กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 1004 ผมจะมอบให้ใครบางคนใช่ไหม
หลั่งจากผ่านการตรวจหลายครั้ง หมอก็เรียกเจียงโมเชียนกับหนานเฉิงไปที่ห้องทำงาน อยากจะสอบถามอะไรพวกเขาเสียหน่อย ขณะเดียวกันก็มีเรื่องจะบอกพวกเขาเช่นกัน
“หลังจากที่พวกเราได้ตรวจสอบก้อนดำที่อยู่ในหัวนั้น มันน่าจะเป็นก้อนเลือดน่ะครับ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้มันเกิด ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับบาดเจ็บในส่วนของหัวไหม
ครับ?”หมอถามขึ้น
หนานเฉิงพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้เขาเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ ทำให้ขาของเขาได้รับบาดเจ็บ ในส่วนของวั……..”.เขานึกคิด “ในตอนนั้นไม่เห็นหมอพูดถึงเรื่องบาดเจ็บในส่วนของห้ว
เลยครับ”
“อันนี้เป็นส่วนของภายใน ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่าภายนอกไม่มีบาดแผลใดๆเลย”
เจียงโย่เชียนที่ไม่สามารถใจเย็นเหมือนหนานเฉิงได้ ก็ถามขึ้นว่า “หมอครับ หมอพูดมาตรงๆเลยครับว่าพี่ชายผมเป็นอะไร?”
หมอครุ่นคิด “ผมคิดว่า ก้อนเลือดในหัวของผู้ป่วยนั้นไปกดทับประสาทความจำของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียความทรงจำไปบางส่วน ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาถึงมีท่าทางที่มึนงงแบบนั้น”
เจียงโย่เชียนกระวนกระวายขึ้นมาทันที “คุณหมอกำลังเล่นตลกกับผมอยู่ใช่ไหมครับ? คุณหมอคิดว่านี่อยู่ในละคร หรือนิยายครับ? เสียความทรงจำ?!!”
“นายเงียบไปก่อนได้ไหม!”หนานเฉิงตะคอก “รอให้หมอพูดจบก่อนได้ไหม?”
เจียงโม่เชียนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เลยไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ นายไม่ได้ยินสิ่งที่หมอพูดเหรอ?”
“นายโวยวายแบบนี้ อาการของประธานเจียงจะดีขึ้นไหม?!”หนานเฉิงโมโหขึ้นมา “ถ้านายยังพูดอีกคำ ฉันจะโยนนายออกไปนอกห้อง”
เจียงโย่เซียนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา “นายคิดว่านายเป็นใคร? ถึงกล้าทำแบบนั้นกับฉัน?”
หมอรู้สึกว่าพวกเขาเสียงดังเกินไป จึงเอ่ยปากพูดขึ้นเสียงเรียบ “พวกคุณออกไปทะเลาะก้นข้างนอกให้เสร็จก่อนไหมครับ? รอให้พวกคุณสงบสติอารมณ์ก่อน พวกเราค่อยมาคุยกัน”
ทั้งสองคนเงียบไปท้นที โดยเฉพาะเจียงโย่เชียน ถ้าประโยคนี้หนานเฉิงเป็นคนพูด เขาคงไม่เงียบเร็วขนาดนี้หรอก
“เรื่องนี้ ผมคิดว่าพวกคุณนั้นล้วนรู้ดี สถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ ส่วนการรักษานั้นยังมีทางรักษาอยู่ครับ ตอนนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามาก การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะนั้นก็
เชี่ยวชาญ ทว่า นี่เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ส่วนจะทำการรักษาแบบนี้หรือไม่ พวกคุณต้องปรึกษากันก่อน เพราะวิธีนี้มันมีความเสี่ยงอยู่”หมอพูดจบก็ให้พวกเขากลับก่อน “พวกคุณกลับไปคิด
ก่อนนะครับ”
หนานเฉิงกับเจียงโเชียนต่างก็เงียบสนิท ทั้งสองเดินออกจากห้องทำงานของหมอ ระหว่างทางเดิน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เหมือนกำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของหมอ
พวกเขาเดินจนจะถึงห้องผู้ป่วยแล้ว ยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดเลย
หนานเฉิงเปิดประตูห้องผู้ป่วยออก เห็นเพียงเจียงม่หานที่สวมเสื้อผู้ป่วยทางลายว้ บนหัวของเขายังคงพันไว้ด้วยผ้าก๊อซสีขาว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็หันไปมองผู้มาใหม่
หนานเฉิงมองไปยังเจียงโม่หาน ไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดอย่างไรดี
ถ้าพูดตามตรง ก็คือยังไม่อยากเชื่อคำพูดของหมอ เขาไม่ใช่ครอบครัวแท้ๆของเจียงโม่หาน ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้
เจียงโย่เชียนก็ไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ
เพราะการเข้ารักษาแบบนั้นมันมีความเสี่ยง ถ้ระหว่างรักษามีการผิดพลาดขึ้นมา เขาก็ให้อภัยตัวเองไม่ได้
เขายิ้ม “พี่”
เจียงโม่หานไม่ได้ตอบ แต่กลับพูดขึ้นว่า “นายออกไปก่อน”
เจียงโย่เชียนกะพริบตา “พี่ ผมเป็นน้องชายแท้ๆของพี่ พี่มีอะไรก็บอกผม ผมไปทำแทนให้พี่ได้”
“พี่ไม่มีอะไรให้นายไปทำแทน”เจียงโม่หานพูดขึ้น
“โอเคครับ”เจียงโม่เชียนรู้สึกนอยด์เล็กน้อย หันหลังแล้วเดินออกไป ตอนที่เดินผ่านหนานเฉิงเขาเหลือบมองหนานเฉิงไปแวบหนึ่ง
หนานเฉิงไม่ได้สนใจอะไร และหลังจากที่เจียงโย่เชียนเดินออกไปแล้วปิดประตูห้อง เขาก็หันไปมองเจียงโม่หาน “ประธานเจียง”
ผ่านไปสักพักเจียงโม่หานก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆ
“ผมคือหนานเฉิง”หนานเฉิงทนไม่ไหวจนเอ่ยปากพูดขึ้น “ทำงานกับคุณมาหลายปีแล้วครับ”
“รู้ไหมว่าทำไมผมถึงเหลือคุณไว้คนเดียว?”เจียงโม่หานไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยถามขึ้น
หนานเฉิงส่ายหัว
“ตอนที่ผมฟื้นขึ้นมาคนแรกที่ผมเจอคือคุณ ผมคิดว่า เราน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”เขาพูเขึ้น
หนานเฉิงพยักหน้า “แน่นอนครับ”
“ทำไมผมถึงได้รับบาดเจ็บ?”เจียงโม่หานถามขึ้น
เขาลืมไปหมดแล้ว ลืมหมดทุกอย่างเลย ตอนนี้ในหัวของเขาขาวโพลนและโล่งมาก
เขาสามารถพึ่งได้เพียงความคิดของตัวเอง ในการไปสำรวจคนรอบๆตัวเขา
ทางตำรวจได้ทำการร่างคดีนี้ไว้แล้ว แต่ว่า ไม่มีหลักฐานใดๆเลย หนานเฉิงพูดความจริงออกไป “ถูกนักเลงรุมซ้อม”
“ผมสร้างปัญหาไว้เหรอ?” เขาถามขึ้นอีกครั้ง
ภายในใจของหนานเฉิงคาดการณ์ไว้ เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับจงเหยนซี เพราะน้องชายแท้ๆของเธอนั้นอยู่เมือง C และยังมีอิทธิพลมาก ถ้าคิดจะทำเรื่องแบบนี้ แถมยังไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้
เลยแบบนี้ เขาทำได้หมด
ทว่า เขาไม่มีหลักฐาน
เขาส่ายหัว “ผมก็ไม่ทราบ น่าจะเป็นการปบันมั้งครับ”
เจียงโม่หานขมวดคิ้ว “หืม?”
หนานเฉิงหยิบของออกมาจากเสื้อตัวเองแล้วให้เขาดู “คุณดูนี่สิครับ”
เจียงโม่หานรับมา กระเป๋าสตางค์ นาฬิกาและแหวน
สายตาของเขาจ้องไปที่แหวน “แหวนวงนี้.
หนานเฉิงก็ดู และรู้จักมัน
ตอนที่เขาแต่งงานกับจงเหยียนซี เขาสั่งทำมันขึ้นมาเพื่อจงเหยียนซีโดยเฉพาะ ต่อมา เนื่องจากการหย่าร้าง และการหายไปของจงเหยนซี แหวนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นก็มาเจอที่
งานประมูล เจียงโม่หานก็ประมูลกลับมาด้วยราคา330ล้าน เขาอยากที่จะสวมแหวนวงนี้บนนิ้วของจงเหยียนซีอีกครั้ง
ที่เขาอยู่ที่เมืองCมาโดยตลอด ก็เพื่อเรื่องนี้
เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้น “ผมจะมอบมันให้ใครบางคนใช่ไหม?”