กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 1040 จะพาไปดู
“แต่มีอะไรให้ปกปิดกันนะ?” จวงเจียเหวินไม่เข้าใจ
เสิ่นซินเหยายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป “พ่อแม่อายุมากแล้ว พวกท่านไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
ไม่ใช่ว่าเธอคิดไม่ดี แต่ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นธรรมชาติของมนุษย์
จะมัวแต่หลีกเลี่ยงความไม่สบายใจแล้วไม่มองในแง่ลบเลยไม่ได้
เพราะเรื่องนี้มองไปไม่ค่อยปกติ
“เอ่อ.
เมื่อเสิ่นชินเหยาพูดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา คนเราก็เป็นเสียแบบนี้ เมื่อเขามีความคิดข้องใจ ปัญหาต่างๆก็จะเข้ามาสะสมอยู่ในสมองมากมาย
ตอนนี้จวงเจียเหวินก็เป็นแบบนี้ “หรือจะเป็นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ พวกเขาอาจจะป่วย……
“หรือว่า……” เสิ่นซินเหยาตกใจและรีบปิดปากของเธอ
“อะไร?” เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“พ่อกับแม่ซักผ้าปูที่นอนตอนกลางคืน เป็นบนเตียงมีสิ่งที่ไม่ต้องการให้เราเห็นหรือเปล่า”
“อะไรนะ?” จวงเจียเหวินเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าเธอหมายถึงอะไร “คุณหมายถึง..
เสิ่นซินเหยา พยักหน้าอย่างจริงจัง “ว่ากันว่าโรคเบาหวานและภาวะสมองเสื่อมอาจทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้”
จวงเจียเหนยืนขึ้นและกำลังจะลงไปข้างล่าง
เสิ่นซินเหยา หยุดเขาเอาไว้ “วันนี้ตึกมากแล้ว พรุ่งนี้นัดคุณพ่อออกไปข้างนอกแล้วค่อยคุยกับเขาดีๆนะคะ ดูว่าทั้งสองคนใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
จวงเจียเหวินพยักหน้า “อืม”
ทั้งสองต่างพากันครุ่นคิด
ตอนนอนก็ไม่สามารถนอนหลับสนิท
จวงเจียเหวินตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับดวงตาเหมือนหมีแพนด้าที่มีรอยดำคล้ำ เดิมที่ด้วยเรื่องของเฉิงยู่เวินก็ทำให้เขาไม่ได้พักผ่อนมาสองสามวันแล้ว
เขาเดินลงไปชั้นล่างและเห็นจงเหยียนซีกำลังจัดเสื้อผ้าอยู่
“พี่ จะเก็บเสื้อผ้าไปไหน? จะไปแล้วเหรอ?”
“เดี๋ยวฉันจะพูดตอนกินข้าวนะ” จงเหยียนซีประคองจวงจื่อจินเดินออกมา
จวงเจียเหวินจึงไม่ได้ถามอีก
ในระหว่างมื้ออาหาร จวงจื่อจิ๋นได้พูดขึ้นว่า “ฉันอยากจะออกไปพักผ่อนสักหน่อย เหยียนซีจะไปกับฉันด้วย”
“คุณยายจะไปไหนครับ? รอผมอีกสองสามวันแล้วผมจะไปด้วย” จงเหยียนเฉินเป็นห่วงจวงจี่อจินมาก “ครั้งนี้ผมได้พักนานเลย…..”
จวงจื่อจิ่นโบกมือขึ้น “ไม่ต้อง ไม่ต้องใครไปด้วยทั้งนั้น อย่าได้ตามไปเชียว แค่เหยียนซีไปเป็นเพื่อนฉันคนเดียวก็พอแล้ว”
“แต่..
“แม่คะ หนูจะดูแลคุณยายอย่างดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ที่จริงคุณยายได้ออกไปพักผ่อนก็ดีกว่าอยู่บ้านไม่ใช่เหรอคะ?” หลินซินเหยียนกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ถูกขัดจังหวะ
โดยจงเหยียนซีเสียก่อน
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะคุยกันมาก่อนแล้ว เธอจังไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
สายตาของจงเหยียนซีจ้องมองไปที่จงจิ่งห้าว หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจึงพูดออกไปว่า “พ่อคะ ช่วยเลื่อนงานที่พ่อบอกก่อนหน้านี้ไปได้ไหม? ถ้าไม่ได้ก็ช่วยปฏิเสธให้หนูหน่อย
หนูอยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณยายสักพักค่ะ”
“ว่างเมื่อไหร่ค่อยไป” จงจิ่งห้าวตอบ
เขาเห็นด้วยกับการที่จงเหยียนซีและจวงจื่อจิ่นจะเดินทางออกไปผ่อนคลาย
ใช่โอกาสนี้ฟื้นฟูสภาพจิตใจเสียหน่อย
“ที่จริงฉันยังกังวลเรื่องพี่อยู่นิดหน่อย” จงเหยียนซีมองไปที่จงเหยียนเฉิน เรื่องตาของเขามักทำให้คนอื่นๆกังวลเสมอ
ตอนนี้การมองเห็นของจงเหยี่ยนเฉินค่อยๆ ฟื้นตัวแล้ว เขาสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้แต่ไม่ชัดเจนนัก พอกับคนที่สายตาสั้น
แต่มันก็ชัดเจนกว่าเมื่อวานมาก
เขาหยิบชามที่อยู่ข้างหน้าแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมา “สายตาดีขึ้นมามากแล้ว ไม่ต้องห่วง”
“พี่ใหญ่ พี่มองเห็นแล้วเหรอ?””
การเคลื่อนไหวของ จงเหยียนเฉินทำให้ทุกคนบนโต๊ะตกใจและพากันหันมาดู
“เหยียนเฉิน มองเห็นแล้วเหรอ?”
“เห็นมือของผมไหม” เจียเหวินยื่นมือออกไปข้างหน้าเขา จงเหยี่ยนเฉินตบไปเบา ๆ “อย่าเอามาเกะกะฉันนะ”
“เหยียนเฉิน มองเห็นแล้วจริงๆใช่ไหม?” หลินซินเหยียนถามด้วยความดีใจ
จงเหยียนเฉินพูดว่า “ใช่ครับ แต่ยังไม่ชัดมาก น่าจะฟื้นตัวเต็มที่ในสองวันนี้”
“ดีเหลือเกินที่หาย”
จวงจื่อจิ่นก็ชื่นชมยินดีเช่นกัน
เนื่องจากดวงตาของจงเหยี่ยนเฉินที่ดีขึ้น ทำให้เรื่องการเสียชีวิตของเฉิงยู่เวินซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันหดหู่จางลงไปอย่างมาก
หลังทานอาหารเสร็จ จงเหยียนซีก็เดินออกไป “เจียเหวิน ไปส่งหน่อยสิ”
“ไปวันนี้เลย?”
“ใช่ ฉันซื้อตั๋วเมื่อคืนนี้” จงเหยียนซีชี้ไปที่กระเป๋า “ฉันจัดของไว้แล้ว เอาใส่รถให้ที่”
จวงเจียเหวินดึงสัมภาระออกมาอย่างว่ง่ายและวางลงไปในรถ จงเหยี่ยนซีพูดกับสมาชิกในครอบครัวกล่าวว่า “ไม่ต้องไปส่งกันหรอกนะคะ ให้เจียเหวินส่งเราไปที่สนามบินก็พอ
เครื่องบินรอบเก้าโมง ตอนนี้มีเวลาไม่มากแล้ว ถึงไปก็ได้เห็นแค่พวกเราเดินขึ้นเครื่องเท่านั้น ให้เจียเหวินไปคนเดียวก็พอแล้วค่ะ”
“ฝากดูแลยายด้วยนะลูก” หลินซินเหยียนยังคงกังวลเล็กน้อย
“วางใจได้เลยค่ะ”
“ไม่ต้องกังวลไปนะ มีเหยียนซีอยู่ด้วยก็วางใจได้” จวงจื่อจิ๋นพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
จงเหยียนซีช่วยพยุงจวงจื่อจิ่นเดินออกไป หลินซินเหยียนส่งทั้งสองไปที่รถ
เมื่อไปถึงสนามบิน จวงเจียเหวินช่วยจัดการเรื่องโหลดกระเป๋า จากนั้นจงเหยียนซีก็คอยดูแลจวงจื่อนระหว่างรอขึ้นเครื่อง
จวงเจียเหวินส่งทั้งสองขึ้นเครื่องบินก่อนจะเดินทางกลับไป
“เมื่อเรากลับมาจากไปเฉิง ช่วยไปที่เมืองB ด้วยนะ” จวงจื่อจินพูด
ที่จริงจวงจื่อจิ่นต้องการไปเยี่ยมบ้านเกิดของเฉิงยู่เงิน เธอไม่ได้กลับมาที่เมืองB มาหลายปีแล้ว เธอไม่รู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน เธอจึงอยากใช้ช่วงเวลาที่ยังมีลมหายใจอยู่
กลับไปยังที่ที่เธอเคยใช้ชีวิตมาก่อน
เมื่อพูดถึงเมืองB จงเหยี่ยนซีก็นึกถึงคนคนนั้นโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย เธอจับมือจวงจื่อจิ่นแล้วพูดว่า “ได้ค่ะ หนูจะพาไปที่เมืองBเอง”