กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 1006 ทำไมลูกชายซื่อแบบนี้
จงเหยียนซีหยุดชะงัก เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันหลังกลับไปมองเจียงโเชียน “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
“พี่ชายของผมได้รับบาดเจ็บที่หัว ทำให้ความจำเสื่อม จนกระทั่งไม่รู้ว่าผมเป็นใคร เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดถึงจะดีขึ้น คุณช่วยพวกเราคิด หรือไปเยี่ยมเขาหน่อยได้ไหมครับ?”เจียงโย่เชียนพุ
ขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอน
จงเหยียนซีตกใจไปแค่ครู่เดียว ไม่นานก็กลับมาเย็นขาเหมือน “ถ้งั้นก็ดีสิ เขาจะได้ไม่มายุ่งกับฉันอีก แล้วก็พวกคุณ ต่อไปก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”
เธอพูดจบก็เข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูทันที ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดอะไรต่อ
เจียงโย่เชียนรู้สึกท้อแท้ “หัวใจของหล่อนทำมาจากหินเหรอ? พี่ชายของฉันเป็นถึงขนาดนั้น หล่อนก็ไม่แคร์เลยสักนิด”
หนานเฉิงถอนหายใจออกมา “แบบนี้ก็ดี เราพยายามที่สุดแล้ว ไปกันเถอะ”
เขาเปิดประตูรถแล้วเข้าไป เจียงโเชียนก็ตามเขาไป “ต่อไป เราทำอย่างไรต่อดี?”
หนานเฉิงครุ่นคิด “งั้นเรากลับเมืองBก่อนดีไหม เราคุ้นเคยที่นั่นมากกว่า สำหรับอาการของประธานเจียง พวกเราก็สามารถหาโรงพยาบาลดีๆไปรักษาได้ แบบนี้เราก็จะได้สบายใจในระดับ
หนึ่ง”
*งั้นถ้าจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดล่ะ?”เจียงโย่เชียนถามขึ้น
หนานเฉิงมองไปยังเขา “นายเคยคิดไหม ว่าจริงๆแล้ว การที่ประธานเจียงเสียความทรงจำนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ”
ทันใดนั้นเจียงโย่เซียนก็โมโหขึ้นมาทันที “นายคิดได้ยังไง? หรือว่านายอยากให้เขาเสียความทรงจำเพราะนายจะได้ฮุบบริษัทเหรอ?”
“นายคิดว่าทุกคนเขาจะเหมือนแม่นายเหรอ?”หนานเฉิงไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ ว่า รู้สึกไม่สบายใจ เขามีสิทธิ์อะไรมาคิดหรือกล่าวหาตัวเองแบบนี้?
เจียงโย่เชียนก็โมโหกว่าเดิม เขารู้ว่าแม่ของเขานั้นโลภ และไม่หวังดีกับเจียงโม่หาน แต่ไม่ว่ายังไงก็เป็นแม่ของตัวเอง เขาสามารถคิดแบบนี้ในใจได้ ทว่า การที่ได้ยินจากปากของคนอื่นนั้น
ภายในใจก็รู้สึกไม่พอใจและไม่ชอบ
หนานเฉิงไม่อยากทะเลาะกับเขา จึงค่อยพูดขึ้น “นายก็เห็นท่าทางของจงเหยียนซีแล้ว รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของประธานเจียง หล่อนก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย โอกาสที่หล่อน
จะกลับมาหาประธานเจียงนั้นน้อยมาก หรืออาจจะเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้”
“นายอยากจะพูดอะไร?”เจียงโย่เชียนถามขึ้น
“ถ้าประธานเจียงจำความได้ ก็จะรู้สึกเสียใจกับเรื่องราวในอดีต ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ยังคงตามจงเหยียนซีต่อไปแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ลืมไปให้หมดเลยดีกว่า”หนานเฉิงพูดความคิดเห็นของตัว
เองออกมา
เจียงโย่เชียนขมวดคิ้ว “นายหมายความว่า จะไม่เข้ารับการรักษาแล้วเหรอ?”
“การรักษานั้นมีความเสี่ยง ถ้าไม่เข้ารับการรักษา ไม่เพียงแต่ไม่ต้องเสี่ยง เขาก็ไม่ต้องเสียใจเพราะเรื่องของจงเหยียนซีอีก ถ้าต่อไปได้พบกับผู้หญิงคนใหม่ และดูแลเขาไปตลอดชีวิตไม่ดีกว่า
เหรอ?”
เจียงโเชียนยังคงรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยโอเค เขารู้สึกว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ไม่ควรเป็นพวกเขามาตัดสิน แต่ควรเป็นเจียงโม่หานมาตัดสินใจเองมากกว่า
“ฉันขอคิดดูก่อน”
เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
ช่วงที่พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันนั้น หนานเฉิงพูดเรื่องบริษัทกับเขาตลอด ให้เขารีบคุ้นเคยกับงาน
วันที่สาม พวกเขาก็กลับไปยังเมืองB
ตอนที่หนานเฉิงพาเขาไปปรึกษาหารือที่โรงพยาบาลในเมืองB เจียงเชียนก็กลับบ้นตระกูลเจียง รายงานสถานการณ์ของเยงโม่หานแก่พ่อแม่ เขาหวังว่าพ่อแม่ของเขาจะให้ความคิดเห็นที่
ดีแก่เขา และช่วยเขาเลือกหนทางที่ดีที่สุด
หลังจากที่ได้ยินข่าว ชิวหมิงเยี่ยนก็มีสติขึ้นมาทันที “ลูกว่าไงนะ? เจียงโม่หานเสียความทรงจำ?”
เจียงโย่เซียนพยักหน้า “ใช่ครับ ที่เมืองC พี่ถูกตีที่หัวและได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้จะไม่มีนตรายถึงชีวิต แต่ลืมทุกอย่างไปหมด หมอบอกว่า การเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เข้ารับ
การผ่าตัดความทรงจำก็ไม่กลับมา”
“เข้ารับการผ่าตัดอะไร ถ้าผิดพลาดขึ้นมามันเสี่ยงถึงชีวิตเลยนะ” ในใจของชิวหมิงเยี่ยนกำลังคิดว่า นี่มันเป็นข่าวที่ดีที่สุดเลย เธอคิดว่าจะไม่มีโอกาสแล้วเสียอีก
ตอนนี้เธอนั้นมีโอกาสแล้ว
“แม่คิดยังไงครับ?”เจียงโยเชียนมองไปยังผู้เป็นแม่ “ที่จริงแม่ยังดีกับพี่อยู่ใช่ไหมครับ? ยังเป็นห่วงพี่อยู่”
สีหน้าของชิวหมิงเยี่ยนไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เธอยิ้มแห้ง
เธอไม่เห็นด้วยกับการเข้ารับการผ่าตัด เพราะเธอรู้สึกว่าถ้าเจียงม่หานเสียความทรงจำ เธอก็สามรถหาโอกาสให้เจียงม่หนรับเจียงโเชียนเข้าบริษัทได้ และถ้าเข้ารับการผ่าตัดแล้ว เกิด
การผิดพลาดแล้วเจียงโม่หานตายไปก็ยังดี แต่ถ้าเขารักษาหายขึ้นมา ลูกชายของเธอก็จะไม่มีอนาคตที่ดี
“พ่อ พ่อคิดว่าไงครับ?”เจียงโม่เชียนมองดูเจียงจวิ้น
ก่อนหน้านี้เจียงจวิ้นเคยถูกทำให้กลัวด้วยความเย็นชาของเจียงโม่หาน รู้สึกว่าเขาเสียความทรงจำไปนั้นดีมากเลย “พ่อคิดว่าแม่ของลูกพูดถูก”
เจียงโม่เชียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แต่พี่จำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ แบบนี้ ชีวิตของเขายังจะสมบูรณ์แบบอยู่เหรอครับ?”
“ความทรงจำที่ไม่ต้องการ จำได้หรือจำไม่ได้ก็เหมือนกัน”เจียงจวิ้นเข็นรถเข็นเข้าบ้าน
เจียงโย่เชียนนั้นอยากให้เจียงโมหานจำความได้ แม้มันจะมีเรื่องราวไม่ดี แต่ว่าเป็นเรื่องที่เขาเคยผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเขา
“แม่ครับ เป็นเพราะแม่กลัวความเสี่ยงของการผ่าตัด จึงไม่อยากให้เข้ารักษา แม่หวังดีต่อพี่เขาใช่ไหมครับ?”เจียงโยเชียนมองไปยังผู้เป็นแม่ “พี่เขาไม่มีแม่แท้ๆตั้งนานแล้ว แม่ดีกับพี่เขาหน่อย
ได้ไหมครับ? อย่ามัวแต่คิดที่จะแก้แค้นเขา ที่จริง พี่เขาดีกับผมมากเลยครับ”
ชิวหมิงเยี่ยนหวังที่จะให้ลูกได้ดิบได้ดี ในใจของเธอคิดว่า เธอสามารถเอาชนะบ้านหลังใหญ่ได้ จากเมียน้อยกลายมาเป็นเมียหลวง ทำไมลูกชายถึงอ่อนแอและซื่อจัง?
“โม่เชียน พวกลูกไม่ได้เป็นพี่น้องแม่เดียวกัน ทำไมถึงดีกับเขานักล่ะ?”
“แต่ว่าเรามีพ่อเดียวกันนะครับ”เจียงโย่เชียนพูดขึ้น “ในตัวของพวกเรามีเลือดเดียวกันไหลเวียนอยู่ เขาเป็นพี่ชายของผม ข้อนี้แม่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ไม่ใช่เหรอครับ?”
ซิวหมิงเยี่ยนหมดคำจะพูดกับลูกชาย ให้เขาไปแย่งสมบัติกับเจียงม่หานนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว ต้องใช้วิธีอื่นแล้วล่ะ เธอจับมือของลูกชายไว้ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นหัวใจ “ลูกพูดถูก
ช่วงนี้แม่ก็กำลังคิดทบทวน ก่อนหน้านี้แม่ไม่ดีจริงๆ เป็นความผิดของแม่เอง ต่อจากนี้แม่จะปรับปรุงตัวนะ แต่ว่าครั้งนี้ แม่หวังดีต่อพี่เขาจริงๆ ท่าทางของพ่อลูก ลูกก็เห็นแล้ว การผ่าตัดนั้นมีความเสี่ยง ไม่ต้องรักษาดีกว่านะ เรื่องของบริษัท มีลูกอยู่ไม่ใช่เหรอ? ลูกก็ช่วยเขาเยอะๆสิ เขาเป็นพี่ชายของลูกนะ”