CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 859.2 ดึงแม่น้ำ

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 859.2 ดึงแม่น้ำ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ ตอนที่​นาง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ อู​ถียัง​เป็น​แค่​ผู้ฝึก​ตน​อายุ​น้อย​ที่​เพิ่ง​ก้าวเดิน​ไป​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ วันที่​อู​ถีจำแลง​ร่าง​เป็น​มนุษย์​ได้​สำเร็จ​ อาจารย์​ไม่เห็น​เป็น​เรื่องสำคัญ​ เพียงแค่​มอง​ลูกศิษย์​ที่​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ โยน​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​หนึ่ง​มาให้​ กลับเป็น​บรรพ​จารย์​หญิง​ที่​ตั้งใจ​มาหา​เขา​โดยเฉพาะ​ นาง​ก้มหน้า​ค้อม​เอว​ลง​ ยิ้ม​ตาหยี​ตบ​ศีรษะ​ของ​เด็กหนุ่ม​ พูด​แค่​สามคำ​ด้วย​สีหน้า​อ่อนโยน​ว่า​ เป็น​คน​แล้ว​นะ​

มือ​กระบี่​ชุด​เขียว​กับ​กาย​ธรรม​นักพรต​รวม​ร่าง​เป็นหนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​กลับมา​สวม​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​ สวม​ชุด​นักพรต​เต๋า​ผ้า​โปร่ง​สีเขียว​และ​สะพาย​กระบี่​อีกครั้ง​

ลู่​เฉินจุ๊​ปาก​พูด​ “ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​พวก​นี้​ ยาม​ที่​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​ขึ้น​มาก็​อำมหิต​กัน​จริงๆ​ ช่างน่าชื่นชม​ ข้า​ละอายใจ​ที่​สู้ไม่ได้​”

ตระกูล​เซียน​บน​ภูเขา​ ใน​ด้าน​การอัญเชิญ​เทพ​มา มีความลี้ลับ​มหัศจรรย์​ต่างกัน​ไป​

ลูกหลาน​สกุล​ลู่​จุด​ธูป​กราบไหว้​อยู่​ใน​ศาล​บรรพชน​ของ​ตระกูล​ปีแล้วปีเล่า​นาน​หลาย​พันปี​ แต่กลับ​ไม่เคย​เชิญตัว​ลู่​เฉิน​มาได้​เลย​สักครั้ง​

ดังนั้น​สกุล​ลู่​ของ​สำนัก​หยิน​หยาง​แผ่นดิน​กลาง​จึงมีความไม่พอใจ​ใน​ตัว​บรรพบุรุษ​ที่​ไม่ปกป้อง​คุ้มครอง​ตระกูล​อย่าง​เขา​มาโดยตลอด​

ควรจะ​ลาก​ลูกศิษย์​และ​ศิษย์​หลาน​กลุ่ม​นั้น​มาเบิกตา​มอง​ให้​ดี​จริงๆ​ ว่า​ มาเจอ​กับ​บรรพ​จารย์​เช่น​ตน​ ยัง​จะไม่พอใจ​อะไร​อ​ชีก​ ควร​จุด​ธูป​ขอบคุณ​สิถึงจะถูก​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “หา​ตัว​อิ๋น​ลู่​สิ”

ลู่​เฉิน​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​ นับ​นิ้ว​คำนวณ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “กำลัง​หา​อยู่​น่า​ รอ​สัก​เดี๋ยว​ อีก​เดี๋ยว​พวกเรา​สอง​คน​ก็​สามารถ​ข่มขู่​ผู้อาวุโส​อู​ถีได้​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​เอื้อมมือ​ไป​คว้า​หาง​กวาง​ที่​หล่น​อยู่​บน​พื้น​ชิ้น​นั้น​มาไว้​ใน​มือ​ มีตัวอักษร​เหนี่ยว​จ้วน​แกะสลัก​ไว้​สอง​คำ​ว่า​ ‘ฝูเฉิน’​ (แส้ปัดฝุ่น​) ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​ซาน​ชิงชื่อ​ของ​ขุน​เขาใหญ่​ก่อนหน้า​นั้น​

ตรง​ด้าม​ไม้เป็น​สีม่วง​เข้ม​มองดู​โบราณ​เรียบง่าย​ ห้อย​ห่วง​ทอง​ขนาดเล็ก​ไว้​ตรง​ด้าม​แส้ปัดฝุ่น​ ส่วน​เส้นใย​ของ​แส้ปัดฝุ่น​นั้น​เป็น​สีขาว​หิมะ​ เล็ก​เรียว​บาง​ ไม่รู้​ว่า​ทำ​มาจาก​วัสดุ​อะไร​ เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ไป​กำ​เส้นใย​กำ​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​ ประมาณการณ์​ว่า​น่าจะ​มีสามพันหกร้อย​เส้น​

ของ​ชิ้น​นี้​ติดตาม​ฉงโอว​อยู่​ใน​ดินแดน​โลก​มืด​มานาน​หลาย​ปี​ แต่กลับ​ไม่มีกลิ่นอาย​ความ​ชั่วร้าย​มืด​ดำ​มาสัมผัส​โดน​แม้แต่น้อย​ หรือ​เป็น​เพราะว่า​หญิง​ชรา​คน​นั้น​ไม่อาจ​หลอม​ใหญ่​ให้​กับ​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ชิ้น​นี้​ได้​?

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ร่าง​จริง​ของ​หญิง​ชรา​คือ​ยุง​ตัว​หนึ่ง​ จะหลอม​แส้ปัดฝุ่น​ชิ้น​นี้​ได้​อย่างไร​? ก็​แค่​ถูก​หญิง​ชรา​เอา​มาใช้เป็น​ของ​ติดตัว​ไว้​ตั้งหลัก​เท่านั้น​ ความคิด​เลิศ​ล้ำ​เสีย​จริง​ มิน่าเล่า​ถึงสามารถ​หลบเลี่ยง​สายตา​ของ​กุ่ย​ชาเมืองผี​มาได้​ตั้ง​นาน​หลาย​พันปี​”

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “แสงแห่ง​เห​ยาก​วง​ (เห​ยาก​วง​มีหลาย​ความหมาย​ หนึ่ง​คือ​ชื่อ​ของ​ดวงดาว​ลำดับ​ที่​เจ็ด​ของ​กลุ่ม​ดาว​เป่ย​โต้​ว​ ซึ่งสมัยโบราณ​หมายถึง​สัญลักษณ์​แห่ง​ความเป็นมงคล​ สอง​หมายถึง​ประกาย​แสงของ​หยก​ สามคือ​แสงสีขาว​) บรรพกาล​ ส่องสว่าง​ชี้ทาง​ให้​แก่​ธัญพืช​และ​สรรพสิ่ง​ กุย​ห​ลิง​เซียง​มีใจแล้ว​ น่าเสียดาย​ที่​นาง​ต้อง​มาเจอ​กับ​พวก​ล้างผลาญ​กลุ่ม​นี้​”

กุย​ห​ลิง​เซียง​บรรพ​จารย์​เปิด​ภูเขา​ของ​นคร​เซียน​จาน​มีคุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ดีเยี่ยม​ แต่​นาง​กลับ​ไม่มีความทะเยอทะยาน​ ราวกับ​ว่าการ​ฝึก​ตน​ตลอดชีวิต​ก็​เพื่อ​ทำให้​นคร​เซียน​จาน​ขยับ​เข้าใกล้​สวรรค์​มากขึ้น​

พอ​มาถึงเจ้านคร​รุ่น​ที่สอง​ หรือ​ก็​คือ​หญิง​ชรา​ฉงโอว​ที่​พอ​เห็นท่า​ไม่ดี​ก็​ถอยกลับ​ไป​ยัง​ดินแดน​ของ​โลก​มืด​ผู้​นั้น​ ถึงได้​เริ่ม​มีความสัมพันธ์​ไปมาหาสู่​กับ​สำนัก​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ซึ่งมีภูเขา​ทัว​เย​ว่​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ แต่​ฉงโอว​ก็​ยัง​ทำ​ตามคำสั่ง​ของ​อาจารย์​ ไม่ได้​ไป​แตะต้อง​พื้นที่​มงคล​ที่​สืบทอด​มาจาก​บรรพบุรุษ​ซึ่งได้​ครอบครอง​ดาวตก​หนึ่ง​ดวง​ นคร​เซียน​จาน​สืบทอด​ต่อ​มาถึงมือ​ของ​อู​ถีถึงได้​เริ่ม​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ แน่นอน​ว่า​ส่วนใหญ่​มาจาก​ความเห็นแก่ตัว​ของ​อู​ถีเอง​ เพื่อ​สร้าง​ประโยชน์​ให้​แก่​การ​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ สามารถ​ทำลาย​คอขวด​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ได้​เร็ว​กว่า​เดิม​ จึงเริ่ม​หลอม​อาวุธ​ขาย​ให้​กับ​สำนัก​บน​ภูเขา​ มีเงินทอง​ไหล​มาเท​มา กระทั่ง​เสวียน​ผู่​รับ​ช่วงต่อ​ดูแล​ นคร​เซียน​จาน​ก็​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม​มาก​ พื้นที่​มงคล​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ถูก​บรรพ​จารย์​กุย​ห​ลิง​เซียง​ตั้ง​ชื่อว่า​เห​ยาก​วง​ได้รับ​การขยับขยาย​และ​ดำเนินการ​ใน​ระดับ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ เริ่ม​ทำการค้า​กับ​ราชวงศ์​ใหญ่​แห่ง​ต่างๆ​ จุด​ที่​ขาด​คุณธรรม​มาก​ที่สุด​ยังคง​เป็นเรื่อง​ที่​เสวียน​ผู่​ชอบ​ขาย​อาวุธ​และ​สมบัติ​อาคม​ให้​กับ​ราชวงศ์​สอง​แคว้น​ที่อยู่​ห่าง​กัน​ไม่มาก​มาก​ที่สุด​ แต่​การ​ที่​นคร​เซียน​จาน​มีฐานะ​สูงส่งใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​สำเร็จ​ก็​ด้วย​ฝีมือ​ของ​เสวียน​ผู่​จริงๆ​

ในที่สุด​อู​ถีก็​ถามคำถาม​ที่​เขา​สงสัย​ใคร่รู้​ที่สุด​ “เจ้าคือ​?”

คราว​ก่อนที่​ปรากฏตัว​ อู​ถียัง​ร่วมมือ​กับ​ฉงโอว​ผู้​เป็น​อาจารย์​รับมือ​กับ​บรรพ​จารย์​ย้าย​ภูเขา​ที่​นิสัย​ดุร้าย​ผู้​นั้น​ ทั้ง​ต่อสู้​ทั้ง​ขอร้อง​แล้ว​ยัง​มอบ​เงิน​ให้​ ถึงได้​ทำให้​นคร​เซียน​จาน​ผ่าน​หายนะ​ครั้งนั้น​ไป​ได้​

ดังนั้น​อู​ถีจึงไม่รู้​สถานการณ์​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ใน​ทุกวันนี้​เลย​แม้แต่น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

“มิน่าเล่า​”

อู​ถีพยักหน้า​รับ​ “ถ้าอย่างนั้น​เจ้าก็​ต่อสู้​ได้​เก่ง​กว่า​เซียว​สวิ้น​ใน​ปี​นั้น​”

ผี​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​รีบ​เอ่ย​เสริม​ไป​อีก​ประโยค​ทันที​ “แต่​ตอนนั้น​เซียว​สวิ้น​อายุ​ไม่มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​

อู​ถีอดไม่ไหว​ถามอี​กว่า​ “เจ้าฝึก​ตน​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​? ข้า​ก็​ว่าแล้ว​ว่า​ทำไม​ถึงไม่เหมือน​นักพรต​จริงๆ​ ใน​เมื่อ​เจ้าเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ต้อง​ไม่มีกฎ​ที่ว่า​ภิกษุ​ไม่ถามนาม​ นักพรต​ไม่ถามอายุ​แน่ๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “ไม่ถึงหนึ่ง​พันปี​”

อู​ถีจุ๊ปาก​เอ่ย​ชื่นชม​ไม่หยุด​ ยก​นิ้วโป้ง​ให้​กับ​ผู้เยาว์​ใน​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ เอ่ย​ชมจาก​ใจจริง​ว่า​ “ผู้​มีพรสวรรค์​ที่​โดดเด่น​”

ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ไม่ยอมรับ​อะไร​ทั้งนั้น​ ยอมรับ​แค่​ขอบเขต​อย่าง​เดียว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “เพิ่งจะ​อายุ​สี่สิบ​ต้น​ๆ”

อู​ถีอึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​โบกมือ​ “จะพูด​ล้อเล่น​ก็​ต้อง​มีขอบเขต​บ้าง​สิ”

อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​โลก​มืด​ที่​ฟ้าดิน​เงียบสงัด​อย่าง​ถึงที่สุด​ หา​คน​ตัว​เป็น​ๆ มาพูดคุย​ด้วย​นั้น​ยาก​ราวกับ​เดิน​ขึ้น​สวรรค์​ นอกจากนี้​ไม่ว่า​จะผี​ตน​ใด​ที่​เร่ร่อน​อยู่​ที่นั่น​ ไม่ว่า​จะขอบเขต​สูงหรือ​ต่ำ​ก็​ล้วน​ไม่คาดหวัง​ที่จะ​ได้​พบ​เจอ​กับ​คน​ของ​โลก​มนุษย์​ ผู้ฝึก​ตน​ใน​โลก​มนุษย์​ที่มา​เยือน​ปรโลก​ดินแดน​คนตาย​ได้​ ใคร​จะกล้า​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ แต่ละคน​รับมือ​ได้​ยาก​ยิ่งกว่า​ผี​เสีย​อีก​

อู​ถียังคง​หา​ตัว​อิ๋น​ลู่​ไม่เจอ​จึงได้​แต่​ยอมรับ​ชะตากรรม​ หวัง​ว่า​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​คน​นั้น​จะไม่รู้​วิธี​อัญเชิญ​ตัว​เขา​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ ไม่อย่างนั้น​อย่า​เห็น​ว่า​เขา​พูด​กับ​อิ่น​กวาน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ได้​อย่าง​ปร​อง​ดอก​ง อู​ถีกล้า​รับรอง​เลย​ว่า​ขอ​แค่​อีก​ฝ่าย​คว้า​โอกาส​เอาไว้​ได้​ ทั้งสองฝ่าย​จะต้อง​ได้​เจอกัน​อีกครั้ง​ทันที​แน่นอน​ ถึงเวลา​นั้น​คง​หลีกเลี่ยง​การเข่นฆ่า​เอาชีวิต​ไม่ได้​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ามอง​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​ “ใช่แล้ว​ ถามข้อ​สุดท้าย​ ต่ง​ซาน​เกิง​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​?”

ตอน​มาคือ​โอสถ​ทอง​ ตอน​ไป​คือ​บิน​ทะยาน​

ใน​ประวัติศาสตร์​หมื่น​ปี​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คือ​วีรกรรม​ที่​มีเพียง​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​คน​หนึ่ง​ เอา​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มาเป็น​สถานที่​หลอม​กระบี่​ สุดท้าย​ไม่เพียงแต่​มีชีวิตรอด​กลับ​ไป​ยัง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ตอนที่​ต่ง​ซาน​เกิง​กลับ​บ้านเกิด​ยัง​เอา​หัว​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ไป​ด้วย​!

เฉิน​ผิง​อัน​ชี้ไป​ที่​ม่าน​ฟ้า “ไม่รู้สึก​ว่า​ขาด​อะไร​ไป​บ้าง​หรือ​?”

อู​ถีเหลือบตา​มอง​ม่าน​ฟ้า ถึงได้​เพิ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​มีดวงจันทร์​เพียงแค่​สอง​ดวง​เท่านั้น​

มารดา​มัน​เถอะ​ เป็นเรื่อง​ที่​ต่ง​ซาน​เกิง​ทำได้​จริงๆ​

ท่ามกลาง​ซาก​ปรัก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ด้านหลัง​อู​ถี คือ​ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ถึงกับ​เป็น​งูใหญ่​สีดำแดง​ตัว​หนึ่ง​

ขนาดที่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ยัง​ไม่มีบันทึก​ถึงเรื่อง​นี้​ ยังคง​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​ความรู้​กว้างขวาง​ ช่วย​ไขข้อข้องใจ​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ด้วย​การ​เปิด​เผยความลับ​สวรรค์​ใน​ประโยค​เดียว​ “งูดำ​บรรพกาล​ เรือน​กาย​เหมือน​เชือก​ยาว​ที่​ห้อย​แขวน​อยู่​บน​ฟ้า มหา​มรรคา​ลึกล้ำ​ยาว​ไกล​ เชื่อมโยง​ฟ้าดิน​”

“ดังนั้น​ผู้อาวุโส​เสวียน​ผู่​ผู้​นี้​กับ​การสืบทอด​ควัน​ธูป​ของ​นคร​เซียน​จาน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีความ​สอดคล้องกัน​บน​มหา​มรรคา​ เป็น​เจ้านคร​ก็​ถือว่า​เป็น​หน้าที่​ที่​มิอาจ​บอกปัด​ได้​จริงๆ​! เสวียน​ผู่​เอ๋ย​เสวียน​ผู่​ สร้าง​นคร​เซียน​จาน​ให้​เป็น​สถานที่​อัน​เลื่องชื่อ​ที่​ทิวทัศน์​งดงาม​ได้​แล้ว​ ฉายา​นี้​ก็​ตั้ง​ได้​เหมาะสม​จริงๆ​ ไพเราะ​กว่า​ ‘ตู๋ปู้’​ ที่​ฟังแล้ว​ไม่สมจริง​ของ​เย่​พู่​มาก​นัก​ คิดไม่ถึง​ว่า​เสวียน​ผู่​จะเป็น​คน​จริงใจ​แบบนี้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​ “ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​สั้น​ไป​หน่อย​หรือไม่​?”

แม้จะบอ​กว่า​ขด​ล้อม​อยู่​รอบ​ซาก​ปรัก​ศาล​บรรพ​จารย์​อยู่​หลาย​ชั้น​ แต่​อันที่จริง​อย่าง​มาก​สุด​ก็​คง​ยาว​ได้​ไม่ถึงพัน​จั้ง

ตาม​ข้อตกลง​ หาก​สังหาร​ปีศาจ​ตน​ใด​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​ เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​ยก​ให้​สิงกวาน​หาว​ซู่ทั้งหมด​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “พลัง​ชีวิต​สูญสิ้น​ไป​หมด​แล้ว​ ถูก​อู​ถีกิน​จน​อิ่ม​ เนื้อหนังมังสา​ของ​ร่าง​จริง​ที่​เหลืออยู่​ มีแต่​เปลือก​เท่านั้น​ คล้ายคลึง​กับ​คราบ​ของ​งู แต่​อู​ถียัง​ถือว่า​รู้​กาลเทศะ​ ไม่ได้​ผิดสัญญา​ ก่อนหน้านี้​รับปาก​กับ​เจ้าว่า​จะเก็บ​โอสถ​ปีศาจ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​เม็ด​หนึ่ง​เอาไว้​ให้​”

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​สงสัย​อยู่​มาก​ เขา​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​เก็บ​ร่าง​งูดำ​ตัว​นั้น​มาเรียบร้อย​แล้วก็​อดไม่ไหว​ถามว่า​ “ผล​เก็บเกี่ยว​ที่​อู​ถีได้​จาก​โลก​คน​เป็น​ ยัง​สามารถ​นำ​กลับ​ไป​หล่อเลี้ยง​ร่าง​จริง​ที่อยู่​ใน​โลก​คนตาย​ได้​ด้วย​หรือ​? ภาพมายา​นี้​ของ​มัน​ควรจะ​ไม่มีทาง​เหลือ​ให้​เดิน​แล้ว​ถึงจะถูก​ หรือว่า​อู​ถีไม่ต้อง​ถูก​พันธนาการ​จาก​กฎเกณฑ์​ของ​มหา​มรรคา​ที่​มืด​และ​สว่าง​อยู่​กัน​คน​และ​เส้น​ทางได้​?”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “สวรรค์​ไม่ไร้​ทาง​ให้​คน​เดิน​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มีเส้นทาง​ทอด​ไป​ยัง​มุมมืด​เสมอ​”

เฉิน​ผิง​อัน​เห็น​ว่า​เรือน​กาย​อู​ถีล่องลอย​ไม่หยุดนิ่ง​ มีลาง​ว่า​จะสลาย​หาย​ไป​ พลัน​ถามว่า​ “ใน​ฐานะ​เซียน​ผี​บน​เส้นทาง​สู่ปรโลก​ เจ้าเคย​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ไพศาล​ที่​ชื่อว่า​จงขุย​หรือไม่​?”

เส้นเอ็น​หัวใจ​ของ​อู​ถีขมวด​ตึง​ ผี​เฒ่าขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ถึงกับ​มีการเปลี่ยนแปลง​ทาง​สีหน้าที่​มิอาจ​เก็บ​ซ่อน​เอาไว้​ได้​

นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ชื่อ​ของ​จงขุย​นี้​ ไม่เพียงแต่​เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ อีก​ทั้ง​ยัง​ต้อง​ทำให้​อู​ถีจด​จำได้​อย่าง​ลึกซึ้ง​ด้วย​

อู​ถีเอง​ก็​คล้าย​จะไม่คิด​แก้ไข​หรือ​ปิดบัง​อะไร​ เขา​เบ้​ปาก​ เอ่ย​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ชื่อ​นี้​ อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​พวกเรา​ประหนึ่ง​ฟ้าผ่า​ที่​ดัง​อยู่​ข้าง​หู​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ “ไม่เคย​คบค้า​กับ​จงขุย​หรือ​?”

อู​ถีหัวเราะ​หยัน​ “หาก​เคย​คบค้าสมาคม​กับ​เขา​ ผู้อาวุโส​จะยัง​มาคุย​เล่น​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ตรงนี้​ได้​หรือ​?”

ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ ปาก​ของ​อู​ถีไม่พูด​คำ​ว่า​ ‘จงขุย​’ เลย​สักครั้ง​

ตาม​คำกล่าว​ของ​ลู่​เฉิน​ ผู้​ที่​เป็น​เซียน​ดิน​คือ​ผู้ครอบครอง​ฟ้าดิน​ครึ่งหนึ่ง​ หล่อหลอม​เรือน​กาย​อยู่​บน​โลก​ กระทั่ง​เป็น​อมตะ​ไม่ต้อง​ตาย​ ผู้ฝึก​ตน​ผี​พิสูจน์​มรรคา​เรียก​ว่า​เซียน​ผี​ นับว่า​ยัง​เป็นรอง​อยู่​ไม่น้อย​ คือ​ผี​วิญญาณ​สะอาด​ที่​สละ​จิต​หยาง​กาย​นอกกาย​ทิ้ง​ เก็บ​ไว้​แต่​จิต​หยิน​ ยังคง​ถือว่า​พิสูจน์​มรรคา​ไม่สำเร็จ​ เป็นเหตุให้​รูปลักษณ์​ไม่ชัดเจน​ สามภูเขา​ไร้​นาม​ แม้จะไม่ต้อง​เข้าสู่​วัฏจักร​สังสาร​ ก็​ยาก​ที่จะ​ได้​เข้า​ทำเนียบ​ เร่ร่อน​ไม่มีที่​พักพิง​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เซียน​ผี​ที่​เลือก​จะอยู่​บน​เส้นทาง​ไป​สู่ปรโลก​ก็​ยิ่ง​ถูก​มองว่า​เป็น​พวก​กบฏ​เนรคุณ​ คือ​เป้าหมาย​อันดับ​หนึ่ง​ที่​กุ่ย​ชาขุนนาง​ผู้พิพากษา​ตรวจตรา​ดินแดน​ของ​เมืองผี​ต้อง​จับตัว​มาให้ได้​ เรื่อง​พวก​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​รู้​มาก่อน​แล้ว​ แต่​ลู่​เฉิน​เรียก​อีก​ฝ่าย​ว่า​เป็น​พวก​โง่เขลา​ดื้อดึง​ ฟังแล้ว​ประหลาด​มาก​ ลู่​เฉิน​ยัง​ทำ​อมพะนำ​ ไม่ได้​อธิบาย​ความเป็นมา​บน​มหา​มรรคา​ของ​พวกเขา​อย่าง​ชัดเจน​ บอก​แค่​ว่า​อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​ที่​พวกเรา​จุด​ธูป​กราบไหว้​ผู้​นั้น​ปรากฏตัว​น้อย​ครั้ง​ ไม่อย่างนั้น​พวก​เซียน​ผี​ที่​ละเมิด​กฎ​สวรรค์​ มีหนึ่ง​คน​ก็​ต้อง​สังหาร​หนึ่ง​คน​ เพราะเหตุใด​?

ใน​อดีต​อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​ได้​ตั้ง​ป้าย​ป่าวประกาศ​แก่​โลก​มืด​ไว้​ใน​สถานที่​ฝึก​ตน​ ‘สะบั้น​ความ​โง่เขลา​และ​ความ​ดึงดัน​ออกจาก​จักรวาล​ที่​สงบสุข​’

ก่อนที่​ร่าง​ของ​อู​ถีจะหาย​ไป​ เขา​เอ่ย​ว่า​ “หวัง​ว่า​วันหน้า​ทั้งสองฝ่าย​อย่า​ได้​เจอกัน​อีก​เลย​จะดีกว่า​”

เฉิน​ผิง​อัน​โบก​แส้ปัดฝุ่น​ที่​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ ยิ้ม​เอ่ย​ “แล้วแต่​วาสนา​”

รอ​กระทั่ง​ร่าง​ของ​อู​ถีหาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​ ลู่​เฉิน​ที่​นอนคว่ำ​อยู่​บน​กลีบ​ดอกบัว​ของ​กวาน​ดอกบัว​จ้อง​เป๋ง​มาที่​แส้ปัดฝุ่น​ใน​มือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เอ่ย​ว่า​ “ผิน​เต้า​สามารถ​ใช้เงินก้อน​ใหญ่​ซื้อ​ของ​ชิ้น​นี้​มาได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​แส้ปัดฝุ่น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ได้​สิ ขอ​แค่​ราคา​เหมาะสม​ ล้วน​สามารถ​พูดคุย​กัน​ได้​”

ลู่​เฉิน​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ก็​พลิกตัว​นอนหงาย​อยู่​ใน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ ยก​ขา​ไขว่ห้าง​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ไม่มีอะไร​ให้​คุย​กัน​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “อย่า​ลืม​ใต้เท้า​เจ้านคร​คน​ใหม่​ล่ะ​”

ลู่​เฉิน​กล่าว​ “มาแล้ว​ๆ”

เซียน​เห​ริน​อิ๋น​ลู่​เหมือน​ถูก​คน​กระชาก​ออก​มาจาก​ใน​ดินแดน​ลับ​ขุนเขา​สายน้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ แล้ว​เหวี่ยง​ลง​บน​ซาก​ปรัก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​อย่าง​แรง​

อิ๋น​ลู่​เห็น​เพียง​ว่า​นักพรต​คน​นั้น​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “มา เปิด​ประตู​ต้อน​รับแขก​ต่อ​สิ”

ภาพลวงตา​ภูเขา​แห่ง​แรก​ของ​ยันต์​สามภูเขา​ส่วน​นี้​ ทาง​ฝั่งของ​ราชวงศ์​อวิ๋น​เห​วิน​ ลู่​จือ​ได้ยิน​ว่า​สามารถ​อยู่​ที่นี่​ได้​ถึงหนึ่ง​ก้านธูป​ ดวงตา​ก็​พลัน​เป็นประกาย​ จ้อง​เป๋ง​ไป​ที่​นค​รอ​วี้​ป่าน​ที่​สูญเสีย​ค่าย​กล​กระบี่​ไป​

ลู่​จือ​ถือ​กระบี่​คู่​ไว้​ใน​มือ​ หนัน​หมิง​กับ​โหย​วเริ่น​ ปณิธาน​กระบี่​ก็​คือ​มรรค​กถา​ จำแลง​ออกมา​เป็น​ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​สอง​ชนิด​ ลู่​จือ​ยืน​อยู่​กลาง​น้ำ​ของ​สระ​สวรรค์​ ปลา​ใหญ่​สีเขียว​ตัว​หนึ่ง​ว่าย​อยู่​กลางอากาศ​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เอา​ตาม​กฎ​เดิม​ ข้า​รับผิดชอบ​ออก​กระบี่​ฟัน​คน​ เจ้าไป​ดัก​ขวางทาง​พลาง​หาเงิน​ไป​ด้วย​ พวกเรา​สอง​คน​ได้​คนละ​สี่ส่วน​ เก็บ​ไว้​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​สอง​ส่วน​”

ฉีถิงจี้พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

กลายเป็น​ ‘กฎ​เดิม​’ ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​?

เพียงแต่ว่า​รอ​จน​คน​ทั้งสอง​ขี่​กระบี่​เข้ามา​ใน​เมือง​กลับ​ผ่าน​มาได้​อย่าง​ราบรื่น​ แม้แต่​ค่าย​กล​ใหญ่​พิทักษ์​นคร​ก็​ยัง​ไม่ได้​เปิด​ใช้งาน​ ทำให้​ฉีถิงจี้ประหลาดใจ​เป็น​ทบ​ทวี​

ที่นี่​ไม่ใช่ว่า​มีเย่​พู่​ที่​เพิ่ง​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​หรอก​หรือ​? ดูเหมือนว่า​จะยังมี​สตรี​อีก​คน​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ด้วย​

ลู่​จือ​กล่าว​ “เฉิน​ผิง​อัน​คง​ไม่ได้​เหลือ​แค่​เศษซาก​น้ำแกง​เย็น​ๆ ไว้​ให้​พวกเรา​หรอก​นะ​?”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​เอ่ย​ “คง​ไม่ถึงขั้น​นั้น​หรอก​”

ในความเป็นจริง​แล้ว​เย่​พู่​ได้​พา​ป๋า​ยเริ่น​ออก​ไป​ไกล​จาก​นค​รอ​วี้​ป่าน​นาน​แล้ว​ บน​ร่าง​พก​ไป​แค่​วัตถุ​ฟางชุ่น​และ​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​เท่านั้น​ สรุป​ก็​คือ​สมบัติ​หนัก​ที่​สะดวก​ใน​การ​พกพา​ล้วน​หอบ​เอา​ไป​จน​เกลี้ยง​แล้ว​หนี​ไป​อย่าง​ลนลาน​ตื่นตระหนก​

ภาพมายา​ภูเขา​ที่​ตั้งอยู่​ระหว่าง​นคร​อวี้​ป่าน​กับ​นคร​เซียน​จาน​คือ​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​ภูเขา​ชุน​เจี้ยน​ ภูเขา​ลูก​นี้​เป็น​สีเขียวขจี​ปลั่ง​ราวกับ​จะคั้น​น้ำ​ได้​ น้ำ​ใสไหล​ยาว​ มีคำกล่าว​ของ​ตระกูล​เซียน​บอก​ไว้​ว่า​ท้อ​หลี​แต่ง​ให้​ลม​วสันต์​

หนิง​เหยา​หยุด​อยู่​ที่นี่​นาน​มาก​ เดินเล่น​ไป​ตลอดทาง​ ราวกับ​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะใช้เวลา​หนึ่ง​ก้านธูป​ให้​หมด​ ไม่ต่าง​จาก​ที่​ขุน​เขาใหญ่​ชิงซาน​ก่อนหน้านี้​สัก​เท่าไร​ ขอ​แค่​ไม่มาหาเรื่อง​นาง​ นาง​ก็​แค่​มาชมทัศนียภาพ​ของ​ที่​แห่ง​นี้​เท่านั้น​ สุดท้าย​หนิง​เหยา​มาหยุดพัก​ริม​ลำธาร​สาย​หนึ่ง​ ก็ได้​เห็น​ภาษาธรรม​ประโยค​หนึ่ง​บน​ป้าย​ศิลา​ แม้ใกล้​จะถูก​คม​ดาบ​ตัดหัว​ ก็​ยัง​มอง​เป็น​เหมือน​ลม​วสันต์​พัดผ่าน​

หนิง​เหยา​มอง​อย่าง​เหม่อลอย​อยู่​ด้าน​ พอ​หันหน้า​ไป​มอง​ก็​เห็น​ฉีถิงจี้กับ​ลู่​จือ​ สังเกตเห็น​ว่า​ลู่​จือ​คล้าย​จะอารมณ์ดี​ไม่น้อย​ ใบหน้า​มีรอยยิ้ม​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​

หนิง​เหยา​จึงรอ​ให้​คน​ทั้งสอง​จุด​ธูป​คารวะ​เสร็จ​ก่อน​แล้ว​ถึงได้​ไป​นคร​เซียน​จาน​ด้วยกัน​

ปรากฏตัว​ใน​อาณาเขต​ของ​นคร​เซียน​จาน​ ฉีถิงจี้ก็​ยื่น​นิ้ว​มานวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ “รู้​อยู่แล้ว​ว่า​ผลลัพธ์​น่าจะ​ออกมา​เป็น​แบบนี้​ รอ​จนได้​เห็นด้วย​ตา​ตัวเอง​ ก็​ยัง​…”

ลู่​จือ​พยักหน้า​เอ่ย​ “เรื่อง​อย่าง​การเก็บเงิน​ประเภท​นี้​ พวกเรา​สอง​คน​รวมกัน​ยัง​มีฝีมือ​ไม่มาก​พอ​ ก็ได้​แต่​เก็บตก​ของ​ที่​เหลือ​อยู่แล้ว​จริงๆ​”

รอ​กระทั่ง​พวกเขา​มาถึงซาก​ปรัก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​นคร​เซียน​จาน​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​จัดการ​กับ​อิ๋น​ลู่​เซียน​เห​ริน​ที่​เพิ่ง​เป็น​เจ้านคร​ได้​ไม่นาน​ไป​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​ได้​พื้นที่​มงคล​เห​ยาก​วง​แห่ง​นั้น​มาแล้ว​

มอบ​ยันต์​สามภูเขา​ส่วน​สุดท้าย​ให้​กับ​พวก​หนิง​เหยา​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “บางที​ข้า​อาจจะ​แอบ​อู้​ ไปหา​เหล้า​ดื่ม​ที่​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ก่อน​ พวก​เจ้าทำ​ธุระ​ที่นี่​เสร็จ​แล้วก็​สามารถ​ไป​รอ​ข้า​ที่​ลำคลอง​อู๋ติ้ง​ก่อน​ได้​”

หนิง​เหยา​พยักหน้า​รับ​ ถือ​ยันต์​เดินทางไกล​นำ​ไป​ก่อน​

ใน​อดีต​ตอน​ที่อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ นาง​ก็​ติดนิสัย​ปล่อย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ดื่มเหล้า​เพียงลำพัง​อยู่แล้ว​

ลู่​จือ​ถาม “ที่นี่​ยังมี​ของเหลือ​ให้​เก็บ​อีก​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “แน่นอน​ แม้ว่า​จะไม่มีเวลา​จำกัด​แล้ว​ แต่​พวก​เจ้าก็​พยายาม​ออกเดินทาง​ภายใน​หนึ่ง​ก้านธูป​แล้วกัน​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 859.2 ดึงแม่น้ำ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์