CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 849.2 สหายเจ้ามาหาใคร

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 849.2 สหายเจ้ามาหาใคร
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉิน​ผิง​อัน​ถอน​สาย​ตากลับ​ “ดังนั้น​มนุษย์​ธรรมดา​อย่าง​เรา​ๆ ถึงไม่มีชีวิต​อิสระ​เสรี​ เดินทาง​ท่องเที่ยว​ไป​ไกล​อย่าง​สุข​สบายใจ​ เป็น​ดั่ง​เรือ​ที่​ไม่ต้อง​ผูก​เชือก​ ไร้​สิ่งใด​ให้​เป็นห่วง​พะวง​หา​ได้​อย่าง​เจ้าลัทธิ​ลู่​อย่างไรเล่า​”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​คิกคัก​ “ลู่​เฉิน​ของ​วันนี้​และ​ของ​พรุ่งนี้​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​ต้อง​มีอิสระ​ได้​หลาย​ส่วน​ แต่​ชีหยวน​ลี่​ (หมายถึง​จวง​จื่อ​ นักปราชญ์​ผู้ยิ่งใหญ่​ของ​จีน​ใน​สมัยโบราณ​) ใน​อดีต​ก็​ยัง​ต้อง​ยืม​เงิน​มาจาก​ขุนนาง​ที่​ดูแล​ลำคลอง​ เขา​เอง​ก็​เคย​ยากจน​สิ้นหวัง​เหมือน​เจ้ามาก่อน​ ยาก​ที่จะ​ทำ​ความปรารถนา​ให้​เป็นจริง​มาเนิ่นนาน​ ทุก​เรื่อง​ทุกเวลา​ล้วน​ไร้​อิสระ​ โชคดี​ที่​ข้า​คน​นี้​เป็น​คน​มอง​ได้​กว้าง​ ปลง​ได้​ตก​ เชี่ยวชาญ​การ​หา​ความสุข​ท่ามกลาง​ความทุกข์​แล้ว​ปรับตัว​เข้ากับ​มัน​ ดังนั้น​ข้า​ใน​ทุกๆ​ วันพรุ่งนี้​จึงคู่ควร​ให้​ตัวเอง​รอคอย​คาดหวัง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “ต้อง​เรียนรู้​การฝึกฝน​จิตใจ​กับ​นักพรต​ลู่​ให้​มาก​แล้ว​”

“เรื่อง​ของ​การฝึกฝน​อบรม​จิตใจ​ ใคร​ก็​อย่า​ได้​เรียนรู้​เอาอย่าง​ข้า​เลย​”

ลู่​เฉิน​โบกมือ​ นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ก็​เอ่ย​ว่า​ “ป๋า​ย​เห​ย่​เอง​ก็ได้​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​แล้ว​ มีภาพ​บรรยากาศ​ยิ่งใหญ่​ สร้าง​วีรกรรม​อัน​โอ่อ่า​ตระการตา​ให้​แก่​ใต้​หล้า​ แม้แต่​อาจารย์​ของ​ข้า​ก็​ยัง​เอ่ย​ว่า​มีมาด​อัน​องอาจ​โดดเด่น​ของ​เซียน​กระบี่​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “อาจารย์​เล่า​ให้​ฟังแล้ว​”

ลู่​เฉิน​ทำ​สีหน้า​เห็นอกเห็นใจ​อย่าง​จริงใจ​ “อันที่จริง​เรื่อง​ของ​การ​ตั้งชื่อ​นี้​ พวกเรา​สอง​คน​ต่าง​ก็​เป็น​มือดี​อันดับ​หนึ่ง​ น่าเสียดาย​ที่​ข้า​พก​เอาชื่อ​กระบี่​บิน​มาสิบ​กว่า​ชื่อ​ ตั้งใจ​ไป​เยือน​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​โดยเฉพาะ​ นักพรต​ซุน​เอง​ก็​กระตือรือร้น​รับรอง​แขก​ยิ่งนัก​ ถึงกับ​ขยุ้ม​เข็มขัด​วิ่ง​ออกจาก​ห้องส้วม​มาพบ​ข้า​อย่าง​รีบร้อน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “นักพรต​ซุน​มีโอกาส​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​ส่ายหน้า​ “ไม่ว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คนใด​ อันที่จริง​ก็​ล้วน​มีโอกาส​ใน​การผสาน​มรรคา​ เพียงแต่ว่า​ยิ่ง​ขอบเขต​มั่งคง​สมบูรณ์​ ตบะ​ยิ่ง​อยู่​สูงบน​ยอดเขา​มาก​เท่าไร​ คอขวด​ก็​จะยิ่งใหญ่​มาก​เท่านั้น​ นี่​คือ​ตรรกะ​อย่างหนึ่ง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบงัน​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ยาม​อยู่​กับ​คน​สอง​สามคน​ เขา​มักจะ​มีความรู้สึก​หลอกตา​อยู่​เสมอ​ ครั้งแรก​คือ​ตอน​ได้​พบ​อา​เหลียง​ แรกเริ่ม​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ได้​เจอ​กับ​นักต้มตุ๋น​ใน​ยุทธ​ภพ​คน​หนึ่ง​ อีก​ฝ่าย​ชอบ​พูดจา​ปากเปราะ​ปาก​ไร้​หูรูด​ทุกวัน​ ทำให้​รู้สึก​ว่า​หาก​พูด​คำ​หนึ่ง​ไม่เข้าหู​ คำพูด​ใด​เกิน​กว่า​เหตุ​ไป​ก็​อาจจะ​ถูก​จูเห​อ​ต่อย​จน​ล้มคว่ำ​

ตอน​อยู่​บน​เรือ​ราตรี​ อู๋ซวงเจี้ยง​ที่​เพิ่ง​ผ่านศึก​ใหญ่​มาหมาดๆ​ นั่ง​ดื่ม​สุรา​ร่วมโต๊ะ​ สุภาพอ่อนโยน​

ตอน​อยู่​ท่าเรือ​พ่าน​สุ่ย​ ยักษ์​ใหญ่​แห่ง​วิถี​มาร​อย่าง​เจิ้งจวี​จง ทั่ว​ร่าง​กลับ​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ของ​บัณฑิต​

นอกจากนี้​ก็​เป็น​ลู่​เฉิน​ที่​ได้​รู้จัก​มาตั้งแต่​แรกเริ่ม​สุดคน​นี้​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่มีทาง​รู้​เลย​ว่า​ลู่​เฉิน​คิด​อะไร​อยู่​กัน​แน่​ แล้​วจะ​ทำ​อะไร​ต่อ​ เพราะ​ไม่มีเส้นสาย​ใดๆ​ ให้​สืบเสาะ​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “สายตา​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ช่างดี​จริงๆ​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​เด็กหนุ่ม​ใน​อดีต​เคร่งขรึม​เหมือน​คนแก่​เกินไป​ ระมัดระวัง​รอบคอบ​เกินไป​

มีเพียง​เฉิน​ชิงตู​ที่​รู้สึก​ว่า​เด็กหนุ่ม​ต่างถิ่น​ที่​เขา​เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​ชีวิต​อัน​สดใส​ ร่าเริง​กระตือรือร้น​

ลู่​เฉิน​เป็น​ฝ่าย​พูดถึง​ผู้ฝึก​กระบี่​กลุ่ม​ที่​เดินทางไกล​ไป​เยือน​มืด​สลัว​ “สหาย​สอง​คน​นั้น​ของ​เจ้า ต่ง​ถ่าน​ดำ​ไป​อยู่​ที่​นคร​เสิน​เซียว​ แต่​เพราะ​นิสัย​แข็งกร้าว​จึงไม่ยินยอม​ถูกรับ​เข้าไป​อยู่​ใน​ทำเนียบ​ขุนนาง​เต๋า​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เจ้าอ้วน​เยี่ยน​ไป​อยู่​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ของ​นักพรต​ซุน​ ต่าง​ก็​ปรับตัว​ได้​ มีชีวิต​ที่​ดี​”

ผู้ฝึก​กระบี่​รวม​ทั้งสิ้น​สิบ​หก​คน​ที่​มีก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​เฉิงเฉวียน​เป็น​ผู้นำ​ได้​ติดตาม​ภูเขา​ห้อย​หัว​บิน​ทะยาน​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ สุดท้าย​ต่าง​คน​ต่าง​แยกย้าย​กัน​ไป​ เก้า​คนใน​นั้น​เลือก​ที่จะ​ฝึก​กระบี่​อยู่​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ส่วน​เฉิงเฉวียน​กลับ​ตรง​ไป​อยู่​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​อย่าง​ที่​เหนือ​การ​คาดคิด​ของ​ทุกคน​ แล้ว​ยัง​เข้า​ทำเนียบ​สำนัก​ รับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​ เพราะ​ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าเก็บ​ความลับ​เรื่อง​หนึ่ง​ไว้​กับ​ตัว​ เขา​ได้​นำ​กล่อง​กระบี่​ที่​ห่อหุ้ม​ด้วย​ผ้าฝ้าย​ใบ​หนึ่ง​ไป​วาง​ไว้​บน​หิน​พัก​มังกร​กลาง​น้ำ​ของ​หอ​กว้าน​เชวี่ย​

“เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​อะไร​คือ​เวท​ย้าย​ภูเขา​ คือ​วิชา​อภินิหาร​เคลื่อนย้าย​มหาสมุทร​ที่​แท้จริง​?”

“หวัง​ว่า​เจ้าลัทธิ​ลู่​จะไม่ขี้เหนียว​ ยอม​ถ่ายทอด​ความรู้​ให้​”

“ใน​สายตา​ของ​ข้า​ อันที่จริง​เจ้าเชี่ยวชาญ​วิชา​นี้​มานาน​แล้ว​ ก็​เหมือน​ห้อง​สอง​ห้อง​ใน​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​มีคน​คน​หนึ่ง​คอย​ย้าย​ข้าวของ​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ทำ​บ่อย​ก็​ยิ่ง​เกิด​ความเคยชิน​ ยิ่ง​นาน​ก็​ยิ่ง​คล่องมือ​”

“เจ้าลัทธิ​ลู่​พูดจา​ลึกลับ​ไป​หน่อย​ ฟังไม่ค่อย​เข้าใจ​สัก​เท่าไร​”

“อีก​เดี๋ยว​ก็​จะเข้าใจ​แล้ว​ ไม่ว่า​เรื่องราว​อัน​งดงาม​ใดๆ​ ล้วน​ไม่ได้​มีอยู่​แค่​เฉพาะ​บน​บุปผา​ดอก​เดียว​เท่านั้น​”

หลังจากนั้น​คน​ทั้งสอง​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​อีก​ ต่าง​คน​ต่าง​ดื่มเหล้า​ของ​ตัวเอง​

เฉิน​ผิง​อัน​กำลัง​คิด​ว่า​หาก​วันหน้า​ไป​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​จริงๆ​ ควรจะ​อำพราง​ตัวตน​อย่างไร​

ลู่​เฉิน​กำลัง​รอคอย​ว่า​หาก​วันใด​เฉิน​ผิง​อัน​มาถึงใต้​หล้า​มืด​สลัว​ จะเป็นความ​ครึกครื้น​แบบ​ใด​

เหล่า​กระบี่​ผู้สืบทอด​ทั้งหลาย​ของ​สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​ ก่อนหน้านี้​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​ติดตาม​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​ออก​มาจาก​ท่าเรือ​ทั้งสอง​แห่ง​ เพียงแต่ว่า​ขี่​กระบี่​ตามหลัง​มาค่อนข้าง​ห่างไกล​ ภายใต้​การ​คุ้มกัน​ของ​เส้าอวิ๋นเหยียน​กับ​ถัว​เหยียนฮู​หยิน​ เวลานี้​ถึงเพิ่งจะ​ขี่​กระบี่​มาถึงหัว​กำแพงเมือง​ ต่าง​ก็​พลิ้ว​กาย​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​อีก​แถบ​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ไป​ไกลๆ​ พยักหน้า​ทักทาย​เส้าอวิ๋นเหยียน​ ส่วน​กระบี่​ที่​เหลือ​ คน​ส่วนใหญ่​เขา​ล้วน​รู้จัก​ เพราะ​ตอน​ที่อยู่​ท่าเรือ​เกาะ​นกแก้ว​เคย​ได้​เจอ​หน้า​สอง​สามคน​ เด็กสาว​ที่​มัด​ผม​หาง​ม้าชื่อว่า​อู๋​ม่าน​เหยียน​ นาง​คือ​คน​ที่​มีคุณสมบัติ​ด้าน​การ​ฝึก​กระบี่​ดีเยี่ยม​ที่สุด​ใน​บรรดา​สิบ​แปด​กระบี่​ ข้าง​กาย​เด็กสาว​ยังมี​เฮ้อ​ชิว​เซิงคน​วัย​เดียว​กันที่​เคย​ป่าวประกาศ​ว่า​ในอนาคต​จะมาถามกระบี่​กับ​เขา​

ถัว​เหยียนฮู​หยิน​มายืน​อยู่​ข้าง​กาย​ลู่​จือ​ ยังคง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ จึงขยับ​เท้า​ไป​หลบ​อยู่​ด้านหลัง​ลู่​จือ​เสีย​เลย​ พยายาม​อยู่​ให้​ห่าง​จาก​นักพรต​คน​นั้น​หน่อย​ นาง​ใช้เสียง​ใน​ใจถามอย่าง​ขลาดกลัว​ว่า​ “นักพรต​คือ​คน​ผู้​นั้น​หรือ​?”

ลู่​จือ​พยักหน้า​ “ไม่แน่​ว่า​อาจ​ได้​ตี​กัน​ ถึงเวลา​นั้น​เจ้าก็​ไม่ต้อง​สนใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ แค่​ต้อง​เผ่นหนี​ไป​ให้​ไกล​หน่อย​”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่ถึงขั้น​นั้น​หรอก​”

เห็นได้ชัด​ว่า​ลู่​จือ​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

เฉาจวิ้น​ที่​นัดหมาย​ล่วงหน้า​ว่า​จะไป​รับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​สุดท้าย​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ก่อนหน้านี้​เห็น​นักพรต​หนุ่ม​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​ เพื่อ​หลบ​แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​ก็​ถึงกับ​วิ่ง​พล่าน​หลบหนี​อุตลุด​ จึงอดไม่ไหว​ถามเว่ย​จิ้น​ว่า​ “นักพรต​นี่​มาได้​อย่างไร​ โผล่​ออก​มาจาก​ไหน​กัน​? ดู​แล้ว​ขอบเขต​สูงมาก​เลย​นะ​ คงจะ​ไม่ใช่ท่าน​ลุง​ได้มา​เปล่า​คนใด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​อีก​กระมัง​?”

เว่ย​จิ้น​กล่าว​ “คือ​เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ได้ยิน​มาว่า​เมื่อก่อน​เจ้าลัทธิ​ลู่​ไป​ตั้ง​แผง​ดูด​วงใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูอยู่​นาน​หลาย​ปี​ ถือเป็น​คนรู้จัก​เก่า​กับ​พวก​คน​รุ่นเยาว์​หลาย​คน​ซึ่งมีเฉิน​ผิง​อัน​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ปี​นั้น​เจ้ากลับ​บ้านเกิด​ช้าไป​ จึงพลาด​ไป​”

เฉาจวิ้​นรี​บถ​อน​สายตา​กลับมา​ทันที​ ไม่กล้า​มอง​นาน​อีกแล้ว​ เขา​เงียบ​ไป​พักใหญ่​ ก่อน​จะเอ่ย​ว่า​ “หาก​ข้า​เกิด​และ​เติบโต​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​ ด้วย​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ของ​ข้า​จะต้อง​ได้ดิบได้ดี​อย่าง​มาก​แน่นอน​”

เฉาจวิ้น​ส่ายหน้า​ “คุณสมบัติ​? อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูอย่า​พูดถึง​เรื่อง​นี้​เลย​ ด้วย​นิสัย​ของ​เจ้า ได้​เจอ​กับ​ยอด​ฝีมือ​ที่​อำพราง​ตน​อย่าง​ลึกลับ​พวก​นี้​แต่​เนิ่นๆ​ คาด​ว่า​คิด​จะเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​คง​กลายเป็น​ความเพ้อฝัน​แล้ว​ ดี​หน่อย​ หาก​ไม่เป็น​ช่างเผา​เครื่อง​ปั้น​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​ล​หลี​จู ก็​คง​ต้อง​ทำไร่ทำนา​ ขึ้น​เขา​ไป​ตัด​ต้นไม้​เผา​ฟืน​ ชั่วชีวิต​กลายเป็น​คน​ไร้​ชื่อเสียง​ หรือ​หาก​ดวง​ซวย​กว่า​นั้น​สักหน่อย​ ต่อให้​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​แล้ว​ ตกลง​ไป​ใน​หลุมพราง​ของ​คนอื่น​ก็​คงจะ​ยัง​ไม่รู้ตัว​”

เฉาจวิ้น​เอ่ย​ “ไม่ถูก​กระมัง​ ข้า​จำได้​ว่า​ใน​เมือง​เล็ก​มีเจ้าพวก​ลูก​กระต่าย​ พวก​คน​ซื่อบื้อ​หลาย​คน​ที่​พูดจา​ระคายหู​ยิ่งกว่า​ข้า​ เวลา​ทำ​เรื่อง​อะไร​ขึ้น​มาก​็สน​แต่​หัว​ไม่สน​บั้นท้าย​ (เปรียบเปรย​ว่า​ยาม​ทำ​อะไร​ไม่พิจารณา​ให้​รอบคอบ​) ทุกวันนี้​แต่ละคน​ก็​มีชีวิต​ที่​ดีกัน​มาก​ไม่ใช่หรือ​?”

เว่ย​จิ้น​เอ่ย​ “คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​คน​เหล่านั้น​ล้วน​มาจาก​จิตใจ​ดั้งเดิม​ ยอด​ฝีมือ​ย่อม​ไม่ถือสา​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ยัง​ผลัก​เรือ​ไป​ตาม​กระแสน้ำ​ แต่​เจ้ากลับ​ไม่เหมือนกัน​ ใช้อุบาย​อวด​ฉลาด​ หาก​เจ้าตกไป​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​เจ้าลัทธิ​ลู่​ เกิน​ครึ่ง​เขา​คง​ไม่ถือสา​ที่จะ​สอน​ให้​เจ้ารู้​ว่า​ควร​เป็น​คน​อย่างไร​”

เฉาจวิ้น​กำลังจะ​โต้กลับ​ ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​พลัน​มีเสียง​ของ​ลู่​เฉิน​ดัง​ขึ้น​ “เซียน​กระบี่​เฉามีฝีมือ​สูงส่งทั้ง​ยัง​ใจกล้า​ ถามกระบี่​กับ​คนอื่น​ใน​ตรอก​หนี​ผิง​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ผิน​เต้า​แค่​ได้ยิน​คน​เล่า​ให้​ฟังหลัง​จบเรื่อง​ก็​ยัง​อก​สั่น​ขวัญ​ผวา​อยู่​หลาย​ส่วน​ คนหนุ่ม​มาก​ความสามารถ​ที่​ใจกล้า​เทียมฟ้า​อย่าง​เจ้า หาก​จะไป​เป็น​เจ้านคร​ เจ้าหอ​ของ​ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงก็​มาก​พอ​เหลือแหล่​ ถือเป็น​การนำ​คน​มีความสามารถ​ไป​ใช้ใน​งาน​เล็กน้อย​ด้วยซ้ำ​! เป็น​อย่างไร​ วันหน้า​ผิน​เต้า​จะพา​เจ้าไป​ท่อง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ด้วยกัน​สัก​รอบ​ดีไหม​?”

เฉาจวิ้น​ได้ยิน​ก็​ตกใจ​จน​จิต​แห่ง​มรรคา​ไม่มั่นคง​ ตอบ​เสียงสั่น​ว่า​ “มิกล้า​รบกวน​เจ้าลัทธิ​ลู่​”

ทาง​ฝั่งของ​ลู่​จือ​ก็​มีเสียงพูด​กลั้ว​หัวเราะ​ของ​ลู่​เฉิน​ดัง​ขึ้น​ใน​ใจเหมือนกัน​ “อาจารย์​ลู่​สามารถ​ทำให้​อา​เหลียง​คิดถึง​พะวง​หา​ได้​ เป็นเรื่อง​ที่​มีเหตุผล​จริงๆ​ เสีย​ด้วย​ ชื่อเสียง​สมคำเล่าลือ​”

ลู่​จือ​ตอบ​กลับมา​หนึ่ง​ประโยค​ “อย่า​ได้คิด​ว่า​แซ่ลู่​เหมือนกัน​แล้​วจะ​ตีสนิท​ข้า​ได้​ ไม่ได้​มีความเกี่ยวข้อง​อะไร​กัน​แม้แต่น้อย​ อยาก​โดน​ฟัน​ก็​บอก​มาตรงๆ​ ไม่ต้อง​อ้อมค้อม​”

ลู่​เฉิน​ลุกขึ้น​ยืน​ แหงนหน้า​พึมพำ​ “มหา​มรรคา​ดุจ​ฟ้าคราม​ มีเพียง​ข้า​ที่​ออก​ไป​ไม่ได้​ บทกวี​ของ​ป๋า​ย​เห​ย่​ แค่​ประโยค​เดียว​ก็​อธิบาย​ความยากลำบาก​ใน​การ​เดิน​ทางใน​ชีวิต​นี้​ของ​ข้า​ได้​หมดสิ้น​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​เอ่ย​อย่าง​เฉยเมย​ “ฟ้าไร้​ผนัง​สี่ด้าน​ คน​เดิน​นก​บิน​ ฟ้าคราม​เส้นทาง​กว้างใหญ่​ รอง​เท้าสาน​เสียดสี​จน​พื้น​สึก​”

ทาง​ฝั่งของ​ท่าเรือ​สำนัก​อวี่​หลง​ หลังจากที่​เฉินซาน​ชิว​และ​เตี๋ย​จ้างออก​มาจาก​ท่าเรือ​แล้วก็​อยู่​ระหว่าง​เดินทาง​ไป​เยือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ก่อนหน้านี้​พวกเขา​ออกจาก​บ้านเกิด​ไป​ด้วยกัน​ จากนั้น​ก็​ทยอย​ไปเที่ยว​เยือน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​และ​หลิว​เสีย​ทวีป​

เจี่ย​เสวียน​เค่อ​ชิงแห่ง​หอ​โหย​ว​เซียน​ ตอน​อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​ไท่​เกิง​ได้​เอ่ย​เตือน​คนหนุ่ม​ที่​ใน​ใจยังคง​ขุ่นแค้น​ผู้​นั้น​เป็นการ​ส่วนตัว​ ทั้งเป็น​คำสอน​จาก​ผู้อาวุโส​ แล้วก็​เป็น​คำเตือน​อย่างหนึ่ง​ อย่า​ให้​เขา​เห็น​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​สำคัญ​เกินไป​ แต่​ก็​อย่า​ได้​มองข้าม​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​เกินไป​

อวิ๋น​เชีย​น​ที่​ทำหน้าที่​เป็น​เจ้าสำนัก​อวี่​หลง​ชั่วคราว​ยังคง​รอ​ให้​น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​ปราก​ฎตัว​มาคิดบัญชี​ ขณะเดียวกัน​นาง​ก็​หวัง​ด้วยว่า​สักวันหนึ่ง​จะสามารถ​ไปหา​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ เพื่อ​เอ่ย​ขอบคุณ​เขา​ต่อหน้า​

กลางอากาศ​เหนือ​เมือง​เล็ก​ เฉินห​ลิง​จวิน​เห็น​คนต่างถิ่น​สามคน​ก็​ชั่งน้ำหนัก​อยู่​เล็กน้อย​ พี่ใหญ่​เจี่ย​แห่ง​ตรอก​ฉีหลง​ก็​เป็น​คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​เหมือนกัน​ เขา​ก็​เลย​ไปหา​นักพรต​น้อย​ที่​ขี่​วัว​คน​นั้น​ก่อน​ มองดู​แล้ว​ยัง​เยาว์​มาก​นี่​นะ​

เฉินห​ลิง​จวิน​กลัว​ว่า​การขี่​เมฆทะยาน​หมอก​ของ​ตน​จะทำให้​นักพรต​น้อย​คน​นั้น​ตกใจ​ ก็​เลย​ทำ​มุทรา​กด​ไอ​น้ำ​และ​ก้อน​เมฆลง​ไป​ พลิ้ว​กาย​ลง​นอกเมือง​เล็ก​ เดิน​อาด​ๆ ไล่ตาม​หนึ่ง​คน​หนึ่ง​วัว​ไป​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​โปรด​ช้าก่อน​”

เด็กหนุ่ม​ที่​มีรูปลักษณ์​เป็น​นักพรต​น้อย​หันหน้า​มายิ้ม​ถาม “มีธุระ​อะไร​หรือ​?”

ครุ่นคิด​เล็กน้อย​ก็​สามารถ​เรียนรู้​ภาษากลาง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ หรือ​ก็​คือ​ภาษาทางการ​ของ​ต้า​หลี​เป็น​แล้ว​

เฉินห​ลิง​จวิน​เชิดหน้า​ขึ้น​ ถามว่า​ “มองดู​แล้ว​ไม่คุ้นหน้า​สหาย​ มาขึ้น​เขา​เยี่ยมเยือน​เซียน​ใน​อำเภอ​ไหว​หวง​ของ​พวกเรา​หรือว่า​มาเป็น​แขก​ล่ะ​?”

อันที่จริง​อยาก​จะบอ​กว่า​เห็น​สหาย​หน้าตา​อ่อนเยาว์​ ไม่ทราบ​ว่า​อายุ​เท่าไร​? เพียงแต่ว่า​นี่​ไม่สอดคล้อง​กับ​กฎเกณฑ์​ของ​ยุทธ​ภพ​

นักพรต​เด็กหนุ่ม​เอ่ย​ “เป็น​แค่​แขก​ที่​ผ่าน​ทาง​มา”

เฉินห​ลิง​จวิน​ใช้เสียง​ใน​ใจถามเข้า​ประเด็น​ “สหาย​ท่าน​นี้​คงจะ​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​เล่าลือ​กัน​ใน​ตำนาน​หรอก​กระมัง​?”

พูด​อะไร​ก็ได้​ให้​ฟังเกิน​กว่า​เหตุ​เข้า​ไว้​ หาก​เป็น​พวก​ลูก​พี่ใหญ่​บน​ยอดเขา​ที่เก็บ​หัว​เก็บ​หาง​คน​หนึ่ง​ คำถาม​ของ​ตน​ก็​จะเท่ากับ​เป็น​คำพูดคำจา​ของ​เด็ก​ไม่รู้ความ​มิอาจ​ถือสา​ คิดดู​แล้วก็​คง​ไม่ถึงขั้น​คิดเล็กคิดน้อย​กับ​ตน​หรอก​

เด็กหนุ่ม​ที่นั่ง​อยู่​บน​หลัง​วัว​เบี่ยง​ตัว​มา หันหน้า​หา​เฉินห​ลิง​จวิน​ ส่ายหน้า​ตอบ​ “ย่อม​ไม่ใช่”

เฉินห​ลิง​จวิน​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เหมือนกับ​เจ้าลัทธิ​ลู่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นั้น​สินะ​?”

เคย​ได้รับ​บทเรียน​มาก่อน​ นาย​ท่าน​ใหญ่​เฉิน​เช่น​ข้า​อาศัย​อะไร​ถึงได้​มีชีวิต​เสวยสุข​อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​ขุนเขา​เหนือ​แห่ง​นี้​ได้​ แน่นอน​ว่า​อาศัย​หัวสมอง​ เป็น​คน​ประเภท​เจ็บ​แล้ว​จำ

เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​ยังคง​ส่ายหน้า​

เฉินห​ลิง​จวิน​โล่งอก​ ดี​ล่ะ​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เจ้าหมอ​นี่​ขี่​อยู่​บน​หลัง​วัว​ คิด​จะกอด​คอ​พูดคุย​ก็​ยัง​ไม่เป็นปัญหา​

เฉินห​ลิง​จวิน​หัวเราะ​อารมณ์ดี​กับ​ตัวเอง​ “ชีหยวน​ฝัน​เห็น​ผีเสื้อ​ ก็​แค่​คน​มีความสามารถ​ระดับ​กลาง​ ฮ่าๆ คำ​ประเมิน​นี้​ดีจริง​”

นักพรต​เด็กหนุ่ม​เพียง​ยิ้ม​รับ​ ก่อน​ถามว่า​ “อริยะ​ที่​ดูแล​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูใน​ทุกวันนี้​คือ​ท่าน​ใด​?”

โอ้โห​ พูดจา​วางโต​นัก​ ก่อน​จะเข้า​เมือง​เล็ก​คง​ดื่มเหล้า​ไป​ไม่น้อย​กระมัง​? ถ้าอย่างนั้น​ก็​เป็น​คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​ครึ่งตัว​แล้ว​ ข้า​ชอบ​

เฉินห​ลิง​จวิน​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “ห​ร่วน​ฉงอริยะ​แห่ง​สำนัก​การทหาร​ อาจารย์​หลอม​กระบี่​มือหนึ่ง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​พวกเรา​ ทุกวันนี้​คือ​บรรพ​จารย์​เปิด​ขุนเขา​ของ​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​แล้ว​ ข้า​สนิท​กับ​เขา​มาก​ เห็น​หน้า​ก็​แค่​ต้อง​เรียก​ว่า​ช่างห​ร่วน​ ขาด​ก็​แค่​ไม่ได้​ร่วม​สาบาน​เป็น​พี่น้อง​กัน​เท่านั้น​”

เด็กหนุ่ม​ถาม “อริยะ​สำนัก​การทหาร​? มาจาก​ศาล​ลม​หิมะ​หรือ​ภูเขา​เจิน​อู่​?”

เรื่อง​เล็กน้อย​แค่นี้​คง​ไม่ต้อง​ใช้การอนุมาน​หา​คำตอบ​จาก​มหา​มรรคา​แล้ว​

เฉินห​ลิง​จวิน​อด​มอง​วัว​ดำ​ตัว​นั้น​ไม่ไหว​ น่าสงสาร​นัก​ ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​ต้อง​เป็น​คนต่างถิ่น​ที่​เดินทางไกล​ข้าม​ทวีป​มาแน่นอน​ ดัน​ต้อง​มาเจอ​เจ้านาย​ที่​พึ่งพา​ไม่ได้​เช่นนี้​ แล้ว​ยัง​ต้อง​ถูก​ขี่​มาตลอดทาง​ เฉินห​ลิง​จวิน​จึงอยาก​จะตบ​เขา​วัว​ดู​สักที​

นักพรต​เด็กหนุ่ม​โบกมือ​ ยิ้ม​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “อย่า​ตบ​ๆ นิสัย​ของ​สหาย​อย่าง​ข้า​คน​นี้​ไม่ค่อย​ดี​เท่าไร​”

เฉินห​ลิง​จวิน​จึงหด​มือ​กลับมา​ อดไม่ไหว​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “สหาย​ ไม่ใช่ว่า​ข้า​ขู่​ให้​เจ้าตกใจกลัว​จริงๆ​ นะ​ เมือง​เล็ก​แห่ง​นี้​ของ​พวกเรา​มีแต่​มังกร​ซ่อน​พยัคฆ์​หมอบ​ มียอด​ฝีมือ​ผู้​เร้น​กาย​ไม่ทราบ​นาม​อยู่​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​ เดินเล่น​เตร็ดเตร่​อยู่​ที่นี่​ บุคลิก​เทพ​เซียน​ มาด​แห่ง​ยอด​ฝีมือ​ก็​แสดง​ออกมา​ให้​น้อย​ๆ หน่อย​เถอะ​ ไม่ได้​มีความหมาย​อะไร​เลย​”

แต่​จากนั้น​เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​ตบ​อก​ตัวเอง​ “ไม่เป็นไร​ๆ ถึงอย่างไร​ก็​มีข้า​คอย​นำทาง​ให้​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ล้วน​ต้อง​ไว้หน้า​ข้า​สอง​สามส่วน​ ขอ​แค่​ไม่พูดจา​หรือ​ทำ​อะไร​เกิน​กว่า​เหตุ​ ล้วน​ไม่เป็นไร​ หาก​เกิด​ความขัดแย้ง​กับ​คนอื่น​จริงๆ​ เจ้าก็​บอกชื่อ​ของ​ข้า​ไป​ ราชา​มังกร​น้อย​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ข้า​แซ่เฉิน​นาม​ห​ลิง​จวิน​ ฉายา​คือ​จิ่งชิง ใช่แล้ว​ ข้า​มีสหาย​คน​หนึ่ง​ทุกวันนี้​ทำการค้า​ต้นทุน​ต่ำ​ เขา​เขียนหนังสือ​เต๋า​ขึ้น​มา เป็น​ภาพ​ห้า​ขุนเขา​ที่​แท้จริง​ซึ่งสืบทอด​มาจาก​บรรพบุรุษ​ พอ​จะมีฝีมือ​อยู่​บ้าง​ สหาย​หาก​ใน​มือ​เจ้าขาด​ของเล่น​ประเภท​นี้​ ข้า​ก็​สามารถ​พา​เจ้าไป​ที่​ร้าน​บ้าน​ข้า​ได้​ จะขาย​ให้​เจ้าใน​ราคา​ต้นทุน​ หาก​สหาย​คน​นั้น​ของ​ข้า​ได้​กำไร​จาก​เจ้าไป​แม้แต่​ครึ่ง​เหรียญเงิน​เกล็ด​หิมะ​ ก็​ถือว่า​ข้า​ทำลาย​ป้าย​อักษร​ทอง​ของ​ตัวเอง​ทิ้ง​แล้ว​”

เด็กหนุ่ม​ยิ้ม​ถาม “สหาย​จิ่งชิงชอบ​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​คนอื่น​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​ถอนหายใจ​ “ช่วยไม่ได้​ เกิด​มาก็​เป็น​คน​กระตือรือร้น​เช่นนี้​ แล้วก็​เพราะ​ข้อ​นี้​ของ​ข้า​นี่แหละ​ ปี​นั้น​นาย​ท่าน​ของ​ข้า​ถึงได้​ยอม​พา​ข้า​ขึ้น​เขา​ไป​ฝึก​ตน​”

นักพรต​น้อย​ถาม “นาย​ท่าน​ของ​เจ้าคือ​ใคร​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​หัวเราะ​ร่า​ “อย่า​พูดถึง​ดีกว่า​ พวกเรา​แค่​พบ​เจอกัน​โดยบังเอิญ​ ควร​ต้อง​เก็บ​ใจเอาไว้​บ้าง​ อย่า​ได้​ควัก​ใจออกมา​ให้​กัน​ดู​จน​หมด​ ทำ​แบบ​นั้น​จะดู​ไม่มีประสบการณ์​”

หลังจากนั้น​เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​พา​นักพรต​น้อย​ที่​ขี่​วัว​ไปดู​บ่อ​ตรวน​มังกร​ ระหว่าง​นั้น​เด็กหนุ่ม​ก็​ตบหลัง​วัว​ให้​หยุด​อยู่​ใน​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​

ปี​นั้น​แผง​ดูดวง​ของ​ลู่​เฉิน​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ตั้งอยู่​ห่าง​จาก​ต้น​ไหว​เก่าแก่​ไป​ไม่ไกล​ เงยหน้า​มอง​ก็​เห็น​ได้​ กิ่งไม้​บาง​ห่าง​ ทว่า​พุ่ม​ใบ​กลับ​เขียวขจี​

เด็กหนุ่ม​เงยหน้า​มอง​ไป​ ต้น​ไหว​โบราณ​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​มาใน​สายตา​อีกครั้ง​ทันที​ เพียงแต่ว่า​แม้ต้นไม้​โบราณ​จะไหว​เพ​ยิบ​พะ​ยาบ​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ได้​สูญเสีย​จิตวิญญาณ​ไป​แล้ว​ จากไป​ไม่หวน​กลับมา​ ทว่า​เรื่องราว​ส่วนใหญ่​บน​โลก​มนุษย์​ก็​ล้วน​เป็น​เช่นนี้​ ตะวัน​จันทรา​ดุจ​ควบม้า​ห้อ​ตะบึง​ กาลเวลา​ประหนึ่ง​กระสวย​พุ่ง​ผ่าน​ เดิน​ท่อง​มหาสมุทร​ฝุ่นตลบ​คลุ้ง​

เฉินห​ลิง​จวิน​ถามชวน​คุย​ “สหาย​เดินทาง​มาไกล​ขนาด​นี้​เพราะ​อยาก​จะมาพบ​ใคร​หรือ​?”

มรรคา​จารย์​เต๋า​ยิ้ม​เอ่ย​ “หนึ่ง​นั้น​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 849.2 สหายเจ้ามาหาใคร"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์