CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

กระบี่จงมา Sword of Coming - บทที่ 908.9 มหานทียิ่งใหญ่ไพศาล

  1. Home
  2. กระบี่จงมา Sword of Coming
  3. บทที่ 908.9 มหานทียิ่งใหญ่ไพศาล
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เวินอวี้​ถาม “เหตุ​เปลี่ยนแปลง​ที่​เสี่ยว​หลง​ชิว​ เจ้าน่าจะ​รู้​แล้ว​กระมัง​?”

หวัง​ไจ่พยักหน้า​ “ได้​อ่าน​รายงาน​จาก​ทาง​สำนักศึกษา​ระหว่าง​ที่​เดินทาง​มาแล้ว​”

เวินอวี้​ยิ้ม​กล่าว​ “หากว่า​เขา​ไม่ลงมือ​ ข้า​ก็​คงจะ​ต้อง​ไป​พูดคุย​กับ​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ผู้​นั้น​สักหน่อย​ จำต้อง​พูดว่า​ การ​ถอน​ฟืน​ใต้​กระทะ​ครั้งนี้​ทำได้​งดงาม​ยิ่ง​ สะใจยิ่งนัก​!”

หวัง​ไจ่ลุกขึ้น​เอ่ย​ “ข้า​ยัง​มีธุระ​ ต้อง​ไปหา​เจ้าขุนเขา​ฟ่าน​สักหน่อย​”

เวินอวี้​โบกมือ​ “จำไว้​ว่า​อย่า​ได้​หยิบ​อะไร​ติดไม้ติดมือ​ไป​ เรื่อง​อย่าง​การ​เป็น​โจร​ขโมย​หนังสือ​นี้​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่สมควร​ทำ​ยิ่งกว่า​พับ​หน้า​หนังสือ​เสีย​อีก​”

หวัง​ไจ่จากไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ แสดงให้เห็น​ว่า​ตัวเอง​บริสุทธิ์​ จากนั้น​ก็​เดิน​เลียบ​ ‘เส้นทาง​ภูเขา​อัน​คดเคี้ยว​’ ออก​ไป​จาก​ห้อง​หนังสือ​ ตอนที่​เดิน​ไป​ถึงหน้า​ประตู​ห้อง​ เวินอวี้​ยืด​คอ​ยาว​ออกมา​ พลัน​ตะคอก​อย่าง​เดือดดาล​ “หวัง​ไจ่!”

หวัง​ไจ่จึงได้​แต่​เดิน​ย้อน​กลับมา​ทาง​เดิม​ เอา​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​วาง​กลับ​ไว้​ที่​เดิม​ เวินอวี้​ลุกขึ้น​โดยตรง​ ถลึงตา​เอ่ย​ “ยังมี​อีก​สอง​เล่ม​นะ​!”

หวัง​ไจ่จึงหยิบ​หนังสือ​อีก​สอง​เล่ม​ออก​มาจาก​ขาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​กล่าว​ “เป็นรอง​เจ้าขุนเขา​สำนักศึกษา​แล้ว​ ขี้โมโห​ให้​น้อย​ๆ หน่อย​สิ”

เวินอวี้​เอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “หาก​เปลี่ยน​ข้า​ที่​ได้​ไป​อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ รับรอง​ว่า​เจ้าดื่มเหล้า​ไม่ต้อง​จ่าย​เงิน​”

“ไม่มีทาง​”

หวัง​ไจ่ยืน​พิง​กรอบประตู​ เอ่ย​ว่า​ “แต่​หากว่า​เจ้าไป​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​ได้​เป็น​เถ้าแก่​สามของ​ร้านเหล้า​ก็​เป็นได้​”

เวินอวี้​ไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​ เพียง​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “พวก​เจ้าสนิท​กัน​ขนาด​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​มอบ​ตราประทับ​ไว้​ให้​เจ้าสัก​อัน​เลย​หรือ​?”

หวัง​ไจ่ยิ้ม​ตาหยี​ “เจ้าเดา​ดู​สิ”

ก้าว​ยาว​ๆ เดิน​จากไป​

เงยหน้า​มอง​ฟ้า ดวงตะวัน​ร้อนแรง​ส่องแสง​จ้า บัณฑิต​ที่​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่เคย​สร้าง​คุณ​ความชอบ​แม้แต่น้อย​ไว้​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เอ่ย​เสียงดัง​กังวาน​ว่า​ “คน​เดิน​บน​ทาง​ดิน​โคลน​ไม่เหนื่อยหน่าย​ วีรบุรุษ​สังหาร​โจร​ไม่บันทึก​ลง​ตำรา​ ผู้​กล้า​แท้จริง​ไม่สง่างาม ภูผา​หิน​สูงตระหง่าน​เทียม​ขอบฟ้า​”

“ที่แท้​คือ​วิญญูชน​!”

……

ท่าเรือ​เฮย​เซี่ยน​ เถ้าแก่​ร้าน​มีชื่อว่า​อวี๋​ฟู่ซาน​ ฉายา​ก็​คือ​ฟู่ซาน​

อวี๋​ฟู่ซาน​ที่​มีรูปโฉม​เป็น​เด็กหนุ่ม​นั่ง​อยู่​ริม​ลำคลอง​หน้า​ประตู​ร้าน​ตัวเอง​ กำลัง​ตกปลา​ฆ่าเวลา​

ยาม​กลางคืน​คลื่น​ลม​ยัง​ไม่สงบ​ บน​และ​ล่าง​มีดวงจันทร์​ดวง​ใหม่​สอง​ดวง​

เห็น​นักพรต​หญิง​สะพาย​กระบี่​คน​หนึ่ง​ รูปโฉม​งดงาม​จริง​แท้​ รู้สึก​เพียง​ว่า​สตรี​ที่​ถูกใจ​ตัวเอง​ที่สุด​ เกรง​ว่า​นับแต่​คืนนี้​ไป​น่าจะ​ต้อง​ไป​อยู่​ใน​อันดับ​ที่สอง​แล้ว​

คิดไม่ถึง​ว่า​พอ​นักพรต​หญิง​คน​นั้น​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​จะพูด​เข้า​ประเด็น​ทันที​ “ข้า​ชื่อ​หวง​ถิง ได้ยิน​มาว่า​เจ้ายินดี​จะไป​ฝึก​ตน​อยู่​ที่​ภูเขา​ไท่​ผิง​?”

ก่อนหน้า​นั้น​ก็​มีลูกค้า​สวม​งอบ​สวม​เสื้อกันฝน​คน​หนึ่ง​มาเยือน​ แล้วก็​เคย​พูดคุย​เรื่อง​นี้​กัน​จริงๆ​

เพียงแต่ว่า​รอ​กระทั่ง​หวง​ถิงเดิน​มาอยู่​ตรงหน้า​ อวี๋​ฟู่ซาน​ก็​ให้​รู้สึก​เขินอาย​เล็กน้อย​

หวง​ถิงเห็น​เขา​ลังเล​ คิดดู​แล้ว​คง​มีความ​ลำบากใจ​ จึงเอ่ย​ว่า​ “ไม่บังคับ​”

นาง​ทิ้ง​ประโยค​นี้​ไว้​แล้วก็​เตรียม​จะขี่​กระบี่​จากไป​ อวี๋​ฟู่ซาน​รีบ​โยน​คันเบ็ด​ตกปลา​ทิ้ง​ พูด​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​ “ไป​! ทำไม​จะไม่ไป​เล่า​!”

หวง​ถิงยืน​อยู่​ที่​เดิม​

อวี๋​ฟู่ซาน​จึงได้​แต่​หยุด​ยืน​นิ่ง​ด้วย​ความสงสัย​ นาง​เตรียม​จะบอก​กฎ​บางอย่าง​ของ​ภูเขา​ให้​เขา​ฟังหรือ​?

หวง​ถิงชี้ไป​ยัง​ร้าน​ที่​ประตู​เปิด​อ้า​ “ไม่สน​แล้ว​รึ​?”

อวี๋​ฟู่ซาน​โบกมือ​เป็น​วงกว้าง​ “ล้วน​เป็น​ของ​นอกกาย​”

หวง​ถิงถอนหายใจ​ เหตุใด​ถึงได้​รู้สึก​ว่า​นาง​ได้ตัว​นาย​ท่าน​คน​หนึ่ง​ที่​ดีแต่​ใช้เงิน​ไม่รู้จัก​หาเงิน​มากัน​นะ​

บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

แม้จะบอ​กว่า​ชุยตง​ซาน​พูดคุย​กับ​จิตรกร​เอก​บางท่าน​ของ​แผ่นดิน​กลาง​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​จูเหลี่ยน​ที่อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ก็​ยัง​ใช้สอง​มือถือ​พู่กัน​มือ​ละ​ด้าม​ ซ้าย​ขวา​ตวัด​ขีดเขียน​พร้อมกัน​ กำลัง​วาด​ภาพเหมือน​ของ​คน​คน​หนึ่ง​

ใช้ลายเส้น​เล็ก​บาง​วาด​เป็น​เค้าโครง​ บุคคล​ใน​ภาพวาด​เริ่ม​ปรากฏ​ชัดเจน​ให้​เห็น​เป็นรูปเป็นร่าง​

ชุด​เขียว​สะพาย​กระบี่​

โดยเฉพาะ​ดวงตา​คู่​นั้น​ที่​เป็นประกาย​น่า​จับจ้อง​มาก​เป็นพิเศษ​

จูเหลี่ยน​ยิ้ม​บาง​ๆ ถาม “แบบนี้​ได้​ไหม​?”

คน​จิ๋ว​ดอกบัว​นอนคว่ำ​อยู่​ข้าง​แท่น​ฝน​หมึก​บน​โต๊ะ​วาดภาพ​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ คง​รู้สึก​ว่า​ยัง​แสดง​ความจริงใจ​ได้​ไม่มาก​พอ​จึงลุกขึ้น​นั่ง​ ปรบมือ​แรง​ๆ จริงจัง​

ใน​พื้นที่​มงคล​ราก​บัว​ เพ่​ยเซียง​แห่ง​แคว้น​หู​มาหา​เจียว​น้ำ​หง​เซี่ย​

เพ่​ยเซียง​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ บน​ใบหน้า​มีความ​กลัดกลุ้ม​ “งานพิธี​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ครั้งนี้​ไม่ได้​เชิญพวกเรา​ เป็น​เพราะ​เจ้าขุนเขา​มีความเห็น​บางอย่าง​เลย​คิด​จะฉวยโอกาส​นี้​มาตี​กระทบ​พวกเรา​หรือไม่​?”

ก่อตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ เป็น​เรื่องใหญ่​ถึงเพียงใด​

นาง​กับ​หง​เซี่ย​ที่​แม้ขอบเขต​จะไม่สูง แต่​จะดี​จะชั่ว​พวก​นาง​ก็​เป็นสมาชิก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องบน​เชียว​นะ​

ความคิด​ของ​หง​เซี่ย​ไม่ได้​มีมากมาย​เหมือน​เจ้าแห่ง​แคว้น​หู​ท่าน​นี้​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เจ้าขุนเขา​ต้อง​มีการพิจารณา​และ​ไตร่ตรอง​เป็น​ของ​ตัวเอง​แน่นอน​”

บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​บน​ภูเขา​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ใบ​ถงทวีป​

“เจ้าโจร​เจียง​ไป​ขโมย​ขี้​ไก่​ที่ไหน​อีกแล้ว​?”

“เริ่ม​คิดถึง​เปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​”

“ไม่มีเปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​คอย​ด่า​เจ้าโจร​เจียง​ ช่างเป็นความ​บกพร่อง​ใน​ความ​สมบูรณ์แบบ​”

“ได้ยิน​มาว่า​มีเซียน​กระบี่​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่​ถึงกับ​ได้​เป็น​อิ่น​กวาน​”

“อิ่น​กวาน​คือ​ขุนนาง​ตำแหน่ง​อะไร​? เป็น​ขุนนาง​อยู่​ที่ไหน​?”

“ถือเป็น​ขุนนาง​ตำแหน่ง​ใหญ่​ที่สุด​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แล้ว​”

“โอ้โห​ ถ้าเจ้าโจร​สุนัข​เจียง​เจอ​กับ​คน​ผู้​นี้​ จะไม่ต้อง​ทุ่ม​ชีวิต​แก่ๆ​ สุดตัว​เลย​หรอก​หรือ​?”

“ก็เพราะว่า​ไม่ใช่คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​ ย่อม​ไม่มีทาง​มาคลุกคลีตีโมง​กัน​ได้​”

“เป็น​คน​อย่า​เอาแต่​ด่า​เจียง​ซ่างเจิน​ ควรจะ​ทำความเข้าใจ​เรื่อง​ของ​ใต้​หล้า​บ้าง​ไม่มาก​ก็​น้อย​”

ริม​หน้าผา​สำนัก​ซาน​ไห่​ ฝน​ห่า​ใหญ่​เท​กระหน่ำ​ลงมา​ แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ที่​มีชื่อเล่น​ว่า​เชิงฮวา​เดิน​ถือ​ร่ม​อยู่​ริมทะเล​เพียงลำพัง​ มอง​ไป​ยัง​ผืน​มหาสมุทร​ที่​กว้างใหญ่​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

แม่นาง​น้อย​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ คล้าย​กับ​ว่า​หลบ​อยู่​ใน​ร่ม​กระดาษ​น้ำมัน​ เหม่อมอง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​

ได้​ฟังพี่​หญิง​ชุ่ย​พูดถึง​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​

ความชอบ​มาก​เป็นพิเศษ​ที่​ไม่ได้​เปิดปาก​พูด​ออก​ไป​ ก็​เหมือน​ซาก​วาฬ​ที่​จมลง​น้ำ​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​

อันที่จริง​แม่นาง​น้อย​ไม่ค่อย​เข้าใจ​นัก​ แค่​ฟังแล้ว​รู้สึก​เศร้า​นิดๆ​

บน​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ หมี่​ลี่​น้อย​ ไฉอู๋​ ป๋า​ย​เสวียน​ ซุน​ชุน​หวัง​ สี่คน​นี้​ไม่เพียงแต่​สนิทสนม​กัน​มาก​ ยัง​เหมือนว่า​จะมีความรู้​ใจกัน​อย่าง​ถึงที่สุด​ พอ​มีเวลาว่าง​จะต้อง​มาจับกลุ่ม​อยู่​รวม​กันที่​ห้อง​ของ​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​

สุรา​ของ​ไฉอู๋​ ทุกวันนี้​ก็​เป็น​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ที่​เป็น​คน​ดูแล​

เหมือน​อย่าง​ซุน​ชุน​หวัง​ แม้ว่า​ใน​สายตา​ของ​ป๋า​ย​เสวียน​แล้ว​นาง​ยังคง​เป็น​แม่นาง​น้อย​ตาปลา​ตาย​อยู่​เหมือนเดิม​ ทั้ง​ยัง​ไม่ชอบ​ดื่มเหล้า​ แล้วก็​ไม่เข้าใจ​การ​ดื่ม​ชา แต่​เวลาว่าง​จาก​การ​ฝึก​กระบี่​ก็​มักจะ​มานั่ง​อยู่​กับ​ไฉอู๋​ แต่​อันที่จริง​ต่อให้​มานั่ง​อยู่​ด้วย​ นาง​ก็​ไม่กล้า​คุย​อะไร​กับ​ไฉอู๋​ เว้น​เสีย​จากว่า​มีผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​อยู่​ด้วย​ ตาปลา​ตาย​ถึงจะแทะ​เมล็ด​แตง​ พอ​มีความเคลื่อนไหว​อยู่​บ้าง​ ไม่อย่างนั้น​ก็​นั่ง​ทื่อ​มะลื่อ​อยู่​ตรงนั้น​ ไม่ขยับเขยื้อน​ราวกับ​ผี​ตัว​หนึ่ง​ พูดน้อย​ยิ่งกว่า​เจ้าใบ้​น้อย​ที่​ร้าน​ยา​สุ้ย​เสีย​อีก​

วันนี้​คน​ทั้ง​สี่มารวมตัวกัน​อีกครั้ง​ ร่วมกัน​ปรึกษา​ถึงงานใหญ่​

ไม่ทัน​ระวัง​ก็​คุย​กัน​ไป​ถึงการ​ฝึก​ตน​ที่​น่าเบื่อหน่าย​ ป๋า​ย​เสวียน​ก็​เริ่ม​ใช้น้ำเสียง​ของ​ผู้อาวุโส​สั่งสอน​ไฉอู๋​ที่​ตอนนี้​ขอบเขต​ต่ำสุด​อีกครั้ง​

ไฉอู๋​ดื่มเหล้า​ไป​อึก​ใหญ่​ก็​พูด​อย่าง​มีเหตุผล​ว่า​ “อาจารย์​เสี่ยว​โม่กับ​เจ้าสำนัก​ชุย​ต่าง​ก็​บอก​กับ​ข้า​ว่า​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​”

สายตา​ป๋า​ย​เสวียน​ฉายแวว​เวทนา​ ดื่ม​ชาโก่​ว​ฉี่หนึ่ง​อึก​ เอ่ย​ว่า​ “พืชพรรณ​อ่า​ นี่​เป็น​เพราะ​พวกเขา​สอง​คน​ปลอบใจ​เจ้า เจ้าก็​เชื่อ​จริงๆ​ ด้วย​หรือ​ ขอบเขต​สามของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ นอกจาก​ขอบเขต​เส้นเอ็น​หลิว​แล้ว​ อัน​ที่​จร​งิยังมี​คำ​เรียก​อีก​อย่างหนึ่ง​ เรียก​ว่า​อะไร​ รู้​หรือไม่​?”

ช่วย​ตั้งฉายา​ให้​กับ​ไฉอู๋​ พืชพรรณ​ มีนั่น​ ให้​ไฉอู๋​เลือก​เอา​เอง​

ไฉอู๋​ถามอย่าง​สงสัย​ “อะไร​หรือ​?”

ป๋า​ย​เสวียน​กลอกตา​มอง​บน​ “ยัง​ไม่รีบ​ขอ​ความรู้​จาก​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ของ​พวกเรา​อีก​!”

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เหมือน​จะเรียก​ว่า​ขอบเขต​รั้ง​คน​”

ป๋า​ย​เสวียน​รีบ​ยก​นิ้วโป้ง​ให้​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ทันที​ “ความรู้​กว้างขวาง​ลึกซึ้ง​!”

หมี่​ลี่​น้อย​เค้น​รอยยิ้ม​ส่งไป​ให้​ อันที่จริง​ไม่ได้​น่า​ดีใจ​สัก​เท่าไร​ คำชม​แบบนี้​ปลอม​เกินไป​แล้ว​นะ​

ไฉอู๋ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​ จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ “ไม่รีบร้อน​”

หลังจาก​แยกย้าย​กัน​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​เริ่ม​ทำการ​ ‘ลาดตระเวน​ภูเขา​ยามค่ำคืน​’ อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​

ฉวยโอกาส​ที่​รอบด้าน​ไม่มีใคร​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​จึงแอบ​บิดขี้เกียจ​ วาง​คาน​หาบ​สีทอง​และ​ไม้เท้า​ไผ่​เขียว​ลง​ หยุด​ยืน​นิ่ง​ กด​ลมปราณ​สู่จุด​ตันเถียน​ หลับตา​ลง​ครุ่นคิด​ จากนั้น​ก็​ออก​หมัด​ช้าๆ ร้อง​คำราม​อยู่​กับ​ตัวเอง​ “หยิบ​เข็ม​หนึ่ง​เล่ม​ หมัด​กวาด​แถบ​ใหญ่​ ออก​หมัด​เหมือน​ลูกธนู​ออกจาก​สาย​ เก็บ​หมัด​เหมือน​กระบี่​บิ​น.​..”

นี่​คือ​วิชา​หมัด​ล้ำเลิศ​อีก​บท​หนึ่ง​ที่​เผย​เฉียน​แอบ​สอน​ให้​นาง​ตามหลัง​วิชา​กระบี่​มาร​คลั่ง​

เผย​เฉียน​บอก​แล้ว​ว่า​วิชา​หมัด​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ นอกจาก​ของ​อาจารย์​พ่อ​นาง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​แล้วก็​ยังมี​อีก​สอง​ชนิด​ แล้วก็​เผด็จการ​มาก​เหมือนกัน​ หนึ่ง​คือ​หมัด​หวัง​ปา​ที่​เรียน​เป็น​ด้วยตัวเอง​ และ​ยังมี​อีก​หนึ่ง​คือ​พรรค​สะพาน​ฟ้า

หมี่​ลี่​น้อย​เคย​ถามเผย​เฉียน​ว่า​อะไร​คือ​พรรค​สะพาน​ฟ้า เผย​เฉียน​บอก​แค่​ว่า​นั่น​คือ​พรรค​ใหญ่​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​แห่ง​หนึ่ง​ ออก​หมัด​ก็​หา​เงินได้​ เงิน​เหรียญทองแดง​ไหล​พรวด​ๆ ลงมา​กอง​ใหญ่​เหมือน​ฝนตก​ เข้ามา​อยู่​ใน​ชามบ้าน​ตัวเอง​…

หมี่​อวี้​ฟุบ​ตัว​อยู่​บน​ราว​รั้ว​ของ​ชั้นบน​ แอบมอง​หมี่​ลี่​น้อย​ตั้งใจ​ฝึก​หมัด​อยู่​ตรงนั้น​

รอ​จน​แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​เก็บ​หมัด​ยืน​นิ่ง​ สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ กลับมา​แบก​คาน​หาบ​สีทอง​และ​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​ใหม่​อีกครั้ง​ เดิน​อาด​ๆ วน​ไป​รอบ​เรือข้ามฟาก​รอบ​แล้ว​รอบ​เล่า​

หมี่​อวี้​ถึงคลี่​ยิ้ม​อบอุ่น​ ตะโกนเรียก​เบา​ๆ “หมี่​ลี่​น้อย​ ทำ​อะไร​น่ะ​”

หมี่​ลี่​น้อย​หันไป​มอง​ชั้นบน​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “นอนไม่หลับ​ก็​เลย​ออกมา​เดินเล่น​ส่งเดช​น่ะ​”

หมี่​อวี้​ดีด​ปลายเท้า​หนึ่ง​ที​ ใช้ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ยัน​บน​ราว​รั้ว​ พลิ้ว​กาย​ลงมา​ที่​ดาดฟ้า​ สอง​มือ​สอด​รอง​ไว้​ใต้​ท้ายทอย​ เดินเล่น​ไปเป็นเพื่อน​หมี่​ลี่​น้อย​

หมี่​ลี่​น้อย​เงยหน้า​ถาม “เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ คิดถึงบ้าน​หรือ​?”

หมี่​อวี้​ส่าย​หน้ายิ้ม​ตอบ​ “เปล่า​สักหน่อย​”

คน​ที่​สามารถ​เรียก​หมี่​อวี้​ว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ได้​โดยที่​เขา​ไม่โกรธ​ก็​มีแค่​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​และ​หมี่​ลี่​น้อย​แล้ว​

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ยก​ไม้เท้า​เดินป่า​ขึ้น​ ใช้หมัด​เกา​แก้ม​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​แวว​ขออภัย​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เป็น​ข้า​เสียงดัง​ทำให้​ท่าน​ตื่น​หรือ​? วันหน้า​เวลา​เดิน​ตอนกลางคืน​ ข้า​จะเดิน​ให้​เบา​หน่อย​แล้วกัน​นะ​”

หมี่​อวี้​รู้สึก​เหมือน​ใจละลาย​อ่อน​ยวบ​ไป​หมด​แล้ว​ เสียดาย​ก็​แต่​หมี่​ลี่​น้อย​ไม่ใช่บุตรสาว​แท้ๆ​ ของ​ตน​ เขา​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ ส่ายหน้า​ตอบ​ “จะเป็นไปได้​อย่างไร​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​เดิน​ก้าว​ยาว​ๆ ได้​ตามสบาย​เลย​!”

หมี่​ลี่​น้อย​หัวเราะ​หึ​หนึ่ง​ที​

หมี่​อวี้​นึกถึง​เรื่อง​ของ​ป๋า​ย​เสวียน​ขึ้น​มาได้​จึงยิ้ม​ถามว่า​ “ข้า​ได้ยิน​มาว่า​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​เก่ง​เรื่อง​ทาย​หมัด​กับ​คนอื่น​ที่สุด​เลย​หรือ​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ยิ้ม​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ “เปล่า​นะ​ เปล่า​นะ​”

คิ้ว​เล็ก​สีเหลือง​อ่อน​จางทั้งสอง​ข้าง​ขมวด​น้อย​ๆ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​เริ่ม​สับสน​แล้ว​ว่า​ใคร​กันที่​ข่าวสาร​ว่องไว​เป็น​เทพ​รายงาน​ข่าว​เช่นนี้​ แม้แต่​เรื่อง​นี้​ก็​รู้​ด้วย​หรือ​?

อันที่จริง​มีครั้งหนึ่ง​นาย​ท่าน​ใหญ่​ป๋า​ย​เสวียน​ผู้​นั้น​บังเอิญ​เห็น​หมี่​ลี่​น้อย​เดิน​ลาดตระเวน​ภูเขา​ไป​จนถึง​ลำธาร​เส้น​หนึ่ง​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ แล้วไป​ทรุดตัว​นั่ง​ยอง​อยู่​ริมน้ำ​ แหวก​ก้อนหิน​ออก​ จับ​ปู​ตัว​หนึ่ง​ขึ้น​มาเล่น​ทาย​หมัด​กัน​

พอ​ชนะ​แล้ว​ แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ก็​กระโดดโลดเต้น​ออก​ลาดตระเวน​ภูเขา​ต่อไป​ ไม่ลืม​พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ด้วยว่า​ เฮ้อ​ กลุ้ม​นัก​ วันนี้​คว้า​ชัยชนะ​อัน​ยิ่งใหญ่​มาได้​อีกแล้ว​

ทำเอา​ป๋า​ย​เสวียน​หัวเราะ​ขำ​จน​เกือบ​ลง​ไป​กลิ้ง​กับ​พื้น​ กว่า​จะกุม​ท้อง​กลั้น​เสียงหัวเราะ​ไว้​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​

หมี่​อวี้​นับว่า​มีคุณธรรม​ ไม่ได้​ขาย​ป๋า​ย​เสวียน​ที่​เป็น​คน​หลุดปาก​เล่า​ให้​เขา​ฟัง เพราะ​ถึงอย่างไร​ไอ้​หมอ​นี่​ก็​น่าเวทนา​มาก​พอ​อยู่แล้ว​ ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​รอคอย​ป๋า​ย​เสวียน​อยู่​ที่​ภูเขา​เซียน​ตู​แล้ว​ หาก​ยัง​เพิ่ม​บัญชี​นี้​เข้าไป​อีก​ บวก​กับ​เผย​เฉียน​อีก​คน​…

หมี่​อวี้​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ทาย​หมัด​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ทาย​ปริศนา​?”

ว้าว​

ดวงตา​หมี่​ลี่​น้อย​เป็นประกาย​จ้า นี่​คือ​สุดยอด​เคล็ด​วิชา​เฉพาะ​ของ​ตน​เชียว​นะ​!

“อวี๋​หมี่​ ท่าน​ลอง​เดา​ดู​ ใคร​กันที่​มักจะ​หลงทาง​หา​บ้าน​ไม่เจอ​”

“หา​?”

“ฮ่า ก็​กวาง​ไงล่ะ​” (กวาง​ภาษาจีน​อ่าน​ว่า​หมี​ลู่​ ออกเสียง​เหมือน​หมี​ลู่​ที่​แปล​ว่า​หลงทาง​ เพียงแต่​เขียน​กัน​คนละ​แบบ​)

“ที่แท้​ก็​เป็น​อย่างนี้​นี่เอง​”

“ถ้าอย่างนั้น​ตอนที่​ลาดตระเวน​ภูเขา​ใคร​กันที่​มักจะ​ล้ม​เท้า​แพลง​เป็นประจำ​”

“ขอ​ข้า​คิด​ดูก่อน​ ช่างเถอะ​ ดูเหมือนว่า​จะคิดไม่ออก​”

“คือ​จิ้งจอก​อย่างไร​ล่ะ​”

“…”

“เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ วันนี้​เลิกเล่น​ก่อน​ดีกว่า​ ไม่เดา​แล้ว​นะ​ ข้า​จะเก็บ​ปริศนา​คำทาย​สอง​สามข้อ​ที่​เป็น​สมบัติ​ก้น​กรุ​เอาไว้​ วันหน้า​จะเอาไว้​ถามเจ้าขุนเขา​คนดี​ เจ้าขุนเขา​คนดี​ฉลาด​กว่า​ท่าน​เล็กน้อย​ ทุกครั้ง​เขา​คิด​พัก​หนึ่ง​ก็​จะคิด​คำตอบ​ได้​แล้ว​”

“ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​นี่​นะ​”

“บางครั้ง​เจ้าขุนเขา​คนดี​ใช้เวลา​พัก​หนึ่ง​ก็​ยัง​คิดไม่ออก​เหมือนกัน​ ต้อง​คิด​สอง​พัก​สามพัก​”

“ปริศนา​ก้น​กรุ​ของ​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ร้ายกาจ​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?”

“อันที่จริง​ข้า​รู้​ว่า​เจ้าขุนเขา​คนดี​จงใจคิด​นาน​สอง​สามพัก​ แต่​ตอนนี้​เจ้าขุนเขา​คนดี​ยัง​ไม่รู้เรื่อง​นี้​หรอก​นะ​”

“ตกลง​ ข้า​จะช่วย​เก็บ​เป็นความลับ​ให้​”

แจกัน​สมบัติ​ทวีป​

เมื่อ​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ฉบับ​หนึ่ง​ของ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​แพร่​มาถึงแจกัน​สมบัติ​ทวีป​

ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​ ทั่ว​ทั้ง​ทวีป​ต่าง​สั่นสะเทือน​

ที่แท้​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ของ​พวกเรา​มีกองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ ซิ่ว​หู่​ อิ่น​กวาน​!

ลูกศิษย์​คน​หนึ่ง​ของ​สกุล​ซูที่​กลับ​มายัง​บ้านเกิด​ สะพาย​หีบ​หนังสือ​ออก​ทัศนาจร​กับ​สหาย​ร่วม​ชั้นเรียน​สามสี่คน​ที่​เพิ่งจะ​ได้​รู้จัก​กัน​ไม่นาน​ ระยะทาง​ไม่ไกล​ อยู่​ใน​ตัว​จังหวัด​

นอกจาก​จะเดิน​บน​ถนน​ทางหลวง​ของ​อำเภอ​และ​เขต​ต่างๆ​ แล้วก็​ยังมี​การ​เดิน​ขึ้นเขาลงห้วย​ ค้นหา​สถานที่​เงียบสงบ​งดงาม​ คัดลอก​ตัวอักษร​บน​แผ่น​สิลา​ ระหว่างทาง​เดินผ่าน​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​และ​ศาล​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ทั้งหลาย​

เด็กหนุ่ม​แซ่ซูไม่รู้​ว่า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​พวก​นั้น​จะต้อง​เผย​กาย​อย่าง​เงียบเชียบ​เพื่อ​คอย​คุ้มกัน​เขา​อย่าง​ลับ​ๆ เป็นช่วง​ระยะทาง​หนึ่ง​ กระทั่ง​พ้น​จาก​เขตการปกครอง​ของ​ตัวเอง​ถึงกลับ​ไป​ที่​ศาล​ของ​ใคร​ของ​มัน​

เด็กหนุ่ม​คน​นี้​ยังคง​ถูก​ปิดหูปิดตา​ ไม่รู้​ว่า​ด้านหลัง​ตัวเอง​มีโคมไฟ​สอง​ดวง​ลอย​อยู่​ ซึ่งแต่ละ​ดวง​มีการ​ลงชื่อ​ที่​ต่างกัน​

ดวง​หนึ่ง​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

ดวง​หนึ่ง​คือ​อิ่น​กวาน​

นี่​จึงเป็นเหตุให้​ด้านหลัง​ของ​ลูกหลาน​สกุล​ซูผู้​นี้​มีมือ​กระบี่​ชุด​เขียว​ที่​เรือน​กาย​ล่องลอย​ ดวงตา​ทั้งคู่​เป็น​สีทอง​ แต่กลับ​หลับตา​อยู่​ตลอด​ อยู่​ใน​ท่า​สะพาย​กระบี่​

ประหนึ่ง​องค์​เทพ​ชั้น​สูงสุด​ที่​คอย​ให้​การปกป้อง​เด็กหนุ่ม​อยู่​เงียบๆ​

ภูเขา​ชิงตู​ สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​

คน​ชุด​เขียว​ออก​มาจาก​ถ้ำสวรรค์​เล็ก​ มายัง​ยอดเขา​จิ่งซิงของ​ภูเขา​โฉว​โหม​ว​ เฉาฉิงหล่า​งผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ปิด​ด่าน​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​อยู่​ที่นี่​

และ​ใน​ถ้ำสวรรค์​ที่​เป็น​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ชั่วคราว​ ด้านนอก​ชั้น​บนสุด​ของ​จวน​เซียน​สีชาด​มีม่าน​ฝน​สีทอง​แขวน​อยู่​สามเส้น​ เส้น​สายฝน​ทุก​เส้น​ต่าง​ก็​เกิด​จาก​ตัวอักษร​ส่วนหนึ่ง​จาก​คัมภีร์​สามลัทธิ​ที่​ร้อย​เรียง​ต่อกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​มั่นใจ​แล้ว​ว่าการ​ไหลเวียน​ของ​ปราณ​วิญญาณ​ทั่ว​ทั้ง​ภูเขา​โฉว​เหมียว​ไม่มีปัญหา​ใดๆ​ ถึงพอ​จะวางใจ​ได้​บ้าง​เล็กน้อย​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ไม่จากไป​ ยังคง​ปักหลัก​อยู่​ใต้​ต้นสน​โบราณ​นอก​ประตู​จวน​ลับ​แห่ง​นั้น​ เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ไกล​ บอกลา​ปี​เก่า​ต้อนรับ​ปีใหม่​ วสันต์​ฤดู​ของ​อีก​ปี​กำลังจะ​มาเยือน​ มีเพียง​ความ​เยาว์วัย​ที่​จากไป​แล้ว​ไม่กลับมา​

——

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 908.9 มหานทียิ่งใหญ่ไพศาล"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์