CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 876.2 ขอบเขตถดถอย

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 876.2 ขอบเขตถดถอย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​ พอ​จะเดา​ความคิด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​คร่าวๆ​ กุมาร​แจก​ทรัพย์​ สมกับ​เป็น​กุมาร​แจก​ทรัพย์​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​เริ่ม​สร้าง​ความมั่นคง​ให้​กับ​ขอบเขต​ ก็​เหมือน​ท่าน​เทพ​เทวดา​ของ​ฟ้าดิน​เล็ก​เรือน​กาย​มนุษย์​แห่ง​หนึ่ง​ที่​จำต้อง​เก็บกวาด​ขุนเขา​สายน้ำ​เก่า​ สร้าง​ความ​ผาสุก​สงบ​ปลอดภัย​ให้​กับ​รอบด้าน​

ขอบเขต​วิถี​วร​ยุทธ​ร่วง​จาก​ปลายทาง​มายัง​ชั้น​ของ​ปราณ​โชติช่วง​

ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ถอย​จาก​ขอบเขต​หยก​ดิบ​มาเป็น​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​

ลู่​เฉิน​กับ​สหาย​สี่ที่​จู๋นั่ง​อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ หันมา​พูดคุย​กัน​

หยิบ​เหล้า​หมัก​เซียน​เถาเจียง​ซึ่งเป็น​เหล้า​ที่​มีเฉพาะ​นคร​เสิน​เซียว​ป๋า​ยอ​วี้​จิงออกมา​สอง​กา​ จากนั้น​จึงหยิบ​ยันต์​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​ที่​มีขนาดใหญ่​เท่า​โต่ว​ใบ​หนึ่ง​มาทำเป็น​ผ้าปูโต๊ะ​ วาง​กับแกล้ม​ไว้​สอง​สามจาน​ กับแกล้ม​ก็​ได้แก่​ยำ​แตง​ทุบ​ ยำ​หู​หมู​ สุดท้าย​ยังมี​เมล็ด​ซิ่งเห​ริน​ (เมล็ด​อัลมอนด์​) และ​เมล็ด​สน​อีก​หนึ่ง​จาน​ จัดวาง​ไว้​เต็มโต๊ะ​

มอง​สหาย​สี่จู๋ที่​มีท่าทาง​ระมัดระวัง​ตัวอย่าง​เห็นได้ชัด​ ลู่​เฉิน​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ชื่นชม​อีก​ฝ่าย​ ควบคุม​จิตใจ​ได้ดี​ แล้ว​ยัง​เปลี่ยน​นิสัยใจคอ​ได้​อีกด้วย​

เห็นได้ชัด​ว่า​ใช้วิธีการ​ของ​เทพ​ยุค​บรรพกาล​ ผู้อาวุโส​เหล่านี้​ เมื่อ​ร่าย​วิชา​ที่​หายสาบสูญ​ไป​นาน​ออกมา​ก็ช่าง​ทำให้​คน​ได้​เปิดหูเปิดตา​จริงๆ​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ถาม “ผู้อาวุโส​สี่จู๋ได้​หวนคืน​มายัง​โลก​มนุษย์​ครั้งนี้​ รู้สึก​อย่างไรบ้าง​?”

เสี่ยว​โม่พูด​ด้วย​สีหน้า​เศร้าใจ​ “วัตถุ​แปรเปลี่ยน​ สหาย​ใน​วันวาน​พลัดพราก​ เจ็บ​ปวดใจ​เหมือน​ถูก​มีดคว้าน​ รวดร้าว​ทรมาน​ ยาก​จะทำใจ​ได้​”

หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ เสี่ยว​โม่ก็​ยก​จอก​เหล้า​ขึ้น​ ให้​ข้อสรุป​ต่อ​สภาพ​อารมณ์​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ถ้อยคำ​ที่​กระชับ​เรียบง่าย​มากกว่า​เดิม​ แค่​คำ​เดียว​ “ขม”​

ลู่​เฉิน​ชูจอก​เหล้า​ขึ้น​ชน​กับ​ของ​อีก​ฝ่าย​เบา​ๆ “ฟังมาถึงตรงนี้​ เสี่ยว​เต้า​ก็​ต้อง​ขอ​ขัด​ผู้อาวุโส​สัก​หนึ่ง​ประโยค​แล้ว​”

เสี่ยว​โม่เอ่ย​ “เชิญพูด​มาได้​เลย​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “ชีวิต​คน​เมื่อ​เจอ​ความทุกข์ยาก​มาหมดสิ้น​แล้ว​ความหวาน​ชื่น​ย่อม​มาเยือน​ อีก​อย่าง​ มีคน​ร่วมทุกข์​ด้วย​ ต่อให้​ขมขื่น​ก็​ไม่รู้สึก​ขม​มาก​ขนาด​นั้น​อีกแล้ว​”

เสี่ยว​โม่เห็นด้วย​อย่างยิ่ง​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ลู่​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​”

ลู่​เฉิน​ถาม “ดูเหมือนว่า​ชื่อเสียง​ของ​ผู้อาวุโส​ใน​โลก​ยุค​หลัง​…จะไม่ค่อย​โด่งดัง​เท่าใด​นัก​?”

ความนัย​ใน​ประโยค​นี้​ก็​คือ​ ผู้อาวุโส​ขอบเขต​ท่าน​สูงขนาด​นี้​ เหตุใด​ถึงไม่เคย​ทิ้ง​วีรกรรม​ยาว​เป็น​พรวน​ให้​โลก​มนุษย์​แซ่ซ้อง​กัน​นาน​หมื่น​ปี​ไว้​บ้าง​เลย​เล่า​

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​ “ข้า​ชอบ​ตั้งใจ​ฝึก​กระบี่​อย่าง​เดียว​ ไม่ค่อย​ชอบ​เข่นฆ่า​กับ​ใคร​ เรื่อง​ของ​การโอ้อวด​บารมี​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ข้า​ถนัด​”

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​หนึ่ง​ที​ “วีรบุรุษ​ไร้​นาม​ เป็น​วิถี​ทางโลก​ที่​ไม่ถูก​ ต้อง​ชน​กับ​ผู้อาวุโส​สัก​จอก​แล้ว​”

เสี่ยว​โม่กับ​ลู่​เฉิน​ต่าง​คน​ต่าง​ดื่ม​จน​หมด​จอก​แล้ว​ เสี่ยว​โม่ก็​ครุ่นคิด​เล็กน้อย​ เอ่ย​ว่า​ “ข้า​เคย​ไล่​ฆ่าหย่า​งจื่อ​มาก่อน​ น่าเสียดาย​ที่​ตอนนั้น​เวท​กระบี่​ยัง​ไม่เข้าขั้น​ เปลืองเวลา​ไป​หนึ่ง​เดือน​กว่า​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ไล่​ฆ่าหย่า​งจื่อ​ได้​ ผล​คือ​ถูก​จูเยี่ยน​ขัดขวาง​แล้ว​ช่วย​นาง​เอาไว้​ ข้า​คนเดียว​รับมือ​กับ​ศัตรู​สอง​คน​ สู้ไม่ได้​ก็​ต้อง​เผ่นหนี​แล้ว​”

ข้อมือ​ลู่​เฉิน​สะบัด​ เหล้า​เกือบจะ​กระฉอก​นอง​เต็ม​พื้น​ เขา​รีบ​ร่าย​เวท​คาถา​เรียก​สุรา​ให้​ไหล​กลับ​เข้าไป​ใน​จอก​อีกครั้ง​ จากนั้น​ก็​แหงนหน้า​กระดก​ดื่ม​จน​หมด​จอก​ เช็ด​มุมปาก​ รีบ​เอ่ย​ขออภัย​ว่า​ “ได้​ฟังวีรกรรม​เหมือน​ฟ้าผ่า​กลางวันแสกๆ​ เช่นนี้​ เสียกิริยา​แล้ว​ เสียกิริยา​แล้ว​”

แม้ว่า​ใน​ใจเสี่ยว​โม่จะรู้สึก​กังขา​ เหตุใด​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ถึงมาตกอกตกใจ​กับ​เรื่อง​แบบนี้​ได้​

แต่​อีก​ฝ่าย​ทำ​เช่นนี้​…เหมือน​ให้การ​สนับสนุน​เขา​ บน​ใบหน้า​ของ​เสี่ยว​โม่จึงมีรอยยิ้ม​เพิ่มมากขึ้น​

ช่วยไม่ได้​ ปีศาจ​บรรพกาล​ที่​หลับ​มานาน​ตน​นี้​ ความทรงจำ​ส่วนใหญ่​ยังคง​เป็น​ภาพ​ของ​สนามรบ​ดุเดือด​เมื่อ​หมื่น​ปี​ก่อนที่​เอะอะ​องค์​เทพ​จาก​ฝ่าย​ต่างๆ​ ก็​ล่วงลับ​เหมือน​สายฝน​ ปีศาจ​ใหญ่​ที่​รบ​ตาย​ไป​โครงกระดูก​กอง​กัน​เป็น​ภูเขา​ของ​ เทือกเขา​ยิ่งใหญ่​โอฬาร​ที่​ทุกวันนี้​ถูก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มอง​เป็น​ ‘ภูเขา​บรรพบุรุษ​’ ‘ยอดเขา​หลัก​’ ทั้งหลาย​ แทบจะ​เป็น​ ‘ซากปรักหักพัง​’ ที่​จำแลง​มาจาก​โครงกระดูก​ของ​ร่าง​จริง​ปีศาจ​ใหญ่​ทั้งสิ้น​

มัน​จึงไม่รู้สึก​ว่าการ​จับคู่​เข่นฆ่า​ใดๆ​ สามารถ​คู่ควร​กับ​สอง​คำ​ว่า​ ‘ยอดเขา​’ ได้​อีกแล้ว​

ลู่​เฉิน​จึงเล่าเรื่อง​ของ​อดีต​ผู้​ครอง​ลำคลอง​เย่ลั่ว​และ​บรรพบุรุษ​ย้าย​ภูเขา​ให้​เสี่ยว​โม่ฟัง

ทุกวันนี้​จูเยี่ยน​ยังคง​ใช้ชีวิต​อย่าง​อิสระ​เสรี​ กลับเป็น​หย่า​งจื่อ​ที่​ถูก​ศาล​บุ๋น​กักตัว​ไว้​ใน​ซาก​ปรัก​เตา​หลอม​โอสถ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มรรคา​จารย์​เต๋า​ทอดทิ้ง​ไม่ใช้แล้ว​

เสี่ยว​โม่ฟังด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​ผู้ฟัง​ที่​ดีมาก​ รอ​กระทั่ง​ลู่​เฉิน​พล่าม​พูด​จน​จบ​ เขา​ถึงได้​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​คำ​เล็ก​ “ที่แท้​จูเยี่ยน​กับ​หย่า​งจื่อ​ก็​ไม่ได้​ผูก​สมัคร​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​กัน​เสียที​”

กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ เสี่ยว​โม่ก็​รำพึงรำพัน​ขึ้น​ว่า​ “จิต​แห่ง​มรรคา​ไม่มั่นคง​ สามภพ​ภูมิไม่สงบ​ ประหนึ่ง​อยู่​ใน​เรือน​แห่ง​ไฟ ความทุกข์​ตรม​ขมขื่น​เต็ม​ล้น​ เปลว​เพลิงไหม้​ลาม​ไม่เคย​มอด​ดับ​ ช่างน่าหวาดกลัว​ยิ่งนัก​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “เรือน​แห่ง​ไฟสามภพ​ภูมิ น้ำ​เมฆเย็นสบาย​ ใช้การ​ช่วยเหลือ​คนอื่น​มาช่วยตัวเอง​ก็​ยิ่ง​ล้ำค่า​หา​ยาก​เข้าไป​อีก​”

ลู่​เฉิน​คีบ​กับแกล้ม​ขึ้น​มาหนึ่ง​คำ​ เคี้ยว​อย่าง​ละเอียด​ ถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “ผู้อาวุโส​เชี่ยวชาญ​ใน​หลัก​พระธรรม​ด้วย​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ “เคย​โชคดี​ได้​ฟังพระธรรมเทศนา​จาก​ภิกษุ​รูป​หนึ่ง​ที่นั่ง​อยู่​ใต้​ต้น​โพธิ์​กับ​หู​ตัวเอง​ หลุดพ้น​จาก​กรงขัง​แห่ง​ตัวอักษร​ คน​จาก​ทั่ว​สารทิศ​ล้วน​มารับฟังได้​ ยอดเยี่ยม​ไร้​สิ่งใด​จะเปรียบ​โดยแท้​”

ลู่​เฉิน​หา​คำ​มาต่อ​บทสนทนา​ไม่ได้​แล้ว​

แต่ไหนแต่ไร​มาเขา​ก็​ไม่กล้า​คบค้าสมาคม​กับ​พระพุทธองค์​อยู่แล้ว​

เสี่ยว​โม่ถาม “ดูเหมือน​ว่าที่​บ้านเกิด​ของ​คุณชาย​จะมีภัย​ร้าย​ใหญ่​ที่ซ่อน​แฝงอยู่​?”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​แล้วก็​ส่ายหน้า​ “มี แต่​ก็​หาย​ไป​แล้ว​”

มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ คือ​คน​สอง​คน​ที่​แตก​ต่างกัน​อย่าง​สิ้นเชิง​

โจว​มี่ แสวงหาผลประโยชน์​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​

ส่วน​เฉิน​ผิง​อันนั้น​แสวงหา​ความถูกต้อง​ไร้​ข้อผิดพลาด​อยู่​ตลอดเวลา​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ผลลัพธ์​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​เกิดขึ้น​

เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ที่​เป็น​ทาง​หนี​ที​ไล่​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ อันที่จริง​เมื่อก่อนนี้​ลำดับ​รายชื่อ​บน​ยอดเขา​ของ​เขา​ใน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ไม่สูงมาก​นัก​

ไม่อย่างนั้น​ปี​นั้น​ที่​เผย​เปย​พา​เฉาสือ​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​กลับ​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ออกจาก​ภูเขา​ห้อย​หัว​ย้อนกลับ​ไป​ยัง​แผ่นดิน​กลาง​ ก็​คง​ไม่ไป​ถามหมัด​ที่​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​

ทว่า​เจิ้งจวี​จงที่​อำพราง​ตน​อย่าง​ลึกล้ำ​ผู้​นั้น​ ลู่​เฉิน​กลับ​รู้สึก​มาโดยตลอด​ว่า​ไม่ว่า​จะมอง​คน​ผู้​นี้​สูงอย่างไร​ก็​ไม่เกิน​กว่า​เหตุ​แม้แต่น้อย​

มีเพียง​หลักการ​ที่​เป็น​โจร​พัน​วัน​เท่านั้น​ ไม่มีหลักการ​ที่​ต้อง​คอย​ป้องกัน​โจร​พัน​วัน​

ใน​ช่วงเวลา​ที่​โจว​มี่รู้สึก​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​ลำพองใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ บวก​กับ​ที่​ไม่มีห​ลี่​เซิ่งคอย​เฝ้าพิทักษ์​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ ช่างเป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่งนัก​ ผ่าน​มาแค่​วูบ​เดียว​ก็​หายวับ​

ถ้าอย่างนั้น​เจิ้งจวี​จงที่​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​ จึงเป็น​คน​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​ที่จะ​เอา​มาประลอง​หมากล้อม​ด้วย​ ‘วิธี​ไร้เหตุผล​’ กับ​โจว​มี่มาก​ที่สุด​

ปัญหา​นั้น​อยู่​ที่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ขอร้อง​เจิ้งจวี​จง? หรือว่า​แอบ​ทำการค้า​อะไร​กัน​อย่าง​ลับ​ๆ?

ไม่ว่า​เป็น​สถานการณ์​แบบ​ใด​ ลู่​เฉิน​ก็​รู้ดี​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​มีราคา​ที่​ต้อง​จ่าย​ไม่น้อย​

เสี่ยว​โม่กล่าว​ “รอ​ให้​ข้า​ติดตาม​คุณชาย​กลับ​บ้านเกิด​ คิดดู​แล้วก็​คง​ต้อง​มีโอกาส​ให้​ข้า​ได้​แสดง​ฝีมือ​อันน้อย​นิด​อยู่​บ้าง​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “มีได้​ แต่​อย่า​ให้​มาก​ไป​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​ตอบรับ​ว่า​ใช่ จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​เรียน​กระบี่​ได้​เร็ว​ ออก​กระบี่​ได้​เร็ว​ยิ่งกว่า​”

มีเพียง​พูดถึง​เรื่อง​เวท​กระบี่​เท่านั้น​ที่​ถึงจะเผย​พลัง​อำนาจ​ที่​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​ควร​มีออกมา​

จากนั้น​ลู่​เฉิน​ก็​พูดคุย​เรื่อง​ขนบธรรมเนียมประเพณี​บางอย่าง​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ให้​เสี่ยว​โม่ฟัง

อันที่จริง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ก็​ไม่ขาด​บุคคล​และ​เรื่องราว​มหัศจรรย์​เช่นกัน​

ใต้​หล้า​มืด​สลัว​มีอาณาเขต​ที่​พอ​จะแบ่ง​ออกมา​ได้​สิบ​เก้า​เขต​ ทว่า​ไพศาล​กลับ​มีเก้า​ทวีป​ นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​โชคชะตา​ขุนเขา​และ​โชคชะตา​สายน้ำ​ของ​สอง​ใต้​หล้า​แตก​ต่างกัน​มาก​

ต่อให้​เป็น​ใต้​หล้า​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีเต้า​กวาน​อยู่​ทั่ว​ทุก​สถานที่​ก็​ยังมี​วัดวา​อยู่​ด้วย​ มังกร​และ​คชสาร​ของ​ลัทธิ​พุทธ​ ความ​แตกฉาน​ใน​ด้าน​พระธรรม​อย่าง​ลึกล้ำ​ ความมหัศจรรย์​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​ของ​พวกเขา​มาก​เกิน​กว่า​ใคร​จะจินตนาการ​ได้​ ลู่​เฉิน​เคย​ออก​ท่อง​ไป​ใน​ใต้​หล้า​ จึงแวะ​ไป​ตาม​วัด​ใหญ่​ๆ มาจน​ทั่ว​แล้ว​รอบ​หนึ่ง​ เคย​มีภิกษุ​เฒ่าของวัด​เล็ก​คน​หนึ่ง​ที่​ไร้​ชื่อเสียง​ เขา​แทบจะ​มีจิต​แห่ง​ฟ้าแล้ว​ กุ​ฎิที่​เจ้าอาวาส​ผู้เฒ่า​พักอาศัย​เป็น​ห้อง​ทรง​สี่เหลี่ยม​กว้าง​แค่​หนึ่ง​จั้ง แต่กลับ​บรรจุ​อาสนะ​ไว้​ได้​หลาย​พัน​ชิ้น​

นักพรต​ซุน​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ อู๋ซวงเจี้ยง​ ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว​

คน​เฝ้าปี​แห่ง​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ เจ้าคน​ที่​มีฉายา​ว่า​เสี่ยว​ป๋า​ยคน​นั้น​ มอง​ดูเหมือน​ถูก​ประเมิน​ไว้​สูง แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ถูก​ประเมิน​ไว้​ต่ำ​มาโดยตลอด​

เขต​เหยี่ยน​โจว​มีเซียน​กระบี่​อิส​ระคน​หนึ่ง​ชื่อว่า​เนี่ย​ปี้​เสีย​ อีก​ชื่อ​คือ​ชื่อ​จื่อสือ​เห​ริน​ ตรง​เอว​ห้อย​ขลุ่ย​เหล็ก​ไว้​หนึ่ง​เลา​ เรียก​ตัวเอง​ว่า​เป็น​บุคคล​ที่​ ‘สวรรค์​รู้​ว่า​ข้า​จริงใจ​’ แต่​สวรรค์​กลับ​ ‘ยัด​ความ​อันตราย​มากมาย​ไว้​บน​ร่าง​ของ​กวี​’

นักพรต​ของ​ภูเขา​ซาน​อิน​คน​หนึ่ง​ มีฉายา​ว่า​ไท่​อี๋​ ชอบ​เลี้ยง​ห่าน​

ลู่​เฉิน​ร่าย​รายชื่อ​ออกมา​ทีเดียว​สิบ​กว่า​ชื่อ​ ไม่ว่า​จะเป็น​เรื่องราว​ใน​ชีวิต​ของ​เต้า​กวาน​คนใด​ก็ตาม​ล้วน​สามารถ​เอา​มาเขียน​เป็น​นิทาน​เรื่องเล่า​ประหลาด​ได้​ทั้งสิ้น​

ส่วน​บน​วิถี​วร​ยุทธ​ก็​มีหลิน​เจียง​เซียน​ผู้ฝึก​ยุทธ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​

และ​ยังมี​ซิน​ขู่​ของ​ยอดเขา​รุ่น​เย​ว่​

ชื่อว่า​ซิน​ขู่​ ทว่า​การเรียน​วร​ยุทธ​กลับ​ไม่ลำบาก​เลย​แม้แต่น้อย​ ต่อให้​หันไป​ฝึก​ตน​ก็​ไม่ลำบาก​

หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​ตั้งชื่อ​แบบนี้​แล้ว​ได้ผล​ ลู่​เฉินคง​เปลี่ยน​ชื่อ​ให้​ตัวเอง​เป็น​ ‘ลู่​โห​ย่ว​ตี๋​’ (ลู่​มีศัตรู​) ฉายา​ ‘โหล่​ว​อี่​’ (ตุ่น​และ​มด​ หมายถึง​บุคคล​ที่​มีกำลัง​น้อย​และ​มีฐานะ​ต่ำ​) ไป​แล้ว​

ป๋า​ยอ​วี้​จิงแห่ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​คล้ายคลึง​กับ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ ไม่ใช่ศาล​บุ๋น​ของ​แผ่นดิน​กลาง​

คอย​ควบคุม​ดูแล​ใต้​หล้า​ทั้ง​แห่ง​ อาณา​เขตการปกครอง​กว้างขวาง​พอๆ กับ​อาณาเขต​ส่วนตัว​ของ​สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ ย้อน​กลับมา​ดู​พื้นที่​ใน​การ​ดูแล​ที่​เป็น​ของ​ศาล​บุ๋น​อย่าง​แท้จริง​ อันที่จริง​แล้วก็​มีแค่​สถานศึกษา​ใหญ่​สามแห่ง​และ​สำนักศึกษา​เจ็ด​สิบสอง​แห่ง​เท่านั้น​

เรื่อง​พวก​นี้​ล้วน​เป็น​เรื่องราว​ที่​ลู่​เฉิน​ใช้พูดคุย​บน​โต๊ะ​สุรา​กับ​สหาย​เสี่ยว​โม่ที่​เพิ่ง​เจอ​หน้า​ก็​เหมือน​รู้จัก​กัน​มานาน​

เพียงแต่​ไม่ทัน​ระวัง​ปล่อย​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ฟังเข้าหู​ แล้ว​จะมาบอ​กว่า​เจ้าลัทธิ​ลู่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงรู้เห็นเป็นใจ​กับ​ศัตรู​ก่อ​กบฏ​ได้​อย่างไร​ ใส่ร้าย​กัน​เกินไป​แล้ว​

ใคร​กล้า​ใส่ร้าย​ผิน​เต้า​ ผิน​เต้า​ก็​จะยก​เอา​ศิษย์​พี่​อวี๋​ออกมา​พูด​แล้ว​

แม้เฉิน​ผิง​อัน​จะเหมือน​ภิกษุ​เฒ่าที่นั่ง​เข้าฌาน​ แต่​แท้จริง​แล้ว​เขา​กลับ​ได้ยิน​บทสนทนา​ระหว่าง​ลู่​เฉิน​และ​เสี่ยว​โม่ทั้งหมด​

ก่อนหน้านี้​หนิง​เหยา​พก​กระบี่​บิน​ทะยาน​จาก​ใต้​หล้า​ห้า​สีมายัง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เป็น​ความคิด​ที่​เกิดขึ้น​กะทันหัน​ ไม่อย่างนั้น​นาง​ก็​สามารถ​นำ​รายงาน​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​เกี่ยวกับ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​มาให้​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ ล้วน​เป็น​ผลลัพธ์​จาก​การ​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​นคร​บิน​ทะยาน​รวบรวม​มาจาก​สี่ทิศ​ บันทึก​ถึงเรื่องใหญ่​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ช่วงเวลา​พันปี​ล่าสุด​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ไว้​คร่าวๆ​

‘รายงาน​’ พวก​นี้​ของ​เจ้าลัทธิ​ลู่​ แน่นอน​ว่า​สามารถ​ตรวจสอบ​หา​ช่องโหว่​แล้ว​ชดเชย​ส่วน​ที่​ขาด​ได้​ อีก​ทั้ง​เมื่อ​เทียบ​กับ​ข่าวลือ​ทั้งหลาย​แล้วก็​ยัง​ขยับ​เข้าใกล้​ความจริง​มากกว่า​

“บ้านเกิด​แห่ง​ที่สอง​ของ​สหาย​ลู่​มียอด​ฝีมือ​มากมาย​ คิดดู​แล้ว​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​เป็น​ผู้นำ​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​นั้น​ก็​มีแต่​จะยิ่ง​สูงส่งจน​มิอาจ​ปีนป่าย​ได้​ถึง”

เสี่ยว​โม่รู้สึก​สะท้อนใจ​ยิ่งนัก​ “วันหน้า​ข้า​คง​ไม่ไปเที่ยว​เยือน​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ไม่พูด​อะไร​ ประโยค​นี้​พูด​เร็ว​เกินไป​นัก​

เสี่ยว​โม่ถาม “บ้านเกิด​ของ​คุณชาย​คือ​สถานที่​แบบ​ใด​?”

เพราะ​ถึงอย่างไร​วันหน้า​ตน​ก็​ต้อง​ไป​ลงหลักปักฐาน​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​

ใบหน้า​ของ​ลู่​เฉิน​เต็มไปด้วย​ความ​ลำพองใจ​ มือหนึ่ง​ถือ​จอก​เหล้า​ แกว่ง​ส่าย​เบา​ๆ มือหนึ่ง​ถือ​ตะเกียบ​คีบ​กับแกล้ม​รวดเร็ว​ราวกับ​บิน​ พูด​เสียง​อู้อี้​ว่า​ “ถือว่า​สหาย​ถามได้​ถูก​คน​แล้ว​ เสี่ยว​เต้า​ตั้ง​แผง​ดูดวง​อยู่​ที่นั่น​มานาน​หลาย​ปี​ มีชื่อเสียง​ที่​ดีมาก​ ผู้คน​ต่าง​ก็​พูดถึง​ใน​ทาง​ที่​ดี​ ไม่ว่า​จะเป็น​คนแก่​ เด็ก​ สตรี​หรือ​คนอ่อนแอ​ เจอก​ับเสี่ยว​เต้า​แล้ว​ ทั้ง​สีหน้า​และ​แววตา​ล้วน​ฉาย​ความ​กระตือรือร้น​ที่​มาจาก​ใจจริง​ จะยกตัวอย่าง​ให้​ฟังก็แล้วกัน​ คุณชาย​บ้าน​เจ้าอยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ได้รับ​การปฏิบัติ​อย่างไร​ เสี่ยว​เต้า​อยู่​ที่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูเก่า​ก็​ได้รับ​การ​ต้อนรับ​อย่างนั้น​”

เสี่ยว​โม่โน้มตัว​ไป​ด้านหน้า​ มือหนึ่ง​จับ​ประคอง​ชาย​แขน​เสื้อ​ อีก​มือหนึ่ง​คีบ​เมล็ด​ซิ่งเห​ริน​เมล็ด​หนึ่ง​ขึ้น​มาจาก​ใน​จาน​ ฟังคำพูด​ของ​สหาย​ลู่​แล้วก็​เอา​เมล็ด​ซิ่งเห​ริน​คั่ว​แห้ง​เมล็ด​นั้น​ใส่ปาก​เคี้ยว​กลืน​ แล้ว​ถึงได้​พยักหน้า​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ชัดเจน​ว่า​ “สหาย​ลู่​เข้ากับ​คนอื่น​ได้ดี​ ข้า​ว่า​ไม่แปลก​”

ลู่​เฉิน​ยกมือ​ที่​ถือ​ตะเกียบ​ขึ้น​มาป้อง​ข้าง​ปาก​ กด​เสียงต่ำ​เอ่ย​ว่า​ “แต่ว่า​พี่​เสี่ยว​โม่ต้อง​ระวัง​เรื่อง​หนึ่ง​นะ​ ไป​ถึงที่นั่น​แล้วก็​ฟังคำแนะนำ​ของ​คุณชาย​บ้าน​เจ้าให้​ดี​ ต้อง​ตั้งใจ​วางตัว​เป็น​คน​ให้​ดี​ ส่วน​เหตุผล​ก็​ให้​เสี่ยว​เต้า​ค่อยๆ​ เล่า​ให้​เจ้าฟังแล้วกัน​”

เสี่ยว​โม่ฟังคำแนะนำ​จาก​สหาย​ลู่​แล้วก็​เกิด​ใจระแวง​ป้องกัน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแห่ง​นั้น​อย่าง​เต็มเปี่ยม​ เขา​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ กลัดกลุ้ม​ยิ่งนัก​ ตน​คือ​นักรบ​พลีชีพ​อย่าง​สมชื่อจริง​ดัง​คาด​เสีย​ด้วย​

แต่​เรื่อง​ที่​อันตราย​ที่สุด​ อันที่จริง​ได้​ผ่าน​พ้นไป​แล้ว​

เพราะ​ไม่จำเป็นต้อง​คืน​เวท​กระบี่​กลับ​ไป​ชั่วคราว​

หาก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ผู้​นี้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ไว้​บน​หัว​กำแพง​เป็น​คำ​ว่า​ ‘ผิง​’ หรือ​ ‘อัน​’ หรือไม่​ก็​ ‘ชิง’ ‘ตู​’

ถ้าอย่างนั้น​มัน​ที่​ถูก​บุคคล​ชั้น​สูงสุด​ซึ่งถ่ายทอด​เวท​กระบี่​ให้​พา​มาที่​หัว​กำแพงเมือง​ก็​คง​ได้​แต่​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ ปล่อย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ฟัน​จน​ขอบเขต​ถดถอย​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​ให้​อีก​ฝ่าย​ฟัน​จนได้​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​ที่​ควรค่า​แก่​การแกะสลัก​ตัวอักษร​หนึ่ง​ตัว​ก่อน​จึงจะได้​

บวก​กับ​ที่​ก่อนหน้านี้​ได้​มีอักษร​คำ​ว่า​ ‘เฉิน’​ อยู่แล้ว​

บางที​ก็​จะรวม​จน​กลายเป็น​ชื่อ​สอง​ชื่อ​ได้​ หาก​ไม่ใช่เฉิน​ผิง​อัน​

ก็​ต้อง​เป็น​เฉิน​ชิงตู​

เฉิน​ชิงตู​ แน่นอน​ว่า​เสี่ยว​โม่ย่อม​คุ้นเคย​ดี​

คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ที่​ใน​อดีต​คุณสมบัติ​ไม่ถือว่า​ดี​ที่สุด​ แต่​สามารถ​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​ได้​มั่นคง​ที่สุด​ อีก​ทั้ง​หลังจาก​เดิน​ขึ้น​สู่ยอด​สูงสุด​แล้ว​ ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​กระบี่​มากมาย​ของ​เผ่า​มนุษย์​ก็​ถือว่า​เป็น​เฉิน​ชิงตู​ที่​ตอแย​ได้​ยาก​ที่สุด​ ออก​กระบี่​ได้​อำมหิต​ที่สุด​ แล้ว​ยัง​ชอบ​พูดจา​กระแนะกระแหน​คนอื่น​เป็น​ที่สุด​

ลู่​เฉิน​ชูจอก​เหล้า​ขึ้น​ “มีสหาย​เสี่ยว​โม่ทำหน้าที่​เป็น​ผู้​ปกป้อง​มรรคา​ ข้า​ก็​วางใจ​ได้​แล้ว​”

เสี่ยว​โม่ส่ายหน้า​ “ไม่ใช่ผู้​ปกป้อง​มรรคา​อะไร​หรอก​ ข้า​เป็น​แค่​นักรบ​พลีชีพ​เท่านั้น​”

มัน​ไม่ได้​มีความคิด​ที่​วกวน​อ้อมค้อม​อะไร​มากมาย​

ก็​เหมือน​อย่าง​ก่อนหน้านี้​ที่​เจอ​กับ​บุคคล​ชั้น​สูงสุด​ ทั้งสองฝ่าย​ได้​กลับมา​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​หลังจาก​ลา​กัน​ไป​นาน​ ต่อให้​เป็น​อีก​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ มัน​ก็​ยัง​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​ ยังคง​หวาดเกรง​ดังเดิม​ ความรู้สึก​นั้น​ไม่ได้​ลดน้อยลง​เลย​สักนิด​

ไม่มีทาง​ตอบโต้​อย่าง​แน่นอน​ และ​นี่​ก็​ไม่ได้​เกี่ยวกับ​เวท​กระบี่​และ​ขอบเขต​สูงต่ำ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ด้วย​

ไม่อย่างนั้น​ต่อให้​เจอ​กับ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ สมมต​ว่า​เกิด​ความขัดแย้ง​กัน​ แล้ว​มีการช่วงชิง​บน​มหา​มรรคา​ที่​เกี่ยวพัน​กับ​ความเป็นความตาย​จริงๆ​ ต่อให้​มัน​เอาชนะ​ไม่ได้​ แต่​มัน​จะไม่ยอม​สู้ตาย​เพื่อ​เดิมพัน​ดู​สัก​ตั้ง​เลย​หรือ​?

ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กันที่​ผู้ฝึก​กระบี่​จะออก​กระบี่​ต่อ​คน​ที่​เวท​กระบี่​ต่ำกว่า​เท่านั้น​? ไม่มีหลักการ​เหตุผล​เช่นนี้​

นอกจาก​จะเคย​ตี​กับ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ตั้งแต่​โลก​มนุษย์​ไป​จนถึง​ดวงจันทร์​ ‘เฮ่าไฉ่’ แล้ว​ บรรพบุรุษ​ใหญ่​ที่​ได้​ยึดครอง​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ใน​ภายหลัง​ ปีศาจ​ใหญ่​ชูเซิงที่​บุกเบิก​ตำหนัก​ห​ลิง​เตี้ย​น​

หรือ​แม้กระทั่ง​ผู้ฝึก​ตน​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ฟ้าดิน​ท่าน​นั้น​

และ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​สอง​คน​ที่​เป็น​คน​รุ่น​เดียว​กับ​เฉิน​ชิงตู​ คน​หนึ่ง​ชื่อ​หยวน​เซียง​ คน​หนึ่ง​ชื่อ​หลง​จวิน​

มีใคร​บ้าง​ที่​มัน​ไม่เคย​ต่อสู้​ด้วย​มาก่อน​?

แน่นอน​ว่า​ ล้วน​แพ้​ทั้งหมด​

“พี่​เสี่ยว​โม่ เจ้ารู้สึก​ว่า​เรื่อง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​สำหรับ​การ​เป็น​คน​คือ​เรื่อง​ใด​?”

“มีชีวิต​อยู่​อย่าง​ยาวนาน​”

เทียบ​กับ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ มัน​สร้าง​ตาข่าย​จับ​ ‘สัตว์ปีก​’ ทั้งหมด​บน​ท้องฟ้า​ พวก​นก​หลวน​ หงส์​ นก​กระเรียน​ ล้วน​เป็น​อาหาร​ใน​ท้อง​ของ​มัน​ทั้งหมด​

แล้ว​ยังมี​เจียว​หลง​อีก​ตัว​หนึ่ง​ที่​สยาย​ปีก​บิน​ไปมา​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ ชอบ​ขับไล่​พวก​สัตว์ปีก​ลง​ไป​ใน​มหาสมุทร​ใหญ่​อย่าง​กำเริบเสิบสาน​ หลังจาก​เอา​พวก​มัน​มารวมกัน​แล้ว​ค่อย​เขมือบ​กลืน​ลง​ไป​ใน​คำ​เดียว​

“ดูเหมือนว่า​สหาย​ลู่​จะไม่เห็นด้วย​?”

“พูดตาม​มโนธรรม​ใน​ใจ ผู้อื่น​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​ดุจ​วีรบุรุษ​แห่ง​แคว้น​ ข้า​ตอบแทน​ผู้อื่น​ด้วย​ท่าที​ของ​วีรบุรุษ​แห่ง​แคว้น​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 876.2 ขอบเขตถดถอย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์