CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 845.2 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 845.2 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ห​ลี่​เซิ่งกล่าว​ “ไม่ต้อง​กังวล​ ไม่ถือว่า​ไกล​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าเริ่ม​ร่าย​สุดยอด​วิชา​ขึ้นชื่อ​บท​ที่​แม้แต่​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ก็​ยัง​ไม่เคย​เรียนรู้​มาก่อน​ พูด​เซ้าซี้ว่า​ “อย่า​มาพูด​เรื่องเหลวไหล​พวก​นี้​กับ​ข้า​ บอก​มา สรุป​ว่า​เดิน​ไป​ไกล​แค่​ไหน​!”

ห​ลี่​เซิ่งหันหน้า​ไป​มอง​เฉิน​ผิง​อัน​ด้วย​สายตา​สอบถาม​ คล้าย​ว่า​คำตอบ​จะอยู่​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่อาจ​แสร้ง​โง่ได้​ จึงได้​แต่​บากหน้า​ตอบ​คำตอบ​ที่อยู่​ใน​ใจไป​ว่า​ “นิกาย​ฉาน​เคย​กล่าว​ไว้​ว่า​ ‘บอ​กว่า​เหมือน​สิ่งหนึ่ง​แต่กลับ​ยัง​ไม่ถูกต้อง​’”

ก็​เหมือน​ประโยค​เก่าแก่​ของ​บ้านเกิด​เฉิน​ผิง​อัน​ประโยค​นั้น​ พร​ที่​ขอ​จาก​พระโพธิสัตว์​ไม่อาจ​บอก​ผู้อื่น​ได้​ บอก​ไป​แล้วก็​จะไม่ศักดิ์สิทธิ์​ มีจิต​ศรัทธา​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ย่อม​บังเกิด​ ขอ​สิ่งใด​ก็ได้​สิ่งนั้น​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าใช้สอง​มือ​ชูจอก​เหล้า​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ “ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​ขอ​ดื่ม​ก่อน​ ห​ลี่​เซิ่ง ดื่มเหล้า​คนเดียว​ไม่มีความหมาย​อะไร​ ไม่สู้พวกเรา​สอง​พี่น้อง​มาดื่ม​ด้วยกัน​ก่อน​ เจ้าจะดื่ม​อย่างไรก็ตาม​ใจ แต่​ให้​ข้า​ดื่ม​ติดๆ​ กัน​สามจอก​ก็​ยัง​ไม่มีปัญหา​”

สุรา​ดี​ๆ ที่​เดิมที​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่ต้อง​ยุ​ให้​ใคร​ดื่มเหล้า​ แต่​ดัน​ถูก​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก่อกวน​ให้​มีกลิ่นอาย​ของ​ชาว​ยุทธ​ผู้​บุ่มบ่าม​เสียได้​

ห​ลี่​เซิ่งตามสบาย​จริงๆ​ เพียงแค่​ยก​จอก​ขึ้น​มาจิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ซิ่ว​ไฉเฒ่ายืด​คอ​ยาว​ออก​ไป​ รอ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ เฮ้อ​ ช่างเถิด​ๆ ห​ลี่​เซิ่งคอ​ไม่แข็ง​ ตน​ก็​อย่า​ได้​เกรงใจ​อย่าง​ส่งเดช​อยู่เลย​ จิบ​เหล้า​ตาม​ไป​ด้วย​หนึ่ง​อึก​ นี่​คือ​สุรา​ที่​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​ตน​ได้มา​อย่าง​ยากลำบาก​เชียว​นะ​ ดื่ม​ช้าๆ หน่อย​ วันหน้า​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​สอง​สามกา​นั้น​ของ​ตน​ก็​ต้อง​นำ​ไป​มอบให้​คนอื่น​ถึงจะถูก​

เฉิน​ผิง​อัน​ถามคำถาม​ที่​ใหญ่​เทียมฟ้า​ “ก่อนหน้านี้​ตอน​ข้า​อยู่​โรงเตี๊ยม​ เขา​เคย​ได้​พบ​ห​ลี่​เซิ่งมาก่อน​แล้ว​ใช่หรือไม่​?”

ห​ลี่​เซิ่งพยักหน้า​

เฉิน​ผิง​อัน​ไร้​คำพูด​อย่าง​สิ้นเชิง​

เรื่อง​แบบนี้​จะยัง​ถือ​เป็นลำดับ​ขั้นตอน​อีก​ได้​อย่างไร​?

ตาม​คำอธิบาย​คำศัพท์​ของ​อาจารย์​สวี่​ท่าน​นั้น​ บน​ล่าง​สี่ทิศ​คือ​เทศะ​ นับแต่​โบราณ​มาถึงปัจจุบัน​คือ​กาลเวลา​ ส่วน​ลัทธิ​พุทธ​ก็​มีคำกล่าว​ที่ว่า​โลก​สิบ​ทิศ​ไร้​ขอบเขต​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

มรรคา​จารย์​เต๋า​กล่าวว่า​มีสิ่งหนึ่ง​บังเกิด​จาก​กลี​ภพ​ มีอยู่​ก่อน​ฟ้าดิน​ มิอาจ​บรรยาย​ ขอ​เรียก​ว่า​สิ่งที่​ยิ่งใหญ่​ ส่วน​เจ้าลู่​เฉิน​ผู้​นั้น​ก็​พูด​ออกมา​โดยตรง​ว่า​เต๋า​อยู่​ใน​มด​ ใน​วัชพืช​ ใน​ฉี่ใน​อาจม​

ห​ลี่​เซิ่งดื่มเหล้า​ไป​แล้ว​ จู่ๆ ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “หาก​อยาก​จะเลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบห้า​ก็​ต้อง​หลุดพ้น​จาก​พันธนาการ​ใหญ่​ทุกอย่าง​ที่​บัง​เกิดขึ้น​เพราะ​ตัวอักษร​ให้ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าพ่น​เหล้า​พรวด​ออกจาก​ปาก​

เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยิ่ง​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​

หนิง​เหยา​ทำท่า​ขบคิด​

เฉาฉิงหล่า​งกับ​เผย​เฉียน​สบตา​กัน​ คน​หนึ่ง​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​เป็นกังวล​ อีก​คน​หนึ่ง​มีสีหน้า​ภาคภูมิใจ​ ฝ่าย​แรก​ส่ายหน้า​เบา​ๆ ฝ่าย​หลัง​ถลึงตา​ใส่เขา​หนึ่ง​ที​

ห​ลี่​เซิ่งลุกขึ้น​เตรียม​จะไป​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ และ​ถือโอกาส​นี้​คุ้มกัน​เฉิน​ผิง​อัน​และ​หนิง​เหยา​ไป​ยัง​ซาก​ปรัก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ด้วย​

การสละ​ร่าง​ ‘สลาย​มรรคา​’ ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​เปลี่ยว​ร้าง​ใน​ครั้งนั้น​มีภัย​แฝงทิ้ง​ไว้​เบื้องหลัง​ใหญ่​มาก​ จำเป็นต้อง​ให้​เขา​ค่อยๆ​ สาว​เส้น​ไหม​ออกมา​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ารีบ​เช็ด​ปาก​ รั้ง​แขน​ของ​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​ “เพิ่งจะ​ดื่ม​แค่​จอก​เดียว​ก็​จะไป​แล้ว​หรือ​ ไม่ไว้หน้า​กัน​เลย​หรือ​ไร​? มาคุย​กัน​อีกหน่อย​ แค่​คุย​กัน​ไม่กี่​ประโยค​ไม่เสียเวลา​สัก​เท่าไร​หรอก​น่า​ อีก​อย่าง​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​ข้า​ต่าง​ก็​อยู่​ด้วย​นะ​ จะดี​จะชั่ว​ก็​ไว้หน้า​ข้า​บ้าง​สิ”

เฉิน​ผิง​อัน​รี​บริน​เหล้า​หนึ่ง​จอก​ให้​ห​ลี่​เซิ่งทันใด​ เพราะ​ใน​ใจยังมี​ข้อสงสัย​อีก​ไม่น้อย​ จึงอยาก​จะอาศัย​โอกาส​นี้​ถามห​ลี่​เซิ่งดู​

หนิง​เหยา​ เผย​เฉียน​และ​เฉาฉิงหล่า​งต่าง​ก็​เงียบงัน​

คน​ทั่วไป​หาก​ต้องการ​หน้าตา​จริงๆ​ คง​ไม่มีทาง​เปิดปาก​พูด​แบบนี้​หรอก​กระมัง​

ห​ลี่​เซิ่งจึงได้​แต่​นั่ง​กลับ​ลง​ไป​เหมือนเดิม​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “อาจารย์​ ชื่อจริง​ของ​ห​ลี่​เซิ่ง แซ่อวี๋​ นาม​เค่อ​ที่​แปล​ว่า​เคารพ​ข้อกำหนด​อย่าง​เคร่งครัด​? หรือว่า​เค่อ​ที่​แปล​ว่า​แขก​กัน​ล่ะ​?”

เกี่ยวกับ​ชื่อ​ของ​ห​ลี่​เซิ่ง ไม่เคย​มีบันทึก​ใดๆ​ ระบุ​ไว้​ใน​ตำรา​ ก่อนหน้านี้​เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​ไม่เคย​ได้ยิน​ใคร​พูดถึง​มาก่อน​

ห​ลี่​เซิ่งกล่าว​ “เป็น​อย่าง​หลัง​”

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​เขินอาย​เล็กน้อย​ อยู่​กับ​ห​ลี่​เซิ่ง เสียง​ใน​ใจไม่ใช่เสียง​ใน​ใจ ไม่มีความหมาย​เท่าใด​จริงๆ​

ห​ลี่​เซิ่งยิ้ม​กล่าว​ “เคารพ​ข้อกำหนด​อย่าง​เคร่งครัด​? อันที่จริง​ไม่ถือว่า​เป็น​อย่างนั้น​หรอก​ ข้า​ก็​แค่​รับผิดชอบ​คอย​กำหนดกฎเกณฑ์​และ​มารยาท​พิธีการ​เท่านั้น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ดื่มเหล้า​หนึ่ง​อึก​

คำพูด​คล้ายคลึง​กัน​นี้​ คาด​ว่า​ก็​คง​เหมือน​อย่าง​ที่​อา​เหลียง​พูดว่า​ข้า​น่ะ​หรือ​ขี้โม้​? หนิง​เหยา​บอ​กว่า​กระบี่​จำเป็นต้อง​ฝึก​ด้วย​หรือ​? ฮว่อ​หลง​เจิน​เห​ริน​พูดว่า​ตน​พอ​จะเข้าใจ​เรื่อง​มรรค​กถา​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​? เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​บอ​กว่า​ตัวเอง​อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่ว่า​พูด​อะไร​ก็​ไม่อาจ​เชื่อถือได้​?

ริน​เหล้า​ให้​อาจารย์​หนึ่ง​จอก​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถามว่า​ “สุสาน​ที่​ผี​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นั้น​สร้าง​ขึ้น​มากลาง​ทะเล​ ใช่ ‘สุสาน​ลอย​’ ที่​บันทึก​ไว้​ใน​ตำรา​โบราณ​หรือไม่​?”

สุสาน​ประเภท​นี้​ส่วนใหญ่​มักจะ​เป็น​ของ​จักรพรรดิ​บรรพกาล​โดยเฉพาะ​เท่านั้น​ ด้านใน​มีกลไก​หลาย​ชั้น​ ทั้ง​ไม่ใช่การ​จำแลง​เป็น​ขนนก​ล่องลอย​ (เปรียบเปรย​ถึงการกลายเป็น​เซียน​) แล้วก็​ไม่ใช่ลง​สู่น้ำพุ​เหลือง​ใน​ปรโลก​ ก็​เหมือน​การ​ ‘ไม่ตาย​’ อีก​ประเภท​หนึ่ง​ ทั้ง​ได้ความ​เป็น​อมตะ​ไม่เสื่อมสลาย​ แล้วก็​ไม่ได้รับ​พันธนาการ​ใดๆ​ จาก​มหา​มรรคา​ เพียงแต่ว่า​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​แห่ง​นี้​ แต่ไหนแต่ไร​มาก็​มีแต่​บันทึก​ที่​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​เท่านั้น​ ไม่เคย​มีของจริง​ปรากฏ​ขึ้น​มาหลาย​พันปี​แล้ว​ เป็นเหตุให้​แม้กระทั่ง​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ก็​ยัง​เห็น​เป็น​เรื่องตลก​ไร้สาระ​ของ​นิทาน​เทพ​ปรัมปรา​เท่านั้น​

ห​ลี่​เซิ่งพยักหน้า​ “เป็น​เช่นนี้​จริง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​มอง​ม่าน​ฟ้าแวบ​หนึ่ง​

มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ผู้​นั้น​ก็​คือ​วิญญาณ​ผี​ร้าย​ที่​ไม่ไป​ผุด​ไป​เกิด​เช่นนี้​เอง​

ผี​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตัว​ที่​ถูก​หนิง​เหยา​ตามหา​ร่องรอย​จน​เจอ​ต้อง​เป็น​หมาก​ตัว​หนึ่ง​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ฝังไว้​ลึก​มาก​อย่าง​แน่นอน​ ยกตัวอย่างเช่น​ใน​ช่วงเวลา​ที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​กรีฑา​ทัพ​บุก​มาโจมตี​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ พวกเขา​จะทำลาย​เส้นทาง​กุย​ซวี​บาง​เส้น​กะทันหัน​ นอกจาก​ที่​ผู้ฝึก​ตน​ เรือข้ามฟาก​และ​กองทัพ​จะได้รับ​ความเสียหาย​แล้ว​ สำหรับ​ใจคน​ของ​ไพศาล​ เดิมที​นี่​ก็​คือ​การ​บาดเจ็บสาหัส​ที่​แทบจะ​เอาชีวิต​อย่างหนึ่ง​ ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​คนใด​ก็​ล้วน​ต้อง​เป็น​กังวลใจ​ทั้งนั้น​

พอ​ไป​ถึงสนามรบ​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​และ​ทหาร​ล่าง​ภูเขา​ของ​ราชวงศ์​ใหญ่​แต่ละ​แห่ง​จะต้อง​คอย​กังวล​เรื่อง​ทาง​ถอย​หนี​ คน​ที่​ยัง​ไป​ไม่ถึงสนามรบ​ก็​ยิ่ง​กังวล​ถึงความ​อันตราย​ จะมีชีวิต​อยู่รอด​จนได้​เห็น​ชัยภูมิ​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​หรือไม่​ ดูเหมือนว่า​กลับกลาย​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่แน่นอน​แล้ว​

เพียงแต่ว่า​สิ่งที่​น่ากลัว​ที่สุด​ยังคง​เป็น​ผลลัพธ์​ที่​ ‘ถ้าหาก​’ โจว​มี่คิด​คำนวณ​มาได้​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ สิ่งที่​น่ากลัว​ยิ่งกว่า​ความ​น่ากลัว​ที่สุด​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​การกระทำ​อย่าง​จงใจของ​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ ยอม​สละ​ชีวิต​ของ​ผี​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ทิ้ง​เปล่า​อย่าง​ไม่เสียดาย​ แต่​ก็​ต้อง​ให้​ใต้​หล้า​ไพศาล​ที่​ไป​เยือน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เดิน​ทางได้​ปลอดภัย​ยิ่งกว่า​ มั่นคง​ยิ่งกว่า​ สบายใจ​มากกว่า​ รู้สึก​ว่า​ไม่มีความ​น่า​กังวล​และ​ภัย​แฝงอะไร​ซ่อน​อยู่​อีก​แม้แต่น้อย​

แต่ไหนแต่ไร​มายาม​อยู่​กับ​หนิง​เหยา​ เฉิน​ผิง​อัน​มีอะไร​ก็​มักจะ​พูด​บอก​กับ​นาง​ตรงๆ​ เสมอ​ ดังนั้น​เขา​จึงบอก​ถึงความกังวล​นี้​ให้​หนิง​เหยา​ฟังอย่าง​ไม่มีอ้อมค้อม​

คำตอบ​ของ​หนิง​เหยา​เรียบง่าย​ยิ่งนัก​ ข้า​แค่​รับผิดชอบ​ออก​กระบี่​ต่อ​คน​และ​เรื่องราว​ที่​ขวางหูขวางตา​ เรื่อง​หลังจากนั้น​ ข้า​ไม่สนใจ​แล้ว​ หาก​เจ้ายินดี​จะคิดมาก​ก็​คิด​ไป​ หาก​ไม่ยินดี​จะคิด​ก็​บอก​กับ​ศาล​บุ๋น​สัก​คำ​ ให้​พวกเขา​ไป​คิด​กันเอา​เอง​

ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตอบ​ตกลง​ บอ​กว่า​หาก​เป็นเรื่อง​ที่​มีความสามารถ​พอ​จะทำได้​ก็​จะลอง​คิดดู​ แต่​หาก​มากกว่า​นั้น​ เขา​จะไม่คิด​แล้ว​

และ​ก็​คงจะ​มีเพียง​หนิง​เหยา​ที่​เป็น​แบบนี้​เท่านั้น​ถึงได้​ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​พูดคุย​เรื่อง​ความคิด​ ความในใจ​กับ​นาง​โดย​ไม่ต้อง​กริ่งเกรง​สิ่งใด​

ความคิด​ทั้งหมด​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ไม่อาจ​ทำ​เพียงแค่​เก็บ​กลั้น​เอาไว้​ไม่ปล่อย​ออก​ไป​ ไม่อย่างนั้น​คน​ทุกคน​บน​โลก​มนุษย์​ที่​มากความคิด​มากความกังวล​ ใคร่ครวญ​ทุก​เรื่อง​อย่าง​รอบคอบ​ ก็​คง​มีแต่​ใบหน้า​ขมขื่น​ระทม​ทุกข์​เท่านั้น​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ศาล​บุ๋น​มีการ​จัดการ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​นี้​หรือไม่​?”

ห​ลี่​เซิ่งยิ้ม​กล่าว​ “แน่นอน​ มอบ​มาให้​ไม่ส่งคืน​กลับ​ไป​ ย่อม​ไร้​มารยาท​”

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​ถามคำถาม​ที่ซ่อน​ลึก​อยู่​ใน​ใจมานาน​หลาย​ปี​ “ศึก​สิบ​สามที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ใน​ปี​นั้น​ สรุป​แล้ว​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​มีเจตนาร้าย​หรือไม่​?”

ครั้งนั้น​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​และ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ต่าง​ก็​ส่งคน​ออก​ไป​สิบ​สามคน​ จับคู่​เข่นฆ่า​กัน​

เซียว​สวิ้น​ ลู่​จือ​ พ่อแม่​ของ​หนิง​เหยา​ เย​ว่​ชิง หมี่​ฮู่ จางลู่​ เหยา​ชงเต้า​ ห​ลี่​ทุ่ย​มี่…

รายชื่อ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​แน่นอน​และ​ป่าวประกาศ​ออกมา​อย่าง​ชัดเจน​ ศักยภาพ​บน​หน้า​กระดาษ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​สูสีกัน​ กุญแจ​สำคัญ​คือ​ต้อง​ดู​ที่​การ​จัดลำดับ​

ใน​เรื่อง​ของ​การ​จัดลำดับ​ ท้ายที่สุด​ก็ได้​พิสูจน์​ให้​เห็น​แล้ว​ว่า​ ไม่ส่งผลดี​ต่อ​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แม้แต่น้อย​ เรียก​ได้​ว่า​พวกเขา​เดิน​ทีละ​ก้าว​เข้าไป​ใน​กับดัก​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​อย่าง​แท้จริง​

ยกตัวอย่างเช่น​การ​ลงสนาม​ต่อสู้​ของ​บิดา​มารดา​หนิง​เหยา​ รวมไปถึง​เรื่อง​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จางลู่​แพ้​ให้​กับ​โซ่วเฉิน​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​อา​เหลียง​ที่​ลงสนาม​รบเป็น​คน​สุดท้าย​ ใช้กระบี่​สังหาร​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ไป​ได้​ กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ต้อง​พ่ายแพ้​ทั้ง​กระดาน​

บรรพ​จารย์​ท่าน​หนึ่ง​ของ​สกุล​ลู่​เคย​อนุมาน​ลิขิต​สวรรค์​ของ​เรื่อง​นี้​โดยเฉพาะ​ แล้ว​ยัง​ต้อง​ชดใช้​ด้วย​ตบะ​บน​มหา​มรรคา​ของ​ทั้ง​ร่าง​ อีก​ทั้ง​เขา​ยัง​ไม่ใช่ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​อย่าง​ที่​ป่าวประกาศ​ให้​คนนอก​รู้​ด้วย​ แต่​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​แท้จริง​คน​หนึ่ง​

ห​ลี่​เซิ่งส่ายหน้า​ “เป็น​อีก​ฝ่าย​ที่​ฝีมือ​สูงกว่า​ หลัง​จบเรื่อง​ศาล​บุ๋น​ถึงเพิ่ง​รู้​ว่า​ ชูเซิงแห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​นอก​ฟ้า หรือ​ก็​คือ​ผู้เฒ่า​ที่​ปรากฏตัว​พร้อม​เซียว​สวิ้น​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ใน​การประชุม​ครั้งก่อน​ เคย​ร่วมมือ​กับ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​บรรพกาล​หลาย​ตน​แอบ​ร่าย​วิชา​หมุน​เปลี่ยน​ดวงดาว​ เล่นงาน​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​ หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ การกระทำ​นี้​ของ​ชูเซิงต้อง​ได้รับ​คำสั่ง​อย่าง​ลับ​ๆ จาก​โจว​มี่ ทำให้​การกระทำ​นี้​ของ​เขา​เป็น​ดั่ง​การ​ยิง​ธนู​นัด​เดียว​ได้​นก​หลาย​ตัว​”

ทำให้​ใต้​หล้า​ไพศาล​สูญเสีย​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​สำนัก​หยิน​หยาง​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ไป​คน​หนึ่ง​

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​สูญเสีย​พลัง​การ​รบ​ขั้นสูงสุด​ไป​ส่วนหนึ่ง​

ใน​สายตา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ทั่วไป​ที่​ไม่ได้​อยู่​บน​ยอดเขา​ของ​ไพศาล​ ผู้ฝึก​กระบี่​หนึ่ง​เมือง​ก็​สามารถ​ชนะ​ศึก​ได้​แล้ว​ ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​เป็น​เช่นนี้​ ต่อให้​บุก​โจมตี​ไป​ถึงใต้​หล้า​ไพศาล​จะยัง​ก่อ​คลื่น​ลมมรสุม​อะไร​ได้​อีก​

ใน​เมื่อ​ไม่เชี่ยวชาญ​เรื่อง​การวางแผน​กลยุทธ​ ดีแต่​ใช้กำลัง​ใน​การเข่นฆ่า​ แล้ว​พลัง​การต่อสู้​ขั้นสูงสุด​ยัง​ไม่ได้ความ​เช่นนี้​ ไป​ถึงไพศาล​ก็​มีแต่​จะเจอ​จุดจบ​เหมือน​หมา​ที่​ถูก​คน​ปิดประตู​รุม​ตี​

ดังนั้น​จึงสามารถ​พูด​ได้​ว่า​ ศึก​สิบ​สามใน​ครั้งนั้น​ โจว​มี่ที่อยู่​เบื้องหลัง​ไม่ได้คิด​จะทำให้​พวก​ปีศาจ​ใหญ่​ทั้งหลาย​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​เลย​แม้แต่น้อย​

ห​ลี่​เซิ่งถาม “หาก​ไม่ใช่คำตอบ​นี้​ เจ้าจะทำ​อย่างไร​?”

เฉาฉิงหล่า​งที่​ยืน​อยู่​ตลอด​กลั้นหายใจ​ สอง​มือ​กำ​เป็น​หมัด​

เผย​เฉียน​หรี่ตา​ลง​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​มีสีหน้า​สุขุม​ไม่สะทกสะท้าน​

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ตาม​สัตย์​จริง​ “สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​ก็​จะกลายเป็น​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​แห่ง​ถัดไป​ บางที​อาจจะ​อนาถ​ยิ่งกว่า​”

ห​ลี่​เซิ่งยิ้ม​กล่าว​ “บุญคุณ​ความแค้น​บน​ภูเขา​ ข้า​ก็​เคย​พบ​เจอ​มาบ้าง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าช่วย​เอ่ย​เสริม​มาอีก​ประโยค​ “แต่​ก็​ยัง​ไม่สนใจ​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ไม่พูด​

ห​ลี่​เซิ่งยกตัวอย่าง​ให้​ฟัง “คน​กับ​ตั๊กแตน​”

คน​หนึ่ง​ไม่ถามอะไร​ อีก​คน​หนึ่ง​กลับ​ให้​คำตอบ​ที่​ชวน​ประหลาดใจ​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​พยักหน้า​รับ​ เข้าใจ​แล้ว​

หนิง​เหยา​คร้าน​จะคิดมาก​ ในที่สุด​ก็​เริ่ม​ยก​จอก​ดื่มเหล้า​บ้าง​แล้ว​ เฉาฉิงหล่า​งคิด​ร้อย​ตลบ​แล้วก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ เผย​เฉียน​ทำ​หน้า​เหลอ​หรา​ ยังคง​สับสน​มึนงง​

ตั๊กแตน​ขาด​ขา​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ก็​ยัง​มีชีวิต​กระโดดโลดเต้น​ได้​เหมือนเดิม​

ทว่า​ใน​ฐานะ​มนุษย์​ที่​เป็น​ผู้นำ​ของ​สิ่งมีชีวิต​ที่​มีจิตวิญญาณ​ทั้งปวง​ หาก​ไม่นับ​รวม​ผู้ฝึก​ตน​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​ไม่อาจ​ได้​ครอบครอง​พลัง​ชีวิต​ที่​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​

พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ได้ยิน​คำ​เปรียบเปรย​นี้​ก็​ไพล่​นึก​ไป​ถึงเรือ​ข้าม​ฝาก​ตระกูล​เซียน​ทันที​ ในจินตนาการ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ใน​อดีต​ เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ที่​ลอด​ทะลุ​ทะเล​เมฆ ตาม​หลัก​แล้ว​ต้อง​เป็น​วัตถุ​ที่​ถูก​สร้าง​ให้​ร้อย​เรียง​ต่อกัน​อย่าง​เป็นระเบียบ​และ​ประณีต​ แต่​ในความเป็นจริง​แล้ว​ การ​สร้าง​เรือข้ามฟาก​ตระกูล​เซียน​ลำ​หนึ่ง​ขึ้น​มา นอกจาก​ใจกลาง​ค่าย​กล​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ซึ่งไม่อาจ​บอก​ให้​ใคร​รู้​ได้​แล้ว​ ทุกอย่าง​นอกเหนือจากนี้​ แท้จริง​แล้ว​กลับ​หยาบ​และ​เรียบง่าย​…กว่า​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​จินตนา​การณ์​ไว้​มาก​นัก​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​คือ​หลักการ​เดียวกัน​ โลก​มนุษย์​และ​วิถี​ทางโลก​ทั้งหมด​จำเป็นต้อง​มีช่องว่าง​และ​ระยะห่าง​ใน​ระดับ​ที่​แน่นอน​ คำ​กล่าวว่า​ฟ้า ดิน​ กษัตริย์​ ญาติ​และ​อาจารย์​ที่​อาจารย์​ของ​ตน​เป็น​ผู้เสนอ​ก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ไม่ได้​มีแต่​ความ​สนิทสนม​อย่าง​เดียว​ นี่​ก็​คือ​เรื่อง​ดี​

หา​กห​ลี่​เซิ่งบังคับ​ควบคุม​ใต้​หล้า​ไพศาล​อย่าง​เข้มงวด​ใน​ทุกๆ​ เรื่อง​ ถ้าอย่างนั้น​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ต้อง​ไม่ใช่ใต้​หล้า​ไพศาล​อย่าง​ใน​ทุกวันนี้​แน่นอน​ ส่วน​ข้อ​ที่ว่า​จะดี​ยิ่งกว่า​เดิม​ หรือ​แย่​ยิ่งกว่า​เดิม​ นอกจาก​ตัว​ห​ลี่​เซิ่งเอง​แล้ว​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่รู้​ผลลัพธ์​นั้น​ เรื่องจริง​ใน​ท้ายที่สุด​ก็​คือ​ห​ลี่​เซิ่งยังคง​เลือก​ที่จะ​หลับตา​ข้าง​หนึ่ง​ลืมตา​ข้าง​หนึ่ง​ต่อ​เรื่องราว​มากมาย​ เพราะเหตุใด​? เพราะ​มีความหมาย​เหมือน​คำ​ว่า​ข้าว​หนึ่ง​ชนิด​เลี้ยง​คน​ได้​ร้อย​รูปแบบ​? เพราะ​ใจกว้าง​ให้อภัย​กับ​ความผิดพลาด​บางอย่าง​ หรือ​เป็น​เพราะว่า​เดิมที​ก็​รู้สึก​ว่า​การทำผิด​ก็​คือ​นิสัย​อย่างหนึ่ง​ของ​มนุษย์​อยู่แล้ว​ คือ​การรักษา​ระยะห่าง​กับ​นิสัย​เทพ​ การ​ที่​มนุษย์​เป็น​มนุษย์​ก็เพราะว่า​เป็น​เช่นนี้​นั่นเอง​?

ชุยตง​ซาน​เคย​ให้​คำวิจารณ์​ที่​ประหลาด​มาก​อย่างหนึ่ง​ บอ​กว่า​บางคน​ประสบความสำเร็จ​ได้​เป็น​อริยะ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ที่​คุณ​ความชอบ​สมบูรณ์​ดีงาม​ บ้าง​ก็​บรรลุ​โสดาบัน​ บ้าง​ก็​เป็น​เจิน​เห​ริน​ผู้​ไร้​มลทิน​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง อันที่จริง​ล้วน​ถือ​เป็นเรื่อง​ดี​ใหญ่​เทียมฟ้า​ ถ้าอย่างนั้น​สมมติ​ว่า​มีวันหนึ่ง​ทุกคน​ล้วน​กลายเป็น​อริยะ​ที่​ไร้​ความผิด​จริงๆ​? สมมติ​ว่า​ทุกคน​คือ​เห​วิน​เซิ่ง คือ​หย่า​เซิ่ง แล้​วจะ​มีทัศนียภาพ​เป็น​เช่นไร​? คน​นับ​พัน​นับ​หมื่น​นับ​ล้าน​เหมือนกัน​หมด​? สรุป​แล้​วจะ​เป็นเรื่อง​ดี​ใหญ่​เทียมฟ้า​ หรือ​จะทำให้​มนุษย์​ธรรมดา​ที่​ฝึกฝน​จิตใจ​ได้​ไม่ดี​พอ​อย่าง​พวกเรา​ รู้สึก​หวาดผวา​ไม่คลาย​อยู่​ตลอดเวลา​กัน​แน่​?

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ่ง​คิด​ ความคิด​ก็​ยิ่ง​ล่องลอย​ไป​ไกล​โดยไม่รู้ตัว​แม้แต่น้อย​ รอ​กระทั่ง​หยิบ​จอก​เหล้า​ขึ้น​มาดื่มเหล้า​หนึ่ง​อึก​ถึงได้​คืนสติ​ รีบ​เก็บ​ความคิด​วุ่นวาย​ที่​ลอย​ไป​ไกล​หมื่น​ลี้​นั้น​มาทันที​

ห​ลี่​เซิ่งกล่าว​ “คิดได้​แล้ว​หรือยัง​ว่า​จะไป​ที่ไหน​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าทำท่า​ลับๆ ล่อๆ​ แอบ​ยักคิ้วหลิ่วตา​ให้​ห​ลี่​เซิ่งที่อยู่​ข้าง​กัน​

ห​ลี่​เซิ่งส่ายหน้า​ เป็นเรื่อง​ที่​ไร้​ความหมาย​อย่าง​สิ้นเชิง​ ได้​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​เจ้าคน​นี้​ไม่สามารถ​สร้าง​จิต​หยิน​และ​จิต​หยาง​กาย​นอกกาย​ขึ้น​มาได้​อีกแล้ว​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายังคง​ไม่ถอดใจ​ ลองดู​สักหน่อย​สิ

ห​ลี่​เซิ่งยังคง​ส่ายหน้า​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าผงก​ปลาย​คาง​ไป​ทาง​ที่ตั้ง​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจำลอง​ จะดี​จะชั่ว​ข้า​ก็​ไป​ถกเถียง​กับ​คน​เขา​มารอบ​หนึ่ง​ แล้ว​ยัง​เถียง​ชนะ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ที่​ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ยังคง​เกลียด​ขี้หน้า​ศาล​บุ๋น​ได้​ด้วย​

ห​ลี่​เซิ่งไม่ได้​สนใจ​ ลุกขึ้น​ยืน​ ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​ขยับ​ก้น​มาอยู่​ข้าง​กาย​ห​ลี่​เซิ่งก่อน​ล่วงหน้า​แล้ว​ เขา​ยื่น​สอง​มือ​ออกมา​

ห​ลี่​เซิ่งทำ​อะไร​ไม่ได้​ จึงได้​แต่​พูด​กับ​เฉิน​ผิง​อันว่า​ “เดินทางไกล​ไป​เยือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครั้งนี้​ สถานการณ์​ของ​เจ้าจะคล้ายคลึง​กับ​จิต​หยิน​ออก​เดินทางไกล​เหมือน​ตอน​ที่อยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ จากนั้น​ก็​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​ไป​ กุม​กระบี่​ยาว​เย่​โหย​ว​เล่ม​นั้น​ไว้​ใน​มือ​

เป็น​แบบนี้​ก็ดี​เลย​ เมืองหลวง​มีเรื่อง​ที่จะ​ว่า​เล็ก​ก็​เล็ก​จะว่า​ใหญ่​ก็​ใหญ่​อยู่​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​ค่อนข้าง​สนใจ​ หาก​สามารถ​อาศัย​หิน​ของ​ภูเขา​ลูก​อื่น​มากลึง​เป็น​หยก​ได้​จริง​ก็​จะสามารถ​พิสูจน์​ความ​คิดในใจ​ของ​คน​บางคน​ได้​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ได้​ตอบคำถาม​ที่​ลูกศิษย์​ชุยตง​ซาน​ถามไว้​ใน​ปี​นั้น​ บางที​สุดท้าย​แล้ว​คำตอบ​อาจจะ​ยัง​ไม่ถูกต้อง​ แต่​จะดี​จะชั่ว​ก็​เป็น​คำตอบ​ที่​อาจารย์​ได้​มอบให้​แก่​ลูกศิษย์​

นาที​ถัดมา​ก็​ราวกับว่า​มีเพียง​หนิง​เหยา​คนเดียว​ที่​หายตัว​ไป​ ส่วน​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ยังอยู่​ต่อ​ก็​มีเพียง​กระบี่​เย่​โหย​ว​ใน​มือ​ที่​หาย​ไป​

ห​ลี่​เซิ่งเดิน​ไป​ทาง​ประตูหน้าบ้าน​ ซิ่ว​ไฉเฒ่ากับ​เฉิน​ผิง​อัน​ต่าง​ก็​เดินตาม​ไป​

เฉิน​ผิง​อัน​หันไป​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​ลูกศิษย์​ทั้งสอง​คน​ “พวก​เจ้าสามารถ​ไปหา​หนังสือ​ใน​หอ​ตำรา​อ่าน​ได้​ หาก​ชอบ​เล่ม​ไหน​ก็​เอา​ไป​ได้​เลย​ ไม่ต้อง​เกรงใจ​”

เฉาฉิงหล่า​งและ​เผย​เฉียน​เดิน​เข้าไป​ใน​หอ​หนังสือ​ เผย​เฉียน​ไม่คิด​จะยืม​หนังสือ​ไป​ แต่กลับ​เห็น​ว่า​เฉาฉิงหล่า​งแทบ​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​โจร​คน​หนึ่ง​ ไม่ได้​เรียก​ว่า​ขโมย​อะไร​ด้วยซ้ำ​ เพราะ​เพียงแค่​ชั่วพริบตา​ก็​หยิบ​หนังสือ​มาได้​แล้ว​หลาย​เล่ม​

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 845.2 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์