กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 126 เหน็บหนาวไม่สิ้นสุด
เห็นได้ชัดว่าเขาล้อเล่น
ยังดีที่เจาไม่ได้ปฏิเสธหลินลุ่ยซีในทันทีให้เธอต้องเจ็บปวดใจ การล้อเล่นเล็กน้อยนั้นไม่มีอะไรเลย
หลินซินเหยียนหัวหน้าไปและจมูกก็รื้นอย่างแรง “ขอบคุณค่ะ”
เธอหันหน้าไปและกำลังจะไปแต่ถูกจงจิ่งห้าวคว้าข้อมือไว้ก่อน เขาก้มลงสบตากับหลินลุ่ยซี “พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่ หนูออกไปรอข้างนอกก่อนได้ไหมจ๊ะ?”
หลินลุ่ยซีนั้นเชื่อฟังเป็นอย่างดี เธอพยักหน้าอย่างตั้งใจแล้วปีนลงจากข้างอ่างล้างหน้าไถลลงด้านล่างด้วยตัวเอง หลินซินเหยียนกลัวเธอจะล้มจึงยื่นมือออกไปรับแต่เธอไม่ยอม “หนูไม่เป็นไร ไม่ต้องรับ หม่ามี๊กับแด๊ดดี้คุยกันเถอะค่ะ”
พูดจบก้าวเท้าเล็กๆ สั้นๆ เดินออกไป
หลินซินเหยียนมองไปที่ร่างเล็กๆ ของลูกสาวของเธอ และความกังวลภายในของเธอก็เพิ่มมากขึ้น ถ้าเธอรู้ว่าพ่อที่เธอคิด ไม่ใช่พ่อจะเป็นอย่างไร?
หลินซินเหยียนไม่กล้าจะคิดต่อ
ทำไมเธอถึงได้เรียกจงจิ่งห้าวว่าพ่อได้นะ?
เรียกได้ว่า บ้าบอคอแตกเกินไปแล้ว!
ในขณะที่จิตใจของหลินซินเหยียนกำลังล่องลอย จงจิ่งห้าวใช้มือแข็งแรงของเขาดึงเธอล้มไปข้างหน้าในทันทีและพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของจงจิ่งห้าว จงจิ่งห้าวจับเอวเธอแน่นกวาดแขนและตัวเธอก็แนบกับตัวเขา
หลินซินเหยียนตกใจ “นี่บ้านคุณนะคะ ด้านนอกมีคนอยู่”
จงจิ่งห้าวไม่สนใจคำพูดของเธอและยื่นมืออีกข้างหนึ่งเพื่อปิดประตูห้องน้ำ
หลินซินเหยียนตกใจกับเสียงปิดประตู
“คะ…คุณจะทำอะไร?”
จงจิ่งห้าวไม่ตอบเธอ แต่มองลงไปที่เธอ
หลินซินเหยียนหลบสายตาของเขาที่จ้องตรงมาที่เธออย่างสับสน “อาหารเสร็จหมดแล้ว ต้องกินข้าวแล้วค่ะ”
จงจิ่งห้าวจับคางเธอแน่นแล้วบังคับให้เธอสบตาเขา ดวงตาของเขาดำขลับและเหมือนคลื่นใหญ่ซัดสาด
หลินซินเหยียนใจสั่นและถามด้วยความระมัดระวัง “คุณอารมณ์เสียใช่ไหมคะ
จินจิ่งห้าวเงียบ
หลินซินเหยียนยิ่งอยู่ไม่เป็นสุข “เป็นเพราะเสี่ยวลุ่ยใช่ไหมคะ? เธอไม่มีพ่อตั้งแต่ยังเล็ก เป็นไปได้ที่จะจำคุณผิดไป คุณอย่าถือสาเลยนะคะ ต่อไปฉัน…”
“คืนนั้น เธอไม่ได้เสียตัว?”
คำพูดที่จู่ ๆ ก็พูดออกมา ทำให้เธอไม่เข้าใจ
เธอมองเขาอย่างว่างเปล่าอยู่หลายวินาที
“คุณกำลังพูดถึง…” สมองของเธอเกิดความตึงเครียดและดูเหมือนเธอจะเข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดถึงแล้ว
ตอนที่เธอหมดสติไปแล้วตื่นขึ้นมา เสื้อของเธอถูกถอดออกกระดุมกางเกงก็ถูกปลด
สิ่งเดียวที่เธอแน่ใจก็คือเธอยังไม่ได้เสียตัว แต่ตอนที่เธอหมดสติอยู่นั้น เหอรุ่ยเจ๋อทำอะไรเธอ เธอไม่รู้เลย
เธอมองไปที่ดวงตาของจงจิ่งห้าวโดยไม่หลบเลี่ยงหรือซ่อน และพูดอย่างใจเย็น “ฉันไม่รู้ว่าเขาทำอะไรฉันบ้าง แต่สิ่งเดียวที่ฉันมั่นใจก็คือ เขาไม่ได้ทำอะไรฉัน”
จะพูดให้ถูกคือไม่ใช่ไม่ทำ แต่ตอนที่เหอรุ่ยเจ๋อกำลังจะทำเธอตื่นขึ้นมาพอดี
ถ้าหากเธอตื่นขึ้นมาช้ากว่านี้สักหน่อย เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นอย่างไร
เธอหลุบสายตาเบาๆ และมีน้ำตาผุดขึ้นที่ขอบตา “ขอโทษค่ะ”
จงจิ่งห้าวคิดถึงคลิปที่เธอถูกถอดเสื้อผ้าออก เลือดก็พุ่งไหลไปที่จิตใจของเขา
“ขอโทษทำไม?”
“ฉันไม่รู้”
เธอไม่รู้จริงๆ ในหัวเธอสับสนไปหมด
เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องพูดคำนี้ออกไป ทำไมจะต้องขอโทษเขา
เธอยื่นมือไปผลักเขา จงจิ่งห้าวนอกจากจะไม่ปล่อยแล้ว เขากลับคว้าหัวเธอไว้แล้วจูบเธอที่ริมฝีปาก
เมื่อริมฝีปากของเธออยู่ในปาก สมองของหลินซินเหยียนก็เหมือนถูกระเบิดและกลับตาลปัตร เธอใช้แรงผลักจงจิ่งห้าว “ทำไมจู่ ๆ คุณก็ถามเรื่องนี้?”
เขารู้อย่างนั้นเหรอว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ซึ่งแม้แต่เธอยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น?
จงจิ่งห้าวไม่ตอบเธอแต่จับหัวเธอไว้อีกครั้งแล้วประกบปากจูบริมฝีปากเธอ หลินซินเหยียนอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอใช้มือทั้งสองข้างดันร่างแกร่งของเขา “อือ …คุณบอกฉันสิอือ….คุณ คุณรู้อะไรใช่ไหม?”
การต่อต้านของเธอนำไปสู่การจูบที่รุนแรงมากขึ้นจากเขา เขากดริมฝีปากของเธออย่างดื้อรั้นโดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้รับอากาศหายใจและบังคับให้เธอสูญเสียความสามารถในการพูด ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงให้อากาศเข้าไปจากในปากของเขาเท่านั้น
พื้นที่แคบ ๆ แพชชั่นที่แผ่กระจาย
เขาเขยิบฝีเท้าเข้ามาใกล้ หลินซินเหยียนถอยหลังอย่างช่วยไม่ได้ และกระแทกกับประตูห้องน้ำและส่งเสียงดัง
ป้าหยูและจวงจื่อจิ่นที่อยู่กับหลินลุ่ยซีในห้องรับแขกไปที่ห้องน้ำพร้อมกันเพื่อไปดูพวกเขา
และแทบจะทุกคนที่ไปดูเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในนั้น
ป้าหยูหัวเราะ “คนหนุ่มสาว”
จวงจื่อจิ่นกลับไม่ได้ดีใจเหมือนป้าหยูแบบนั้น ได้แต่รู้สึกเศร้าใจ
เธอหยิบคัสตาร์ดไข่หนึ่งช้อนแล้วป้อนเข้าไปในปากของหลินลุ่ยซี “หย่าแล้ว ทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเลย”
“หย่าได้ ก็แต่งใหม่ได้นะ” ป้าหยูรู้สึกแค่ว่าพวกเขาเหมาะสมกัน
เธอไม่เคยเห็นจงจิ่งห้าวอดทนกับผู้หญิงคนไหนเท่าเธอมาก่อน
โดยเฉพาะหลังจากที่หลินซินเหยียนไปแล้ว อารมณ์ของเขาในช่วงนั้นเหมือนกับฟ้าฝนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ คิดจะโกรธก็โกรธขึ้นมา
เธอไม่เคยเห็นจงจิ่งห้าวระเบิดอารมณ์แบบนี้
จวงจื่อจิ่นพูดอย่างเรียบเฉย “มันง่ายแบบนั้นที่ไหนกัน”
เด็กสองคนนี้คืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด
เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างจงจิ่งห้าวจะสามารถยอมรับเด็กสองคนนี้ได้
ไม่ใช่แค่จงจิ่งห้าว แต่ผู้ชายส่วนมากคงรับไม่ได้หรอก?
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะสูญพันธุ์เสียหน่อยถึงจะต้องหันมาหาผู้หญิงที่มีลูกแล้วถึงสองคน
ถ้าให้พูดตามจริง ถ้าหากว่าลูกชายของเธอยังอยู่แล้วไปคบกับผู้หญิงที่มีลูกแล้วถึงสองคน เธอก็คงไม่ได้สบายใจนัก
แล้วไหนเลยกับครอบครัวอย่างตระกูลจงด้วยแล้ว มีแต่จะยิ่งไม่เห็นด้วย
ธุรกิจในครอบครัวพวกเขา ทรัพย์สินมากมาย จะยอมให้คนอื่นเข้ามาได้อย่างไร
ความคิดที่ไม่เห็นด้วยของจวงจื่อจิ่นอยู่ในสายตาของป้าหยู จากความไม่พอใจที่ตอนแรกจงจิ่งห้าวหย่ากับหลินซินเหยียน กลายเป็นอุปสรรคในใจ
“อย่ากังวลไปเลย สมัยนี้ไม่เป็นไรแล้ว” ป้าหยูคิดในใจว่ารอให้หลินซีเฉินดีขึ้นกว่านี้ก่อน เธอจะพาเขาไปหาจงฉีเฟิงและให้เขาดู และคิดดูว่าเด็กสองคนนี้เป็นของจงจิ่งห้าวหรือไม่
ป้าหยูยังคงคิดว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของจงจิ่งห้าว เห็นชัดๆ ว่าหน้าตาเหมือนกับจงจิ่งห้าวตอนเด็กๆ อย่างกับแกะ
เดี๋ยวนี้ก็มี DNA อะไรนั่นไม่ใช่เหรอ ไปตรวจทีก็ได้ผลที่ชัดแจ้งแล้ว
เธอได้ยินมาว่าสมัยนี้ใช้เพียงเส้นผมก็ตรวจได้แล้ว
ป้าหยูมองไปทางห้องน้ำ “คุณนายจัดการเรื่องการแต่งงานของคุณชาย มันต้องดีอยู่แล้ว”
จวงจื่อจิ่นได้ยินเธอพูดแล้วหันไปมองป้าหยู ไม่พูดอะไรต่อและถอนหายใจเล็กน้อย ไม่อยากจะพูดถึงมันอีก เธอก้มหน้าแล้วป้อนไข่ให้หลินลุ่ยซีกินต่อ
ในห้องน้ำหลินซินเหยียนหายใจหอบ ใบหน้าแดงก่ำ เธอแทบจะขาดอากาศหายใจตาย เธอทุบชายป่าเถื่อนคนนี้ไมหยุดแต่ดูเหมือนเขาแทบจะไม่ขยับเลย
หลินซินเหยียนตัดสินใจอ้าปากแล้วกัดเขา
จงจิ่งห้าวเจ็บและส่งเสียงฮึดฮัดออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาผ่อนแรงลง หลินซินเหยียนฉวยโอกาสผลักตัวเขาออก “นี่อยู่ในบ้านนะคะ”
และด้านนอกก็มีคนอยู่เต็มไปหมด หากใครรู้เข้ายิ่งจะรู้สึกลำบากใจ
จงจิ่งห้าวไม่ได้โกรธที่โดนผลักแต่กลับมองมาที่เธอแล้วถาม “ถ้าไม่ใช่ที่บ้านก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลินซินเหยียน “…”
“คุณ…” เธอพูดไม่ออกอยู่นานแล้วจึงพูดออกมา “น่าเกลียด”
จงจิ่งห้าวยิ้มเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปลูบริมฝีปากที่บวมแดงของเธอ “เธอรังเกียจมันที่ไหนกัน?”
หลินซินเหยียนก้มหน้า ผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายขนาดนั้น?
หน้าตาล่ะ?
หน้าตา?
หน้าน่ะไม่ต้องรักษาหน้าแล้วเหรอ?
เป็นกุ๊ยรึไง?
“ไม่เอาแล้ว”
หลินซินเหยียน “…”
เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอคิดอะไรอยู่?
เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นพยาธิตัวกลมในท้องของเธอ?
จงจิ่งห้าวกระแอมและพูดจริงจัง “บนหน้าเธอ มีคำสามคำโผล่ขึ้นมาชัดเจน”
“อะไรนะ?” หลินซินเหยียนถาม
“อีตาบ้า”
เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาพูดคำหยาบออกมา
หลินซินเหยียนหลบตาและไม่กล้าสบตาเขาตรงๆและปฏิเสธ “เปล่านะ”
เสียงของเธอเบามากและดูเหมือนเธอขาดความมั่นใจ
เมื่อครู่เธอด่าเขาในใจแบบนี้จริงๆ
ตอนนี้เองที่โทรศัพท์มือถือขอจงจิ่งห้าวที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น
ไม่ดูจงจิ่งห้าวก็พอเดาได้ว่าใครโทรเข้ามา คนที่ส่งคลิปวิดีโอมาแล้วเขาไม่เป็นฝ่ายโทรกลับไปหาก่อน ตอนนี้คงจะโกรธจนทนไม่ไหวและต้องโทรหาเขาเอง
หลินซินเหยียนเห็นเขาไม่รับสายจึงถาม “โทรศัพท์คุณดังอยู่ไม่รับสายเหรอคะ?”
จงจิ่งห้าวค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบให้ปกคอเสื้อของเธอเรียบ “คุณออกไปก่อนนะ”
หลินซินเหยียนพยักหน้าแล้วหันหลังดึงประตูแล้วเปิดเพื่อเดินออกไป
นาทีที่ประตูห้องน้ำถูกปิดลงสีหน้าของจงจิ่งห้าวก็เคร่งขรึมทันที ไม่มีรอยยิ้มหลงเหลืออยู่มีเพียงความเย็นชาไม่สิ้นสุด