CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 898.6 สิบสองตำแหน่งสูง

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 898.6 สิบสองตำแหน่งสูง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

สวี​เซี่ย​ที่​ถูก​ขนานนาม​ว่า​ ‘สวี​จวิน​’ ผู้​นี้​เพิ่งจะ​อายุ​สอง​ร้อย​ปี​ก็​เป็น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​คน​หนึ่ง​แล้ว​

อยู่​ที่​เกราะ​ทอง​ทวีป​อันเป็น​บ้านเกิด​ สวี​เซี่ย​เคย​ออก​กระบี่​ขัดขวาง​การ​โจมตี​ที่​แว้ง​กลับมา​ทำร้าย​พวก​เดียว​กันเอง​ของหวาน​เหยียน​เหล่า​จิ่งมาก่อน​ ก่อนหน้านี้​ชื่อเสียง​ของ​สวี​เซี่ย​ไม่เคย​เด่นดัง​ กระทั่ง​กลียุค​มาถึง เขา​ถึงได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​มาบน​โลก​

หวัง​จี้ที่​ ‘เดิมพัน​เล็กน้อย​พอ​สนุก​’ กับ​สวี​เซี่ยบน​ยอดเขา​คือ​ผู้​ถวายงาน​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ มีฉายา​ว่า​ขุนนาง​เจียน​จ่าน​ (ขุนนาง​ที่​ดูแล​และ​ควบคุม​เรื่อง​การ​ประหาร​นักโทษ​)

หวัง​จี้กับ​จ้งชิว​ต่าง​ก็​เป็น​บัณฑิต​ พอ​พบ​เจอ​หน้า​ก็​ถูกชะตา​กัน​ทันที​ ทั้ง​ยัง​หา​เวลา​มาเล่น​หมากล้อม​ด้วยกัน​หลาย​ตา​ ส่วน​หมี่​อวี้​กับ​สวี​เซี่ย​ที่​ชมศึก​อยู่​ด้าน​ข้าง​ สอง​ฝ่าย​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​พูดคุย​กัน​ แค่​มอง​สบตา​กัน​ทีเดียว​ก็​ไม่มีเรื่อง​ให้​พูด​กัน​แล้ว​

ตอน​อยู่​ท่าเรือ​ปี้​เฉิงของ​สำนัก​กุย​หยก​ ทาง​ฝั่งของ​เรือ​เฟิงยวน​ได้​รู้เรื่อง​หนึ่ง​ว่า​ ยอดเขา​เสินจ้วน​ที่​ปล่อย​ว่าง​มานาน​หลาย​ปี​เพิ่งจะ​มีเจ้าของ​คน​ใหม่​ อีก​ทั้ง​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ยัง​ไม่มีความเห็น​ต่าง​ใดๆ​ ยอม​แหก​กฎ​เพื่อ​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​นี้​เป็นพิเศษ​ ไม่ต้อง​ให้​เขา​เลื่อน​เป็น​โอสถ​ทอง​ก็ได้​เข้าไป​อยู่​ยอดเขา​เสินจ้วน​ก่อน​แล้ว​

เพราะ​เด็ก​คน​นั้น​เพิ่งจะ​อายุ​เก้า​ขวบ​ เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ประตู​มังกร​คน​หนึ่ง​

ได้ยิน​ว่า​ได้​ครอบครอง​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สามเล่ม​

ดูเหมือนว่า​นอกจาก​เหตุผล​ที่ว่า​ ‘ลูก​รัก​แห่ง​สวรรค์​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​ตาม​ชะตา​แล้ว​’ ก็​ไม่มีเหตุผล​อะไร​ให้​อธิบาย​ได้​อีกแล้ว​

ส่วน​สำนัก​กุย​หยก​ใน​ทุกวันนี้​ลำพัง​เพียงแค่​ท่าเรือ​ส่วนตัว​ที่​สามารถ​รองรับ​เรือ​ข้าม​ทวีป​ได้​หลาย​ลำ​ในเวลาเดียวกัน​ ไม่รวม​สำนัก​เจินจิ้ง​ที่​เป็น​สำนัก​เบื้องล่าง​อยู่​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ก็​มีมาก​ถึงสามแห่ง​ นอกจาก​ท่าเรือ​ปี้​เฉิงแล้ว​ยังมี​ท่าเรือ​นี่​ลวี่​และ​ท่าเรือ​หย่วน​ซาน​ด้วย​ ท่าเรือ​สอง​แห่ง​หลัง​นี้​สร้าง​ขึ้น​บน​ภูเขา​ใต้​อาณัติ​

หลังจากนั้น​เรือข้ามฟาก​ก็​เดินทาง​กลับ​เหนือ​ ระหว่าง​นั้น​ไป​จอด​อยู่​กลางอากาศ​ใกล้​กับ​แม่น้ำ​หลิน​เห​อ​

จ้งชิว​กับ​หมี่​อวี้​จับมือ​กัน​ไป​เยือน​แผง​ที่​ตั้งอยู่​ริมน้ำ​แห่ง​นั้น​

เถาหรา​น​นับว่า​ยัง​เกรงใจ​อาจารย์​จ้งอยู่​บ้าง​ เคย​เจอ​หน้า​กัน​หลายครั้ง​ ค่อนข้าง​มีความประทับใจ​ที่​ดี​

ผู้ฝึก​กระบี่​โอสถ​ทอง​ผู้​นี้​บอ​กว่า​ก่อนหน้า​นั้น​มีคน​กลุ่ม​หนึ่ง​มา บอ​กว่า​มาจาก​ภูเขา​เซียน​ตู​เช่นเดียวกัน​ มือ​ดาบ​ชุด​เขียว​ยัง​บอก​ด้วยว่า​เป็น​อาจารย์​ของ​ชุย​เซียน​ซือ​ ชื่อว่า​เฉิน​ผิง​อัน​

คน​ผู้​นี้​ดื่มเหล้า​ที่นี่​ไป​ชามหนึ่ง​ ไม่ได้​ก่อเรื่อง​ก่อ​ราว​อะไร​ เพียงแต่ว่า​คน​ผู้​นี้​พูดจา​ไม่น่าเชื่อถือ​ บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​เซียน​กระบี่​เฉิน​แห่ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​คน​นั้น​

ใน​เมื่อ​พูดจา​ชวน​ขบขัน​ขนาด​นี้​ ทำไม​ถึงไม่ไป​เป็น​นัก​เล่านิทาน​หาเงิน​อยู่​ใต้​สะพาน​เลย​เล่า​

สายตา​ของ​หมี่​อวี้​ฉายแวว​เวทนา​ ยื่นมือ​ออก​ไป​หมาย​จะตบ​ไหล่​เซียน​กระบี่​โอสถ​ทอง​ผู้​นี้​เพื่อ​แสดง​การ​ปลอบใจ​

คำพูด​พวก​นี้​ของ​เถาหรา​น​ หาก​เผย​เฉียน​ได้ยิน​เข้า​ เหอะ​

เถาหรา​น​สะบัด​ไหล่​หลีก​ขา​หน้า​ข้าง​นั้น​ เขา​ไม่สนิท​กับ​เจ้าคน​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​ชื่อ​อวี๋​หมี่​ผู้​นี้​แม้แต่น้อย​ พบ​เจอกัน​สอง​ครั้ง​ล้วน​สวม​ชุด​สีขาว​ เจ้าคิด​ว่า​ตัวเอง​คือ​ฉีถิงจี้แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ หรือว่า​เคย​ดื่มเหล้า​ร่วมโต๊ะ​กับ​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉีมาก่อน​เล่า​?

อีก​อย่าง​เถาหรา​นม​อง​บุคลิก​ท่าทาง​ของ​คน​ผู้​นี้​แล้วก็​รู้​ว่า​เป็น​พวก​เจ้าชู้เสเพล​พอๆ กับ​เจียง​ซ่างเจิน​ เห็น​แล้ว​ขวางหูขวางตา​นัก​

หมี่​อวี้​ดึง​มือ​กลับมา​ หยิบ​เหล้า​ชามหนึ่ง​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มาจิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ดื่ม​เข้าไป​แล้ว​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ถึงกับ​ขมวดคิ้ว​ฉับ​ ผสม​น้ำ​หรือ​?

เถาหรา​น​ใน​ทุกวันนี้​ยัง​ไม่รู้เรื่อง​หนึ่ง​ กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ใน​อดีต​ แทบจะ​ทุกครั้งที่​ถึงคราว​ที่​ฉีถิงจี้ต้อง​ออก​ตรวจตรา​หัว​กำแพงเมือง​ จะต้อง​เป็น​ฝ่าย​ไปหา​หมี่​อวี้​กลาง​เมฆเรืองรอง​เพื่อ​ดื่มเหล้า​ด้วยกัน​เสมอ​

แม้ว่า​อายุ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​จะต่างกัน​มาก​ ขอบเขต​เวท​กระบี่​ก็​ต่างกัน​ แต่​กลับเป็น​ชาย​งามที่​ผู้คน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ให้การ​ยอมรับ​ อีก​ทั้งคน​หนึ่ง​ที่​เป็น​ ‘ฉีออกเดินทาง​’ กับ​อีก​คน​ที่​เป็น​ ‘หมี่​ผ่า​เอว​’ นี้​ต่าง​ก็​พูดคุย​กัน​อย่าง​เพลิดเพลิน​ยิ่ง​

จ้งชิว​เพียง​คลี่​ยิ้ม​ไม่ได้​อธิบาย​อะไร​ เพียงแค่​กำชับ​เรื่อง​บางอย่าง​ที่​ต้อง​ระวัง​กับ​เถาหรา​น​

เถาหรา​น​ไม่มีท่าที​หงุดหงิด​ใจ ตั้งใจ​จดจำ​ไป​ทีละ​ข้อ​

หลังจากที่​เรือ​เฟิงยวน​มาจอด​เทียบท่า​ที่​ภูเขา​เซียน​ตู​ของ​บ้าน​ตัวเอง​ หมี่​อวี้​ไม่ได้​พบ​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ เฉาฉิงหล่า​งบอก​ว่า​อาจารย์​กำลัง​ฝึก​ตน​ แต่​หมี่​อวี้​ได้รับ​ข้อความ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ฝาก​มาบอกต่อ​ ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​บอก​กับ​ตน​ว่า​กลับ​ท่าเรือ​หนิ​วเจี่ยว​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ครั้งนี้​ต้อง​พา​ป๋า​ย​เสวียน​มาด้วย​

หมี่​อวี้​รู้สึก​มีความสุข​บน​ความทุกข์​ของ​ผู้อื่น​อยู่​บ้าง​

จากนั้น​เมื่อ​เดิน​ทางผ่าน​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​บน​ภูเขา​ชิงจิ้ง เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ลู่​ยง​ได้​มอบ​ขวด​กระเบื้อง​ใบ​หนึ่ง​ให้​จ้งชิว​กับ​มือ​ตัวเอง​ ขอให้​อาจารย์​จ้งช่วย​นำ​ไป​มอบ​ต่อให้​กับ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​

บอ​กว่า​เป็น​ยา​นั่ง​ลืมตน​เตา​ใหม่​ล่าสุด​ที่​เพิ่ง​หลอม​สำเร็จ​ น่าเสียดาย​ที่​จำนวน​ไม่มาก​ มีแค่​สามเม็ด​เท่านั้น​

จ้งชิว​กุม​หมัด​ขอบคุณ​

หมี่​อวี้​เอ่ย​แค่​ประโยค​เดียว​ว่า​ เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ลู่​มีศัตรู​ที่ไหน​หรือไม่​

ลู่​ยง​หัวเราะ​ดังลั่น​ โบกมือ​ปฏิเสธ​เป็น​พัลวัน​

เรือข้ามฟาก​ลอย​พ้น​จาก​พื้นดิน​ของ​ใบ​ถงทวีป​เข้าไป​ใน​น่านน้ำ​มหาสมุทร​แล้ว​ หมี่​อวี้​ที่อยู่​ว่าง​ก็​ให้​รู้สึก​อุดอู้​ยิ่งนัก​ จึงกระโดด​ลง​จาก​เรือ​เฟิงยวน​ ทะยาน​ลมขึ้น​เหนือ​ รุ้ง​ยาว​พุ่ง​พาด​ผ่าน​กลางอากาศ​

ยอดเขา​ชิงผิง​ ใน​ถ้ำสวรรค์​เล็ก​ฉางชุน​

เฉิน​ผิง​อัน​เลือก​จุด​ที่สูง​ที่สุด​ใน​หอ​เรือน​ประตู​สีชาด​กลาง​ภูเขา​ ประตู​หน้าต่าง​ทุก​บาน​ปิด​สนิท​

ใน​ห้อง​มีเบาะ​รอง​นั่ง​หนึ่ง​ใบ​ โต๊ะ​น้ำชา​หนึ่ง​ตัว​ กระถางธูป​หนึ่ง​ใบ​

บน​โต๊ะ​วาง​ตำรา​ไว้​สอง​สามเล่ม​ได้แก่​ ‘ตำรา​หมัด​เขย่า​ขุนเขา​’ ‘มหัศจรรย์​ที่​แท้จริง​ตำรา​สีชาด​’ ‘คัมภีร์​เวท​กระบี่​’ และ​ ‘ฉาก​สายฟ้า​’ ที่​ตัวเอง​เขียน​และ​เรียบเรียง​เข้าเล่ม​ รวมไปถึง​ ‘หนังสือ​ผุ​ๆ’ เล่ม​หนึ่ง​ที่​ได้​มาจาก​ซาก​ปรัก​จวน​เซียน​ของ​อุตรกุรุทวีป​

และ​ยังมี​แผ่น​ไม้ไผ่​ที่​แกะสลัก​ตัวอักษร​อีก​กอง​ใหญ่​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​เบาะ​ ฝ่ามือสอง​ข้าง​หงาย​ขึ้น​ด้านบน​วางซ้อน​กัน​ไว้​ตรง​หน้าท้อง​ หลับตา​เพ่ง​สมาธิ หายใจ​เข้าออก​เนิบ​ช้า

ประหนึ่ง​ภิกษุ​เฒ่าเข้าฌาน​ ประหนึ่ง​เจินจ​วิน​นั่ง​ลืมตน​ ประหนึ่ง​เทพ​นั่ง​นิ่ง​ดุจ​ศพ​

ภาค​กลาง​ค่อนข้าง​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​ของ​ใบ​ถงทวีป​ ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​แห่ง​หนึ่ง​

ใกล้​ถึงยาม​สายัณห์​ คนหนุ่ม​สวม​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​พา​เจ้าอ้วน​เดินทาง​มาด้วยกัน​ พอดี​มีฟ้าร้อง​ฟ้าแลบ​ ลม​ฝน​พัด​กระโชก​แรง​ คน​ทั้งสอง​จึงมาหยุดพัก​อยู่​ที่​ท่าเรือ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ตลาด​ บัณฑิต​ยากจน​สั่งน้ำ​ผง​ราก​บัว​ใส่น้ำตาล​มาสอง​ชาม

เจ้าอ้วน​เงยหน้า​ขึ้น​ ชูชามขึ้น​สูง เขย่า​แรง​ๆ เห็น​ว่า​ไม่มีผง​ราก​บัว​เหลือ​อยู่แล้ว​ถึงได้​วาง​ชามลง​ บ่นว่า​ “พี่น้อง​จง ใน​เมื่อ​พวกเรา​เร่ง​เดินทาง​ โดยสาร​เรือข้ามฟาก​ตระกูล​เซียน​สัก​ลำ​จะไม่ดีกว่า​หรอก​หรือ​”

“พิธี​เฉลิมฉลอง​คือ​วัน​แรก​ของ​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ จะไป​ทัน​ได้​อย่างไร​”

จงขุย​เอ่ย​ “หาก​วันนี้​เจ้ายินดี​จ่าย​เงิน​ ข้า​ก็​จะควัก​เงิน​จ่าย​ค่า​เรือข้ามฟาก​ให้​เจ้า”

เจ้าอ้วน​เอ่ย​อย่าง​ไม่ลังเล​ “ทัศนียภาพ​บน​เรือข้ามฟาก​ก็​เหมือนกัน​หมด​นั่นแหละ​ ไม่มีอะไร​น่าสนใจ​ ยังคง​เป็นการ​ใช้สอง​ขา​เดินทาง​ที่​ได้​เห็น​เรื่อง​น่าสนใจ​ได้​เยอะ​กว่า​ อย่าง​ตอนนี้​ก็​มีเรื่อง​แปลกใหม่​ไม่เล็ก​ไม่ใหญ่​เพิ่ม​มาอีก​เรื่อง​ไม่ใช่หรือ​”

เจ้าอ้วน​ชี้ไป​ที่​ริมน้ำ​นอ​กร้าน​ ที่แท้​มีพ่อค้า​เกลือ​จ้างเรือ​ลำ​ใหญ่​ให้​มาจอด​อยู่​ที่​เบื้องล่าง​ศาล​เก่าแก่​ ชมทัศนียภาพ​ยาม​ฝนตก​ ฝน​กระหน่ำ​ครั้งนี้​ตก​ลงมา​อย่าง​กะทันหัน​ แล้วก็​จากไป​เร็ว​ รอ​กระทั่ง​ฝน​หยุด​ตก​ก็​ถึงกับ​มีสตรี​คน​หนึ่ง​ถือ​คัด​เบ็ด​ตกปลา​อยู่​ตรง​หน้าต่าง​ของ​เรือ​หอ​เรือน​ลำ​นั้น​ กำไล​ข้อมือ​ที่​สวมใส่​ยิ่ง​ขับ​ให้​ข้อมือ​ที่​โผล่​พ้น​ชาย​เสื้อ​ของ​นาง​ขาว​ราว​ราก​บัว​ เจ้าอ้วน​เป็น​คน​ที่​อาบน้ำร้อนมาก่อน​ รู้​หลักการ​เหตุผล​ของ​คำ​ว่า​ผอม​ไม่สู้อวบ​อิ่ม​มานาน​แล้ว​ มอง​สตรี​คน​นั้น​แค่​ไม่กี่​ที​ก็​จิตวิญญาณ​หลุดลอย​ มิอาจ​เลื่อน​สายตา​ได้​อีก​ ทุกครั้งที่​นาง​รวบ​เบ็ด​และ​เหวี่ยง​เบ็ด​ลง​ไป​ใหม่​ เจ้าอ้วน​ก็​จะใจสั่น​ตาม​ไป​ด้วย​

น่าเสียดาย​ที่​สตรี​คน​นั้น​มวยผม​ทรง​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ หากว่า​ยัง​เป็น​แม่นางใน​ห้อง​หอ​ที่​รอ​แต่งงาน​ เจ้าอ้วน​ก็​จะขึ้น​เรือ​ไปหา​พ่อตา​ทันที​

อีก​ฝ่าย​จะเป็น​ผี​งามโครงกระดูก​ที่​มีศาสตร์​การ​แปลง​โฉมแล้ว​อย่างไร​ เจ้าอ้วน​ไม่สนใจ​เลย​จริงๆ​ ถือสา​เรื่อง​นี้​ ไม่ธรรมดา​สามัญไป​หน่อย​หรือ​?

จงขุย​เพียงแค่​ใช้หาง​ตา​เหลือบมอง​เรือ​หอ​เรือน​ลำ​นั้น​ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าอย่า​ไป​ยุ่ง​กับ​นาง​เชียว​ ก็​แค่​สตรี​ผู้​ลุ่มหลง​ใน​รัก​ที่​ชะตากรรม​รันทด​คน​หนึ่ง​ ตอบแทน​พระคุณ​เสร็จ​ก็​จะจากไป​แล้ว​”

เจ้าอ้วน​พึมพำ​เสียง​เบา​ “มีเจ้าอยู่​ ข้า​จะกล้า​ไป​มีเรื่อง​กับ​ใคร​? ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ใน​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ของ​อำเภอ​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ เพิ่งจะ​เดิน​เข้าไป​ เจ้าตัวดี​ เจ้ามีตำแหน่ง​ขุนนาง​ติดตัว​ ข้า​ผู้อาวุโส​กลับเป็น​ผี​เร่ร่อน​ตัว​หนึ่ง​ เกือบจะ​ถูกจับ​ล่าม​โซ่ตรวน​ เจ้าจะมอง​ข้า​ทำไม​? พี่น้อง​จง บอก​ตรงๆ​ นะ​ ตอน​มีชีวิต​อยู่​และ​หลัง​ตาย​ไป​ ข้า​ยัง​ไม่เคย​เจอ​กับ​ความอัปยศ​อย่าง​ใหญ่หลวง​เช่นนี้​มาก่อน​เลย​…เอา​ผง​ราก​บัว​ต้ม​น้ำตาล​มาอีก​ชามสิ”

จงขุย​กวักมือ​เรียก​ลูกจ้าง​ร้าน​ สั่งน้ำ​ราก​บัว​มาอีก​สอง​ชาม ยิ้ม​เอ่ย​ “ตอนหลัง​ท่าน​เทพ​อภิบาล​เมือง​ไม่ได้​ขอโทษ​เจ้าแล้ว​หรอก​หรือ​?”

อย่า​คิด​ว่า​ฟ้าสูงแล้ว​ไม่มีหู​ตา​ ทำผิด​มโนธรรม​ใน​ห้อง​เทพ​ก็​ยัง​รู้เห็น​

เจ้าอ้วน​ที่​ตั้งชื่อ​ให้​ตัวเอง​ว่า​กู​ซูดื่ม​น้ำ​ราก​บัว​ลงท้อง​ไป​อีก​ชาม มอง​ชามของ​จงขุย​ที่​ยัง​ไม่ได้​ขยับ​ช้อน​

จงขุย​จึงผลัก​ชามขาว​ไป​ให้​เจ้าอ้วน​

ส่วน​สตรี​ตกปลา​ที่อยู่​บน​เรือ​หอ​เรือน​ เห็นได้ชัด​ว่า​สังเกตเห็น​บัณฑิต​และ​เจ้าอ้วน​ที่อยู่​ใน​ร้าน​ริมฝั่ง​ เพียงแต่ว่า​ตบะ​ของ​นาง​ตื้นเขิน​ มอง​สถานะ​ ขอบเขต​ของ​พวกเขา​ไม่ออก​ นาง​แค่​แน่ใจ​เรื่อง​เดียว​ คง​ไม่ใช่ว่า​เห็น​ผีเข้า​แล้ว​หรอก​นะ​?

เจ้าอ้วน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “แม่น้ำ​สาย​นี้​ไม่ถือว่า​สั้น​กระมัง​ ไม่มีเทพ​วารี​หรือ​แม่ย่า​ลำคลอง​สัก​คน​เลย​หรือ​? สอง​ฝั่งข้างทาง​ก็​ไม่มีศาล​เทพ​อภิบาล​? ผี​สาว​ตัว​นี้​ใจกล้า​ไม่น้อย​เลย​นะ​”

จงขุย​เอ่ย​ “ดู​จาก​กำไล​ของ​แทน​ตัว​จวน​วารี​ชิ้น​นั้น​ ตอน​บน​ของ​แม่น้ำ​ห่าง​ไป​สามร้อย​ลี้​มีทะเลสาบ​ใหญ่​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ ฝู่จวิน​เทพ​วารี​ชอบ​ปลอม​กาย​เป็น​คน​ถ่อ​เรือ​ ขาย​ราก​บัว​แลก​เหล้า​ดื่ม​ ถือว่า​เป็น​คนรู้จัก​เก่า​กับ​พ่อค้า​เกลือ​วัยกลางคน​ที่​เคย​ร่าง​บทกวี​นมัสการ​ลง​น้ำ​”

เจ้าอ้วน​ขมวดคิ้ว​ “มองออก​ได้​อย่างไร​?”

จงขุย​กล่าว​ “ใช้ตา​มอง​”

ตอนที่​จงขุย​ควัก​เงิน​จ่าย​ค่า​อาหาร​ เจ้าอ้วน​ก็​ถามว่า​ “ไป​ถึงภูเขา​เซียน​ตู​แห่ง​นั้น​แล้ว​ เจ้าว่าด้วย​ตบะ​ของ​ข้า​ นอกจาก​เฉิน​ผิง​อัน​ ข้า​ก็​จะไร้​ศัตรู​เทียมทาน​แล้ว​หรือไม่​?”

ต่อให้​ตน​ขอบเขต​ถดถอย​ก็​ยัง​เป็น​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​

จงขุย​ยิ้ม​กล่าว​ “ไป​ถึงก็​รู้​เอง​แหละ​”

เจ้าอ้วน​ถามหยั่งเชิง​ “ถ้าอย่างนั้น​หาก​ข้า​ขอ​ตำแหน่ง​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​หรือ​เค่อ​ชิงอะไร​นั่น​มาจาก​พี่น้อง​เฉิน​ อีก​ทั้ง​ที่นั่น​ก็​ไม่ใช่ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เป็น​แค่​สำนัก​เบื้องล่าง​ คง​ไม่เกิน​กว่า​เหตุ​กระมัง​?”

จงขุย​เหลือบตา​มอง​เจ้าอ้วน​ “ไป​ถามเอา​เอง​ ข้า​ไม่ห้าม​”

เจ้าอ้วน​ยิ้ม​พลาง​ยก​ชามที่ว่างเปล่า​ใน​มือขึ้น​ บิด​หมุน​ข้อมือ​ “ต้อง​ง่าย​เหมือน​พลิก​ฝ่ามือ​แน่นอน​”

ภายหลัง​เจ้าอ้วน​ก็​ติดตาม​นาย​ท่าน​ใหญ่​จงที่​ไม่รู้จัก​เสวยสุข​แม้แต่น้อย​ผู้​นี้​เดิน​ขึ้นเขาลงห้วย​ นอนกลางดินกินกลางทราย​ไป​ตลอดทาง​ น่าสงสาร​เอว​ที่​กว่า​จะขุน​ให้​อ้วน​ขึ้น​มาได้ที่​ต้อง​ผอม​ลง​ไป​อีกแล้ว​

ช่วง​สิ้นปี​พวกเขา​ก็​เดินทาง​เข้าสู่​อาณาเขต​ของ​ภูเขา​เซียน​ตู​พอดี​ จวน​บน​ภูเขา​ ท่าเรือ​ล่าง​ภูเขา​ ทุกหนทุกแห่ง​ล้วน​มีแต่​การ​ก่อสร้าง​ ฝุ่นตลบ​คละคลุ้ง​ เจ้าอ้วน​โบกมือ​ ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ “พื้นที่​เล็ก​แค่นี้​เอง​หรือ​ แร้นแค้น​เกินไป​หน่อย​แล้ว​ เดี๋ยว​รอ​ให้​ข้า​เจอ​กับ​พี่น้อง​เฉิน​จะต้อง​พูดคุย​กับ​เขา​สักหน่อย​”

ตรง​ท่าเรือ​มีคน​กลุ่ม​หนึ่ง​มารวมตัวกัน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ กำลัง​ทำท่า​วัด​เทียบ​กระดาษ​ร่าง​

ข้าง​โต๊ะ​มีเด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ที่​มีไฝกลาง​หว่าง​คิ้ว​คน​หนึ่ง​ หญิงสาว​มัด​มวย​กลม​กลาง​ศีรษะ​คน​หนึ่ง​ และ​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ที่​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​อีก​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​

เจ้าอ้วน​จุ๊ปาก​ด้วย​ความประหลาดใจ​ โอ้โห​ แม่นาง​น้อย​ เหตุใด​มอง​ปราด​ๆ ก็​ไม่เท่าไร​ แต่​พอ​มอง​อีกที​ รูปโฉม​กลับ​งดงาม​ไม่น้อย​

เผย​เฉียน​เห็น​จงขุย​ที่​เดิน​เรื่อยเฉื่อย​ตรง​มา นาง​ก็​ก้าว​เร็วๆ เข้า​ไปหา​ ยิ้ม​กว้าง​สดใส​ กุม​หมัด​คารวะ​มาแต่ไกล​ “นัก​บัญชี​จง!”

สอง​ฝ่าย​หยุด​เท้า​ จงขุย​ยื่นมือ​ไป​วัด​ความสูง​ ยิ้ม​ถาม “ถ่าน​ดำ​น้อย​?”

เผย​เฉียน​พยักหน้า​ ยิ้ม​จน​ตาหยี​

จงขุย​เอ่ย​หยอกล้อ​ “แต่งงาน​แล้ว​หรือยัง​?”

เผย​เฉียน​ยิ้ม​ตอบ​ “แต่ง​กะ​ผี​อะไร​เล่า​ ข้า​ไม่แต่งงาน​!”

จงขุย​หัวเราะ​ฮ่าๆ “ก็​จริง​นะ​ นอกจาก​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ใคร​ก็​คุม​เจ้าไม่อยู่​ทั้งนั้น​”

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ อายุ​น้อย​ๆ ก็​สามารถ​หลอก​มือปราบ​สอง​คน​ของ​เมือง​หู​เอ๋อร์​ได้เสีย​จน​หัวหมุน​

ถ่าน​ดำ​น้อย​ในเวลานั้น​ช่าง…ยาก​จะอธิบาย​ได้​หมด​ใน​คำ​เดียว​จริงๆ​

ชุยตง​ซาน​กับ​เสี่ยว​โม่ก็​เดิน​ตามมา​ด้วย​

จงขุย​ยกมือ​กุม​หมัด​ “ข้า​ชื่อ​จงขุย​ ทำให้​ทุกท่าน​ได้​เห็น​เรื่องตลก​แล้ว​”

ชุยตง​ซาน​ประสานมือ​คารวะ​ “ชุยตง​ซาน​แห่ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​คารวะ​อาจารย์​จง”

เสี่ยว​โม่เอง​ก็​ประสานมือ​คารวะ​เช่นกัน​ “ผู้​ถวายงาน​เสี่ยว​โม่คารวะ​อาจารย์​จง”

เสี่ยว​โม่เหล่​ตา​มอง​เจ้าอ้วน​ที่​เป็น​ผี​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ อีก​ฝ่าย​มีความคิด​ชั่วร้าย​ใช่หรือไม่​ ความคิด​จิตใจ​ทั้งหมด​ของ​เจ้าหมอ​นี่​ล้วน​อยู่​ที่​เผย​เฉียน​ทั้งหมด​ เหตุใด​ข้าง​กาย​ของ​อาจารย์​จงถึงได้​มีผู้ติดตาม​ที่​ไม่น่าเชื่อถือ​แบบนี้​อยู่​ได้​นะ​

เจ้าอ้วน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “ผู้​ถวายงาน​เสี่ยว​โม่มอง​ข้า​ทำไม​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​ตอบ​ “ผู้​มาล้วน​เป็น​แขก​ ไม่ทำไม​”

เจ้าอ้วน​ฟังออก​ถึงความนัย​ใน​คำพูด​นี้​ก็​จุ๊ปาก​รัว​ๆ “โอ้โห​ เกือบจะ​ตกใจ​ตาย​อยู่แล้ว​เชียว​ ไม่ถูกสิ​ เกือบจะ​ตกใจ​จน​ฟื้นคืนชีพ​แล้ว​สิข้า​ โชคดี​ที่​เป็น​แขก​ ไม่อย่างนั้น​พวกเรา​สอง​คน​คง​ต้อง​ออกมา​…ประลอง​ฝีมือ​กัน​หน่อย​แล้ว​กระมัง​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​บาง​ๆ “มิกล้า​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​และ​ภูเขา​เซียน​ตู​ล้วน​ไม่มีวิถี​รับรอง​แขก​เช่นนี้​”

เจ้าอ้วน​ทำ​หน้า​ตื่นตระหนก​ “พี่น้อง​เสี่ยว​โม่ แค่นี้​ก็​อาฆาตแค้น​เสียแล้ว​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่ยังคง​ยิ้ม​ไม่เปลี่ยน​ “ไหน​เลย​จะกล้า​เรียกขาน​ตัวเอง​เป็น​พี่​เป็น​น้อง​กับ​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​”

ชุยตง​ซาน​มอง​จงขุย​ จงขุย​ส่าย​หน้ายิ้ม​ๆ พวกเรา​อย่า​ไป​สนใจ​เจ้าอ้วน​ที่​ชอบ​ตาย​ผู้​นี้​เลย​

ทาง​ฝั่งของ​ยอดเขา​ชิงผิง​ คน​ชุด​เขียว​เผย​กาย​ พริบตา​นั้น​ก็​พลิ้ว​กาย​มาที่​ท่าเรือ​แห่ง​นี้​

ไร้​ซึ่งคลื่น​ลมปราณ​ใดๆ​ แล้วก็​ไม่มีปราณ​กระบี่​แม้แต่น้อย​

ทว่า​ความ​เข้มข้น​ของ​ปณิธาน​กระบี่​หรือ​ควรจะ​พูดว่า​ปราณ​แห่ง​มรรคา​ของ​คน​ผู้​นี้​ ถึงกับ​ทำให้​เจ้าอ้วน​ขยับ​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​จงขุย​ตาม​จิตใต้สำนึก​

เฉิน​ผิง​อัน​กับ​จงขุย​ต่าง​ก็​ยก​ฝ่ามือขึ้น​ตี​มือ​กัน​หนัก​ๆ

จากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มอง​ไป​ด้าน​ข้าง​ ยิ้ม​ถามว่า​ “จงขุย​ ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​คือ​?”

จงขุย​ยังคง​เป็น​เหมือน​เก่า​ ชั่วร้าย​เหมือนเดิม​ เปิดโปง​รากฐาน​ของ​เจ้าอ้วน​ข้าง​กาย​ทันที​ “ก็​คือ​ผู้อาวุโส​ใต้​น้ำ​ที่​เคย​ถูก​น้อง​สะใภ้ฟัน​ไป​นั่นแหละ​”

เจ้าอ้วน​รู้​ทันใด​ว่า​ท่า​ไม่ดีแล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “สวัสดี​ ข้า​ชื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​ เป็น​บุรุษ​ของ​หนิง​เหยา​”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 898.6 สิบสองตำแหน่งสูง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์