CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 871.3 ช่างน่าเสียดาย

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 871.3 ช่างน่าเสียดาย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

กิจการ​ของ​หอ​ชิงฝูที่​ตั้งอยู่​ใน​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ภูเขา​ตี้​หลง​ถือว่า​ดีเยี่ยม​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​

อาณาเขต​สิบ​กว่า​แคว้น​ใน​ภาค​กลาง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ใน​ฐานะ​ที่ตั้ง​สุดท้าย​ที่​สงคราม​ครั้งนั้น​ปิดฉาก​ลง​ ระดับ​ความเสียหาย​กลับ​น้อยกว่า​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​คาดคิด​ไว้​มาก​นัก​ ในความเป็นจริง​แล้ว​แผ่นดิน​ครึ่งหนึ่ง​ทางทิศใต้​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ล้วน​ดีกว่า​ใบ​ถงทวีป​ที่​ขุนเขา​สายน้ำ​พัง​ภินท์​ มอง​ไป​ทาง​ไหน​เห็น​แต่​หลุม​บ่อ​ยับเยิน​มาก​นัก​ ใน​อดีต​แนว​เส้น​ที่​กองทัพ​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ขึ้นบก​มาอยู่​ที่​ฝูเหยา​ ใบ​ถงสอง​ทวีป​ กองทัพ​ใหญ่​ผ่าน​ดินแดน​เหมือน​ถูก​โกน​หัว​ สภาพ​อเนจอนาถ​น่าสังเวช​ที่สุด​ เรียก​ได้​ว่า​ไม่เหลือ​แม้แต่​หญ้า​สัก​ต้น​ ภายหลัง​กองกำลัง​ของ​ใบ​ถงทวีป​แตกฉานซ่านเซ็น​ การกวาด​ค้น​ปล้น​ชิงลาม​ไป​ทั่ว​ทุก​สถานที่​ถี่แน่น​เหมือน​ซี่หวี​เสนียด​ ทุกหนทุกแห่ง​กลายเป็น​ซากปรักหักพัง​ ศพ​นอง​เกลื่อน​พื้น​ สภาพ​น่าเวทนา​จน​แทบ​ทน​มอง​ไม่ได้​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​สำนัก​บน​ภูเขา​ที่​มีปราณ​วิญญาณ​เปี่ยมล้น​และ​ราชวงศ์​ล่าง​ภูเขา​ที่​คลังสมบัติ​ของ​แคว้น​เต็ม​แน่น​ที่​แทบ​ไม่มีทาง​โชคดี​หนี​พ้นไป​ได้​ รอ​กระทั่ง​ข้าม​มหาสมุทร​เดิน​ทางขึ้น​เหนือ​ นคร​มังกร​เฒ่าถูก​ข้าศึก​ยึดครอง​ การปล้น​ชิงใน​ดินแดน​เหนือ​ขึ้นไป​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​กลับ​เหมือน​ซี่ของ​หวี​ปกติ​ (การปล้น​ที่​เปรียบเปรย​ถึงหวี​เสนียด​กับ​หวี​ปกติ​ เนื่องจาก​หวี​ปกติ​ซี่ยัง​ห่าง​กัน​อยู่​บ้าง​ จึงเปรียบเปรย​ถึงการปล้น​ชิงที่​อาจ​ยังมี​ตกหล่น​ ไม่ละเอียด​รอบคอบ​ หวี​เสนียด​ที่​มีซี่ถี่แน่น​จะหมายถึง​การกวาด​ค้น​ปล้น​ชิงอย่าง​ละเอียด​ ไม่เหลือ​แม้แต่​หญ้า​สัก​ต้น​ ส่วน​คำ​เปรียบเปรย​ถึงการ​โกน​หัว​ก็​คือ​หนัก​กว่า​ รุนแรง​กว่า​)

นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ทาง​ฝั่งของ​กระ​โจมทัพ​เปลี่ยว​ร้าง​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​แล้ว​ว่า​จะอาศัย​อยู่​ใน​อาณาเขต​ทางใต้​ทั้งหมด​ ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​รีบ​รบ​รีบ​จบ​ จะกรำ​ศึก​ยากลำบาก​ที่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ ‘ขูด​เนื้อ​เถือ​หนัง​’ กัน​กับ​ต้า​หลี​ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​เติมน้ำมัน​บน​สนามรบ​ (เป็น​ศาสตร์​การ​สู้รบ​อย่างหนึ่ง​ คือ​วิธีการ​โจมตี​ที่​ใช้การ​หยั่งเชิง​ โดย​แบ่ง​เป็น​กลุ่ม​เล็ก​ๆ ค่อยๆ​ ทยอย​โจมตี​ฝ่ายตรงข้าม​เหมือน​การ​ค่อยๆ​ เติมน้ำมัน​ให้​กับ​ตะเกียง​) ก็​ต้อง​ดู​ว่า​ใคร​จะไม่ไหว​ก่อน​กัน​ ดู​ว่า​สรุป​แล้ว​เป็น​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ที่​เคย​รวบรวม​กองกำลัง​ของ​หนึ่ง​แคว้น​เข้าด้วยกัน​ได้ที่​สามารถ​สังหาร​ศัตรู​ได้​มากกว่า​ หรือ​รบ​ตาย​ไป​มากกว่า​กัน​

หอ​ชิงฝูยัง​คงเดิม​ หอ​สูงห้า​ชั้น​ แต่​วัสดุ​ไม้กลับ​ใหม่เอี่ยม​ น่าจะ​มีการ​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ เพียงแต่ว่า​กรอบ​ป้าย​และ​กลอน​คู่​ยัง​เป็น​แบบ​เก่า​

คิดดู​แล้ว​ตอนนั้น​ที่​หนี​ภัย​ขึ้น​เหนือ​คง​เอา​ของ​ไป​ด้วย​ได้​ไม่มาก​นัก​ และ​แน่นอน​ว่า​เผ่า​ปีศาจ​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​ย่อม​ไม่ทาง​ปล่อย​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ที่​ล้ำค่า​หา​ยาก​เช่นนี้​ไป​

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​เนื้อหา​ที่อยู่​ใน​กลอน​คู่​แล้ว​คลี่​ยิ้ม​ ‘ไม่หลอกลวง​แม้แต่​เด็ก​และ​คนชรา​ ราคา​ร้าน​ข้า​ยุติธรรม​ ใจเขา​ใจเรา​ ลูกค้า​โปรด​กลับมา​ใหม่​’

ใช้คัมภีร์​การค้า​ที่​ไม่ต่าง​จาก​ร้านเหล้า​เล็ก​ของ​บ้าน​ตน​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​สัก​เท่าไร​

สตรี​ห้า​คน​ที่อยู่​ใน​ห้องโถง​ใหญ่​รอคอย​การค้า​มาเยือน​ ดรุณี​น้อย​สวม​ชุด​กระโปรง​เรียบง่าย​คน​หนึ่ง​รีบ​ปรี่​ขึ้นหน้า​มาถาม “คุณชาย​ต้องการ​ตรวจสอบ​สมบัติ​หรือว่า​ซื้อ​ของล้ำค่า​ที่อยู่​ใน​ร้าน​เจ้าคะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ไป​ยัง​สตรี​โต​เต็ม​วัย​คน​หนึ่ง​ที่​มอง​มาทาง​เขา​พอดี​ หันหน้า​ไป​เอ่ย​ขออภัย​กับ​เด็กสาว​ก่อน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ครั้งนี้​มาเยี่ยมเยือน​ ตั้งใจ​จะมาหา​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ เดี๋ยว​ให้​แม่นาง​ชุ่ย​อิ๋ง​นำทาง​ไป​ก็แล้วกัน​”

เพราะ​ใน​หอ​มีกฎ​ว่า​สตรี​ห้า​คน​ที่รับรอง​แขก​อยู่​ใน​ห้องโถง​ หาก​ไม่ใช่แขก​ที่​พวก​นาง​ต่าง​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ดี​ ใคร​ที่​เปิดปาก​เอ่ย​ถามก่อน​ก็​จะต้อง​เรียงลำดับ​ก่อน​หลัง​ตามนั้น​

บน​ไหล่​ของ​สตรี​โต​เต็ม​วัย​ผู้​นั้น​มีแมลง​สีเขียว​ที่​แกะสลัก​มาจาก​หยก​ นาง​สาวเท้า​ก้าว​เร็ว​ๆ มาหา​บุรุษ​ชุด​เขียว​ที่​เรียก​ให้​ตน​เป็น​คนนำทาง​ คลี่​ยิ้ม​หวาน​ ใน​แววตา​เผย​การ​ขออภัย​ไว้​หลาย​ส่วน​ ถามเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “โปรด​อภัย​ที่​บ่าว​ตา​ไม่ดี​ คุณชาย​คือ​?”

“แซ่เฉิน”​

เฉิน​ผิง​อัน​อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เมื่อ​ยี่สิบ​กว่า​ปีก่อน​เคย​มาที่​หอ​ชิงฝูพร้อมกับ​สหาย​สอง​คน​ เป็น​เจ้าที่​นำทาง​พา​ข้า​ไป​พบ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​”

ทว่า​ให้​ตาย​อย่างไร​สตรี​ก็​นึกไม่ออก​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ทำท่า​เหมือน​เพิ่ง​นึก​ขึ้น​ได้​ คลี่​ยิ้ม​หวาน​เอ่ย​ว่า​ “คุณชาย​ยังคง​มีมาด​สง่างามดังเดิม​”

ในความเป็นจริง​แล้ว​คราว​ก่อนที่​พบ​หน้า​กัน​ บุรุษ​ตรงหน้า​ยัง​เป็น​เด็กหนุ่ม​สะพาย​กระบี่​ อีก​ทั้ง​กิจการ​ของ​หอ​ชิงฝูก็​ดีมาก​ มีคน​เข้าออก​ตลอดเวลา​ ต่อให้​นาง​จะความจำ​ดี​แค่​ไหน​ แต่​จะยัง​จำเขา​ได้​อย่างไร​

เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​ไม่คิด​จะเปิดโปง​คำพูด​ตามมารยาท​ของ​นาง​ เดินตาม​นาง​ไป​ถึงชั้นสอง​ บน​ระเบียง​ปูพรม​ผ้าแพร​ปัก​ลาย​ผืน​ใหญ่​ที่​เป็น​ผลิตภัณฑ์​พิเศษ​เฉพาะ​ของ​แคว้น​ไฉ่อี​ ฝีมือ​ปัก​เย็บ​ประ​ณีติ​มาก​ แต่​เป็น​ของ​ใหม่​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “พรม​ผืน​นี้​ ทุกวันนี้​มีราคา​กี่​เหรียญเงิน​เกล็ด​หิมะ​?”

ชุ่ย​อิ๋ง​ยิ้ม​กล่าว​ “ราคา​เพิ่มขึ้น​จาก​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​เท่าตัว​ เป็น​รา​คาที่​ใจดำ​มาก​เลย​ล่ะ​ ทุกวันนี้​แคว้น​ไฉ่อี​อาศัย​ของ​สิ่งนี้​กับ​แก้ว​ชนไก่​มาช่วย​เติม​ท้องพระคลัง​ให้​เต็ม​ ทำ​ให้หา​เงินได้​ไม่น้อย​เลย​จริงๆ​”

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​รู้​ว่า​นี่​คือ​หนึ่ง​ใน​เส้น​ทางการ​หาเงิน​มากมาย​ของ​ต่งสุ่ย​จิง คนบ้านเดียวกัน​ผู้​นี้​ทำการค้า​ด้วย​จุดประสงค์​เดียว​เท่านั้น​ หาเงิน​จาก​คนมีเงิน​

ชุ่ย​อิ๋ง​ผลัก​ประตู​เปิด​ออก​เบา​ๆ เอ่ย​เสียง​แผ่ว​ว่า​ “อาจารย์​หง​ มีแขก​มาหา​เจ้าค่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​ตรง​ธรณีประตู​ กุม​หมัด​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ ได้​พบกัน​อีกแล้ว​”

หง​หยาง​โป​อึ้ง​ตะลึง​ รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ทันใด​ “คุณชาย​…เฉิน?”​

เดิมที​อยาก​จะเรียก​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ความเคารพ​ว่า​เซียน​กระบี่​เฉิน​หรือไม่​ก็​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ เพียงแต่ว่า​มีชุ่ย​อิ๋ง​อยู่​ด้วย​ จึงไม่อยาก​จะละเมิด​กฎ​ของ​ขุนเขา​สายน้ำ​

ครั้งแรก​ที่​พบ​หน้า​กัน​เขา​ยัง​เป็น​เพียง​เด็กหนุ่ม​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ใคร่รู้​ ท่าทาง​ระมัดระวัง​สำรวม​อย่าง​เห็นได้ชัด​ เขา​จะคอย​มอง​ประเมิน​ไป​รอบด้าน​อย่าง​ระมัดระวัง​ แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่การ​มอง​ประเมิน​ด้วย​สายตา​ของ​คน​ที่​มีใจคิด​ชั่วร้าย​

เด็กหนุ่ม​ที่​ออก​เดินทางไกล​ในเวลานั้น​ ใน​สายตา​ของ​หง​หยาง​โป​แล้ว​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​เป็น​แค่​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​สามเท่านั้น​ ถือว่า​เพิ่งจะ​เดิน​เข้า​ห้อง​บน​เส้นทาง​การเรียน​วร​ยุทธ​

พบ​เจอกัน​ครั้ง​ที่สอง​ก็​กลาย​มาเป็น​คนหนุ่ม​ที่​สวม​ชุด​เขียว​ สวม​งอบ​สะพาย​กระบี่​ คล้าย​กับ​จอม​ยุทธ​พเนจร​ใน​ยุทธ​ภพ​คน​หนึ่ง​

ครา​นี้​กลับเป็น​เจ้าขุนเขา​ของ​สำนัก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​

ยังคง​เป็น​เจ้านาย​ที่​สายตา​ดี​

เพียงแค่​พบ​เจอกัน​ครั้ง​เดียว​ก็​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​คน​ผู้​นี้​ก็​คือ​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่​สามารถ​โจมตี​ให้​ซูหลา​งถอยร่น​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​ซูสุ่ย​

ปี​นั้น​หง​หยาง​โป​ยัง​กึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ ตอนนี้​มานึกดู​แล้ว​ยังคง​เป็น​นาย​หญิง​ที่​สายตา​เฉียบแหลม​ไม่เหมือน​ใคร​ เป็น​ตน​ที่​แก่​แล้ว​หู​ตา​ฝ้าฟาง

บน​โต๊ะ​ตัว​ใหญ่​ นอกจาก​กระถางธูป​ใบ​เล็ก​แล้ว​ ยังมี​กระถาง​ต้น​ป่าย​โบราณ​ที่​ด้านบน​มีพวก​คน​จิ๋ว​ชุด​เขียว​นั่ง​เรียง​กัน​อยู่​บน​กิ่งไม้​ พวก​มัน​แกว่ง​เท้า​เล็ก​ๆ ไม่คิด​จะลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​

ผู้เฒ่า​เอ่ย​อย่าง​อ่อนใจ​ “เจ้าตัว​น้อย​พวก​นี้​กำลัง​งอน​ข้า​อยู่​น่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​สีหน้า​อ่อนโยน​ ยิ้ม​โบกมือ​เป็น​ฝ่าย​ทักทาย​กับ​พวก​คน​จิ๋ว​ชุด​เขียว​เหล่านั้น​ก่อน​ “ไม่ได้​เจอกัน​นาน​เลย​นะ​”

ถึงอย่างไร​ก็​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​หาก​วันนี้​พวก​เจ้าตัว​จิ๋ว​ไม่เอ่ย​ถ้อยคำ​มงคล​กับ​ข้า​ ข้า​ก็​จะไม่เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​เข้าไป​แล้ว​

โชคดี​ที่​พวก​เจ้าตัว​น้อย​ไว้หน้า​กัน​อย่าง​มาก​ พา​กัน​ส่งเสียงหัวเราะ​คิกคัก​ ก่อน​จะลุกขึ้น​ยืน​ โค้ง​ตัว​คารวะ​ เอ่ย​ถ้อยคำ​มงคล​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนเยาว์​ที่​ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​ว่า​ฟังร้อย​รอบ​ก็​ไม่เบื่อ​ “ยินดีต้อนรับ​ลูกค้า​ที่มา​เยือน​ร้าน​เรา​มาเยือน​ห้อง​นี้​ของ​เรา​ ขอให้​ท่าน​ร่ำรวย​มีเงินทอง​!”

เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​เข้าไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ หันหน้า​ไป​เอ่ย​กับ​หญิงสาว​ว่า​ “ไม่ต้อง​มาคอย​ช่วย​อยู่​ที่นี่​แล้ว​ ข้า​กับ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​สนิท​กัน​ดี​ จะทำการค้า​กับ​เขา​เล็กน้อย​ ส่วนแบ่ง​หลังจากนี้​ให้​อิง​ตาม​กฎ​ ต่อให้​ไม่เชื่อใจ​ข้า​ก็​น่าจะ​เชื่อใจ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ ส่วน​น้ำชา​ก็​ไม่ต้อง​แล้ว​ ข้า​เอา​เหล้า​มาเอง​ จะเลี้ยง​เหล้า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ด้วย​”

หง​หยาง​โป​พยักหน้า​ให้​นาง​ นาง​จึงคลี่​ยิ้ม​หวาน​ ยอบ​กาย​คารวะ​ เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ขอ​อวยพร​ให้​อาจารย์​เฉินสม​ดังใจ​ปรารถนา​ เงินทอง​ไหล​มาเท​มา แล้วจึง​เดิน​นวยนาด​จากไป​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ปิดประตู​ เดิน​ตรง​ดิ่งไป​ที่​โต๊ะ​ ขัดขวาง​ผู้เฒ่า​ที่​เตรียม​จะขยับ​เท้า​เอาไว้​ “อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ อย่า​ได้​เกรงใจ​ข้า​อยู่เลย​ ข้า​คุ้นเคย​กับ​ที่นี่​อย่าง​มาก​ ไม่มีทาง​เห็น​ตัวเอง​เป็น​คนนอก​ อาจารย์​ผู้เฒ่า​เกรงใจ​กัน​อย่างนี้​ หรือว่า​เห็น​ข้า​เป็น​คนนอก​ไป​เสียแล้ว​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ขยับ​เก้าอี้​ตัว​นั้น​มา ยังคง​เป็น​เก้าอี้​พุทรา​แดง​ที่​โบราณ​เก่า​แก่ตัว​นั้น​

คนแก่​ คนหนุ่ม​ ต่าง​ก็​เห็นแก่​ความสัมพันธ์​ใน​วันวาน​

หง​หยาง​โป​ผงกศีรษะ​ตอบรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ นั่ง​กลับ​ลง​ไป​อีกครั้ง​ ไม่ได้​เดิน​อ้อม​โต๊ะ​ออกมา​อีก​

มอง​ประตู​ที่​เปิด​อ้า​ไว้​ ผู้เฒ่า​ก็​ให้​ปลงอนิจจัง​ ปี​นั้น​ตน​ก็​แค่​พูด​ไป​อย่างนั้น​เอง​ เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​ ความจำ​ช่างดี​จริงๆ​ ไม่ใช่แค่​ดี​ธรรมดา​เสีย​ด้วย​

เฉิน​ผิง​อัน​กลั้น​ขำ​ พูด​เข้า​ประเด็น​ว่า​ “อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ ไม่ยินดี​จะไป​ช่วย​ข้า​จริงๆ​ หรือ​?”

กิจการ​ร้าน​ผ้า​ห่อ​บุญ​บน​ท่าเรือ​ภูเขา​หนิ​วเจี่ยว​ ยิ่ง​นาน​ร้าน​ก็​ยิ่ง​ขยาย​ใหญ่​ แต่​ก็​ยัง​ขาด​ผู้ดูแล​ที่​แท้จริง​มาโดยตลอด​ ตัวแทน​เถ้าแก่​สอง​คนใน​ตรอก​ฉีหลง​อย่าง​สือ​โหร​ว​และ​เจี่ยเฉิง​ต่าง​ก็​เป็น​ตัวเลือก​ที่​ไม่ค่อย​เหมาะสม​

สือ​โหร​ว​ชอบ​ชีวิต​ที่​สงบสุข​มากกว่า​ ส่วน​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ อันที่จริง​เหมาะ​จะเป็น​ผู้ช่วย​อันดับ​สอง​มากกว่า​

หง​หยาง​โป​โบกมือ​ เอ่ย​อย่าง​ละอายใจ​ว่า​ “ไม่ได้​จริงๆ​ ไม่ใช่ว่า​ตาแก่​อย่าง​ข้า​จงใจเล่นตัว​ หมาย​จะโก่งราคา​ค่าตัว​ให้​สูงขึ้น​ เพียงแต่ว่า​เรื่อง​ของ​การค้า​ สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​คือ​การ​วางตัว​เป็น​คน​ ใน​อดีต​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​เคย​มีพระคุณ​ยิ่งใหญ่​กับ​ข้า​ นาย​หญิง​น้อย​รับ​หอ​ชิงฝูมาดูแล​ต่อ​ก็​ยิ่ง​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​เป็น​อย่าง​ดี​”

แล้ว​ผู้เฒ่า​ก็​เอ่ย​เย้ยหยัน​ตัวเอง​ว่า​ “พูด​หลักการ​เหตุผล​ยิ่งใหญ่​เหล่านี้​กับ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ฟังดู​แล้ว​เหมือน​พวก​ที่​มองข้าม​ความหวังดี​ของ​ผู้อื่น​”

ผู้เฒ่า​อยู่​ใน​หอ​ชิงฝู เพียงแค่​ชั่วพริบตา​ รู้สึก​ว่า​เป็นเรื่อง​ของ​เหล้า​แค่​ไม่กี่​จอก​เท่านั้น​ เขา​กลับ​อยู่​ที่นี่​มาเกือบ​แปดสิบ​ปี​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​เหล้า​ภูเขา​ชิงเสิน​ที่​ร้านเหล้า​บ้าน​ตัวเอง​เป็น​ผู้​หมัก​ออกมา​สอง​กา​ ยื่น​ส่งให้​ผู้เฒ่า​หนึ่ง​กา​ บิด​หมุน​ข้อมือ​อีกครั้ง​ก็​มีจอก​เหล้า​เพิ่ม​มาสอง​จอก​ คือ​จอก​เทพี​บุปผา​สอง​ใบ​ของ​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ เขา​พูด​หยอก​ผู้เฒ่า​ว่า​ “เจ้าของ​หอ​อยู่​ที่นี่​ด้วย​หรือไม่​? ข้า​จะปรึกษา​เรื่อง​นี้​กับ​นาง​โดยตรง​ หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ก็​จะแย่ง​คน​ไป​เสีย​เลย​”

หาก​หาเงิน​จาก​ทรัพย์สิน​ที่​มาจาก​การ​ฉกฉวย​กำไร​โดยมิชอบ​ เงิน​นอกรีต​และ​ทรัพย์สิน​ที่​ไม่ชอบธรรม​ ก็​คือ​การ​ดื่ม​ยาพิษ​ดับ​กระหาย​ ยิ่ง​เงินทอง​มีมาก​เท่าไร​ หายนะ​ก็​ยิ่งใหญ่​มาก​เท่านั้น​ เรื่อง​แบบนี้​ยินดี​เชื่อ​ว่า​มี แต่​ไม่เชื่อ​ว่า​ไม่มี

และ​นี่​ก็​เป็น​เหตุผล​ที่ว่า​ทำไม​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงสนใจ​การค้า​ใน​ร้าน​ทั้งสอง​ที่​ตรอก​ฉีหลง​มาก​ถึงเพียงนั้น​ ขอ​แค่​อยู่​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​ไป​เยือน​ตรอก​ฉีหลง​ด้วยตัวเอง​ครั้งหนึ่ง​ ตรวจสอบ​บัญชี​อย่าง​จริงจัง​ตรงเวลา​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ไม่ให้​ร้าน​ทั้งสอง​ยก​สมุดบัญชี​ให้​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ด้วย​ เพราะ​มีเพียง​เขา​ที่​เป็น​เจ้าขุนเขา​สนใจ​เรื่อง​นี้​อย่าง​จริงจัง​ สือ​โหร​ว​และ​เจี่ยเฉิง​ที่​เป็น​เถ้าแก่​สอง​คน​ถึงจะจริงจัง​ตาม​ไป​ด้วย​ ไม่มีทาง​ไม่เห็น​รายรับ​ที่​ได้​จาก​เงิน​ไม่กี่​ตำลึง​หรือ​เงิน​เกล็ด​หิมะ​ไม่กี่​เหรียญ​อยู่​ใน​สายตา​

หง​หยาง​โป​ดวงตา​เป็นประกาย​ หยิบ​จอก​เหล้า​ใบ​นั้น​ขึ้น​มา “จอก​เทพี​บุปผา​ใบ​นี้​ดูเหมือน​จะไม่ใช่ของปลอม​?”

นี่​ก็​เหมือนกับ​ตะเกียบ​ไม้ไผ่​ของ​ภูเขา​ชิงเสิน​คู่​นั้น​ใน​อดีต​ที่​ต่าง​ก็​ถือว่า​เป็น​ของดี​ที่​มีราคา​ทว่า​ไร้​ตลาด​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “เป็น​ของจริง​หรือ​ของปลอม​ ข้า​ไม่กล้า​รับรอง​ ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​เก็บตก​มาได้​ หาก​อาจารย์​ผู้เฒ่า​หง​ยินดี​เปลี่ยน​คำพูด​ ข้า​ก็​จะมอบ​จอก​เทพี​บุปผา​ชุด​หนึ่ง​ให้​ท่าน​เป็น​ของขวัญ​พบ​หน้า​ทันที​”

หง​หยาง​โป​ถลึงตา​ใส่ “เจ้าไม่รำคาญ​บ้าง​เลย​หรือ​ไร​ บอก​แล้ว​ว่า​ไม่ไป​ ไม่ได้​ล้อเล่น​กับ​เจ้าด้วย​ หาก​เซียน​กระบี่​เฉิน​ยัง​ตอแย​ไม่เลิก​แบบนี้​ ข้า​จะต้อง​ไล่​คน​แล้ว​นะ​ อืม​ แต่​จอก​เหล้า​ใบ​นี้​ต้อง​ทิ้ง​ไว้​”

เฉิน​ผิง​อัน​กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ ถามว่า​ “ใน​ร้าน​แห่ง​นี้​มีสมบัติ​ประจำ​ร้าน​หรือไม่​? แล้ว​หมึก​ต้นสน​รมควัน​ที่​มีไว้​สำหรับ​เชื้อพระวงศ์​และ​ ‘เทียบ​น่าเสียดาย​’ ของ​สอง​ชิ้น​นี้​ยังอยู่​หรือไม่​?”

หมื่น​เรื่องราว​ใน​โลก​มนุษย์​ถูก​เชื่อมโยง​ด้วย​เส้นด้าย​หนึ่ง​เส้น​ หลาย​ๆ ครั้ง​ไม่เชื่อ​ก็​ต้อง​เชื่อ​ อีก​ทั้ง​ยัง​ยอม​เชื่อ​ว่า​มี ไม่เชื่อ​ว่า​ไม่มี

หมึก​ไม้สน​รมควัน​ชิ้น​นั้น​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​แคว้น​เสินสุ่ย​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​ซาน​จวิน​ใหญ่​เว่ย​แห่ง​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ ปี​นั้น​การ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ซื้อ​เอาไว้​ ไม่ใช่เพราะ​เสียดาย​เงิน​เทพ​เซียน​ แต่​กังวล​ว่า​เว่ย​ป้อ​เห็น​ของ​แล้ว​จะเสียใจ​ ทว่า​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​อะไร​ๆ ก็​ดีขึ้น​ ทุกวันนี้​จึงไม่มีความกังวล​เช่นนี้​แล้ว​

หง​หยาง​โป​ส่ายหน้า​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​พยักหน้า​ “ของดี​มีอยู่​ไม่น้อย​ แต่​หาก​ถามถึงของดี​ชั้นยอด​กลับ​ไม่มี คง​ไม่เอา​ออกมา​ให้​อับอายขายหน้า​เซียน​กระบี่​เฉิน​แล้ว​ โชคดี​ที่​ของ​สอง​ชิ้น​ที่​เจ้าพูดถึง​บังเอิญ​ยังอยู่​”

ยิ่ง​นับถือ​เจ้านาย​มาก​ขึ้นไป​อีก​

ของ​สอง​ชิ้น​นี้​ใช่ว่า​ขายไม่ออก​ แต่​เป็น​เพราะ​ปี​นั้น​เจ้านาย​ตั้งใจ​ให้​เขา​เก็บ​เอาไว้​ บอ​กว่า​วันใด​ในอนาคต​เมื่อ​เซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​มาเยือน​อีกครั้ง​ก็​สามารถ​นำ​ออกมา​มอบให้​เขา​เป็น​น้ำใจ​ได้​

แน่นอน​ว่าการ​มอบ​น้ำใจ​ไม่ใช่ว่า​มอบ​ของ​สอง​ชิ้น​ให้​เปล่าๆ​ โดย​ไม่รับเงิน​ ใต้​หล้า​ไม่มีหลักการ​ทำการค้า​เช่นนี้​

เทียบ​อักษร​ล้ำค่า​หา​ยาก​ที่​มาจาก​ฝีมือ​ของ​เซียน​กระบี่​แคว้น​สู่โบราณ​ชิ้น​นั้น​ แม้ว่า​จะเป็น​เพียง​ฉบับ​สำเนา​ ทว่า​ตัวอักษร​กลับ​งดงาม​เหมือน​คราบ​จักจั่น​ฤดูใบไม้ร่วง​ เพราะ​แทบจะ​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ของ​ดั้งเดิม​เลย​ ดังนั้น​จึงมีคำ​เรียกขาน​อัน​ไพเราะ​ว่า​ ‘เป็นรอง​ผลงาน​จริง​แค่​หนึ่ง​ระดับ​’ ปี​นั้น​หง​หยาง​โป​เปิด​ราคา​ไว้​ที่​ห้า​เหรียญ​เงินร้อน​น้อย​ ทั้งๆ ที่​รู้ดี​ว่า​คนหนุ่ม​หวั่นไหว​ แต่​อีก​ฝ่าย​กลับ​เอ่ย​มาสามคำ​โดยตรง​ว่า​ ‘ซื้อ​ไม่ไหว​’

ผล​คือ​สุดท้าย​แล้ว​กลับ​ใช้เงิน​ฝน​ธัญพืช​ห้า​เหรียญ​ซื้อ​สมบัติ​พิทักษ์​ร้าน​ที่​เป็น​เงิน​เทียน​ซือ​พิฆาต​ผี​สี่ชิ้น​ไป​ทั้ง​ชุด​

หง​หยาง​โป​หยิบ​เอา​หมึก​และ​เทียบ​อักษร​ออกมา​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “คิด​ตาม​ราคา​เดิม​”

เฉิน​ผิง​อัน​ควัก​เงิน​เทพ​เซียน​ออกมา​อย่าง​ไม่ลังเล​ เงิน​มาของ​ไป​ ว่องไว​ชัดเจน​

ทั้งสองฝ่าย​เอ่ย​ขึ้น​พร้อมกัน​ว่า​ “มีของรางวัล​สัก​ชิ้น​ไหม​?”

ผู้เฒ่า​แผด​เสียงหัวเราะ​ดังก้อง​ เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​ไม่รู้สึก​กระอักกระอ่วน​

หง​หยาง​โป​ส่ายหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ยังคง​เป็น​กฎ​เดิม​ ไม่มีของรางวัล​อะไร​”

จากนั้น​คน​ทั้งสอง​ก็​คุย​เล่น​พลาง​ดื่ม​สุรา​กัน​ไป​

เดินทางไกล​แล้ว​ได้​กลับคืน​บ้านเกิด​อีกครั้ง​ วิสัยทัศน์​ของ​คน​คน​หนึ่ง​เพิ่มมากขึ้น​ บ้านเกิด​ย่อม​เล็ก​ลง​ คนเรา​พอ​แก่ตัว​ลง​ บ้านเกิด​ก็​เหมือน​จะผอม​ลง​ตาม​ไป​ด้วย​

ชีวิต​คนเรา​แสน​สั้น​ทั้ง​ยัง​ยากลำบาก​ เส้น​ทางใน​ยุทธ​ภพ​ทอด​ยาว​ ใจคน​คือ​ด่าน​อันตราย​ จอก​สุรา​นั้น​กว้างใหญ่​ที่สุด​

รับรู้​ถึงการ​พบ​เจอ​การ​พราก​จาก​ใน​โลก​มนุษย์​มาก​น้อย​เท่าไร​ โปรด​เดิน​ให้​ช้าลง​หยุด​ดื่ม​ก่อน​สัก​จอก​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​ดื่ม​จน​หน้าแดง​น้อย​ๆ

หลัง​ออก​มาจาก​หอ​ชิงฝู คราวก่อน​เขา​ขี่ม้า​เดิน​อยู่​ที่​ท่าเรือ​แห่ง​นี้​ยัง​ได้​เจอ​กับ​เด็ก​ๆ สอง​คน​ที่​ใบหน้า​เหลือง​แห้ง​ตอบ​ ตัวเล็ก​เตี้ย​ สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​จ่าย​เงิน​สิบสอง​เหรียญ​เกล็ด​หิมะ​ซื้อ​ของ​สามอย่าง​มาจาก​มือ​พวกเขา​ หนึ่ง​คือ​แท่น​ฝน​หมึก​สลัก​คำ​ว่า​ ‘โชคดี​ตลอดไป​’ หนึ่ง​คือ​ตราประทับ​หิน​หวง​ต้ง​เก่าแก่​คู่​หนึ่ง​ และ​ชามตื้น​ทำ​จาก​วัสดุ​สีแดง​เนื้อ​ลื่น​วาว​ใบ​หนึ่ง​ หาก​อิง​ตาม​ราคาตลาด​ แน่นอน​ว่า​ไม่ต้อง​จ่าย​เงิน​เกล็ด​หิมะ​มากมาย​ขนาด​นี้​

คาด​ว่า​น่าจะ​ถูก​เด็ก​สอง​คน​เห็น​เป็น​คน​ที่​หลอก​ได้​ง่าย​ พอ​ได้เงิน​ไป​ ทั้งสอง​ก็​วิ่ง​เผ่นหนี​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​

เด็ก​สอง​คน​ที่​ฝีเท้า​แผ่วเบา​วิ่ง​ห่าง​ไป​ไกล​แล้วก็​เริ่ม​ซุบซิบ​กัน​ บน​ใบหน้า​อ่อนเยาว์​สอง​ดวง​ประดับ​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​จ่าย​เงิน​เกินความจำเป็น​

ก็​เหมือน​ตอน​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​ของ​ปี​นั้น​ ทุกครั้งที่​เด็กหนุ่ม​รองเท้าแตะ​เอา​จดหมาย​ออก​ไป​ส่งก็​จะต้อง​วิ่ง​ตะบึง​ไป​ยัง​สถานที่​ถัดไป​

เฉิน​ผิง​อัน​เคย​ทิ้ง​อารมณ์​โศกเศร้า​มองโลกในแง่ร้าย​พวก​นั้น​ไว้​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่ง​ที่​เขา​ผสาน​มรรคา​ด้วย​ ยัง​รวมไปถึง​…ความหวัง​ทั้งหมด​ด้วย​

กลัว​อะไร​กัน​

ของเก่า​เหลือ​ทิ้ง​ไว้​ไม่จากไป​ ของ​ใหม่​กลับ​เอา​มาเพิ่ม​ได้​อีกครั้ง​

หวัง​ว่า​จะเป็น​เหมือน​ต้น​หญ้า​วสันต์​บน​ทุ่งหญ้า​กว้างใหญ่​ ยิ่ง​เดิน​ยิ่ง​ไกล​แล้ว​ยัง​งอกงาม​ได้​ใหม่​

ต่อให้​ความผิดหวัง​จะกอง​กัน​เป็น​ภูเขา​ แต่​ความหวัง​ก็​เป็น​ดั่ง​บุปผา​ที่​ทยอย​กัน​ผลิบาน​ไป​ตามลำดับ​

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​หอ​เรือน​สามชั้น​ของ​หอ​ชิงฝู มีสตรี​คน​หนึ่ง​ยืน​พิง​ราว​รั้ว​ คือ​เจ้าของ​หอ​ชิงฝูที่​ปี​นั้น​แต่งกาย​ปลอม​เป็น​สาวใช้​อยู่​ใน​หอ​ ผู้ฝึก​ตน​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​จงใจอำพราง​ภาพ​บรรยากาศ​บน​ร่าง​ของ​ตัวเอง​

เมื่อ​นาง​เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​มามอง​ก็​รีบ​หมุนตัว​กลับ​เดิน​เข้า​ห้อง​ไป​ทันที​

คราว​ก่อนที่​ได้​พบ​กับ​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ เมื่อ​ย้อนกลับ​เข้ามา​ใน​หอ​ชิงฝู นาง​ก็ได้​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​กับ​หง​หยาง​โป​

‘เขา​ในเวลานั้น​สงบนิ่ง​เหมือน​พระโพธิสัตว์​ดินเผา​ที่​วาง​อยู่​บน​แท่นบูชา​อย่างไร​อย่างนั้น​’

เฉิน​ผิง​อัน​ถอน​สายตา​กลับมา​ พริบตาเดียว​ก็​เดินทางไกล​ห่าง​ไป​พัน​ลี้​

บน​ทะเล​เมฆสีทอง​ผืน​หนึ่ง​ เขา​เดิน​เนิบ​ช้า หยิบ​เทียบ​ตัวอักษร​ที่​เพิ่ง​ซื้อ​มาออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้มเยาะ​ตัวเอง​

เพราะ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​ซึ่งอยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​คน​นั้น​เพิ่งจะ​ตัดสินใจ​ว่า​จะถามกระบี่​ต่อ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​

และ​ประโยค​เริ่มต้น​ของ​ ‘เทียบ​น่าเสียดาย​’ นี้​ก็​คือ​ความรู้สึก​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​สอง​คน​ซึ่งอยู่​ใน​ไพศาล​และ​เปลี่ยว​ร้าง​เวลานี้​รู้สึก​ร่วมกัน​

น่าเสียดาย​ที่​เวท​กระบี่​ห่าง​ชั้น​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 871.3 ช่างน่าเสียดาย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์