CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 902.4 ถามหมัดบนยอดเขา

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 902.4 ถามหมัดบนยอดเขา
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เผย​เฉียน​หัวเราะ​หึหึ​ “แค่​พอสมควร​ก็​พอแล้ว​นะ​”

ต่อจากนั้น​หลังจาก​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​เปลี่ยน​ลมปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​เฮือก​หนึ่ง​ไป​แล้วก็​ร่าย​วิชา​หมัด​ที่​ถ่ายทอด​มาจาก​บรรพบุรุษ​ของ​ผู​ซาน​และ​กระบวนท่า​บางส่วน​ที่​สร้างสรรค์​ขึ้น​เอง​ออกมา​บน​หอ​ซ่าวฮ​วา​แห่ง​นี้​อย่าง​เต็มคราบ​

ต่อให้​เป็น​สุย​โย่ว​เปีย​น​ที่​เป็น​สตรี​เหมือนกัน​ก็​ยัง​มอง​จน​ตาพร่า​ลาย​จิตวิญญาณ​แกว่งไกว​ หวง​อี​อวิ๋น​แห่ง​ใบ​ถงทวีป​ท่าน​นี้​คือ​สาวงาม​ที่​โดดเด่น​ทั้ง​บุคลิก​และ​รูปร่างหน้าตา​อย่าง​แท้จริง​

ระหว่าง​นั้น​กระบวนท่า​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ได้เปรียบ​ที่สุด​ก็​คือ​หมุน​หอก​เป็น​วงกลม​กระแทก​เข้าที่​หน้าท้อง​ของ​หวง​อี​อวิ๋น​ทำให้​หวง​อี​อวิ๋น​เกือบจะ​ร่าง​แนบติด​พื้น​ลื่นไถล​ออก​ไป​ เพียงแต่​หวง​อี​อวิ๋น​ใช้ข้อศอก​ยัน​พื้น​ไว้​ เพียง​ไม่นาน​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​

และ​นาง​ก็​เอาคืน​อย่าง​ว่องไว​ ใช้หมัด​ต่อย​เข้าที่​ตัว​หอก​ ตัว​หอก​แตกหัก​ไป​เกือบ​ครึ่ง​เสี้ยว​ ก่อน​จะกระแทก​เข้าที่​หน้าอก​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

การ​ถามหมัด​ครั้งนี้​ โดย​ภาพรวม​แล้ว​ยังคง​ไม่อาจ​แบ่งแยก​ผลลัพธ์​ว่า​ใคร​แพ้​ใคร​ชนะ​ได้​อย่าง​แท้จริง​

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​บ้าง​ก็​ใช้หมัด​แบบ​สาว​ไหม​ บ้าง​ก็​ใช้หมัด​แบบ​ทับซ้อน​

หนึ่ง​หมัด​ปล่อย​ออก​ไป​เหมือน​เซียน​เห​ริน​ดีด​พิณ​ นิ้ว​ขยับ​อย่าง​ที่​มองไม่เห็น​ พายุ​หมัด​ว่องไว​ดุจ​กระบี่​บิน​

เรือน​กาย​ของ​นาง​ขยับ​ พายุ​หมัด​เอ่อล้น​ ไอ​น้ำ​แผ่​อบอวล​ เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​คล้าย​ร่าย​วิชา​หด​ย่อ​พื้นที่​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้หนึ่ง​หมัด​แลก​กับ​หนึ่ง​หมัด​หนึ่ง​เท้า​ของ​หวง​อี​อวิ๋น​

จากนั้น​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​หยุด​ยืน​นิ่ง​ ผลัดเปลี่ยน​ลมปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​คนละ​เฮือก​

เพียงแต่ว่า​อารมณ์​ของ​เซวีย​ไหว​ในเวลานี้​กลับ​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​เลย​แม้แต่น้อย​

เพราะ​ทั้งๆ ที่​อาจารย์​ปล่อย​เท้า​ออก​ไป​เพิ่ม​หนึ่ง​เท้า​ ทว่า​ระยะห่าง​ที่​ทั้งสองฝ่าย​ถอย​ออก​ไป​กลับ​เท่าๆ​ กัน​

นี่​หมายความว่า​ร่างกาย​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ แท้จริง​แล้ว​สูงกว่า​อาจารย์​ของ​ตน​หนึ่ง​ระดับ​

เผย​เฉียน​รู้สึก​ละอายใจ​เล็กน้อย​ เพียงแต่​เวลา​ที่​อาจารย์​พ่อ​ถามหมัด​อยู่​กับ​คนอื่น​ นาง​ไม่สะดวก​จะเปิดปาก​พูด​อะไร​

ยังคง​เป็น​เหมือน​ตอน​เด็ก​เวลา​ดู​เหล่า​เว่ย​เล่น​หมากล้อม​กับ​เสี่ยว​ป๋า​ย​ สุภาพชน​ดู​หมากล้อม​ไม่พูดคุย​กัน​

ผู้ฝึก​ยุทธ​ถามหมัด​ คนอื่น​พูดคุย​กัน​

คือ​ข้อ​ต้องห้าม​ใหญ่​

เฉิน​ผิง​อัน​โยน​หอก​ยาว​ใน​มือ​ให้​กับ​เผย​เฉียน​เบา​ๆ

ประหนึ่ง​การเปิดฉาก​รุก​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​

ประลอง​ฝีมือ​ หยุด​แต่​เพียงเท่านี้​

เฉิน​ผิง​อัน​เหมือน​จะมองเห็น​ความคิด​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​จึงยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เฉาสือ​ไม่ได้​…อ่อนแอ​อย่าง​ที่​เจ้าขุนเขา​เย่​คิด​”

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ยิ้ม​กล่าว​ “ข้า​รู้​ว่า​เจ้าไม่ได้​แสดง​ฝีมือ​อย่าง​เต็มที่​”

เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ก็​ไม่เหมือน​ก่อนหน้านี้​ที่​แค่​บอกชื่อ​แซ่ก็​ปล่อย​หมัด​ออก​ไป​ทันที​ ครั้งนี้​นาง​ถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ใช้ท่า​ยืน​เตรียม​รุก​ของ​ผู​ซาน​ “ไย​ข้า​จะไม่ได้​เป็น​เหมือนกัน​?”

เห็นภาพ​นี้​ สีหน้า​ของ​เซวีย​ไหว​พลัน​หนักอึ้ง​

หาก​ยัง​ตี​กัน​ต่อไป​ ไม่ว่า​ใคร​จะแพ้​ใคร​จะชนะ​ ฝ่าย​หนึ่ง​ต้อง​ได้รับบาดเจ็บ​ไม่เบา​แล้ว​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​เพียง​ยิ้ม​รับ​

ม้วน​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​เบา​ๆ

จากนั้น​ใช้ฝ่ามือ​ปาด​ไป​บน​ข้อ​มือเบา​ๆ คล้าย​เช็ด​อะไร​ทิ้ง​

ยันต์​บาง​ประเภท​ที่​ทับซ้อน​กัน​อยู่​บน​มือ​ข้าง​ซ้าย​ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้มือขวา​ปาด​ทิ้ง​

เปลี่ยนมือ​ม้วน​ชาย​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ ทำ​เช่นเดียวกับ​ก่อนหน้านี้​

สุดท้าย​บิด​ปลายเท้า​ ข้อเท้า​สอง​ข้าง​เบื้องล่าง​สอง​เข่า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ต่าง​ก็​มี ‘ยันต์​ปราณ​ที่​แท้จริง​ครึ่ง​จิน​’ ต่าง​ก็​ถูก​กระเทือน​จน​แหลก​สลาย​

เผย​เฉียน​มีสีหน้าตื่น​ตะลึง​

เรื่อง​นี้​นาง​ไม่เคย​รู้​มาก่อน​จริงๆ​

นาง​ใช้ศอก​ถอง​ห่าน​ขาวใหญ่​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ทันที​ ห่าน​ขาวใหญ่​ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้างขึ้น​ทำท่า​กด​ลมปราณ​ลง​สู่จุด​ตันเถียน​ แต่กลับ​ทำ​ไม่สำเร็จ​ จึงแสยะปาก​แยกเขี้ยว​ พูด​เสียง​อู้อี้​ว่า​ “ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ ฟ้าดิน​เป็น​พยาน​! หาก​ข้า​รู้​ความจริง​แล้ว​จงใจไม่พูดถึง​ วันหน้า​ก็​จะไม่เป็น​ศิษย์​พี่​เล็ก​ของ​เจ้าแล้ว​ เจ้าเรียก​ข้า​ว่า​ศิษย์​พี่ใหญ่​ได้​โดยตรง​เลย​!”

ใน​ฐานะ​คน​ที่​ต้อง​ถามหมัด​ซึ่งอยู่​ตรงข้าม​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​เป็น​คน​ที่​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​ที่​ทำให้​คน​หายใจไม่ออก​ได้​โดยตรง​ที่สุด​

สุดท้าย​ใน​สมอง​ของ​นาง​มีแค่​ความคิด​เดียว​เท่านั้น​

ไม่ใช่คน​

แม้เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​จะไม่เคย​ถามหมัด​อย่าง​เป็นทางการ​กับ​อู๋​ซูมาก่อน​ แต่​พบ​หน้า​กัน​หลายครั้ง​ อริยะ​บู๊​แห่ง​ใบ​ถงทวีป​ผู้​นั้น​ก็​มักจะ​มอบ​ความรู้สึก​กดดัน​มหาศาล​อย่างหนึ่ง​ให้​กับ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​อยู่​เสมอ​ บน​ร่าง​ของ​อู๋​ซูมัก​ทำให้​ทุกคน​รู้สึก​ว่า​เขา​เลือด​ลม​พลุ่งพล่าน​ เส้นเอ็น​และ​กระดูก​แข็งแรง​มาตั้งแต่​เกิด​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​ทำให้​ผู้ฝึก​ยุทธ​รอบด้าน​อด​รู้สึก​เหมือน​เกิด​ภาพลวงตา​ไม่ได้​ว่า​ตัวเอง​ต่ำ​เตี้ย​กว่า​เขา​หนึ่ง​ระดับ​

ความรู้สึก​ยาม​ที่​เผชิญหน้า​กับ​อู๋​ซูก่อนหน้านี้​ก็​ทำให้​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​รู้สึก​ย่ำแย่​อย่าง​ถึงที่สุด​แล้ว​ เหมือน​สตรี​เปราะบาง​อ่อนแอ​ที่​เรี่ยวแรง​ไม่มาก​พอ​คน​หนึ่ง​ออกจาก​บ้าน​ไป​อยู่​ข้างนอก​ เดินทาง​ยามค่ำคืน​เพียงลำพัง​ แล้วไป​เจอ​กับ​บุรุษ​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พละกำลัง​ ไม่ว่า​อีก​ฝ่าย​จะมีเจตนา​ชั่วร้าย​หรือไม่​ก็​ยัง​ทำให้​สตรี​รู้สึก​กระวนกระวาย​ไม่สบายใจ​ได้​อยู่ดี​

ทว่า​นา​ทีนี้​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​กลับ​มีความรู้สึก​ที่​ขัดต่อ​นิสัยใจคอ​ของ​ตัวเอง​ ทำให้​รู้สึก​ละอายใจ​ต่อ​วิชา​ยุทธ​ที่​ร่ำเรียน​มา ละอายใจ​ต่อ​แซ่สกุล​แห่ง​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​ นั่น​คือ​ความรู้สึก​…สิ้นหวัง​อย่าง​มหาศาล​

ก็​เหมือนกับ​ว่า​มีเสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ของ​นาง​ไม่หยุด​

ไม่ต้อง​ถามหมัด​! อย่า​ถามหมัด​! เจ้าจะต้อง​แพ้​ จะต้อง​ตาย​

ความรู้สึก​สิ้นหวัง​และ​หายใจไม่ออก​ที่​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​คน​หนึ่ง​ไม่ควร​มีและ​ไม่อาจ​มีเช่นนี้​ทำให้​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ที่​เป็น​ปรมาจารย์​ขอบเขต​ปลายทาง​เกือบจะ​ระเบิด​โทสะ​ออกมา​

มิน่าเล่า​เจียง​ซ่างเจิน​ถึงได้​เกลี้ยกล่อม​ตน​ว่า​อย่า​ได้​ถามหมัด​กับ​คน​ผู้​นี้​

สภาพ​จิตใจ​ของ​ตัวเอง​เป็น​เช่นนี้​จะใช้หมัด​สยบ​หนึ่ง​ทวีป​ได้​อย่างไร​? จะสามารถ​ช่วย​ให้​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​เลื่อนขั้น​เป็น​สำนัก​ของ​ไพศาล​ได้​อย่างไร​?

เฉิน​ผิง​อัน​สัมผัส​ได้​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ทางจิตใจ​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​อย่าง​เฉียบ​ไว​ พลัน​ใช้เสียง​ใน​ใจตะโกนเรียก​ “เย่อ​วิ๋นอวิ๋น!”​

แววตา​และ​จิตใจ​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ที่​เดิมที​กำลังจะ​แหลก​สลาย​คล้าย​จู่ๆ ได้ยิน​เสียง​ฟ้าผ่า​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​กลับมา​รวมตัวกัน​ได้​อีกครั้ง​โดยไม่รู้ตัว​

จากนั้น​นาง​ก็​พลัน​เก็บ​ความคิด​ทั้งหมด​มาใน​เสี้ยว​วินาที​ตาม​จิตใต้สำนึก​ เพียง​ชั่วพริบตา​จิตใจ​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​พลัน​ใสกระจ่าง​ ราวกับว่า​ฟ้าดิน​ด้านนอก​กับ​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ล้วน​ว่างเปล่า​ไม่เหลือ​สิ่งใด​

เฉิน​ผิง​อัน​ชะลอ​การ​ออก​หมัด​ เพียงแค่​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​

ครู่หนึ่ง​ต่อมา​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ถึงได้​ถอย​ออก​มาจาก​สภาพการณ์​อัน​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​นั้น​ หลังจากที่​ไม่เหลือ​สิ่งใด​ ขุนเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​ก็​เหมือน​ม้วน​ภาพ​ที่​ทยอย​กัน​คลี่​ออก​ บุคคล​และ​เรื่องราว​ที่​จด​จำได้​ชัดเจน​ที่สุด​เหมือน​ภาพ​สีสัน​ ภาพ​เหตุการณ์​ใน​ชีวิต​ที่​ความทรงจำ​ค่อนข้าง​พร่า​เลือน​กลับ​เหมือน​ภาพ​เค้าโครง​ลายเส้น​ขาว​ดำ​ที่​วาด​ได้​อย่าง​ประ​ณีติ​ ส่วน​เรื่องราว​ที่​ตัวเอง​นึก​ว่า​ลืม​ไป​นาน​แล้ว​ แต่​แท้จริง​แล้ว​เหมือน​ถูก​ผนึก​ภูเขา​เอาไว้​ กลับ​เหมือน​ภาพ​น้ำหมึก​ที่​สะบัด​แปรง​ตามแต่​ใจ ไม่เห็น​กระดูก​เลือดเนื้อ​ เห็น​แต่​ปณิธาน​…

ชั่วพริบตา​นั้น​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​รู้สึก​เพียง​ว่า​ตัวเอง​เหมือน​เทพ​องค์​หนึ่ง​ที่​ลอยตัว​อยู่​กลางอากาศ​สูง หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​มอง​มายัง​พื้นดิน​เบื้องล่าง​

นี่​ก็​คือ​ขอบเขต​คืน​ความจริง​ชั้น​ที่สอง​ของ​ขอบเขต​ปลายทาง​หรือ​?!

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​ต่อไป​ว่า​ “อย่า​ได้​รีบร้อน​ถามหมัด​ สามารถ​รอ​อีกสักครู่​ได้​”

แววตา​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​แจ่มจ้าผิดปกติ​ เห็น​เพียง​ว่า​นาง​เก็บ​ท่า​หมัด​โบราณ​ของ​ผู​ซาน​ไป​ ถอยหลัง​หนึ่ง​ก้าว​ กุมมือ​คารวะ​คน​ชุด​เขียว​ตรง​หน้าที่​นาง​ยังคง​รู้สึก​ว่า​ ‘ไม่ใช่คน​’ ผู้​นี้​ เป็นการ​ขอบคุณ​อย่าง​ไร้​เสียง​ เพียงแต่ว่า​เวลานี้​ใน​ใจของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ไม่เหลือ​ความสิ้นหวัง​อีกแล้ว​ นาง​เงียบงัน​ไป​พัก​หนึ่ง​ก็​คลี่​ยิ้ม​ราว​บุปผา​ผลิบาน​ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าต้อง​ระวัง​แล้ว​!”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “แน่ใจ​นะ​?”

ความหมาย​คือ​อยาก​จะถามว่า​เจ้าขุนเขา​เย่​ท่าน​นี้​แน่ใจ​หรือไม่​ว่า​จะไม่รอ​ให้​ขอบเขต​คืน​ความจริง​มั่นคง​กว่า​นี้​อีก​สักหน่อย​?

เพราะ​ถึงอย่างไร​ตอนนี้​เจ้าก็​ถือว่า​เป็น​แค่​คืน​ความจริง​ได้​เกือบ​ครึ่ง​ส่วน​เท่านั้น​

ทว่า​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​กลับ​ตั้งท่า​หมัด​แล้ว​ ถึงขั้น​เป็น​ท่า​หมัด​ที่​คล้าย​จะบอ​กว่า​…หมัด​สูงยอม​ลง​ให้​ก่อน​?

ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​จึงหายตัว​ไป​จาก​ที่​เดิม​

ใน​เมื่อ​หวง​อี​อวิ๋น​ผู้​นี้​อยาก​จะอาศัย​ขอบเขต​ของ​เขา​เฉิน​ผิง​อัน​มาอนุมาน​ระดับ​ความสูงต่ำ​และ​ขอบเขต​ลึก​ตื้น​ใน​วิชา​ยุทธ​ของ​เฉาสือ​คร่าวๆ​

ไม่มีปัญหา​

เฉิน​ผิง​อัน​ยังคง​เลือก​จะออม​แรง​ไว้​สอง​ส่วน​ เหมือนกับ​ตอนที่​ถามหมัด​กับ​เฉาสือ​ใน​สวน​กง​เต๋อ​อย่าง​ไม่มีผิดเพี้ยน​

ตอนนั้น​เฉาสือ​ก็​ออม​แรง​ไว้​สอง​ส่วน​เช่นกัน​

พริบตา​นั้น​หวง​อี​อวิ๋น​ก็​สูญเสียการ​รับสัมผัส​ทั้งหมด​ไป​ ราวกับว่า​…บน​โลก​มนุษย์​ไม่มีคน​ชุด​เขียว​อีกแล้ว​

ท้ายทอย​ของ​นาง​พลัน​เอียง​ไป​ข้าง​หนึ่ง​เพราะ​ถูก​ฝ่ามือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​กด​เอาไว้​แล้ว​ผลัก​ออก​ไป​อย่าง​แรง​

ร่าง​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​พลัน​ลอย​กระเด็น​ขึ้นไป​กลางอากาศ​

จากนั้น​คน​ชุด​เขียว​ก็​ขยับ​เท้า​ไป​ด้าน​ข้าง​ เหวี่ยง​แขน​ขึ้น​สูง กำหมัด​แล้ว​ปล่อย​ตรง​ลงมา​

หวง​อี​อวิ๋น​ถูก​หมัด​ต่อย​เข้าที่​เอว​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​กระแทก​พื้น​ดัง​โครม​

ชุยตง​ซาน​สูด​ลมหายใจ​ดัง​เฮือก​ หันหน้า​ไป​ทาง​อื่น​ไม่มอง​ภาพ​นี้​

โชคดี​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​หลัง​เท้า​ออก​ไป​อย่าง​ว่องไว​ จึงช่วย​ชะลอ​ความเร็ว​ใน​การ​หล่น​พื้น​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​เล็กน้อย​ แล้ว​เขา​ก็​ก้าว​ถอยหลัง​ไป​หลาย​ก้าว​อย่าง​รวดเร็ว​

ทาง​ฝั่งของ​หอ​ซ่าวฮ​วา​นี้​ นอกจาก​ชุยตง​ซาน​และ​ลูกศิษย์​อย่าง​เผย​เฉียน​แล้ว​น่าจะ​ไม่มีใคร​สามารถ​มองเห็น​การกระทำ​นี้​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

หวง​อี​อวิ๋น​ยังคง​ ‘นอน​เค้เก้​’ อยู่​บน​พื้น​ อีก​ทั้งคน​ทั้งคน​ก็​คล้าย​จะ…มึนงง​ไป​เล็กน้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​ลง​ กุม​หมัด​เอ่ย​ว่า​ “ยอมให้​แล้ว​”

หวง​อี​อวิ๋น​โซเซลุกขึ้น​ยืน​ ข่ม​กลั้น​แรง​สั่นสะเทือน​ของ​ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ลง​ไป​ ยัง​ต้อง​พยายาม​อย่าง​สุดความสามารถ​ถึงจะสยบ​ปราณ​วิญญาณ​ที่​สับสนวุ่นวาย​ให้​มั่นคง​ลง​ได้​ สีหน้า​ของ​นาง​ซับซ้อน​ กุม​หมัด​คารวะ​กลับคืน​ ยิ้มเจื่อน​เอ่ย​ว่า​ “ยอมให้​แล้ว​”

เป็น​คำ​กล่าวว่า​ ‘ยอมให้​แล้ว​’ เหมือนกัน​ แต่​ความหมาย​จะเหมือนกัน​ได้​อย่างไร​

ยาม​นี้​ตลอดทั้ง​หอ​ซ่าวฮ​วา​ เนื่องจาก​สอง​ฝ่าย​ที่​ถามหมัด​พา​กัน​เงียบงัน​ คนอื่นๆ​ จึงเงียบ​ตาม​ไป​ด้วย​

หวง​อี​อวิ๋น​ฝืน​กลืนเลือด​สดๆ​ ที่​ตีตื้น​มาใน​ลำคอ​กลับ​ลง​ไป​ สีหน้าที่​ซีด​ขาว​ดีขึ้น​เล็กน้อย​ ถึงได้​ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “ขอ​แค่​เจ้ากับ​เฉาสือ​เป็น​ขอบเขต​เดียวกัน​ก็​ไม่มีความจำเป็น​ให้​ต้อง​ประชัน​กัน​อีกแล้ว​ใช่หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “ประลอง​ฝีมือ​กับ​ข้า​ยัง​นับว่า​ดี​ แต่​หาก​จะถามหมัด​กับ​เฉาสือ​ ย่อม​ไม่มีความจำเป็น​แล้ว​”

เย่อ​วิ๋นอวิ๋นจม​สู่ความ​เงียบงัน​

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​

เวลานี้​ดูเหมือน​ไม่ว่า​จะเอ่ย​ถ้อยคำ​ตามมารยาท​อะไร​ก็​ล้วน​ไม่เหมาะสม​

ชุยตง​ซาน​มอง​แล้ว​รู้สึก​กลุ้มใจ​นัก​ เดิมที​เจ้าขุนเขา​เย่​ผู้​นี้​ยัง​คิด​จะมาเป็น​เค่อ​ชิงที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ภูเขา​เซียน​ตู​บ้าน​ตน​อยู่เลย​ อย่า​ให้​เป็น​เพราะ​การ​ป้อน​หมัด​ของ​อาจารย์​กลายเป็น​ว่า​หมดหวัง​เลย​นะ​

สุดท้าย​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ถามว่า​ “ข้า​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​สถานการณ์​มิพ่าย​ของ​สกุล​หลิว​ธวัล​ทวีป​มาแล้ว​ เฉาสือ​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​ขนาด​นั้น​จริงๆ​ หรือ​?”

ส่วน​ ‘ศึก​เขียว​ขาว​’ ใน​สวน​กง​เต๋อ​ที่​ชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​อ่าน​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ก็​พอ​จะเข้าใจ​ได้​คร่าวๆ​ แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “แน่นอน​ว่า​เฉาสือ​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​ แต่​ก็​ใช่ว่า​จะไม่มีโอกาส​เสีย​เลย​”

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​กุม​หมัด​ยิ้ม​เอ่ย​ “ลา​ล่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​อึ้ง​ตะลึง​

สายตา​ของ​ชุยตง​ซาน​ยิ่ง​ฉายแวว​ไม่พอใจ​ ดู​สิดู​ ดู​เรื่อง​ดี​ๆ ที่​อาจารย์​ท่าน​เป็น​คน​ทำ​สิ เจ้าขุนเขา​เย่​ไม่คิด​จะอยู่ร่วม​พิธี​เฉลิมฉลอง​แล้ว​

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ ได้​แต่​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “ไป​รักษา​บาดแผล​ก่อน​”

แล้ว​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ก็​พา​เซวีย​ไหว​กลับ​ไป​ที่​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ ตลอดทาง​นาง​เดิน​ด้วย​ฝีเท้า​หนักแน่น​ ไม่ทะยาน​ลม​

เพียงแต่ว่า​เดิน​ห่าง​ไป​ไกล​แล้ว​ รอ​กระทั่ง​พ้น​จาก​หอ​ซ่าวฮ​วา​และ​ยอดเขา​เจ๋อ​เซียน​มาแล้ว​ ระหว่างทาง​ภูเขา​ที่สอง​ฝาก​ฝั่งล้วน​มีแต่​หน้าผา​ หวง​อี​อวิ๋น​ถึงได้​หยุด​เท้า​ ยืน​อยู่​บน​ขั้นบันได​หิน​เขียว​ มือหนึ่ง​ยัน​ผนัง​หน้าผา​ อีก​มือหนึ่ง​ประคอง​ตรง​ช่วง​เอว​ แค่​นวด​คลึง​เล็กน้อย​ก็​เจ็บปวด​จน​สตรี​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ท่าน​นี้​ต้อง​ขมวดคิ้ว​

เซวีย​ไหว​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ไม่กล้า​แม้แต่​จะหายใจ​แรง​ ดวงตา​มอง​ตรง​ไม่ลอกแลก​ แสร้ง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​อะไร​ทั้งนั้น​ อาจารย์​ผู้เฒ่า​ก้าวเดิน​เร็ว​ๆ ไป​ด้านหน้า​อย่าง​เงียบๆ​ อย่าง​คน​ที่​เข้า​อก​เข้าใจ​ผู้อื่น​เป็น​อย่าง​ดี​

เซวีย​ไหว​ชะลอ​ฝีเท้า​ เดิน​ขึ้น​บันได​ไป​สิบ​กว่า​ก้าว​แล้ว​ถึงได้​หยุด​ยืน​นิ่ง​ หันหลัง​ให้​อาจารย์​

หวง​อี​อวิ๋น​เดิน​ขึ้น​บันได​มา “หมัด​ของ​หนึ่ง​ทวีป​มาจาก​ผู้​ซาน​ คำกล่าว​นี้​อย่า​ได้คิด​เป็นจริงเป็นจัง​ คนอื่น​จะพูด​กัน​อย่างไร​ข้า​ไม่สน​ แต่​วันหน้า​ลูกศิษย์​ของ​เรือ​นอวิ๋น​ฉ่าว​ ใคร​กล้า​พูด​เช่นนี้​ต่อหน้า​ข้า​…”

เพียงแค่​พูด​เบา​ๆ ก็​กระเทือน​ไป​ถึงบาดแผล​ตรง​เอว​ หน้าผาก​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​มีเหงื่อ​ผุด​ซึม ไม่พูด​อะไร​อีก​แม้แต่​คำ​เดียว​

เซวีย​ไหว​รู้สึก​ว่า​หาก​ตน​แสร้ง​ทำตัว​เป็น​น้ำเต้า​ตัน​ไป​ตลอดทาง​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​สมควร​ จึงแข็งใจ​เอ่ย​ว่า​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​จั่ว​ศิษย์​พี่​ของ​เซียน​กระบี่​เฉิน​ท่าน​นี้​ ดูเหมือนว่า​ใน​อดีต​ก็​เคย​ทำให้​คำ​เรียกขาน​ว่า​ ‘ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​’ ซึ่งเดิมที​เป็น​คำยกย่อง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ กลายเป็น​ประโยค​ด่า​คน​ไป​เหมือนกัน​”

เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​เอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “ไม่พูด​ยัง​จะดี​ซะกว่า​!”

เซวีย​ไหว​จึงได้​แต่​ออก​เดิน​ไป​เงียบๆ​ อีกครั้ง​

ทาง​ฝั่งของ​หอ​ซ่าวฮ​วา​ เผย​เฉียน​สีหน้า​สดใส​แช่มชื่น​ ลำพองใจ​ยิ่งกว่า​ยาม​ที่​ตัวเอง​ถามหมัด​ชนะ​เสีย​อีก​

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ ไม่ได้​พูด​อะไร​ มอง​ดูเหมือนว่า​เป็นการ​ถามหมัด​บน​ยอดเขา​ครั้งหนึ่ง​กับ​หวง​อี​อวิ๋น​ แต่​แท้จริง​แล้ว​ยัง​ห่าง​จาก​ ‘หมัด​บาง​หมัด​ของ​คน​บางคน​’ อีก​ไกล​นัก​ ยัง​คงอยู่​แค่​ที่​กึ่งกลาง​ภูเขา​เท่านั้น​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 902.4 ถามหมัดบนยอดเขา"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์