กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 146 ผีทวงหนี้มาจากขุมนรก
เป็นครั้งแรกที่จงจิ่งห้าวเห็นเธอสวมชุดเดรส ผ้าไหมสีชมพูแวววาวเผยให้เห็นหุ่นที่มีส่วนโค้งเว้าสง่างามและเซ็กซี่ มันถูกตัดเย็บมาอย่างพอดีตัว เก็บรูปทรงที่เอว เอวคอดปรากฏขึ้นทันที ดูแล้วอรชรอ้อนแอ้น ผมที่ม้วนขึ้นแบบสบายๆนุ่มสลวยมีเสน่ห์ และเปล่งประกายเสน่ห์เฉพาะตัวของผู้หญิง
เมื่อเธอหันกลับมา เธอสังเกตเห็นสายตาที่จ้องมองมาโดยตรง และเอียงหัวเล็กน้อยก็จะเห็นชายที่ยืนอยู่ข้างรถ
เธอกำลังจะทักทาย แต่จงจิ่งห้าวก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในแล้ว และไม่ได้คิดจะคุยกับเธอ
หลินเซียนเหยียนดูเหมือนจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เมื่อกี้เขาน่าจะเห็นรถของยู่ซิ่วแล้ว
ยู่ซิ่วไปที่ห้องรับรองกับหลินเซียนเหยียน ซูจ้านก็รีบโทรหาจงจิ่งห้าวทันที
เขาไม่แวะที่ไหนเลยรีบมาทันที กังวลว่ายู่ซิ่วจะทำให้เธอลำบากใจ หรือทำอะไรให้เธออับอาย ใครจะไปรู้ สิ่งที่เขาเห็นคือรอยยิ้มและความสนิทสนมของทั้งสองคน
เธอนี่ร้ายกาจมากเลย หลินเซียนเหยียนพึ่งกลับมาไม่นาน พวกเธอเชื่อมสัมพันธ์กันได้ยังไง
และดูเหมือนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก
เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือจงจิ่งห้าว ซูจ้านก็รีบเดินไปทันที “เพิ่งไปเอง”
“ฉันเห็นแล้ว” จงจิ่งห้าวเม้มริมฝีปาก แต่ไม่ได้ยิ้ม
ซูจ้านยักไหล่ “พวกเธอเข้าไปคุยในห้อง พวกเราไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่รู้ว่าพวกเธอคุยอะไรกัน แต่ฉันมั่นใจว่า พวกเธอไม่ใช่เจอกันครั้งแรก”
เพราะเมื่อได้เจอกัน กลับไม่รู้สึกแปลกหน้า
“แต่ก่อนนายเคยพาเธอกลับบ้านเหรอ? เลยรู้จักกัน” ซูจ้านคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ ด้วยนิสัยของจงจิ่งห้าว ในขณะนั้นคงจะไม่พาหลินเซียนเหยียนกลับบ้านแน่นอน
เรื่องของเขาไม่มีใครสามารถมีอิทธิพลต่อเขาได้ มีเฉพาะเรื่องแต่งงาน เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ เนื่องจากแม่ผู้ล่วงลับของเขา เป็นคนที่ทำสัญญาแต่งงานนี้ขึ้นมาเพื่อเขา
เขาตอบอย่างเย็นชา “ไม่นี่”
ซูจ้านหยุดพูดทันทีเรื่องนี้มันดูแปลก หลินเซียนเหยียนติดต่อกับยู่ซิ่วได้อย่างไร?
ซูจ้านต้องการจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ถูกเสิ่นเผยซวนดึงไว้ และเตือนเขาเสียงเบา “ไม่เห็นว่าอารมณ์ไม่ดีเหรอ?”
ซูจ้านเม้มริมฝีปากและไม่พูด
ในเวลานี้มีคนทยอยมาเรื่อยๆ หลินเซียนเหยียนกลับไปที่ห้องโถงแต่ไม่เห็นจงจิ่งห้าว คุณนายเวลเลี่ยนพาเธอไปแนะนำเพื่อนๆให้รู้จัก หลินเซียนเหยียนเลยต้องรวบรวมสมาธิไปต้อนรับแขก
“ต่อไปชุดของฉันคงจะต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ” ผู้หญิงคนนั้นร่ำรวยสง่างาม ดูแล้วอายุประมาณห้าสิบกว่าปี มีรูปร่างตุ้ยนุ้ยเล็กน้อย เธอสวมชุดกระโปรงสีดำ และผ้าคลุมไหล่ ซึ่งค่อนข้างดูดีมีระดับ
สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยLEO ถ้าไม่ใช่เศรษฐีก็คงจะเป็นคนที่มีเศรษฐีหนุนหลัง
เมืองBในฐานะเมืองหลวงของประเทศZ แน่นอนได้ซ่อนผู้มีความสามารถไว้ มีคนรวยมากมายนับไม่ถ้วน
“ต้องขอบคุณที่ไว้วางใจ” หลินเซียนเหยียนอมยิ้ม
“แต่ก่อนถ้าอยากใส่เสื้อผ้าที่ดีไซน์โดยLEO ต้องไปถึงต่างประเทศ ตอนนี้ดีแล้ว” เธอมองดูคุณนายเวลเลี่ยนแล้วบ่นเล็กน้อยว่า “คุณควรจะเปิดสาขาในประเทศตั้งนานแล้ว”
ดูเหมือนนางจะสงสัยว่าทำไมจู่ๆ คุณนายเวลเลี่ยนถึงคิดได้ และคิดจะมาเปิดสาขา และประเทศแรกคือประเทศ Z “คุณคิดยังไงถึงมาเปิดสาขา? ยังเป็นประเทศ Z ? มีเหตุผลหลักอะไรไหม?”
คุณนายเวลเลี่ยนมีสีหน้าลำบากใจ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ก็คงต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต เธอไม่อยากจะพูดออกมาเลย หลินเซียนเหยียนก้าวไปข้างหน้าเพื่อแก้สถานการณ์ “ฉันเอง ฉันขอร้องให้คุณนายเวลเลี่ยนเปิดสาขาเอง ฉันเป็นคนในประเทศZ แน่นอนร้านก็ต้องเปิดตรงนี้”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้” มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดังนั้นผู้หญิงคนนั้นจึงไม่สงสัยในคำพูดของหลินเซียนเหยียนว่าจริงแค่ไหน
“สักครู่จะมีแฟชั่นโชว์ เป็นชุดที่LEO ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับงานเปิดร้านในวันนี้ เป็นชุดไม่ซ้ำกัน ถ้าชอบสามารถสั่งซื้อได้”คุณนายเวลเลี่ยนสนทนากับเธออีกครั้ง
ในเวลานี้ ที่หน้าประตูกำลังมีคนเข้ามา คือเซี่ยเจินหยูคนข้างๆคือเหอรุ่ยหลิน เป็นเพราะว่าช่วงนี้ครอบครัวของเซี่ยเจินหยูเกิดเรื่องไม่ดีบ่อยครั้ง ดูแล้วสีหน้าหดหู่ เป็นเพราะเธอมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณนายเวลเลี่ยนดังนั้นจึงจำเป็นต้องมา
ข้างๆคือเหอรุ่ยหลินที่คล้องแขนเธออยู่ (ฐานะของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลินนั้นสูงส่ง) เธอสวมชุดเดรสสีดำ ซึ่งดีไซน์โชว์แผ่นหลังให้โดดเด่น ทั้งสองข้างของชุดจะเปิดแยก ขึ้นไปถึงแนวสะโพกค่อยเย็บติดกัน แผ่นหลังเปลือยเผยผิวขาวนวล ทำให้รู้สึกเย้ายวนใจ
คิดว่าคงตระหนักได้ว่าหลินเซียนเหยียนอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่า ได้แต่งตัวหรูหราเป็นพิเศษ
เธอไม่ก้าวร้าวเหมือนแต่ก่อน พอเห็นหลินเซียนเหยียนทีไรก็จะเข้าไปก่อกวน ครั้งนี้เธอยืนเงียบๆอยู่ข้างๆเซี่ยเจินหยู
เมื่อสักครู่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งทักทายเซี่ยเจินหยู พวกคุณนายทั้งหลายเหล่านี้มักจะไปออกงานกับสามี แน่นอนพอนานไปพวกเธอก็จะรู้จักกันเอง เมื่อเจอกันก็ต้องถามไถ่ทักทายกันเป็นเรื่องธรรมดา
พวกเขาได้รู้จักกับคุณนายเวลเลี่ยนก็เพราะชุดแต่งกาย
ในฐานะประธานหรือภรรยาของประธาน จะเน้นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัวมาก จะเน้นเรื่องเสื้อผ้าเป็นพิเศษ ต้องออกแบบตัดเย็บเป็นของตัวเองโดยเฉพาะถึงจะพอใจ ไม่ต้องกลัวว่าชุดจะไปซ้ำใครทำให้อับอาย
ยังสามารถทำเสื้อคู่รัก เป็นชุดคู่กับชุดสูทของสามีได้
เพราะว่ามันเป็นสถานที่สาธารณะ และสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวเกี่ยวข้องกับหลินเซียนเหยียน แต่อยู่ข้างนอก เซี่ยเจินหยูไม่ได้แสดงออกมา ยิ้มและทักทายเธอ
หลินเซียนเหยียนไม่คุ้นเคยกับเธอ เพียงเพราะความสัมพันธ์ของเหอรุ่ยเจ๋อ ถึงได้รู้จักเธอ
เธอตอบสนองด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ได้พูด
ที่มุมห้อง เสิ่นซิ่วฉิงในมือถือไม้ถูพื้น และจ้องไปที่หลินเซียนเหยียนอย่างดุเดือด ลูกสาวของเธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เธอถูกขังอยู่ในคุกและทนทุกข์ทรมาน แต่เธอกลับเสพสุขอยู่กับเกียรติยศชื่อเสียง
ในเวลานี้ที่ประตูก็มีคนเดินเข้ามาอีกครั้ง ชายในชุดสูทและรองเท้าหนัง ท่าทางไม่ค่อยกระฉับกระเฉง (มีความเปลี่ยนแปลง) ตัวชุดไม่ได้ปรับหลังที่โค้งเล็กน้อยของเขาให้ตรง
เมื่อเห็นคนที่เข้ามาเสิ่นซิ่วฉิงก็อ้าปาก อยากเรียกเขาไว้ แต่เมื่อนึกถึงความโหดเหี้ยมของเขา ก็เลยหยุด
“เหยีนเหยียน” เขาเดินไปทางหลินเซียนเหยียน
ใบหน้าของหลินเซียนเหยียนเคร่งขรึม เขามาทำไม?
“คุณเปิดร้านแล้ว แน่นอนฉันจะต้องมาสนับสนุน” เสียงของเขาเบาลง เพราะตอนที่เขามา เขาได้เห็นรถที่จอดอยู่ข้างนอกแล้ว เป็นของบุคคลมีหน้ามีตามากันมากมาย
เขาคงเป็นผู้สนับสนุนที่ช่วยอะไรไม่ได้
“ไม่ต้องหรอก ขอเชิญคุณกลับไปแล้ว” หลินเซียนเหยียนปฏิเสธความหวังดีของเขา
ความโกรธแค้นในอดีต เธอไม่ต้องการติดตาม แต่อย่าคิดว่าเธอจะให้อภัย
หลินกั๋วอันจะไม่จากไปเพราะคำพูดของหลินเซียนเหยียน หรือถดถอย หลังจากได้ผ่านประสบการณ์วิกฤติเมื่อ6ปีที่แล้ว เขาก็รู้ซึ้งถึงใจคน ลูกสาวที่เขารักและตามใจ ในช่วงวิกฤติได้หนีไปพร้อมกับเงินบริจาค ทิ้งความยุ่งเหยิงไว้เบื้องหลัง
“เหยียนเหยียน พ่ออยากจะขอบคุณเธอ”
หลินเซียนเหยียนขมวดคิ้ว “ขอบคุณหนูเรื่องอะไร?”
“เมื่อหกปีที่แล้วเกิดวิกฤติกับบริษัท หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากจงจิ่งห้าว เธอคงไม่ได้เห็นฉันแล้ว”
อะไรนะ?
เมื่อหกปีที่แล้วเรื่องของบริษัทจงจิ่งห้าวเป็นคนช่วยเขาแก้ไขปัญหาเหรอ?
“ตอนนั้นฉันเองก็แปลกใจมากว่าทำไมเขาถึงช่วยฉัน เขาบอกว่าเป็นเพราะหนู”
หลินเซียนเหยียนยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้น ทำไมจงจิ่งห้าวต้องทำเช่นนี้?
ดูเหมือนเธอจะจำได้ว่า ตอนนั้นมีหญิงมีครรภ์คนหนึ่งกำลังจะกระโดดตึกลงมา เธอต้องการเกลี้ยกล่อมหญิงมีครรภ์คนนั้น โดยจะเอาเงินของตัวเองให้เธอ
ในสายตาของจงจิ่งห้าว คงคิดว่าเธอไม่ต้องการให้หลินกั๋วอันเจอปัญหา? เธอไม่อยากให้หญิงมีครรภ์ตกอยู่ในอันตราย ขณะนั้นเธอก็ตั้งครรภ์ด้วย จึงไม่อยากเห็นหญิงมีครรภ์ประสบอุบัติเหตุ
ต่อมาจงจิ่งห้าวเป็นคนจ่ายเงิน และต่อมาจงจิ่งห้าวก็ขอหย่า เธอไปจากประเทศZ และตัดเรื่องราวทุกอย่างในประเทศ และเธอไม่รู้ว่าเรื่องนั้นคลี่คลายอย่างไร
“ฉันคิดว่าเขาชอบเธอมาก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ช่วยฉันเพราะเธอ” เพราะเรื่องนี้ทำให้หลินกั๋วอัน ขังตัวเองอยู่ในบ้านเป็นเวลาหนึ่งวัน ไม่กินไม่ดื่ม ไม่ใช่ตื่นเต้น แต่เครียด ถ้าความสัมพันธ์ของเขากับหลินเซียนเหยียนไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ตอนนี้ตระกูลหลิน คงจะพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งแน่
ครั้งล่าสุดที่เขาได้พบกับจวงจื่อจิ่นกับด็กสองคนโดยบังเอิญ เขาตัดสินใจว่าอยากจะคืนดีกับจวงจื่อจิ่น เพื่อต้องการให้หลินเซียนเหยียนให้อภัยเขา
เพราะเขาคิดว่าเด็กสองคนนั้นเป็นของจงจิ่งห้าว หลินเซียนเหยียนให้กำเนิดลูกที่น่ารักสองคนกับจงจิ่งห้าว เขาคงดีกับหลินเซียนเหยียนมาก
ถึงตอนนั้นเขาก็คงมีผลพลอยได้
หากว่าในตอนนี้หลินเซียนเหยียนไม่มีอะไร เขาก็ไม่จำเป็นต้องก้มหัวประจบและเอาใจ
ตามธรรมชาตินิสัยของมนุษย์ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ
หลินเซียนเหยียนคาดไม่ถึงจริงๆ หลังจากที่เธอจากไปแล้วจงจิ่งห้าวยังจะมาสนใจหลินกั๋วอัน
ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น เป็นเพราะเธอจริงๆเหรอ?
“ฉันไม่ทำให้เธอเสียงาน ฉันจะหาที่นั่งเงียบๆ ถ้าคนเยอะก็จะดูครึกครื้น เธอก็คิดซะว่าเพิ่มฉันคนหนึ่งเพื่อให้ดูคนเยอะขึ้น” หลินกั๋วอันกลัวหลินเซียนเหยียนไล่เขาไป เลยต้องแยกตัวก่อน หลบไปหามุมที่ไม่สะดุดตา
หลินเซียนเหยียนเพิกเฉย เขาอยากอยู่ก็อยู่
จะให้เธอให้อภัยนั้น มันไม่ง่ายขนาดนั้น
แผลใจที่เขาเคยทำกับเธอ และแผลใจของจวงจื่อจิ่น เป็นรอยแผลที่ไม่มีวันลบเลือนได้ ทุกครั้งที่คิดถึงมัน รอยแผลนั้นก็ยังเจ็บอยู่
เสิ่นซิ่วฉิงโกรธมาก เดิมทีผิวหน้าที่เคยดูแลมาอย่างดี อยู่ในคุกถูกทรมาณจนไม่เหลือราศีใดๆ ดวงตาสองข้างของเธอจ้องมองจนลูกตาจะถลนออกมา และดูน่ากลัวมาก
เธอไม่เคยเห็นหลินกั๋วอันพูดเอาใจและยอมใครมาก่อน แต่ตอนนี้เขาได้ทำ
และทำให้หลินเซียนเหยียน
เธอไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ ไม่สามารถยอมรับความหายนะของตัวเอง ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปตั้งแต่หลินเซียนเหยียนกลับประเทศ
ไปตาย ไปตายซะ!
เธอทิ้งไม้ถูพื้น และเดินไปหาหลินเซียนเหยียน และเมื่อใกล้จะประชิดตัวหลินเซียนเหยียน ก็ล้วงมีดคมออกจากร่างกายที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
“หลินเซียนเหยียนเธอไปตายซะ!”
“ระวัง”
หลินเซียนเหยียนหันกลับและสิ่งที่เห็นเหมือนผีทวงหนี้ที่มาจากขุมนรกใบหน้าน่ากลัวมาก มีดคมในมือของเขาส่องแสงสะท้อน และกำลังพุ่งมาแทงหัวใจของเธอโดยตรง……