กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ - ตอนที่ 94 เก้าขุนเขาหนึ่งนิกาย
ตอนที่ 94 เก้าขุนเขาหนึ่งนิกาย *นิกายหนุนสวรรค์—->นิกายพันธมิตรสวรรค์* หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ทั้ง 12 คนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ก็รวมพลังปราณเพื่อเปิดค่ายกลขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ดินแดนโบราณ ระหว่างค่ายกลปรากฏประตูแสงสีขาวรูปไข่ขึ้นจากอากาศที่เบาบางจี้เทียนซิงกับจี้เค่อประสานมือคารวะเหล่าศิษย์และก้าวเท้าเข้าไปในประตูแสงเบื้องหน้า “วูบ….!” ทั้งสองรู้สึกเพียงว่าเกิดลำแสงสีขาวส่องประกายเข้าสู่ดวงตาและในชั่วพริบตาพวกเขาก็มาถึงอีกดินแดนหนึ่ง ทั้งสองก้มหน้ามองที่เท้าก็เห็นเป็นพื้นถนนที่ปูด้วยหินชนวนสีน้ำตาลเข้มที่เป็นลายด่างและมีร่องรอยของความเก่าแก่มานานนับปี ทั้งสองด้านของพื้นถนนเป็นหญ้าสีเขียวและมีดอกไม้เล็กๆหลากสีที่แตกต่างกันออกไปซึ่งดึงดูดผีเสื้อจำนวนมากให้โบยบินไปมา ไกลออกไปคือป่าไม้เขียวชอุ่มและภูเขาสุดลูกหูลูกตาท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสสะอาดบริสุทธิ์อากาศไม่ร้อนไม่หนาวและมีสายลมเย็นพัดพากลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก นี่คือดินแดนดาราบรรพกาลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์! จี้เทียนซิงและจี้เค่อรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขามาถึงดินแดนดาราบรรพกาลแล้วเพียงก้าวเท้าเข้ามาก็รู้สึกว่ารูขุมขนเปิดกว้างและรู้สึกสบายสดชื่นอย่างยิ่ง ในเวลานี้เองจอมยุทธ์สวมชุดสีน้ำเงินสองคนก็เดินมาที่ด้านหน้าของทั้งสองพวกเขากล่าวอย่างสงบว่า“พวกเจ้าทั้งสองสมควรเป็นศิษย์น้องที่เพิ่งเข้านิกายใช่หรือไม่?” จี้เทียนซิงรู้ว่าชายสองคนที่อยู่เบื้องหน้านี้เป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์เขาจึงยิ้มทักทายและพยักหน้าพร้อมกับยื่นป้ายแสดงฐานะ จอมยุทธ์ทั้งสองตรวจสอบป้ายอยู่วูบหนึ่งจากนั้นก็ผายมือไปที่ภูเขาที่อยู่สุดสายตาพลางกล่าวว่า“ศิษย์น้องชายศิษย์น้องหญิงโปรดตามพวกข้ามา” จี้เทียนซิงกับจี้เค่อพยักหน้าและเดินติดตามพวกเขามุ่งหน้าไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว ถนนเส้นนี้ชื่อว่าถนนชนวนดำมันมีความยาวมากกว่า20ไมล์และเชื่อมต่อกับยอดเขาที่สูงถึงสามกิโลเมตรซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดย่อมๆอีกหลายลูก ยอดเขานี้เป็นยอดเขาหลักมันไม่เพียงแค่สูงที่สุดในภูมิประเทศแถบนี้แต่ยังงดงามที่สุดและมีเส้นชีพจรปฐพีอันแข็งกล้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดเขานี้ย่อมเป็นที่ตั้งของนิกายพันธมิตรสวรรค์ จี้เทียนซิงและจี้เค่อยืนที่เชิงเขาและแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ยอดพวกเขาตกตะลึงกับบรรยากาศอันโอ่อ่าของนิกายพันธมิตรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง ที่เชิงเขาเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่มีรัศมีเกือบ 10,000 เมตรมีเสาหินสีขาว 99 ต้นเรียงรายอยู่สองฟากข้างนอกจากนี้ยังมีบันไดขนาดใหญ่กว้าง 20 เมตรที่ทอดยาวจากเชิงเขาไปจนถึงกลางภูเขา รอบข้างเต็มไปด้วยหินสีฟ้าเข้มส่งกลนอายของความผันผวนในยุคโบราณและไม่ทราบว่ามันถูกลมฝนกัดกร่อนมานานกี่ปี ศิษย์ทั้งสองพาขี้เทียนซิงและจี้เค่อปืนขึ้นเขาไปตามขั้นบันไดหินระหว่างทางก็ชวนสนทนาแนะนำนิกายพันธมิตรสวรรค์ให้กับทั้งคู่ “ศิษย์น้องทั้งสองคงโดดเด่นในภูมิลำเนาของพวกเจ้ามิใช่น้อยถึงได้ถูกเลือกเข้าร่วมนิกายพันธมิตรสวรรค์เรานี่นับเป็นพรอันประเสริฐสุดในชีวิตของพวกเจ้าแล้วนั่นก็เพราะนิกายของพวกเราเป็นนิกายอันดับหนึ่งของทวีปเทียนเฉินมานับศตวรรษซึ่งโดดเด่นที่สุดและได้คู่แข่งมาโดยตลอด!” เมื่อจี้เค่อเห็นว่าศิษย์พี่ทั้งสองดูมีอัธยาศัยดีนางก็เริ่มเกิดทัศนคติที่ดีต่อพวกมันและเอ่ยปากถามว่า “เรียนถามศิษย์พี่ทั้งสองนิกายพันธมิตรสวรรค์ครอบครองภูเขาลูกใหญ่ทั้งลูกเช่นนี้ย่อมมีศิษย์สาวกมากมาย?” ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและอธิบายว่า “ศิษย์น้องหญิงนิกายของเรามีพื้นที่มากกว่าภูเขาลูกนี้ที่เจ้าเห็นเป็นเพียงประตูทางเข้าออกเท่านั้น” ศิษย์อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า “นอกจากภูเขาลูกนี้แล้วยังมีภูเขาอีก8ลูกที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดเป็นพื้นที่ของนิกายพันธมิตรสวรรค์จากที่ข้าได้ฟังมาบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายได้สร้างยอดเขาเก้าลกเพื่อปกป้องทางเข้าจากศัตรูที่มารุกราน” เมื่อพูดถึงความเป็นมาของนิกายศิษย์พี่ทั้งสองก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เห็นได้ชัดว่าพวกมันทั้งคู่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีวาสนาเป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์ จี้เทียนซิงและจี้เค่อตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินพวกเขาอุทานว่า “ยอดเขาทั้งเก้าแห่งเชื่อมต่อกัน? นั่นไม่ใช่ว่ากินพื้นเป็นร้อยไมล์เลยหรือศิษย์พี่?” “บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสามารถวางค่ายกลที่เชื่อมต่อขุนเขาทั้งเก้าเข้าด้วยกัน?สวรรค์!บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งย่อมมีวิธีการเหนือธรรมชาติราวกับเทพนิยาย!” ศิษย์ทั้งสองพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน!มิเช่นนั้นแล้วนิกายพันธมิตรสวรรค์จะเป็นนิกายอันดับหนึ่งในทวีปเทียนเฉินได้อย่างไรเล่า” คนทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองนมาถึงกลางภูเขาที่เป็นจุดหมายปลายทางโดยไม่รู้ตัว เหนือบันไดขั้นสุดท้ายเป็นประตูขุนเขาสูง 100 เมตรที่สร้างด้วยหินสีดำ ธรณีประตูขุนเขาจารึกไว้ด้วยอักษรที่เขียนว่า“นิกายพันธมิตรสวรรค์ อักษรแต่ละตัวเป็นสีเงินและจารึกด้วยลายเส้นที่คมชัดจนเผยให้เห็นกลิ่นอายอันแข็งกร้าวและการครอบงำ ใต้ประตูด้านซ้ายและด้านขวาของบันไดหินมีรุ่นเยาว์หนุ่มสาวที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวจำนวน 18 คนยืนอยู่ จี้เทียนซึ่งสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าศิษย์เหล่านี้แต่ละคนล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับเชื่อมปราณ! “บ้าชัดๆ…..กระทั่งจอมยุทธ์ระดับเขตแดนเชื่อมปราณก็ยังมีค่าเพียงแค่เป็นผู้เฝ้าประตูนิกาย?” ชายหนุ่มลอบตกตะลึงในใจและเริ่มหยั่งรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งและความลึกล้ำของนิกายพันธมิตรสวรรค์ เมื่อทั้งสี่ผ่านธรณีประตูเข้าไปก็ได้เห็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่นับกิโลปรากฏอยู่เบี้องหน้าบนพื้นปูด้วยหินสีขาวราบดูเป็นระเบียบเรียบร้อย มีศิษย์ชายหญิงหลายคนที่เดินผ่านจัตุรัสด้วยสีหน้าเร่งร้อนราวกับว่ามีเรื่องด่วนทั้งสองฟากข้างของจัตุรัสเป็นอาคารสูงและบ้านเรือนหลายหลังเรียงซ้อนกัน จากนั้นศิษย์พี่ทั้งสองก็หยุดเดินณจัตุรัสและแนะนำบางอย่างให้แก่เทียนซิงกับจี้เค่อ“ศิษย์น้องทั้งสองส่วนนี้คือ จุดรวมพลของเหล่าศิษย์สายนอกหากมีเหตุการณ์สำคัญหรือการชุมนุมที่เป็นของศิษย์สายนอกก็จะจัดขึ้นที่นี่” “ส่วนตึกรามบ้านช่องทั้งสองข้างของจัตุรัสก็เป็นที่พักอาศัยของศิษย์สายนอกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,000 คน” “และทางด้านโน้นมีวังอยู่มันเป็นที่อยู่อาศัยของศิษย์ชั้นในและเหล่าหัวหน้าศิษย์พวกเจ้าอย่าได้ลักลอบเข้าไปเด็ดขาดมิฉะนั้นจะถูกลงโทษตามกฎของนิกาย” หลังจากศิษย์พี่ทั้งสองกล่าวแนะนำสั้นๆเสร็จสิ้นพวกเขาก็พาจเทียนซิงกับจี้เค่อตรงไปยังบ้านเล็กทางทิศตะวันออกของจัตุรัสพลางกล่าวว่า “พิธีต้อนรับศิษย์ใหม่จะเริ่มขึ้นในอีกสามวันวันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งสองไปที่ซินหลานหยวนเพื่อพักอาศัยก่อนชั่วคราวหลังจากพวกเจ้าผ่านพ้นพิธีรับศิษย์ใหม่ก็จะได้ที่พักส่วนตัว” จี้เทียนซิงและจี้เค่อพยักหน้าและเดินตามศิษย์พี่ทั้งสองเข้าไปในเขตที่พักอาศัยที่ชื่อว่าซินหลานหยวนที่นี่เต็มไปด้วยห้องพักหลายร้อยห้องโดยมีผู้เข้าไปพักอยู่แล้ว70-80ห้องส่วนที่เหลืออีก20กว่าห้องยังคงว่างเปล่า จี้เทียนซิงกับจี้เค่อเลือกห้องที่อยู่ติดกันสองห้องเพื่อเข้าพักอาศัยชั่วคราวซินหลานหยวนนั้นเป็นเหมือนโรงเตี้ยมขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับบรรดาศิษย์ใหม่จากหลากหลายสถานที่ภายในทวีปเทียนเฉินศิษย์ใหม่ทั้งหมดจะต้องเข้าพักที่นี่เพื่อรอคอยพิธีแนะนำตัวในอีกสามวัน สองวันต่อมาศิษย์ใหม่อีก20คนก็ทยอยเดินทางเข้ามาสมทบในซินหลานหยวนจนในที่สุดก็ครบ100คน พวกเขาทั้งหมดนี้เป็นหนุ่มสาวอัจฉริยะจากทั่วทุกภูมิภาคที่ถูกนิกายพันธมิตรสวรรค์คัดสรรมา ในช่วงสามวันนี้ทุกคนต่างก็พักในห้องส่วนตัวและมีเพียงไม่กี่คนที่ปรากฏตัว
นิยายกระบี่สะบันเก้าสวรรค์ตอนที่ 94 เก้าขุนเขาหนึ่งนิกาย
ตอนที่ 94 เก้าขุนเขาหนึ่งนิกาย
*นิกายหนุนสวรรค์—->นิกายพันธมิตรสวรรค์*
หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ทั้ง 12 คนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ก็รวมพลังปราณเพื่อเปิดค่ายกลขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ดินแดนโบราณ
ระหว่างค่ายกลปรากฏประตูแสงสีขาวรูปไข่ขึ้นจากอากาศที่เบาบางจี้เทียนซิงกับจี้เค่อประสานมือคารวะเหล่าศิษย์และก้าวเท้าเข้าไปในประตูแสงเบื้องหน้า
“วูบ….!”
ทั้งสองรู้สึกเพียงว่าเกิดลำแสงสีขาวส่องประกายเข้าสู่ดวงตาและในชั่วพริบตาพวกเขาก็มาถึงอีกดินแดนหนึ่ง
ทั้งสองก้มหน้ามองที่เท้าก็เห็นเป็นพื้นถนนที่ปูด้วยหินชนวนสีน้ำตาลเข้มที่เป็นลายด่างและมีร่องรอยของความเก่าแก่มานานนับปี
ทั้งสองด้านของพื้นถนนเป็นหญ้าสีเขียวและมีดอกไม้เล็กๆหลากสีที่แตกต่างกันออกไปซึ่งดึงดูดผีเสื้อจำนวนมากให้โบยบินไปมา
ไกลออกไปคือป่าไม้เขียวชอุ่มและภูเขาสุดลูกหูลูกตาท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสสะอาดบริสุทธิ์อากาศไม่ร้อนไม่หนาวและมีสายลมเย็นพัดพากลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก
นี่คือดินแดนดาราบรรพกาลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์!
จี้เทียนซิงและจี้เค่อรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขามาถึงดินแดนดาราบรรพกาลแล้วเพียงก้าวเท้าเข้ามาก็รู้สึกว่ารูขุมขนเปิดกว้างและรู้สึกสบายสดชื่นอย่างยิ่ง
ในเวลานี้เองจอมยุทธ์สวมชุดสีน้ำเงินสองคนก็เดินมาที่ด้านหน้าของทั้งสองพวกเขากล่าวอย่างสงบว่า“พวกเจ้าทั้งสองสมควรเป็นศิษย์น้องที่เพิ่งเข้านิกายใช่หรือไม่?”
จี้เทียนซิงรู้ว่าชายสองคนที่อยู่เบื้องหน้านี้เป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์เขาจึงยิ้มทักทายและพยักหน้าพร้อมกับยื่นป้ายแสดงฐานะ
จอมยุทธ์ทั้งสองตรวจสอบป้ายอยู่วูบหนึ่งจากนั้นก็ผายมือไปที่ภูเขาที่อยู่สุดสายตาพลางกล่าวว่า“ศิษย์น้องชายศิษย์น้องหญิงโปรดตามพวกข้ามา”
จี้เทียนซิงกับจี้เค่อพยักหน้าและเดินติดตามพวกเขามุ่งหน้าไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว
ถนนเส้นนี้ชื่อว่าถนนชนวนดำมันมีความยาวมากกว่า20ไมล์และเชื่อมต่อกับยอดเขาที่สูงถึงสามกิโลเมตรซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดย่อมๆอีกหลายลูก
ยอดเขานี้เป็นยอดเขาหลักมันไม่เพียงแค่สูงที่สุดในภูมิประเทศแถบนี้แต่ยังงดงามที่สุดและมีเส้นชีพจรปฐพีอันแข็งกล้า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดเขานี้ย่อมเป็นที่ตั้งของนิกายพันธมิตรสวรรค์
จี้เทียนซิงและจี้เค่อยืนที่เชิงเขาและแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ยอดพวกเขาตกตะลึงกับบรรยากาศอันโอ่อ่าของนิกายพันธมิตรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง
ที่เชิงเขาเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ที่มีรัศมีเกือบ 10,000 เมตรมีเสาหินสีขาว 99 ต้นเรียงรายอยู่สองฟากข้างนอกจากนี้ยังมีบันไดขนาดใหญ่กว้าง 20 เมตรที่ทอดยาวจากเชิงเขาไปจนถึงกลางภูเขา
รอบข้างเต็มไปด้วยหินสีฟ้าเข้มส่งกลนอายของความผันผวนในยุคโบราณและไม่ทราบว่ามันถูกลมฝนกัดกร่อนมานานกี่ปี
ศิษย์ทั้งสองพาขี้เทียนซิงและจี้เค่อปืนขึ้นเขาไปตามขั้นบันไดหินระหว่างทางก็ชวนสนทนาแนะนำนิกายพันธมิตรสวรรค์ให้กับทั้งคู่
“ศิษย์น้องทั้งสองคงโดดเด่นในภูมิลำเนาของพวกเจ้ามิใช่น้อยถึงได้ถูกเลือกเข้าร่วมนิกายพันธมิตรสวรรค์เรานี่นับเป็นพรอันประเสริฐสุดในชีวิตของพวกเจ้าแล้วนั่นก็เพราะนิกายของพวกเราเป็นนิกายอันดับหนึ่งของทวีปเทียนเฉินมานับศตวรรษซึ่งโดดเด่นที่สุดและได้คู่แข่งมาโดยตลอด!”
เมื่อจี้เค่อเห็นว่าศิษย์พี่ทั้งสองดูมีอัธยาศัยดีนางก็เริ่มเกิดทัศนคติที่ดีต่อพวกมันและเอ่ยปากถามว่า “เรียนถามศิษย์พี่ทั้งสองนิกายพันธมิตรสวรรค์ครอบครองภูเขาลูกใหญ่ทั้งลูกเช่นนี้ย่อมมีศิษย์สาวกมากมาย?”
ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและอธิบายว่า “ศิษย์น้องหญิงนิกายของเรามีพื้นที่มากกว่าภูเขาลูกนี้ที่เจ้าเห็นเป็นเพียงประตูทางเข้าออกเท่านั้น”
ศิษย์อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า “นอกจากภูเขาลูกนี้แล้วยังมีภูเขาอีก8ลูกที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดเป็นพื้นที่ของนิกายพันธมิตรสวรรค์จากที่ข้าได้ฟังมาบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายได้สร้างยอดเขาเก้าลกเพื่อปกป้องทางเข้าจากศัตรูที่มารุกราน”
เมื่อพูดถึงความเป็นมาของนิกายศิษย์พี่ทั้งสองก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
เห็นได้ชัดว่าพวกมันทั้งคู่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีวาสนาเป็นศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์
จี้เทียนซิงและจี้เค่อตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินพวกเขาอุทานว่า
“ยอดเขาทั้งเก้าแห่งเชื่อมต่อกัน? นั่นไม่ใช่ว่ากินพื้นเป็นร้อยไมล์เลยหรือศิษย์พี่?”
“บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสามารถวางค่ายกลที่เชื่อมต่อขุนเขาทั้งเก้าเข้าด้วยกัน?สวรรค์!บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งย่อมมีวิธีการเหนือธรรมชาติราวกับเทพนิยาย!”
ศิษย์ทั้งสองพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน!มิเช่นนั้นแล้วนิกายพันธมิตรสวรรค์จะเป็นนิกายอันดับหนึ่งในทวีปเทียนเฉินได้อย่างไรเล่า”
คนทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองนมาถึงกลางภูเขาที่เป็นจุดหมายปลายทางโดยไม่รู้ตัว
เหนือบันไดขั้นสุดท้ายเป็นประตูขุนเขาสูง 100 เมตรที่สร้างด้วยหินสีดำ
ธรณีประตูขุนเขาจารึกไว้ด้วยอักษรที่เขียนว่า“นิกายพันธมิตรสวรรค์
อักษรแต่ละตัวเป็นสีเงินและจารึกด้วยลายเส้นที่คมชัดจนเผยให้เห็นกลิ่นอายอันแข็งกร้าวและการครอบงำ
ใต้ประตูด้านซ้ายและด้านขวาของบันไดหินมีรุ่นเยาว์หนุ่มสาวที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวจำนวน 18 คนยืนอยู่
จี้เทียนซึ่งสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าศิษย์เหล่านี้แต่ละคนล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับเชื่อมปราณ!
“บ้าชัดๆ…..กระทั่งจอมยุทธ์ระดับเขตแดนเชื่อมปราณก็ยังมีค่าเพียงแค่เป็นผู้เฝ้าประตูนิกาย?”
ชายหนุ่มลอบตกตะลึงในใจและเริ่มหยั่งรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งและความลึกล้ำของนิกายพันธมิตรสวรรค์
เมื่อทั้งสี่ผ่านธรณีประตูเข้าไปก็ได้เห็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่นับกิโลปรากฏอยู่เบี้องหน้าบนพื้นปูด้วยหินสีขาวราบดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
มีศิษย์ชายหญิงหลายคนที่เดินผ่านจัตุรัสด้วยสีหน้าเร่งร้อนราวกับว่ามีเรื่องด่วนทั้งสองฟากข้างของจัตุรัสเป็นอาคารสูงและบ้านเรือนหลายหลังเรียงซ้อนกัน
จากนั้นศิษย์พี่ทั้งสองก็หยุดเดินณจัตุรัสและแนะนำบางอย่างให้แก่เทียนซิงกับจี้เค่อ“ศิษย์น้องทั้งสองส่วนนี้คือ
จุดรวมพลของเหล่าศิษย์สายนอกหากมีเหตุการณ์สำคัญหรือการชุมนุมที่เป็นของศิษย์สายนอกก็จะจัดขึ้นที่นี่”
“ส่วนตึกรามบ้านช่องทั้งสองข้างของจัตุรัสก็เป็นที่พักอาศัยของศิษย์สายนอกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,000 คน”
“และทางด้านโน้นมีวังอยู่มันเป็นที่อยู่อาศัยของศิษย์ชั้นในและเหล่าหัวหน้าศิษย์พวกเจ้าอย่าได้ลักลอบเข้าไปเด็ดขาดมิฉะนั้นจะถูกลงโทษตามกฎของนิกาย”
หลังจากศิษย์พี่ทั้งสองกล่าวแนะนำสั้นๆเสร็จสิ้นพวกเขาก็พาจเทียนซิงกับจี้เค่อตรงไปยังบ้านเล็กทางทิศตะวันออกของจัตุรัสพลางกล่าวว่า
“พิธีต้อนรับศิษย์ใหม่จะเริ่มขึ้นในอีกสามวันวันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งสองไปที่ซินหลานหยวนเพื่อพักอาศัยก่อนชั่วคราวหลังจากพวกเจ้าผ่านพ้นพิธีรับศิษย์ใหม่ก็จะได้ที่พักส่วนตัว”
จี้เทียนซิงและจี้เค่อพยักหน้าและเดินตามศิษย์พี่ทั้งสองเข้าไปในเขตที่พักอาศัยที่ชื่อว่าซินหลานหยวนที่นี่เต็มไปด้วยห้องพักหลายร้อยห้องโดยมีผู้เข้าไปพักอยู่แล้ว70-80ห้องส่วนที่เหลืออีก20กว่าห้องยังคงว่างเปล่า
จี้เทียนซิงกับจี้เค่อเลือกห้องที่อยู่ติดกันสองห้องเพื่อเข้าพักอาศัยชั่วคราวซินหลานหยวนนั้นเป็นเหมือนโรงเตี้ยมขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับบรรดาศิษย์ใหม่จากหลากหลายสถานที่ภายในทวีปเทียนเฉินศิษย์ใหม่ทั้งหมดจะต้องเข้าพักที่นี่เพื่อรอคอยพิธีแนะนำตัวในอีกสามวัน
สองวันต่อมาศิษย์ใหม่อีก20คนก็ทยอยเดินทางเข้ามาสมทบในซินหลานหยวนจนในที่สุดก็ครบ100คน
พวกเขาทั้งหมดนี้เป็นหนุ่มสาวอัจฉริยะจากทั่วทุกภูมิภาคที่ถูกนิกายพันธมิตรสวรรค์คัดสรรมา
ในช่วงสามวันนี้ทุกคนต่างก็พักในห้องส่วนตัวและมีเพียงไม่กี่คนที่ปรากฏตัว