กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 154 เขาชอบผู้หญิงคนนั้น
ค่ำคืนที่มีสีสันภายใต้แสงไปนีออนหลายสีสัน ทิวทัศน์ผ่านกระจกรถไปอย่างเร็ว ไม่ทิ้งไว้แม้แต่ร่องรอย
ไม่นานรถของจงจิ่งห้าวก็จอดอยู่ที่หน้าเรือนจำ
เสิ่นเผยซวนรู้ว่าเขาจะมา ก็เลยได้สั่งให้คนรอเขาอยู่ที่หน้าประตู พอเขาลงจากรถก็มีคนมาต้อนรับอย่างเร็ว “หัวหน้าเสิ่นอยู่ที่ห้องชันสูตรครับ”
จงจิ่งห้าวพยักหน้า สะกิดให้เขานำทางไป
ห้องชันสูตรปกติจะอยู่ในที่เปลี่ยว ต้องเลี้ยวไปเลี้ยวมา ผ่านทางเดินไปหลายทางเดินถึงจะมาถึงหน้าประตูบานหนึ่ง ประตูห้องถูกผลักออก กลิ่นอายที่อาบชื้นและเย็นได้พุ่งเข้าหน้า เพื่อไม่ให้ศพเน่าและส่งกลิ่นเหม็น ในห้องชันสูตรได้ติดตั้งเครื่องทำความเย็นที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไว้
เข้าไปในประตูก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัด
จงจิ่งห้าวสีหน้าเฉยๆ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเพียงเพราะที่นี่เป็นห้องชันสูตร
ตอนที่เขาเข้ามาหมอชันสูตรพึ่งเอาผ้ามาคลุมที่ศพของเสิ่นซิ่วฉิง ข้างโต๊ะชันสูตรยังวางมีดผ่าตัดไว้ เห็นได้อย่างชัดว่าได้ทำการชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เสิ่นเผยซวนเอาผลชันสูตรศพเดินมา “สามารถมั่นใจได้เลยว่า เธอฆ่าตัวตาย และเป็นการฆ่าตัวตายที่มีการวางแผนไว้อย่างดี”
เสิ่นเผยซวนมองผลตรวจชันสูตรแล้วอธิบายอย่างละเอียด “เธอได้กินยาชนิดหนึ่ง หลังจากที่LEOเกิดเรื่อง เวลาที่พาเธอมาอยู่ในห้องขัง เธอก็ได้กินยาอีกชนิดหนึ่ง ยาทั้งสองชนิดนี้เข้ากันไม่ได้ ก็เลยจะเกิดการต่อต้าน มีผลถึงแก่ตาย เธอรู้แน่นอน ถึงได้กินยาทั้งสองก่อนและหลัง”
“มีแค่นี้?” จงจิ่งห้าวไม่พอใจต่อคำตอบนี่เป็นอย่างมาก สำหรับเขาแล้วมันไม่พอ
“ก่อนที่เสิ่นซิ่วฉิงจะออกไปได้เจอกันคนคนหนึ่ง”
ในใจของจงจิ่งห้าวมีคำตอบอยู่แล้ว “ใคร?”
“เหอรุ่ยหลิน ฉันตรวจสอบกล้องวงจร แสดงว่าเมื่อสองวันก่อนเหอรุ่ยหลินได้มาเจอเธอ และจ่ายเงินให้ผู้คุ้ม ปล่อยเธอออกมา” ตอนที่พูด เสิ่นเผยซวนมองจงจิ่งห้าวอย่างระมัดระวัง เพราะรู้ความสัมพันธ์ของเขาและเหอรุ่ยหลิน “มีกล้องวงจรปิดของตอนนั้น นายจะดูไหม?ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะใส่ผ้าปิดปาก แต่ว่า ได้ผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว เป็นเธอไม่มีผิดแน่”
เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ด้วย
เมื่อก่อนเขาคิดว่าเหอรุ่นหลินอคติต่อหลินซินหยียน เพียงเพราะหลินซิงเหยียนแต่งงานกับเขา
ตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่า ความเกลียดชังที่เหอรุ่ยหลินมีต่อหลินซินเหยียน ไม่ใช่เพียงเพราะแต่งงานกับเขาง่ายๆ แค่นี้
ยิ่งเป็นเพราะ เมื่อ 6 ปีก่อน
สีหน้าของเขาที่อยู่ในบรรยากาศที่เย็นขนาดนี้ ตึงจนเหมือนกับเทียน น่ากลัวมาก
“นายมีเบาะแสของเธอไหม?” ตอนนี้เขาแทบจะมั่นใจได้เลย การหายตัวไปของหลินซินเหยียนต้องเกี่ยวข้องกับเธอโดยตรงแน่ๆ
“หลังจากที่รู้ผลแล้วฉันก็ให้คนคอยติดตามเธอ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังหาตัวเธอไม่เจอ” เสิ่นเผยซวนพูด
“รีบหาคนให้เจอ” มือทั้งสองของเขากำแน่นจนได้ยิ่งกระดูกดัง “ฉันดูถูกจิตใจของมันเกินไปแล้ว”
เสิ่นเผยซวนมองสีหน้าที่มืดครึ้มของเขาแล้วรู้สึกกลัวมาก “ฉันจะรีบเพิ่มกำลังคนไปหา”
เสิ่นเผยซวนโทรให้ลูกน้อง เพื่อเพิ่มกำลังคนในการตามหาร่องรอยของเหอรุ่ยหลิน
“นายใจเย็นก่อน ลองคิดดีๆ สิไม่ว่ายังไงตระกูลเหอก็เป็นคนในพื้นที่ ถึงแม้ว่าพวกมันจะหนีไปได้ระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ไกลหรอก” เสิ่นเผยซวนพูด
จงจิ่งห้าวกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “หลินซินเหยียนหายตัวไป”
“อะไรนะ?” เสิ่นเผยซวนสับสน “ตอนเที่ยงยังอยู่ไม่ใช่หรอ?”
“ตกดึกก็ติดต่อไม่ได้เลย” น้ำเสียงของเขาเบามาก เหมือนกับว่าพอมีลมก็จะพัดกระจาย
เสิ่นเผยซวนเป็นคนจิตใจละเอียดอ่อน ไม่ว่ายังไงตัวเองก็เป็นคนสืบคดี แป๊บเดียวก็เชื่อมโยนประเด็นสำคัญของเรื่องได้ทันที “เกี่ยวกับเหอรุ่ยหลิน?”
นี่ยังไม่ชัดเจนพออีกหรอ?
จงจิ่งห้าวมองศพของเสิ่นซิ่วฉิงที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว “นายว่าการที่เธอตายนั้นเพื่ออะไร?”
เสิ่นเผยซวนคิดไปสักพัก” เป็นแผนบังตาเพื่อยื้อเวลาหรือเปล่า?”
ใช้การตายของเสิ่นเผยซวนเพื่อมาปั่นปวนสายตาของพวกเขา เพื่อยื้อเวลา รอให้พวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลินซินเหยียนก็ถูกพวกเขาลักพาตัวไปแล้ว
และเป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือหลินซินเหยียน
เสิ่นซิ่วฉิงเป็นแค่หมากตายตัวเดียวเท่านั้น
เสิ่นซิ่วฉิงถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ถึงจะไม่ตาย ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นทั้งชีวิต จำกัดอิสระ
ถ้าให้ผลดีที่มากพอเธออาจจะยอมก็ได้
แต่ว่าเธอตายแล้ว มีผลดีแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?
มีแค่นี้ที่เสิ่นเผยซวนคิดไม่ออก
“พวกเราออกไปก่อน ค่อยคุยกันข้างนอก” เสิ่นเผยซวนอยู่ข้างในนานเกินไป ตอนนี้ก็เลยรู้สึกหนาวขึ้นมา
ไปในเรือนจำปิดหมดแล้ว มืดไปหมด ดูแล้วน่ากลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
กลับไปถึงในอาคาร เสิ่นเผยซวนผลักประตูห้องทำงานแล้วถามว่า “จะดื่มอะไรหน่อยไหม?”
จงจื่อห้าไม่ได้สนใจ ทั้งตัวลงบนโซฟา พูดด้วยน้ำเสียงที่อึมครึม “รีบๆ หา”
เสิ่นเผยซวนรู้สึกได้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี และเป็นแบบที่อารมณ์ไม่ดีมากด้วย เหมือนกำลังเก็บกดอะไรสักอย่าง อาจจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา ไม่กล้าเถียงเขาเลย เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปให้ลูกน้องอีกคน
ทางนั้นได้รับสายของเขาแล้วรีบพูดขึ้นม “ผมกำลังจะโทรหาคุณพอดี มีเบาะแสแล้ว เหอรุ่ยหลินเคยปรากฏตัวที่Soulmate bar ตอนนี้ผมกำลังตามหาตัวของเธออยู่”
“ฉันรู้แล้ว” เสิ่นเผยซวนตัดสาย มองไปทางจงจิ่งห้าวแล้วพูดว่า “มีเบาะแสแล้ว อยู่ที่Soulmate bar”
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นทันที ไม่พูดอะไรทั้งนั้นแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างเร็ว
เสิ่นเผยซวนตามขึ้นไป เดินไปสองก้าวแล้ววิ่งกลับมาเอาขวดน้ำเก็บอุณหภูมิที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นรีบตามจงจิ่งห้าวไปด้วย ดื่มชาไปด้วย
Soulmate bar เวลานี้เป็นช่วงคึกคัก รอบดึกพึ่งเริ่มตอนนี้
เพราะว่าจะสืบคดี พวกคนที่มาเล่น ถูกตำรวจเรียกไปอยู่ในห้องโถงหมด เรียงกันเป็นแถว สอบถามทีละคน
เพราะตอนที่พวกเขามาถึง เหอรุ่ยหลินได้จากไปแล้ว แทบจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย แค่มานั่งดื่มเบียร์บนโต๊ะแห่งหนึ่ง
หลังจากนั้นรับโทรศัพท์เสร็จก็ออกไปเลย ตอนนี้เบาะแสที่มีถึงSoulmate barก็ขาดไปอีกแล้ว
จงจิ่งห้าวและเสิ่นเผยซวนมาถึง พวกเขาก็ได้สอบสวนจนเสร็จหมดแล้ว
“เธอแค่มาดื่มที่เฉยๆ จากนั้นก็รับโทรศัพท์แล้วก็ออกไปเลย คนของพวกเราได้ไปดูกล้องวงจรปิดแถวนี้แล้ว ดูว่าจะสามารถหาร่องรอยของเธอเจอได้ไหม”
เสิ่นเผยซวนมองไปทางผู้ชายที่ยืนอยู่ในที่มืดอย่างระมัดระวัง
รอบตัวของเขามีกระจายไปด้วยอุณหภูมิต่ำ ทำให้คนอยากถอยหลังไปอย่างห้ามไม่ได้
จู่ๆ จงจิ่งห้าวหันหลัง แล้วรีบเดินออกไปทางประตู เสิ่นเผยซวนรีบตามขึ้นไป “นายจะไปไหน?”
จงจิ่งห้าวไม่ได้พูดอะไร แค่ขึ้นไปนั่งในรถ เสิ่นเผยซวนสั่งลูกน้องว่า “พวกนายสืบต่อไป ใช้เวลาให้เร็วที่สุดในการหาคนให้เจอ”
จากนั้นก็ขึ้นรถของจงจิ่งห้าวตามไป
เห็นได้ชัดว่าเป็นกลางเมือง ความเร็วของรถถูกจงจิ่งห้าวเหยียบจน 110 ดีที่เวลานี้บนถนนรถน้อย ไม่อย่างนั้น ต้องเกิดอุบัติเหตุแน่
เสิ่นเผยซวนจับเข็มขัดนิรภัยไว้ แอบมองจงจิ่งห้าว ไม่เคยเห็นเขากระสับกระส่ายแบบนี้มาก่อน ทำเรื่องอะไรไม่เคยไม่มีกฎแบบนี้
“นายเป็นห่วงคุณหลินมากเลยหรอ?” เสิ่นเผยซวนถามอย่างทดสอบ
รู้ว่าเขาชอบหลินซินเหยียน แต่คิดไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนจะมีผลกระทบต่อเขามากขนาดนี้
จงจิ่งห้าวคือใคร?
อายุ 20 ก็รับมือว่านเยว่แล้ว ได้ฝึกฝนจิตใจที่ไม่หวั่นไหวต่ออะไรง่ายๆ มานานแล้ว ตลอด10กว่าปีมนี้ พบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ใหญ่โต สีหน้าของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย
แต่ว่าวันนี้ เขากลับเห็นสีหน้าความกังวลและกลัวออกมาจากบนหน้าของจงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวมองตรงหน้า เส้นของโครงหน้าข้างกับขยับได้เชื่อมกันเป็นเส้นเดียวกัน เส้นเอ็นที่เห็นได้ชัดเต้นตุบๆ
เขาใส่ใจ ใส่ใจมาก
ไม่ใช่แค่ใส่ใจง่ายๆ เท่านั้น เขาชอบผู้หญิงคนนั้น
ไม่นานรถก็หยุดลง เสิ่นเผยซวนก็เห็นได้ชัดแล้วว่าที่เขาจะมาคือที่ไหน……..