CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 867.3 ในภูเขามีอะไร

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 867.3 ในภูเขามีอะไร
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ซิ่ว​ไฉเฒ่าเอ่ย​ว่า​ “ชื่อ​ติด​กุ้ย​ป่าง​ (กระดาน​ประกาศ​ผลสอบ​ระดับ​มณฑล​) ดื่ม​สุรา​งานเลี้ยง​ลู่​หมิง​” (งานเลี้ยง​สำหรับ​ผู้​ที่​สอบ​ติด​ระดับ​เค​อจวี่)​

“รู้​ได้​อย่างไร​? หรือว่า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ดูดวง​เป็น​ด้วย​?”

“ดูดวง​หรือ​ ก็​พอ​จะเป็นอยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ เพียงแต่ว่า​อริยะ​ปราชญ์​เคย​กล่าว​ไว้​ว่า​ เรื่อง​ของ​การ​ดูดวง​ คนโบราณ​ไม่ทำ​เรื่อง​แบบนี้​ คน​มีความรู้​ก็​ดูแคลน​ที่จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​”

บุรุษ​อึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​ก็​หัวเราะ​ดังลั่น​ โบก​ตำรา​อริยะ​ที่​เพิ่งจะ​ถูก​ยกเลิก​คำ​สั่งห้าม​มาได้​ไม่นาน​เล่ม​ที่อยู่​ใน​มือ​ “มีเหตุผล​ มีเหตุผล​ คิดไม่ถึง​ว่า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จะเป็น​คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​ด้วย​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าลูบ​หนวด​ยิ้ม​ “นั่นสิ​ นั่นสิ​ คิดไม่ถึง​ว่า​สายตา​ของ​คนหนุ่ม​จะเฉียบแหลม​เช่นนี้​”

บุรุษ​ม้วน​ตำรา​เล่ม​นั้น​ กุม​หมัด​เขย่า​ “ไม่ว่า​จะอย่างไร​ก็​ขอให้​สมพรปาก​ท่าน​อาจารย์​ผู้เฒ่า​แล้วกัน​ ขอ​แค่​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​ ข้า​จะเลี้ยง​เหล้า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​เอง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​บาง​ๆ ไม่เอ่ย​อะไร​

บุรุษ​เก็บ​ตำรา​สอด​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เห็น​ว่า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ยัง​ยิ้ม​มอง​มาที่​ตน​ก็​ตบ​หัว​ตัวเอง​หนึ่ง​ที​ เอ่ย​อย่าง​คน​ที่​เพิ่งจะ​เข้าใจ​ “เกือบจะ​ลืม​บอก​กับ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ไป​แล้ว​ ข้า​ชื่อ​หลูห​ลิง​ชาง วัน​ที่ประกาศ​ผลสอบ​ หาก​สอบ​ติด​เป็น​จวี่​เห​ริน​ ข้า​จะมาตั้ง​กระดาน​หมา​กรอ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​อยู่​ที่นี่​ หาก​สอบ​ไม่ติด​ก็​คง​ต้อง​กลับ​บ้านเดิม​ไป​โดยตรง​แล้ว​”

“เยี่ยม​ไป​เลย​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าพยักหน้า​ “น้อง​หลู​ ขอให้​ข้า​พูดมาก​สัก​คำ​สอง​คำ​ รูปโฉม​ดีร้าย​ไม่ใช่ตัวกำหนด​โชคดี​หรือ​โชคร้าย​ ความสามารถ​สูงก็​มิควร​อารมณ์ร้อน​พลุ่งพล่าน​”

หลูห​ลิง​ชางพยัก​หน้ายิ้ม​รับ​ แต่​ก็​ไม่ได้คิด​เป็นจริงเป็นจัง​อะไร​ รอ​ให้​ข้า​ผู้อาวุโส​สอบ​ติด​จวี่​เห​ริน​แล้ว​ค่อย​สอบ​จิ้น​ซื่อ​ ในอนาคต​ได้​เป็น​ขุนนาง​แล้ว​ค่อย​มาพูด​กัน​ถึงเรื่อง​คุณธรรม​และ​ความสามารถ​ทัดเทียม​กัน​อะไร​นั่น​ก็แล้วกัน​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าลุกขึ้น​ยืน​ขอตัว​ลา​ หลูห​ลิง​ชางนั่ง​ยอง​อยู่​บน​พื้น​ เมื่อ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​เดิน​ออก​ไป​ได้​สอง​สามก้าว​แล้ว​หันหน้า​กลับมา​มอง​อีกครั้ง​ บุรุษ​ก็​ยิ้ม​พลาง​โบกมือ​อำลา​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าถอนหายใจ​ เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ก้าวเดิน​จากไป​

ลม​เหนือ​พัด​อากาศ​สกปรก​จากไป​ ลม​ใต้​พัดพา​เสียง​แห่ง​ความตาย​มาเยือน​ อุปสรรค​ใน​ชีวิต​สร้าง​ความทุกข์​ให้​ข้า​อย่าง​แท้จริง​

ยาม​เยาว์วัย​ไม่มานะ​ ยาม​แก่เฒ่า​ยัง​เกียจคร้าน​ ศึกษา​หา​ความรู้​ได้​หนึ่ง​พลาด​สิบ​ น้ำแข็ง​บน​บก​กับ​เมฆแข็ง​บน​ฟ้า แค่​เห็น​ดอก​เหมย​สายตา​ก็​จ้าแจ่ม

ซิ่ว​ไฉเฒ่าเกิด​แรงบันดาลใจ​ใน​การ​แต่ง​กลอน​ รู้สึก​เพียง​ว่า​เป็น​บทกวี​ที่​ดี​ ต่อให้​น้อง​ป๋า​ย​เห​ย่​มาอยู่​ที่นี่​ก็​คง​ต้อง​ข่ม​กลั้น​ความ​วู่วาม​ที่​อยาก​จะตบ​โต๊ะ​โห่ร้อง​ชอบใจ​เลย​กระมัง​

ตรอก​ที่ตั้ง​ของ​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​ ข้าง​กาย​ห​ลี่​ซีเซิ่งมีชุย​ซื่อ​เด็กรับใช้​ติด​ตามมา​ด้วย​ พวกเขา​พา​กัน​มาเที่ยว​เยือน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​

ก่อนหน้านี้​หลังจากที่​ห​ลี่​ซีเซิ่งออกจาก​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​กลับ​มายัง​อุตรกุรุทวีป​ ก็ได้​ไป​ศึกษา​หาความ​รู้อยู่​ใน​หอ​หนังสือ​ที่​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​แห่ง​นั้น​ต่อ​ จู่ๆ ก็​มีอาจารย์​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​มาเยือน​ถึงบ้าน​ ภายหลัง​ระหว่าง​ที่​ห​ลี่​ซีเซิ่งเดิน​ทางลง​ใต้​ก็ได้​เจอ​กับ​นักพรต​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​และ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​พอดี​

อันที่จริง​การ​ได้​กลับมา​เจอกัน​อีกครั้ง​ใน​คราวนี้​ สำหรับ​ห​ลี่​ซีเซิ่งแล้ว​ เขา​ออกจะ​กระอักกระอ่วน​อยู่​บ้าง​

ตง​ไห่​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ของ​อาราม​กวาน​เต๋า​กลับ​บันเทิง​เริงใจ​อย่าง​มาก​

ทุกวันนี้​ห​ลี่​ซีเซิ่งลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​แห่ง​ไพศาล​ได้​กลับมา​เจอ​กับ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ผู้​เป็น​อาจารย์​ของ​ตัวเอง​อีกครั้ง​ สรุป​แล้ว​ควรจะ​ก้ม​กราบ​คารวะ​แบบ​ลัทธิ​เต๋า​หรือ​ควรจะ​ประสานมือ​คารวะ​แบบ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ดี​เล่า​?

ผล​คือ​ห​ลี่​ซีเซิ่งก้มหัว​กราบ​คารวะ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ก่อน​ จากนั้น​จึงถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ประสานมือ​คารวะ​

หลังจากนั้น​ห​ลี่​ซีเซิ่งก็​พา​ชุย​ซื่อ​มาที่​เมืองหลวง​ หลัก​ๆ แล้ว​เป็น​เพราะ​ก่อนหน้านี้​ความเคลื่อนไหว​ของ​ที่นี่​รุนแรง​เกินไป​ ห​ลี่​ซีเซิ่งที่อยู่​ไกล​ถึงอุตรกุรุทวีป​ก็​ยัง​สัมผัส​ได้​ทางจิต​

กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ กล้าหาญ​ไร้​เทียมทาน​

ใต้​หล้า​สะเทือน​เลือน​ลั่น​แต่​ใจคน​ไม่พรั่น​ผวา​

ด้านหน้า​ของ​ตรอก​เล็ก​ หลิว​เจีย​เห็น​บุรุษ​สวม​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​บุคลิก​ไม่ธรรมดา​ยืน​อยู่​นอก​ตรอก​เล็ก​ จากนั้น​ก็​ขยับ​เท้า​เดิน​เข้ามา​ใน​ตรอก​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ารีบ​หันไป​มอง​ลูกศิษย์​ตัวเอง​ทันที​

เด็กหนุ่ม​ใช้สายตา​แทน​คำตอบ​ ทำไม​หรือ​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าเห็น​เขา​หัวทึบ​ก็ได้​แต่​ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “ควรจะ​ขวาง​ไว้​หรือไม่​?”

จ้าวต​วน​หมิง​ใช้เสียง​ใน​ใจตอบ​ “เอาเป็นว่า​ข้า​ไม่รู้จัก​เขา​ก็แล้วกัน​”

“แน่ใจ​รึ​? ไม่ลองดู​อีกที​ก่อน​หรือ​?”

“อาจารย์​ ไม่รู้จัก​จริงๆ​”

“ภาพเหมือน​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ตั้ง​วาง​ใน​ศาล​บุ๋น​มีเยอะ​ขนาด​นั้น​ เจ้าหนู​เจ้าลอง​คิดดู​ให้​ดี​ๆ อีกครั้ง​ เอา​สายตา​ที่​ลูกหลาน​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​สมควร​มีออกมา​ใช้หน่อย​”

“อาจารย์​ท่าน​ไม่รู้สึก​รำคาญ​บ้าง​หรือ​ไร​ ข้า​ไม่รู้จัก​เขา​จริงๆ​ ไม่คุ้นหน้า​เลย​สักนิด​!”

“ตวน​หมิง​ เจ้าสาบาน​สิ”

“อาจารย์​ แค่​พอสมควร​ก็​พอแล้ว​กระมัง​ ไม่อย่างนั้น​ความสัมพันธ์​อาจารย์​และ​ศิษย์​ระหว่าง​พวกเรา​สอง​คน​จะจืดจาง​จริงๆ​ แล้ว​นะ​”

หลิว​เจีย​วางใจ​ลง​ได้​จึงเผย​กาย​ ถามว่า​ “ใคร​กัน​?”

ห​ลี่​ซีเซิ่งยิ้ม​ตอบ​ “ข้า​ชื่อ​ห​ลี่​ซีเซิ่ง บ้านเกิด​คือ​อำเภอ​ไหว​หวง​จังหวัด​หลง​โจว​ต้า​หลี​”

หลิว​เจีย​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​มีเมตตา​ปราณี​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เป็น​คน​บ้าน​เดียว​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​สินะ​ ขอโทษ​ด้วย​ เจ้าต้อง​หยุด​เดิน​เสีย​ตั้งแต่​ตรงนี้​”

อันที่จริง​ก่อนหน้านี้​ยังมี​นักพรต​เรือน​กาย​สูงใหญ่​มาเยือน​คน​หนึ่ง​ ข้าง​กาย​มีนักพรต​เด็กหนุ่ม​ที่​เกิน​ครึ่ง​น่าจะ​มีสถานะ​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เขา​ติด​ตามมา​ด้วย​

พวกเขา​เอง​ก็​เคย​ปรากฏตัว​ที่นี่​ แต่​ต้อง​หยุด​เท้า​อยู่​นอก​ตรอก​เล็ก​ หนึ่ง​คนแก่​หนึ่ง​เด็ก​ยืน​เคียง​บ่า​กัน​ หันหน้า​มามอง​ใน​ตรอก​เล็ก​อยู่​หลาย​ที​

แน่นอน​ว่า​ถูก​หลิว​เจีย​ขวาง​เอาไว้​แล้ว​ ทำ​ท่าทาง​ลับๆ ล่อๆ​ เช่นนั้น​ เหมาะสม​แล้ว​หรือ​

ใน​เมื่อ​เป็น​คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ เขา​เอง​ก็​มีภาระหน้าที่​ติดตัว​ ยัง​ต้อง​กลัว​อะไร​?

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​นักพรต​สอง​คน​นั้น​ก็​ไม่ได้​สวม​ชุด​คลุม​เต๋า​ของ​ลัทธิ​เต๋า​สามสาย​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงอะไร​ด้วย​

……

ใน​เรือน​ของ​เฉินหน่วน​ซู่แขวน​ปฏิทิน​เล่ม​หนึ่ง​และ​ตาราง​แผ่น​ใหญ่​ไว้​หนึ่ง​แผ่น​

และ​ยังมี​สมุด​เล่ม​เล็ก​หนึ่ง​เล่ม​ หนึ่ง​ปี​หนึ่ง​เล่ม​ ทุกๆ​ วันที่​สามสิบ​ซึ่งเป็น​วัน​สิ้นปี​จะต้อง​เอา​มาเย็บ​รวม​เข้าเล่ม​ สามร้อย​หก​สิบห้า​หน้า​ หนึ่ง​วันหนึ่ง​หน้า​

ทุกวัน​ล้วน​มีการจดบันทึก​เอาไว้​ และ​หน่วน​ซู่เอง​ก็​ชอบ​จดบันทึก​เรื่อง​เล็กๆ น้อยๆ​ ที่​ได้ยิน​มาหรือไม่​ก็​เรื่อง​ที่​เห็น​มาแล้ว​รู้สึก​ว่า​น่าสนใจ​

ดังนั้น​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ คน​ที่​มีสมุดบัญชี​หนา​สุด​ จำนวน​เล่ม​มาก​ที่สุด​ แท้จริง​แล้ว​คือ​หน่วน​ซู่ ไม่ใช่เผย​เฉียน​ด้วยซ้ำ​ แน่นอน​ว่า​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​หมี่​ลี่​น้อย​ที่​เอาแต่​จด​ค่าใช้จ่าย​ใน​การ​ซื้อ​เมล็ด​แตง​เท่านั้น​

ทุกวัน​นอกจาก​ปัดกวาด​เช็ดถู​เรือน​ ยัง​ต้อง​ปรนนิบัติ​ดูแล​ต้นไม้​ดอกไม้​ แบ่ง​แยกประเภท​ของ​หนังสือ​ที่เก็บ​สะสมไว้​บน​ภูเขา​ที่​ยิ่ง​นาน​วัน​ก็​ยิ่ง​มีเยอะ​ เมื่อ​มีตำรา​ ก็​ต้อง​เลือก​วันที่​แดด​ดี​ๆ เอา​ตำรา​ออกมา​ตากแดด​ ช่วย​ไปหา​ไม้ไผ่​แก่​ใน​ป่าไผ่​บน​ภูเขา​บ้าน​ตัวเอง​ให้​กับ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จู แกะสลัก​แผ่น​ไม้ไผ่​บางส่วน​เอา​มาใช้เป็น​ของ​ประดับ​ตกแต่ง​ เก็บ​ผัก​ป่า​ตามฤดูกาล​ แล้ว​นาง​ยัง​ต้อง​หมัก​เหล้า​ด้วยตัวเอง​ ดอง​ผัก​หมัก​เนื้อ​ตาก​ฮว่อถุ่ย​ (แฮมรมควัน​) เส้นทาง​หลาย​เส้น​ที่​หมี่​ลี่​น้อย​ใช้ลาดตระเวน​ภูเขา​ก็​จำเป็นต้อง​ทำความสะอาด​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​มีพืช​หญ้า​รกชัฏ​ พอ​ถึงช่วง​สิ้นปี​ นอกจาก​ตัด​กระดาษ​แปะ​หน้าต่าง​แล้ว​ยัง​ต้อง​ขอให้​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จูหรือไม่​ก็​อาจารย์​จ้งเขียน​กลอน​ปีใหม่​ จากนั้น​พา​หมี่​ลี่​น้อย​เอา​กลอน​ไป​แปะ​ด้วยกัน​ นอกจากนี้​ยัง​ต้อง​กราบไหว้​บูชา​เทพเจ้า​แห่ง​เตาไฟ​ น้อม​ส่งเทพเจ้า​แห่ง​ความยากจน​

ภูเขา​ใต้​อาณัติ​มากมาย​ขนาด​นั้น​ก็​มักจะ​มีเรื่อง​ให้​ต้อง​ดูแล​ซ่อมแซม​อยู่​เป็นประจำ​ จึงต้อง​ให้​นาง​ที่​พก​ยันต์​กระบี่​ทะยาน​ลม​ออกจาก​บ้าน​ ไป​พลิ้ว​กาย​อยู่​ตรง​ตีนเขา​ จากนั้น​จึงเดิน​ขึ้น​เขา​เอา​พวก​น้ำชา​ของว่าง​ไป​มอบให้​กับ​พวก​ช่างทั้งหลาย​ การคบค้า​กับ​ผู้อื่น​ยาม​ถึงช่วง​เทศกาล​ตรุษจีน​ บน​ภูเขา​อย่าง​ภูเขา​หลัง​อ๋า​ว​ ยอดเขา​อี​ไต้​ อันที่จริง​หาก​พูดถึง​อดีต​นาน​ยิ่งกว่านั้น​ก็​ยังมี​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ของ​ช่างห​รวน​ที่​ต้อง​ไป​เยือน​เสมอ​ ส่วน​ทาง​ฝั่งของ​เมือง​เล็ก​ล่าง​ภูเขา​ก็​มีผู้เฒ่า​ที่​เป็น​เพื่อนบ้าน​หลาย​คน​ที่​จำต้อง​คอย​แวะเวียน​ไป​เยี่ยมเยือน​ แล้ว​ยัง​ต้อง​เรียน​การ​ทำ​บัญชี​มาจาก​อาจารย์​เหวย​ ลง​จาก​ภูเขา​ไป​ที่​จังหวัด​หลง​โจว​เพื่อ​ซื้อ​ข้าวของ​ตามเวลา​ที่​กำหนด​

และ​ยังมี​ตรอก​หนี​ผิง​ของ​นาย​ท่าน​ที่​นอกจาก​ทำความสะอาด​บ้าน​บรรพบุรุษ​แล้ว​ บ้าน​สอง​หลัง​ที่อยู่​ติดกัน​ แม้ว่า​จะไม่มีคน​อยู่อาศัย​ แต่​หลังคา​และ​กำแพง​ดิน​ก็​ต้อง​คอย​ดูแล​ อะไร​ที่​ซ่อมแซม​ได้​ก็​ต้อง​ซ่อม​

เพราะ​คน​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีเพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ เนื่องจาก​เรื่อง​ของ​สำมะโนครัว​จึงมักจะ​ต้อง​ไป​พูดคุย​กับ​ทาง​ที่ว่าการอำเภอ​อยู่​เป็นประจำ​ ยกตัวอย่างเช่น​ช่วงนี้​ที่​ร้าน​ยา​สุ้ย​ตรอก​ฉีหลง​มีคง​โหว​มาอยู่​ ส่วน​ร้าน​ฉ่าว​โถว​ก็​มีชุยฮ​วา​เซิง แรกเริ่ม​หน่วน​ซู่กังวล​ว่า​ฝ่าย​ครัวเรือน​ของ​ที่ว่าการอำเภอ​ไหว​หวง​จะรู้สึก​ว่า​ตน​เป็น​แค่​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​ ทำ​อะไร​ไม่น่าเชื่อถือ​ จึงเรียก​ให้​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จูลง​จาก​ภูเขา​ไป​ด้วยกัน​ ภายหลัง​เซียน​กระบี่​อวี๋​หมี่​ก็​ไป​ช่วยด้วย​ เป็น​ฝ่าย​เสนอตัว​ว่า​จะไป​ยัง​เมือง​เล็ก​ที่อยู่​ใน​อำเภอ​กับ​นาง​ แต่​ทุกวันนี้​ไม่ต้อง​แล้ว​ ทาง​ฝ่าย​ครัวเรือน​สนิทสนม​กับ​นาง​มาก​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​เคย​เรียก​แค่​ท่าน​ลุง​ซ่ง ทุกวันนี้​ต้อง​เรียก​ว่า​ท่าน​ปู่​ซ่งแล้ว​ ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ นาง​กลับตัว​ไม่สูงขึ้น​เลย​ คน​ของ​ที่ว่าการอำเภอ​กลับ​เห็น​จน​ชิน​ไม่รู้สึก​ประหลาดใจ​แม้แต่น้อย​ แล้วก็​ไม่มีคำ​วิพากษ์วิจารณ์​อะไร​ด้วย​

เอา​หิน​ประหลาด​สารพัด​รูปแบบ​ที่​หา​มาจาก​ภูเขา​ใต้​อาณัติ​ทั้งหลาย​ของ​บ้าน​ตัวเอง​มาทำเป็น​สวน​กระถาง​ เอาไว้​ใช้เป็น​ของ​ตกแต่ง​ห้อง​หนังสือ​ ทำ​เหมือน​นก​นางแอ่น​ที่​ค่อยๆ​ คาบ​โคลน​มาทำรัง​ คอย​ขนย้าย​เข้าไป​ใน​เรือน​พัก​ทั้งหลาย​ที่​แท้จริง​แล้ว​ไม่ค่อย​มีคน​มาพัก​เท่าใด​นัก​ และ​ยังมี​ภาพวาด​ขุนเขา​สายน้ำ​ ภาพ​บุปผา​วิหค​ ภาพ​สาวงาม​ที่​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จูจะวาด​ด้วยตัวเอง​ ไม่สามารถ​เอา​ไป​กอง​ไว้​อย่าง​ระเกะระกะ​ ไม่อย่างนั้น​จะกลายเป็น​ว่า​หยาบกระด้าง​ไม่น่ามอง​ แล้ว​ยัง​ต้อง​คิด​ว่า​ควรจะ​จับคู่​เครื่องกระเบื้อง​อย่างไร​ ยกตัวอย่างเช่น​ถ้าจะเลี้ยง​ดอกไม้​ต้อง​ใช้แจกัน​ เพื่อให้​สมกับ​คำกล่าว​ของ​ปัญญาชน​ที่​บอ​กว่า​ ‘ที่พำนัก​ของ​เทพี​แห่ง​บุปผา​’ ตัวเลือก​แรก​ต้อง​เป็น​กู​ (ภาชนะ​สำหรับ​ใส่สุรา​ใน​พิธีกรรม​สมัยโบราณ​ ทรง​ยาว​ ลักษณะ​เหมือน​แตร​) ทองสัมฤทธิ์​ที่เก็บ​มานาน​ ตัวเลือก​อันดับ​สอง​คือ​เครื่องกระเบื้อง​ของ​ทาง​การสี​ฟ้าคราม​เหมือน​ท้องฟ้า​ เนื้อ​ละเอียด​เรียบ​ลื่น​ชนิด​ต่างๆ​

เรือน​พัก​ทุก​หลัง​บน​ภูเขา​ล้วน​จำเป็นต้อง​จัดวาง​สี่สมบัติ​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ตู้เสื้อผ้า​ชั้นวางหนังสือ​ ฉาก​บัง​ลม​ภาพวาด​ติด​ฝาผนัง​ ปลูก​ดอกไม้​พืชพรรณ​หลาก​หลายชนิด​ซึ่งแตก​ต่างกัน​ไป​ตาม​ความชื่นชอบ​ที่​แตก​ต่างกัน​ของ​เจ้าของ​เรือน​ ดังนั้น​หน่วน​ซู่จึงสร้าง​โรงเรือน​ดอกไม้​ขึ้น​มาให้​ตัวเอง​หนึ่ง​แห่ง​ ศาสตร์​การ​ปลูก​ดอกไม้​ก็​ขอ​ความรู้​จาก​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จูและ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จ้ง นาง​เอง​ก็​เปิด​ตำรา​อ่าน​เอง​ด้วย​ ดังนั้น​บน​ชั้นวางหนังสือ​ของ​นาง​จึงมีแต่​หนังสือ​ประเภท​นี้​

ต่อให้​ยิ่ง​นาน​คน​ก็​ยิ่ง​เยอะ​ขึ้น​ ยิ่ง​นาน​ก็​มีธุระ​เรื่องราว​มากขึ้น​ทุกที​ ทั้ง​ใน​ภูเขา​และ​นอก​ภูเขา​ก็​ยัง​ถูก​แม่นาง​น้อย​ชุด​กระโปรง​สีชมพู​เก็บกวาด​ดูแล​จน​สะอาด​เอี่ยม​ เป็นระเบียบเรียบร้อย​

นอกจากนี้​เรื่อง​ทั้งหมด​ที่​เกิดขึ้น​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ไม่ว่า​จะเล็ก​หรือ​ใหญ่​ หน่วน​ซู่ก็​รู้​ชัดเจน​แทบ​ทุก​เรื่อง​

แน่นอน​ว่า​หมี่​ลี่​น้อย​เอง​ก็​คอย​ช่วย​เหลืออยู่​บ่อยๆ​ นาง​จะแบก​คาน​หาบ​สีทอง​ ถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​ไว้​ใน​มือ​ รับ​คำสั่ง​ รับ​คำสั่ง​!

วันนี้​หมี่​อวี้​เดินเล่น​ไป​เรื่อยเปื่อย​อยู่​บน​ภูเขา​ เห็น​ว่า​หน่วน​ซู่มีเวลาว่าง​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ เวลานี้​กำลัง​นั่ง​เหม่อ​อยู่​ที่​โต๊ะ​หิน​ริม​หน้าผา​

หมี่​อวี้​เดิน​ไปหา​ ยิ้ม​ถามว่า​ “หน่วน​ซู่ เจ้ามาอยู่​ที่นี่​กี่​ปี​แล้ว​?”

หน่วน​ซู่รีบ​ลุกขึ้น​ยอบ​กาย​คารวะ​เซียน​กระบี่​หมี่​ หลัง​นั่งลง​แล้ว​ถึงได้​ยิ้ม​ตอบ​ “ยัง​ไม่ถึงสามสิบ​ปี​กระมัง​”

หมี่​อวี้​แทะ​เมล็ด​แตง​ ถามเสียง​เบา​ “ไม่รู้สึก​เบื่อ​บ้าง​เลย​หรือ​?”

ยี่สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ทุกวัน​ยัง​ต้อง​ยุ่ง​วุ่นวาย​อยู่​แบบนี้​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ล้วน​เป็นเรื่อง​หยุมหยิม​ยิบ​ย่อย​ที่​ทำซ้ำ​วันแล้ววันเล่า​ ปีแล้วปีเล่า​ ราวกับว่า​จะไม่มีวัน​สิ้นสุด​

แม้แต่​เขา​ที่​เป็น​คน​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ ต่อให้​จะชอบ​กินเปล่า​อยู่​เปล่า​รอ​ความตาย​อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มาก​แค่​ไหน​ บางครั้ง​ก็​ยัง​อยาก​จะลง​จาก​ภูเขา​ไป​ผ่อน​คลายอารมณ์​ ขี่​กระบี่​เดินทาง​ไป​กลับ​เงียบๆ​ บ้าง​ ยกตัวอย่างเช่น​ไป​ชมทัศนียภาพ​ระหว่าง​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​แคว้น​หวง​ถิงตอนกลางวัน​ พอ​ตก​กลางคืน​ก็​ไป​นั่ง​เรือ​บุปผา​ที่​เมือง​หง​จู๋ แล้ว​ยัง​สามารถ​ไป​ร่ำสุรา​ชมจันทร์​กับ​เว่ย​ซาน​จวิน​ที่​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ได้​ด้วย​

หน่วน​ซู่ส่ายหน้า​ “ไม่เลย​นะ​”

หมี่​อวี้​ถาม “ไม่เหนื่อย​หรือ​?”

หน่วน​ซู่ยิ้ม​กล่าว​ “ข้า​ก็​พักผ่อน​ไงล่ะ​”

เดิมที​อยาก​บอ​กว่า​ตน​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ครึ่งตัว​ แต่​พอ​คิดถึง​ขอบเขต​ของ​ตัวเอง​ หน่วน​ซู่ก็​อาย​เกิน​กว่า​จะเปิดปาก​พูด​

หมี่​อวี้​รู้สึก​พูดไม่ออก​อยู่​บ้าง​

เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​มีเด็กชาย​ชุด​เขียว​ที่​ชอบ​ทำตัว​แก่​เกิน​วัย​ มีแม่นาง​น้อย​ถ่าน​ดำ​ผู้​เจ้าเล่ห์​เฉลียวฉลาด​ มีหมี่​ลี่​น้อย​ที่​ร่าเริง​น่ารัก​…

ทุกวันนี้​ก็​มีป๋า​ย​เสวียน​ที่มา​ตั้งโต๊ะ​ไว้​ใน​ศาลา​ริม​ทาง​ มีคง​โหว​

มีเพียง​เฉินหน่วน​ซู่แม่นาง​น้อย​สวม​ชุด​กระโปรง​สีชมพู​ที่​คง​เป็น​เพราะ​นิสัย​อ่อนโยน​ เมื่อ​เทียบ​กับ​คนอื่นๆ​ แล้วจึง​ไม่ค่อย​สะดุดตา​มาก​นัก​

อันที่จริง​ก็​เหมือน​อย่าง​เวลา​ที่​เฉินห​ลิง​จวิน​คุยโว​ให้​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ฟัง บอ​กว่า​ตน​เป็น​ถึงขุนนาง​ผู้​ประคับประคอง​มังกร​ที่อยู่​ข้าง​กาย​นาย​ท่าน​มาตั้งแต่​แรกเริ่ม​สุด​ คือ​ผู้อาวุโส​ที่​มีคุณสมบัติ​และ​ประสบการณ์​มาก​ที่สุด​ มาด​เล็ก​ที่สุด​

แล้ว​ยัง​มาก่อนที่​เผย​เฉียน​จะรับ​อาจารย์​พ่อ​ ห่าน​ขาวใหญ่​จะรู้จัก​อาจารย์​ พี่น้อง​ต้าเฟิง​เป็น​คนใน​พื้นที่​ก็​จริง​ แต่​เขา​ขึ้น​เขา​มาช้านี่​นา​ หาก​จะว่า​กัน​ถึงลำดับ​อาวุโส​แล้ว​ เขา​ก็​ยัง​ต้อง​อยู่​ท้าย​ๆ ไม่ใช่หรือ​?

อีก​อย่าง​ยังมี​ใคร​ที่​เคย​เฝ้าคืน​ข้าม​ปี​เป็นเพื่อน​นาย​ท่าน​ที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​ตรอก​หนี​ผิง​? แน่จริง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​เลย​สิ ข้า​เฉินห​ลิง​จวิน​จะโขก​หัว​ให้​เขา​เดี๋ยวนี้​

ใน​เมื่อ​เฉินห​ลิง​จวิน​เป็น​เช่นนี้​ หน่วน​ซู่ก็​ย่อม​ต้อง​เป็น​เช่นเดียวกัน​

หมี่​อวี้​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “วันหน้า​หาก​มีใคร​รังแก​เจ้า มาบอก​ข้า​”

เพียงแต่ว่า​พอ​ประโยค​นี้​หลุด​ออกจาก​ปาก​ไป​ หมี่​อวี้​กลับ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​พูดจา​ไร้สาระ​

ไหน​เลย​จะถึงคราว​ที่​ตน​ได้​ลงมือ​

หาก​มีคน​รังแก​หน่วน​ซู่จริงๆ​ คาด​ว่า​ต่อให้​อีก​ฝ่าย​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ก็​ยัง​ต้อง​ตาย​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็นเรื่อง​ที่​ถูก​กำหนด​มาแน่นอน​แล้วด้วย​

ดังนั้น​หมี่​อวี้​จึงเปลี่ยน​คำพูด​อย่าง​รวดเร็ว​ “ยกตัวอย่างเช่น​หาก​เฉินห​ลิง​จวิน​พูดจา​โง่เง่าทำนอง​นั้น​อีก​ ข้า​จะช่วย​เจ้าสั่งสอน​เขา​เอง​”

คิ้ว​ตา​ของ​หน่วน​ซู่โค้ง​ลง​เหมือน​พระจันทร์​เสี้ยว​ โบกมือ​เอ่ย​ “ไม่มี ไม่มี”

เด็กชาย​ชุด​เขียว​ที่​ชาย​แขน​เสื้อ​โบกสะบัด​คน​หนึ่ง​หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “โอ้โห​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​อวี๋​ กำลัง​ชี้แนะ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ให้​กับ​เจ้าเด็ก​โง่อยู่​หรือ​? เป็นเรื่อง​ดี​ เป็นเรื่อง​ดี​ ไม่อย่างนั้น​หาก​เอาแต่​คลาน​เป็น​เต่า​ ทำตัว​เหมือน​มด​ย้าย​รัง​ก็​คง​ไม่ค่อย​เข้าท่า​สัก​เท่าไร​”

หมี่​อวี้​ยิ้ม​ตาหยี​มอง​ไป​ทาง​หน่วน​ซู่ หน่วน​ซู่ลังเล​เล็กน้อย​ กะพริบตา​ปริบๆ​ จากนั้น​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ

หมี่​อวี้​จึงปัด​มือ​ ลุกขึ้น​ยืน​ เดิน​ไปหา​เฉินห​ลิง​จวิน​

เฉินห​ลิง​จวิน​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​ “พี่​อวี๋​ นี่​เจ้าคิด​จะทำ​อะไร​?! มีอะไร​ก็​ค่อยพูดค่อยจา​กัน​ ไม่มีหลุม​ใด​ที่​ข้าม​ไป​ไม่ได้​ ไม่มีความเข้าใจผิด​ใด​ที่​คลี่คลาย​ไม่ได้​ ไม่มีเรื่อง​ใด​ที่ปรึกษา​กัน​ดี​ๆ ไม่ได้​!”

หมี่​อวี้​ยิ้ม​กล่าว​ “คิด​อะไร​อยู่​น่ะ​ ก็​แค่​จะชี้แนะ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​สักหน่อย​”

เฉินห​ลิง​จวิน​เผ่นหนี​ทันที​โดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​

บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เคย​มีแม่นาง​น้อย​สามคน​ ส่วนสูง​พอๆ กัน​ ใคร​สูงใคร​เตี้ย​ ความต่าง​นั้น​ล้วน​รู้กัน​ดี​อยู่​ใน​ใจ

พวก​นาง​มักจะ​นอน​บน​พื้น​ชั้นสอง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​ด้วยกัน​เป็นประจำ​ เมื่อ​ลม​พัด​โชย​ผ่าน​ก็​จะได้ยิน​เสียง​หรีด​หริ่ง​เรไร​ของ​ฤดูร้อน​ดัง​มาเป็น​ระลอก​

พวก​นาง​นอน​หนุน​พัด​ใบลาน​ รอคอย​ให้​แตงโม​ที่​แช่ไว้​ใน​สระน้ำ​หลัง​เรือน​ไม้ไผ่​ค่อยๆ​ เย็นฉ่ำ​ทีละ​นิด​

ความ​กลัดกลุ้ม​เล็ก​ๆ ก็​คือ​เมฆขาว​ที่​เดินผ่าน​นอก​ภูเขา​ มาแล้วก็​จากไป​ บาง​ก้อน​ก็​อ้วน​หน่อย​ จึงเดิน​ได้​ช้าหน่อย​ บาง​ก้อน​ผอม​หน่อย​ก็​เดิน​จากไป​เร็ว​หน่อย​

แล้ว​ใน​ภูเขา​ล่ะ​มีอะไร​?

มีคน​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​กับ​ความงดงาม​ทุกสิ่ง​อย่าง​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 867.3 ในภูเขามีอะไร"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์