CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 891.3 สำนักเบื้องล่าง

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 891.3 สำนักเบื้องล่าง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​เอ่ย​ “เริ่ม​วาด​ฝัน​ถึงอนาคต​แล้ว​”

เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​จอด​เทียบท่า​ที่​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ชื่อว่า​ขู่​หู​หลู​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่งตั้งอยู่​ใกล้​กับ​ขุนเขา​กลาง​ เนื่องจาก​มีทะเลสาบ​น้อย​ใหญ่​เชื่อมโยง​ต่อกัน​ ลักษณะ​คล้าย​น้ำเต้า​ (หู​หลู)​ จึงตั้งชื่อ​เช่นนี้​

อันที่จริง​น้ำ​ของ​ทะเลสาบ​ใสมาก​ ส่วน​เหตุใด​ถึงมีคำ​ว่า​ขู่​ที่​แปล​ว่า​ขม​อยู่​ใน​ชื่อ​ บน​ภูเขา​กลับ​ไม่มีคำกล่าว​ที่​ชัดเจน​

ทาง​ฝั่งของ​ท่าเรือ​ จิ้น​ชิงซาน​จวิน​กับ​ปัญญาชน​ชุด​เขียว​ที่​ปราณ​บุ๋น​เข้มข้น​คน​หนึ่ง​ยืน​เคียง​ไหล่​กัน​

นอกจากนี้​ยังมี​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​และ​ลูกศิษย์​สอง​คน​อย่าง​หยวน​เป่า​หยวน​ไหล​ที่​รอคอย​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​อยู่​ตรงนี้​ด้วย​ เพียงแต่ว่า​ท่าเรือ​หู​หลู​มีผู้คน​มากมาย​หู​ตา​เยอะ​ อาจารย์​และ​ศิษย์​สามคน​จึงขึ้น​เรือกัน​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​แล้ว​

ทุกวันนี้​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​คือ​ผู้​ถวายงาน​ของ​ภูเขา​ทายาท​แห่ง​หนึ่ง​ของ​มหา​บรรพต​กลาง​ หยวน​ไหล​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ยัง​เคย​ได้รับ​โชค​วา​สเซียน​อย่างหนึ่ง​จาก​ภูเขา​แห่ง​นี้​

มีหมี่​ลี่​น้อย​อยู่​ด้วย​ จึงไม่มีข่าว​เล็ก​ๆ ข่าว​ใด​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ล่วงรู้​

ดังนั้น​ครั้งนี้​หยวน​เป่า​ไป​ที่​ใบ​ถงทวีป​ ถึงเวลา​นั้น​ครั้งแรก​ที่​นาง​ได้​พบ​หน้า​เฉาฉิงหล่า​ง เฉิน​ผิง​อัน​จึงตั้งใจ​ว่า​จะสังเกต​ให้​มาก​หน่อย​ ดู​สิว่า​ข่าวลือ​มีมูลความจริง​หรือไม่​

แม้จะบอ​กว่า​สุดท้าย​แล้ว​หยวน​ป๋า​ย​หนึ่ง​ใน​หยก​คู่​บน​วิถี​กระบี่​ของ​จูอิ๋ง​เก่า​ก็​ยัง​ไม่อาจ​หลุด​พ้นไป​จาก​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ ติดตาม​จิ้น​ชิงมาฝึก​ตน​ที่​ขุนเขา​กลาง​ได้​ แต่​ต้อง​ไป​ยัง​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ตั้ง​ชื่อว่า​ภูเขา​หวง​ซาน​ รับผิดชอบ​เรื่อง​การ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ หาก​ตัด​คำ​ว่า​ตัวสำรอง​ออก​ หยวน​ป๋า​ย​ก็​จะกลายเป็น​เจ้าสำนัก​ เพียงแต่ว่า​ขอบเขต​ของ​หยวน​ป๋า​ย​ เกิน​ครึ่ง​คง​ต้อง​หยุด​อยู่​ที่​ก่อกำเนิด​มิอาจ​ขยับ​เดินหน้า​ได้​แล้ว​ และ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​สาเหตุ​ที่​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​วางใจ​ให้​หยวน​ป๋า​ย​มาดูแล​กิจธุระ​ใน​การ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​

ทว่า​จิ้น​ซาน​จวิน​ก็​ยังคง​เห็นแก่​น้ำใจ​ส่วน​นี้​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ดังนั้น​จึงตอบ​ตกลง​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ วันหน้า​ค่าใช้จ่าย​เมื่อ​เรือ​เฟิงยวน​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มาจอด​เทียบท่า​ที่นี่​ทุกครั้ง​จะลด​ให้​ห้า​ส่วน​

อันที่จริง​คราว​ก่อนที่​ชุยตง​ซาน​นั่ง​บัญชา​การณ์​เรือข้ามฟาก​เดิน​ทางลง​ใต้​ไป​ยัง​ใบ​ถงทวีป​ ระหว่างทาง​ก็​ได้มา​จอด​พัก​ที่​ท่าเรือ​ขู่​หู​หลู​ ตอนนั้น​บน​เรือ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ใช้นามแฝง​ว่า​เส้าพอ​เซียน​อยู่​ด้วย​ ทว่า​ตอนที่​จิ้น​ชิงขึ้น​เรือ​มากลับ​ไม่ได้​ไป​เจอ​เขา​

ทว่า​รอ​กระทั่ง​ซาน​จวิน​ใหญ่​ท่าน​นี้​ลง​จาก​เรือ​กลับ​ไป​ที่​ศาล​แล้วก็​ไป​ยืน​ที่​หน้า​ประตู​ คารวะ​อำลา​ไกลๆ​ ให้​กับ​เรือข้ามฟาก​ที่​ผลุบ​หาย​เข้าไป​ใน​เมฆขาว​อย่าง​นอบน้อม​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​เสี่ยว​โม่ลง​จาก​เรือ​ ยิ้ม​ก้าวเดิน​เร็ว​ๆ เดิน​ไป​ข้างหน้า​ กุม​หมัด​คารวะ​ “คารวะ​เว่ย​ซาน​จวิน​ เจ้าเมือง​อู๋”​

ปัญญาชน​ชุด​เขียว​ก็​คือ​คนคุ้นเคย​ของ​บ้านเกิด​แล้ว​ ก็​คือ​อู๋​ยวน​นั่นเอง​ ปี​นั้น​ต้อง​ไป​ชนตอ​อยู่​ที่​อำเภอ​ไหว​หวง​หลง​โจว​ เส้นทาง​ที่​เจริญก้าวหน้า​ของ​การ​เป็น​ขุนนาง​ปู​เต็มไปด้วย​ตะปู​อ่อน​ที่​พวก​แซ่สกุล​ใหญ่​ของ​ถนน​ฝูลู่​และ​ตรอก​เถาเย่​โยนทิ้ง​เอาไว้​ สุดท้าย​ได้​แต่​ไป​จาก​หลง​โจว​อย่าง​หม่นหมอง​ เท่ากับ​ว่า​ถูกลด​ระดับ​ขั้น​ให้​ไป​ดำรงตำแหน่ง​ใน​เขตการปกครอง​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ตีนเขา​ของ​ขุนเขา​กลาง​ ทุกวันนี้​กลายเป็น​ขุนนาง​ที่อยู่​ชายแดน​ห่างไกล​ของ​ต้า​หลี​ สถานะ​ยังคง​เป็น​เจ้าเมือง​ ใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​ที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ราชครู​ชุย​ฉาน​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​นายอำเภอ​คน​แรก​ของ​อำเภอ​ไหว​หวง​หลง​โจว​ เรื่อง​ของ​การ​เลื่อนขั้น​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เริ่มต้น​สูงเดินลง​สู่ที่ต่ำ​จน​ต่ำ​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ใน​วงการ​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ เจ้าเมือง​อู๋​อย่าง​มาก​สุด​ก็ได้​แค่​ไป​คว้า​ตำแหน่ง​ว่างงาน​ใน​ที่ว่าการ​เก้า​มนตรี​เล็ก​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​แล้ว​ใช้ชีวิต​บั้นปลาย​อยู่​ที่นั่น​เท่านั้น​ สมญานาม​ที่​ถูก​อวย​ยศ​ให้​ย้อนหลัง​? ฝัน​ไป​เถอะ​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​รู้​ว่า​อีกไม่นาน​อู๋​ยวน​จะถูก​โยกย้าย​กลับ​ไป​ ได้รับ​การยกเว้น​ให้​เลื่อนขั้น​เป็น​ผู้ว่า​ ‘คน​ใหม่​’ ของ​จังหวัด​ฉู่โจว​แห่ง​ใหม่​หรือ​อดีต​หลง​โจว​เก่า​นั่นเอง​

จิ้น​ชิงกุม​หมัด​ พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เสียงดัง​กังวาน​ “คารวะ​เจ้าขุนเขา​เฉิน”​

อู๋​ยวน​ประสานมือ​คารวะ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อู๋​ยวน​คารวะ​อาจารย์​อา​น้อย​เฉิน”​

ถูก​อู๋​ยวน​เรียก​ว่า​อาจารย์​อา​น้อย​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถึงกับ​หลุด​หัวเราะ​พรืด​

เฉิน​ผิง​อัน​มาใน​วันนี้​ก็​เพื่อ​ปรึกษา​สามเรื่อง​อย่าง​เรื่อง​การ​ขุด​หิน​ ตัด​ต้นไม้​และ​ซื้อ​กรวดทราย​แม่น้ำ​กับ​ซาน​จวิน​ขุนเขา​กลาง​ แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่หิน​หรือ​ไม้ธรรมดา​อะไร​ พูดถึง​แค่​ไม้ถาน​มู่โบราณ​ที่​มีเฉพาะ​บน​ภูเขา​ทายาท​ลูก​หนึ่ง​ของ​ขุนเขา​กลาง​ ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ชื่อเสียง​ก็​เป็นรอง​แค่​ไม้ใหญ่​อวี้​จางเท่านั้น​ เป็น​ตัวเลือก​แรก​ใน​การนำ​ไป​ทำ​เสาคาน​ใน​ตำหนัก​ต่างๆ​ และ​ใช้ใน​งานพิธี​สำคัญ​ทั้งหลาย​ของ​แต่ละ​แคว้น​ใน​ภาค​กลาง​ ราชวงศ์​จูอิ๋ง​ยัง​สร้าง​สำนัก​จัดซื้อ​ขึ้น​มาที่​ตีนเขา​โดยเฉพาะ​ ซึ่งถูก​วังหลวง​ของ​ฝ่าย​เชื้อพระวงศ์​ผูกขาด​การ​ตัด​และ​เก็บ​มาโดยตลอด​ ไม่ได้​มีการ​ขาย​เป็นต้น​ด้วยซ้ำ​ แต่​ขาย​ด้วย​การ​ชั่งน้ำหนัก​ ไม้ถาน​มู่หนึ่ง​ชุ่น​เท่า​ทอง​หนึ่ง​ชุ่น​

ก่อนหน้านี้​ชุยตง​ซาน​คุย​เรื่อง​ทิศทาง​กับ​จิ้น​ชิงไว้​คร่าวๆ​ แล้ว​ แต่กลับ​ยัง​เจรจา​กัน​เรื่อง​ราคา​ไม่สำเร็จ​ จึงได้​แต่​ให้​อาจารย์​แสดง​ฝีมือ​เอง​แล้ว​

ใบ​ถงทวีป​ที่อยู่​ทางทิศใต้​ ทุกหนทุกแห่ง​แทบจะ​มีแต่​ซาก​ปรัก​ แต่ละ​แคว้น​ทยอย​กัน​กอบกู้​ฟื้น​คืน​ จึงมีความต้องการ​มหาศาล​ต่อ​ไม้ใหญ่​และ​กรวด​หิน​ของ​ตระกูล​เซียน​บน​ภูเขา​ แน่นอน​ว่า​ใน​พื้นที่​ของ​ใบ​ถงทวีป​ซึ่งแผ่นดิน​กว้างใหญ่​ทรัพยากร​อุดมสมบูรณ์​ก็​ต้อง​มีเหมือนกัน​ เพียงแต่ว่า​หนึ่ง​การ​ขุดค้น​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ สอง​จวน​ตระกูล​เซียน​แต่ละ​แห่ง​ก็​ต้อง​การซ่อมแซม​ศาล​บรรพ​จารย์​เช่นเดียวกัน​ ย่อม​ต้อง​สร้าง​จวน​เซียน​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​มาใหม่​ก่อน​ บวก​กับ​ที่​ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​ของ​ใบ​ถงทวีป​ เรื่อง​ของ​การแข่งขัน​ได้​ค่อยๆ​ กลาย​มาเป็น​ประเพณีนิยม​ แข่ง​กัน​เป็น​คน​มือเติบ​ ต่อให้​ต้อง​รัดเข็มขัด​กางเกง​แน่น​ หรือ​จะต้อง​ไป​กู้หนี้ยืมสิน​จาก​คนอื่น​ ก็​ยัง​ต้อง​สร้าง​ตำหนัก​ใน​พระราชวัง​ หรือไม่​ก็​นคร​ตาม​สถานที่​ต่างๆ​ ให้​ยิ่งใหญ่​อลังการ​ยิ่งกว่า​ตอน​ก่อน​เกิด​สงคราม​

เสี่ยว​โม่มอง​คุณชาย​อยู่​ด้าน​ข้าง​เงียบๆ​ คุณชาย​หัวเราะ​พูดคุย​กับ​ซาน​จวิน​และ​เจ้าเมือง​อย่าง​ผ่อนคลาย​ เรื่อง​ของ​ราคา​ไม่มีคำ​ว่า​เรื่อง​ดี​เต็มไปด้วย​อุปสรรค​อะไร​ด้วยซ้ำ​ ราวกับว่า​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​ก็​แค่​รอ​ให้​คุณชาย​ของ​ตน​ปรากฏตัว​เท่านั้น​

สามเรื่อง​อย่าง​การ​ทำ​เหมือง​หิน​ ตัด​ต้นไม้​และ​ขุด​กรวดทราย​จาก​ท้องน้ำ​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ส่งคนงาน​มาด้วยซ้ำ​ จิ้น​ชิงบอก​ให้​เจ้าขุนเขา​เฉิน​วางใจ​ได้​ การค้า​ที่​เป็น​ดั่ง​สายน้ำ​เส้น​เล็ก​ไหล​ยาว​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ขุนเขา​กลางบ้าน​ตน​ขายหน้า​ด้วย​เงิน​เทพ​เซียน​แค่​ไม่กี่​เหรียญ​นั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​เอ่ย​ว่า​ตกลง​

อยู่ดีๆ​ ก็​อด​นึก​ไป​ถึงจวน​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ที่​บางที​ตอน​ออกจาก​บ้าน​อาจ​ไม่เปิด​ปฏิทิน​ดู​ให้​ดีขึ้น​มา กว่า​จะย้าย​จาก​อาณาเขต​ขุนเขา​เหนือ​ของ​เว่ย​ป้อ​มาอยู่​ขุนเขา​กลาง​ได้​ ผล​คือ​กลับ​เจอ​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​จัด​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ครั้ง​ใหญ่​ขึ้น​มาอีก​

ช่างเป็นเรื่อง​น่า​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​ที่​มาก​พอ​จะให้​คน​น้ำตา​คลอ​ได้​เลย​…

เรือ​เฟิงยวน​ออกเดินทาง​ลง​ใต้​ต่อ​อีกครั้ง​

จ้งชิว​และ​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​ คนบ้านเดียวกัน​ที่​มาจาก​พื้นที่​มงคล​แห่ง​เดียวกัน​ได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​หลังจาก​ลา​กัน​ไป​นาน​ จึงประชัน​หมากล้อม​กัน​ไป​หลาย​ตา​

เสี่ยว​โม่ชมศึก​อยู่​ด้าน​ข้าง​ เป็น​วิญญูชน​ที่​ไม่พูดจา​ยาม​ดู​คน​เล่น​หมากล้อม​

หยุดนิ่ง​เนิ่นนาน​ พลัน​ได้ยิน​เสียง​เม็ด​หมา​กวาง​แผ่วเบา​

ใน​ห้อง​ อวี๋​เสีย​หุย​นั่งขัดสมาธิ​กำลัง​เข้าฌาน​หลอม​กระบี่​ ชุย​เหวย​นั่ง​สังเกต​ดู​การ​ไหลเวียน​ลมปราณ​ของ​ลูกศิษย์​อยู่​ด้าน​ข้าง​ คอย​มองหา​ช่องโหว่​ใน​จุด​ที่​เล็ก​ละเอียด​

เผย​เฉียน​อยู่​ตรง​ท้ายเรือ​ กำลัง​สอน​หมัด​ให้​กับ​จ้าว​ซู่เซี่ย​

มีความหมาย​เหมือน​การ​ถ่ายทอดวิชา​แทน​อาจารย์​อยู่​บ้าง​

จ้าว​ซู่เซี่ย​ฝึก​หมัด​อย่าง​มุ่งมั่น​ ตั้งใจ​จริงจัง​เฉพาะ​กับ​วิชา​หมัด​เขย่า​ขุนเขา​เท่านั้น​ ทุกวันนี้​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​คอขวด​ขอบเขต​ห้า​แล้ว​

ขอบเขต​ไม่ต่ำ​ แต่​ก็​ไม่สูง

ไม่ต่ำ​ก็​เพราะ​เทียบ​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ทั่วไป​ ไม่สูงเมื่อ​เทียบ​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​อาจารย์​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้อาวุโส​จูเหลี่ยน​ จ้งชิว​ หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​ เว่ยเซี่ยน​ และ​ยังมี​เผย​เฉียน​ เฉิน​ยวน​จี พวก​หยวน​ไหล​หยวน​เป่า​ที่​เป็น​คนรุ่นเดียวกัน​ เส้นทาง​การเรียน​วร​ยุทธ​ตลอด​หลาย​ปี​มานี้​ของ​จ้าว​ซู่เซี่ย​ เห็นได้ชัด​ว่า​ธรรมดา​อย่าง​มาก​ ไม่มีพื้นฐาน​ใน​ด้าน​คุณสมบัติ​พรสวรรค์​ใดๆ​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​เผย​เฉียน​ปรมาจารย์​ใหญ่​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​อาจารย์​เช่นเดียวกัน​ จ้าว​ซู่เซี่ย​จึงอด​รู้สึก​ละอายใจ​ที่​สู้ไม่ได้​อยู่​บ้าง​

สอน​หมัด​ไม่ป้อน​หมัด​ก็​เท่ากับ​ว่า​เปลือง​แรง​เปล่า​

ประลอง​กัน​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ แต่​เผย​เฉียน​ออก​หมัด​อย่าง​รู้​หนัก​เบา​ ไม่ว่า​จะเป็น​หมัด​ หรือ​ศอก​ถอง​ เท้า​เตะ​ ล้วน​หยุด​แต่​พอสมควร​ มอง​ดูเหมือน​คล้าย​กบ​กระโดด​แตะ​ผิวน้ำ​ ทว่า​ต่อให้​เผย​เฉียน​จะกด​ขอบเขต​ไว้​แค่​ไหน​ก็​ยัง​ทำให้​จ้าว​ซู่เซี่ย​ต้อง​เผชิญ​ความลำบาก​อยู่​ไม่น้อย​

รอ​กระทั่ง​เผย​เฉียน​เก็บ​หมัด​หยุด​ยืน​นิ่ง​ จ้าว​ซู่เซี่ย​ก็​หน้าซีด​ขาว​น้อย​ๆ แขน​สั่น​ระริก​ ร่าง​โงนเงน​จะล้ม​มิล้ม​แหล่​

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ถอย​ไป​คนละ​ก้าว​ กุม​หมัด​คารวะ​กัน​

เผย​เฉียน​พูด​เสียง​เบา​ “ศิษย์​น้อง​จ้าว​ หมัด​เท้า​ของ​เจ้าค่อนข้าง​ตายตัว​ คน​ปล่อย​หมัด​กล้า​ตาย​ แต่​ปณิธาน​หมัด​ไร้​ชีวิต​ ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​ขาด​ความหมาย​บางอย่าง​อยู่​”

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​คน​สำนัก​เดียวกัน​ ดังนั้น​เผย​เฉียน​จึงยั้ง​คำพูด​ไว้​มาก​แล้ว​ เลือก​ใช้ถ้อยคำ​อย่าง​ระมัดระวัง​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​ทำร้าย​ความภาคภูมิใจ​ของ​ศิษย์​น้อง​คน​นี้​

จ้าว​ซู่เซี่ย​ไม่ใช่คนโง่​ จึงรู้​ถึงความหวังดี​ของ​ศิษย์​พี่​หญิง​เผย​เป็น​อย่าง​ดี​

เผย​เฉียน​ป้อน​หมัด​ให้​เขา​ก็​คือ​การ​ทำให้​นาง​เสียเวลา​เปล่า​

เผย​เฉียน​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​ว่า​ “ศิษย์​น้อง​จ้าว​ ภาพ​บรรยากาศ​ปณิธาน​หมัด​ของ​เจ้า อันที่จริง​ดีมาก​แล้ว​ ได้​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า​ ‘เที่ยงตรง​’ พยายาม​ให้​มากกว่า​นี้​อีก​สักหน่อย​”

การ​เดิน​นิ่ง​หก​ก้าว​ของ​จ้าว​ซู่เซี่ย​ฝึกฝน​จน​เข้าขั้น​ชำนาญ​มานาน​มาก​แล้ว​

แต่​การ​ถามหมัด​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่เท่ากับ​การประชัน​กัน​แค่​ท่า​หมัด​เท่านั้น​ ดังนั้น​ต่อให้​จ้าว​ซู่เซี่ย​จะขึ้น​เวที​ประลอง​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​เดียวกัน​ก็​อยู่​ไกล​เกิน​กว่า​จะได้เปรียบ​ใดๆ​

ยิ่ง​เป็นการ​ถามหมัด​ข้าม​ขอบเขต​กับ​คนอื่น​ก็​ยิ่ง​เป็น​ความเพ้อฝัน​แล้ว​

แต่​เผย​เฉียน​คิด​ร้อย​ตลบ​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ ทำไม​ดูเหมือน​อาจารย์​พ่อ​คล้าย​จะจงใจไม่ถ่ายทอดวิชา​หมัด​ที่​สูงส่งกว่า​นี้​ให้​กับ​จ้าว​ซู่เซี่ย?​

วันนี้​ไฉอู๋​ดื่มเหล้า​ไป​สอง​ชาม วาง​ชามสีขาว​สอง​ใบ​ทับซ้อน​กัน​ไว้​บน​โต๊ะ​ แม่นาง​น้อย​ส่งเสียง​เรอ​ดัง​เอิ้ก​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​ฝึก​ตน​ หลอม​กระบี่​บิน​ที่​มีชื่อว่า​ ‘ซินฮว่อ’​ เล่ม​นั้น​ต่อ​อีกครั้ง​

ก่อนหน้านี้​เจ้าขุนเขา​ได้​ถ่ายทอดวิชา​เซียน​หลอม​วัตถุ​ให้​นาง​ด้วยตัวเอง​บท​หนึ่ง​ แต่​ความรู้​นั้น​สูงส่งลึกล้ำ​เกินไป​ ตัวอักษร​มีมากเกินไป​ อีก​ทั้ง​ยังมี​คำศัพท์​มากมาย​ที่​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ นาง​จึงเหมือน​ดื่มเหล้า​จน​เมา เวียนหัว​ไป​หมด​…

สุดท้าย​เจ้าขุนเขา​จึงให้​อาจารย์​เสี่ยว​โม่ที่​เป็น​ผู้​มอบ​กระบี่​บิน​ให้​นาง​มาพูดคุย​กับ​นาง​ คุย​กัน​พัก​หนึ่ง​ นาง​ก็​พอ​จะเข้าใจ​ได้​คร่าวๆ​ แล้ว​ แค่​ต้อง​ตั้งใจ​เล็กน้อย​ เอา​ลมปราณ​ส่วน​นั้น​แผ่ออก​ไป​เหมือน​ไย​แมงมุม อย่าง​มาก​ก็​คือ​ต้อง​แบ่ง​สมาธิไป​เดิน​บน​เส้นทาง​เจ็ด​แปด​เส้น​ในเวลาเดียวกัน​เท่านั้น​ แค่นี้​ก็​สำเร็จ​แล้ว​ ถึงอย่างไร​เส้นทาง​พวก​นั้น​ อาจารย์​เสี่ยว​โม่ก็​พูด​อย่าง​ชัดเจน​ มีคน​ช่วย​ชี้ทาง​ให้​ ไฉอู๋​แค่​ทำตาม​ก็​พอแล้ว​ ก็​ไม่ได้​ต่าง​อะไร​จาก​การเรียน​พับ​กระดาษ​จาก​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ที่​ร้าน​ขาย​ธูป​เทียน​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ของ​จางเจีย​เจิน​

น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ก็​มาช่วย​ทำงาน​เล็กๆ น้อยๆ​ อยู่​ที่นี่​ด้วย​ แม่นาง​น้อย​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ โคลง​ศีรษะ​ไปมา​ มือหนึ่ง​พลิก​เปิด​สมุดบัญชี​ อีก​มือหนึ่ง​ดีดลูกคิด​ดัง​ป้อ​กๆ​ แป้ก​ๆ

นับตั้งแต่​เหวย​เห​วิน​หลง​ มาถึงจางเจีย​เจิน​ จน​มาถึงน่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ พูดถึง​แค่​นัก​บัญชี​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​มีผู้​มาก​พรสวรรค์​ใน​ด้าน​นี้​อยู่​จริงๆ​ ไม่มีเรื่อง​ให้​ต้อง​กังวล​ว่า​จะชักหน้าไม่ถึงหลัง​อะไร​อีกแล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ สีหน้า​อ่อนใจ​เล็กน้อย​ ก่อนหน้านี้​ถ่ายทอดวิชา​หลอม​วัตถุ​ให้​แม่นาง​น้อย​ พูด​คาถา​ซ้ำไป​สอง​รอบ​

หนึ่ง​ถามหนึ่ง​ตอบ​

เข้าใจ​แล้ว​หรือยัง​?

ไม่เข้าใจ​

จำเนื้อหา​ได้​แล้ว​หรือยัง​

จำไม่ได้​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​จึงได้​แต่​ขอ​กำลัง​เสริม​ เรียก​เสี่ยว​โม่ให้​มาช่วย​ถ่ายทอดวิชา​ให้​แก่​แม่นาง​น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ มอง​เสี่ยว​โม่กับ​ไฉอู๋​ที่​คน​หนึ่ง​ถามคำถาม​ คน​หนึ่ง​พยักหน้า​ เจ้าขุนเขา​ก็​ตกตะลึง​จน​ต้อง​ดื่มเหล้า​ระงับ​ความตกใจ​อยู่​กับ​ตัวเอง​เงียบๆ​

ในที่สุด​ก็​เข้าใจ​แล้ว​

มีเพียง​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​กับ​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​เท่านั้น​ถึงจะคุย​กัน​รู้เรื่อง​

ก็​เหมือน​ใน​อดีต​ตอนที่​หนิง​เหยา​สอน​วิชา​หมัด​ให้​แก่​เฉิน​ผิง​อัน​ อยู่​ใน​จุดยืน​ที่​แตก​ต่างกัน​ หนิง​เหยา​เอง​ก็​ต้อง​อ่อนใจ​เหมือนกัน​

น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ ไม้ถาน​มู่ที่​ขุนเขา​กลาง​กิน​พื้นที่​มาก​เลย​นะ​ นี่​ก็​ยัง​ไม่เท่าไร​ ถึงอย่างไร​ไม้ถาน​มู่ก็​มีราคา​ แต่​หิน​กรวด​ที่​ได้​จาก​เหมือง​หิน​กับ​ท้องน้ำ​ ทั้ง​หนัก​ทั้ง​กิน​พื้นที่​ ราคา​ก็​ยาก​ที่จะ​พุ่ง​สูงขึ้น​ได้​อีก​ เฟิงยวน​คือ​เรือ​ข้าม​ทวีป​นะ​ จาก​ภาค​กลาง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ขนส่ง​ไป​ถึงใบ​ถงทวีป​ ต้นทุน​สูงเกินไป​ พวกเรา​จะขาดทุน​หรือไม่​ ทำไม​ไม่ให้​เรือข้ามฟาก​ฟาน​โม่ที่​ระยะทาง​ค่อนข้าง​สั้น​ทำการค้า​นี้​แทน​ล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​ หันหน้า​ไป​มอง​จางเจีย​เจิน​ “เจีย​เจิน​ เจ้าช่วย​อธิบาย​สาเหตุ​ให้​อวี้เตี๋ย​ฟังหน่อย​เถอะ​”

จางเจีย​เจิน​กล่าว​ “ทุกวันนี้​แต่ละ​แคว้น​ใน​ใบ​ถงทวีป​ต่าง​ก็​รอ​การ​บูรณะ​ฟื้นฟู​จาก​ความเสียหาย​ ไม่ว่า​อะไร​ก็​ขาดแคลน​ แต่​เรื่อง​เร่งด่วน​มาก​ที่สุด​ต้อง​ไม่ใช่ของ​ประดับ​ตกแต่ง​ ของโบราณ​ภาพวาด​หา​ยาก​อะไร​แน่นอน​ แต่​เป็นการ​ก่อสร้าง​ที่​ต้อง​ใช้ดิน​ใช้ไม้สำหรับ​เมืองหลวง​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ ดังนั้น​สิ่งที่​พวกเรา​ได้มา​จึงไม่ใช่เงิน​ใน​ตอนนี้​ แต่​เป็น​เงิน​จาก​ในอนาคต​ นอกจากนี้​หาก​พวกเรา​สร้างความสัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​เหล่า​จักรพรรดิ​ของ​ที่นั่น​ ได้​ทำการค้า​ใน​ระยะยาว​ ปู​พื้นฐาน​ที่​ดี​เอาไว้​ สำหรับ​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​แล้วก็​ไม่ต้อง​กลุ้ม​ว่า​จะไม่มีโอกาส​หา​เงินก้อน​ใหญ่​ อีก​อย่าง​พวกเรา​ยัง​ถึงขั้น​สามารถ​ใช้ราคา​ที่ต่ำ​ที่สุด​ไป​กว้านซื้อ​ ‘ของ​ไร้ประโยชน์​’ จาก​มือ​ของ​พวก​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​แต่ละ​แคว้น​มาแล้ว​เอา​ไป​ขาย​ให้​กับ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​และ​อุตรกุรุทวีป​ที่​ยินดี​ซื้อ​ใน​ราคา​สูง นี่​จึงทำให้​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ได้รับ​ความเอนเอียง​จาก​ทั้ง​ทาง​ทิศเหนือ​และ​ทิศใต้​ อวี้เตี๋ย​ หาก​เจ้าคิด​ปัจจัย​เหล่านี้​เข้าไป​ด้วย​ก็​จะค้นพบ​ว่า​การค้า​ที่​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​และ​เจ้าสำนัก​ชุย​ทำ​ร่วมกับ​ขุนเขา​กลาง​ครั้งนี้​ ไม่เพียงแต่​คุ้มค่า​ ยัง​หา​เงินได้​มาก​อีกด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​เอ่ย​ “ก็​คือ​เหตุผล​ข้อ​นี้​ เรื่อง​ของ​การค้าขาย​ แน่นอน​ว่า​เงินทอง​ต้อง​สำคัญ​ แต่​ขณะเดียวกัน​ก็​ต้อง​เข้าใจ​หลักการ​ข้อ​หนึ่ง​ที่​บอ​กว่า​มองเห็น​เงินก้อน​ใหญ่​นอก​สมุดบัญชี​ด้วย​”

น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ฟังด้วย​ดวงตา​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​ “ได้​เรียนรู้​แล้ว​ ได้​เรียนรู้​แล้ว​!”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “นอกจากนี้​ก็​คือ​ล่าง​ภูเขา​ของ​ใบ​ถงทวีป​ขาด​เงินทอง​ บน​ภูเขา​ขาดเงิน​เทพ​เซียน​ ดังนั้น​สำนัก​เบื้องล่าง​จึงขาด​เรื่อง​การยืม​เงิน​และ​ติดค้าง​น้ำใจ​คน​ไม่ได้​”

น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​ถาม “ปล่อย​กู้​ดอกเบี้ย​สูง? ใคร​กล้า​ไม่คืนเงิน​ก็​ให้​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ไปหา​ถึงบ้าน​แล้ว​ฟัน​มือ​คน​ผู้​นั้น​?!”

อันที่จริง​จางเจีย​เจิน​ก็​คิด​คำตอบ​ไว้​แล้ว​ เพราะ​ทุกวันนี้​มีกองกำลัง​จำนวน​ไม่น้อย​ของ​แคว้น​อื่น​ที่​ทำ​เรื่อง​ประเภท​นี้​อยู่​ใน​ใบ​ถงทวีป​ เป็น​การค้า​ที่​เรียก​ได้​ว่า​ได้​กำไร​มหาศาล​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “คนอื่น​ล้วน​ทำ​เช่นนี้​ แต่​พวกเรา​จะไม่ทำ​”

น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​คิด​แล้วก็​เอ่ย​อย่าง​เป็นกังวล​ว่า​ “ต้นไม้​ใหญ่​เรียก​ลม​นะ​ จะทำให้​คนอื่น​มอง​เป็น​ศัตรู​แล้ว​ถูก​บีบ​ให้​ต้อง​โดดเดี่ยว​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ดังนั้น​จึงต้อง​ให้​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ไป​คอย​พิทักษ์​สำนัก​เบื้องล่าง​อย่างไร​ล่ะ​”

จางเจีย​เจิน​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ จัด​เสื้อผ้า​ให้​เรียบร้อย​แล้ว​กุม​หมัด​คารวะ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​เงียบๆ​

จักรพรรดิ​ของ​หนึ่ง​แคว้น​และ​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​กู้เงิน​ดอกเบี้ย​สูงไป​ ถึงเวลา​นั้น​จะใช้คืน​อย่างไร​? แน่นอน​ว่า​ต้อง​เฉลี่ย​ลง​บน​หัว​ประชาชน​

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​มากด​ลง​ความว่างเปล่า​ให้​จางเจีย​เจิน​สอง​ที​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​พลิก​เปิด​สมุดบัญชี​ “พวกเรา​ทำงาน​ของ​ตัวเอง​กัน​ต่อ​เถอะ​”

ผลผลิต​บางอย่าง​ใน​พื้นที่​มงคล​ราก​บัว​บ้าน​ตน​ ยกตัวอย่างเช่น​ยันต์​สาวงาม​ของ​แคว้น​หู​ เนื่องจาก​ทุกวันนี้​ระหว่าง​กองกำลัง​สามฝ่าย​ของ​แคว้น​หู​ไม่มีการเข่นฆ่า​นองเลือด​กัน​อีกแล้ว​ ล้วน​เป็น​พวก​จิ้งจอก​เฒ่าที่​ชีวิต​ดับสิ้น​ไป​ใน​วัยชรา​กัน​หมด​แล้ว​ คราบ​ร่าง​ที่​ทิ้ง​ไว้​หลัง​สละ​ร่าง​จากไป​มีจำนวน​น้อย​มาก​ ทว่า​ระดับ​ขั้น​กลับ​สูงยิ่ง​

อีก​ทั้ง​ชุยตง​ซาน​ยัง​เอ่ยถึง​เรื่อง​หนึ่ง​ใน​จดหมาย​ บอ​กว่า​เพราะ​โชคช่วย​ เขา​จึงไป​เจอ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​หอ​ซูอี๋​จากอวี้จือ​ก่า​งแห่ง​ใบ​ถงทวีป​สามคน​ อายุ​ไม่มาก​ ประมาณ​ร้อย​กว่า​ปี​ ตอนนั้น​ที่​สำนัก​อวี้จือ​ก่า​งถูก​ทำลาย​จน​พินาศ​วอดวาย​ คน​ทั้ง​สามออก​ไปหา​ประสบการณ์​อยู่​ข้างนอก​พอดี​จึงโชคดี​รอดพ้น​หายนะ​ครั้งนั้น​ไป​ได้​ เป็นเหตุให้​ยันต์​สาวงาม​ของ​หอ​ซูอี๋​ที่​เป็นเลิศ​ใน​หนึ่ง​แคว้น​ไม่ได้​ควัน​ธูป​ขาดสะบั้น​ไป​นับแต่​นั้น​ แม้จะบอ​กว่า​ฝีมือ​ของ​ลูกศิษย์​สามคน​นี้​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ฝีมือ​อัน​เลิศ​ล้ำ​ของ​อาจารย์​ที่​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​กัน​ของ​หอ​ซูอี๋​แล้​วจะ​ด้อย​กว่า​ไม่น้อย​ แต่​ปัญหา​ก็​ไม่มาก​ ลูกศิษย์​ของ​หอ​ซูอี๋​ทั้ง​สามคน​แค่​ต้อง​วาด​สาวงาม​ขึ้น​มาเท่านั้น​ เขา​ชุยตง​ซาน​และ​พ่อครัว​เฒ่าล้วน​สามารถ​ ‘จรด​พู่กัน​แต้ม​นัยน์ตา​’ ใน​ขั้นตอน​ท้ายสุด​ให้​สำเร็จ​ลง​ได้​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 891.3 สำนักเบื้องล่าง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์