CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 883.1 ดอกและผล

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 883.1 ดอกและผล
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ซิ่ว​ไฉเฒ่าคน​หนึ่ง​ที่​หัวเราะ​ร่า​อารมณ์ดี​มาที่​ศาล​เทพ​อัคคี​ มายืน​อยู่​ตรง​บันได​ขั้น​ล่าง​สุด​ของ​ซุ้มดอกไม้​ บอ​กว่า​จะให้​เฟิงอี๋​ช่วย​สืบ​ข่าว​ใน​วังหลวง​สักหน่อย​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ที่​นิสัย​เรียบง่าย​ซื่อสัตย์​ ใจดี​มีเมตตา​กับ​คนอื่น​ไม่รู้ทัน​แผน​ชั่วร้าย​ ถูก​คน​บางคน​ที่​อาศัยว่า​อายุ​มากกว่า​แค่​ไม่กี่​ปี​ทำตัว​เป็น​คนแก่​รังแก​เด็ก​ หาก​ถูก​ตาแก่​หนังเหนียว​นั่น​หลอก​จน​ผ่าน​ด่าน​ไป​ได้​ แล้ว​ยัง​ไม่รู้จัก​เห็น​ความดี​ของ​เขา​ เขา​ที่​เป็น​อาจารย์​ย่อม​ไม่มีทาง​ยอม​นิ่งดูดาย​อยู่​เฉย​ๆ เป็นแน่​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่แม้แต่​จะมอง​สารถี​เฒ่าให้​เต็มตา​ เอาแต่​พูดจา​ประจบ​เอาใจ​เฟิงอี๋​ เจอ​หน้า​ก็​คารวะ​ คารวะ​เสร็จ​แล้ว​เขา​ก็​ไม่ไป​นั่ง​โต๊ะ​หิน​ที่​สารถี​เฒ่านั่ง​อยู่​ แต่​ร่าย​คำพูด​ที่​ราวกับ​ดึง​ออก​มาจาก​ถังผัก​ดอง​ อะไร​ที่​บอ​กว่า​บุปผา​ดวงจันทร์​สาวงาม​ต้อง​มีบทกวี​อัน​ไพเราะ​ และ​แรงบันดาลใจ​ใน​การ​แต่ง​กวี​ก็​มาจาก​สุรา​ หาก​บน​โลก​นี้​ไม่มีเหล้า​หมัก​ ทั้ง​ฤกษ์ดี​ทิวทัศน์​งามก็​ล้วน​เป็น​เพียง​เครื่องประดับ​ที่ว่างเปล่า​…

เฟิงอี๋​ทน​รับ​กลิ่น​เปรี้ยว​นี้​ไม่ไหว​จึงได้​แต่​โยน​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ไป​ให้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าหนึ่ง​ไห​ ถือเป็น​ของ​ปิดปาก​อีก​ฝ่าย​ นั่งลง​ตรง​บันได​หิน​ใต้​ซุ้มดอกไม้​แล้ว​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​คล้าย​เพิ่งจะ​มองเห็น​สารถี​เฒ่า รีบ​ขยับ​ก้น​ยกขึ้น​ร้อง​โอ้โห​หนึ่ง​ที​ อุ้ม​กา​เหล้า​ไป​พูดจา​แฝงความนัย​ที่​โต๊ะ​หิน​อย่าง​กระตือรือร้น​ พึมพำ​ทวง​ความเป็นธรรม​แทน​ผู้อาวุโส​อยู่​หลาย​ประโยค​ เหตุใด​ถึงเหลือ​เหล้า​แค่​ครึ่ง​ไห​แล้ว​เล่า​ ได้ยิน​ชื่อเสียง​อัน​เลื่องลือ​มานาน​ ประหนึ่ง​ฟ้าผ่า​ริ​มหู​ อุตส่าห์​ได้​เจอกัน​ทั้งที​ ไม่ทัน​เมาก็​จะกลับ​แล้ว​ได้​อย่างไร​ กระทั่ง​เฟิงอี๋​ทน​คำพูด​กระทบกระเทียบ​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่ไหว​จึงโยน​เหล้า​ไป​ให้​สารถี​เฒ่าอีก​หนึ่ง​กา​ ผล​คือ​ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​จ้อง​เป๋ง​ไป​ที่​ฝ่าย​หลัง​และ​สุรา​บน​โต๊ะ​อยู่​อย่างนั้น​ สายตา​ขยับ​ขึ้น​ขยับ​ลง​ไม่หยุดนิ่ง​ ฝ่าย​หลัง​เข้าใจ​โดยพลัน​ ผลัก​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ที่​เพิ่ง​ได้มา​ไป​ให้​เห​วิน​เซิ่งผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​เงียบๆ​ ทันที​

จากนั้น​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​นั่งลง​ข้าง​โต๊ะ​ หยิบ​เอา​ถั่วเหลือง​คั่ว​แห้ง​กำ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ โปรย​ลง​บน​โต๊ะ​ ใช้วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​บท​หนึ่ง​ของ​เฟิงอี๋​ อาศัย​ลม​เย็น​ที่​โชย​อยู่​ระหว่าง​โลก​มนุษย์​มาเงี่ย​หูฟัง​บทสนทนา​ใน​งานเลี้ยง​สุรา​ที่​วังหลวง​

คาด​ว่า​ใน​บรรดา​อริยะ​ปราชญ์​มากมาย​ผู้​มีเทวรูป​และ​เจ้าขุนเขา​ผู้อำนวยการ​ทั้งหลาย​ของ​ศาล​บุ๋น​ ก็​คง​มีแค่​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเท่านั้น​ที่​ทำ​เรื่อง​น่าขายหน้า​เช่นนี้​ได้​ลง​ แล้ว​ยัง​ทำ​อย่าง​มาดมั่น​มีเหตุมีผล​เต็มเปี่ยม​อีกด้วย​

สารถี​เฒ่านั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​อาการ​ตะครั่นตะครอ​ อยาก​จะขอตัว​ลา​กลับ​ไป​เต็มที​

คิดไม่ถึง​ว่า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าจะเหล่​ตา​มอง​มา โยน​ถั่วเหลือง​คั่ว​สอง​สามเม็ด​เข้า​ปาก​ “ไม่ไว้หน้า​กัน​ใช่ไหม​? ข้า​บอก​ให้​เจ้าไป​ได้​แล้ว​หรือ​?”

สารถี​เฒ่ายิ้มเจื่อน​ “เห​วิน​เซิ่งพูดตลก​แล้ว​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ตลก​? จำเป็นต้อง​พูด​ด้วย​หรือ​ ใน​สายตา​ของ​พวก​เจ้า เดิมที​ข้า​ก็​เป็น​ตัวตลก​อยู่แล้ว​ไม่ใช่หรือ​ ยัง​ต้อง​พูด​อีก​หรือ​ไร​?”

ใน​ใจสารถี​เฒ่าตะลึงพรึงเพริด​สุดขีด​ รู้สึก​กระวนกระวาย​ขึ้น​มาโดยพลัน​

คง​ไม่ใช่ว่า​วันนี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าปาก​อม​กฎ​สวรรค์​ ต้องการ​มาคิดบัญชี​ย้อนหลัง​แทน​ศาล​บุ๋น​หรอก​กระมัง​?

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหัวเราะ​หยัน​ “ข้า​ว่า​ผู้อาวุโส​ต่างหาก​ที่​พูดตลก​เก่ง​นัก​ ทำไม​ ผู้อาวุโส​ดูแคลน​อันดับ​สี่ของ​ศาล​บุ๋น​ คิด​ว่า​ไม่มีคุณสมบัติ​พอ​จะนั่ง​ทัดเทียม​กับ​ท่าน​อย่างนั้น​หรือ​?”

ต่อให้​สารถี​เฒ่าจะหัวทึบ​แค่​ไหน​ก็​ยัง​รู้​หนัก​เบา​ รู้​ผลได้​ผลเสีย​ดี​ ใน​ใจรู้​ว่า​ท่า​ไม่ดี​เสียแล้ว​ จึงรีบ​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​กับ​เฟิงอี๋​ “ผู้​มามีเจตนาร้าย​ ไม่เหมือน​นิสัย​ยาม​ปกติ​ของ​เห​วิน​เซิ่งเลย​ อีก​เดี๋ยว​หาก​เห​วิน​เซิ่งอาละวาด​ไร้เหตุผล​ หรือ​คิด​จะสาด​น้ำ​สกปรก​ใส่ข้า​ เจ้าช่วย​แบกรับ​ไว้​ให้​หน่อย​ อย่าง​น้อย​ทาง​ฝั่งศาล​บุ๋น​และ​ภูเขา​เจิน​อู่​ เจ้าก็​ช่วย​พูด​ให้​ที​”

เกี่ยวกับ​ความอัปยศ​ความรุ่งโรจน์​และ​ผลได้​ผลเสีย​ของ​ตน​ ชั่วชีวิต​นี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่เคย​สน​ใจมาก่อน​ ต่อให้​เทวรูป​ที่อยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​จะถูกลด​ระดับ​ลง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ กระทั่ง​ถูก​ย้าย​ออกจาก​ศาล​บุ๋น​ หรือ​ถึงขั้น​ถูก​ทุบ​แตก​อยู่​ริม​ทาง​ ใต้​หล้า​ไพศาล​สั่งห้าม​เผยแพร่​ความรู้​ของ​เขา​ ตัว​เขา​เอง​ก็​ถูก​กักขัง​อยู่​ใน​สวน​กง​เต๋อ​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าล้วน​ไม่เคย​แก้ตัว​ให้​ตัวเอง​ แม้แต่​ร่ำร้อง​ว่า​ได้รับ​ความ​ไม่เป็นธรรม​สัก​คำ​ก็​ไม่เคย​ บัณฑิต​คน​หนึ่ง​ที่​ได้รับ​คำ​ว่า​ ‘เซิ่ง’ ต่อท้าย​ มีชีวิต​อยู่​มาจน​ถึงขั้น​นี้​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ไม่เคย​มีมาก่อน​ หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​มีแค่​เขา​คนเดียว​เท่านั้น​

เฟิงอี๋​ใช้เสียง​ใน​ใจตอบ​ “จะพยายาม​แล้วกัน​ ได้​แต่​รับปาก​ว่า​หาก​ช่วย​ได้​ก็​จะช่วย​ แต่​หาก​ช่วยไม่ได้​เจ้าก็​อย่า​โทษ​ข้า​ ตอนนี้​ข้า​ก็​กังวล​เหมือนกัน​ว่า​จะชักนำ​ไฟให้​ลาม​มาเผา​ตัวเอง​”

เห​วิน​เซิ่งใน​วันนี้​เป็น​อย่าง​ที่​สารถี​เฒ่ากล่าว​ วางท่า​ว่า​ผู้มาเยือน​มีเจตนา​ไม่ดี​ ผู้​มีเจตนา​ดี​ไม่มาเยือน​จริงๆ​ ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ต้องการ​จะซักไซ้​เอาเรื่อง​กับ​พวก​ลู่​เหว่​ย​

เฟิงอี๋​เอง​ก็​เข้าใจ​ได้​ ฉีจิ้งฉุน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ลูกศิษย์​คน​เล็ก​สุด​สอง​คน​ก่อน​และ​หลัง​ต่าง​ก็​เคย​ถูก​พวก​ตาแก่​เหล่านี้​ ‘อาศัยว่า​อายุ​มากกว่า​มารังแก​’ ตอน​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูมาก่อน​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ที่​ซิ่ว​ไฉเฒ่าอยู่​ในเวลานี้​ก็​ยิ่ง​เป็น​ ‘สถานที่​ฝึก​ตน​’ ที่​ลูกศิษย์​คน​แรก​อย่าง​ชุย​ฉาน​ทุ่มเท​ความคิด​จิตใจ​นาน​นับ​ร้อย​ปี​สร้าง​ขึ้น​มา อารมณ์​จะดี​ได้​อย่างไร​?

ดังนั้น​ยังคง​เป็น​ประโยค​เก่าแก่​ประโยค​นั้น​ อย่า​ได้​รังแก​คนซื่อ​ที่​มองดู​แล้ว​นิสัย​ดี​มากเกินไป​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากล่าว​ “ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​บางอย่าง​ที่​ฝุ่น​เกาะ​มานาน​ปี​ วันนี้​เฟิงอี๋​จงใช้โอกาส​นี้​ชดใช้​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​เถิด​”

เฟิงอี๋​ถอนหายใจ​เบา​ๆ ก่อน​พยักหน้า​รับ​

ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​วางแผน​ปัดแข้งปัดขา​กับ​ลู่​เหว่​ย​และ​หนัน​จาน​อยู่​ใน​วังหลวง​ ‘อยู่ดีๆ​’ จึงมีข้อได้เปรียบ​ของ​การชิง​ลงมือ​ก่อน​เพิ่ม​มาหลายครั้ง​อย่าง​ไม่ทราบ​สาเหตุ​

สารถี​เฒ่าเห็น​ว่า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเดี๋ยว​ก็​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​คล้าย​พระธุดงค์​ เดี๋ยว​ก็​หรี่ตา​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​อย่าง​ชอบใจ​ เดี๋ยว​ก็​ผงกศีรษะ​อยู่​กับ​ตัวเอง​ คล้าย​แอบ​ได้ยิน​ถ้อยคำ​อัน​ยอดเยี่ยม​ซึ่งเกา​ถูกที่​คัน​

สุดท้าย​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​ให้​เฟิงอี๋​เชิญลู่​เหว่​ย​มารำลึก​ความหลัง​กันที่​ศาล​เทพ​อัคคี​แห่ง​นี้​

เฟิงอี๋​ ลู่​เหว่​ย​ สารถี​เฒ่า สหาย​เก่า​สามคนใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​เมืองหลวง​ต้า​หลี​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าปรายตา​มอง​บรรพบุรุษ​สกุล​ลู่​ที่​เร่ง​เดินทาง​ออกจาก​วังหลวง​ต้า​หลี​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​แล้ว​เก็บ​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​กา​หนึ่ง​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ คว้า​ถั่วเหลือง​คั่ว​กำ​สุดท้าย​บน​โต๊ะ​มาโยน​ใส่ปาก​เคี้ยว​ช้าๆ แล้ว​กลืน​ ลุกขึ้น​อย่าง​เนิบ​ช้า เอ่ย​ประโยค​ที่​เป็น​ข้อสรุป​แบบ​ตอก​ปิด​ฝาโลง​กับ​สารถี​เฒ่าว่า​ “วันหน้า​เจ้าอย่า​ได้คิด​จะเข้าออก​ภูเขา​เจิน​อู่​อีก​เลย​ ไม่อย่างนั้น​หาก​ข้า​รู้​เข้า​ ข้า​ก็​จะไม่ไป​หาเรื่อง​เจ้าหรอก​ แต่​ข้า​จะไป​อธิบาย​เหตุผล​กับ​ภูเขา​เจิน​อู่​แทน​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายื่น​นิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​จิ้มไป​ที่​หน้าอก​ “คำพูด​ของ​ข้า​ก็​คือ​คำพูด​ของ​ศาล​บุ๋น​ หาก​ภูเขา​เจิน​อู่​มีความเห็น​ต่าง​ก็​ไป​ฟ้องศาล​บุ๋น​เอา​เอง​ ข้า​จะรอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​”

สารถี​เฒ่าเหมือน​ได้​ยกภูเขาออกจากอก​ ยัง​ดี​ที่​เห​วิน​เซิ่งไม่ได้​รังแก​กัน​มากเกินไป​ วันหน้า​อย่าง​มาก​ตน​ก็​เข้าออก​โลก​มนุษย์​ผ่าน​ทาง​ศาล​ลม​หิมะ​ก็แล้วกัน​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ามอง​ลู่​เหว่​ย​ที่​ขอบเขต​เพิ่ง​ถดถอย​ “กลับ​ไป​ถึงทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​แล้ว​ เจ้าก็​ช่วย​ไป​บอก​กับ​ลู่​เซิงแทน​ข้า​สัก​คำ​ วันหน้า​เมื่อ​ไป​ที่​หอ​ครอง​ดาว​ อย่า​ได้​เดินทาง​ตอนกลางคืน​ อย่า​ไป​พูดว่า​ข้า​มีที่พึ่ง​อะไร​อยู่​ที่​ศาล​บุ๋น​ล่ะ​ รับมือ​กับ​ลู่​เซิงคนเดียว​ ไม่จำเป็น​ ไม่มีค่า​พอ​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายก​นิ้วโป้ง​ชี้ไป​ที่​ท้องฟ้า​ “บน​ฟ้าข้า​ผู้อาวุโส​ก็​มีคน​อยู่​ด้วย​”

ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ ผสาน​มรรคา​กับ​ธาร​ดวงดาว​

ข้า​กับ​ป๋า​ย​เห​ย่​เป็น​พี่น้อง​ที่​ดี​ต่อกัน​ ส่วน​ตา​เฒ่าอวี๋​ก็​มีมิตรภาพ​ที่​เคย​แลก​ชีวิต​กัน​มากับ​ป๋า​ย​เห​ย่​ ถ้าอย่างนั้น​ข้า​กับ​ตา​เฒ่าอวี๋​ก็​คือ​สหาย​รัก​กัน​แล้ว​

เหตุใด​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ถึงต้อง​เปิดทาง​ให้​อวี๋​เสวียน​ด้วยตัวเอง​?

แน่นอน​ว่า​เพราะ​ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ไม่ผิด​ต่อ​คำ​ว่า​ ‘ฝูลู่​’ (ยันต์​) ตอนนั้น​เขา​ข้าม​ทวีป​ไป​ให้​ความช่วยเหลือ​ป๋า​ย​เห​ย่​ ตา​เฒ่าอวี๋​เสวียน​ยอม​สละ​มรรค​กถา​และ​ยันต์​นับ​ล้าน​แผ่น​อย่าง​ไม่เสียดาย​ แต่​ก็​ต้อง​เข้าร่วม​สงคราม​วุ่นวาย​ครั้งนั้น​ให้ได้​

ขณะเดียวกัน​ศาล​บุ๋น​ก็​มีความไม่พอใจ​ต่อ​สกุล​ลู่​แผ่นดิน​กลาง​อยู่​เช่นกัน​ เพียงแต่ว่า​เรื่อง​บางอย่าง​สกุล​ลู่​ทำ​อย่าง​คลุมเครือ​ทั้ง​ยัง​ยอดเยี่ยม​ อยู่​ใน​กฎเกณฑ์​ทุก​เรื่อง​ ศาล​บุ๋น​จะเอาโทษ​ก็​ไม่อาจ​แสดงออก​อย่าง​ชัดเจน​มากเกินไป​

บน​ฟ้ามีอวี๋​เสวียน​ สกุล​ลู่​อยู่​บน​ดิน​ นี่​ต่างหาก​จึงจะเป็นการ​พึ่งพา​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​คนอื่น​อย่าง​แท้จริง​!

คำ​ข่มขู่​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่า ฟังดูเหมือน​คำ​ล้อเล่น​ที่​เอาแต่ใจ​ไร้​แก่นสาร​ ไม่เจ็บ​ไม่คัน​ ไม่ส่งผล​ต่อ​เรื่องสำคัญ​ใดๆ​

แต่​ลู่​เหว่​ยก​ลับ​หัวเราะ​ไม่ออก​เลย​สักนิด​

อาจารย์​คน​หนึ่ง​ที่​นิสัย​ดี​ย่อม​ไม่มีทาง​สอน​ลูกศิษย์​อย่าง​ฉีจิ้งชุน​และ​จั่ว​โย่ว​ออกมา​ได้​

บัณฑิต​ที่​ดีแต่​แสร้ง​วางท่า​ข่มขู่​ให้​คน​กลัว​ก็​ไม่มีทาง​สอน​คน​อย่าง​ชุย​ฉาน​ เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เช่นกัน​

อริยะ​ปราชญ์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​ที่​ความรู้​ไม่พอ​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​ชื่อเสียง​ไม่โดดเด่น​ก็​ไม่มีทาง​ทำให้​หลิว​สือ​ลิ่ว​เป็น​ฝ่าย​กราบ​อาจารย์​ขอ​เข้ามา​เรียน​ใน​สำนัก​ด้วยตัวเอง​

ยิ่ง​ไม่มีทาง​มีสหาย​อย่าง​ป๋า​ย​เห​ย่​ ป๋า​ย​เจ๋อ​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ่ง​พูด​ก็​ยิ่ง​โมโห​ สอง​มือ​เท้า​เอว​ฉับ​ แผดเสียง​ก่น​ด่า​ใส่คน​ทั้งสอง​

“ตอนที่​ใช้เหตุผล​กับ​พวก​เจ้าดี​ๆ พวก​เจ้าดัน​ไม่ฟัง ยืนกราน​จะทำตัว​งี่เง่า”

“จะต้อง​ให้​กดหัว​พวก​เจ้า พวก​เจ้าถึงจะยินดี​ฟังเหตุผล​ ยอม​พูด​ภาษาคน​”

“แล้วก็​เพราะ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​ข้า​นิสัย​ดี​ ไม่อย่างนั้น​หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ข้า​ล่ะ​ก็​…ช่างเถอะ​ ข้า​ความสามารถ​ต่ำต้อย​ หน้าตา​ก็​มีแค่​น้อย​นิด​ วันนี้​คง​ไม่ทิ้ง​ถ้อยคำ​อาฆาต​ไว้​ที่นี่​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​จะทำให้​พวก​เจ้าได้​เห็น​เรื่องตลก​กัน​เสีย​เปล่าๆ​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหันไป​มอง​เฟิงอี๋​ที่นั่ง​อยู่​บน​บันได​หิน​ของ​ซุ้มดอกไม้​

ใบหน้า​เฟิงอี๋​เต็มไปด้วย​ความไม่พอใจ​ ตบ​หัว​ใจเบา​ๆ เอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​ว่า​ “โอ้​ ถึงคราว​ด่า​มาถึงข้า​แล้ว​หรือ​? เห​วิน​เซิ่งเชิญด่า​ได้​ตามสบาย​ ข้า​จะรับ​ไว้​ทั้งหมด​เอง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ารู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ ถูมือ​เอ่ย​ “ที่ไหน​กัน​ๆ นี่​ก็เพราะว่า​ข้า​พูด​จน​ปากคอ​แห้งผาก​หมด​แล้ว​ เอา​เหล้า​มาดื่ม​ให้​ชุ่มคอ​สักหน่อย​สิ”

เฟิงอี๋​ยิ้ม​กล่าว​ “เห​วิน​เซิ่งด่า​กัน​ตรงๆ​ ยัง​ดี​เสีย​กว่า​”

สุรา​อร่อย​ แต่กลับ​หลอก​เอา​มาได้​ยาก​

ลู่​เหว่​ย​ที่​ไม่เหลือ​กะ​จิต​กะ​ใจจะทำ​อะไร​เพียงแค่​ก้มหัว​คารวะ​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​ต่อ​เห​วิน​เซิ่ง จากนั้น​ก็​จากไป​อย่าง​เงียบเชียบ​ เดินทางไกล​กลับ​ไป​ยัง​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ หวนกลับ​ไป​ยัง​สกุล​ลู่​ตระกูล​ของ​ตัวเอง​ทั้ง​อย่างนี้​

บรรพ​จารย์​สกุล​ลู่​ท่าน​นี้​ตัดสินใจ​ไว้​แล้ว​ว่า​ชีวิต​นี้​จะไม่เหยียบ​เข้ามา​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​อีก​ สถานที่​อันตราย​ คน​ร้ายกาจ​เยอะ​เกินไป​ ตอนแรก​ก็​เป็น​ฉีจิ้งชุน​ แล้ว​ยัง​มามีเฉิน​ผิง​อัน​อีก​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าดื่มเหล้า​จน​พอ​เมากรึ่ม​ๆ ก็​เดิน​ออก​ไป​จาก​ศาล​เทพ​อัคคี​ ไป​ถึงหน้า​ประตู​ศาล​ก็​พลัน​หยุด​ยืน​นิ่ง​ ถอนหายใจ​ ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ไม่พูด​

หญิง​ชรา​ที่​เป็น​มนุษย์​ธรรมดา​คน​นั้น​เป็น​ทั้งคน​เฝ้าประตู​ศาล​เทพ​อัคคี​ แล้วก็​เป็น​คน​เฝ้าศาล​ด้วย​

เรือน​กาย​ของ​หญิง​ชรา​งอ​งุ้ม นาง​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “เห​วิน​เซิ่งรับ​ลูกศิษย์​ได้ดี​ อ่อนโยน​นอบน้อม​จิตใจ​ดีงาม​ ปฏิบัติ​ต่อ​คนอื่น​อย่าง​มีมารยาท​ ออกมา​อยู่​นอกบ้าน​ ใน​สายตา​สามารถ​มองเห็น​อริยะ​อยู่​กัน​เต็ม​ถนน​ บน​ร่าง​ของ​ทุกคน​ล้วน​มีความ​เป็น​พุทธะ​ แม้ชาติกำเนิด​จะยากจน​ แต่กลับ​มีสติปัญญา​เฉียบแหลม​ มีจิตใจ​ที่​เห็นอกเห็นใจ​ผู้อื่น​”

ใบหน้า​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเต็มไปด้วย​ความ​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​ หัวเราะ​จน​หุบปาก​ไม่ลง​ แต่กลับ​ยัง​โบกมือ​ “ที่ไหน​กัน​ ที่ไหน​กัน​ ไม่ได้ดี​อย่าง​ที่​ผู้อาวุโส​พูด​หรอก​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​เป็น​แค่​คนหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ วันหน้า​ย่อม​ต้อง​ดี​ยิ่งกว่า​นี้​”

‘หญิง​ชรา​’ ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​เป็น​แค่​เนื้อหนังมังสา​ที่​ดวงจิต​หนึ่ง​มาพึ่งพิง​เท่านั้น​ ประหนึ่ง​โรงเตี๊ยม​ใน​โลก​มนุษย์​ ส่วน​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ของ​นาง​ก็​ค่อนข้างจะ​วกวน​ซับซ้อน​แล้ว​ ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​นักพรต​เฒ่าตาบอด​ของ​ตรอก​ฉีหลง​ที่อยู่​ระหว่าง​อาจารย์​และ​ศิษย์​อย่าง​เฉิน​ชิงหลิว​กับ​เจิ้งจวี​จง สถานะ​อย่างหนึ่ง​ที่​ค่อนข้าง​ชัดเจน​ของ​นาง​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​บรรพบุรุษ​ผู้​ประคับประคอง​มังกร​แห่ง​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู หรือ​ก็​คือ​ห​มัว​มัว​ผู้สอน​มารยาท​ของ​ธิดา​มังกร​บาง​คนใน​อดีต​ หรือ​นาน​กว่า​นั้น​ นาง​ยัง​ถือว่า​เป็น​คนกันเอง​ของ​ศาล​บุ๋น​ ระบบ​สาย​หลัก​ของ​ผู้​เลี้ยง​มังกร​ของ​เมื่อ​สามพัน​ปีก่อน​ สถานะ​ของ​นาง​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​หลี​่กวาน​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​

ดังนั้น​ตอนนั้น​ที่​ลู่​เฉิน​ไป​ตั้ง​แผง​ดูดวง​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​แล้ว​ถูก​หลิว​เสี้ยน​หยาง​คว่ำ​แผง​ดูดวง​ ก็​คือ​เส้น​แห่ง​ผลกรรม​เส้น​หนึ่ง​ที่​ซุกซ่อน​อยู่​

ตลอดทั้ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ สถานที่​ที่​มีกลิ่นไอ​มังกร​โชติช่วง​ที่สุด​ เมื่อก่อน​คือ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ทุกวันนี้​แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็นที่​เมืองหลวง​ต้า​หลี​แล้ว​

หญิง​ชรา​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “คน​ล่าง​ล่าง​มีสติปัญญา​บน​บน​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหุบ​ยิ้ม​ เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ “สายตา​ของ​ผู้อาวุโส​ดีกว่า​เฟิงอี๋​หลาย​ส่วน​”

หญิง​ชรา​ส่ายหน้า​ “หาก​จะพูดถึง​แววตา​ พวกเรา​ล้วน​มองเห็น​ไม่ไกล​เท่า​ฉีจิ้งชุน​หรอก​นะ​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าลังเล​เล็กน้อย​ ครั้น​จึงขยุ้ม​หนวด​พูด​รำพึงรำพัน​ “เด็กหนุ่ม​ควร​มีปณิธาน​อัน​ยิ่งใหญ่​ ใคร​เล่า​จะสงสาร​ยาม​ที่​เจ้าต้อง​ตก​ทุกข์​ทอดถอนใจ​อยู่​เพียงลำพัง​”

ความนัย​ใน​คำพูด​นี้​ก็​คือ​ ปี​นั้น​ลู่​เฉิน​ถ่อ​เรือ​ออก​ท่อง​มหาสมุทร​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​มิอาจ​หา​สถานที่​ที่​ทำให้​ใจสงบ​ได้​เจอ​ สุดท้าย​เพื่อ​แสวงหา​มหา​มรรคา​ที่อยู่​ใน​ใจจึงออกจาก​บ้านเกิด​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ กลายเป็น​ลูกศิษย์​คน​ที่สาม​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ จิตใจ​สงบ​ไร้​คลื่น​ดุจ​บ่อ​โบราณ​ รู้​ว่า​บาง​เรื่อง​มิอาจ​ทำ​อะไร​ได้​จึงยอมรับ​ชะตากรรม​แต่​โดยดี​ แม้จะบอ​กว่า​ไม่เป็น​ดั่ง​ใจปรารถนา​ทั้ง​ยัง​เหมือน​ไร้ความรู้สึก​ แต่​แท้จริง​แล้ว​ไม่เคย​ผิด​ต่อ​มหา​มรรคา​ใน​ใจตน​

หญิง​ชรา​หัวเราะ​ “ปี​นั้น​ลู่​เฉิน​ตั้ง​แผง​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูนาน​หลาย​ปี​ ทั้ง​เพื่อ​ช่วย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​กับ​ศิษย์​พี่ใหญ่​ของ​เขา​ แล้วก็​เพื่อ​สยบ​กำราบ​การ​ลงมือ​อย่าง​ไร้เหตุผล​ครั้งสุดท้าย​ของ​ฉีจิ้งชุน​ ทั้งๆ ที่​เป็น​ศัตรู​กัน​ แต่​เหตุใด​เห​วิน​เซิ่งจึงยัง​ต้อง​แก้ตัว​ให้​กับ​คน​ผู้​นี้​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าส่ายหน้า​เอ่ย​ “ใน​เมื่อ​เป็น​คนละเรื่อง​กัน​ แบ่งแยก​บุญคุณ​ความแค้น​ได้​ชัดเจน​ก็​คือ​ลูกผู้ชาย​”

ทาง​ฝั่งของ​ซุ้มดอกไม้​

สารถี​เฒ่าแกว่ง​ไห​สุรา​ที่​ยัง​เหลือ​สุรา​อีก​เกือบ​ครึ่ง​ ทอดถอนใจ​ ขมวดคิ้ว​มุ่น​มิคลาย​

เฟิงอี๋​ยิ้ม​กล่าว​ “นี่​เรียก​ว่า​โดน​เวร​กรรมตามสนอง​ แค่​ยืน​ดี​ๆ รอ​โดน​ตี​ก็​พอแล้ว​ ไย​ต้อง​ทำ​กระเง้ากระงอด​ราวกับ​สตรี​”

สารถี​เฒ่าเอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “ใคร​เป็น​คน​บอก​กัน​นะ​ว่า​ มีเรื่อง​กับ​ใคร​ก็​มีไป​ แต่​อย่า​ไป​ผูกปม​แค้น​กับ​คน​สามคน​อย่าง​ซิ่ว​ไฉเฒ่า เจิ้งจวี​จงและ​ฮว่อ​หลง​เจิน​เห​ริน​เด็ดขาด​”

คน​หนึ่ง​ทะเลาะ​เก่ง​เกินไป​ คน​หนึ่ง​หัวดี​เกินไป​ ส่วน​อีก​คน​ก็​มีเพื่อน​บน​ภูเขา​เยอะ​เกินไป​

หลังจากที่​สารถี​เฒ่าออก​ไป​จาก​ศาล​เทพ​อัคคี​อย่าง​ขุ่นเคือง​แล้ว​ หญิง​ชรา​ก็​เดิน​กะเผลก​ๆ มาที่​ซุ้มดอกไม้​

เฟิงอี๋​จุ๊ปาก​พูด​ “ไม่ได้​สัมผัส​กับ​ความ​เดือดดาล​ ท่าทาง​แสดงอำนาจ​ของ​อริยะ​ศาล​บุ๋น​คน​หนึ่ง​มานาน​มาก​แล้ว​ โชคดี​ที่​แค่​ตกใจ​ไป​เอง​เท่านั้น​”

เทพ​ที่​เลื่อนขั้น​ใหม่​เสริม​ตำแหน่ง​ที่​ขาด​ใน​กอง​งาน​ต่างๆ​ ของ​โลก​ยุค​หลัง​ก็ดี​ ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​บน​ภูเขา​และ​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​แห่ง​ป่า​เขา​ก็ช่าง​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​เคย​ไปมาหาสู่​กับ​พวก​เจ้าขุนเขา​ของ​สำนักศึกษา​ แท้จริง​แล้ว​ไม่ค่อย​เข้าใจ​พวก​อริยะ​ปราชญ์​ที่​มีเทวรูป​อยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​เท่าใด​นัก​ เมื่อ​สามพัน​ปีก่อน​ รวมไปถึง​เมื่อ​แปด​พัน​ปีก่อน​ เคย​มีเส้น​แบ่ง​สอง​เส้น​ที่​ขอบเขต​ชัดเจน​ ภาพลักษณ์​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​จึงยิ่ง​เจือจาง​จาก​ใจของ​คนใน​โลก​มนุษย์​ทุกที​ ถึงขั้น​ที่​ผู้คน​ยัง​หลงลืม​ไป​แล้ว​ด้วยซ้ำ​

หญิง​ชรา​ลูบ​เส้น​ผม​ตรง​จอนหู​ พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

เฟิงอี๋​ดื่มเหล้า​ พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “กังวล​เรื่อง​เมฆเพื่อ​ดวงจันทร์​ กังวล​เรื่อง​มอด​เพื่อ​ตำรา​ กังวล​เรื่อง​การสืบทอด​เพื่อ​ความรู้​ กังวล​เรื่อง​ลม​ฝน​เพื่อ​ร้อย​บุปผา​ กังวล​เรื่อง​หลุม​บ่อ​ไม่ราบเรียบ​เพื่อ​วิถี​ทางโลก​ กังวล​เรื่อง​ชะตาชีวิต​ที่​เปราะบาง​เพื่อ​บุรุษ​มาก​ความสามารถ​และ​โฉมสะคราญ​ กังวล​เรื่อง​ความ​เงียบเหงา​เพื่อ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​กล้า​ ช่างมีจิตใจ​เมตตา​ของ​พระโพธิสัตว์​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​เสีย​จริง​”

หญิง​ชรา​พึมพำ​ “ดอก​และ​ผลต่าง​คือ​กรรม​”

……

เด็กหนุ่ม​กระโดด​ลง​จาก​รถม้า​เดิน​ไป​ทาง​ตรอก​เล็ก​ ใน​อ้อม​อก​หอบ​กระบอก​ภาพ​เทียบ​อักษร​ที่​วาด​เป็น​รูป​นก​และ​ดอกไม้​ลง​สีสัน​สวยงาม​คู่​หนึ่ง​ แกน​ภาพ​ด้านใน​มีไม่ต่ำกว่า​ยี่สิบ​แกน​

หลิว​เจีย​ด่า​ขำ​ๆ “ไอ้​หนู​เจ้าคิด​จะย้ายบ้าน​หรือ​?”

ภาพวาด​ตัวอักษร​ของ​เสี่ยว​จ้าว​ไม่มีค่า​ถึงเพียงนี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​?

หรือ​จะบอ​กว่า​ตน​ยอม​แหก​กฎ​ทำ​หน้าหนา​ขอ​อักษร​ภาพ​ทำให้​เสี่ยว​จ้าว​ตกใจ​ที่​ได้รับ​ความเมตตา​โดย​ไม่คาดฝัน​ได้​ถึงเพียงนี้​?

จ้าวต​วน​หมิง​มาถึงตรอก​เล็ก​แล้วก็​เข้าไป​ใน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หยก​ขาว​ โยน​กระบอก​ใส่ม้วน​ภาพ​สอง​กระบอก​ลงพื้น​ดัง​โครม​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “อาจารย์​ ดูเหมือน​ท่าน​ปู่​ของ​ข้า​จะรู้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​เป็น​ใคร​ที่​ต้องการ​อักษร​ภาพ​”

หลิว​เจีย​หยิบ​แกน​ภาพ​อัน​หนึ่ง​ขึ้น​มา หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​ ท่าน​ปู่เจ้า​ฉลาด​เหมือน​ลิง​มาตั้งแต่​เด็ก​ ผอม​จน​เหมือน​เหลือ​แค่​ดวงตา​คู่​เดียว​ เจอ​ใคร​ก็​กลอกตา​ไปมา​ โชคดี​ที่​เจ้าไม่เหมือน​เขา​ ไม่อย่างนั้น​ข้า​ย่อม​ไม่มีทาง​รับ​เจ้าเป็น​ลูกศิษย์​แน่​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 883.1 ดอกและผล"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์