CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 865.3 ตัวต่อตัว

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 865.3 ตัวต่อตัว
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ใน​ดวงจันทร์​ดวง​หนึ่ง​

หนิง​เหยา​ ฉีถิงจี้ ลู่​จือ​ หาว​ซู่ อาศัย​ยันต์​เปิน​เย​ว่​ ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​จับมือ​กัน​บิน​ทะยาน​มาถึงที่​แห่ง​นี้​ ยืน​อยู่​ท่ามกลาง​ซาก​ปรัก​ยุค​บรรพกาล​ที่​มีแต่​กลิ่นอาย​ความตาย​เข้มข้น​

ใน​อดีต​ดวงจันทร์​สามดวง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ดวง​ที่​ถูก​ตั้ง​ชื่อว่า​อวี้​โก​ว​ (ตะขอ​หยก​) คือ​สถานที่​ฝึก​ตน​ของ​เจ้าอาราม​ดอกบัว​ ได้​ถูก​ต่ง​ซาน​เกิง​กระชาก​ดึง​ให้​กระแทก​ใส่โลก​มนุษย์​ไป​แล้ว​

ส่วน​สถานที่​ฝึก​ตน​ของ​เซ่อ​เย​ว่​มีชื่อว่า​ฉาน​กง​ (ดวงจันทร์​)

ส่วน​ดวงจันทร์​ดวง​ที่อยู่​ตรงกลาง​นี้​ มีชื่อว่า​จิน​จิ้ง (กระจก​ทอง​) หรือ​ก็​คือ​ดวงจันทร์​ดวง​เดียว​ที่​มีชื่อ​เรียก​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​ ‘เฮ่าไฉ่’ (แสงจันทร์​สุก​สกาว​)

หนิง​เหยา​เหลือบมอง​ม่าน​ฟ้า เอ่ย​ว่า​ “ข้า​รับผิดชอบ​ออก​กระบี่​เปิดทาง​ ขณะเดียวกัน​ก็​รับมือ​กับ​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​อาจ​เกิดขึ้น​”

สิงกวาน​หาว​ซู่ใช้วิชา​อภินิหาร​ของ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​มาทำการ​ ‘ปรับเปลี่ยน​’ ดวงจันทร์​ดวง​นี้​ชั่วคราว​

ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​รับผิดชอบ​ปล่อย​กระบี่​ไป​ยัง​ทิศทาง​เดียวกัน​ในเวลาเดียวกัน​ เพื่อ​ผลักดัน​ให้​ดวงจันทร์​เคลื่อนที่​ไป​ตาม​วิถี​โคจร​ที่​หนิง​เหยา​บุกเบิก​ไว้​ เคลื่อนย้าย​ดวงจันทร์​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ต่าง​คน​ต่าง​มีหน้าที่​ที่​ต้อง​รับผิดชอบ​

ใน​มือ​หนิง​เหยา​ถือ​กระบี่​เซียน​เทียน​เจิน​ เหลือบตา​มอง​มุมหนึ่ง​ของ​ม่าน​ฟ้า

จากนั้น​นาง​ก็​ใช้หนึ่ง​กระบี่​เปิด​ฟ้า

……

การ​พบ​เจอกัน​บน​ทางแคบ​ที่​ไม่รู้​ต้นสายปลายเหตุ​ ตก​อยู่​ใน​วงล้อม​ที่​จู่ๆ ก็​โผล่​มาอย่าง​น่า​ประหลาดใจ​นั้น​ เฝิงเซวี่ย​เทา​แค่​ลงมือ​ก็​เป็น​วิธีการ​ใหญ่​ที่​สามารถ​พลิก​ภูเขา​คว่ำ​มหาสมุทร​ ใน​รัศมี​พัน​ลี้​ ภูเขา​แต่ละ​ลูก​ถูก​ถอน​ขึ้น​มาพร้อมกับ​ราก​ แม่น้ำ​ลำธาร​แต่ละ​สาย​ต่าง​ก็​ถูก​ขว้าง​ใส่ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​ลอยตัว​อยู่​กลางอากาศ​พวก​นั้น​

ขณะเดียวกัน​เฝิงเซวี่ย​เทา​ก็​หยิบ​ยันต์​สีทอง​สอง​แผ่น​ที่​เก็บรักษา​อย่าง​ทะนุถนอม​มานาน​หลาย​ปี​ออกมา​ ยันต์​ทั้งสอง​ลอย​อยู่​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ หมุน​วน​ช้าๆ ใช้ยันต์​นาฬิกาแดด​มาระบุ​เวลา​ ใช้ยันต์​เข็มทิศ​มาระบุ​ตำแหน่ง​ฟ้าดิน​

ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​แห่ง​ป่า​เขา​ของ​ใต้​หล้า​ บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ของ​แต่ละคน​ล้วน​กลัว​ผู้ฝึก​กระบี่​ รำคาญ​อาจารย์​ค่าย​กล​ จับคู่​เข่นฆ่า​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ไม่เคย​ได้เปรียบ​ และ​หาก​ใน​กลุ่ม​ของ​ศัตรู​มีอาจารย์​ค่าย​กล​อยู่​ด้วย​ก็​เท่ากับ​ตก​อยู่​ใน​วงล้อม​แล้ว​

เฝิงเซวี่ย​เทา​เคย​เผชิญ​กับ​ความยากลำบาก​ด้วย​น้ำมือ​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​สอง​ประเภท​นี้​มาก่อน​ อีก​ทั้ง​จำนวน​ครั้ง​ยัง​ไม่น้อย​

เฝิงเซวี่ย​เทา​ไม่ได้​หงุดหงิด​ใจเพราะ​สาเหตุนี้​ ใน​ฐานะ​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ อันตราย​แบบ​ใด​ไม่เคย​เจอ​มาก่อน​ สถานการณ์​ที่​ตาย​เก้า​รอด​หนึ่ง​ก็​ไม่ใช่ว่า​เคย​เจอ​แค่​ครั้ง​สอง​ครั้ง​เท่านั้น​

ในขณะที่​หยั่งเชิง​ความจริง​เท็จ​ เฝิงเซวี่ย​เทา​ก็ได้​ร่าย​วิชา​หลบหนี​แห่ง​ชะตาชีวิต​วิชา​หนึ่ง​ เรือน​กาย​สลาย​หาย​ไป​ ร่าง​หด​เล็ก​กลายเป็น​แสงทอง​เมล็ด​งาเมล็ด​หนึ่ง​ ขณะเดียวกัน​ก็​มีควัน​ดำ​ซัด​ตลบอบอวล​ ก่อน​จะมีไอ​น้ำ​ลอย​ล่อง​กับ​รุ้ง​ขาว​เส้น​หนึ่ง​ที่​พุ่ง​ไป​กลางอากาศ​ หลบหนี​ห่าง​ไป​ไกล​ใน​สี่ทิศทาง​

ไม่มีผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​ปีศาจ​คนใด​ขัดขวาง​เฝิงเซวี่ย​เทา​ แล้วก็​มอง​เมิน​วิชาการ​โจมตี​พวก​นั้น​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​

ผู้ฝึก​ตน​ที่​มีรูปโฉม​เป็น​เด็กชาย​คลี่​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ “ตั๊กแตน​หลัง​ฤดูใบไม้ร่วง​ เชิญกระโดดโลดเต้น​ตามใจ​”

ผู้ฝึก​ตน​ภาค​แผนภูมิ​สวรรค์​สิบ​คน​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ขัดขวาง​เส้น​ทางการ​กลับ​เหนือ​ของ​เฝิงเซวี่ย​เทา​

คนเดียว​ที่มา​ช้าก็​คือ​หลิว​ป๋า​ย​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​เพิ่ง​ออก​มาจาก​กลุ่ม​ของ​เฝ่ย​หรา​น​

นาง​อาศัย​ชุด​คลุม​อาคม​ ‘ถ้ำสวรรค์​หางปลา​’ ที่​โจว​มี่ผู้​เป็น​อาจารย์​มอบให้​เดิน​ไป​บน​ทางลัด​ขึ้น​ฟ้าเส้น​หนึ่ง​ ได้​สยบ​จิต​มาร​ที่​จำแลง​มาจาก​คอขวด​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ได้​สำเร็จ​

กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​นาง​ไม่เคย​เปิดเผย​ ใน​อดีต​ถึงขั้น​ที่ว่า​ขนาด​ใน​กระโจม​เจี่ยเซิน​ก็​ยัง​ไม่มีบันทึก​เอาไว้​ คาด​ว่า​นี่​คง​เป็น​การปฏิบัติ​พิเศษ​ที่​มีเพียง​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​โจเท่านั้น​จึงจะได้รับ​

พอ​หลิว​ป๋า​ย​มาถึง ค่าย​กล​ใหญ่​ก็​ถูก​เสริม​จน​สมบูรณ์​ จึงเริ่ม​รวบ​แห​ที่จับ​ปลา​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตัว​นั้น​มา

การ​ลงมือ​สี่ครั้ง​ก่อนหน้า​ สอง​คน​คือ​คน​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กันเอง​ แต่​เพราะว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่ยอม​คล้อยตาม​ เรื่อง​ที่​เฝ่ย​หรา​น​ได้​เป็น​ผู้​ครอง​ใต้​หล้า​และ​ยาม​ที่​มีคำสั่ง​โยกย้าย​กองกำลัง​จาก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ แม้ภายนอก​จะปฏิบัติตาม​ แต่​ลับหลัง​กลับ​ต่อต้าน​

และ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​หยก​ดิบ​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มานาน​นับ​พันปี​ ส่วน​การ​ลงมือ​ครั้งสุดท้าย​ก็​คือ​ล้อม​ฆ่าผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ที่​ชอบ​เก็บตก​ของดี​ของ​ไพศาล​คน​นั้น​ จากนั้น​ก็​เล่น​ตุกติก​บางอย่าง​บน​ร่าง​ของ​คน​ผู้​นั้น​ ไม่อย่างนั้น​อีก​ฝ่าย​ก็​คง​ไม่ใช่แค่​ขอบเขต​ถดถอย​กลายเป็น​ก่อกำเนิด​อย่าง​เรียบง่าย​เท่านั้น​

แม้จะบอ​กว่า​การกระทำ​นี้​เป็นการ​ลงมือ​อย่าง​ลับ​ๆ แต่​พวกเขา​ก็​ไม่คิด​ว่า​จะต้อง​สำเร็จ​เสมอไป​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ที่​ฉิงจีก็​มีเจ้านคร​จักรพรรดิ​ขาว​ ผู้​ที่​ครอง​ยศ​พญา​มาร​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ใต้​หล้า​เฝ้าพิทักษ์​อยู่​ หาก​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ย่อม​ไม่นับ​เป็น​อะไร​ได้​ เพราะ​แม้แต่​เย่​พู่​จาก​ราชวงศ์​อวิ๋น​เห​วิน​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​เพิ่ง​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​แค่​ไม่กี่​วัน​ก็​กล้า​ตั้งฉายา​ให้​ตัวเอง​ว่า​ ‘ตู๋ปู้’​ (ก้าวเดิน​บน​เส้นทาง​เพียงลำพัง​) แล้ว​ ทว่า​เจิ้งจวี​จงที่​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ฝ่าย​อธรรม​คน​หนึ่ง​ กลับ​สามารถ​หยัดยืน​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ได้​อย่าง​มั่นคง​ ย่อม​ต้อง​มีน้ำหนัก​อย่าง​มาก​ นอกจากนี้​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​บน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ทุกคน​ก็​ยัง​จด​จำได้​จน​วันนี้​ เป็นเหตุให้​หลังจาก​การประชุม​ที่สอง​ใต้​หล้า​เจรจา​กัน​ไม่สำเร็จ​ครั้งนั้น​ผ่าน​ไป​ ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​เริ่ม​มีคำกล่าว​หนึ่ง​แพร่​ออก​ไป​

ยินดี​เอา​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สามคน​ไป​แลก​กับ​เจิ้งจวี​จงคนเดียว​

นอกจาก​เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​แล้ว​ ยังมี​ฮว่อ​หลง​เจิน​เห​ริน​ที่​เคย​ลงมือ​ใน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ครั้งหนึ่ง​ หลิ่ว​ชีที่​พอ​หวนกลับ​บ้านเกิด​อย่าง​ไพศาล​ก็​รุด​มาขัดขวาง​หย่า​งจื่อ​ไว้​ทันใด​ รวมไปถึง​เฉิน​ผิง​อัน​อิ่น​กวาน​ผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ และ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เฉาสือ​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ คน​ทั้งสิ้น​สิบ​คน​ต่าง​ก็​ถูก​มองว่า​เป็น​บุคคล​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​คาดหวัง​ให้​อีก​ฝ่าย​เปลี่ยน​ข้างมาก​ที่สุด​

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ยิ้ม​หน้าทะเล้น​ “โอ้​ วันนี้​พี่​หญิง​หลิว​ป๋า​ย​ว่าง​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​ ถึงกับ​มีเวลา​มาที่นี่​ได้​? หาก​มาช้ากว่า​นี้​อีก​สักนิด​ ไม่แน่​ว่า​พวกเรา​สี่คน​คง​จับ​ปลา​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อย่าง​ชิงมี่ตัว​นี้​ไว้​ไม่ได้​แล้ว​นะ​ ถ้าเป็น​อย่างนั้น​ยัง​ถือว่า​ดี​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​ถูก​เฝ่ย​หรา​นท​วง​หนี้​ แต่​หาก​นิสัย​ดุร้าย​ของ​ชิงมี่กำเริบ​ ฆ่าคน​ส่งเดช​ขึ้น​มา พวกเรา​ที่​แขนขา​เล็ก​ขอบเขต​ไม่สูง จะไม่ตาย​แหงแก๋​หรอก​หรือ​ หาก​เป็น​เช่นนี้​จริง​ พี่​หญิง​หลิว​ป๋า​ย​ก็​น่าจะ​ถือว่า​เป็น​ผู้​มีพระคุณ​ช่วยชีวิต​พวกเรา​เก้า​คน​ได้​แล้ว​สินะ​?”

หลิว​ป๋า​ย​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “จะสอน​เจ้าอีก​สัก​เรื่อง​ก็แล้วกัน​ เวลา​ที่​พูดจา​เหน็บแนม​คนอื่น​ สีหน้า​ควรจะ​จริงจัง​กว่า​นี้​สักหน่อย​ ไม่อย่างนั้น​ก็​มีแต่​จะดู​เป็น​พวก​ปาก​ไร้​หูรูด​”

เด็กหนุ่ม​ที่​สวม​ชุด​คลุม​ยา​วสี​ขาวโพลน​สวมหน้ากาก​สีขาว​หิมะ​ไว้​บน​ใบหน้า​ ชาย​แขน​เสื้อ​ใหญ่​สอง​ข้าง​ห้อย​ตกลง​เป็น​เส้นตรง​ นามแฝง​คือ​ชิวอ​วิ๋น​ คือ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ขอบเขต​ยอดเขา​คน​หนึ่ง​ ตรง​เอว​พก​ดาบ​แคบ​ไว้​เล่ม​หนึ่ง​

ดาบ​แคบ​มีชื่อว่า​ ‘ตี้​จี’ (สนม​ของ​จักรพรรดิ​หรือ​บุตรสาว​ของ​ชนชั้นสูง​) เป็น​สมบัติ​หนัก​ยุค​บรรพกาล​ที่​มีฐานะ​พอๆ กับ​ดาบ​แคบ​ ‘พิฆาต​’ ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​มาจาก​ใน​คุก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

สรวงสวรรค์​ยุค​บรรพกาล​ ใต้​อาณัติ​ของ​ผู้​ลงทัณฑ์​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​เทพ​ชั้นสูง​ก็​มีสี่ขุนนาง​ด้าน​การ​ลงทัณฑ์​ เซี่ย​กวน​จิ้น​อวิ๋น​ที่​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​รับหน้าที่​ดูแล​แท่น​สังหาร​มังกร​ที่​เอา​มาใช้จัดการ​กับ​พวก​เผ่า​พันธ์​เจียว​หลง​โดยเฉพาะ​ ชิวกวน​ป๋า​ยอวิ๋น​ รับหน้าที่​ลงทัณฑ์​ใน​บ่อ​สายฟ้า​

ชิวอ​วิ๋น​ถอนหายใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “เฮ้อ​ ยังคง​เป็น​พี่​หญิง​หลิว​ป๋า​ย​ที่​มีความรู้​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​คนรัก​ซึ่งไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​พวกเรา​”

แต่​แล้ว​จู่ๆ เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ก็​ตบ​บ้องหู​ตัวเอง​ “ดู​ปาก​ข้า​นี่​สิ พูด​เรื่อง​ไหน​ไม่พูด​ ดัน​พูด​เรื่อง​จี้ใจดำ​คนอื่น​เสียได้​”

หลิว​ป๋า​ย​เงียบ​ไม่ต่อ​คำ​

เด็กหนุ่ม​จึงไม่พูดจา​ท้าทาย​หลิว​ป๋า​ย​อีก​ สายตา​ของ​เขา​ฉาย​ประกาย​ระยิบระยับ​ พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ไม่รู้​ว่า​เฉาสือ​ผู้​นั้น​จะใช่พวก​คน​ที่​มีแต่​ชื่อเสียง​จอมปลอม​หรือไม่​”

จู๋เชี่ย​ยังคง​แต่งกาย​ดังเดิม​ สะพาย​ชั้น​วาง​กระบี่​ไว้​ด้านหลัง​ กระบี่​ยาว​เสียบ​รวมกัน​ไว้​หนาแน่น​ มองดู​แล้ว​ประหนึ่ง​นกยูง​รำแพน​หาง​

เขา​เริ่ม​คิดถึง​วัน​เวลา​ตอน​ที่อยู่​กระโจม​เจี่ยเซิน​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​ จะดี​จะชั่ว​ก็​ยังมี​มู่จีหรือ​ก็​คือ​โจว​ชิงเกา​ใน​ทุกวันนี้​ที่​สามารถ​สยบ​ใจคน​ได้​

ผู้ฝึก​ตน​แผนภูมิ​ฟ้ากลุ่ม​นี้​ สมอง​ของ​แต่ละคน​ผิดปกติ​ไม่แพ้​กัน​ หลาย​ปี​มานี้​ถูกจับ​เอา​มารวมกัน​ ก็​มีเพียง​ตอน​อยู่​กับ​เฝ่ย​หรา​น​เท่านั้น​ที่​ถึงจะว่าง่าย​หน่อย​

ผู้ฝึก​ตน​ที่​มีลักษณะ​เป็น​เด็กชาย​ มีชื่อว่า​อวี้ผู​ (หยก​ดิบ​)

ตรง​เอว​ห้อย​ถุงผ้าฝ้าย​ แกะสลัก​ตัวอักษร​ไว้​สี่คำ​ว่า​ ‘ยันต์​ภูเขา​สาร​มหาสมุทร​’ ด้านใน​บรรจุ​ยันต์​จำนวน​น่าดู​ชมเอาไว้​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​ของ​ตกทอด​ของ​ตำหนัก​อวี้ฝู​ และ​ยิ่ง​เป็น​ของ​แทน​ตัว​ของ​เจ้าตำหนัก​

สาย​ยันต์​มีธรณีประตู​สูง เมื่อ​ต้อง​ฝึกฝน​ขึ้น​มา ขอ​แค่​มีคุณสมบัติ​ดี​พอ​ หาก​เทียบ​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ทั่วไป​แล้วก็​สามารถ​ผลาญ​ภูเขา​เงิน​ภูเขา​ทอง​ได้​มากกว่า​เสีย​อีก​

ดังนั้น​ผู้ฝึก​ตน​สาย​ยันต์​เผ่า​ปีศาจ​ที่​มีนาม​ว่า​อวี้ผู​ผู้​นี้​จึงเลื่อมใส​หลิว​จวี้​เป่า​แห่ง​ธวัล​ทวีป​มาก​ที่สุด​ ชื่นชม​ความสามารถ​ใน​การ​หาเงิน​ของ​นาย​ท่าน​เทพเจ้า​แห่ง​โชคลาภ​ท่าน​นี้​ เพราะ​ถึงอย่างไร​สาย​ของ​ยันต์​ หาก​คิด​จะเดิน​ขึ้น​สู่ยอด​สูงสุด​ เงิน​เทพ​เซียน​ก็​ไม่เรียก​ว่า​เงิน​เลย​ด้วยซ้ำ​

สตรี​ผู้​หนึ่ง​ห้อย​ไข่มุก​สีทอง​เม็ด​หนึ่ง​ไว้​ที่​หู​ ประกาย​แสงไข่มุก​อ่อนโยน​ มีริ้ว​ลายน้ำ​กระเพื่อม​ สาด​สะท้อน​ใบ​หน้าซีก​หนึ่ง​ของ​สตรี​ ก่อให้เกิด​เส้น​แบ่ง​ที่​ชัดเจน​ นาง​มีนาม​ว่า​จิน​ตัน​ (โอสถ​ทอง​)

บุรุษ​เรือน​กาย​สูงใหญ่​ สีหน้า​เฉยชา​คน​นั้น​ ตรง​เอว​ห้อย​ขวาน​ขนาด​จิ๋ว​คู่​หนึ่ง​ ใน​มือถือ​โคม​ดวง​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ชักนำ​ดวงวิญญาณ​ไป​ยัง​ปรโลก​ เขา​มีนาม​ว่า​หยวน​อิง​ (ก่อกำเนิด​)

นอกจากนี้​ยังมี​บุรุษ​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​หาบ​ลำ​ไม้ไผ่​ห้อย​น้ำเต้า​ไว้​บน​บ่า​ มีชื่อว่า​อวี๋​ซู่

เชี่ยวชาญ​การ​คิด​คำนวณ​มรรค​กถา​ จินตนาการ​ถึงเทพ​เซียน​ สามารถ​ปั้น​ดิน​เป็น​ม้า วัก​น้ำ​จำแลง​เป็น​เรือ​กลวง​

นอกจากนี้​อวี๋​ซู่ยัง​เชี่ยวชาญ​วิถี​ยันต์​เช่นเดียวกับ​อวี้ผู​ โยน​ยันต์​บังคับ​ผี​ภูเขา​เผ่าพันธุ์​น้ำ​ให้​มาฟังคำสั่ง​

สตรี​เรือน​กาย​สูงเพรียว​ที่​ยืน​เคียงข้าง​เขา​คือ​น้องสาว​ขอ​งอ​วี๋​ซู่

นาง​เอวบางร่างน้อย​ แต่กลับ​สะพาย​ธนู​คัน​ใหญ่​ มือ​เรียว​งามดุจ​หยก​ข้าง​หนึ่ง​คอย​หมุน​กริช​เล่น​อยู่​ตลอดเวลา​ มีนาม​ว่า​เหย่า​เถี่ยว​ นาง​เอง​ก็​เหมือนกับ​ชิวอ​วิ๋น​ นอกจาก​จะเป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​แล้ว​ ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​อีกด้วย​

“สาวงาม​ผอมบาง​เหมือน​เหมย​ เหมย​ผอม​งดงาม​ดุจ​กวี​”

ดวงจิต​ดวง​หนึ่ง​ของ​เจียง​ซ่างเจิน​ที่​สิงอยู่​บน​ร่าง​ของ​ผู้อาวุโส​ชิงมี่ไม่ได้​อยู่​นิ่งเฉย​ เหลือบตา​มอง​หน้าอก​ของ​สตรี​ผู้​นั้น​ ใน​ใจก็​อดไม่ไหว​พึมพำ​ว่า​ “ส้มจี๊ด​ก็​เป็น​ส้มเหมือนกัน​นี่​นะ​”

ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​นั้น​ไม่ควร​เรียก​พี่สาว​ ควร​เรียก​ท่าน​น้า​ แต่กลับ​มีเสน่ห์​ที่​ต่าง​ออก​ไป​โดยสิ้นเชิง​ รูปร่าง​กลมกลึง​ดุจ​ไข่มุก​กลม​หยก​แวววาว​ ดูแลตัวเอง​ได้​ดีเยี่ยม​นัก​

น่าเสียดาย​ที่​สตรี​ซึ่งสะพาย​ห่อ​พิณ​เอียง​ๆ ผู้​นี้​ บน​ใบหน้า​สวมหน้ากาก​เอาไว้​จึงมองเห็น​โฉมหน้า​ของ​นาง​ได้​ไม่ชัด​

ก็​แค่​ว่า​ภาพ​กาย​ธรรม​ที่​แสดง​อยู่​ด้านหลัง​ของ​นัก​ดีด​พิณ​ผู้​นี้​น่าขนลุก​ไป​สักหน่อย​ มีผี​ที่​แขวนคอ​ตาย​อยู่​นับไม่ถ้วน​ ศพ​แต่ละ​ศพ​ลอย​เท้งเต้ง​อยู่​กลางอากาศ​ ไม่สัมผัส​ฟ้าไม่สัมผัส​ดิน​

ใน​มือถือ​พัด​กลม​ที่​วาด​เป็น​รูป​สาวงาม​นับ​พัน​นับ​หมื่น​ ล้วน​มีใบหน้า​ของ​สาวงาม​แต่​เรือน​กาย​เป็น​กระดูก​ขาว​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ผี​ดุร้าย​ที่​หน้าตา​น่า​หวาดผวา​พวก​นั้น​แล้ว​ยิ่ง​ทำให้​คน​ทน​มอง​มิได้​มาก​ยิ่งกว่า​

สตรี​ผู้​นี้​เชี่ยวชาญ​การ​สร้าง​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ นิมิต​ภาพ​แม่น้ำ​ลำคลอง​ที่​ไม่แน่นอน​เส้น​หนึ่ง​ขึ้น​มาเพื่อ​กระชาก​คน​ออกจาก​ฝัน​วสันต์​อัน​งดงาม​ หลังจากที่​สวมหน้ากาก​แล้ว​ จิต​ธรรม​ของ​นาง​ที่​แสดง​อยู่​ด้านหลัง​ก็​คือ​ภาพ​ของ​ศพ​ที่​ตาย​ด้วย​การ​แขวนคอ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ซึ่งลอย​ล่อง​ และ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​กระบี่​บิน​นาง​ สามารถ​ทำให้​กาลเวลา​หยุดนิ่ง​ ความตาย​คือ​การ​หลับ​ใหญ่​ครั้งหนึ่ง​ การ​นอนหลับ​ก็​คือ​การตาย​เล็ก​ครั้งหนึ่ง​ ส่วน​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​นาง​นั้น​ อันที่จริง​ก็​คือ​พิณ​โบราณ​คัน​นั้น​ กระบี่​บิน​มีชื่อว่า​ ‘จิงกวน​’ (การ​ทำสงคราม​ใน​สมัยโบราณ​ เพื่อ​โอ้อวด​ฝีมือ​ทางการ​สู้รบ​ ฝ่าย​ผู้ชนะ​จะรวบรวม​เอา​หัวกะโหลก​ของ​ฝ่าย​ศัตรู​มากอง​รวมกัน​ให้​กลายเป็น​สุสาน​สูงที่​มีแต่​โครงกระดูก​ เรียก​ว่า​จิงกวน​)

ตอนนี้​เจียง​ซ่างเจิน​ยัง​ไม่รู้​ว่า​นาง​มีชื่อว่า​อู่​เมิ่ง (ฝันกลางวัน​) ฉายา​ว่า​ชุน​เซียว​ (ค่ำคืน​วสันต์​ ค่ำคืน​ที่​งดงาม​ อีก​ความหมาย​คือ​ค่ำคืน​ของ​การ​ร่วม​หอ​)

เจียง​ซ่างเจิน​รู้สึก​อยุติธรรม​แทน​ผู้อาวุโส​ชิงมี่อยู่​บ้าง​ “เจ้าลูก​กระต่าย​น้อย​ที่​อย่าง​มาก​สุด​ก็​เป็น​แค่​ขอบเขต​หยก​ดิบ​พวก​นี้​ ถึงกับ​กล้า​มาล้อม​ฆ่าลูก​พี่ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ที่​มีชาติกำเนิด​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ แล้ว​ยัง​ชำนาญ​การ​ฆ่าคน​มาก​ที่สุด​ เสียสติ​กัน​ไป​แล้ว​หรือ​ไร​”

เฝิงเซวี่ย​เทา​ได้​แต่​ยิ้ม​จืด​เจื่อน​ ไม่รู้สึก​ตลก​เลย​สัก​นิดเดียว​

เฝิงเซวี่ย​เทา​มีวิชา​อภินิหาร​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​เสียเปล่า​ เสียง​ใน​ใจที่อยู่​ใกล้​ใน​ระยะ​ประชิด​ถึงเพียงนั้น​ ต่อให้​จะชัดเจน​จน​ชัดเจน​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ทว่า​ความ​ห่าง​เพียง​เสี้ยว​กลับ​มีความต่าง​ราว​ฟ้ากับ​ดิน​

ใน​ค่าย​กล​ใหญ่​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​ขอบเขต​ไม่สูงเหล่านั้น​ไม่ใช่ภาพมายา​ และ​ทุกครั้งที่​อีก​ฝ่าย​ลงมือ​ก็​ล้วน​ช่วงชิง​ฟ้าอำนวย​ดิน​อวยพร​ไป​ได้​หมด​

อีก​ทั้ง​ใน​ฟ้าดิน​แห่ง​นี้​ยังมี​ภาพ​เหตุการณ์​ผิดปกติ​ปรากฏ​ขึ้น​ ดวงตะวัน​ลอย​ขึ้น​สูง ดวงจันทร์​ลดตัว​ลง​ต่ำ​ ดวงดาว​เคลื่อน​คล้อย​ ทิวา​ราตรี​สลับ​เปลี่ยน​ เสียง​ฟ้าร้อง​ฤดูใบไม้ผลิ​ดัง​ครืนครั่น​ ฝน​รส​หวาน​ชุ่มฉ่ำตกลง​มาจาก​ฟ้า ระหว่าง​หุบเขา​มีเมฆก่อเกิด​ จากนั้น​ก็​เป็น​วงจร​ของ​ทิวา​ราตรี​ สี่ฤดูกาล​ผลัดเปลี่ยน​ วันแล้ววันเล่า​ ปีแล้วปีเล่า​ ดวงตะวัน​ลาลับ​แสงเรื่อ​เรือง​ดับ​หาย​ ดวงดาว​ลอย​ขึ้น​สู่นภา​ราตรี​ส่อง​ประกาย​พร่างพราว​ดุจ​ธาร​น้ำ​ นอกจากนี้​ยังมี​ฝน​จาก​วัง​มังกร​ เมฆคล้อย​ฝน​โปรย​ ทางช้างเผือก​เผย​ตัว​ ชำระล้าง​ไอ​ร้อน​ ตะวัน​จันทรา​ดารา​ประจักษ์ชัด​ อากาศ​เย็น​สดชื่น​ หิมะ​ใหญ่​ปลิว​ปราย​ พืชพรรณ​ก่อกำเนิด​…การเปลี่ยนแปลง​ของ​ภาพ​บรรยากาศ​มากมาย​รวดเร็ว​จน​คน​มอง​มิอาจ​กะพริบตา​ได้​

กุญแจ​สำคัญ​คือ​เมื่อ​สี่ฤดูกาล​หมุนเวียน​หนึ่ง​ครั้ง​ก็​จะเป็นการ​ลดทอน​ตบะ​หนึ่ง​ปี​ของ​เฝิงเซวี่ย​เทา​ไป​ เป็นเหตุให้​ตบะ​ที่​เฝิงเซวี่ย​เทา​สะสมมาอย่าง​ยากลำบาก​ตอน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คล้าย​กับ​กาน้ำ​ที่​มีรูรั่ว​ใบ​หนึ่ง​ ไม่ว่า​จะปิดกั้น​อย่างไร​ก็​มิอาจ​สกัดกั้น​การ​ไหล​หาย​ไป​ของ​น้ำ​ใน​กา​ได้​

พริบตา​นั้น​ขุนเขา​สายน้ำ​พลัน​เปลี่ยนสี​ ราวกับว่า​กลายเป็น​ภาพวาด​น้ำหมึก​ที่​มีแค่​สีขาว​กับ​สีดำ​เท่านั้น​ เป็นเหตุให้​เฝิงเซวี่ย​เทา​ยิ่ง​รู้สึก​เหมือน​ตกลง​ไป​ใน​ม่าน​หมอก​

โชคดี​ที่​เจ้าคน​ที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​ ‘เปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​’ ผู้​นั้น​ส่งเสียง​ใน​ใจขึ้น​มาอีกครั้ง​ ชี้แนะ​ให้​เฝิงเซวี่ย​เทา​ใช้เส้นทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​ที่​ต้อง​ผ่าน​แผนภูมิ​เฉิน​ ซวี​และ​ซื่อ​ ขยับ​ร่าง​ไป​ยัง​พื้นดิน​ที่​มีกลิ่นอาย​ของ​ดิน​สมบูรณ์​ ต้อง​หลบเลี่ยง​แสงไฟไป​ให้ได้​ ไม่อย่างนั้น​จะตก​อยู่​ใน​สภาวะ​อันตราย​ประดุจ​อัญมณี​หล่น​ลง​ใน​เตา​หลอ​ม…แล้วก็​จริง​ดัง​คาด​ นอกจาก​จุด​ที่​เฝิงเซวี่ย​เทา​รีบ​ทะยาน​ลม​มุ่งหน้า​ไป​หยุด​ยืน​อยู่แล้ว​ ฟ้าดิน​บริเวณ​อื่น​ล้วน​เกิด​ไฟลุกไหม้​โหม​ลาม​ นั่น​คือ​จุดจบ​ที่​ไม่ใช่แค่​ว่า​ถูก​ค่าย​กล​ใหญ่​ลดทอน​ตบะ​ไป​หนึ่ง​ปี​แล้ว​

ต่อมา​ใต้​ฝ่าเท้า​ก็​มีแม่น้ำ​ใหญ่​ที่​ผิวน้ำ​กว้างขวาง​มาก​เส้น​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​มา

เจียง​ซ่างเจิน​เอ่ย​เตือน​อีกครั้ง​ “ผู้อาวุโส​ชิงมี่อย่า​มัว​อึ้ง​ตะลึง​ รับ​กระบวนท่า​ถัดไป​เข้า​สิ นี่​คือ​ภาพมายา​สาขา​แยก​ของ​สายน้ำ​ใหญ่​ ทะยาน​ลม​ผ่าน​ไป​ ไม่ต้อง​สนใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ แค่​ต้อง​จำเวลา​ที่​ตัวเอง​คำนวณ​ไว้​อย่าง​แม่นยำ​ คำนวณ​ระยะทาง​ให้​ดี​ เส้นทาง​หนี​คือ​หมื่น​ลี้​ ไม่มาก​ไม่น้อย​”

“หลังจาก​หยุด​เท้า​ก็​สามารถ​รับ​การ​โจมตีจาก​เวท​คาถา​บท​ต่อไป​ได้​แล้ว​ หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ ท่าน​จะได้​เห็น​ภาพมายา​ลักษณะ​คล้าย​พระราชวัง​แห่ง​หนึ่ง​ เมื่อ​เข้าไป​อยู่​ใน​เขาวงกต​แล้วก็​ไม่ต้อง​ตื่นตระหนก​ ข้า​จะช่วย​นำทาง​ให้​ผู้อาวุโส​ต่อ​อีกครั้ง​”

เฝิงเซวี่ย​เทา​ทะยาน​ลม​ไม่หยุด​ ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “ขอ​ถามสหาย​ นี่​เป็น​เพราะเหตุใด​?”

เจียง​ซ่างเจิน​เอ่ย​อย่าง​อ่อนใจ​ “เป็น​ผู้อาวุโส​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ อายุ​ก็​ตั้ง​ปูน​นี้​แล้ว​ ไม่เคย​อ่านหนังสือ​มาบ้าง​เลย​หรือ​? เวลา​หลาย​พันปี​ที่ผ่านมา​มัว​ทำ​อะไร​อยู่​นะ​?”

เฝิงเซวี่ย​เทา​บื้อ​ใบ้​ตอบ​ไม่ถูก​

เจียง​ซ่างเจิน​จึงได้​แต่​อธิบาย​อย่าง​มีน้ำอดน้ำทน​ว่า​ “เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงไม่ได้​เปิด​เผยความลับ​สวรรค์​อยู่​ใน​บท​ฟ้าดิน​นั่น​นาน​แล้ว​หรอก​หรือ​ ทะยาน​เมฆขาว​ มุ่งไป​แดน​จักรพรรดิ​ นอกจากนี้​ยังมี​กวี​เฟิ่น​ซ่างจิงชิว​ (ตกตะลึง​กับ​อากาศ​หนาวเย็น​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง​เหนือ​ลำน้ำ​) บอ​กว่า​ลม​เหนือ​พัด​เมฆขาว​ ข้าม​ลำน้ำ​แยก​หมื่น​ลี้​”

เฝิงเซวี่ย​เทา​ถาม “ทำไม​อีก​ฝ่าย​ถึงไม่เล่น​ตุกติก​ระหว่างทาง​?”

เจียง​ซ่างเจิน​เหลือก​ตา​มอง​บน​ “เดินทาง​อยู่​บน​มหา​มรรคา​ กฎเกณฑ์​แห่ง​ฟ้าทอด​ยาว​ ลูก​กระต่าย​อายุ​น้อย​ที่​เพียงแค่​อาศัย​ชะตา​ฟ้าโคจร​มรรค​กถา​พวก​นี้​ ทุกวันนี้​ขอบเขต​ยัง​ไม่สูง ไหน​เลย​จะกล้า​วาด​งูเติม​ขา​อย่าง​ส่งเดช​ หาก​ไม่ระวัง​ก็​จะเป็นการ​เปิดเผย​ช่องโหว่​ ปล่อย​ให้​ผู้อาวุโส​ชิงมี่คว้า​โอกาส​หนี​รอดไป​ได้​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ยัง​หิ้ว​หัว​สอง​สามหัว​ไป​เป็น​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​อีกด้วย​”

“ก็​เหมือนกับ​ฟ้าดิน​แห่ง​นี้​ สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​ยัง​หนี​ไม่พ้น​กฎเกณฑ์​ตายตัว​บน​มหา​มรรคา​ของ​เวท​อำ​พรางตา​ สิ่งที่​ถูก​อำพราง​ไว้​อย่าง​แท้จริง​ไม่ใช่ภาพ​ที่​ตา​มองเห็น​ แต่​เป็น​ความรู้สึก​ของ​ผู้อาวุโส​ชิงมี่เอง​ ไม่อย่างนั้น​เจ้าคน​พวก​นี้​จะสามารถ​เปลี่ยนแปลง​สี่ฤดูกาล​ของ​ฟ้าดิน​ได้​จริงๆ​ หรือ​? ดังนั้น​ยันต์​นาฬิกาแดด​และ​ยันต์​เข็มทิศ​ของ​ผู้อาวุโส​จึงไม่ใช่ว่า​ไร้​ความหมาย​ ตรงกันข้าม​เลย​ด้วยซ้ำ​ มัน​มีความหมาย​ที่สุด​เลย​ล่ะ​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ยิ่งกว่า​มรรค​กถา​ของ​ผู้อาวุโส​ด้วย​ ใช่แล้ว​ ใน​กระเป๋า​ของ​ผู้อาวุโส​ยังมี​อีก​กี่​แผ่น​? สามารถ​เอา​ออกมา​ทั้งหมด​ได้​”

พูดคุย​กับ​ผู้อาวุโส​ชิงมี่ช่างเปลือง​แรง​เสีย​จริง​

ยิ่ง​ทำให้​คิดถึง​วัน​เวลา​ที่​รบ​เคียงบ่าเคียงไหล่​กับ​เจ้าขุนเขา​คนดี​และ​น้อง​ชุย​มาก​ขึ้นไป​อีก​

ไหน​เลย​จะต้อง​เปลือง​น้ำลาย​ขนาด​นี้​ อย่าง​มาก​ก็​เป็น​แค่​เรื่อง​ของ​สาย​ตาเดียว​เท่านั้น​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 865.3 ตัวต่อตัว"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์