CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 886.2 ปิ่นเต๋า

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 886.2 ปิ่นเต๋า
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ หยิบ​เอา​ตราประทับ​เปล่า​สอง​ชิ้น​ออก​มาจาก​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​ ปี​นั้น​ร่วมมือ​ทำการค้า​กับ​เยี่ยนจั๋ว​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เขา​จึงเก็บ​วัสดุ​หิน​เอาไว้​ไม่น้อย​

จากนั้น​ก็​เรียก​ไฮเห​ลย​ กระบี่​บิน​จำลองของ​เซียน​กระบี่​ที่​มาจาก​ภูเขา​ชังกระบี่​ออกมา​

ส่วน​กระบี่​บิน​จำลอง​ซงเจิน​ที่​จำแลง​มาจาก​ ‘กู่​ชุ่ย​’ เล่ม​นั้น​ ได้​ถูก​เผย​หมิ่น​ใช้สอง​นิ้ว​บีบ​แตก​ไป​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​ไฮเห​ลย​ไว้​ใน​มือ​ต่าง​มีด​แกะสลัก​ เริ่ม​แกะสลัก​ริม​ขอบ​ก่อน​ ก็​คือ​เนื้อหา​ของ​ ‘เทียบ​ชุด​เขียว​หยวน​เจีย​’ สุดท้าย​ถึงได้​แกะสลัก​ลง​ตรง​ก้น​ตราประทับ​เป็น​สอง​คำ​ว่า​ ‘เซียน​กระบี่​’

ส่วน​ตราประทับ​ที่สอง​ที่​ด้าน​ใต้​เป็น​คำ​ว่า​ ‘ผู้​เล่น​ระดับ​แคว้น​’ ตรง​ริม​ขอบ​กลับเป็น​คำสั่งสอน​ของ​สกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​ที่​ตรง​ใจเฉิน​ผิง​อัน​มาก​ที่สุด​ คือ​ประโยค​ที่​บอ​กว่า​บรรยากาศ​ทั้ง​สดชื่น​ทั้ง​ปลอดโปร่ง​ ความรู้​ทั้ง​ลึกซึ้ง​ทั้ง​ยาว​ไกล​ ตั้ง​ตน​ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​และ​จริงใจ​ ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความอ่อนโยน​และ​หนักแน่น​

ตราประทับ​สอง​ชิ้น​นี้​ ตรง​ช่วง​ท้าย​ของ​อักษร​ริม​ขอบ​แยกกัน​แกะสลัก​คำ​ว่า​ ‘เฉินสือ​อี​’ และ​ ‘เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว’​

ใช้เวลา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​เต็มๆ​

หาก​อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เนื่องจาก​มีตราประทับ​น้อย​ชิ้น​ที่จะ​มีตัวอักษร​ริม​ขอบ​ คาด​ว่า​ป่านนี้​คง​แกะสลัก​ตราประทับ​เสร็จ​ไป​ยี่สิบ​อัน​แล้ว​

เก็บ​กระบี่​บิน​ไฮเห​ลยลง​ไป​ สอง​มือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​ตราประทับ​ไว้​ชิ้น​ละมือ​ ก้มหน้า​เป่า​ลมใส่​เบา​ๆ เป่า​ให้​เศษผง​ที่อยู่​ระหว่าง​ร่อง​ตัวอักษร​ของ​ตราประทับ​ปลิว​หาย​ไป​ ครั้น​จึงเงย​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “นี่​เรียก​ว่า​ไม่มีค่า​สัก​หนึ่ง​อีแปะ​ ทอง​หมื่น​ชั่งก็​ไม่ขาย​”

เสี่ยว​โม่กล่าว​ “คุณชาย​ถ่อมตัว​เกินไป​แล้ว​”

เก็บ​ตราประทับ​สอง​ชิ้น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ เห็น​ว่า​เสี่ยว​โม่มอง​ประเมิน​ตัวอักษร​สอง​แถว​อย่าง​ใคร่รู้​ก็​มอบ​มัน​ให้​กับ​เสี่ยว​โม่เสีย​เลย​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​อธิบาย​ว่า​ “ร่าง​อาคม​ที่​ข้า​ร่าย​ใช้ตอน​เดินทาง​มาโรงเตี๊ยม​ก่อนหน้านี้​ก็​เรียนรู้​มาจาก​อดีต​เจ้าของ​ของ​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ชิ้น​นี้​”

เสี่ยว​โม่เห็น​ว่า​ความหมายแฝง​ของ​ตัวอักษร​ที่​แกะสลัก​อยู่​ดีเยี่ยม​ก็​ออกปาก​ชมไม่หยุด​

คน​ผู้​ส่อง​ประกาย​แสงใสกระจ่าง​ไร้​ตำหนิ​พันปี​ ตระกูล​ที่​ส่งกลิ่นหอม​ของ​ดอก​ห​ลัน​จือ​นาน​ร้อย​ปี​

มอบให้​กับ​คุณชาย​บ้าน​ตน​ก็​เหมาะสม​ที่สุด​จริงๆ​

มอบ​ของขวัญ​ให้​กัน​อย่างนี้​ต่างหาก​จึงจะถือว่า​มีขอบเขต​

ดังนั้น​ในอนาคต​หาก​มีโอกาส​ก็​จะต้อง​ไป​พบ​เจอ​เซียน​กระบี่​ที่​มือเติบ​คน​นั้น​สักหน่อย​

เฉิน​ผิง​อัน​เรียนรู้​ร่าง​เมฆาวารี​มาจากอ​วิ๋น​เหมี่ยว​เซียน​เห​ริน​ของ​หอ​เซียน​จิ่วเจิน​ มรรค​กถา​บท​นี้​มีความหมาย​ว่า​ไผ่​แน่น​แค่​ไหน​ก็​มิขัดขวาง​น้ำ​ไหลผ่าน​ ฟ้าสูงแค่​ไหน​ก็​มิขัดขวาง​เมฆขาว​โบยบิน​ (เปรียบเปรย​ว่า​ไม่ว่า​เบื้องหน้า​จะอันตราย​มาก​แค่​ไหน​ก็​มิอาจ​เปลี่ยนแปลง​ปณิธาน​ของ​ตัวเอง​ได้​)

อวิ๋น​เหมี่ยว​ยังมี​วิชา​อภินิหาร​ก้น​กรุ​อีก​บท​หนึ่ง​ที่​ได้​รับคำ​เรียกขาน​อย่าง​ไพเราะ​ว่า​ ‘ขอบเขต​แห่ง​แก่น​น้ำ​’ สามารถ​สร้าง​ฟ้าดิน​เล็ก​ขึ้น​มาได้​ด้วยตัวเอง​ ค่อนข้างจะ​ไม่ธรรมดา​

ตอนที่​แบกรับ​ตบะ​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​ลู่​เฉิน​เอาไว้​ เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ท่องเที่ยว​ไป​ทั่ว​ทิศ​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ไม่ได้​อยู่​ว่าง​เลย​ พยายาม​ใช้ทรัพยากร​ที่​มีอยู่​ใน​มือ​ให้​เต็มที่​ ไม่ปล่อย​ให้​สิ้นเปลือง​สักนิด​ ตรวจสอบ​ค้นหา​ภาพ​แห่ง​กาลเวลา​ตอนที่​ประลอง​เวท​กับ​อวิ๋น​เหมี่ยว​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​ ใช้หิน​ของ​ภูเขา​ลูก​อื่น​มากลึง​เป็น​หยก​ของ​ตัวเอง​ อนุมาน​ไป​บน​มหา​มรรคา​ จำแลง​ออกมา​เป็น​คาถา​บท​นี้​ จึงมีความเหมือน​ขอบเขต​แก่น​น้ำ​ที่​อวิ๋น​เหมี่ยว​สร้าง​ขึ้น​มาด้วยตัวเอง​ด้าน​รูปร่าง​แล้ว​หลาย​ส่วน​ เรื่อง​นี้​เมื่อ​เทียบ​กับ​การอนุมาน​ฉาก​สายฟ้า​วิชา​ลับ​ของ​จวน​เทียน​ซือ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​แล้ว​ถือ​ว่าง่าย​กว่า​มาก​

หลังจาก​การ​ประลอง​บน​ลำคลอง​ของ​เกาะ​ยวน​ยาง​ เซียน​เห​ริ​นอวิ๋น​เหมี่ยว​ที่​สงสัย​ผี​สงสัย​เทพ​ เนื่องจาก​ได้รับ​จดหมาย​ลับ​จาก​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​หนึ่ง​ฉบับ​ อวิ๋น​เหมี่ยว​จึงรีบ​ส่งจดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ตอบ​กลับมา​อย่าง​นอบน้อม​ และ​ได้​ส่งมอบ​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ที่​มีระดับ​ขั้น​เป็น​อาวุธ​กึ่ง​เซียน​ไป​ให้​ที่​สวน​กง​เต๋อ​

ในอนาคต​เมื่อ​ไปเที่ยว​เยือน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ หาก​เฉิน​ผิง​อัน​เกิด​ความขัดแย้ง​กับ​ใคร​ แล้ว​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​จาก​ใจจริง​ว่า​ข้า​ไม่ใช่อวิ๋น​เหมี่ยว​ คาด​ว่า​คง​ไม่มีใคร​เชื่อ​

เสี่ยว​โม่คืน​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​

เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​ห​ลิง​จือ​หยก​ขาว​ไว้​ใน​มือ​ เคาะ​ลง​กลางฝ่ามือ​เบา​ๆ

รอ​ให้​เรื่อง​การ​เลือก​ที่ตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​เสร็จสิ้น​ ปิด​ด่าน​ฝึก​ตน​ช่วง​ระยะเวลา​หนึ่ง​ พยายาม​หวนกลับ​ไป​สู่ขอบเขต​หยก​ดิบ​และ​ชั้น​คืน​ความจริง​ของ​ขอบเขต​ปลายทาง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คิด​ว่า​จะลาก​เอา​หลิว​จิ่งหลง​ไป​ท่องเที่ยว​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ด้วยกัน​ เส้นทาง​จะเริ่ม​ที่​อุตรกุรุทวีป​ก่อน​ แล้วจึง​เป็น​ธวัล​ทวีป​ ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ จากนั้น​จึงไป​ฝูเหยา​ทวีป​ เดิน​ทางขึ้น​เหนือ​ต่อไป​ยัง​เกราะ​ทอง​ทวีป​ หลิว​เสีย​ทวีป​

นอกจาก​อาณาเขต​ทาง​ทิศเหนือ​แล้ว​ อันที่จริง​พื้นที่​อื่นๆ​ ของ​อุตรกุรุทวีป​ เฉิน​ผิง​อัน​ล้วน​คุ้นเคย​ดี​ ส่วน​ธวัล​ทวีป​ ตระกูล​สกุล​หลิว​ของ​เทพเจ้า​แห่ง​โชคลาภ​ ศาล​เห​ลยกง​ของ​เพ่​ย​อา​เซียง​ ล้วน​จะต้อง​ไป​เป็น​แขก​

ส่วน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ สถานที่​ที่​จำเป็นต้อง​เป็น​ฝ่าย​ไป​เยี่ยมเยือน​หรือไม่​ก็​แวะ​ระหว่าง​ที่​ผ่าน​ทาง​ก็​ยิ่ง​มีมาก​ยิ่งกว่า​ จวน​เทียน​ซือ​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​ พื้นที่​มงคล​เหล่า​เคิง​ของ​ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ ภูเขา​ชิงเสิน​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​ ราชวงศ์​ต้าตวน​ที่​เฉาสือ​อยู่​ ราชวงศ์​เสวียน​มี่ที่​อวี้​พ่าน​สุ่ย​เป็น​ไท่​ซ่างหวง​…ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​สถานที่​งดงาม​มีชื่อเสียง​อีก​มากมาย​ที่​บันทึก​อยู่​ใน​ ‘จารึก​ภูเขา​และ​ทะเล​’ กับ​จารึก​เสริม​สอง​เล่ม​เลย​

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​มอง​ไป​ เห็น​ว่า​บน​ม่าน​ราตรี​ที่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​มีประกาย​แสงเปล่ง​วาบ​หนึ่ง​ที​ ก่อน​จะมีผู้ฝึก​ตน​คน​หนึ่ง​ซึ่งคล้าย​ทะยาน​ลม​เดินทางไกล​ จากนั้น​ก็​มีแสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​ตาม​อีก​ฝ่าย​ไป​ติดๆ​ พริบตาเดียว​ก็​ลาก​เอา​เส้น​สีทอง​ยาว​ร้อย​จั้งที่​เปล่งแสง​วาบ​ตาม​ไป​

ผู้ฝึก​ลมปราณ​เผ่นหนี​อย่าง​ฉุกละหุก​ เปลี่ยนแปลง​เส้นทาง​อยู่​หลายครั้ง​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ถูก​เชือก​สีทอง​เส้น​นั้น​ตาม​รัด​พัน​ข้อเท้า​ราวกับ​เงา จากนั้น​ก็​กระชาก​เขา​ลงมา​บน​พื้น​อย่าง​แรง​ ผู้​ที่​หนี​และ​ผู้​ที่​ไล่ตาม​ ต่าง​ก็​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​

แสงกระบี่​กับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ร่วง​ลง​ไป​ยัง​จุด​หนึ่ง​พร้อมกัน​ ห่าง​จาก​โรงเตี๊ยม​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ลี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “อยู่​ว่าง​ๆ ก็​ไม่มีอะไร​ทำ​ ไปดู​เรื่อง​สนุก​กัน​ดีกว่า​”

ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ที่​กฎเกณฑ์​เข้มงวด​แห่ง​นี้​ ถึงกับ​มีผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​กล้า​ทะยาน​ลม​แหวก​อากาศ​ ประชัน​เวท​คาถา​กับ​ผู้อื่น​โดยพลการ​เชียว​หรือ​?

สามารถ​ทะยาน​ลม​อยู่​ที่นี่​ได้​ นอกจาก​ผู้​ถวายงาน​เชื้อพระวงศ์​ของ​สกุล​ซ่งต้า​หลี​แล้วก็​มีแค่​เจ้าของ​ป้าย​สงบสุข​ที่​มีบันทึก​ชื่อ​อยู่​ในกรม​อาญา​ต้า​หลี​เท่านั้น​แล้ว​

เหมือน​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ ทุกครั้งที่​เดินทาง​ออกจาก​เมือง​ยัง​ต้อง​หยิบ​ป้าย​สงบสุข​ปลายแถว​ของ​กรม​อาญา​แผ่น​นั้น​มาแขวน​ไว้​ให้​พอเป็นพิธี​

ขยับ​เท้า​ไป​พร้อมกับ​เสี่ยว​โม่ หด​ย่อ​พื้น​ที่มา​หยุด​อยู่​ตรงจุด​ที่​แสงกระบี่​ร่วง​ลง​ไป​

เมืองหลวง​ต้า​หลี​กิน​อาณาบริเวณ​กว้างใหญ่​มาก​ ทาง​ฝั่งของ​โรงเตี๊ยม​นี้​ถือเป็น​อาณาเขต​ที่​ทั้ง​ไม่ร่ำรวย​และ​ไม่สูงศักดิ์​ เพียงแค่​ว่า​ดีกว่า​ที่พัก​ของ​โจว​ไห่​จิ้งอยู่​หลาย​ส่วน​เท่านั้น​

บน​ถนน​เหมือน​จะมีคน​จับกลุ่ม​ตี​กัน​ คน​ของ​สอง​พรรค​ใหญ่​ที่​รวมตัวกัน​จน​พื้นที่​แถบ​นั้น​มืด​ทะมึน​กำลัง​คุมเชิง​กัน​อยู่​ มองดู​แล้ว​ต่าง​ก็​เป็น​คนใน​ยุทธ​ภพ​ ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​ไม่เหมือนว่า​ทิ้ง​ถ้อยคำ​อาฆาต​พยาบาท​เสร็จ​แล้ว​จะไป​ดื่มเหล้า​ร่วมโต๊ะ​ แต่​คล้าย​ว่า​จะลงไม้​ลงมือ​กัน​จริงๆ​

คน​สอง​กลุ่ม​รวมกัน​ ต่อให้​ไม่นับ​พวก​ที่​ไป​แอบ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​กลุ่ม​คนดู​ ก็​ต้อง​มีถึงหนึ่งร้อย​สี่สิบ​ห้าสิบ​คน​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​หัว​กำแพง​ด้านนอก​ของ​เรือน​หลัง​หนึ่ง​ ห่อไหล่​สอง​ข้าง​ลง​ มือ​ทั้งสอง​สอด​กัน​อยู่​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ คล้าย​กับ​ชาวนา​ที่​กำลัง​นั่ง​มอง​ผืน​นา​

เสี่ยว​โม่นั่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ สังเกตเห็น​ว่า​คน​ที่มา​ร่วมวง​เรื่อง​ครึกครื้น​ใกล้​กับ​ตรอก​แห่ง​นี้​มีไม่น้อย​ แล้วก็​ไม่กลัว​ว่า​จะเกิดเรื่อง​แม้แต่น้อย​ ไม่เพียงแต่​ไม่ปิดประตู​หลบเลี่ยง​ปัญหา​ที่​เกิดขึ้น​ กลับกัน​ยัง​พา​กัน​กรู​เข้ามา​ เนื่องจาก​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​หลบหนี​คน​นั้น​ถูก​แสงกระบี่​ลาก​กลับ​ลงมา​บน​พื้นดิน​ เสียง​ตอน​หล่น​กระแทก​ลงมา​จึงไม่เบา​ บวก​กับ​คน​สอง​กลุ่ม​ที่​คุมเชิง​กัน​อยู่​บน​ถนน​เฮโล​กัน​เสียงดัง​ ใน​บ้านเรือน​ที่อยู่​ใกล้เคียง​จึงมีคน​ที่​นอนหลับ​พักผ่อน​แล้ว​ถูก​เสียงดัง​นี้​ปลุก​ให้​ตื่น​

ใจกลาง​ถนนใหญ่​ คน​ที่​เรียก​กระบี่​บิน​คือ​ผู้เฒ่า​สวม​ชุด​แพร​เรือน​กาย​เล็ก​เตี้ย​คน​หนึ่ง​ เขา​เอา​มือหนึ่ง​ไพล่หลัง​ สอง​นิ้ว​ทำ​มุทรา​โบก​เบา​ๆ

กุม​ชัยชนะ​อยู่​ใน​มือ​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​

ศีรษะ​ของ​ผู้เฒ่า​มีเส้น​ผม​บางตา​ คล้าย​กับ​ผืน​นา​แห้งขอด​ที่​ไม่อาจ​แย่ง​น้ำ​เข้ามา​ใน​ร่อง​คันนา​ได้​ จึงมีเพียง​ต้น​หญ้า​รกชัฏ​ไม่กี่​ต้น​ที่​ขึ้น​หร็อมแหร็ม​อยู่​ห่าง​กัน​ไม่ไกล​นัก​

เพียงแต่ว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ไร่นา​หลัง​ผ่าน​ฤดู​เก็บเกี่ยว​แล้ว​กลับ​ดีกว่า​หลาย​ส่วน​

แต่​หาก​อิง​ตาม​คำกล่าว​ของ​เสี่ยว​โม่ ผู้อาวุโส​ที่​รูปลักษณ์​ไม่สะดุดตา​ผู้​นี้​ ดูท่า​แล้​วจะ​เป็น​พวก​หลงตัวเอง​อย่าง​รุนแรง​เลย​ทีเดียว​

เนื่องจาก​เซียน​กระบี่​ผู้เฒ่า​ไม่ได้​เก็บ​กระบี่​บิน​ ดังนั้น​แสงสีทอง​ที่​จำแลง​มาจาก​กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​จึงยังคง​รัด​ข้อเท้า​ของ​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​ เมื่อ​ผู้เฒ่า​ประกบ​สอง​นิ้ว​แกว่ง​ ตรง​ข้อเท้า​ของ​ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ที่​ถูก​แสงกระบี่​พันธนาการ​ไว้​ก็​มีปราณ​กระบี่​ตวัด​ฉวัดเฉวียน​ ใบหน้า​ของ​คนหนุ่ม​เผย​สีหน้า​เจ็บปวด​ บน​หน้าผาก​มีเหงื่อ​เม็ด​เล็ก​ๆ ผุด​ซึม เพียงแต่ว่า​เขา​ไม่อ้อนวอน​ขอร้อง​ แค่​จับจ้อง​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​เขม็ง​

เสี่ยว​โม่เหลือบตา​มอง​การ​คุมเชิง​กัน​ของ​คน​สอง​กลุ่ม​บน​ถนน​ ถามว่า​ “คุณชาย​ ดึกดื่น​ขนาด​นี้​แล้ว​ยัง​มาท้าตีท้าต่อย​กัน​รบกวน​ชาวบ้าน​ ที่ว่าการ​ของ​เมืองหลวง​ไม่จัดการ​หน่อย​หรือ​?”

ส่วน​การ​ประลอง​เวท​ของ​เซียน​ซือ​ครั้งนี้​ย่อม​ผิด​กฎ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ เพียงแค่​ไม่รู้​ว่า​หลัง​จบเรื่อง​ทาง​ฝั่งของ​ที่ว่าการ​จะจัดการ​ทั้งสองฝ่าย​อย่างไร​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เสียง​เบา​ “ขอ​แค่​ไม่มีคนตาย​ก็​ไม่ถือ​เป็นการ​ตะลุมบอน​ด้วย​อาวุธ​อะไร​ ทั้งสองฝ่าย​ตี​กัน​ก็​มีแค่​มือเปล่า​เท้าเปล่า​ เกิน​ครึ่งทาง​ฝั่งของ​ที่ว่าการ​คงจะ​หลับตา​ข้าง​หนึ่ง​ลืมตา​ข้าง​หนึ่ง​ เมืองหลวง​ของ​แคว้น​หนึ่ง​ ส่วนใหญ่​มักจะ​เป็น​สถานที่​ที่​มีทั้ง​คนดี​และ​คนเลว​ปน​กัน​เสมอ​ พรรค​ใน​ยุทธ​ภพ​ สำนัก​คุ้มภัย​ ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ โรง​ฝากเงิน​ พวก​ที่​กินข้าว​จากก​การขนส่ง​ทางเรือ​ การ​เดินทาง​ด้วย​รถม้า​ หรือ​แม้กระทั่ง​พวก​โจร​พวก​ขโมย​ตัวเล็ก​ๆ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​มีบรรพบุรุษ​ของ​ตระกูล​ มีพรรค​บน​ภูเขา​ มีสาขา​แยก​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ก่อนหน้านี้​ข้า​ได้​ฟังเถ้าแก่​หลิว​เล่าเรื่อง​น่าสนใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ บอก​ว่าที่​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​มีคน​ผู้​หนึ่ง​ที่​ใน​มือ​ได้​ครอบครอง​พื้นที่​จัดการ​อาจม​ (เนื่องจาก​สมัยโบราณ​ไม่มีโถส้วม​ การ​ขับถ่าย​จึงมักจะ​ใส่ใน​กระโถน​และ​จะมีคน​มาขน​เอา​ไป​เก็บ​ใน​พื้นที่​สำหรับ​การ​จัดการ​กับ​สิ่งปฏิกูล​โดยเฉพาะ​ เมื่อ​มีจำนวนมาก​เข้า​ก็​จะขนย้าย​ไป​ให้​พวก​ชาวไร่ชาวนา​ที่​นอกเมือง​เพื่อ​ทำเป็น​ปุ๋ย​ อาชีพ​นี้​ใน​สมัยโบราณ​จึงเป็น​อาชีพ​ที่​ทำ​เงินได้​มาก​) สามสิบ​เจ็ด​แห่ง​ เงิน​ที่​ได้มา​จึงมากกว่า​เหลา​สุรา​ที่​เปิด​อยู่​ริม​ลำคลอง​ชางผู​เสีย​อีก​”

แน่นอน​ว่า​ก็​มีพวก​คน​หัวทึบ​ที่​เพิ่ง​ได้​ออกมา​เผชิญ​โลก​กว้าง​ เป็น​พวก​เด็กหนุ่ม​ที่​ใช้อารมณ์​เป็นใหญ่​ เหี้ยมหาญ​ดุดัน​ มอง​เมิน​กฎเกณฑ์​ของ​ทางการ​มาจน​เคยชิน​ ใช้จำนวน​ครั้ง​ใน​การ​นอน​คุก​กิน​ข้าวแดง​เป็น​ประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เสี่ยว​โม่ ช่วย​ข้า​ฟังเสียง​ใน​ใจของ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​ที​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​รับ​

ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​คน​นั้น​หน้าเขียว​คล้ำ​ “ใส่ร้ายป้ายสี​ วิธีการ​ต่ำช้า​!”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าหัวเราะ​เสียงดัง​กังวาน​ “หาก​ได้รับ​ความอยุติธรรม​ แล้ว​เจ้าจะหนี​ทำไม​ ที่ว่าการ​กรม​อาญา​จะยัง​ใส่ร้าย​เจ้าด้วย​หรือ​? เห็นได้ชัด​ว่า​เจ้าเป็น​วัวสันหลังหวะ​”

ขณะเดียวกัน​ก็​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “กลัว​ก็​แต่​เจ้าจะไม่หนี​น่ะ​สิ หาก​ไม่เป็น​เช่นนี้​ ข้า​ก็​คง​ไม่มีวิธี​จัดการ​เจ้าจริงๆ​”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าส่ายหน้า​กล่าว​ “ใน​ฐานะ​ผู้ฝึก​ตน​ ทะยาน​ลม​กลางอากาศ​เหนือ​เมืองหลวง​โดยพลการ​ ถือ​เป็นการ​ละเมิด​กฎ​ร้ายแรง​อันดับ​หนึ่ง​ จะมาบอ​กว่า​ถูก​ใส่ร้าย​ได้​อย่างไร​? ใช่ว่า​นั่งลง​แล้ว​ค่อยๆ​ คุย​กัน​ไม่ได้​เสียหน่อย​ เจ้าประมุข​ฟ่าน​เป็น​คน​ที่​มีเหตุผล​ที่สุด​แล้ว​”

ทว่า​เสียง​ใน​ใจกลับเป็น​ฟ้าดิน​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ “เจ้าตะพาบ​น้อย​ คืนนี้​ข้า​ผู้อาวุโส​จะรั้ง​ตัว​เจ้าไว้​ ต่อ​ให้หลัง​จบเรื่อง​ทาง​กรม​พิธีการ​กำหนด​โทษ​ กรม​อาญา​ซักไซ้​เอาผิด​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เจ้าแล้ว​ ข้า​ก็​ยัง​ดีกว่า​ไม่น้อย​”

พูดจา​เหลวไหล​ได้​หน้าตาเฉย​ คน​ฉลาด​พูดจา​โง่เขลา​

รอ​กระทั่ง​สงคราม​ครั้งนั้น​สิ้นสุดลง​ ราชวงศ์​ต้า​หลี​ก็​ยัง​ควบคุม​ตระกูล​เซียน​บน​ภูเขา​เข้มงวด​เหมือนเดิม​ ทว่า​ทุกวันนี้​ราช​วงศ์สกุล​ซ่งกลับ​มีเมตตา​ต่อ​เรื่องราว​ใน​ยุทธ​ภพ​และ​คนใน​ยุทธ​จักร​มาก​เป็นพิเศษ​ ให้อภัย​ได้​มากกว่า​เก่า​ ขอ​แค่​ไม่ก่อเรื่อง​ที่​เกิน​กว่า​เหตุ​ ที่ว่าการ​น้อย​ใหญ่​ใน​เมืองหลวง​ก็​ไม่ค่อย​สนใจ​เรื่อง​ใน​ยุทธ​ภพ​เท่าใด​นัก​ ดังนั้น​พรรค​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​ต้า​หลี​จึงเหมือน​หน่อไม้​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​ผุด​ขึ้น​มาหลัง​ฝนตก​ จอม​ยุทธ​พเนจร​ของ​แต่ละ​แคว้น​ที่อยู่​ทางใต้​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​ต้า​หลี​หลาย​คน​ก็​มักจะ​เดิน​ทางขึ้น​เหนือ​ไป​พร้อมกับ​ขบวน​พ่อค้า​

สัมผัส​ได้​ถึงสายตา​สอบถาม​จาก​เสี่ยว​โม่ที่​หันหน้า​มามอง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พูด​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ว่า​ “คนดี​คนเลว​กับ​เรื่องราว​ที่​ถูก​หรือ​ผิด​ ง่าย​ที่จะ​ปะปนกัน​ กฎหมาย​ของ​ราชวงศ์​ต้า​หลี​เหมาะกับ​เรื่อง​ไม่เหมาะกับ​คน​มาโดยตลอด​”

ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​บริเวณ​ใกล้เคียง​แห่ง​หนึ่ง​มีบุรุษ​วัยฉกรรจ์​กลุ่ม​หนึ่ง​พา​กัน​ออกมา​ กฎระเบียบ​ของ​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​เข้มงวด​ มีการ​ห้าม​เข้าออก​ยามวิกาล​ อาจารย์​ยัง​ไม่อนุญาต​ให้​พวกเขา​ไป​ก่อเรื่อง​ข้างนอก​ จึงได้​แต่​แอบ​ออกมา​ร่วมวง​ความ​ครึกครื้น​ พอ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​ว่า​บน​หัว​กำแพง​มีคน​ชิงตัดหน้า​ยึด​พื้นที่​ไป​ก่อน​แล้ว​ ชายฉกรรจ์​ที่​ลักษณะ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พละ​กำลังคน​หนึ่ง​จึงถามขึ้น​ว่า​ “พี่น้อง​ ที่นี่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ขยับ​ไป​ทาง​เสี่ยว​โม่ เว้น​ที่​วาง​ให้​อีก​ฝ่าย​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “มีแค่​พวกเรา​สอง​คน​เท่านั้น​ เชิญพวก​เจ้าตามสบาย​”

แต่ละคน​จึงก้าว​เร็ว​ๆ มาทางหัว​กำแพง​แล้ว​กระโดด​ตัว​ขึ้น​สูง ใช้สอง​มือ​คว้า​จับ​หัว​กำแพง​ไว้​แล้ว​พลัน​ออกแรง​ดึง​ตัว​ขึ้นไป​บน​หัว​กำแพง​

คือ​การทะเลาะวิวาท​ระหว่าง​พรรค​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​คลื่น​ลม​ก่อตัว​มานาน​มาก​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​วกวน​อ้อมค้อม​ไปมา​ ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ถึงไป​ดึง​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ที่​ทะยาน​เมฆขี่​หมอก​กลุ่ม​นี้​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ด้วย​ได้​ เหมือน​เกี๊ยว​ที่​ถูกจับ​โยน​ลง​หม้อ​ต่อเนื่อง​ โอกาส​เช่นนี้​หา​ได้​ยาก​นัก​

ชาย​ผู้​นั้น​กด​เสียงต่ำ​ถาม “พี่น้อง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เหมือนกัน​หรือ​?”

ลมหายใจ​หนักแน่น​ มีลมปราณ​ขุม​นั้น​อยู่​

แน่นอน​ว่า​คน​ที่จะ​ปีน​กำแพง​สูงขนาด​นี้​ได้​ต้อง​ไม่ใช่บัณฑิต​ที่​ไม่มีแม้แต่​แรง​จะมัด​ไก่​แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เคย​ฝึก​วิชา​หมัด​เท้า​อยู่​ไม่กี่​วัน​ พอ​จะเป็น​ศาสตร์​การต่อสู้​อยู่​บ้าง​ ที่​บ้าน​ทำการค้า​เลย​ได้​ขึ้นเหนือล่องใต้​เป็นประจำ​ พอ​จะมีวิชา​ติดตัว​บ้าง​เล็กน้อย​ให้​ชีวิต​พอ​สงบสุข​”

อาจารย์​ด้าน​วร​ยุทธ​วัยหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​ชาย​ผู้​นั้น​แอบ​กลอกตา​มอง​บน​ ยัง​เป็น​ศาสตร์​การต่อสู้​ด้วย​ ต้อง​เป็น​คุณชาย​บ้าน​คนรวย​ที่​อ่านหนังสือ​ผุ​ๆ มาหลาย​เล่ม​แน่นอน​ เพราะ​คนจน​เรียน​บุ๋น​คนรวย​เรียน​บู๊​นี่​นะ​

บุรุษ​ถามต่อ​อี​กว่า​ “พี่น้อง​ท่าน​นี้​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​หยาง​หย่วน​ของ​พวกเรา​หรือไม่​ เจ้าศูนย์​อู๋​ของ​พวกเรา​ แม้ว่า​จะอายุ​มาก​ แต่​กลับเป็น​ลูกผู้ชาย​ตัวจริง​ที่​ชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั้ง​ยุทธ​ภพ​ใน​เมืองหลวง​เชียว​นะ​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 886.2 ปิ่นเต๋า"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์