขอให้​สมพรปาก​เซียน​กระบี่​เฉิน​ ข้า​จะได้​เลื่อนขั้น​เป็น​เซียน​จวิน​ใน​เร็ว​วัน​”

“ได้​เลย​ๆ หาก​ถูกชะตา​กัน​ ที่​ข้า​ยังมี​คำพูด​ดี​ๆ คำพูด​มงคล​อีก​เป็น​กระบุงโกย​เชียว​ล่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​กวักมือ​อีกครั้ง​ แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​ก็​กลับ​เข้ามา​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ จากนั้น​ก็​ตามมา​อีก​เส้น​แล้ว​เส้น​เล่า​

ทั้ง​ก่อน​และ​หลัง​ รวมกัน​แล้ว​มีแสงกระบี่​หก​เส้น​ คน​หก​คน​บน​หลังคาเรือน​ ทุกคน​ล้วน​มีส่วนแบ่ง​

เก๋​อห​ลิ่ง​หันมา​มอง​สบตา​กับ​หัน​โจ้วจิ่น​อาจารย์​ค่าย​กล​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ ต่าง​ก็ได้​แต่​ยิ้ม​จืด​เจื่อน​

พวกเขา​สอง​คน​ ใน​บรรดา​คน​ทั้ง​หก​ถือว่า​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​ตรวจสอบ​การ​ไหลริน​ของ​ปราณ​วิญญาณ​ใน​ฟ้าดิน​และ​การ​สืบสาว​เบาะแส​ที่สุด​แล้ว​

แม่นาง​น้อย​คน​นั้น​หันหน้า​มา ครั้งนี้​นาง​เรียนรู้​ที่จะ​ทำ​ตัวดี​ๆ แล้ว​ รู้​ว่า​ควรจะ​มอง​ไป​ยัง​จุด​อื่น​ แต่​จากนั้น​ก็​พึมพำ​ขึ้น​มาอี​กว่า​ “ชั่วร้าย​จริงๆ​ ไม่เหมือน​คน​ของ​ฝ่าย​ธรรมะ​เลย​ เป็น​ถึงเซียน​กระบี่​ใหญ่​แล้ว​ แต่กลับ​ยัง​รังแก​ผู้ฝึก​กระบี่​เล็ก​ๆ อย่าง​พวกเรา​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​นิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​เคาะ​ข้าง​หูเบา​ๆ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “แม่นาง​คน​นี้​ ยอม​ตี​คน​ดีกว่า​ด่า​คน​ ด่า​คน​ก็​อย่า​ให้​คน​เขา​ได้ยิน​ นี่​ก็​คือ​กฎ​เก่าแก่​ใน​การท่อง​ยุทธ​ภพ​”

แม่นาง​น้อย​พยักหน้า​รัว​ๆ เหมือน​ไก่​จิก​เมล็ด​ข้าวเปลือก​ “แม้จะไม่รู้​ว่า​เหตุใด​เซียน​กระบี่​เฉิน​ถึงจู้จี้เช่นนี้​ แต่​ข้า​กลับ​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​ มีเหตุผล​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ “ยอดเยี่ยม​ ยอดเยี่ยม​ สามารถ​รับฟัง​ถ้อยคำ​ที่​แสดง​ความหวังดี​ได้​ ก็​เหมือน​ชาวบ้าน​ที่​เก็บเล็กผสมน้อย​จน​ตัวเอง​กลายเป็น​เศรษฐี​ มีเงิน​หมื่น​ก้วน​ร้อย​เอว​”

พูดถึง​เรื่อง​เงิน​ใช่ไหม​? คำพูด​แบบนี้​นาง​ชอบ​ฟัง จึงรู้สึก​ถูกชะตา​มือ​กระบี่​ชุด​เขียว​ผู้​นี้​มากขึ้น​ทันที​

เก๋​อห​ลิ่ง​ยิ้ม​เอ่ย​ “อันที่จริง​อาราม​เล็ก​ที่​เซียน​กระบี่​เฉิน​เดินผ่าน​ก่อนหน้านี้​ นักพรต​น้อย​ฝึก​ตน​อยู่​ที่นั่น​ชั่วคราว​ น้ำชา​รับรอง​แขก​ถึงอย่างไร​ก็​ยังมี​”

ที่​เขา​พูดถึง​ก็​คือ​อาราม​เต๋า​ขนาดเล็ก​ที่อยู่​ใต้​การปกครอง​ของ​หน่วย​จงซวี​ที่​ดูแล​กิจธุระ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ใน​เมืองหลวง​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​เอ่ย​ถ้อยคำ​ที่​เกรงใจ​อะไร​ บอ​กว่า​ช่างเถิด​ ไม่คิด​จะอยู่​ที่นี่​ต่อ​แล้ว​ แล้ว​ร่าง​ของ​เขา​ที่อยู่​บน​หลังคา​ของ​หอ​เทียน​ลู่​ก็​พลัน​เปล่ง​วูบ​หาย​ไป​

พอ​เฉิน​ผิง​อัน​จากไป​ ตรงจุด​นี้​ก็​ยังคง​เงียบงัน​ไร้​เสียง​พูดคุย​อยู่​เหมือนเดิม​ ครู่หนึ่ง​ต่อมา​นักพรต​หนุ่ม​ก็​เก็บ​วิชา​อภินิหาร​บท​หนึ่ง​มา บอ​กว่า​เขา​น่าจะ​จากไป​แล้ว​จริงๆ​ แม่นาง​น้อย​คน​นั้น​ถึงได้​ถอนหายใจ​ มอง​ไป​ยัง​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​นั้น​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​รั้ง​ตัว​เฉิน​ผิง​อัน​ไว้​พูดคุย​กัน​มากมาย​ขนาด​นี้​ เขา​เอง​ก็​ยอม​คุย​กับ​พวกเรา​หลาย​ประโยค​ นี่​ยัง​ไม่สำเร็จ​อีก​หรือ​?

ฝ่าย​หลัง​ส่ายหน้า​ เพียงแค่​เอ่ย​ว่า​ตัวอักษร​ทุก​ตัว​ล้วน​แน่นิ่ง​ไม่ขยับ​

ผล​คือ​มีแสงกระบี่​อีก​เส้น​เปล่ง​วูบ​ผ่าน​ไป​

ภิกษุ​น้อย​ยก​สอง​มือขึ้น​พนม​ “หาก​พระโพธิสัตว์​คุ้มครอง​ให้​คืนนี้​ไม่เกิดเรื่อง​ พรุ่งนี้​ข้า​ก็​จะเอา​เงิน​ค่า​ธูป​เทียน​ไป​บริจาค​ใส่กล่อง​กง​เต๋อ”​

อวี๋อวี๋​กระทืบเท้า​หนึ่ง​ที​ “น่ารำคาญ​เสีย​จริง​ ในที่สุด​กู​ไห​น่​ไน​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​กระโจม​เจี่ยเซิน​ถึงได้​เสียเปรียบ​ มีขอบเขต​สูงเสียเปล่า​ แต่กลับ​ทำ​เรื่อง​ต่ำช้า​ปลายแถว​เช่นนี้​”

ซ่งซวี่​ยิ้ม​เอ่ย​เตือน​อีกครั้ง​ว่า​ “ปี​นั้น​ถูก​ซุ่มโจมตี​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อันที่จริง​ขอบเขต​การ​ฝึก​ตน​ของ​อาจารย์​เฉิน​ไม่ได้​สูงเลย​”

กลุ่ม​ของ​พวกเขา​คร้าน​จะเปลี่ยน​สถาน​ที่แล้ว​เหมือนกัน​ แต่ละคน​จึงนั่งลง​บน​หลังคา​ คน​ที่​ดื่มเหล้า​ก็​ดื่มเหล้า​ คน​ที่​ฝึก​ตน​ก็​ฝึก​ตน​ไป​

ตาม​แผนการ​ของ​ราชครู​ชุย​ฉาน​ ต่อจากนี้​อีก​หนึ่งร้อย​ปี​ ภายใน​อาณาเขต​ทางทิศใต้​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​จะมีสำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ปราก​ฎขึ้น​มากะทันหัน​ มีผู้ฝึก​ลมปราณ​สิบเอ็ด​คน​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​ต้อง​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ บวก​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​อีก​หนึ่ง​คน​ พวกเขา​จะก่อตั้ง​สำนัก​ขึ้น​มา ทุกคน​ที่อยู่​ที่นี่​ บวก​กับ​อีก​ห้า​คน​ที่​เหลือ​ล้วน​จะกลายเป็น​บรรพ​จารย์​ผู้บุกเบิก​ภูเขา​

เจ้าสำนัก​ทุกคน​จำเป็นต้อง​เป็น​ลูกศิษย์​สำนักศึกษา​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ อีก​ทั้ง​อย่าง​น้อยที่สุด​ต้อง​มีสถานะ​เป็น​วิญญูชน​

เรื่อง​ที่​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ของ​พวก​เจ้าไม่สะดวก​ใจจะทำ​ ราชวงศ์​ต้า​หลี​ของ​พวกเรา​ก็​จะเปิดทาง​ก่อน​เอง​ ลองดู​ผลลัพธ์​ที่จะ​ออกมา​

กลยุทธ์​ที่​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่มอบให้​ใน​ปี​นั้น​ ใต้​หล้า​ไพศาล​ไม่ใช้ ทั้ง​ยัง​ปฏิเสธ​ทุก​ข้อ​

งาน​ไม่สำเร็จ​เพราะ​ตัว​คน​ เดิมที​ก็​ขัดแย้ง​กับ​ทฤษฎี​คุณ​ความชอบ​และ​ลาภ​ยศ​อยู่แล้ว​

หัน​โจ้วจิ่น​ทิ้งตัว​นอนหงาย​ไป​ด้านหลัง​ พึมพำ​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อิ่น​กวาน​หล่อเหลา​จริงๆ​”

อวี๋อวี๋​นั่งขัดสมาธิ​ กลอกตา​มอง​บน​

แสงกระบี่​เส้น​สุดท้าย​หาย​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​มองไม่เห็น​

ราวกับว่า​ถ้อยคำ​จาก​ใจจริง​ที่​เอ่ย​โดยไม่เจตนา​ประโยค​นี้​ของ​อาจารย์​ค่าย​กล​หญิง​ทำให้​กระบี่​บิน​เล่ม​หนึ่ง​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ตกใจ​หนี​ไป​

……

ก่อนหน้านี้​ต่ง​หู​ถูก​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ทิ้ง​ไว้​ รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​รู้สึก​จนใจ​เป็น​ทบ​ทวี​ ไม่ได้​มีไฟโทสะ​สูงสามจั้งอะไร​ เรื่อง​ที่จะ​พูดคุย​กับ​เจ้าขุนเขา​ใน​คืนนี้​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​มาก​ อย่า​ว่าแต่​รอ​แค่​ชั่ว​พัก​ชั่ว​ยาม​เลย​ ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จากไป​ทั้งคืน​ไม่กลับมา​ ทำให้​เขา​ต้อง​รอเก้อ​จน​ฟ้าสาง ผู้เฒ่า​ก็​ไม่มีคำ​บ่น​แม้แต่​ครึ่ง​คำ​

ต่ง​หู​เหลือบตา​มอง​ปากตรอก​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​ที่​ชื่อ​ใน​บันทึก​ของ​กรม​พิธีการ​คือ​หลิว​เจีย​ผู้​นั้น​ยืน​หลับตา​ทำสมาธิ​นิ่ง​อยู่​ที่​เดิม​ ฝึก​ตน​ ฝึก​ตน​ ทำไม​ไม่ฝึก​จน​กลายเป็น​บิน​ทะยาน​ไป​เลย​เล่า​

ส่วน​เด็กหนุ่ม​ที่​มาจาก​ตระกูล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ย​ก็​กำลัง​นั่ง​กิน​ถั่วลิสง​กำ​ใหญ่​อยู่​บน​พื้น​ เห็น​สายตา​ของ​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​มอง​มาก็​ยัง​ยื่นมือ​มาให้​ ต่ง​หู​ยิ้ม​พลาง​โบกมือ​ กิน​ๆๆ กิน​จน​ปู่เจ้า​พ่อเจ้า​เป็น​คน​อ้วน​กัน​ไป​ให้​หมด​

ดูท่า​ถึงแม้รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​จะไม่มีคำ​บ่น​ แต่​ก็​มีความไม่พอใจ​อยู่​บ้าง​

ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​ปี​นั้น​ราชครู​คิด​อะไร​อยู่​ ถึงได้​หา​เจ้าคน​หัวโบราณ​ที่​พอ​ปิดประตู​ก็​ดีแต่​จะฝึก​ตน​พวก​นี้​มาเฝ้าบ้าน​ให้​ ไม่ว่า​ค่า​น้ำร้อน​หรือ​ค่า​น้ำชา​ก็​ไม่ยอมรับ​ ตั้งแต่​ต้นปี​ยัน​ท้าย​ปี​ไม่เคย​ก้าว​ออกจาก​ตรอก​เล็ก​แม้แต่​ครึ่ง​ก้าว​ แล้ว​เจ้าเด็ก​จ้าวต​วน​หมิง​ผู้​นี้​ก็​ไม่คิด​จะเล่าเรื่อง​ภายนอก​ให้​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ตัวเอง​ฟังบ้าง​เลย​หรือ​?

เด็กหนุ่ม​ยิ้ม​ทะเล้น​ “ท่าน​ปู่​ต่ง​ อย่า​มอง​ข้า​สิ ไม่ใช่ว่า​ท่าน​ไม่รู้​สักหน่อย​ ทุกครั้งที่​ข้า​ออกจาก​บ้าน​ล้วนแต่​ไป​ขอ​กินเปล่า​ดื่ม​เปล่า​จาก​ผี​ขี้เหล้า​เฉา คุย​แต่​เรื่องไร้สาระ​ ไม่คุย​เรื่อง​เป็นการเป็นงาน​แม้แต่น้อย​ อีก​อย่าง​คำพูด​ที่​หลุด​ออก​มาจาก​ปาก​คน​ที่​ไม่เป็นโล้เป็นพาย​เช่นนี้​จะมีเรื่อง​จริงจัง​อะไร​ได้​เล่า​?”

รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​อย่าง​ต่ง​หู​ผู้​นี้​ หาก​อิง​ตาม​กฎ​ของ​วงการ​ขุนนาง​ แม้ว่า​จะมีความสัมพันธ์​ที่​ไม่เลว​ แต่กลับ​ไม่อาจ​ถือเป็น​คน​ที่​มีสิทธิ์​ตัดสินใจ​ใน​ราชสำนัก​ของ​สกุล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ย​ได้​ ในความเป็นจริง​แล้ว​ ใน​บรรดา​แซ่สกุล​ของ​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ โดย​ภายนอก​แล้ว​สกุล​จ้าว​ที่อยู่​ใน​วงการ​ขุนนาง​ของ​เมืองหลวง​ไม่ได้​มีน้ำหนัก​อะไร​ เพราะว่า​ถิ่น​ของ​สกุล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ย​ที่อยู่​ใน​วงการ​ขุนนาง​ของ​ต้า​หลี​ หลัก​ๆ แล้ว​อยู่​ที่​กรม​คลัง​กับ​กรม​โยธา​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่ออกหน้าออกตา​ ไม่มีใคร​ได้​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ของ​กรม​

แต่​หม่า​เจิ้ง (คน​ดูแล​ม้า มีหน้าที่​ให้อาหาร​ เลี้ยง​ม้า ฝึก​ม้า) ของ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ แต่ไหนแต่ไร​มาล้วน​เป็น​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​ที่​ยึดครอง​ไว้​ได้​อย่าง​แน่นหนา​ ดังนั้น​ความสัมพันธ์​ของ​พวกเขา​กับ​ชายแดน​จะเป็น​อย่างไร​ แค่​คิด​ก็​พอ​จะรู้​ได้​

สำหรับ​ตัวอ่อน​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ที่​วางท่า​ว่า​จะละทิ้ง​สถานะ​เจ้าประมุข​เทียน​สุ่ย​ในอนาคต​อย่าง​จ้าวต​วน​หมิง​ แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่คนแปลกหน้า​สำหรับ​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ ที่​ตรอก​อี้​ฉือ​ ทุกครั้งที่​ถึงเทศกาล​ปีใหม่​จะต้อง​มีการ​แวะเวียน​ไป​เยี่ยมเยือน​กัน​ พวกเขา​จึงได้​พบ​เจอกัน​ เด็ก​คน​นี้​เกเร​อย่าง​มาก​ ตั้งแต่​เด็ก​มาก​็เป็น​หัวโจก​ตัว​สร้างเรื่อง​ ตอน​เด็ก​มักจะ​นำ​พวก​คนรุ่นเดียวกัน​ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​บุก​ไป​ต่อย​ตี​กับ​พวก​ลูกหลาน​เมล็ด​พันธ์​แม่ทัพ​ที่​อายุ​พอๆ กัน​ของ​ถนน​ฉือเอ๋อร์​

ถนน​สอง​เส้น​ที่​มีประวัติ​ยาวนาน​ที่สุด​ของ​ต้า​หลี​นี้​ แต่ละ​รุ่น​ล้วน​มีลูก​พี่ใหญ่​ใน​กลุ่ม​เด็ก​ทุ​กรุ่น​

มีแค่​เด็ก​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​ที่​ตอน​เด็ก​ไม่เคย​หน้าเขียว​จมูก​บวม​มาก่อน​ ต่าง​คน​ต่าง​มีกุนซือ​หัว​สุนัข​ที่​คอย​รับผิดชอบ​พลิก​เปิด​ตำรา​พิชัยสงคราม​ ช่วย​จัด​กำลัง​ทัพ​ แต่​หาก​ต้อง​ตี​กัน​ขึ้น​มาจริงๆ​ ก็​ไม่สน​กลยุทธ​ไม่กลยุทธ​อะไร​แล้ว​

ยกตัวอย่างเช่น​คน​รุ่น​ที่​โต​กว่า​พวก​จ้าวต​วน​หมิง​อย่าง​พวก​เฉาเกิง​ซิน​ หลิว​สวิน​เหม่​ย​ ก็​เคย​มีเหตุการณ์​แบบ​เดียวกัน​นี้​เกิดขึ้น​

แต่​เจ้าเฉาเกิง​ซิน​ผู้​นั้น​ชั่วร้าย​มาก​ที่สุด​ รับหน้าที่​คอย​สาน​สัน​มพันธ์​กับ​เด็กหญิง​ของ​ถนน​สอง​เส้น​ ทุก​ครั้งก่อน​จะตี​กัน​ เขา​จะต้อง​แจ้น​เอา​ข่าว​ไป​บอก​ ไป​รีดไถ​เงิน​จาก​พวก​พี่สาว​น้องสาว​ของ​พวกเขา​มา บอ​กว่า​เขา​สามารถ​ช่วย​ให้​คน​คุ้มกัน​ใครๆ​ๆ อย่าง​ลับ​ๆ ได้​ รับรอง​ว่า​ใครๆ​ๆ จะโดน​ต่อย​น้อยลง​สอง​สามหมัด​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​สามารถ​เดิน​กลับบ้าน​ได้​ ไอ้​หมอ​นี่​ยัง​มีหัว​การค้า​ อายุ​น้อย​ๆ ก็​รู้จัก​จ้างให้​คน​ทำ​ดาบ​ไม้มีด​ไม้ไผ่​ขึ้น​มา ทุกๆ​ ครั้ง​ที่​ยุแยง​ใส่ไฟผู้อื่น​จน​คน​เริ่ม​จะต่อย​ตี​กัน​แล้ว​ เขา​ก็​จะเริ่ม​แจกจ่าย​อาวุธ​ แน่นอน​ว่า​มีค่าเช่า​ด้วย​ ต้อง​จ่าย​เงิน​ หาก​เกิด​หัก​ระหว่าง​ที่​ต่อย​ตี​กัน​ก็​ต้อง​ชดใช้​เงิน​ด้วย​

เพราะ​เด็ก​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​ตรอก​อี้​ฉือ​ ยิ่ง​หมวก​ขุนนาง​ในวงการ​ขุนนาง​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​เท่าไร​ ส่วนใหญ่​ก็​มักจะ​ถูก​ถนน​ฉือเอ๋อร์​รุม​ซ้อ​มมาก​เท่านั้น​ หาก​จับได้​ก็​ต้อง​โดน​อัด​เสีย​น่วม​

ส่วน​หยวน​เจิ้งติ้ง​ที่​อายุ​พอๆ กับ​เฉาเกิง​ซิน​ นับตั้งแต่​เด็ก​มาก็​ไม่ชอบ​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​สกปรก​วุ่นวาย​พวก​นี้​ ถือว่า​เป็น​คน​พิเศษ​คน​หนึ่ง​

หรือ​หาก​ย้อน​ไป​นาน​กว่า​นั้น​ก็​มีกลุ่ม​ของ​ทูต​ผู้ตรวจการ​เฉาผิง​ อีก​ทั้ง​ตอนที่​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ก็​ชอบ​ดู​คน​ต่อย​ตี​กัน​มาก​ที่สุด​ ที่​ร้าย​ที่สุด​คือ​ท่าน​ผู้เฒ่า​มักจะ​เอา​เศษอิฐ​แตก​ๆ วาง​กอง​กัน​ไว้​ที่​ประตู​หลัง​ของ​ตระกูล​กวน​ทั้งปี​ ไม่เก็บ​เงิน​ ใคร​อยาก​มาหยิบ​ก็​หยิบ​ไป​ได้​เลย​

ตัว​ต่ง​หู​เอง​ก็​มีชีวิต​ผ่าน​มาเช่นนี้​ ลูก​ๆ หลาย​คน​จนถึง​หลาน​ใน​ทุกวันนี้​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยังมี​หลานสาว​หลาย​คน​ที่​ไม่ต้อง​สน​ว่า​ใน​ใจจะชอบ​หรือไม่​ชอบ​การต่อย​ตี​ ล้วน​ไม่ขาด​คน​ที่​ตี​คนอื่น​และ​คน​ที่​ถูก​คนอื่น​ตี​ ทุกครั้งที่​ลูก​พี่ใหญ่​บัญชา​การณ์​อยู่​ใน​สนามรบ​ หาก​ใคร​กล้า​ไม่ไป​ หลัง​จบเรื่อง​จะถูก​ผลักไส​ออกจาก​กลุ่ม​ ดังนั้น​วงการ​ขุนนาง​ต้า​หลี​จึงมีคำกล่าว​หนึ่ง​มาโดยตลอด​ ใคร​ที่​ไม่เคย​ยืม​อิฐ​ตระกูล​กวน​มาใช้ โดยทั่วไปแล้ว​ไม่มีทาง​ได้ดิบได้ดี​

ต่ง​หู​รู้สึก​ว่า​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ที่​เป็น​เช่นนี้​ ดีมาก​

ถนน​สอง​สาย​มีทั้ง​เสียง​อ่านหนังสือ​อัน​อ่อนเยาว์​ แล้วก็​มีทั้ง​เสียง​ตะโกน​ตวาด​ยาม​ที่​ต่อย​ตี​กัน​

ถึงอย่างไร​ต่ง​หู​ก็​อายุ​มาก​แล้ว​ แล้ว​ตอนนี้​ก็​ไม่ได้​อยู่​ใน​ท้องพระโรง​ เขา​จึงนั่ง​ยอง​พิง​ผนัง​อยู่​ที่​ริม​ทาง​

หลิว​เจีย​ลืมตา​ ยิ้ม​เอ่ย​ “รอง​เจ้ากรม​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ขนาด​นี้​ก็​นั่ง​ยอง​บน​พื้น​ได้​ด้วย​หรือ​ จะเสีย​ภาพลักษณ์​เอา​นะ​ ไม่สมควร​เลย​”

ถึงอย่างไร​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าก็​ไม่ใช่คน​หูหนวกตาบอด​ ต่อให้​จะไม่สนใจ​เรื่องราว​ภายนอก​มาก​แค่​ไหน​ก็​ยัง​พอ​รู้​ข่าวลือ​เล็ก​ๆ ที่​ได้​มาจาก​สหาย​ซึ่งไปมาหาสู่​กัน​อยู่​บาง​

เพียงแค่​ได้ยิน​มาว่า​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ที่​มอบ​ครึ่ง​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ไว้​ที่​ที่ว่าการ​กรม​พิธีการ​ผู้​นี้​ ยาม​อยู่​ใน​วงการ​ขุนนาง​ หัวเข่า​ไม่ค่อย​แข็ง​นัก​ คำ​ประเมิน​เกี่ยวกับ​เขา​ก็​ธรรมดา​ เป็น​แค่​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ที่​ผ่าน​ความยากลำบาก​ถึงจะได้​ตำแหน่ง​นี้​มา

แน่นอน​ว่า​เรื่อง​ใน​วงการ​ขุนนาง​พวก​นี้​ เขา​คือ​คนนอก​ที่​ไม่เชี่ยวชาญ​ แล้วก็​ไม่รู้สึก​จริงๆ​ ว่า​ขุนนาง​ใหญ่​ที่​ไม่เคย​พูดจา​แข็งกระด้าง​ท่าน​นี้​จะต้อง​เป็น​คนขี้ขลาด​เสมอไป​

เพราะ​ถึงอย่างไร​วงการ​ขุนนาง​ต้า​หลี​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ราชสำนัก​ของ​เมืองหลวง​ อันที่จริง​ก็​มีคน​อำมหิต​อยู่​มากมาย​ พวก​คน​ที่​ไม่พูดจา​อาฆาตมาดร้าย​แต่​ทำ​แค่​เรื่อง​อำมหิต​ก็​มีเยอะ​มาก​

ต่ง​หู​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “ข้า​ผู้อาวุโส​ไม่ใช่เทพ​เซียน​ที่​ไม่ต้อง​กินข้าว​อย่าง​พวก​เจ้าเสียหน่อย​ ทุกวัน​ล้วน​ต้อง​ขับถ่าย​ ไม่นั่ง​ยอง​แล้​วจะ​ให้​ข้า​ยืน​ถ่าย​หรือ​ไร​ หา​?”

คืนนี้​ฮ่องเต้​เรียก​เขา​เข้า​วัง​เพื่อ​ร่วม​การประชุม​อย่าง​เร่งด่วน​ จากนั้น​ก็​ดัน​มาเจอ​กับ​งาน​ยากลำบาก​เช่นนี้​ รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ยิ่ง​รอ​นาน​เท่าไร​ อารมณ์​ก็​เริ่ม​ย่ำแย่​มากขึ้น​เท่านั้น​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตอนนั้น​ดวงตา​ดอก​ท้อ​คู่​นั้น​ของ​ไทเฮา​เหนียง​เนียง​หรี่​มอง​มา ช่างทำให้​คน​ขนลุก​ยิ่งนัก​

แต่​อันที่จริง​ต่ง​หู​ไม่ได้​มีความทรงจำ​ที่​ย่ำแย่​ต่อ​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เลย​แม้แต่น้อย​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ต่ง​หู​ยัง​รู้สึก​มาโดยตลอด​ด้วยว่า​ อดีต​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแห่ง​นั้น​มีลม​และ​น้ำ​ที่​ดี​จริงๆ​

ถึงได้​มีคน​มาก​ความสามารถ​เช่นนี้​ได้​

กรม​พิธีการ​ดูแล​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​หนึ่ง​ทวีป​ แล้ว​เขา​ยัง​เป็น​ใต้เท้า​รอง​เจ้ากรม​ จึงรู้เรื่อง​วงใน​มากมาย​

ต่อให้​จะเป็น​หม่า​ขู่​เสวียน​ที่​พยศ​ยาก​กำราบ​ ไม่ยอมรับ​การ​พันธนาการ​ผู้​นั้น​ ยาม​ที่​ต้อง​ร่วม​สนามรบ​ใหญ่​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ เขา​เคย​เกียจคร้าน​ผ่อนคลาย​หรือ​?

นอกจากนี้​ยังมี​จ้าว​เหยา​ที่​เป็น​ขุนนาง​อยู่​ใน​เมืองหลวง​แล้ว​ รวมไปถึง​หลิน​โส่ว​อี​ที่​ทุกวันนี้​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่ใช่ผู้​มีพรสวรรค์​ใน​กลุ่ม​ของ​ผู้​มีพรสวรรค์​?

หลิว​เจีย​ยิ้ม​เอ่ย​ “ถ้าอย่างนั้น​ใต้เท้า​รอง​เจ้ากรม​ก็​นั่ง​ยอง​ดื่ม​ลม​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ต่อไป​เถอะ​”

ต่ง​หู​หันหน้า​มาเอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​ “ตวน​หมิง​ เอา​ถั่วลิสง​มากิน​บ้าง​สิ”

จ้าวต​วน​หมิง​สะบัด​ข้อ​มือหนึ่ง​ที​ ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​ปัด​มือ​ “หมด​แล้ว​”

หลิว​เจีย​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​ ลูกศิษย์​ตัวดี​ มีใจเป็นหนึ่งเดียว​กับ​อาจารย์​ดีจริง​

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​กลับมา​อยู่​ใกล้​กับ​ตรอก​เล็ก​นาน​แล้ว​ แต่​ไม่ได้​รีบร้อน​ปรากฏตัว​ ไม่ใช่ว่า​เขา​จงใจวางมาด​อะไร​ ก็​แค่​อยาก​ดู​ว่า​ความอดทน​ของ​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ผู้​นี้​จะมาก​หรือ​น้อย​

ยามค่ำคืน​ที่​จิตใจ​สงบ​ ง่าย​ที่จะ​มองเห็น​จิตใจ​ที่​แท้จริง​ของ​คน​

ริมน้ำ​ที่​แสงไฟสว่างไสว​ราวกับ​เวลากลางวัน​ของ​ก่อนหน้านี้​ ในที่สุด​งานเลี้ยง​สุรา​งาน​หนึ่ง​ก็​เลิกรา​ ขุนนาง​หนุ่ม​ฝืน​ข่ม​กลั้น​ฤทธิ์​เหล้า​ที่​ตีตื้น​ขึ้น​มา ประสานมือ​คารวะ​พวก​ผู้อาวุโส​ใน​วงการ​ขุนนาง​ที่​หมวก​ขุนนาง​ใหญ่​ยิ่งกว่า​ รอ​จน​พวกเขา​เดิน​จากไป​ไกล​แล้วก็​รีบ​ยื่นมือ​มาอุด​ปาก​ วิ่ง​ไป​ริมน้ำ​ นั่ง​ยอง​แล้ว​อาเจียน​ออกมา​ อาเจียน​จน​น้ำตาไหล​

ดื่มเหล้า​ช่างเป็น​ความรู้สึก​ที่​ยาก​จะทาน​ทน​ ใน​ใจยิ่ง​รู้สึก​ย่ำแย่​มากกว่า​

ตรากตรำ​อ่าน​ตำ​รามา​ยี่สิบ​ปี​ กว่า​จะได้​เป็น​ขุนนาง​นั้น​ไม่ง่าย​ แต่กลับ​ต้อง​คอย​มายิ้มแย้ม​พูดคุย​เอาใจ​คน​บน​โต๊ะ​สุรา​เช่นนี้​

ผู้เฒ่า​ที่​เป็น​คน​บ้าน​เดียว​กับ​เขา​นั่ง​ยอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ตบหลัง​ของ​คนหนุ่ม​เบา​ๆ

คนหนุ่ม​ผู้​นี้​คือ​คน​มีความสามารถ​ที่​ปัญญาชน​ของ​ต้า​หลี​เรียกขาน​ว่า​ ‘บทความ​ดุจ​หิมะ​ขาว​’

ความสามารถ​ไม่พอ​ก็​ยอมรับ​ชะตากรรม​แล้ว​ แต่​ทั้งๆ ที่​มีความสามารถ​สูงถึงเพียงนี้​ ทว่า​ตอน​อยู่​บน​โต๊ะ​เหล้า​กลับ​ต้อง​รู้สึก​ต่ำต้อย​เช่นนี้​ หาก​จะรู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​ จะมีอะไร​ไม่ถูกกัน​เล่า​? หาก​คนหนุ่ม​ไม่รู้สึก​ว่า​ไม่ถูก​ ผู้เฒ่า​ก็​ไม่มีความจำเป็น​ที่​ต้อง​นำทาง​ให้​กับ​คนหนุ่ม​แล้ว​

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 831.3 ฝึกฝน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์